 |
1. ผู้พิการขึ้นฟรีน่าจะลำบากครับ เพราะรถไฟสายดังกล่าวเป็นเส้นทางไกลครับ แตกต่างจาก BTS หรือ MRT ที่ระยะทางไม่ไกล และค่าโดยสารจากต้นถึงปลายทางก็ไม่แพงมากนัก อีกทั้งต่อโบกี้นั้น BTS หรือ MRT จุคนได้เยอะกว่า ทำให้ รฟม หรือ BTS สามารถเก็บค่าโดยสารจากผู้ใช้บริการรายอื่นๆมาทดแทนได้
BTS-MRT นั่งสุดสายตก 45-60 บาท แต่รถไฟสายนี้ เป็นรถด่วน ข.69 ครับ เป็นขบวนทำเงินของสายอีสานเหนือเลย แถมยังเป็นนั่งปรับอากาศชั้น 2 อีก ค่ารถจากหัวลำโพงจรดหนองคายก็ตกท่านละ 498 บาท ครับผม และมีที่นั่งเพียงราว 42 ที่กระมัง ดังนั้นทั้งโบกี้จะได้ค่าโดยสารเพียง 21,000 บาท ครับ
2. เบาะหมุนได้ 360 แน่นอนครับ เพราะรถไฟชั้น 2 ธรรมดาไม่ปรับอากาศรุ่นปรับปรุงเบาะใหม่ ก็เบาะหน้าตาประมาณนี้ มันหมุนได้ครับผม แถมเพื่อให้ทางเดินกว้างพอจะให้วีลแชร์ผ่านได้ จึงปรับเหลือแถวละ 3 ที่นั่ง เท่านั้น
3. ที่กั้นระหว่างเบาะพับขึ้นลงได้ครับ แต่ด้านติดทางเดินพับขึ้นลงไม่ได้ ส่วนที่เก็บรถวีลแชร์นั้น ผมคิดว่าอาจจะไม่มีครับ ตรงนี้ควรทำเรื่องเสนอไปให้ รฟท จัดหารถ บสพ มาพ่วงด้วย เพื่อเอาไว้เป็นที่เก็บวีลแชร์ก็ไม่เลว
4. ผมคิดว่าไม่ได้ออกแบบเพื่อคนพิการเท่านั้นครับ แต่ออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการมากขึ้นมากกว่า เพราะน่าจะเปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารปกติด้วย (ในอัตราชั้น 2 ปรับอากาศปกติ)
5. ปกตินั้น ข.69 จะพ่วงแต่ บนท.ป หรือ บนท เป็นหลักเลยครับ นานๆจะมี บชท มาสักที และตอนหลังก็เริ่มกลับมาพ่วง บชส เหมือนเดิม (หลังจาก บชส หายไปเกือบๆปี จนคนเขาด่ากันขรม) ดังนั้นการปรับปรุงครั้งนี้ ก็เพื่อหารายได้เพิ่มเติมแน่นอนครับ ต้องเปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารปกติ และผู้โดยสารพิการร่วมกัน แต่มันจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการขึ้นลงแก่ผู้โดยสารที่เดินเหินไม่สะดวกไปด้วย (เช่นกรณีคนชรา ที่พอลุกขึ้นยืนได้ หรือเดินได้นิดหน่อย แต่ไม่แข็งแรงพอ เลยใช้บริการวีลแชร์ เป็นต้น)
| จากคุณ |
:
อุ้ย (digimontamer)
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 มิ.ย. 55 19:10:07
|
|
|
|
 |