ความคิดเห็นที่ 1 มีแต่ปริมาณ คุณภาพ? จากคุณ : issey kasawa เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 18:23:48

ความคิดเห็นที่ 2 นั่นสิ จากคุณ : zombieman เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 18:32:20

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าไม่ใช่แค่วิศวะหรอกครับ เรามีวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมากจนเกินไป ปริมาณมากโดยที่คุณภาพไม่ได้ตามไปด้วย จากคุณ : Mr.thanyawat เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 18:39:59

ความคิดเห็นที่ 4 เวลาแต่ละบ้านเค้าข่มกันว่าลูกจบวิศวะ เค้าคงหมายรวมถึง sale engineer ด้วยมั้ง  :-P (แค่รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ อะไรๆ ก็ลงท้ายว่า engineer น่ะ เหมือนกับที่แต่ละบริษัทก็มีตำแหน่ง manager เต็มไปหมดเลย ) จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 18:51:58

ความคิดเห็นที่ 5 จบมากหรือเปล่าไม่รู้ แต่ปีที่แล้วที่ทำงานผมปล่อยภาคโยธาออกมา 52 คน น่าจะอยู่ที่จิตสำนึกของบัณฑิตที่จบใหม่ๆด้วย ใครปลูกฝังว่าเรียนวิศวะแล้วจะสบาย เหอะๆ จากคุณ : lupang เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 18:53:36 A:110.49.248.120 X: TicketID:309710

ความคิดเห็นที่ 6 ม.เอกชน (ที่รู้จักนะ) ...การเรียนการสอนทั้งปฏิบัติ ทฤษฏี หากเทียบกับ ม.ของรัฐแล้วต่างกันมากกก โดดบ้าง เรียนบ้าง แค่ส่งงานบ่อยๆหน่อย ก็ผ่านแล้ว  ...จบไปแล้วหากจะจ้าง ไปจ้างปวส.คุ้มกว่าเยอะเลย จากคุณ : เนียส เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 19:10:50

ความคิดเห็นที่ 7 วิศวะคอมไงนั่งโต๊ะทำงานห้องแอร์สบายๆ ฮ่าๆ จากคุณ : skycreeper เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 19:26:08

ความคิดเห็นที่ 8 คนที่บอกวิศวะคอมพ์สบาย คือคนที่ไม่เคยสัมผัสมันจริงๆ จากคุณ : ฟ้าเขียวใจเดียว เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 19:44:10

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่า คุณภาพของคนที่เข้าเรียน ลดลงครับ เริ่มต้นเลย สมัยก่อนคนที่จะเข้าเรียน วิศวได้ คือ หัวกะทิ จริงๆ คนที่จะเรียนได้ พื้นฐานต้องดี รวมๆ ทั้งประเทศ ไม่เกิน 1,000 คนต่อปี คะแนน สอบเข้าจึงสูง ส่วนหนึ่งถูกคัดกรองโดยวิธีนี้ พอจบออกมา มันก็เป็นอะไรที่คุณภาพมากๆ และมีปริมาณที่น้อย ก็ไม่ต้องคัดกรองแล้วครับ ปัจจุบัน คนเก่งก็มีครับ แต่อยู่ปะปน กับ วิศวที่เรียนพอให้จบ แต่คุณภาพต้องไปลุ้นเอา ท้ายสุด คนเก่งไม่เก่ง มันก็แยกตัวของมันเองแหละครับ จากคุณ : Diablo_Octane เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 19:46:50

ความคิดเห็นที่ 10 โครงสร้างค่าแรงบิดเบือน รัฐกดให้ตำ่เพื่อดึงต่างชาติลงทุน คนวุฒิ ปวช. ปวส. เงินเดือนไม่พอสร้างครอบครัว เกิดอุปสงค์อยากเรียนให้สูงขึ้น รัฐแก้ปัญหาโดยเพิ่มที่เรียนให้ แรงงานป.ตรีล้นตลาด แต่แรงงานฝีมือกลับหาแทบไม่ได้ ส่วนหนึ่งของวิศวกรจึงไปทำงานแทนช่าง โดยไม่รู้ตัว เพราะบริษัทเปลี่ยนชื่อเรียกตำแหน่งให้ดูเหมาะสม เป็นการแก้ปัญหาของรัฐที่ทิ้งปัญหาใหญ่เอาไว้แทน จากคุณ : คนมาบแค เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 20:05:54

ความคิดเห็นที่ 11 - เกณฑ์ในการคัดเลือกนักเรียนหลวมเกินไป ::   ม.เอกชน ..   ม.รัฐบาลบางที่ มีคนจาก tutor แฝงตัวเข้าไปสอบฯ เพื่อไปจดข้อสอบออกมา ทำขายปีต่อไปบ้าง หรือเอาไปใช้เป็นวัตถุดิบในการติวรุ่นต่อๆ ไปบ้าง   นอกจากนี้ยังมีปัญหาว่า มหาวิทยาลัยไม่ยอมเปลี่ยนข้อสอบโดยการเอาข้อสอบเก่ามา ReUse บ้าง - เหมือนกับคุณภาพของบุคลากรตกลง :: เคยได้ยินมาว่าบางสถาบันนักศึกษาสามารถ drop วิชาที่คาดว่าจะติด F ได้ แม้กระทั่งสอบ final ไปแล้ว เพื่อไม่ให้เกรดมันไปขึ้นบน Transcript - เนื้อหาที่ใช้ในการเรียนการสอนไม่ตรง :: วิศวคอมฯ แต่ต้องเรียน ฟิสิกซ์ เคมี ชีวะ - ขนาดตลาดแรงงาน กับ ปริมาณบัณฑิตไม่สัมพันธ์กัน :: ข้างบ้านจบปริญญาโทวิศวะปิโตรเคมี จากมหาวิทยาลัยใจกลางกทม. แต่ปัจจุบันกำลังจะไปสอบแอร์ฯ จากคุณ : คุณวองก้า เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 20:15:00

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนหนึง หรือว่าคุณภาพเด็กน้อยลงด้วย (จริงหรือเปล่าครับ อ.เจษ เพื่อนผมเป็นอาจารย์มหาลัย ก็ชอบมาบ่นเรื่องนักเรียนให้ฟัง) จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 20:16:54 A:14.207.210.224 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 13 แฟนผมจบวิศวะเคมีจากม.เอกชนแห่งหนึ่งย่านแถวๆเมืองเอก อ.รังสิต จ.ปทุมธานี ไปต่อโทวิศวะเคมีมหาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งที่อยู่แถวๆสยามยาวจนถึงสามย่าน เกรดได้มา 3.84 คณะกรรมการยังคิดแล้วคิดอีกว่าจะรับดีรึป่าวเลยครับ จบเทอมแรกไปแล้ว คิดว่าคงไม่รอดเพราะอ่านหนังสือวันละ8-10ชม. ออกจากห้องสอบยังแทบน้ำตาคลอ ผ่านเทอม 1 ไปแล้วโชคดีรอดครับ เกรดงามๆ 3.86 เทอมนี้ก็ต้องสู้ต่อไป แปลว่าาคุณภาพคนที่จบจากม.เอกชน คนวงในเขายังไม่ค่อยยอมรับเท่าไหร่น่ะครับ (นับเฉพาะที่รู้เรื่องนี้เรื่องเดียวนะครับ ผมไม่ได้เหมารวม) จากคุณ : ผู้บัญชาการพันรบ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 20:20:36

ความคิดเห็นที่ 14 คุณภาพเด็กลดลง เป็นผลมาจากการประกันคุณภาพการศึกษา เชิงปริมาณ ห่วยๆ ที่ทำกันอยู่ในปัจจุบัน งานวิศว บ้านเรา ไม่ค่อยใช่งาน วิศวจริงๆ เท่าไร มี งานวิศวจริงๆ ไม่มากนัก การเรียน จึงไปตอบสนอง ผู้จ้างแบบนั้น บทเรียนความเข้มลดลงไปมากที่เดียว ผมว่านี้บทที่ ค่อยๆ เสื่อมลง ของ วิชาอะไรไ ก็ตาม ครับ ประเทศเราไม่ใช่ผู้พัฒนา  เป็นผู้ซื้อมาขายไปส่วนใหญ่ กรอปกับ  การ ให้ มหาลัย ต้องเลี้ยงตัวเอง ผู้บริหารจำนวนมาก ก็ วัดได้ ที่จำนวนนิสิตที่เข้ามา จะให้ไปหารายได้จากเอกชน บางมหาลัยอยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะ ทุนวิจัย ตัดซะ ไม่เหลือ เข้ามาบ่นโดยตรงเลยนะนั้น จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 20:23:29

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับผมวิศวะคอม สัมผัสงานมาแล้ว รู้สึกสบายครับ เพราะได้ทำงานที่รัก จากคุณ : skycreeper เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 20:36:09

ความคิดเห็นที่ 16 เคยมองเซลเอ็นอย่างที่หลายคนมองอยู่ตอนนี้ แต่ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ คิดว่าคงเลือกทำงานเซลนะ เพราะเป็นสายงานเดียวที่มีโอกาสเป็นเจ้าของกิจการเองได้มากที่สุด เรียนเก่ง ทำงานออฟฟิต อย่างมากก็ผู้จัดการครับ จากคุณ : คนมาบแค เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 20:45:22

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าจะใช้คำว่า ตกต่ำ คงต้องถึงในระดับที่ว่า มีอุบัติเหตุ มีความวิบัติ วินาศ เสียหาย เกิดขึ้นทั่วบ้านทั่วเมือง ด้วยฝีมือของวิศวกรซึ่งไม่มีคุณภาพ หรือไม่ซื่อสัตย์ครับ ถ้าอาชีพหมอจะตกต่ำ ก็เช่น ไม่มีคุณภาพ ไม่ซื่อสัตย์ เช่นกัน รักษาคนไม่หาย ทำคนไข้ตายอย่างไม่สมควร เลี้ยงไข้ นี่คือความตกต่ำ ทางคุณภาพ และจรรยาบรรณ  ซึ่งผมคิดว่า บ้านเรายังไม่เลวร้ายขนาดนั้น ความตกต่ำที่เรามองกัน มองกันแต่ผลตอบแทนกับตัววิศวกรเอง เสียมาก ซึ่งผมพูดมานานแล้ว ว่ามันสมควรใช้วัดความสูงต่ำของอาชีพได้หรือ? จะตกต่ำหรือไม่นั้น ควรวัดจากผลงานของวิศวกรเอง และในสภาพสังคมแบบนี้ วิศวกรที่จะทำผลงานไม่ดีก็จะถูกกลไกทางเศรษฐกิจขจัดออกไปเอง เช่น ตย.ในคห.11 แปลกหรอครับ จะไม่มีกรณีนั้น เพราะเดี๋ยวนี้ม.ศิลปะ ก็เปิดสอนวิศวะแล้ว ดันใช้ชื่อภาควิชาเก๋ไม่เหมือนใครเสียอีก แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 55 20:48:16 จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 20:47:08

ความคิดเห็นที่ 18 อะไรคือวิศวกร   งานจากวิศวกรรมบางสาขาก็ไม่กระทบถึงชีวิตและความปลอดภัยของสังคม งานผิดพลาดก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ไม่ถึงกับตาย พี่ไทยก็เหมาเป็นวิศวกรรมหมด มันก็เลยเฝือดาษเดื่อน  ไร้คุณค่าไปเอง จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 20:53:38

ความคิดเห็นที่ 19 ราชภัฎ วิดวะ ให้พรึบ จากคุณ : HHKK เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 21:06:37

ความคิดเห็นที่ 20 บอกได้อย่างเดียวว่า รู้งี้กรูเรียนหมอดีฝ่า จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 21:24:18

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่ถึงกับ ตกต่ำหรอกครับ รุ่นที่ผมจบ หมาดๆ นี่เอง โยธา ม. แถวภาคเหนือตอนล่าง หลายคนได้เงินเดือน สตาร์จสามหมื่นกว่า แต่นี่คือ หัวกระทิ นะครับ  พวกรองๆ มาก็ สองหมื่นกลางๆ   พวกล่างๆ ก็หมื่นต้น ก็มี บางทีก็อยู่ที่วาสนา... ส่วน คุณภาพควรจะตรวจสอบและควบคุม อยู่เสมอ และวิศวกร เดี๋ยวนี้ การสอบสภาวิศวกร กว. ภาคภาคี ค่อนข้างยากกว่าเมื่อก่อนเยอะมากๆ ลองไปถามพวกที่สอบมา ขีดจำกัดของ คนที่ไม่มี กว. ก็เยอะมาก   กว่าจะได้ กว. มันลำบาก จากคุณ : MazNis เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 21:45:52

ความคิดเห็นที่ 22 โตต้า เอาวิศวะมาทำงาน ปวส  เอา ปวส ไปทำงานวิศวะ แปลกไหมล่ะ ดูดีแต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 55 21:48:05 จากคุณ : E@K เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 21:47:19

ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อก่อน เปิดสอนน้อย (เหมือนหมอ) ตอนนี้ ทั้งรามคำแหง ราชภัฎ เอกชน เยอะไปหมด แต่สถาบันที่ได้รับการยอมรับจากบริษัท(อาจจะเพราะเปิดมาก่อนรุ่นพี่ปูทางไว้ดี) ก็มีไม่กี่ที่ เช่น สาม พระจอม จุฬา เกษตร มหิดล เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา ธรรมศาสตร์ จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 21:54:41

ความคิดเห็นที่ 24 สังคมเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนไป ความสำคัญวิศวกรน้อยลง ควรดึงคนเก่งๆไปเป็นหมอ  นักการเงิน นักบริหาร นักการเมือง product designให้มากขึ้น จากคุณ : ชีวิตคือชีวิต เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 21:59:52

ความคิดเห็นที่ 25 ใช่ครับ ตามนั้น คห.23 เลย สถาบันต้องผ่านรับรองจากสภา และตัวเด็กเองต้องผ่าน กว. และต้องมีรุ่นพี่ปูทางไว้เหมือนเช่นที่ ... บ.ฤทธา บ.เพาเวอร์ ไลน์ บ.อารียา เด็กโยธานเรศวร เยอะมากๆ ก็เป็นเพราะรุ่นพี่ทำชื่อไว้ (รุ่นก่อนรุ่นที่จบล่าสุด มี 14 รุ่น รุ่นผม 15 รหัส 51) ส่วนที่อื่น ซิคเทค อิตาเลียน ชิโต อาจจะมีระบบเส้นสาย แต่เรื่องนี้ก็ต้องวัดดวงเสี่ยงเข้าไปโอกาสได้ที่น้อยกว่า ม.ที่มีรุ่นเยอะๆ ส่วนเด็กสมัยนี้ ไม่ทน ไม่ถึก  ผมว่าเป็นเรื่องจริงๆ แต่แม้แต่ลูกน้องยังเป็น ชีวิตประจำวันสมัยนี้มันสบายเกินไป จนวินัย ในตนคน ลดลง จากคุณ : MazNis เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 22:05:34

ความคิดเห็นที่ 26 แบบองคืรวมคือ ทัศนคติว่าต้องเงินเดือนสูง  ไม่ทำงานหนักเหมือนก่อน  ไม่ใส่ใจเรียนรู้เพิ่มเติม  เรียนวิศวะ เมื่อจบออกมาต้องศึกษาจากหน้างาน อาจเพราะปี40 วิศวกรมืออาชีพเลิกทำงานกันหมดเลยไม่ถ่ายเทความรู้ และทัศนคติสู่วิศวฯรุ่นหลัง  นี่ก็ที่เขาว่ากันไปนะครับ จากคุณ : โจ ฮัสเลอร์ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 22:46:57

ความคิดเห็นที่ 27 กว  สมัยนี้ง่ายกว่าเมื่อก่อนมากครับ  มีสอบก็จริงแต่แจกข้อสอบก่อนสอบ ยากตรงไหน จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 22:52:59

ความคิดเห็นที่ 28 อาชีพถัดไปคือสาย IT เห็นเรียนกันเยอะเลย จากคุณ : เจ้าตัวยุ่ง_Aoe เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 22:54:21

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นรุ่นน้องมานั่งท่องข้อสอบ กว. ยังงง จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 23:05:23

ความคิดเห็นที่ 30 ความตกต่ำของอาชีพนี้คือเด็กจบมาไร้คุณภาพและมีปริมาณมากเกินไปครับ จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 23:33:03

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเรียนวิศวะอากาศยาน เป็นสาขาที่ผมรักและอยากเรียน เพราะได้อยู่กับเครื่องบิน ถึงแม้จะจบช้าก็เถอะน่ะ - -" สำหรับผม จบแล้วทำงานที่ไหนก็ได้ แต่ขอให้ผมได้ทำงานกับเครื่องบิน ได้เห็นเครื่องบินทุกวันก็พอแล้วล่ะครับ แต่ตอนนี้เจอรุ่นน้องเข้ามาถาม คำถามที่น้องมันถามเป็นคำถามแรกคือ จบแล้วมีงานทำเลยไหมค่ะ เงินเดือนสูงมากไหม ?? เห้อ จากคุณ : SkyWalKeR-TH เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 23:58:27

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าผลตอบแทนน้อยเมื่อเทียบกับงานและความพยายามที่เรียนมา เป็นวิศวกรทำงานมานาน เงินเดือนน้อยว่าคนทำงานด้านการเงินมาไม่กี่ปี การกำหนดค่าจ้างของโครงการเป็นราคากลางของกระทรวงการคลัง กับ สำนักงบประมาณ มีค่าที่ต่ำมากจนคนทำอยู่เดิมหันไปทำงานด้านอื่น เช่น สปา นวด ยังได้เงินเยอะกว่าอีก งานวิศวกรเหมือนงานสำหรับลูกจ้างทำงานใหญ่ๆก็ต้องบริษัทใหญ่ๆ เล็กๆก็ใช้ช่าง ปวช ปวส ได้ เป็นวิศวกรดีช่วงแรกๆที่ได้ใช้วิชาชีพ แต่พอโตไปก็กลายเป็นด้านบริหารไป แล้วงานด้านบริหารคนสายอื่นก้เป็นได้ไม่จำเป็นต้องเป็นวิศวกร เด็กเดี๋ยวนี้อยากเป็นนายตัวเองทั้งนั้น หลายคนจึงอยากมุ่งเรียนบริหารกัน จากคุณ : woww เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 00:12:54 A:124.122.0.234 X: TicketID:007573

ความคิดเห็นที่ 33 ผมก็เรียนวิศวะ เหมือนกันครับ วิศวยานยนต์ เห็นด้วยกับที่ว่า วิศวะ จบมามีเยอะมากๆ ตอนี้ผมเลยต้องมาเอาดีทางด้านภาษาที่ 3 จะได้พอแตกกับคนอื่นๆบ้าง TT จากคุณ : Spyboy007® (spyboy007_forall) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 01:15:58

ความคิดเห็นที่ 34 ความตกต่ำของอาชีพ "วิศวกร" เกิดจากอะไร ผมในอยู่วงการก่อสร้างมา 20 ปีแล้ว  และไม่ได้จบ แม้ ปวส. ด้วยซ้ำ เริ่มต้นด้วยเงินเดือน 7,500 เมื่อ 20 ปี ที่แล้ว ก่อนที่จะออกมาทำเอง 45,000 ผ่านงานมา 7 บริษัท   เซ็งมาก ๆ กับ เด็กที่จบใหม่ และที่พึ่งทำงาน ผมกับ เจ้าของ บ. เคยพูดกันบ่อบ ๆ ว่า " จะสร้างวิศวกรสักคน ล้านหนึ่ง ยังน้อยไป " " เงินล้านหนึ่ง คือเงิน สร้างความซิบหายให้ บ. เรียนรู้จากความผิดพลาด " เด็กที่จบใหม่ตอนนี้เยอะมาก และ ไม่มีคุณภาพเลย งานก่อสร้าง มันไม่ใช่มีแค่ ตัดเหล็ก เทคอนกรีตเสียเมื่อไหร่ ประมาณราคา , ทำแผนงาน , cash flow, shop drawing, จัดจ้าง ผรม ,คุมงาน ประสานงาน งานระบบ อื่น ๆ , บลา ๆๆๆๆๆๆๆ  เยอะ มาก ๆ ทำงาน มา 4-5 ปี อยากจะเป็น Project กันล่ะ เป็น site En ยังเอาตัวไม่รอดกันเลย อยากจะคุมงาน แต่ไม่อยากตากแดด , อยากจะออกแบบ แต่กลัวพัง ออกแบบเสีย OVER ทำให้ราคาอาคาร แพงเกินจริง กรรม... ของงานก่อสร้าง พูดไปแล้ว อยากจะยืนไว้อาลัยให้ อาชีพช่างก่อสร้าง กว่าที่ผมจะได้ใส่หมวกสีขาว " คุณไม่รู้หรอกว่าผมภูมิใจกันมากขนาดไหน " จากคุณ : kobonline เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 01:26:20

ความคิดเห็นที่ 35 แทรกรูปหน่อย อันนี้ ลูกน้องผมเอง จากคุณ : kobonline เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 01:27:33

ความคิดเห็นที่ 36 ปริมาณเยอะไป การศึกษาเราตอนนี้ ไปลงที่ค่าใช้จ่าย ม เอกชนก็ต้องดูความต้องการของตลาด คนอยากเรียนสาขาไหนเยอะ ก็เปิดสาขานั้น เราจึงเห็น ม เอกชน หรือสถาบันบางแห่ง เปิดสาขาเป็นที่ต้องการของตลาดกันมากมาย เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต นิติศาสตร์บัณฑิต  บริหารธุรกิจบัณฑิต พบเจอได้ทุกสถาบัน และเร็วๆนี้เราจะได้เจอ พยาบาลศาสตร์บัณฑิต จากสถาบันใหม่ๆ สิ่งที่ทำให้คุณค่าของบัณฑิตต่างกันคือ ความสามารถของตัวบัณฑิตเอง ในเมื่อสังคมประชาธิปไตย คือความเท่าเทียม ประชาชนก็ควรได้รับการศึกษา ตามความต้องการของตน แต่ปัญหาคือ ระบบคัดกรองของสถานศึกษามันดันบิดเบี้ยว ผิดรูปร่าง บางทีเรานิยามคำว่าตกต่ำว่าอย่างไร ถ้าดูที่ยอดบัตรเครดิต ตามกระทู้ในคลัง ก็แสดงว่ายังไมีตกต่ำเท่าไหร่ เพราะผมมีสองสามใบ ก็ได้มาหลายแสนอยู่ 555555 แต่หากวัดกันที่คุณภาพ ผมว่าเราก็ยังได้รับวิศวกรที่มีคุณภาพ จำนวนเท่าเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิม ทุกๆปี เพียงแต่ เราดันได้วิศวกรที่ไร้คุณภาพ ออกมามหาศาลมากกว่า นั่นหละคือปัญหาที่เราต้องแก้ไข ภาคเอกชน และนายจ้างจะเป็นคนคัดกรองเอง ว่าเค้าเหล่านี้มีคุณภาพแค่ไหน จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 01:56:11

ความคิดเห็นที่ 37 ต่อไปเราก็กำลังจะเจอกับ มหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิต ที่ไร้คุณภาพ เชื่อขนมกินได้เลย บางคนจบมา 1-2  ปี ก็เรียน mba เพื่อเตรียมเป็นผู้บริหารกันแล้ว ลูกพี่เก่าคนนึงเคยบอกว่า หลังจากจบมา เราก็จะมีวิศวกรที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร ในร่างผู้บริหารห่วยๆ อีก 1 คน จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 02:01:19

ความคิดเห็นที่ 38 . พึ่งอ่านเจอมาเมื่อไม่กี่วันนี่เอง อาชีพที่ทำเงินมากที่สุด 10 อันดับแรก เป็นวิศวกรสาขาต่างๆถึง 7 อันดับ อันดับแรกรู้สึกว่าจะเป็นวิศวกรปิโตรเคมีนะครับ เดี๋ยวจะลองหาลิ้งค์มาลงให้ดู ไม่รู้ว่าเชื่อถือได้แค่ไหน แต่แปลกใจว่า วิศวกรโยธาไม่ติดอันดับเลย . จากคุณ : วิศวกรโยธาจนๆ (One Putt) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 02:22:47

ความคิดเห็นที่ 39 อย่าไปคิดมากเลยครับ  มันก็แค่เรื่องเงินล้วน ๆ จากคุณ : marupong เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 02:23:35

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่ได้เรียนสายนี่แฮะขอตอบตามประสบการณ์ละกันนะครับ เดี๋ยวนี้หลาย ม.เปิดวิศวะกันเยอะและเร่งเปิดสาขาต่างๆทั้งๆที่ไม่มีความพร้อมทั้งสื่อทั้งอุปกรณ์มีไม่พอ แต่ก็เปิดเพราะคณะนี้เป็นตัวทำเงินของ มหาลัยเลยก็ว่าได้เพราะตอนเรียนเคยได้ยินนักศึกษาคณะนี้บ่นเรื่อง เครื่องจักรไม่พอ ถ้าเครื่องจักรเสีย 1 ตัวต้องไปออกันเยอะ ส่วนเรื่องสอบ ก.ว.นั้นเรียนจบนักศึกษาเอาตัวรอดเอาเองจะให้เรียนจบยากเดี๋ยวเอาไปลืออีกปี 1 ปีต่อไปจะน้อยลง ทำให้รายได้ลดลงด้วย ------------------------------------ ส่วนเรื่องเอางาน ปวส.ให้วิศวะเอางานวิศวะให้ ปวส.นั้นเห็นจะจริงเพราะเคยเห็นเขาให้วิศวะออกแบบตัวล็อกเขาทำ ด้วยแรงลมพอกดปุ่มลมจะเข้าท่อแล้วไปดันสลักแต่ถ้าไม่มีปัญหาเขาทำได้ก็โอเคแล้วนะ ------------------------------------- ปัญหาเรื่องเส้นสายอันนี้เป็นปัญหาอย่างมากของแต่ละองค์กรเพราะเท่าที่เจอมามีผู้จัดการคนนึงขึ้งมาจากสายวิศวะ มาคุมงานทั้งฝ่ายขายฝ่ายการตลาดและฝ่ายผลิตเขาเอาคนที่เป็นญาติและคนภาคเดียวกันเข้าหลายตำแหน่ง และรุ่นน้องมหาลัยของเขาปัญหาคือคนกลุ่มนี้จะไม่เกรงใจคนอื่นจะพักจะอู้จะลาก็ช่วยกัน ทำให้การทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพเลยไปทำให้ผลกำไรของบริษัทลดลงเลยมาถึงเงินเดือนและโบนัสด้วย ซึ่งแน่นอนได้ไม่เท่ากัน แต่ที่ดีๆก็มีนะที่ได้โอกาสแล้วขยันเลย ----- จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 03:03:24

ความคิดเห็นที่ 41 มันกลายเป็นธุรกิจทางการศึกษา เรียนเพื่อเอาใบปริญญาวิศวะ จากคุณ : ใหญ่_พระนครเหนือ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 03:48:40

ความคิดเห็นที่ 42 ผมคิดว่าอยู่ที่การทำงานและการเรียนรู้งานมากกว่าแถวบ้านผมมีทั้งที่จบม.ดังๆมาแต่ทำงานห่วย ตึกพังก็จบเห่โดนยึดใบอนุญาต แต่เด็กที่จบเชียงใหม่ คะแนนดีมีบริษัทมาจองตัวตั้งแต่ยังไม่จบ สตาร์ทเงินเดือนหลายหมื่น ควรจะคิดให้เด็กเตรียมทำงานและมีการฝึกงานอย่างเข้มข้น อาชีพนี้ก็จะกลับมารุ่งเรืองอีก จากคุณ : ลุงน้อยลำปาง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 08:43:08

ความคิดเห็นที่ 43 ที่จริงผมว่าใน 8 เกียร์เก่ายังเชื่อฝีมือได้อยู่นะครับ อยู่ในระดับที่พอปฏิบัติงานวิศวกรรมได้ แต่ทั้งนี้คุณก็เข้าใจก่อนว่า ในสถาบันหนึ่งย่อมมีคนที่มีทักษะสูง กลาง ต่ำ ในจำนวนที่ต่างกัน คนจบสถาบันมีอันดับต้นๆ มีแนวโน้มที่จะมีทักษะ สูง หรือ กลาง มากกว่าต่ำ การเอาคนต่ำที่สุดของรุ่นมาเป็นตัวแทนกลุ่มก็มี Bias เป็นธรรมดา แต่ทั้งนี้ด้วยทักษะที่ไม่ดี เป็นเพราะอะไรหลายอย่างประกอบกันครับ การประกันคุณภาพต่ำ วัตถุดิบที่เป็นเด็กได้เข้ามาก็คะแนนไม่คงที่ ลองให้วิชาเรียนตัด F ซัก 50 อิงกลุ่มบังคับ F 5 Lower Percentile ข้อสอบเป็นข้อเขียน ไล่ระดับเนื้อหา ง่าย ปานกลาง ยาก (ด้วยมาตรฐานใกล้กันแต่ละสถาบัน) เรื่องฝีมือบัณฑิตอาจน่าเชื่อถือขึ้นนะ จากคุณ : UrmiaRest เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 09:09:32

ความคิดเห็นที่ 44 คำว่าเด็กจบใหม่ ไม่ว่าจบจากที่ไหน ก็ยังไม่สามารถทำงานได้หรอก ผมว่าสมัยไหนก็เหมือนกัน หรือใครกล้าเอาเด็กจบใหม่ไปทำงานที่สำคัญ มากๆกับบริษัทบ้าง มันก็ต้องมีการเทรนงานทั้งนั้น จากประสบการณ์ที่อยู่ สายงานนี้มากว่าสิบปี ผมมักเห็นเด็กที่จบจากที่ดังๆ สามารถเรียนรู้และ ปรับตัวได้เร็วกว่า อีกทั้งพัฒนาได้เร็วกว่าด้วย เพียงแต่เดี๋ยวนี้คนเรียนมาก จบมามาก มันก็เป็นทางเลือกให้คนในสายงานมีตัวเลือกที่มากขึ้น ส่วนใครที่จบมาแบบกระเรี่ยกระราด เดี๋ยวสังคม ณ ตรงนั้นก็จะตัดสินเค้าเอง ถ้าเค้าไม่พัฒนาตัวเองกลับขึ้นมาเท่าเทียมหรือมากกว่า จากคุณ : tranic เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 09:51:02

ความคิดเห็นที่ 45 ... โทษสถาบันต่าง ๆ ที่ผลิตออกมาโดยไม่มีคุณภาพ จากคุณ : ต้นเหตุแห่งปัญหา.... (ปลาทูออนไลน์) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 10:54:56

ความคิดเห็นที่ 46 จบวิศวฯ มาบางที่ ได้เงินเดือนเริ่มต้นเพียง 15,000 บาท(ภาษาอังกฤษได้ TOEIC 750) ในขณะที่ล่ามภาษาญี่ปุ่นเก่งๆหลายๆได้ 30000 บาท จากคุณ : bangkung_123 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 12:06:59

ความคิดเห็นที่ 47 วิศวะ ล้นจริง แต่พยาบาลผมว่าไม่ล้นนะ จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 12:08:16

ความคิดเห็นที่ 48 ประเทศไทย ไม่ได้ต้องการ คนทำงานวิศวะกร จำนวนมากนัก แต่ต้องการคนทำงาน แบบ ปวช. ปวส. จำนวนมากกว่า แต่ระบบการทำงานไทยมันผิด คนที่จบปวช. ปวส. เลยต่อวิศวะ ทุกมหาลัยก็เปิดเรียนวิศวะ พอวิศวะล้นตลาด ก็เลยได้ทำงานที่ไม่ใช่งานวิศวะ มาทำงาน ปวช. ปวส. งานบริหาร ผล ก็เลยไม่มีอะไรดี เพราะวิศวะไม่ได้เทพที่ทำได้ทุกอย่างเข้าใจทุกอย่าง ปล.จากวิศวกร ที่ไม่ได้ทำงานวิศวกรมาหลายปีแล้ว จากคุณ : NecroLord เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 12:55:07

ความคิดเห็นที่ 49 มันก็เกิดจากมีแรงงานวิศวกรเข้ามาในตลาดแรงงานเยอะนั่นแหละครับ (ลองให้หมอออกมาในตลาดมากๆสิครับ จะเหมือนกับวิศวกรในปัจจุบันนั่นแหละ) เมื่อมีปริมาณมาก ผู้ประกอบการก็สามารถที่จะเลือกจากคนที่คุ้มทุนที่สุดมาทำงาน แล้วงานวิศวกรนั้นกว้างมากๆครับ อาชีพอะไรก็เรียกวิศกรไปหมด อีกอย่างจะเอาวิศวกรไปเทียบกับหมอหรือผู้พิพากษานั้นคงไม่ได้หรอกครับ อาชีพทั้งสองนี้เป็นยากกว่าวิศวกรมาก(เพราะที่นั่งมีจำกัดเลยมีการแข่งขันสูง)และมีรายได้โดยเฉลี่ยเยอะกว่าเหล่าวิศวกรมาก เคติดมันก็ควรมากกว่าวิศวกรอยู่แล้วครับ ที่สำคัญมีความมั่นคงในงานและการเงินสูงมากของหมอและผู้พิพากษาสูงมากไม่หวั่นแม้เศรษฐกิจจะตกต่ำแค่ไหน สถาบันการเงินทั้งหลายเลยอยากได้มาเป็นลูกค้าเพราะโอกาสหนี้เสียนั้นแทบจะไม่มี จากคุณ : promlikit เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 14:20:14

ความคิดเห็นที่ 50 อีโก้เยอะ เลยทำงานเสร็จและงานล้มเหลว จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 14:59:49

ความคิดเห็นที่ 51 พี่ชายผมที่เป็นญาติบอกว่า วิศวะโยธา ม.ช.ในตอนนั้น(รุ่นที่ตอนสอบเข้ายังไม่แยกเมเจอร์) คนที่จบโยธา ภายใน4ปี จะเทพมากๆ บริษัทจองตัวเป็นแถว และตอนรุ่นผม เพื่อนวิศวะบอกว่า 1ในเกียร์ที่เก่าสุดแล้วยังเรียนอยู่ เรียนโยธา จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:48:23

ความคิดเห็นที่ 52 ^ ^ โยธา สายโหดจริงๆครับ องค์กรที่ผมเข้ามาอยู่ ดูสถาบันของวิศวกรใหม่ ที่รับเข้ามา พระจอม 3 พระจอม เกษตร ธรรมศาสตร์ จุฬา มช. มหาวิทยาลัยโนเนม ไม่มีเลย ปริมาณเยอะจริง แต่คนรับเข้าทำงานเค้าก็เลือกครับ จากคุณ : Sympho เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:27:45

ความคิดเห็นที่ 53 เอาเป็นว่า  บางบริษัท ลงทุนสนับสนุนเครื่องมือ และเงินทุนการศึกษา + จัดอบรมฝึกฝน ให้นักศึกษา ด้วยงบประมาณและบุคลากรของบริษัทเอง  เพื่อจะรับเด็กเหล่านั้นเข้าทำงานครับ เด็กเก่งๆ ที่ทำงานได้จริง มีน้อยมาก  บริษัทแย่งกันจองตั้งแต่ยังเรียนไม่จบครับ ส่วนที่เหลือ บางส่วนก็คือ ไม่มีใครสนใจจะรับไป บริษัทผม รับสมัคร R&D Engineer ด้านอิเล็กทรอนิกส์  มีคนมาสมัครเกือบทุกวัน   แต่ข้อสอบออกแบบวงจรไฟฟ้าง่ายๆ  ยังหาคนที่ทำได้คะแนนเกิน 50% ยังไม่ได้เลย  เรื่องจะเอามาทำงานจริงนั้น ก็เลยไม่ต้องหวังเลยทีเดียว   ตอนนี้ก็วางแผนกันอยู่ว่า  คงจะต้องให้ทุน และคัดหัวกะทิ มาเรียนที่บริษัท พอจบก็ให้ทำงานเลยมั่งแล้ว จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 23:17:15

ความคิดเห็นที่ 54 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 16:43:39

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้ามองอีกมุมผมว่า ผู้ประกอบการ มีตัวเลือกมาก ค่าจ้างถูก ส่วนคนที่จบ ปวช และปวส. มีความรู้ความสามารถมากขึ้น ได้พัฒนาตัวเอง  การพัฒนาที่ดีที่สุดคือพัฒนาคน ถ้าคนทั้งประเทศไทยเราจบวิศวะกันหมด ผมว่าประเทศชาติน่าจะเจริญกว่าที่เป็นมาก แต่ต้องจบอย่างมีคุณภาพ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 19:35:50

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่ตกต่ำหรอกครับ  อยากได้ของดีก็ต้องจ่ายแพง   บางคนห่วย แต่ตอนสัมภาษณ์โม้ไว้แยะพอเจอของจริง ก็บอกไม่ถนัดบ้าง ทีทำมาไม่ใช่อย่างนี้บ้าง   นายจ้างหวังของดี ราคาถูก อยู่แล้ว พอรับของถูกเข้ามา ก็เดือดร้อนคนเทรนอีก ยิ่งถูกยิ่งสอนยาก ชีวิตนี้มันก็เป็นวัฏจักรไปเรื่อย ของมัน ตอนนี้จบโยธา จ้างถูกเพราะ คนจบ ปวส. ไปเรียนต่อกันหมด ตลาดงานของคนเขียนแบบ เลยมีตัวเลือกน้อย ประเทศเราก็จะพัฒนาอาชีพเข้าสู่ รูปแบบใหม่คือ แยกคนทำ detailing  ออกจาก Designer อย่างชัดเจน อาจารย์ที่สอนผมมา ยังบอกเลยว่า ต่อให้คุณจบ ปริญญาเอกมา ก็เป็น Cheep Labor อยู่ดี   ซึ่งผมก็พิสูจน์คำพูดของอาจารย์แล้วว่าจริง   วิศวกรออกแบบระดับสามัญ ประสบการณ์สูง  สุดท้ายก็ลาออกมาขายของอยู่บ้าน เสียเวลาเท่ากันแต่ได้ เงินเยอะกว่า ไม่ต้องลำบากนั่งเครียด เช้ายันดึก มีเวลาว่างให้ครอบครัว ลูกเจอหน้าพ่อทุกวัน หลายคน ลาออกไปเรียนต่อสายการเงิน ไปเล่นหุ้นแล้ว สุดท้ายอาชีพนี่มันก็จะตายไป  แล้วประเทศเราก็จะจ้าง Out source จากต่างประเทศแทน แรงงานระดับ Skill Worker ของไทย ไปทำงานตะวันออกกลาง บางคนเงินเดือนหลักแสน มากกว่า เจ้านายที่เคยสั่งงานเขาตอนอยู่เมืองไทย ถึง 2 เท่า บางตำแหน่ง เขา request คนไทยโดยเฉพาะอีกต่างหาก   มันเป็นเรื่อง อุปสงค์ อุปทาน ทางไหนหากินง่าย เขาก็เลือกทางนั้น จากคุณ : Bugtoi เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 20:53:37

ความคิดเห็นที่ 57 only 8 gears จากคุณ : MR.QUE เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 21:40:38