4. การใช้วิธีทางชีวภาพ
เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไมเราจึงเจอลูกน้ำยุงในแหล่งน้ำเล็กๆหรือพวกน้ำขังในบ้าน แจกัน หรืออ่างบัว แต่เรามักจะไม่พบลูกน้ำยุงในแหล่งน้ำธรรมชาติทั้งที่แหล่งน้ำนั้นๆบางครั้งไม่ได้มีปลาอาศัยอยู่เลย
เหตุสำคัญที่ทำให้เป็นอย่างนั้น ก็เพราะว่าในธรรมชาติ ลูกน้ำยุงเป็นสิ่งมีชีวิตที่โนบิตะมากครับ อ่อนแอ ต่อสู้ไม่ได้ จึงมีศัตรูทางธรรมชาติอยู่มากครับ ทำให้กว่าลูกน้ำจะโตจากตัวเล็กๆไปเป็นตัวเต็มวัย มันจึงโดนสัตว์อื่นๆในธรรมชาติเก็บไปเสีย
และมนุษย์ใช้ความรู้ด้านศัตรูทางธรรมชาติของยุงมาใช้ประกอบในกรรมวิธีการกำจัดยุงและลูกน้ำยุงแหละครับ
นก - นกเป็นสัตว์ที่มีส่วนในการควบคุมยุงและลูกน้ำยุงในระดับเล็กน้อยครับ มีงานวิจัยที่ดักจับนกมาเพื่อดูว่ามันมีการหาอาหารอะไร และพบว่ายุงเป็นแมลงที่ถูกจับมากินเพียงห้าถึงหกเปอร์เซนต์เท่านั้น เหตุที่นกไม่ได้จับยุงเป็นอาหารมากนักก็เพราะเหตุที่ว่ายุงเป็นสัตว์ที่มักออกหากินช่วงพลบค่ำถึงตอนมืด(ยกเว้นยุงลายที่หากินกลางวันแต่ชอบอยู่ในที่ที่นกเข้าไม่ถึง) ต่างจากนกที่ชอบหากินกลางวัน ทำให้ช่วงเวลาที่สัตว์ทั้งสองกลุ่มจะได้เจอกันมีไม่มาก และยุงที่เกิดเป็นกลุ่มใหญ่ๆมักจะเป็นยุงที่เกิดจากน้ำหลากน้ำท่วม ซึ่งเป็ฯสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้ยุงไม่อาจเป็นแหล่งอาหารประจำของนกได้
มีรายงานเรื่องนกที่จับลูกน้ำยุงเป็นอาหารก็คือเป็ดครับ โดยพบว่าในช่วงที่มีลูกน้ำยุงระบาดแบบรุนแรง จำนวนลูกน้ำที่ยุบยั่บในน้ำก็ดึงดูดเป็ดให้เข้าไปหากินได้เหมือนกัน
ดังนั้นนกไม่ใช่สัตว์ที่ดีที่จะเอามาใช้ควบคุมยุงเท่าไหร่
ค้างคาว - ตามที่เรากล่าวในข้อเมื่อครู่ว่ายุงมักออกหากินช่วงพลบค่ำต่างจากนกที่หากินกลางวัน ... ก็มีสัตว์มีปีกที่บินได้และหากินพลบค่ำก็คือค้างคาวนั่นเอง
ด้วยเวลาหากินและนิสัยชอบกินแมลง ทำให้ค้างคาวหลายพันธุ์กินยุงครับ ค้างคาวหลายชนิดออกหากินเหนือผิวน้ำหรือบินไปก่อกวนแมลงตามพุ่มไม้ใบหญ้าให้บินออกมาจับกิน จึงเป็นส่วนที่ทำให้ค้างคาวจัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่จับยุงเป็นอาหาร
แต่ค้างคาวก็ไม่ได้ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมในการควบคุมยุงนะครับ เพราะว่าการบินตีลมเหนือพุ่มไม้หรือบินโฉบไปเหนือผิวน้ำของค้างคาว จะได้แมลงชนิดอื่นมาเสียมากกว่ายุง ทำให้แม้ค้างคาวจะเป็นพวกที่กินยุงมากกว่านก แต่ก็ยังไม่ได้เหมาะต่อการใช้เป็นยุทธวิธีกำจัดยุงแต่อย่างใด