Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ไข้ทรพิษ เมื่อหายขาดแล้ว ยังเป็นซ้ำได้หรือไม่ ติดต่อทีมงาน

พ.ศ. 2117 ในขณะที่กองทัพกรุงศรีอยุธยาภายใต้การบังคับบัญชาของสมเด็จพระธรรมราชาธิราช และพระนเรศวร ได้ยกกองทัพไปช่วยพระเจ้าหงสาวดีเพื่อตีเมืองศรีสัตนาคนหุต

ขณะที่กองทัพกรุงศรีอยุธยายกไปถึงหนองบัวลำภู เมืองอุดรธานี พระนเรศวรทรงประชวรเป็น "ไข้ทรพิษ" ดังนั้นพระเจ้าหงสาวดีจึงโปรดให้กองทัพกรุงศรีอยุธยายกทัพกลับไป

http://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ไข้ทรพิษ หรือฝีดาษ พระเนศ ประชวรเมื่อ19ชันษา แล้วหายขาด

พ.ศ. 2148 ครั้นเสด็จถึงเมืองหางแล้วก็ให้ตั้งค่ายหลวงประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว สมเด็จพระนเรศวรทรงพระประชวรเป็นหัวระลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์ แล้วกลายเป็นบาดทะพิษพระอาการหนัก


ละลอก  น.ระลอก; โรคผิวหนังชนิดหนึ่ง เป็นเม็ดมีหนอง.

         สรุปความได้ว่า เป็นโรคติดเชื้อที่ผิวหนังประเภทฝีหนอง ในสมัยที่ไม่มียาปฏิชีวนะทำให้เชื้อลุกลามถึงเข้ากระแสเลือด(กลายเป็นพิษ) จนสวรรคตด้วยพระอาการช็อคจากการติดเชื้อ (septic shock)

        หากเป็นจากผึ้งต่อย ก็จะเป็นการสวรรคตจาก hypersensitivity หรือ anaphylactic shock ซึ่งเป็นปฏิกิริยาแพ้อย่างรุนแรงที่ร่างกายแสดงต่อสิ่งแปลกปลอมที่ได้รับ เกิดความดันโลหิตต่ำ หลอดลมเกร็ง หายใจลำบาก
หากได้รับการรักษาไม่ทันก็ถึงแก่ชีวิต

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3127.15


ไข้ทรพิษ สามารถเป็นซ้ำได้หรือไม่ หรือเป็นโรคอื่น เพราะไข้ทรพิษระบาดมาแต่โบราณ

พงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
ศักราช ๘๐๒ ปีวอกโทศก (พ.ศ. ๑๙๘๓) ครั้งนั้นคนออกทรพิษตายมากนัก

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rattanakosin225&month=17-03-2007&group=2&gblog=16


จากที่เสนอข้างต้น การสวรรคตพระนเรศ ไม่น่าจะเกิดจากไข้ทรพิษ เพราะเชื้อติดทางอากาศได้ น่าจะเป็นเชื้ออื่นมากกว่า

แพทย์จีนจะเผาสะเด็ดจากผู้ที่หายป่วย รมในห้องในผู้ป่วยสูดดม
แพทย์ฝรั่งจะปลูกฝีสมัยหมอบรัดเลย์ ในไทย

http://th.wikipedia.org/wiki/ฝีดาษ

http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=83&page=4


นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าโรคนี้ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อนคริสต์กาล เมื่อมนุษย์ที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของทวีปแอฟริกา เริ่มตั้งหลักแหล่งทำการเกษตร แทนที่จะระเหเร่ร่อนไม่อยู่เป็นหลักแหล่ง

ใบหน้าของมัมมี่จำนวนมากในช่วงเวลา 1570-1685 ก่อนคริสต์กาล ล้วนมีรอยแผลเป็นจากโรคฝีดาษทั้งสิ้น (Ramses V ของราชวงศ์อียิปต์สิ้นพระชนม์ด้วยโรคฝีดาษในปี 1157 ก่อนคริสต์กาล)

ฝีดาษซึ่งเกิดจากไวรัส ระบาดครั้งแรกตามที่มีหลักฐานในปี 1350 ก่อนคริสต์กาลในช่วงสงครามระหว่างอียิปต์กับ Hittite เข้าใจว่าเชื้อไวรัสของโรคนี้ผ่านจากชาวอียิปต์สู่คู่ต่อสู้ กษัตริย์และรัชทายาทติดฝีดาษเช่นเดียวกับทหารและพลเรือน จนอาณาจักร Hittite เสื่อมลงและต่อมาชาวอียิปต์ก็นำโรคนี้ไปสู่อินเดียเมื่อมีการค้าขายกันในพันปีสุดท้ายก่อนคริสต์กาล และแพร่ไปทั่วโลกในที่สุด

http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2004q1/article2004feb13p2.htm


รบกวนผู้รู้ชี้แนะด้วย ขอบคุณครับ

แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 55 11:35:12

จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย
เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 10:07:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com