 |
ความเห็นส่วนตัว ในแถบนี้
พม่า - พม่าสามารถจะเจริญไปได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่มีทางเกินไทยแน่นอน จากสาเหตุเรื่องการปกครอง พม่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นประชาธิปไตยเต็มตัวได้ เพราะหากพม่าเปลี่ยนระบบการปกครองเต็มที่ ก็นับถอยหลังรอดูพม่าแตกเป็นเสี่ยงๆได้ แต่หากพม่ายังกึ่งเสรีกึ่งเผด็จการทหารอยู่อย่างทุกวันนี้ พม่าก็จะเจริญแบบให้ต่างชาติเข้าไปสูบผลประโยชน์และทรัพยากร โดยพม่าได้ส่วนแบ่งไปจำนวนหนึ่ง ขายทรัพยากรสมบัติเก่ากิน ซึ่งด้วยความสามารถในการล้างผลาญ ทรัพยากรมหาศาลในพม่าให้อย่างเก่ง10ปีก็ไม่ต่างไปจากไทยวันนี้ดอก พอทรัพยากรเริ่มร่อยหรอลงเศรษฐกิจเริ่มลง พม่าก็จะเกิดปัญหาการเมืองอีก
ลาว - ลาวมีทรัพยากรธรรมชาติมากก็จริง แต่มีปัญหาสำคัญหลายอย่าง เช่นประชากรมีน้อยมาก ประเทศเป็น Land Lock ไม่ติดทะเล ซึ่งหากลาวจะยกระดับตัวเองให้ได้ ก็คงต้องเลียนแบบระบบเศรษฐกิจของสวิสที่มีลักษณะประเทศคล้ายกับลาว แต่คงยากเพราะสวิสใช้เวลาในการสร้าง-ปรับระบบเศรษฐกิจของตนมานานมาก
เขมร - จากเหตุการณ์ที่ผ่านๆมาจะเห็นได้ว่าประชากรส่วนใหญ่ของเขมรยังค่อนข้างขาดคุณภาพ โดยเฉพาะด้านการศึกษา พร้อมที่จะเฮโลไปตามกระแสที่ถูกปั่น อีกทั้งเขมรมีทรัพยากรเยอะพอดูก็จริง แต่พื้นที่ของเขมรเล็กกว่าไทยมาก คือราวๆ180,000ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าภาคอีสานของไทยไม่มาก และเขมรยังมีปัญหาที่แก้ไม่ตก คือการถูกกลืนเชื้อชาติจากเวียดนาม ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเขมรมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตเขมรจะต้องเกิดปัญหาจากคนเชื้อสายเวียดนามแน่นอน
เวียดนาม - หากดูกันเผินๆจะเห็นเวียดนามเป็นประเทศที่เศรษฐกิจพุ่งแรง เป็นดาวรุ่งดวงใหม่ แต่หากดูกันให้ดีๆ มองกันลึกๆจะเห็นว่าเวียดนามมีแต่ปัญหาเต็มไปหมด เพราะเวียดนามเปิดประเทศตามจีน ซึ่งจีนใช้เวลาในการศึกษาเตรียมการรับมือระบบทุนนิยมมานานเป็นสิบปี แต่เวียดนามนั้นแทบไม่มีการเตรียมตัวเลย ทำให้เศรษฐกิจของเวียดนามเกือบทั้งหมดเป็นการพึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติ มีการพึ่งพาตนเองน้อย ปัจจุบีนเงินเฟ้อของเวียดนามเฟ้อสูงขึ้นเรื่อยๆ เศรษฐกิจมีปัญหามากมายจนต้องยกเลิกรถไฟความเร็วสูงไปแล้ว เศรษฐกิจฟองสบู่กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเวียดนามเองมีปัญหาใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้อยู่ นั่นคือขนาดพื้นที่กับประชากร เวียดนามมีพื้นที่พอๆกับมาเลเซีย แต่มีประชากรถึง80ล้านปลายๆ ทำให้เวียดนามต้องหาทางขยับขยายประชากรออก และด้วยจำนวนคนมหาศาล ทำให้เวียดนามจำเป็นต้องใช้พื้นที่จำนวนมากในการทำการเกษตรเลี้ยงพลเมือง ยิ่งลักษณะรูปร่างของประเทศเวียดนามเป็นรูปตัวSยาวหัวท้ายป่อง ตรงกลางคอด ช่วงภาคกลางยิ่งมีเทือกเขาอีก เป็นผลให้พื้นที่ที่เวียดนามจะใช้ในการอุตสาหกรรมยิ่งมีน้อยเข้าไปใหญ่ จากการคำนวณของสำนักเศรษฐกิจหลายๆแห่ง เวียดนามจะเจริญมาเทียบกับไทยได้ ต้องใช้เวลาราวๆ15ปี โดยมีข้อแม้ว่าเวียดนามจะต้องไม่ผิดพลาดอะไรเลย และไทยจะต้องหยุดไม่ทำอะไรเลยตลอด15ปี
ฟิลิปปินส์ - ประเทศนี้อาการหนักกว่าเวียดนามซะอีก การเติบโตทางเศรษฐกิจสู้เวียดนามไม่ได้เลย ฟิลิปปินส์เองก็ปัญหาคล้ายๆเวียดนาม คือพื้นที่กับประชากร ขนาดพื้นที่และประชากรอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเวียดนาม แต่อาการหนักขึ้นไปอีกเพราะผลิตอาหารได้ไม่พอเลี้ยงประชากร
อินโดนีเซีย - อินโดนีเซียก็คล้ายๆกันกับฟิลิปปินส์ ผลิตอาหารได้ไม่พอเลี้ยงประชากร ยังดีที่อินโดนีเซียมีพื้นที่ใหญ่พอดู แต่ด้วยจำนวนคนที่มหาศาลกว่า200ล้านคน ทำให้เกิดช่องว่างคนรวยกับคนจนเยอะมาก โดยเฉพาะคนเชื้อสายจีน ทำให้อินโดนีเซียมักจะเกิดปัญหาเชื้อชาติกันบ่อยๆ ปัจจุบันอาจจะมีคนยกให้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่น่าสนใจโดยเอาชื่อไปใส่ใน BRIC กลายเป็น BRIIC แต่ศักยภาพต่างๆของอินโดนีเซียยังตามหลัง BRIC อยู่ไกลลิบ ทรัพยากร+พื้นที่อินโดนีเซียอาจจะเห็นว่ายังมีอยู่มาก แต่เทียบกับจำนวนประชากรแล้ว ก็ไม่ได้ต่างจากไทยเท่าไหร่ และยังมีโอกาสที่จะมีการแบ่งแยกประเทศอีกหลายส่วน ตามที่คำนวณ อินโดนีเซียยังต้องใช้เวลาอีกมากพอดูกว่าจะตามไทยทัน
มาเลเซีย - มาเลเซียเติบโตมาได้ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าฝีมือมหาเธร์เกือบจะล้วนๆ ซึ่งหลังๆมหาเธร์ใช้วิธีปล่อยโครงการออกมาเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจมาเลเซียผ่อนลง ทำให้มาเลเซียเหมือนอยู่บนหลังเสือ ต้องเร่งเศรษฐกิจไปเรื่อยๆ ซึ่งเท่าที่เห็นพอมหาเธร์หมดอำนาจ มาเลเซียก็ไม่ค่อยมีการปล่อยโครงการอะไรออกมา คาดว่ามาเลเซียคงจะค่อยๆแผ่วลงไป ถ้าไม่มีตึกแฝดนี่มาเลเซียไม่มีอะไรเป็นสัญลักษณ์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้งมาเลเซียก็ยังไม่สามารถเลิกนโยบายภูมิบุตรได้ ทำให้มีสภาพเหมือนกับต้องคอยอุ้มคนเชื้อสายมลายูไปเรื่อยๆ ถ้าไม่สามารถยกเลิกนโยบายนี้ได้ ในอนาคตจะต้องเป็นปัญหาใหญ่ของมาเลเซียแน่
สิงคโปร์ / บรูไน - ยังไม่มีปัญหาอะไรมากมาย เนื่องจากยังมีเงินสดในมือสูงมาก แต่กับสิงคโปร์นั้น การเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นมีที่มาจากรัฐบาลที่ค่อนข้างเผด็จการในสภา ในอน่คตหากประชาชนสิงคโปร์ไม่พอใจระบบเผด็จการก็อาจทำให้การเมืองสิงคโปร์เปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเป็นผลกระทบอันรุนแรงไปสู่เศรษฐกิจของสิงคโปร์แน่นอนหากสิงคโปร์ไม่สามารถมีรัฐบาลที่มีอำนาจเผด็จการ ส่วนบรูไนเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดมาจากน้ำมันในประเทศ แต่น้ำมันของบรูไนก็ใกล้จะถึงเวลาที่หมดไป ซึ่งสุลต่านฮัสซานาลได้เริ่มมีการวางรากฐานเอาไว้แล้ว ในกรณีที่น้ำมันร่อยหรอลง แต่ก็ต้องดูกันต่อไป
แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 55 00:03:06
จากคุณ |
:
zodiac28
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ก.ค. 55 00:01:22
|
|
|
|
 |