ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีข้อ ขี้อิจฉาไม่อยากเห็นใครได้ดีไปกว่าตน ถ้ามีผมจะเลือกข้อนี้ นิสัยนี้ติดตัวคนไทยมาแต่บรรพกาลแล้ว จากคุณ : หิมะละลาย เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 23:15:35

ความคิดเห็นที่ 2 นายกคนหนึ่งเคยพูดเอาไว้ "ความกลัวทำให้เสื่อม" และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลอกคนไทยง่ายนิดเดียวใช้ประโยชน์จากความกลัวนี่แหล่ะ กลัวอ้วน กลัวเมีย นิวเคลียร์  กลัวอด กลัวของแพง กลัวขายชาติ กลัวผี กลัวน้ำ กลัวไฟ กลัวฟ้า กลัวฝน กลัวลม กลัวเสียหน้า กลัวนู่น กลัวนี่ กลัวๆๆๆๆๆๆ ฯลฯ จากคุณ : aonesung เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 23:22:41

ความคิดเห็นที่ 3 ผมสังเกตุมาสักพักแล้วว่า ตอนนี้คนเราขาดการคิดอย่างเป็นระบบ ขาดเหตุขาดผล ถูกสอนมาให้เชื่อแบบตามๆกัน ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมด ห้ามเถียง หรือเถียงแบบข้างๆคูๆ คือไม่ยอมรับผิดนั้นเอง จากคุณ : คนไร้สมอง เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 23:32:53

ความคิดเห็นที่ 4 ขาดความเคารพตัวเองและเห็นคุณค่าของตัวเอง จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 23:34:10

ความคิดเห็นที่ 5 กลัว คนอื่นได้หน้า ความอิจฉาคือเหตุแห่งความเสื่อมของประเทศไทย จากคุณ : NIC เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 23:39:00 A:49.49.179.187 X: TicketID:349466

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ชอบเห็นใครดีกว่าตัวเองมั้ง เห็นได้บ่อยๆ ไม่ต้องรอชาติอื่นมาทำอะไร เพราะเราจะขัดขากันเอง ชาติเลยไม่เจริญ ทำดีได้ แต่อย่าเด่น จะโดนเล่นเอา จากคุณ : วะฮะฮ่า เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 23:43:16 A:72.33.246.10 X: TicketID:230277

ความคิดเห็นที่ 7 ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ จากคุณ : pattarat เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 23:47:30

ความคิดเห็นที่ 8 เราถูกทำให้เป็นหรือเราเป็นอย่างนี้เอง จากคุณ : monsterchef เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 23:51:58

ความคิดเห็นที่ 9 อย่าเหมาคนไทยเลยครับ ค่อนข้างเอียนเวลาเจอใครเหมาเป็นพวกไปด้านใดด้านหนึ่ง ตอบคำถามง่ายๆเอาแค่ในห้องต่างๆของพันทิปยังมีสองฝ่ายค้านกัน เพียงแต่ว่าใครจะพวกมากกว่า ก็จะถล่มพวกน้อยกว่า แค่นั้นตามแต่ประเภทห้องนั้นๆ โดยไม่จำเป็นว่าผิดหรือถูก เช่น ห้องเฉลิมไทย คุณไปพูดเรื่องเห็นด้วยกับการเซ็นเซอร์ จะโดนคนกลุ่มใหญ่ถล่มแหลกหาว่าขัดสิทธิเสรีภาพการชม กุมีสมองคิดได้ ถ้าเป็นห้องจตุจักร คุณไปพูดเรื่องการจัดการปัญหาหมาจรจัดในแบบที่คนในนั้นมองว่าโหดร้ายคุณก็จะโดนด่าแหลก ใจร้ายเลวกว่าหมา มาในห้องนี้หว้ากอ ห้องนี้คนฉลาดเยอะสุดใช้เหตุผลสุด แต่บางเรื่องมันไม่ได้มีแต่วิทยาศาสตร์เพียวๆ มันองค์ประกอบอื่นๆด้วย อย่างเรื่องนิวเคลียร์ นาซ่า ถ้าคุณเห็นต่างในแนวทางที่คนในห้องเขาไม่โปรด้วยก็เล่ะ มีทุกห้อง ทั้งๆที่ไอ้ที่ค้านๆกันนะอาจจะมีสาระ แต่ไม่ถูกจริตคนส่วนใหญ่ห้องนั้นๆ ประเทศไหนๆเขาก็มีคนเห็นต่าง อยู่ที่ว่าค้านแล้วจะฟังหรือดึงดันเอาพวกมากเข้าว่า ก็แค่นั้น คำตอบที่ให้เลือกเอาจริงๆก็มีเหตุและผลที่จะคุยได้อีกยาว ไม่ใช่ว่าตอบๆไปแล้วมันจะใช่เลย จากคุณ : ___ เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 23:53:38 A:27.130.32.70 X: TicketID:360677

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องดูเป็นสามลักษณะ ค้านเพราะอีกฝ่าย ขาดเหตุผลไม่น่าเชื่อถือไร้หลักฐาน ้านเพราะพื้นฐานความรู้ต่ำ โลกทัศนแคบ อะไรผิดไปจากความรู้ตน ต้องผิดแน่นอน หรือค้านด้วยความเป็นอคติ อริศัตรู แบบหลังนี่อันตรายจะค้านแบบหัวชนฝา ไม่ฟังอะไร หวังทำลายอย่างเดียว ทำงานร่วมกัน ก็จะพากันพังทั้งสองฝ่าย ส่วนนิสัย การยอมเปิดใจรับฟังผู้อื่นก่อน แม้จะเป็นศัตรูคู่อาฆาต คือวิถีคนกล้า ใจกว้าง ให้เกียติผู้อื่นเสมอตน กรอบความคิดกว้างใหญ่ จนแทบหาเส้นขีดกั้นไม่ได้ ต้องเลี้ยงเด็กแบบเปิด อย่ากดดัน ให้เขาคิดเอง ตัดสินใจเอง หาเหตุผลเอง เคารพตนเอง หยุดการชี้นิ้วบงการชีวิตลูกไปทุกเรื่อง อย่าหลอกให้เขากลัว ให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่กล้าหาญ กล้าที่จะภูมิใจในชีวิตและความคิดของเขาเอง เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อสังคม. จากคุณ : ตาลโตน เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 00:00:02

ความคิดเห็นที่ 11 จขกท. เขามีให้เลือกตั้งแปดข้อ แนะ ผมเลือกข้อ 2 การขาดหลักตรรกะในการวิเคราะห์เหตุผล และก่อนจะมีข้อ 2 ต้องผ่านข้อที่ 4 อิงฝ่ายที่ตนชื่นชอบเป็นหลักเสมอ มันก็เลยเกิดวิถีการคัดค้าน แบบทฤษฎีสมคบคิดระบาดไปทั่วสังคมไทย จากคุณ : Ake (อังเคิลโอ๋) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 00:07:18

ความคิดเห็นที่ 12 เอาแบบย่อมๆ ลองไปเสนอวิธีแก้ปัญหาหมาจรจัดล้นเมืองในแบบของวิทยาศาสตร์หว้ากอ ที่ได้ผลแน่นอนในห้องจตุจักรดูสิครับ หลายๆคนจะรู้ว่าบางเรื่องวิทยาศาสตร์เพียวๆมันใช้ไม่ได้ บางเรื่องมันมีหลายมิติ ที่ค้านเพราะเป็นคนมีสมองไงมันถึงคิดได้หลากหลาย เหตุผลที่คิดว่าฉลาดแล้วของคนๆนึงไม่ใช่คำตอบของคนอีกคนนึง มันเลยขัดแย้งกันธรรมดา จากคุณ : ___ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 00:10:35 A:27.130.32.70 X: TicketID:360677

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องถกเถึยงกัน เป็นธรรมดา ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติครับ ไม่ใช่แค่คนไทยแน่ ๆ อย่างฝรั่งส่วนใหญ่เนี่ย เรื่องไหนไม่เห็นด้วย เขาแสดงออกตรง ๆว่าไม่เห็นด้วยมากกว่าคนไทยด้วยซ้ำไปอะครับ ส่วนที่บอกว่า สุดท้ายก็จะไม่ได้ทำอะไรเลย กลายเป็นผลเสียต่อส่วนรวมไป  อันนี้ผมว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องการค้านเลยนะ เพราะส่วนใหญ่ไม่ว่าจะทำอะไรยิ่งถ้าเป็นระดับเกี่ยวกับคนหมู่มาก มันย่อมมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอยู่แล้วอะเน้อ จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 00:34:44

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกๆคห.ครับ เรื่องอิจฉากลัวคนอื่นได้หน้า หลายท่านคอมเม้นท์ไว้ ผมขอโนคอมเม้นท์นะครับ กลัวจะไปยาวเรื่องอื่นครับ อิอิ เรื่องความกลัว อันนี้น่าจะเริ่มจากการขาดความรู้และตรรกะเหตุผล ใช่ไหมครับ เรื่องเคารพตนเอง อันนี้น่าสนใจ อยากได้ความรู้ขยายเพิ่มเติมครับ เรื่องเราถูกทำให้เป็นหรือเป็นเอง อันนี้ก็สงสัยเหมือนกัน แต่เดิมทีเราก็ไม่เป็นมากขนาดนี้ ขอบคุณ #10 ที่วิเคราะห์มาเป็นหลายๆรูปแบบ ทำให้เห็นความแตกต่าง เรื่องทฤษฎีคัดค้านแบบสมคบคิด น่าจะเป็นจุดกำเนิดม๊อบต่างๆ ใช่ไหมครับ ขอบคุณ #9&12 ครับ ปัญหาแบบที่คุณบอก เลยทำให้ไม่มีข้อสรุปของทางแก้ปัญหา ใช่ไหมครับ นี่คือสิ่งที่ผมกลัว เพราะสุดท้ายจะไม่มีการกระทำใดๆ เพราะทุกทางออกมีปัญหา แต่สิ่งที่ผมอยากให้เกิดในสังคมคือ ทุกปัญหา มีทางออก มีได้ ก็ต้องมีเสียบ้าง อยากให้ยอมรับจุดนี้กัน #13 ครับ สุดท้ายไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะไม่สามารถมาบรรจบข้อสรุปกันได้อะครับ เหมือนต่างคนต่างเดินคู่ขนานกัน ไม่ยอมมาบรรจบกััน เหมือนตัวอย่าง#12ครับ สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ได้ เพราะทุกฝ่ายไม่ยอมรับข้อเสียที่จะเกิดขึ้น รอฟังจากคอมเม้นท์อื่นๆเพิ่มเติมครับ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 00:48:58 จากคุณ : มาตรฐานชายไทย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 00:40:28

ความคิดเห็นที่ 15 อยู่ที่ใช้หลักเหตุผลในการค้านหรือเปล่ามากกว่า ไม่ใช่ค้านเพราะไม่ชอบ ปัญหาคือค้านไม่ได้หมายความว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ คนไทยมากมายคิดว่าค้านกันแล้วต้องเอาให้ถึงที่สุด ใครแพ้เสียหมา เมิงกรูเกลียดกันจนวันตาย อันนี้มากกว่าที่ทำให้ไม่เจริญ จากคุณ : workbench เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 01:30:21

ความคิดเห็นที่ 16 คนไทยถูกสอนมาให้แข่งขันเกินไป และนิสัยชอบแข่งขันนั้นแหละที่พาไปสู่การแตกแยกได้ จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 01:31:58

ความคิดเห็นที่ 17 มันอยู่ใน ดี เอ็น เอ ครับ สงสัยไหมว่าทำไมกีฬาประเภททีมไม่เคยเก่ง แต่กีฬาเดี่ยวๆ เก่งจัง จากคุณ : ป่อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 01:42:18 A:171.7.227.253 X: TicketID:348660

ความคิดเห็นที่ 18 ผลประโยชน์ไม่ลงตัว และติดนิสัยแถครับ ฝรั่งที่ผมเจอมา จะถกเถียงกันด้วยเหตุผล ถ้าเหตุผลตอบโจทย์ได้ อีกฝ่ายก็ยอมรับ ไม่ใช่แถแบบไร้เหตุผล พอเหตุผลสู้ไม่ได้ ก็เอาเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกันมาอ้าง หรือแถนั่นเอง พอแถไม่ได้ก็ต่อยกันซะเลย จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 02:14:22

ความคิดเห็นที่ 19 ผิดไม่เป็น คือ เป็นคนที่ไม่เคยเชื่อว่าตนเองผิด หรือทำผิดไม่เป็น แม้ว่าตนเองจะทำผิดก็ไม่เคยรู้จักขอโทษหรือยอมรับผิด เชียวชาญหมด คือ เป็นคนที่ชอบมองตนเองว่า “ดีเลิศประเสริฐศรี” เก่งเป็นอัจฉริยะในทุกทาง ทุกเรื่องที่ตนเองพูด ตนว่าอะไรทุกคนต้องฟัง เครดิต Gundum GX จากคุณ : HaraTakumi เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 02:24:40

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าหลายๆคนไม่รู้จักคำว่าข้อดีข้อเสียนะ คือไม่เข้าใจธรรมชาติของโลกว่าทุกสรรพสิ่งมันมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ดังนั้นพอมีคนมาพูดถึงข้อเสียนิดเดียว หลายๆคนมันเลยค้านดะ ทั้งๆที่ข้อดีมีเยอะกว่ามาก คิดแต่จะเอาของที่มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสีย มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว โครงการต่างๆมันเลยไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดซะทีไง เพราะสิ่งที่ไม่มีข้อเสียก็คือการที่อยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลย จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 02:30:29

ความคิดเห็นที่ 21 เพราะคนไทยมีนิสัยชอบดูถูกคนอื่น ดูถูกมันหมด ตั้งแต่คนบ้านข้าง ๆ ยันญาติ ๆ เพื่อน ๆ จนระดับประเทศ ชอบคิดว่าตัวเองดีเลิศประเสริษฐศรีที่สุดในจักรวาล จากคุณ : เศียรนาคา ... เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 06:43:27 A:125.26.45.191 X: TicketID:255126

ความคิดเห็นที่ 22 ต้องซาบซึ้งเท่านั้นสินะ ห้ามคิดต่าง ขนาดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ ยังกำหนดให้มีฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านเลย ขนาดรถยนต์ ก็ยังต้องมีเบรค ยิ่งเครื่องยนต์แรงเท่าไหร่ เบรคยิ่งต้องทรงประสิทธิภาพมากเท่านั้น และทั้งนี้ทั้งนั้น ฝ่ายค้านเขาก็ค้านตามหน้าที่ ส่วนฝ่ายบริหารจะตัดสินใจทำอะไร ก็ทำได้ตามหน้าที่เช่นกัน แบ่งแยกหน้าที่กันชัดเจน อย่างกรณีนาซ่าขอใช้อู่ตะเภาเนี่ย ต่อให้ฝ่ายค้านค้านจนปากฉีกถึงรูหู แต่ถ้ารัฐบาลจะอนุมัติเสียอย่าง ใครจะไปทำอะไรได้ อำนาจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี แค่กระดิกนิ้วเซ็นหนังสือแกร๊กเดียวก็เรียบร้อย และที่สำคัญ ไม่มีใครไปดึงมือนายกฯเอาไว้ไม่ให้ลงนามสักกะหน่อย ทำไมไม่ไปตั้งคำถามนายกฯล่ะว่า ทำไมไม่เซ็น จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 07:10:35

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพโดยรวมมันออกมาอย่างนี้นะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลักษณะคนพาล นิมิตคนพาล ความ ประพฤติไม่ขาดสายของคนพาล ๓ ประการนี้ ๓ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพาลในโลกนี้ ย่อมเป็นผู้คิดเรื่องที่ชั่ว ๑ พูดคำพูดที่ชั่ว ๑ทำกรรมที่ชั่ว ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าคนพาลจักไม่เป็นคนคิดเรื่องที่คิดชั่ว ๑ พูดคำที่พูดชั่ว ๑ ทำกรรมที่ทำชั่ว ๑ เช่นนั้น บัณฑิตจะพึงรู้เขาด้วยเหตุอย่างไรว่า ผู้นี้เป็นคนพาล ไม่ใช่คนดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะคนพาลย่อมเป็นผู้คิดเรื่องที่คิดชั่ว พูดคำที่พูดชั่ว ทำกรรมที่ทำชั่ว ฉะนั้น บัณฑิตจึงรู้จักเขาว่า ผู้นี้เป็นคนพาล ไม่ใช่คนดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลักษณะคนพาล นิมิตคนพาล ความประพฤติไม่ขาดสายของคนพาล ๓ ประการนี้แล จากคุณ : จริงๆ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 07:23:19 A:223.205.46.239 X: TicketID:351704

ความคิดเห็นที่ 24 อยากโหวต 2 กับ 4 เพราะมักจะมาด้วยกันกับคนไทย คนไทยติดคำนี้ครับ "เขา,พี่,ป้า,ลุง,เพื่อน,แฟนเพื่อน,เพื่อนของเพื่อน,พ่อเพื่อน,แม่เพื่อน อื่นๆ...... บอกมาว่า" ซึ่งผมเกลียดคำนี้มาก ใครมาพูด ผมมักจะตอกกลับไปว่า ถ้าเมิงไม่ได้เจอกับตัวเองมา ไม่ต้องมาบอกมาว่า กูเบื่อขี้เกียจจะฟัง จากคุณ : oh_loma เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 07:40:12

ความคิดเห็นที่ 25 การขาดหลักตรรกะในการวิเคราะห์เหตุผล อิงฝ่ายที่ตนชื่นชอบเป็นหลักเสมอ 2ข้อนี้เป็นข้อเดียวกันครับ พวกนี้เห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ต้องหาเรื่องทำลาย เชื่อมะถ้าแกนนำเขาพูดเขาจะเชื่อทั้งหมดโดยที่ไม่หาข้อมูลเพิ่มเลย เช่น มันเชื่อเรื่องสติ๊กเกอร์ 2-3 แผ่นในตู้โทรศัพย์เป็นเรื่องจริง การกระทำเดียวกันถ้าออกจากฝ่ายเดียวกันไม่ผิดแต่ถ้าเป็นอีกฝ่ายขายชาติทันที(เรื่องเขาพระวิหาร) พวกนี้โง่ขนาดไม่ยอมไปหาข้อมูลเชื่อกระทั่งขายหุ้นต้องเสียภาษีนะที่จ่าย สารพัดเรื่องปัญญาอ่อน อย่างเรื่องของแพงบอกตรงๆร้านไหนแพงก็ไปซื้อร้านอื่น ตอนนี้ร้านที่ขายแพงๆเจ็งหมดลูกค้าไม่เข้าสมน้ำหน้าพวกชอบเอาเปรียบ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 07:50:40

ความคิดเห็นที่ 26 เขาค้านก็ชี้แจงให้ได้สิ ถ้าชี้แจงไม่ได้แสดงว่าคุณก็ยังไม่เครียร์เหมือนกันแหละ.... อ้อ.. แล้วแบบที่บอกมั่วๆไปก่อนเนี่ย เห็นเจ๊งมาหลายรายแล้ว... คนเจ๊งมันก็ไม่พูด คนพูดมันก็ยังไม่เจ๊ง... จากคุณ : เสมา เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 08:29:36 A:125.24.49.32 X: TicketID:348353

ความคิดเห็นที่ 27 คิดไม่ตรงกันก็โต้แย้งกันสิครับ แต่โต้แย้งต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและเหตุผลตรรกะ ถ้าไม่งั้นแล้ว มันก็จะกลายเป็นทะเลาะกัน ยิ่งถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ใช้เหตุผล มันก็ไม่มีวันหาจุดลงตัวอย่างสมบูรณ์ได้ จะต้องเป็นการ"กด"กันอย่างเดียว ค้านน่ะค้านได้ แต่ต้องตั้งอยู่บนหลักฐานด้วย ค้านมั่วๆแบบว่า กลัวเขามาตั้งฐานICBMงี้ มันเกินไปไหม บางคนบอกได้ยินมา เขาว่ามา คนดังเขาพูด ก็เชื่อตามๆกันโดยไม่เรียกร้องหาหลักฐานสนับสนุนอะไรเลย จะให้ใครเขาชี้แจงเรื่องไร้สาระแบบนี้ทุกเรื่องล่ะครับ? แล้วมันจะเป็นการพูดคุยแบบมีเหตุผลได้อย่างไร? ป.ล. เบรคก็ต้องใช้อย่างเหมาะสม กดเบรคมั่วๆมากไป เบรคร้อนจนไหม้ พากันลงเหวแทนล่ะครับ จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 08:36:25

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่าพวกฝรั่งนี่ค้าน  มากกว่าเราอีกนะ    ผมว่าประเทศไทยยังค้านน้อยไปด้วยซ้ำ  ก้อย่างที่บนๆบอก   เขาถามหรือค้านมา ก็ตอบเขาให้ได้  ที่พวกเรามาสุมหัวกันในหว้ากอก้เพราะชอบค้านไม่ใช่เหรอ จากคุณ : precham เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 08:39:58

ความคิดเห็นที่ 29 ก็ขนาดไอ้คนที่เริ่มโครงการ เป็นคนเซ็นอนุมัติ มันยังออกมาค้านกับเค้า คิดดูเองก็แล้วกัน เล่นแต่การเมืองไม่สนใจผลประโยชน์ของชาติ พวกเห็นแก่ตัว จากคุณ : false เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 08:40:47

ความคิดเห็นที่ 30 สุภาษิตไทยที่บอกว่า  "จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน" มีมานาน แต่ก็สะท้อนนิสัยคนไทยได้เสมอมา จากคุณ : คนพิจิตร เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 09:00:12

ความคิดเห็นที่ 31 ทุกข้อที่กล่าวมา เกิดจากความไม่มั่นคง หรือการขาดสิ่งจำเป็นพื้นฐาน ในการดำรงชีวิตประจำวัน เมื่อเจอเหตุการณ์จึงเข้าโหมดป้องกันตัวเองเอาใว้ก่อน คือไม่ๆๆ ทำให้นำพาและชักจูงได้ง่าย จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 09:06:25 A:1.4.230.97 X: TicketID:208572

ความคิดเห็นที่ 32 กลัวการเปลี่ยนแปลง การเคารพผู้อาวุโส ในน้ำมีปลาในนามีข้าว เลยไม่กระตือรือร้นในการหาอะไรใหม่ๆ จากคุณ : +One Side Love+ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 09:29:56

ความคิดเห็นที่ 33 เลือกข้อ อื่นๆ ค่ะ   เข้ากับสุภาษิตไทยที่ว่า "มือไม่พาย ... เอาเท้าราน้ำ" ค่ะ จากคุณ : K@ni เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 09:35:47

ความคิดเห็นที่ 34 ความรู้สึกหวาดระแวง ความรู้สึกไม่ปลอดภัย ความขี้ขลาดตาขาว ความขี้เกียจ ความมักง่าย ความไร้ความต้องการรับผิดชอบ ความผลักภาระให้พ้นตัว ความอยู่เฉยๆสบายกว่า จากคุณ : เทพสิงสู่ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:02:47 A:124.122.132.154 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 35 ประเทศไทยยังต้องพัฒนาอีกเยอะในเรื่อง ระบบความคิด และความรักชาติอย่างถูกต้อง หากเราก้าวล้ำตรงนี้ไปไม่ได้อย่าคิดไปเป็นประเทศพัฒนาเลย ประชากรยังด้อยพัฒนาทางด้านความคิดขนาดนี้ ผมชอบความรักชาติของญี่ปุ่นตรงที่ ทุกคนสามารถที่จะยอมตายเพื่อชาติได้ ตั้งแต่ฝูงบินกาิมิกาเซ่ ซามูไรฆ่าตัวตายเพื่อรักษาเกียรติ แต่พี่ไทยแค่ในความคิดเห็นในเว็บนี้การตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใกล้บ้านเป็นประโยชน์ของประเทศยังเกี่ยงใ้ห้ไปตั้งไกลๆบ้านตนเลย ประเทศไทยเราห่วงตัวเองก่อนที่จะห่วงประเทศชาติเป็นหลัก เรื่องความคิดเกี่ยวกับประโยชน์ส่วนรวมต่ำมาก จากคุณ : เป็นไปไม่ได้หรือไม่ได้ทำ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:08:41

ความคิดเห็นที่ 36 รับการค้านไม่ได้ เรียกว่าเผด็จการครับ ทางออกก็มีแต่ไม่ได้โลกสวยอย่างที่คิด ถ้าจะเอาปชตฺแบบไทยๆ. บอกได้เลย ชาตินี้ไม่มีทางออกทีดีหรอก มีแต่ยักแย่ยักยัน หยวนๆกันไปหมด จะได้แต่ทางออกทีเลวน้อยที่สุด ผู้นำที่ดีที่ฉลาดกล้าตัดสินใจ และกล้ารับผลที่ตัดสินใจนะแหล่ะแก้ได้ อย่างเรื่องนาซ่าถ้ามั่นใจดีจริงไม่มีอะไรแฝง ทำเลยครับ แต่ดีฝ่ายค้านก็เสีย แต่ถ้ามันหมกอะไรไว้ คนตัดสินใจต้องรับผิดชอบ ปชช. ต้องยอมรับผลเลือกผู้นำิด แต่อย่าบอกว่าค้านจนนั่นโน่นนี่ ตั้งกระทู้เอาใจตัวเองไปหน่อย ค้านแล้วฟังคือสุดยอดเหตุผล ทางออกง่ายๆไม่มีหรอก ชอบอ้างเอาแบบสิงคโปร ญี่ปึ่นสิ ทำเลย เจริญ แต่คนไทยรับได้เหรอกับการถูกปกครองแบบไม่ให้ค้าน แค่นี้ยังเรียกร้องเสรีภาพจะเป็นจะตาย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ กับ ไม่เชื่อกุคือล้าหลัง มันก็พอกัน หลายคำตอบที่มีคนบอกให้ต่อไปคิดได้เองแล้วมั้ง จากคุณ : ___ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:27:42 A:27.130.50.174 X: TicketID:360677

ความคิดเห็นที่ 37 เพราะประเทศเรามีคนจากหลายเชื้อช่าติมั้ง ทั้ง จีน ลาว มอญ เขมร พม่า ช่วงตอนสงคราม ก็กวาดต้อนกันไป กวาดต้อนกันมา ออกลูกหลานเต็มบ้าน พอสงครามสงบ ก็ตั้งรกรากบนนี้ จบข่าว จากคุณ : สายน้ำที่ไหลกลับ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:27:59 A:101.78.11.193 X: TicketID:276688

ความคิดเห็นที่ 38 สมเพศพวกค้านจริงๆก็ลากไปการมืองชัดๆ ตอนแรกบอกเอาละครับพี่น้องเราจะเสียดินแดนกันอีกแล้วก่อม๊อบ ขายชาติๆๆๆๆ พอรู้ว่าเริ่มจากรัฐบาลตัวเองก็เปลี่ยนไปเป็นเรื่อง HAARP มันจะสร้างภัยพิบัติให้ภูมิภาคแล้วพี่น้อง พอเขาจับได้อีกมันก็บอกไม่ได้ห้ามแค่อยากให้มันถุกต้อง เอ้อ...เจ้าพวกนี้พลิกลิ้นกันรายวันไม่อายรึไง ดีเข้าตัวชั่วคนอื่นนี่ถนัดนัก จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:33:05

ความคิดเห็นที่ 39 มันไม่มีอะไรให้ชี้แจง แล้วจะเอาอะไรมาชี้แจง บอกว่ามุบมิบ มุบมิบ ก็มันไม่ได้มุบมิบ  จะเอาอะไรมาชี้แจง ...(ต้องมีคนคิดว่า..แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่มุบมิบ...).........นั่นแหละครับ ข้อ 2 จากคุณ : Sudjarid_sai เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:33:47

ความคิดเห็นที่ 40 คนไทยเป็น โรค ดังนี้ 1. คนไทย โรคกลัวการเปลี่ยนแปลง คิดว่า ของเก่าดีแล้ว จะ รับของใหม่มาทำไม เพื่อมันไม่ดีเท่าของเก่า 2. คนไทย โรคหวงอำนาจ คนไทยหลายกลุ่ม พยายามรักษาไว้ซึ่งอำนาจของตัวเอง เพื่อป้องกันการสูญเสียอำนาจ ควรทำให้กลัวจะได้ไม่กล้าหือ 3. คนไทย โรคดัดจริต ไม่ยอมรับความจริง โดยข้ออ้างเราเป็นเมืองพุทธ 4. คนไทย หลายคน เชื่อข่าวลือง่าย โดยส่วนใหญ่เกิดจาก ความรัก แบบ ไม่ลืมหูลืมตา และ เกลียดแบบไม่ลืมหูลืมตา จากคุณ : envieco1 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:49:03

ความคิดเห็นที่ 41 น่าะมาจากระบบการศึกษาของไทยที่สอนให้คนไทยเป็นแบบนี้ จากคุณ : jengchai เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:16:13

ความคิดเห็นที่ 42 ฮ่ะๆ แน่ใจรึว่าไม่มีอะไรมุมมิบเบื้องหลัง ถ้างั้น ทำไมรัฐบาลถึงไม่อนุมัติโครงการไปล่ะ ติดขัดอะไรตรงไหน ทหารก็ไฟเขียว กลาโหมก็ดันเต็มตัว กระทรวงวิทย์ก็โอเค กระทรวงต่างประเทศก็รับรอง นายกฯเซ็นลงนามแกร๊กเดียวก็เรียบร้อย ถ้าอยากรู้เหตุผลจริงๆ ก็ต้องไปถามนายกฯนั่นแหละว่าทำไมถึงไม่ลงนาม จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:03:39

ความคิดเห็นที่ 43 อคติ จากคุณ : rbko เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:40:11

ความคิดเห็นที่ 44 น้องแตง ไม่รู้ไอ้บ้าตัวไหนบอกแลกวีซ่าเข้าอเมริกาอะจ๊ะ เดี๋ยวขายชาติ เดี๋ยวเสียดินแดน เดี๋ยวขนของมาแล้ว เดี๋ยวเครื่องสร้างภัยพิบัติ มาถ่วงความเจริญแบบนี้เขาก็ดึงเรื่องซิจ๊ะ พอเขาดึงเรื่องก็บอกทำไมไม่ลงนาม พี่งงตั้งแต่ตอนขายชาติแล้วถ้าเซ็นพวกน้องก็ว่าเสียดินแดนแต่ถ้าไม่เซ็นก็บอกเสียประโยชน์รู้ไหมว่าโครงการนี้เริ่ม จากสมัยอภิสิทย์พี่ยอมรับในเรื่องวาทการการเมืองของฝ่ายน้องจริงๆ ป.ล.พี่ไม่ได้โกรธน้องแตงนะเพราะซาดิสแบบนี้พี่ชอบ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:11:23

ความคิดเห็นที่ 45 เพราะมีคนอย่างน้องแตง ที่จ้องจะไปฟ้องศาล หาว่าขายชาติ แล้วมันจะกลายเป็นประเด็น แล้วก็เข้าทางคนบางกลุ่มใง จากคุณ : เด็กนอกบ้าน เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:13:07

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณทุกๆคห.ครับ สิ่งที่ผมยกมา ไม่ต้องการให้เป็นประเด็น ใครแพ้ ใครชนะ ครับ แต่ต้องการให้การค้าน อยู่ในกรอบ ตรรกะ เหตุผล กันบ้าง ทุกสิ่งบนโลก มีทั้งข้อดี และข้อเสีย ทั้งนั้น ถ้าไม่ยอมรับข้อเสียกันเลย ข้อดีก็ไม่ได้รับเช่นกัน เหมือนมีคนเอาทองแท่ง หนัก 50 บาทมาให้คุณ ถ้าคุณจะมองเป็นข้อเสียก็ได้ ว่ามันหนัก มาให้แบกทำไม แน่นอน ถ้าคิดแบบนี้ เมืองไทยไม่พัฒนาแน่ คนมีเหตุผล ค้านกัน ยกข้อดีข้อเสียมาคุยกัน เพื่อหาผลลัพท์ร่วมกัน มิได้ต้องการชัยชนะฝ่ายตน แต่ต้องการข้อสรุปที่ปฏิบัติได้จริงร่วมกัน เปรียบเหมือนเส้น2 เส้น  ที่ค่อยๆมาบรรจบเป็นจุดเดียว นั่นคือ win win คนไร้เหตุผล ค้านกัน ต้องการเพียงแค่ชนะฝ่ายตน ไร้ซึ่งผลลัพท์ร่วมกัน ถ้ามีคนเยี่ยงนี้ โครงการใดๆ ก็คงเป็นหมันถาวร เป็นดั่งเส้นขนาน ที่ไม่มีทางบรรจบกัน นั่นคือ lose lose คนเก่งที่สุด อาจไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง แต่สามารถทำให้ทุกเรื่อง  เกิดขึ้นจริงได้ ที่ไม่ใช่แค่ในกระดาษ จากคุณ : มาตรฐานชายไทย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:51:58

ความคิดเห็นที่ 47 ใครเห็นด้วยก็สนับสนุน  ใครไม่เห็นด้วยก็ค้านมีแค่นั้น และัทุกเรื่องมันก็ต้องมีคนเห็นด้วย กับคนไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:39:31

ความคิดเห็นที่ 48 การขาดสติในการคิดถึงเหตุผล และการบูชาฝ่ายที่ตอนชอบมากเป็นพิเศษ 2ข้อนี้เป็นข้อเดียวกันครับ พวกนี้มักจะบูชาคนบางคนเป็นพิเศษครับ ถึงแม้จะมีหลักฐานหรือว่ารู้กันทุกคนว่าผิดจริง แต่ก็ยังบูชาบ้าบอไปตามความปญอ.ของเขา เช่น เชื่อฝังหัวว่าอดีตนายกฯคนนึงที่ตอนนี้ร่อนเร่อยู่ต่างแดนมันดี มันไม่เคยขายชาติหรือโกงอะไรทำนองนี้ หรือการกระทำอะไรจากพวกฝั่งเดียวกับของเขาเป็นเรื่องผิดหรือรุนแรงเพียงใดก็ทำเป็นมองไม่เห็น หรือคิดว่าเป็นเรื่องปรกติ พวกนี้โง่ขนาดที่คิดว่าขายหุ้นก็ไม่ต้องเสียภาษีส่วนบุคคล ซึ่งจริงๆแล้วคนเล่นหุ้นทุกคนรู้ว่าซื้อขายหุ้นเสียภาษีนิดหน่อย .05% แต่ก็ต้องเสียภาษีส่วนบุคคลด้วย แต่ก็...เอาวะ คนบูชาชื่นชอบ แกล้งมึนก็ได้ ส่วนเรื่องเขาพระวิหารนี่ ใครเชื่อว่าอดีตนายกฯคนนั้นไม่มีส่วนรู้เห็นกับการขายชาติเลยนี่ก็ต้องบอกว่า อีแอบโคตรตะแบง เค้าสนิทกันขนาดไหน........หนูไม่รู้ สส.พรรคเค้าไปกราบไข่ฮุนเซ็น.........มีด้วยเหยอ สารพัดเรื่องปัญญาอ่อนที่ตะแบง:-)ทำเป็นไม่เข้าใจ ไม่รู้เหมือนกันว่ามาจาก ความโง่ส่วนตัวสมบูรณ์แบบ หรือมีอะไรบังตา จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:36:01 A:14.207.217.75 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 49 ข้อ2 จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:48:16

ความคิดเห็นที่ 50 เฮ้ยสลิ่มมันโยงไปเรื่องทักสินขายหุ้นได้ไงวะ ไปบอกพรรคพวกเพื่อนฟูงสลิ่มนะว่าขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี ต่อไปไม่ต้องจ่ายนะเสียภาษีตอนปันผลพออย่าโง่ อ้อ...ศาลโลกตัดสินเรื่องเขาพระวิหารเป้นของกัมพูชานานแล้วเฟ้ยแถม ปชป.ไม่เคยค้านแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ที่กัมพูชาอ้างสิทย์นับ10ปีด้วยเขาลุ้นกันแทบตายตอนนี้ถ้าขึ้นศาลโลกอีกรอบนอกจาก ปชป.จะทำเสียพื้นที่เขาพระวิหารแล้ว ยังจะเสียพื้นที่ 3 จังหวัดด้วย ป.ล.แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับนาซ่าตรงไหนวะ โง่กินหญ้าไปไป๊ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:02:04

ความคิดเห็นที่ 51 เราว่า พวกรายการวิเคราะห์ข่าว ดูมากไปก็ไม่ดี แต่ถ้าดูเพื่อฟังหลักคิดของเค้าก็โอเค ดูแต่ไม่คิดตามอะไรเลย มันไม่ดี โดนเค้าครอบงำหมด เวลาเราคุยกะใครก็ตาม เราจะใส่เป็นคำถามปลายเปิด เพื่อให้คนฟังเอาไปคิดต่อ จะไม่พยายามใส่ความคิดลงไป แค่จะบอกว่า ลองมองอีกแง่นึง แบบนี้ๆ มันเป็นการกระตุ้นให้คนฟัง เอากลับไปคิดต่อด้วย ไม่ใช่ฟังแล้วเชื่อไปหมด ยิ่งยุคนี้มันยุคข้อมูลข่าวสาร เต็มไปหมด ถ้าไม่ฝึกคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง เราจะกลายเป็นพวก ทำอะไร ทำตามกัน จากคุณ : =U_U= PoRpLe เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:10:21

ความคิดเห็นที่ 52 #48 ใช่ครับ คุณเป็นตัวอย่างของการเชื่ออะไรโดยไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมาก :P ข้ออ้างว่าใครไม่รู้คือตะแบง แต่ก็ไม่สามารถหาหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันอะไรมาพูดได้ นอกจากท่องจำที่แกนนำพูดมั่วๆบอกมาเล่าต่อ เรื่องขายหุ้น เอาเรื่องเสียภาษีมาจากไหน? ถ้าขายในตลาดมันไม่เสียภาษีอยู่แล้ว ไม่ใช่ค่าธรรมเนียมที่โบรกฯเก็บนะครับ(คนเคยเล่นจริงมันคงไม่สับสนได้ขนาดนั้น) ส่วนปันผลก็เสียภาษีเงินได้ตามปกติอยู่แล้วนี่นา แต่ประเด็นที่เขาเป็นคดีกัน คือมีหุ้นบางส่วนที่อาจเป็นการขายนอกตลาด(ซึ่งจริงๆแล้วเป็นการโอนหุ้นให้ลูก ไม่ใช่ขายคนนอก)ประเด็นนี้ เขายังตีความกันไม่จบเลย อย่าเพิ่งบ้าเรื่องภาษี 0.05%มาจากไหนเลยครับ เรื่องผลประโยชน์ระหว่างประเทศ มองกลับกัน มันก็ต้องเจรจาทั้งสองฝ่าย แบบJDA ไทยมาเลย์นั่นไง จะไปยึดดื้อๆเป็นของตัวเองโดยไม่สนใจอะไร คงอยู่คนเดียวในโลกล่ะครับ ที่สำคัญ พี่มาร์คก็แอบส่งเทพเทือกไปเจรจาลับด้วยเช่นกัน ไม่เห็นมีใครว่า? โดยส่วนตัวคิดว่ารบ.สมัยก่อนเขาเจรจากับตปท.ได้ win-win มาตลอดนะ ไม่ใช่ลุกไล่ใครต้องไปแลกของ เพื่อแลกกับการไล่ล่าทักษิณแบบบางสมัย นี่เป็นตัวอย่างของการค้านแบบไร้เหตุผลที่ชัดเจนดีครับ งงไปเลย เสียภาษีหุ้นบ้าอะไร ท่องๆกันมาเนี่ย เคยเล่นหุ้นจริงๆบ้างไหม? ป.ล. ไม่เก็บค่าเช่าปราสาทแล้วหรือ ผมจำได้ พี่มาร์คบอกว่าเราต้องเก็บค่าเช่าที่ดินใต้ปราสาท เพราะตัวปราสาทเป็นของเขา แต่ที่ดินเป็นของเรา ใช่ไม่ใช่พี่น้อง?!?!?!? แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 21:08:23 จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 21:03:12

ความคิดเห็นที่ 53 มันเป็นการเมือง! จากคุณ : shenghou เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:38:03

ความคิดเห็นที่ 54 ตาม 52 กำลังงงเลยครับไม่รู้มันไปโดนหลอกแบบไหนมา จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 02:15:22

ความคิดเห็นที่ 55 #50 เฮ้ย เวย์งี่บ้าป่าวนี่ กลับไปดู #25 ก่อนเด่ะ ตัวเองเป็นคนพูดขายหุ้นไม่ต้องเสียภาษี พอเอามาขยายความให้คุณเลิกโง่เสรือกแกล้งทำมึน ลองเอานี่ไปดูนะ ไม่ใช่ของแมเนเจอร์ เดี๋ยวฟายแดงโวยอีก การกลับมา ของระบอบทักษิณ http://www.thaipost.net/node/43386 ทำซะซับซ้อนปานนั้น ไอ้เรื่องศาลโลกตัดสินเรื่องเขาพระวิหารเป้นของกัมพูชานั่นใครเค้าก็รู้ตั้งนานแล้ว เอามาขยาขี้เท่อทำไม เค้าห่วงเรื่องแผ่นดินไทย 4.6 ตร.กม.ที่ทักกี้ยกให้เขมรแลกผลประโยชน์ทางทะเลโว้ย โง่จริงหรือแกล้งโง่วะ หรือทั้งสองอย่าง http://www.108acc.com/articles/645477/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AE%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.html ถ้าเขมรได้แผ่นดินไทย 4.6 ตร.กม. ลากเส้นผ่านเกาะกูด เขมรจะได้ 80% เมื่อไรเวย์งี่จะเลิกตะแบงหรือฉลาดขึ้นซะที เอ กรูพูดตรงไหนเกี่ยวกะนาซาวะ มรึงนั่นแหละควรไปกินหญ้ามากกว่า จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 17:24:35 A:14.207.239.64 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 56 #52 ถ้าคุณเชื่อว่าขายหุ้นไม่เสียภาษี แล้วทำไมต้องมากและซับซ้อนอย่างนี้ การกลับมา ของระบอบทักษิณ http://www.thaipost.net/node/43386 ลองอ่านข้อ 2 แต่ถ้าไม่อยากอ่านให้แสลงใจ ผมย่อมาให้ "เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีข้างต้น จึงมีความพยายามเลี่ยงภาษีโดยทำเป็นให้แอมเพิลริชขายหุ้นชิน 11% นี้ให้แก่กรรมการบริษัท คือ โอ๊ค–เอม ในราคาทุนหุ้นละ 1 บาทก่อน (ขายราคานี้ แอมเพิลริชไม่มีกำไร จึงไม่เกิดภาษี) จากนั้น ในวันรุ่งขึ้นจึงใช้ชื่อ โอ๊ค–เอมขายหุ้น 11% นี้ให้เทมาเส็กพร้อมหุ้นอื่นๆ ในคราวเดียวกันในราคาหุ้นละ 49.25 บาท เป็นเงิน 7.3 หมื่นล้านบาท ได้กำไร 7 หมื่นล้านบาทโดยไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียวในที่สุด " เป็นไงครับ ผมว่าคุณต่างหากตัวอย่างของการเชื่ออะไรโดยไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมาก หรือคุณอาจทำเป็นไม่เห็นเหมือนเวย์งี่อีกคน เรื่องผลประโยชน์ระหว่างประเทศ คุณคิดว่าผู้นำประเทศในขณะนั้นควรเห็นแก่ประเทศหรือตัวเองครับ อย่าพูดยังกับคุณมีเหตุผลมากมายนักเลย ดูสไตล์การตอบของคุณผมก็รู้ครับว่าคุณอยู่ข้างไหน นี่เป็นการเข้าข้างแบบไร้เหตุผลที่ชัดเจนมาก จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 17:25:57 A:14.207.239.64 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 57 #56 แล้วภาษีหุ้น 0.05% ของคุณอยู่ที่ไหน? พ่นออกมาใน #48 แกล้งมองไม่เห็นหรือครับ ดีนะเป็นบัตรผ่าน แก้ไขข้อความไม่ได้ ยอมรับเถอะว่ามั่วกฎหมายเพื่อโจมตีเขามั่วๆ แหมมาอ้างว่าคนเล่นหุ้นเขารู้กัน เรือ่งการแปลงสารหุ้นยังเป็นข้อกังขากันอยู่ครับ แต่เรื่องนี้อยู่บนพื้นความเชื่อที่ว่า ทักษิณใช้นอมินีขายหุ้นให้ลูกตัวเอง ซึ่งถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ก็จะไม่ผิดเลย เพราะamplerich ขายหุ้นให้กรรมการตัวเองในราคาทุน เป็นการโยกย้ายหุ้นที่ทำได้ตามปกติครับ ไม่จำเป็นต้องเสียภาษี เพราะบ.ตั้งอยู่บนประเทศที่ยกเว้นภาษีส่วนนี้ ซึ่งตรงนี่้แหละ ฝ่ายโจมตี ตีขลุมว่า ทักษิณเป็นเจ้่าของหุ้นที่แท้จริงตะหาก และขายหุ้นให้ลูกตัวเองในราคาต่ำกว่าราคาตลาด เขาเลยจะพยายามหาว่าลูกเขาเลี่ยงภาษีรายได้ของประเทศไทย ที่ซื้อราคาหุ้นได้ต่ำกว่าราคาตลาด(แต่ไม่ใช่ 0.05%ที่คุณเพ้อเจ้อมานะครับ) แต่สุดท้ายก็ยังพิสูจน์ไม่ได้อยู่ดี แต่ใช้คำว่าเชื่อได้ว่ามาตัดสิน แล้วยึดทรัพย์เอามั่วๆ และคำถามอีกอันก็คือ ถ้าทักษิณจะยกหุ้นให้ลูกตัวเองจริงๆแต่แรก มันจะผิดตรงไหนได้ล่ะครับ? ลูกอายุบรรลุพ้นนิติภาวะหมดแล้ว ถือว่าขาดจากกันแล้ว ถ้าจะบอกว่าไม่เชื่อ นักการเมืองทุกคนก็ผิดเหมือนกันหมดล่ะครับ เพราะเขาโอนทรัพย์สินให้ลูกหรือญาติกันทั้งนั้น เอาแค่หัวหน้าพรรคเก่าแก่ ที่สร้างภาพว่าสมถะไม่ร่ำรวย ซื้อสัตย์สุจริต ขนาดบ้านยังต้องอาศัยเช่าจากเพื่อนฟรีๆเพราะเพื่อนสงสาร แต่มีลูกชายซื้อรถสปอร์ตด้วยเงินสดคันละเกือบสิบล้านบาทมาอวดสาวได้ คุณคิดว่าลูกเค้าที่อายุเพิ่ง20กว่าๆ หาเงินเองเกือบสิบล้านบาทได้แต่แรกจริงๆ(ยังไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอันด้วยนะ) หรือว่าได้รับผลประโยชน์จากเงินของพ่อของเขา ที่ซุกฝากคนอื่น? (ตัวพ่อนี่แสดงบัญชีส่วนตัวจ๊นจน) ส่วนเจรจาผลประโยชน์ มันก็ต้องให้ประเทศไทยได้ แต่จะได้ฝ่ายเดียว ก็ต้องก่อสงครามไงครับ อย่าลืมว่าพื้นที่ทับซ้อน มันทับซ้อน เพราะแผนที่เราไม่ตรงกัน จะอ้างว่าเราไม่ยอมรับก็ไม่ได้อีก เพราะเขาใช้เป็นหลักฐานในศาลโลกยอมรับมาแล้ว ศาลโลกบอกว่า มีการลงชื่อของทูตไทยในสมัยนั้น และมีการยื่นแผนที่นี้ในการประชุมระดับสากลอีกสองครั้ง โดยไม่มีการทักท้วงจากฝ่ายไทย มองในแง่ไหน เราก็เสียเปรียบทางด้านหลักฐานเต็มประตูครับ เรื่องนี้ถือเป็นกฎหมายปิดปาก ให้เราแย้งไม่ได้ คนโง่เท่านั้นที่จะดึงเรื่องให้วุ่นวายใหญ่โต จนต้องขึ้นเวทีนานาชาติ ก่อนหน้านี้ทั้ง 40กว่าปี เขาเลยพยายามใช้วิธีเจรจานอกรอบ เพื่อให้ไทยขอส่วนแบ่งได้ด้วย เพราะเพื่อนบ้านเองยังไม่พร้อมที่จะสำรวจเอง(มาร์คยังส่งสุเทพไปเจรจาเรื่องนี้เลยนะ) แต่มามีคนตีโง่ ยกขึ้นมาเป็นประเด็น จนเกิดสงครามย่อยๆปะทะกัน จนเขาโวยกับศาลโลกอีกหน สุดท้ายมีโอกาสสูงที่ไทยจะสูญเสียพื้นที่ทับซ้อนอย่างถาวร เพราะความคลั่งชาติแบบโง่ๆนี่แหละ "ดูสไตล์การตอบของคุณผมก็รู้ครับว่าคุณอยู่ข้างไหน นี่เป็นการเข้าข้างแบบไร้เหตุผลที่ชัดเจนมาก" กฎหมายพื้นฐานคุึณเองยังไม่รู้เลย เฮ้อ ... จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 20:12:06

ความคิดเห็นที่ 58 ฟายมาสเตอร์จริงๆ เล่นเอาซะท้องแข็ง เอาเลยครับเชื่อแบบนั้นเลยครับ  สลิ่มเท่านั้นที่คิดได้ เรียนเศรษศาสตร์มาตั้งหลายตัวเพิ่งเจอเรื่องแบบนี้ ไปเรียนกฏหมายเบื้องต้น เศรษศาสตร์ทั่วไปมาก่อนไป๊ค่อยมาคุยเรื่องหุ้น สลิ่มนี่โง่แบบนี้ทุกคนรึเปล่าเนี่ย 55555+ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 22:33:35

ความคิดเห็นที่ 59 #57 การแปลงสารหุ้นยังเป็นข้อกังขาหรือครับ ต้องทำถึงขนาดไหนคร้าบคุณถึงเชื่อ แต่อย่างคุณถึงแม้จะมีหลักฐานยังไงคุณคงไม่สนใจมั้ง ผมว่าต่อให้ทักกี้มาสารภาพคุณคงยังอวยกันแบบด้านๆต่อไปมั้ง ถามหน่อย - เหลี่ยมใช้เงิน 1 ดอลลาร์ จัดตั้งบริษัทเล่นหุ้นขึ้น 1 บริษัทตามกฎหมายเกาะบริติชเวอร์จิ้น ชื่อบริษัท “แอมเพิลริช” จริงไหม - หุ้น 11% ที่ถือโดยแอมเพิลริชนั้น ต้องเสียภาษีกว่าสองพันล้านบาท เพราะเป็นการขายโดยนิติบุคคล จริงไหม - กรรมการบริษัท คือ โอ๊ค–เอม ในราคาทุนหุ้นละ 1 บาทก่อน (ขายราคานี้ แอมเพิลริชไม่มีกำไร จึงไม่เกิดภาษี) จากนั้น ในวันรุ่งขึ้นจึงใช้ชื่อ โอ๊ค–เอมขายหุ้น 11% นี้ให้เทมาเส็กพร้อมหุ้นอื่นๆ ในคราวเดียวกันในราคาหุ้นละ 49.25 บาท เป็นเงิน 7.3 หมื่นล้านบาท ได้กำไร 7 หมื่นล้านบาทโดยไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว จริงไหม ถ้าไม่เสียภาษีจริงทำไมต้องทำอย่างงี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นจริง แต่ก็นะบางตัวบางพวกก็อยากตะแบงทำเป็นไม่เห็น บอกพิศูจน์ไม่ได้ ยกหุ้นให้ลูกได้เด้ แต่ในฐานะผู้นำประเทศควรหมกเม็ดอย่างนี้ไหม เชื่อว่าฝั่งแดงคงบอกเหมือนกันว่า "ได้" (คือถึงผิดแต่ก็แกล้งทำมึน) สุดยอดมากครับ คุณคงเป็นอีกคนที่อยากให้เขมรได้ผลประโยชน์สูงสุดเลยมั้ง พูดมาได้ไงเราเสียเปรียบทางด้านหลักฐานเต็มประตู เราไม่เสียเปรียบหรอกถ้าเหลี่ยมไม่ยกดินแดน 4.6 ตร.กม.ไปให้เขมร ให้นพดลคนขายชาติลูกน้องมันลุกลี้ลุกลนไปเซ็นสัญญาให้ไทยเสียเปรียบ http://www.udon108.com/board/index.php?topic=16447.0 ก็คงมีแต่คนโง่ๆๆๆมากที่สุดแหละที่คิดว่าคนอื่นที่ไม่ใช่เหลี่ยมเป็นสาเหตุการสูญเสียพื้นที่ทับซ้อน เรื่องสงครามย่อยๆปะทะกัน จนเขาโวยกับศาลโลกนี่ใครเริ่มก่อนครับ แกล้งไม่รู้มั่ง ตอนนั้นฮุนซวยมันสนิทกับทักกี้หรือมาร์คมากกว่ากัน ที่ปรึกษาพิเศษเขมรเป็นใครไม่รู้เลยเนอะ มาร์คยังส่งสุเทพไปเจรจาเรื่องนี้ กับ นพดลไปเซ็นสัญญาเลย ใครเลวกว่าน้อ ใช่ๆ กฎหมายพื้นฐานไม่รู้นี่แย่ แล้วไอ้คนที่ทำเป็นรู้กฎหมายบอกขายหุ้นไม่เสียภาษีเลยนี่ใครน้อ แย่คอดๆมากเลยเนอะ ทำมึนขายชาติเข้าข้างเขมรนี่โคตรโฉดเลย เฮ้อ..... จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:10:35 A:27.130.202.73 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 60 #58 เวย์งี่ครับ หาเหตุผลมาหักล้างซิ ไม่ใช่เห่าแบบตะแบงๆ อย่างนี้ คงทำไม่ได้มั้งเลยยิงมุขขำๆตามฟอร์ม โอ้โห เรียนเศรษศาสตร์มาหลายตัวเลยเหรอ ตัวไหนอ่ะ ผมว่าคุณไปเรียนให้จบป.4 ก่อนดีไหม ชื่อคนพิมพ์ผิดตลอด ลากเกวียนหรือคันไถต่อไปดีกว่าน่า หน้าที่ของคุณโดยเฉพาะ ควายโง่ๆๆๆๆ จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:12:13 A:27.130.202.73 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 61 โอ้...งั้นหรือครับโอ้แม่เจ้าไม่จริงนะมีคนโง่กว่าคนจบ ป.4 ด้วยโง่กว่าควายด้วยซ้ำ เวปตลาดหลักทรัพย์จะเชื่อเมเนเจอร์หรือเวปนี้ก็แล้วแต่นะ http://www.set.or.th/th/faqs/investment_p1.html#4 จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:15:33

ความคิดเห็นที่ 62 #59 ถ้าฉลาดน่าจะนึกออก ว่าทำไมรบ.ทุกรบ.ผ่านมา 50ปี ไม่มีใครกล้าแตะประเด็นนี้  ศึกษาคำว่ากฎหมายปิดปากก่อนนะครับ อ่านคำพิพากษาฉบับเต็มก่อน เอาฉบับภาษาอังกฤษก็ได้ ครบถ้วนกว่าภาษาไทยเยอะ อ้ออย่าแกล้งโง่ ลืมธรรมญาตรา ปีนรั้วปราสาท จนเกิดการปะทะกันครั้งแรก และหนสองที่ส.ส.ของพรรคตั้งใจเดินล้ำแดน เพื่อยั่วยุให้เขาจับและเกิดการประทะกันครั้งที่สอง ใครเป็นคนจุดชนวน? เรื่องเสียภาษี ไม่มีหลักฐานใดเชื่อมโยง ว่าทักษิณเป็นคนจดทะเบียนบ.ครับ แต่สาน เชื่อได้ว่า ทักษิณเป็นเจ้าของ เพราะสานคิดว่าทักษิณยังเป็นเจ้าของSHIN อยู่ตลอดเวลา แม้จะโอนหุ้นให้คนอื่น เช่นลูกๆหมดแล้วก็ตาม คำถามหุ้นอยู่ที่ลูก ไม่ได้อยู่ที่ทักษิณ แล้วมันจะผิดข้อกฎหมายอะไรได้อย่างไร? หุ้นของบ.ตัวเองโอนให้ตัวเอง(หมายถึงกรณี amplerich) จะเสียภาษีได้ยังไง? อ้อ แล้วสรุปภาษี 0.05% ของคุณไปฟังใครเพ้อเจ้อมาจากไหน อย่าพูดคำว่ากฎหมายถ้าคุณยังไม่ชี้แจงเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ครับ จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:50:21

ความคิดเห็นที่ 63 อ้อทำความเข้าใจกับการบริหารภาษี กับการเลี่ยงภาษีั ว่ามันคนละเรื่องกันนะครับ เหมือนมนุษย์เงินเดือนใช้ิสิทธิ์ลดหย่อนภาษี คือการบริหารภาษี ไม่ใช่หนีภาษีครับ เรื่องภาษีพูดง่ายๆ่ก่อน ต่อให้ชื่อทักษิณเป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมด และขายให้เืทมาเซก 7หมื่นล้านบาทตรงๆ ก็จะไม่มีการเสียภาษีใดๆครับ เพราะเป็นการขายในตลท. ยกเว้นภาษีอยู่แล้ว ได้เงินเต็มๆอีกด้วย ตรงนี้เข้าใจตรงกันนะครับ หวังว่าคงไม่ยกเมฆเรื่องภาษี 0.05% มั่วจากไหนอีก เพียงแต่ทักษิณไม่ใช่เจ้าของหุ้นทั้งหมด หุ้นส่วนอื่นๆอยู่ในชื่อลูก และบ.ที่ลูกเป็นกรรมการ การจะโยกมาขายเลยมีขั้นตอนเพิ่ม แต่ก็ไม่มีส่วนไหนที่ต้องเสียภาษี (อย่าหลงประเด็นตอนโอนหุ้นไป amplerich นะครับ ไม่ไ่้ด้เป็นประเด็นในคดี) แต่ทีนี่้ึคนของคณะรปห.เขาเชื่อว่า จริงๆแล้วทักษิณเป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมดตะหาก แต่ใช้นอมินีปิดบัง (เพื่อจะเอาผิดทักษิณในกรณีถือหุ้นเอกชนเกินที่กฎหมายกำหนด) และการขายหุ้นให้ลูก ก็จะเป็นการขายหุ้นนอกตลาด เลยถือว่าหนีภาษีอีก ได้สองต่อ แต่สุดท้ายคำตัดสิน ไม่มีหลักฐานใด ชี้ไปได้ว่า เจ้าของหุ้นทั้งหมดคือทักษิณ(ตามนิตินัย) ไม่มีหลักฐานของample rich ด้วย แต่คณะตลกใช้การคาดเดา จนเชื่อได้ว่าทักษิณเป็นเจ้าของแน่ๆ และขายหุ้นนอกตลาด เลยถือว่าผิดสองต่อตามที่ตั้งธงไว้ มันก็เลยยังเป็นข้อกังขา ว่าทำไมคณะตลกปฎิเสธหลักฐานทางเอกสาร ที่ตามปกติถือว่าสำคัญที่สุึด แบบเอกสารการถือครองหุ้นของลูกทักษิณไปได้นั่นเอง จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:13:46

ความคิดเห็นที่ 64 #61 เฮ่อ ควายโง่ก็ยังคงเป็นควายโง้โง่ต่อไป ให้ลิงค์ไปอ่านมั่งเด่ะ "ถ้าให้ผู้มีชื่อทุกรายขายหุ้นชินในชื่อของตนให้แก่เทมาเส็กตรงแล้ว หุ้น 38% จะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้เพราะมีกฎหมายยกเว้นภาษีให้ในกรณีที่ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และขายโดยบุคคลธรรมดา ส่วนหุ้น 11% ที่ถือโดยแอมเพิลริชนั้น ต้องเสียภาษีกว่าสองพันล้านบาท เพราะเป็นการขายโดยนิติบุคคล" เข้าใจหรือยังครับ ควายโง้โง่ไม่จบป.4 บุคลธรรมดาไม่เสียภาษีแต่นิติบุคคลต้องเสีย แค่สองพันกว่าล้านยังไม่ยอมจ่าย นี่หรือผู้นำประเทศที่คุณบูชาเข้าข้างตลอด :-) ควายโง่ๆๆๆๆๆ โคตรตะแบง จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 14:20:28 A:171.7.138.66 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 65 #62 ไอ้นี่ก็ควายโง้โง่อีกตัว (เอะ หรือตัวเดียวกัน) พยายามมั่วตะแบงแกล้งโง่ต่อไป พยายามหาทางออกแบบแดงทรพีแผ่นดินต่อไป กฎหมายปิดปากที่อยากพ่นนี่เรื่องไหนบอกมาชัดๆเด้ะ เหลี่ยมยกดินแดน 4.6 ตร.กม.ไปให้เขมรเรื่องใหญ่กว่าปีนรั้วปราสาทไม่รู้กี่เท่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไอ้พวกกาลีเมือง นึกแล้ว พอพูดเรื่องภาษี ควายแดงทรพีแผ่นดินมักทำหน้ากรูมึน ไม่จริงไม่ยอมรับไม่มีหลักฐานไม่ผิดข้อกฎหมาย อ้อ แล้วสรุปภาษีหุ้นที่เป็นนิติบุคคลทักกี้ไม่ต้องจ่ายเลยนี่ คุณไปฟังใครเพ้อเจ้อมาจากไหน อย่าพูดคำว่ากฎหมายถ้าคุณยังไม่ชี้แจงเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ครับ เสรือกเอาเรื่องลดหย่อนภาษีมาเห่า โธ่ไอ้บ้า คนละเรื่องเลย ตามแบบฉบับควายแดงจอมตะแบง เอาไปอ่านอีกที ควายแดงหน้าด้าน "ถ้าให้ผู้มีชื่อทุกรายขายหุ้นชินในชื่อของตนให้แก่เทมาเส็กตรงแล้ว หุ้น 38% จะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้เพราะมีกฎหมายยกเว้นภาษีให้ในกรณีที่ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และขายโดยบุคคลธรรมดา ส่วนหุ้น 11% ที่ถือโดยแอมเพิลริชนั้น ต้องเสียภาษีกว่าสองพันล้านบาท เพราะเป็นการขายโดยนิติบุคคล" แต่เชื่อว่าคุณคงไม่อ่านหรอกมั้ง คลั่งซะขนาดนี้ พยายามทำตัวเลวๆต่อไปเถอะ มันเป็นธรรมชาติของพวกคุณ ควายแดงโง้โง่ๆๆๆๆๆ โคตรตะแบง จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 14:23:41 A:171.7.138.66 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 66 3 คำ เกิน เยียว ยา จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 20:12:05

ความคิดเห็นที่ 67 ^^^ คุณมากกว่ามั้ง จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 12:40:31 A:27.130.44.19 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 68 ผมว่าการค้านเป็นสิ่งปกติ (ยิ่งโดยเฉพาะการวิพากย์เนื้อหาวิทย์) แต่ผู้นำต้อง กล้าตัดสินใจเฉียบขาด เอาข้อดี มาปิดปากฝ่ายค้าน และสร้างเป้าหมาย และความร่วมใจไปให้ได้ ระบบต้องสนับสนันให้ แต่ละฝ่าย เสนอความเห็น อย่างสร้างสรรรค์ด้วย เห็นต่างได้ แต่ต้องรู้จักฟังต่างด้วย และต้องเคารพการตัดสินใจ เพื่อส่วนรวมด้วย จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 17:24:47