ความคิดเห็นที่ 1 exhaust gas recirculation (EGR) ทำเพื่อ ลด nitrogen oxide (NOx) ซึ่งเป็นก๊าซที่เป็นพิษ วิธีการคือ นำส่วนหนึ่งของไปเสีย กลับไปผสมกับ[ส่วนผสมของระอองน้ำมันกับอากาศ] ในช่วงเวลาที่เรียกว่า[เผานำ](ก่อนเผาจริง) http://en.wikipedia.org/wiki/Exhaust_gas_recirculation จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 16:42:58

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อน ว่า EGR มีเพื่อลดมลพิษในอากาศครับ ไม่ได้มีไว้เพื่อให้เครื่องยนต์แรงขึ้น โดย EGR จะนำแก๊สเสียที่อยู่ในเพลาข้อเหวี่ยง และละอองน้ำมันที่สามารถติดไฟได้ มาป้อนกลับเข้าในระบบไอดี แทนที่จะปล่อยทิ้งบนท้องถนนครับ จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 16:49:08

ความคิดเห็นที่ 3 จะอุดไปเพื่ออะไรครับ อยากเเรง EGR ออกเเบบมาเพื่อเเบ่งเอาไอเสียบางส่วนกลับมาในห้องเผาไหม้ ทำให้อุณหภูมิในห้องเผาไหม้ลดลง เกิด NOx น้อยลง เป็นผลดีต่อสิ่งเเวดล้อม แต่กำลังลดลงบ้างแต่ไม่ใช่ลดเเบบน่าใจหาย ผมว่ากระบะสมัยนี้มันก็เเรงมากอยู่เเล้วนะไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปอุดเลย ประเด็นเรื่องหลักๆเรื่องเดียวคือคุณภาพไอเสียครับ อุดก็ไม่พัง ไม่อุดก็ไม่พังเเต่เป็นความภูมิใจน้อยๆที่ได้ช่วยรักษาโลกใบนี้ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 16:53:58

ความคิดเห็นที่ 4 ขึ้นอยู่กับจะมองมุมไหนครับ ต่างคนต่างมีเหตุผล อุด ไม่ได้ทำให้แรงขึ้นมามากนัก แต่ปล่อย NOx ไม่อุด บอกว่ารักษ์โลก (แต่เห็นว่ามันปล่อยคาร์บอนออกมามากกว่าการอุด) ฝั่งคนอุด บอก เดิมเปลี่ยน นมค ที่5000 โล แต่พออุด แล้ว เปลี่ยนที่ 10000 โล แทน เค้าก็มีส่วนรักษ์โลกเหมือนกันไม่ใช่หรือ (ลดการใช้ นมค ) ฝั่งไม่อุดบอก พวกเห็นแก่ตัว ปล่อยให้คนอื่นดมควันพิษ ทำร้ายลูกหลานตัวเอง เห็นแก่ความแรงเล็กๆน้อยๆ รวมถึงพวกฆ่าแมว(ทะลวงแคท)ด้วย ฝั่งคนอุด บอก EGR ของดีเซลเมืองไทย มันไม่ใช่แบบที่อยู่ในรถยุโรป มันทำเพียงแค่ให้ผ่านมาตรฐาน ยูโร เพื่อเอาไปขายนอก และโฆษนาเท่านั้น โดยไม่คำนึงว่าอายุการใช้งาน ของอุปกรณ์ต่างๆ เช่นแหวน ลูกสูบ มันจะเสื่อนเร็ว (ที่นี่เมืองไทย ซื้อรถทีต้องใช้เกิน5ปีนะเฟ้ย) ฝั่งไม่อุดบอก เค้าคิดมาดีแล้ว วิศวกรออกแบบมาดี จะมาฉลาดกว่าเค้าทำไม มารชัดๆ เรื่องนี้ออกแนวเหมือนกีฬาสี ยิ่งคุยยิ่งยาว แต่ฟันธงได้เลยว่า ทุกคลับ เชียร์ให้อุดEGR ปล.ดีเซลคันไหนมีปัญหาควันดำแล้วเข้าศูนย์ จะถูกอุด ให้เรียบร้อย จากคุณ : ผมอุดตั้งแต่ 50โลแรกครับ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 17:23:02 A:118.174.148.51 X: TicketID:370543

ความคิดเห็นที่ 5 ^ น้ำมันเครื่องธรรมดาสมัยนี้ใช้ได้เป็นหมื่นกิโลเมตรครับ อุดEGR ก็ไม่ได้ทำให้น้ำมันเครื่องอายุสั้นครับน้ำมันเครื่องกระจอกๆสมัยนี้แกลลอนละห้าร้อยก็เกรด CF แล้ว เมื่อสิบปีที่เเล้ว ผมเคยส่ง CH4 ใช้งานที่ 1,000 ชั่วโมงเข้า LAB ของคาลเท็กซ์(ส่งไปสิบกว่าตัวอย่าง) ได้ผลออกมาน้อยกว่าของใหม่ประมาณ 40% มีเพียงคาร์บอนที่เกือบเกิน ตัวเลข 5000 กิโลเมตรนี่ลืมไปได้เเล้ว ตัวเลขนี้คือเกรด CD เมื่อกว่า 20 ปีที่เเล้ว แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 55 20:24:39 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 55 20:23:08 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 17:41:50

ความคิดเห็นที่ 6 มองในมุมของเครื่องยนต์ อุด มันก็ดีต่อเครื่องครับ จะเอาไอเสียกลับเข้าเครื่องไปทำไม มองในมุมของสิ่งแวดล้อม อุด มันก็ปล่อยก๊าซเสียออกมามากกว่าเดิม (เท่าไรไม่รู้) จากคุณ : Sympho เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 18:09:42

ความคิดเห็นที่ 7 ^ เอาไอเสียกลับมาอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ลดลง เกิด NOx น้อยลง Nox ที่น้อยลง ก็จะมี NOx ไปทำปฏิกริยากับไอน้ำที่ได้จากการเผาไหม้น้อยลง NOx เมื่อรวมกับน้ำก็เป็นกรด Nitric กัดกร่อนห้องเผาไหม้ ดังนั้นทั้งในมุมมองของเครื่องยนต์เเละสิ่งเเวดล้อมเค้ามีเหตุผลเค้าถึงทำครับไม่ได้มองด้านเดียว กรดในห้องเผาไหม้หลักๆมาจากสองตัวคือกรดกำมะถัน แก้ด้วยการกลั่นน้ำมันให้มีกำมะถันปนมาน้อยที่สุด อีกตัวก็คือ กรดไนตริก ที่มาจาก NOx เนื่องจากอุณหภูมิห้องเผาไหม้สูงๆ ประเด็นนี้ถึงต้องเเก้ด้วย EGR แก้ไขอีกอย่างก็คือการใส่เบสลงไปในน้ำมันเครื่องเพื่อลดความเป็นกรดในห้องเผาไหม้ ซึ่งการลดกรดในห้องเผาไหม้ก็เป็นการดีทำให้เครื่องสึกกร่อนน้อยลง แลกกับการทำความสะอาดท่อร่วมไอดีผมว่าไม่ใช่เรื่องที่เทียบกันไม่ได้ สกปรกล้างก็หาย สึกกร่อนต้องเปลี่ยน แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 55 11:36:27 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 55 08:45:42 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 55 20:41:17 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 20:39:13

ความคิดเห็นที่ 8 อาจจะเหมือนการถอดวาล์วน้ำออกสมัยก่อนก็ได้ ช่างบอกว่าเครื่องจะได้ไม่ร้อน ทั้งๆที่การถอดออกทำให้อุณหภูมิของเครื่องยนต์ผิดไปจากที่ออกแบบทำงานไว้หมด จากคุณ : KuatengAk เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 21:11:14

ความคิดเห็นที่ 9 1) ถ้าอุดมันดีจริงๆ โรงงานผลิตรถ เขาจะใส่มาให้แพงเสียเงินเปล่าๆทำไมล่ะ EGR ช่วยลดลดอุณหภูมิในห้องเผาใหม่ เพื่อให้ไอเสียสะอาดและลดแก๊ซ NOx มีกันทั้งเครื่องดีเซลและเบ็นซิน 2) อุดแล้วอ้างว่าดี แต่ท่อไอเสียที่เราหายใจเข้าไปทุกๆคนจะมีมลพิษมากขึ้น อาจจะเป็นมะเร็งปอดมากขึ้น ดูจากสถิตติก็ได้เมืองไทยคนเป็นโรคปอดมากไหม 3) ถ้าอยู่เมืองนอก รถต้องตรวจท่อไอเสียทุกๆปี ก่อนต่อทะเบียน อุดแล้วจะไม่ผ่านเพราะมีNOxมากเกินกำหนด ต่อทะเบี่ยนไม่ได้ต้องเอารถไปซ่อม 4) คุณภาพอากาศในกรุงเทพที่ลูกหลานคุณหายใจเข้าไปทุกวันนี้มันแย่มากๆแล้ว เหตุอาจมาจากการอุดEGRก็ได้นะ จากคุณ : joe (aircraftdesigner) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 23:19:14

ความคิดเห็นที่ 10 มีข้อเสียที่ยังไม่พูดถึง คือความสกปรกในท่อร่วมไอดี จากการที่มีไอเสียมาปน ในรถกระบะ นี่คราบไอเสียตกค้างที่ทิ้งไว้เป็นยางดำเหนียว ถึงกับทำให้ วาล์ว EGR ค้าง ไฟ engine ขึ้น ต้องเข้า0กันเลยทีเดียว จากคุณ : อิๆ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 02:13:40 A:61.90.64.98 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 11 อุดครับ รถกูครับ ไม่อุดลองแกะเครื่องออกมาดูสิครับ ร้องยี้แน่ๆ ไอเสียผมก็ดมเหมือนคุณ จากคุณ : ร้อยละสิบสลึง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 02:35:48

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^เหมือนกำขี้ไปปาใส่เพื่อนบ้าน เพื่อนบ้าน : (- -#) คุณทำแบบนี้ทำไม คนอุด : koo ก็เปื้อน ------------------------------ ผม ใช้ีรถดีเซล ผมไม่อุด รถพัง มันก็พังเพราะเราใช้ เราซื้อมันมาใช้ และมันก็พังตามการใช้งาน แต่คนอื่น เขาไม่ได้ซื้อกับเรา เขาไม่ได้ใช้กับเรา และเขาก็ไม่ได้เลือกที่จะดมควันพิษที่เราผลิต อุด EGR ก็เหมือนคุณเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวไว้ในบ้าน เสร็จแล้วก็เก็บขี้หมาขี้แมวของคุณไปเที่ยวปาใส่ เพื่อนบ้านปาใส่คนในเมืองปาใส่คนอื่นๆนั่นแหละ ถ้ารู้เท่าไม่ถึงการเราเรียก ไม่รู้ ถ้ารู้แล้วยังทำโดยไม่ตั้งใจ เรียกโรคจิต ถ้ารู้แล้วยังทำโดยตั้งใจ เรียกเลว เลือกกันเอาเอง ปล.อย่าลืมสูบบุหรีแล้วพ่นใ่ส่หน้าลูกทุกวันด้วยนะ มันคือๆกัน จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 08:13:02

ความคิดเห็นที่ 13 คนอุด ก็เหมือนคนมีส้วม แต่ไม่มีหลุมส้วม ขี้แล้วราดลงคลองไปเลย  แล้วบอกว่า ไม่อยากเก็บขี้ไว้ในบ้าน เหม็น เพาะเชื้อโรค กลัวคนในบ้านจะอยู่ไม่สุข กับอีกคน ทำบ่อส้วม บ่อซึมดีๆ ขี้เหมือนกัน ถ้าส้วมเต็มก็แค่เรียกรถมาดูด   ผมให้ช่างถอดมาลิ้นปีกผีเส้อ และ EGRมาล้าง ทุก 5 หมื่นกิโล เสียค่าแรงในศูนย์แค่ 4ร้อยกว่าบาท รวมvat  ผมไม่คิดว่ามันจะเดือดร้อนตรงไหน จากคุณ : viper_ttt เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 10:12:49

ความคิดเห็นที่ 14 อย่างนี้ต้องแจ้งเทศบาล มาจับไปปรับให้เข็ด พวกอุด EGR เนี่ย ทำเปนหัวหมอ  ชิชิ จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 10:44:44

ความคิดเห็นที่ 15 EGR ในรถกระบะดีเซล(อย่างอื่นไม่ทราบ) มันวนเอาไอเสียมานิ๊ดดดดดดด เดียวนะ แถมยังทำงานตอนรอบเดินเบาเท่านั้น ไม่ได้ทำงานตลอดเวลาซะหน่อย อุดแล้วแรงขึ้นนี่ อุปาทานล้วนๆ ยังเป็นปัญหาได้ขนาดนี้ นี่ถ้าอุดแล้วแรงขึ้นชนิดจริงๆจังๆ ทันตาเห็น จะเป็นไงเนี่ย ไอ้คราบสกปรกในท่อไอดี ถึงเวลาก็ควรไปทำความสะอาด บอก0 ทำให้ก้ได้(ถ้าเข้า0) หรือจะทำเองก้ได้ ตามเวปคลับรถต่างๆ ทำเองกันเยอะแยะ SCVยังถอดล้างกันได้ แค่EGRจิ๊บๆน่า จากคุณ : ยังมีหวัง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 13:07:49

ความคิดเห็นที่ 16 โทษครับ คู่มือรถไม่มีบอกบ้างเหรอครับว่า กี่หมื่นกิโลเมตร ต้องเข้ารับการทำความสะอาดลิ้นปีกผีเสื้อ และวาล์ว EGR รถผมมีคู่มือบอกไว้นะ หรือกะจะไม่ล้างเลย จากคุณ : Air_graphic เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:41:24

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าจะโลกสวย อย่าเอาแค่ EGR ครับ พวกแคทตาไลติกส์ ทุกแสนโล ก็ควรต้องเปลี่ยนครับ ไม่งั้นปล่อยไอพิษครับ ถูกๆก็ตัวละ 5-6หมื่น พูดแล้วเอาให้จริงตามนั้นด้วยน่ะครับ จากคุณ : พวกใส่หน้ากากทั้งนั้น เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 17:01:05 A:61.90.70.244 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ รถที่สำนักงาน วิ่งจนไมล์ตีกลับมาอีก4แสนกว่าโล ไม่เคยเปลี่ยนท่อแคท ไม่ได้ทะลวงแคท มันก็ยังวิ่งได้แรงไม่มีตก ท่อไม่ตันควันไม่ดำ จากคุณ : Air_graphic เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 19:15:53

ความคิดเห็นที่ 19 ท่อไม่ตัน ควันไม่ดำไม่เกี่ยวครับ แต่พลาทินั่มในแคทฯมันเสื่อมตามอายุงานครับ ควันที่ออกมาไร้สีไร้กลิ่น ก็ก๊าซพิษครับ ไม่ใช่ CO2 ล้วนๆ จากคุณ : รีบไปรักษ์โลกจ่ายตังค์ซะ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 03:24:38 A:61.90.70.244 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 20 Tu Quoque? จากคุณ : installation เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 12:44:35

ความคิดเห็นที่ 21 ความคิดเห็นที่ 19   ท่อไม่ตัน ควันไม่ดำไม่เกี่ยวครับ แต่พลาทินั่มในแคทฯมันเสื่อมตามอายุงานครับ ควันที่ออกมาไร้สีไร้กลิ่น ก็ก๊าซพิษครับ ไม่ใช่ CO2 ล้วนๆ จากคุณ : รีบไปรักษ์โลกจ่ายตังค์ซะ   เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 03:24:38 A:61.90.70.244 X: TicketID:365239     =========================================== รถที่ถอดแคทออกหรือทะลวงแคทไม่เคยเจอแบบที่ควันไม่เหม็นเลยครับ เหม็นทุกคัน ส่วนควันจะดำหรือไม่ดำผมว่าอยู่ที่ความสมบูรณ์ของเครื่องเป็นหลักมากกว่า ไม่เกี่ยวกับแคทเท่าไหร่ ตัวผมเองตอนนี้ก็สองจิตสองใจครับ แผ่นอุดก็สั่งซื้อมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะอุดหรือไม่อุดดี แต่คิดๆดูแล้วก็โน้มเอียงมาทางไม่อุดครับ ฟังหลายๆท่านในนี้พูดแล้วก็พอคิดได้ พอดีไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวสักเท่าไหร่ จากคุณ : มดทอง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 15:49:43

ความคิดเห็นที่ 22 ลงกล่องดีกว่าไหม ไม่ต้องอุดหรอก จากคุณ : ps000000 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 23:45:11

ความคิดเห็นที่ 23 ฝายอุดเขาบอกว่า คนไทยใช้รถจนเป็นเศษเหล็ก ไม่ได้แค่ห้าปีทิ้งแบบญี่ปุ่น เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว......ระหว่างอุดกับไม่อุด...หลังสองสามแสนกม.ผ่านไป คันที่อุดจะปล่อยมลภาวะน้อยกว่า เพราะ คันที่ไม่อุด เครื่องจะโทรม จะหลวมมากว่า ไม่รู้จริงหรือป่าววว จากคุณ : ประสม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 22:37:36 A:101.109.109.225 X: TicketID:097560

ความคิดเห็นที่ 24 เอาอะไรมาวัดว่าหลวมครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 09:56:51

ความคิดเห็นที่ 25 ที่พูดๆมา เคยศึกษาไหมครับ ว่า EGR ทำงาน ตอนรอบเท่าไรถึงเท่าไร จะมาเหลาให้ฟังว่า EGR จะทำงานย่านรอบต่ำ และปิดตายในรอบสูง ดังนั้น รถที่ไม่ อุด EGR แต่เหยียบลากเกียร์ หรือวิ่งทางไกล 120-140 (ซึ่งเจอกันประจำ) บัดนั้น EGR ปิดการทำงาน เรียบร้อยแล้วละ เหมือน อุด EGR เลย แล้วมันมีค่าอะไร ละ แบบนั้น ผมไม่กลัวหรอก ถ้าคนขับเร็ว เรื่อง EGR ผมกลัวพวกขับช้าในเมือง รถติดๆเนี้ยแหละ EGR ทำงานตลอดเวลา เครื่องโทรม หาเงินมาออกรถใหม่ ในอนาคต กันเลย จากคุณ : Mr.Chiw เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 14:50:54