Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อิเหนาเปลี่ยนแผน ทิ้ง Su-30 หันไปพึ่ง F-16 ซบสหรัฐฯ ติดต่อทีมงาน

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000098673      
     
      ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียได้ประกาศล้มเลิกแผนการจัดซื้อเครื่องบินรบ Su-30 จากรัสเซียทั้งหมดโดยอ้างงบกลาโหมลดลง และสร้างความหวังว่า สหรัฐฯ จะขาย F-16 ที่ใช้แล้วจำนวน 24 ลำพร้อมอัปเกรดให้ นอกจากนั้นอินโดนีเซียเองยังร่วมลงทุนโครงการพัฒนาเครื่องบิน K-FX เทคโนโลยี "สเตลธ์" กับเกาหลี ทั้งหมดนี้จะทำให้กองทัพอากาศมีเครื่องบินเพียงพอกับความต้องการในอีก 20 ปีข้างหน้า
     
      อินโดนีเซียประกาศในปลายปี 2553 จะซื้อ SU-30 MK2 จากรัสเซียอีก 6 ลำ เพื่อให้มีครบฝูงในแผนการจัดซื้อเครื่องบินจากรัสเซียเกือบ 200 ลำ ตลอด 20 ปีข้างหน้า การตัดสินใจครั้งนี้เท่ากับยกเลิกแผนการเดิมทั้งหมด สำนักข่าว Lenta.Ru ในรัสเซียรายงาน ตอกย้ำข่าวของเว็บไซต์ FlightGlobal.Net ในสัปดาห์นี้
     
      ปัจจุบันอินโดนีเซียมีเครื่องบินตระกูลซูใช้งานจำนวน 10 ลำ เป็น Su-30MK/MK2 จำนวน 5 ลำ และ Su-27SK/SKM อีก 5 ลำ โดยแผนการเดิมจะอัพเกรด Su-27 ทั้งหมดขึ้นเป็น Su-30MK2
     
      ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐออกคำแถลงหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบามา ไปร่วมประชุมผู้นำเอเชียแปซิฟิกที่เกาะบาหลีในเดือน พ.ย.ปีที่แล้วระบุว่า พร้อมจะขาย F-16C/D จำนวนดังกล่าวให้แก่อินโดนีเซีย โดยบริษัทล็อคฮีดมาร์ตินผู้ผลิตจะอัปเกรดให้ทันสมัย ด้วยราคาต่ำพิเศษรวมประมาณ 750 ล้านดอลลาร์
     
      "เราคาดหวังว่าจะได้รับเครื่องบินรบเอฟ-16 จากสหรัฐฯ หลังได้รับแล้วจะทำให้เราไม่ต้องการเครื่องบินใหม่อีกตลอด 20 ปีข้างหน้า" สำนักข่าวออนไลน์รางานอ้างคำพูดของ พล.อ.ท.เออร์ริส เฮอร์เรียนโต (Erris Herrianto) ปลัดกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย
      อินโดนีเซียมีงบประมาณไม่พอซื้อเครื่องบินรัสเซีย งบที่มีอยู่พอสำหรับ F-16 "ไฟติ้งฟัลคอน" และ เพื่ออัปเกรดเครื่องบินขนลำเลียงขนส่ง C-130 เฮอร์คิวลีส จำนวน 15 ลำ ที่มีอยู่ รวมทั้งอีก 4 ลำ ที่จะซื้อต่อจากออสเตรเลียในแผนการอัปเกรดเช่นกัน นายทหารคนเดียวกันกล่าว
     
      ในเดือน ก.ย.2553 รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย ปูร์โนโม ยุสเกียนโตโร (Purnomo Yusgiantoro) ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วง 20 ปีข้างหน้ากองทัพอากาศมีแผนจะซื้อเครื่องบินรบซูคอยจากรัสเซียถึง 180 ลำ เพื่อให้มีจำนวนทั้งหมด 10 ฝูง
     
      อย่างไรก็ตามอินโดนีเซียได้เขาร่วมกับเกาหลีใต้ในโครงการพัฒนาเครื่องบินรบยุคใหม่ K-FX ที่ใช้เทคโนโลยีสเตลธ์ และใช้คุณสมบัติที่ดีเด่นส่วนหนึ่งของ F-22 "Raptor" และ F-35 "Lightning" ของสหรัฐฯ โครงการที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2001 นี้ จะผลิตเครื่องบินรบที่ก้าวหน้ากว่า ดาโซลท์ราฟาล (Dassault Rafale) กับ ยูโรไฟเตอร์ไต้ฝุ่น (Eurofighter Typhoon)
     
      อินโดนีเซียมีแผนจัดซื้อเครื่องบินในอนาคตที่ผลิตร่วมกับเกาหลีจำนวน 3 ฝูงๆ ละ 16-22 ลำ นอกจากนั้นยังมีแผนจัดซื้อเครื่องบินลำเลียงแบบ CN-295 ที่ได้รับสิทธิบัตรผลิตในประเทศเองอีกจำนวนมาก ทั้งนี้เป็นรายงานในเว็บไซต์ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย (Tentara Nasional Indonesia Angkatan Udara) หรือ TNI–AU

       ไม่กี่ปีมานี้อินโดนีเซียยังเซ็นซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบเทอร์โบพร็อพ EMB-314 "ซูเปอร์ทูคาโน" (Super Tucano) ของค่ายเอ็มเบรเออร์ (Embraer) แห่งบราซิลอีก 16 ลำ เพิ่งได้รับไป 4 ลำแรก เพื่อใช้แทนฝูงบินโอวี-10 "บร็องโก" (OV-10 Bronco) ที่ผลิตในสหรัฐฯ และใช้งานมาหลายสิบปีแล้ว ทั้งหมดจะใช้ในภารกิจปราบปรามการก่อการร้ายภายในประเทศ FlightGlobal.Net กล่าว
     
      กองทัพอากาศอินโดนีเซียยังต้องทำอีกหลายอย่างในการพัฒนาขีดความสามารถ รวมทั้งการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่เข้าประจำการแทน ยูโรคอปเตอร์ AS332 “ซูเปอร์พูม่า” (Super Puma) ที่ผลิตในฝรั่งเศสอีกด้วย
     
      หากทุกอย่างเป็นไปตามนี้ก็เท่ากับว่าอินโดนีเซียได้ปลดตัวเองออกจากการพึ่งพาอาวุธจากค่ายรัสเซียโดยสิ้นเชิง ตลอด 2 ทศวรรษข้างหน้า
     
      ปัจจุบันอินโดนีเซียเป็นเพียง 1 ใน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเครื่องบินรบ Su-27/30 ประจำการ รองจากเวียดนามและมาเลเซีย ที่ต้องการเครื่องบินรบเอนกประสงค์ปฏิบัติการระยะไกลได้ในทุกสภาพภูมิอากาศ
     
      ในเดือน มี.ค.ปีนี้กองทัพอากาศอินโดนีเซียแถลงว่าประสบความสำเร็จในการติดระเบิดที่ผลิตเองเข้ากับ Su-30MK2 ทิ้งลงทำลายเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และน่าพึงพอใจ
     
      อินโดนีเซียยังส่ง Su-30MK2 ทั้ง 4 ลำเข้าร่วมการฝึกซ้อม Pitch Back กับกองทัพอากาศออสเตรเลียกับอีกหลายประเทศมาตั้งปลายเดือนที่แล้ว และเพิ่งจะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดี 9 ส.ค.นี้ นับเป็นครั้งแรกสำหรับการนำเครื่องบินรบต่างค่ายออกฝึกซ้อมร่วมกันในระดับระหว่างประเทศ.

จากคุณ : CYMG
เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 01:33:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com