ความคิดเห็นที่ 1 น่าจะได้ แต่ต้องรอปลด ออกมาก่อน  รอผู้รู้มาตอบอีกที แต่วงการทหาร ไม่ได้จบ จปร ไม่ค่อยโตหรอกครับ จากคุณ : AKB-SKE เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 22:51:46

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เรียนนายร้อย ไม่รุ่งหรอกครับ ไปเป็นทหารแล้วออกมาทำงานที่ชอบจะดีกว่า จากคุณ : มีดแรกไม่พลาดเป้า เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 23:24:59

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าอยู่ๆเดินดุ่ยๆไปสอบเลยไม่ได้ครับ แต่ได้อยู่อย่างนึงคือ เป็นทหารเกณ แล้วไปสอบนายสิบ เพื่อให้มีสังกัด แล้วพอได้สังกัด นานๆทีจะมีหนังสือเวียนมาให้สอบ นายทหาร ตามตำแหน่งที่ต้องการเอง แล้วค่อยไปลุ้นเอาอีกช่วงนั้น หรืออีกทางที่ไม่ต้องใช้วุฒ ป.ตรี คือ เรียนให้เป็น ทอป 3 ของรุ่น แล้วจะได้โควต้าเรียนนายร้อยต่อ แต่เป็นนายร้อย ที่ไม่ไช่ลูกหม้อ ยศจะตันที่ร้อยโท และไม่มีสิทธิ์ ได้อยู่สายคุมกำลัง จากคุณ : NIC เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 23:36:27 A:49.48.154.145 X: TicketID:349466

ความคิดเห็นที่ 4 การจะเข้ารับราชการ แนะนำต้องจบจากโรงเรียนนายร้อยครับเพราะคุณจะมีเพื่อนร่วมรุ่น ไอ้การเอา ป.ตรี ไปสมัครนี่ยังไงก็ไม่รุ่งเพราะเขาจะเห็นว่าไม่ใช่เด็กของเขา วงการนี้มันเป็นงี้ล่ะ ผมจึงไม่เลือกที่จะเป็นตำรวจ แต่เลือกทำงานกับ DSI แทน แต่ถ้ายังอยากอยู่ คห. บนๆเขาก็ตอบให้เรียบร้อยละ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 55 01:01:23 จากคุณ : 4-lunatic เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 01:00:36

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าไม่ได้คิดว่า จะเป้นนายพล ก็น่าสนใจอยู่ครับ ส่วนใหญ่จะจบที่พันเอก(ทหารบก)...ผู้ช่วยทุตทหาร ต้องจบ โรงเรียนเหล่า และต้องมีภรรยา( อันนี้จริงๆนะ)ครับ จากคุณ : กบ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 02:32:55 A:182.52.142.66 X: TicketID:350891

ความคิดเห็นที่ 6 เวลาบังคับบัญชา ตรรุ่นน้องที่มาจากเหล่าลำบาก หรือจะรุ่นราวคราวเดียวกันเขาพูดเรื่องรุ่นเขา เราก้อไม่มีเรื่องคุย ไม่ซี้ปึ๊กอีก คอนเน็คชั่นไม่กว้าง จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 05:10:18

ความคิดเห็นที่ 7  เป็นตำรวจดีกว่า นายพลตำรวจไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจมีเยอะนะครับ ผบ.ตร. คนปัจจุบันก็ไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ  จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 08:48:52

ความคิดเห็นที่ 8 เนื่องจากคุณจะเข้ามาเป็นกำลังพลทอ. จะขอตอบในส่วนทอ.นะครับ การสอบเป็นนายทหารสัญญาบัตรโดยตรงจากพลทหารไม่มีครับ ต้องไปสอบแข่งกับคนทั่วไปตอนเเค้าเปิดรับปรกติ แต่ถ้าเคยเป็นทหารเกณ์ในส่วนของทอ. จะได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษครับ ข้าการเป็นผู้ช่วยทูติทหารในเหล่าทอ.อย่าหวังครับ เพราะต้องเป็นทักบินเท่านั้น การจบนอกไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสครับ เพราะนักเรียนนายเรืออากาศเองนั้นก็ส่งไปเรียนตรีนอก ปีละ 10% อยู่แล้ว(อย่างผมเองก็จบอังกฤษครับ) ดังนั้นตัวเลือกอันดับนึงเค้าจะเป็นนักบินที่จบจากประเทศนั้นๆก่อน (ซึ่งก็มีทุกปี ยิ่งประเทศใช้ภาษาอังกฤษยิ่งเยอะ เจอพวกจบ USAFA พวกอื่นก็ตกแล้วมีแทบทุกรุ่นนะครับพวกนี้)สำหรับเหล่าอื่นๆ ก็ไม่ง่ายครับ เพราะนักเรียนทุนแบบนี้มีทุกเหล่า สำหรับการเจริญเติบโตในสายทหารก็อย่างที่หลายๆคห.บอกคือไม่รุ่งมาก เพราะสายเฉพาะทางของทหารคือ ด้านการทหาร ซึ่งจะสอนเฉพาะในรร.เหล่า (เหมือนคุณเข้ากระทรวงเกษตรแต่ไปทำงานอยู่ในแผนกการเงิน คุณก็คงไม่โตถึงอธิบดีกรม) สายที่จบด้านการทหารนี่แหละที่เค้าจะส่งลงเหล่ารบหลัก ดังนั้นคุณจึงเห็นตำแหน่ง หลักโดนเอาไปหมดแล้วๆ ส่วนกำลังพลพิเศาที่เค้ารับเพิ่มมานั้น เค้าจะรับในส่วนของเหล่าอื่นๆที่โรงเรียนทหาร ผลิตเองไม่ได้ เช่น การเงิน กำลังพล(HR) สารบรรณ(ธุรการ)บลาๆ ซึ่งมันก็จะเหมือนกรณีที่ผมอ้างไปคือคุณ จะไม่ใช่สายหลัก และสายงานด้านเศรษฐศาสตร์ที่คุณจบมาก็ส่งให้คุณไปได้ที่เดียวจริงๆครับคือ เหล่าการเงิน ส่วนถามว่าโอกศได้นายพล มีมั้ย ตอบว่ามีครับแต่น้อยหน่อยในเหล่าทอ. เพราะทอ.นายทหารเยอะ(เพราะกำลัง รบหลักคือนักบินซึ่งเป็นนายทหาร) ดังนั้นควรจะเลือกเหล่าที่มีนายทหารหลักน้อย คือใน บก.ทท.(ปัจจุบัน เจ้ากรมการเงินทหาร(พล.ตรี) เป็นผู้หญิงครับไม่จบเหล่าแน่ๆด้วย และมีตำแหน่งนายพลจำนวนมาก ที่ไม่จบเหล่าครับ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 55 09:53:22 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 09:50:52

ความคิดเห็นที่ 9 พ่อเราก็ไม่ได้มาจากนายเรือฯ แต่ก็ได้พลอากาศตรี แต่โอกาสที่เป็น กห.แล้วเติบโตมันก็น้อยมาก  เส้นสายนายเรือฯ เค้าเยอะ แถมในพวกกันเองก็แบ่งพรรคแบ่งพวกอยู่ดี  เหล่านักบินยังแบ่งเกรดเลย จขกท ดูโปรไฟล์ดี  ถ้าสนใจงานราชการจริงๆ น่าจะไปสมัครงานในกระทรวงการคลัง หรือแบงค์ชาติอะไรพวกนั้นน่าจะดีกว่า เป็นทหารมียศอาจดูมีเกียรติมีอำนาจ (โดยเฉพาะประเทศนี้)  แต่ถ้าไม่จบ นนอ.ถึงเป็นสัญญาบัตรก็ยังถูกข้ามหน้าข้ามตา การแข่งขันและดราม่ามันสูง  เข้ามาจะเบื่อเปล่าๆ แต่ถ้าเกิดฝึกแล้วชอบอยากเป็นทหารอากาศ  ก็ไปสอบตอนเค้าเปิดสอบนายทหาร  (ช่วง ก.พ.- มี.ค.ทุกปี) การศึกษาดี  ถ้าผ่านข้อเขียนและร่างกายได้  ก็ได้เปรียบตอนสัมภาษณ์ อาจลองเหล่า ขว.(การข่าว) หรือ ยศ.(เป็นอาจารย์  ล่าม  ศูนย์ภาษา)   ส่วนเป็นทูตทหารยากค่ะ  อย่างที่บอก  เค้าเอาพวกนักบินก่อนค่ะ เรารู้จักนายทหารคนนึง  เป็น นนอ.ได้ทุนไปเรียนอังกฤษ แต่ตอนนี้เดินลอยไปลอยมา  ทำงานไม่เป็น  นายก็ไม่เอา น่าเสียดายความรู้ที่เรียนมาอ่ะ จากคุณ : XziBitch เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 10:04:47

ความคิดเห็นที่ 10 จบ เศรษฐศาสตร์ เบิกเลย์มา ไปทำงานด้านอื่นดีกว่าครับ ผมว่า  ยิ่งไม่ชอบ คอรัปชั่นด้วย ข้างในดราม่ามันเยอะยิ่งไม่ได้จบจาก โรงเรียนนายร้อย(รึเปล่าผมไม่ทราบว่าเขาเรียกว่าอะไร) จากคุณ : Obito เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:34:47

ความคิดเห็นที่ 11 ทึ่งคุณครับ จบจาก เบิร์คเลย์แต่ยอมไปเป็นทหารเกณฑ์ นับถือครับ จากคุณ : ชินโนะสึเกะคุง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 12:39:41

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 7      เป็นตำรวจดีกว่า นายพลตำรวจไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจมีเยอะนะครับ ผบ.ตร. คนปัจจุบันก็ไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขาได้เป็นเพราะไปลุยงานทางใต้โดยไม่อิดออดไม่ใช่หรือครับแถมทำงานเก่งด้วย ถ้า จขกท.เขายอมลงไปก็อีกเรื่องละครับ ป.ล.จขกท.ครับเงินเดือนที่จะได้ท่านรับได้รึเปล่าครับ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 14:24:44

ความคิดเห็นที่ 13 ผมขอให้ข้อมูลดังนี้ครับ 1. เมื่อพ้น 1 ปีแห่งการเกณฑ์ทหารแล้ว หากต้องการจะสมัครสอบเป็นนายทหารสัญญาบัตร ก็สามารถทำได้เลยครับ แต่ ... สิทธิพิเศษต่าง ๆ ก็จะไม่มีนะครับ คุณต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้ารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตรเหมือนบุคคลพลเรือนคนอื่น และจะได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษจาการที่เคยเกณฑ์ทหารมาแล้ว 1 ปี .... ส่วนสิทธิพิเศษอื่น ๆ ก็ไม่มีนอกจากนี้ครับ 2. การสมัครสอบต่อในข้อ 1. จะต้อง "รอ" การประกาศรับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าเป็นทหารครับ มีชื่อเต็มว่า "ประกาศรับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าเป็นข้าราชการกลาโหมชั้นสัญญาบัตร" (ชื่อยาวเชียว) การประกาศดังกล่าวก็หาข่าวได้ไม่ยากเลย ลองสอบถามนายทหารที่ต้นสังกัดของคุณดูครับ เค้ามีข้อมูลอยู่แน่นอน ว่าทหารอากาศจะเปิดรับเมื่อใด 3. ดังที่กล่าวไปในข้อ 1. ครับ ว่าคุณจะมีสิทธิเป็นคะแนนเพิ่มพิเศษจากการเกณฑ์ทหารเท่านั้น ส่วนการจบจากเมืองนอกนั้นจะไปมีผลเมื่อคุณได้ "สอบติดแล้ว" .... ซึ่ง ... ผมขอยืนยันว่า วุฒิการศึกษาดี ๆ เช่นนี้ทางกรมกำลังพลทหารอากาศจะพิจารณาคุณเป็นพิเศษครับ แต่ไม่ถึงกับ "เลือกได้" นะ ,ทาง กพ.ทอ.เค้าจะพิจารณาบรรจุคุณลงตำแหน่งที่ดีแน่นอน 4. เมื่อคุณได้รับราชการไประยะหนึ่งแล้ว คุณจะต้องหาข่าวเรื่องตำแหน่งต่าง ๆ ในกองทัพ ฯ ที่จะเปิดสอบครับ เช่น ตำแหน่งที่ (คนเก่ง) หลายคนหมายปอง คือ ประจำสำนักฑูตทหารต่างประเทศ ขอบอกว่าอันนี้แหละที่คุณจะมีภาษีเหนือคนอื่นอย่างมากมาย เพราะภาษาคุณได้ครับ ยิ่งเรียนเมืองนอกมาตั้งแต่เด็กเนี่ย ผมขอทำนายว่าเมื่อคุณสมัคร "สอบได้" ตามข้อ 1. แล้ว ผู้บังคับบัญชาจะต้องเล็งเห็น และย้ายคุณไปหน่วยงานที่ต้องการภาษาอังกฤษเยี่ยม ๆ เช่น .... 4.1 สำนักเลขานุการทหารอากาศ (สลก.ทอ.) เป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดผู้บังคับบัญชาระดับสูง ติดต่อประสานงานต่างประเทศบ่อย และเป็นบันใดที่สำคัญสู่การไปสำนักการฑูตทหารต่างประเทศ 4.2 กรมยุทธการทหารอากาศ (ยก.ทอ.) เป็นหน่วยที่ว่าด้วยเรื่องทางการยุทธ ฯ ล้วน ๆ ติดต่อประสานงานต่างประเทศด้านฝึกร่วมกับประเทศต่าง ๆ 4.3 กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ (ยศ.ทอ.) เป็นหน่วยงานด้านวิชาการ คล้าย ๆ กับการเรียนการสอนทั้งปวงครับ (หน่วยนี้อาจจะไม่ก้าวหน้าในแบบที่คุณต้องการ) 5. ความก้าวหน้าในด้านอื่น ๆ เช่น นักบิน และ ฑูตทหาร นั้น สงวนใว้สำหรับผู้ที่จบโรงเรียนนายเรืออากาศเท่านั้นครับ จากคุณ : Navy เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 15:25:17 A:171.97.140.207 X: TicketID:355530

ความคิดเห็นที่ 14 ต้องดูหน่อย ถ้ามีการประกาศรับผู้ทรงคุณวุฒิ เข้ารับราชการเป็นทหารตามที่เค้าต้องการ แล้วคุณสมัครแล้วได้รับเลือกบรรจุเข้ารับราชการนายทหารสัญญาบัตรก่อนไปเกณฑ์ทหาร แบบนี้ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์ เพราะถือว่ารับราชการทหารไปในตัวแล้ว แบบที่ หน.พรรคสีฟ้าเคยเป็น แต่ถ้าจบมาแล้ว ยังไม่ทันไร ไปเกณฑ์ทหารเลย แบบนี้เสร็จ เพราะคงลาไปสมัครทหารอีกรอบไม่ได้ มันไม่มีระเบียบบัญญัติไว้ ก็ต้องรับราชการให้ครบเทอม อิๆ จากคุณ : ตัวอย่างมีให้เห็น เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 15:47:08 A:58.9.216.200 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 15 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%99_%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A0%E0%B8%9E อดีต อ.ตร. คนนี้ก็ไม่ได้มาจากรร.นายร้อยครับ จากคุณ : P-III 933MHz เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 00:08:49

ความคิดเห็นที่ 16 ไปทำข่าวเหมือนเดิม เป็นอาจารย์ เป็นคอมลัมนิสต์ หน้าตาดีก็ไปวิเคราะห์เศรษฐกิจ ฯลฯ อย่ารับราชการเด็ดขาด นอกจากมีพ่อเป็นนายพลฯ นักการเมือง หรือมาจากเศรษฐี หรือมีชาติตระกูลดี จากคุณ : วิวเฟรโด้โกเมส ซานวาดอซานเชส เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 01:21:50

ความคิดเห็นที่ 17 ต้องยอมรับว่าบ้านเรายังใช้ระบบอุปถัมภ์ ในราชการอยู่มาก  โดยเฉพาะระบบทหาร     การเลื่อนขั้นเลื่อนตำเเหน่งจะเป็นประมาณเพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง สำหรับคนที่จบรร.เหล่ามาโดยตรง       กับคนที่ไม่จบโรงเรียนเหล่าก็จะเป็นความรู้สึกประมาณเจ้านายกับลูกน้องไม่ใช่พี่น้อง     การมีรุ่นมีเหล่า สำคัญมาก   อย่างกองทัพบกจะเเบ่งประเถทนายทหารชัดเจน เลยว่ากำเนิดจากจปร.  จากบุคคลภายนอก หรือจากชั้นประทวน   ซึ่งจะมีการระบุไว้ชัดเจนว่า  ตำเเหน่งไหนสำหรับจปร.โดยเฉพาะ   ต่อให้คุณเก่งเเค่ไหนมีกี่ปริญญาถ้าไม่ได้มาจากจปร.ก็หมดสิทธิ   เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้จบรร.เหล่าโอกาสประสบความสำเร็จในอาชีพทหารยากมาก  เเละที่เเน่ๆไม่มีทางได้ดีเกินกว่านายร้อยจากรร.เหล่าเเน่นอน   เเต่ถ้าไม่คิดอะไรมากอยากรับราชการมีงานทำมียศ  มีสวัสดิการข้าราชการ   ก็คงไม่มีปัญหาอะไร           ส่วนตำรวจเนื่องจากสตช.ต้องการนายตำรวจจำนวนมาก    รร.นายร้อยตร.ผลิตนายตำรวจหลักสูตรเตรียมทหารได้ไม่เพียงพอ   เพราะเรียนฟรีถึง6ปีมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก   จึงต้องรับนายร้อยตร.อบรม(รับจากคนจบป.ตรี)      เพื่อให้เพียงพอ(บางปีสัดส่วนนายร้อยอบรมก็มากกว่านายร้อยเตรียมทหาร)       ทำให้มีนายร้อยที่ไม่ได้มาจากเตรียมทหาร(จะบอกว่าไม่ได้มาจากรร.นรต.ก็ไม่ใช่เพราะนบ.รบ.ก็ต้องเรียนที่รร.นรต.เหมือนกัน)จำนวนมากพอสมควร      เเละอีกอย่างคือกฏระเบียบการเลื่อนขั้นของตำรวจไม่มีการยึดรุ่นหรือเหล่ามากเเบบทหาร    ทำให้นายร้อยตำรวจอบรมไม่ได้ถูกกีดกันอะไร    จึงมีโอกาสก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ     เป็นได้เเม้กระทั้งผบ.ตร.     จนเมื่อ5ปีก่อนผบ.ตร.ที่มากจากเตรียมทหารได้สั่งให้ยกเลิกนบ.รบ.ไป     เพราะอยากให้การเเต่งตั้งตำเเหน่งนายตำรวจสำคัญๆมาจากนักเรียนนายร้อยตร.สายเตรียมทหารเท่านั้น     ทำให้เกิดปัญหาขาดเเคลนนายตำรวจระดับสัญญาบัตร    โดยเฉพาะตำเเหน่งพนง.สส.     สตช.ก็พยายามเเก้ไขด้วยการเปิดให้ตำรวจชั้นประทวนเลื่อนเป็นสัญญาบัตรมากขึ้น     เพื่อมาเป็นนายตำรวจในตำเเหน่งรองๆลงไปจากนายตำรวจจากนรต.   เเต่ก็ทำให้เกิดปัญหาขาดเเคลนตำรวจชั้นประทวนอีก      ในปีนี้จึงเกิดปรากฏการณ์การเปิดรับสมัครตำรวจชั้นประทวนถึง1หมื่นตำเเหน่งภายในปีเดียว      เเละก็ปลดล็อคให้ตำรวจชั้นประทวนวุฒิป.ตี4รุ่นที่ผ่านมาได้สอบเลื่อนขั้นเป็นสัญญาบัตรทั้งหมด     เเต่ดูเเล้วในอนาคตก็คงต้องกลับมาเปิดหลักสูตรนายร้อยอบรมเหมือนเดิม    เพราะเป็นวิธีการที่เป็นสากล     ในขณะที่มีเเค่ไม่กี่ประเทศในโลกที่บังคับว่านายตำรวจต้องมากจากโรงเรียนเตรียมทหาร จากคุณ : พระเอกจอมหักกระดูก เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 03:07:07

ความคิดเห็นที่ 18 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 21:07:58

ความคิดเห็นที่ 19 ผมทำงานบ.เอกชนมาก่อนนานเลยแหละ จบป.โท อินเตอร์เหมือนกัน ถึงเข้ามารับใช้ชาติก่อนอายุจะเข้าไม่ได้หน่อยนึง มาเข้าทหารเริ่มใหม่ที่ยศ ร.ต. เงินเดือนไม่ต้องพูดถึงน้อยกว่าสมัยผมจบ ป.ตรีเกือบสองเท่า ถ้าคุณมองเรื่องเงินน่ะมันไม่มีทางคุ้มหรอกครับ เพราะการมาเป็นทหารคุณไม่ได้เงินเดือนสูง ๆ ไม่มีโบนัสแบบเอกชน ถ้าคุณอยู่เอกชนผลตอบแทนก็ออกมาเป็นเงินเดือนโบนัส ย้ายบริษัททีเงินก็ขึ้น แต่อยู่เอกชนยังไงคุณทำงานก็เพื่อผลประโยชน์บริษัท บริษัทหาเงินเอากำไรมาใช้จ่าย และไม่ว่าจะพูดให้ดียังไงคุณก็แค่หาเงินเข้ากระเป๋าตังตัวเองแหละ แต่มาเป็นทหารคุณทำให้ส่วนที่ใหญ่กว่านั้นคุณทำเพื่อประเทศชาติ โดยผลตอบแทนไม่คุ้มค่าเลยแหละ แล้วแต่เลือกครับเกิดมาครั้งนึงว่าจะทำอะไรดี คนที่มีความรู้ความสามารถได้ยศสูง ๆ ตำแหน่งสูง ๆ มากไป แต่แน่นอนครับไม่ได้อยู่ในสายบังคับบัญชาด้านกำลังพล เพราะ บางตำแหน่งต้องการผู้ที่มีภาวะผู้นำสูง จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเห็นด้วยตนเองมาเยอะ จากการบ่มเพาะมาตั้งแต่เป็นนักเรียน ผู้ที่จบจากร.ร.หลักจะมีภาวะผู้นำสูงในการทำงานมากกว่าจริงครับ เอาว่าหากนายทหารเดินมาสองคน คนที่ดูออกเขาดูภายนอกก็รู้แล้วใครจบรร.หลักมา ลักษณะท่าทาง การพูดจา การวิเคราะห์ การตัดสินใจ แต่นายทหารที่ไม่จบเหล่าเก่ง ๆ ก็เยอะครับ ก็แล้วแต่คนไปแต่โดยมากเป็นแบบที่ว่าแหละ ผมอยากบอกหลาย ๆ คนว่าหากคุณตั้งใจจะรับใช้ชาติแล้วคุณจะคิดแค่ว่าไม่ก้าวหน้า เพราะอยากเป็นแค่อย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ครับ ในแต่ละตำแหน่งมีความสำคัญ จะเป็นฝ่ายยิบย่อยหรือฝ่ายสนับสนุนทั้งหลายก็มีความสำคัญเสมอ ถ้าข้างหลังไม่มีข้างหน้าก็รบไม่ได้ ไม่ว่าตำแหน่งใด ๆ ก็อยู่ที่คน ๆ นั้นจะทำตัวให้มีความสำคัญในการทำงานรึเปล่าครับ ที่ผมพบเห็นในหลาย ๆ ระดับ หน. เป็นผู้ที่ไม่ได้จบโรงเรียนทหารหลักๆ มา แต่ก็มีความสามารถที่จะอยู่ในระดับหัวหน้าแถวหน้าก็เยอะครับ ยศขั้นต้นน่ะมันขึ้นตามระยะเวลาอยู่แล้วไม่ว่าจะจบไหนมา แต่พอหลัง ๆ น่ะมันขึ้นกับความสามารถ คนเก่งใคร ๆ ก็อยากเอามาใช้งาน ถ้าคนไม่เก่งจะเอามาเป็นหัวหน้าทำไม ส่วนเป็นทูตได้ไหม ไม่น่าได้ครับ การเป็นทูตทหารต้องการอะไรหลายอย่างครับ ไม่ใช่แค่ภาษา ถ้าจะเอาภาษามาคงไม่พอ บรรดาทูตทหารส่วนมากหากคุณไปดูเกียรติประวัตินะครับจะยาวเป็นหางว่าวเลย เป็นหัวกะทิของรุ่น หลาย ๆ คนก็ไปเรียนตปท.มาตั้งแต่เป็นนักเรียน หลายคนก็จบเสธ.ทั้งในและนอกประเทศ ผมต้องขอบอกว่าในกองทัพจริง ๆ คนจบนอกเยอะครับ ป.โท ป.เอก เป็นเรื่องธรรมดาถ้าอยู่ในสายงานเฉพาะทาง ที่เขาบอกว่าทำสายทูตทหารได้ น่าจะหมายถึง "สาย"ทูตทหาร ครับ ไม่ใช่ตำแหน่งทูตทหาร น่าจะหมายถึงตำแหน่งใน วิเทศสัมพันธ์ มากกว่า จากคุณ : อยู่ที่ตัวเอง เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 01:09:58 A:124.122.227.200 X: TicketID:354169

ความคิดเห็นที่ 20 ทอ  เป็นเหล่าทัพที่แบ่งและเหยียดที่สุดครับ  เชื่อมั๊ยต่อให้คุณจบเรืออากาศแต่ถ้าไม่ได้เป็นนักบิน  แทบไม่ต้องลุ้นว่าจะโตเลยครับ  ขนาดเจ้ากรมแพทย์ยังเป็นนักบินเลย แนะนำว่าลองศึกษาเส้นทางรับราชการ  ทร  จะเปิดกว้างกว่า  ผู้ใหญ่ ทร  จะไม่ค่อยจิตใจคับแคบ  อิโก้จะไม่สูงสุดโต่งครับ  อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ จากคุณ : Die Marine เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 20:03:26