Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[กรณีอู่ตะเภา] โปรดฟังนักวิทย์ไทย ที่ร่วมกับนาซ่าศึกษาบรรยากาศ ติดต่อทีมงาน

ทำไมอยู่ๆ ก็นึกถึงบรรยากาศตอนทำเรื่อง GT200 ก็ไม่รู้ ที่ไม่เห็นมีองค์กรทางวิทยาศาสตร์ อะไรเลยที่ออกมาช่วยชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับสังคม ปล่อยให้การเมืองทำลายวงการวิทยาศาสตร์ไทย  :-(

-----------------------

จาก http://www.komchadluek.net/detail/20120620/133232/เอ็กเรย์ดีซี-8นาซามาอู่ตะเภา.html


ดร.นริศรา ทองบุญชู ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเคมี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ หนึ่งในนักวิจัยที่เข้าร่วมโครงการนี้ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนจากสนามบินสุราษฎร์ธานีมาเป็นอู่ตะเภา เนื่องจากเครื่องบินพิเศษ 3 ลำที่ดัดแปลงเป็นเครื่องเก็บข้อมูลของนาซานั้น จะต้องมีโรงจอดเฉพาะเพื่อปกป้องไม่ให้เครื่องมือกระทบกระเทือน ปรากฏว่าที่สนามบินสุราษฎร์ธานีไม่สามารถให้บริการตรงนี้ได้ จึงต้องเปลี่ยนเป็นที่อื่นแทน ส่วนสนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมินั้น มีเครื่องบินขึ้น-ลงจำนวนมาก ที่ประชุมจึงปรึกษากันให้เลือกที่ใหม่ สุดท้ายก็ลงตัวที่สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งงบประมาณของโครงการมีมูลค่าถึง 1,000 ล้านบาท โดยเครื่องบินนาซาที่จะนำมาบินเก็บข้อมูลนั้นมี 3 ลำ คือ "NASA DC-8", "NASA ER-2" และ "GV" รวมกับเครื่องบิน 1 ลำ จากโครงการฝนหลวง "BRRAA KING AIR 550"  

    นักวิจัยข้างต้นเล่าจากประสบการณ์ที่เคยเข้าร่วมโครงการนี้เมื่อปี 2544 โดยใช้สนามบินฮ่องกง และสนามบินในฐานทัพอากาศโยกะตะของญี่ปุ่นว่า เครื่องบินที่ใช้สำรวจเก็บข้อมูลชั้นบรรยากาศคือ "เครื่องบินดีซี-8"  (DC-8) ใช้วิธีดัดแปลงจากเครื่องบินโดยสารทั่วไป เอาเก้าอี้นั่งออกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือและเครื่องวัดต่างๆ แทน เมื่อบินขึ้นชั้นไประดับความสูงที่ต้องการ จะเริ่มเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงทางเคมี และคุณสมบัติการเปล่งรังสีของแก๊ส ละอองลอย (Aerosols) และสารตั้งต้น (Precursor) ในมวลอากาศที่เคลื่อนที่จากเอเชียตะวันออกไปยังด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก โดยขึ้นบินทั้งหมด 22 เที่ยวบิน สำรวจในระดับความสูง 200 เมตรถึง 12 กิโลเมตรจากระดับน้ำทะเล

     "ในเครื่องบินมีเครื่องมือวิเคราะห์อากาศ ใช้วิธีต่อท่อออกไปนอกเครื่องบินแล้วปั๊มดูดอากาศเข้ามาเก็บไว้ จากนั้นก็วัดค่าต่างๆ ที่ต้องการ เช่น ความชื้น สารเคมีปนเปื้อน ปริมาณก๊าซแต่ละประเภท ถือเป็นโอกาสที่ดีมากที่โครงการนี้จะเลือกประเทศไทยเป็นพื้นที่บินเก็บข้อมูล เพราะไทยอยู่ตรงศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พอดี ที่จริงแล้วการเปลี่ยนไปใช้สนามบินอู่ตะเภาถือเป็นเรื่องโชคดีมาก เพราะบริเวณนั้นมีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และท่าเรือแหลมฉบัง ที่มีปัญหาเรื่องมลพิษสะสมในอากาศ เมื่อเครืองดีซี-8 บินขึ้นไป ก็จะได้รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสารพิษที่ปนเปื้อนในชั้นบรรยากาศ สาเหตุที่ภาวะอากาศแปรปรวน โลกร้อน ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อประชาชนมากๆ" ดร.นริศรากล่าวย้ำ

   ดร.นริศราขอร้องทิ้งท้ายว่า อย่าเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องกับการทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทุกฝ่ายมีข้อตกลงร่วมกันอยู่แล้วว่า นาซาจะต้องแชร์หรือเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่สำรวจได้ ไม่รู้ทำไมกลายเป็นประเด็นขัดแย้งทางการเมือง หรือความมั่นคงประเทศไปได้ ทั้งๆ ที่โครงการนี้เก็บข้อมูลหลายทวีปทั่วโลกแล้วไม่เคยมีปัญหาอะไร อยากให้หลายฝ่ายช่วยปรึกษากันหาทางออกที่เกิดประโยชน์กับมนุษย์ทั่วโลกมากที่สุด

แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 55 14:04:53

แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 55 14:03:42

 
 

จากคุณ : JD300
เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 55 14:02:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com