ความคิดเห็นที่ 1 ชอบจริงๆ เข้าใจความหมายของภาพ ,ประดับบารมี , คลั่งดารา จิตกรผู้วาด  แสดงความมีฐานะ  มีหลายแบบ มากมายครับ ก็เหมือนคนทั่วๆไป ที่บางคนก็ซื้อของแพงๆไว้ใช้งาน แต่บางคนก็ซื้อใว้อวดชาวบ้าน จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:14:05

ความคิดเห็นที่ 2 ค่าแบรนด์ กว่าเค้าจะดังได้ขนาดนี้ มีหลายชิ้น ที่ไม่ธรรมดา (คนไม่ได้เรียนอาจคิดว่าไม่สวย แต่คนเรียนมา ดูออก เหมือนเพลง jazz คนฟัง pop ทั่วไปมาฟังแล้วไม่รู้เรื่องเลย แต่คนเล่นเป็น รู้ว่า อันไหนจริง อันไหนเล่นมั่ว) พอแบรนด์ ติดตลาด วาดไม่สวย บางชิ้น ยังขายได้ราคาแพง จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:28:53 A:171.7.145.126 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 3 แสดงถึงฐานะ รสนิยม ว่าส฿งส่ง เอาไว้อวดคนอื่น จากคุณ : นายขนมหวาน เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:31:10

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมมีแต่คนจนที่ชอบถามคำถามแนวๆนี้ จากคุณ : cakecheeze เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:34:34

ความคิดเห็นที่ 5 เหมือนเพื่อนผมละมั้งชอบซื้อโมเดลต่างๆ ซื้อครบชุดมีซื้อรุ่นลิมิเต็ดได้อีกราคาก็ไม่ใช่จะถูกๆ 3500 อัฟมันซื้อทุกเดือน เดือนละตัว ผมมองว่าไร้สาระแต่มันบอกว่ากลับบ้านมาหายเหนื่อย ผมเองก็สะสมหนังสือบางคนก็ว่าไร้สาระเพราะไม่ได้ใช้(คนว่าผมอ่่านนิยายแปลอะนะ) แต่ผมก็มีความสุขที่ได้เจอหนังสือดีๆเก่าๆที่เคยอ่านสมัยเด็กๆ ป.ล.กลับบ้านไปแม่เอาหนังสือธรรมชาตินานาสัตว์มัดรวมการ์ตูนชั่งโลขาย เสียดายมาก-*- จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:43:17

ความคิดเห็นที่ 6 มันมีจิตวิญญาณ !!! จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:43:38

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ได้อยากมีเรื่อง แต่รู้สึกว่าคำถามนี้ "ดูถูก ดูหมิ่น ศิลปะ..." มากไปนะ จากคุณ : dhiti เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:44:13

ความคิดเห็นที่ 8 พอๆกับบ้าดารานั่นแหละ บางคนนะ พ่อแม่ตัวเองแท้ๆ เดินลงจากเครื่องบิน บางทียังขี้เกียจไปรับเลย แต่ถ้าดาราเดินลงจากเครื่องบิน เผลอๆไปนอนค้างคืนที่สนามบิน เพื่อรอรับด้วยซ้ำไป จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:44:23

ความคิดเห็นที่ 9 บางคนซื้อของปลอมมาติดโชว์ตั้งนานโดยไม่รู้ตัวเพราะดูไม่ออก ต้องมาพิสูจน์กันยุ่งยากอีก บางคนก็ซื้อมาด้วยความถูกใจจริงๆไม่สนใจว่ามันของจริงหรือปลอม แต่มีสตางค์ก็ไม่เดือดร้อน อันนี้น่านับถือ เคยมีคนไทยบางคนเสียเงินมากมายถึงขนาดต้องขายที่ดิน เพื่อเอาเงินมาดำเนินการพิสูจน์ว่าภาพที่ตัวเองมีอยู่เป็นฝีมือของศิลปินดัง จากคุณ : ชมรมคนรักหมา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:45:33

ความคิดเห็นที่ 10 ห้องวิทยาศาสตร์ ยกตัวอย่างแบบวิทยาศาสตร์หน่อย เช่น ภาพดอกทานตะวันของแวนโก๊ะ ที่เขาต้องการให้มีสีเหลืองที่ไม่เหมือนใคร ใน 1 ตารางเซ็นของดอกทานตะวัน แวนโก๊ะป้ายสีเหลืองนับพันครั้ง จากคุณ : interaction เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 20:02:16

ความคิดเห็นที่ 11 ทำไมตันจึงแจกเงิน10ล้าน  ก็เพื่อ   ????????????????????? จากคุณ : teepattaya เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 20:15:38

ความคิดเห็นที่ 12 วงการศิลปะโดนลดคุณค่าด้วย การตลาด ทุนนิยมสามานย์ ของแบบนี้มันต้องวัดคุณค่าความงดงามด้วยใจ ใช้ใจแลกใจ ศิลปะถึงจะมีพลัง มีความขลัง เป็นปรมัตถ์ วิจิตรพิสดารเกินหยั่งคาด เสพรับลิ้มรสแต่ละทีก็ไม่มีเบื่อ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 55 21:06:46 จากคุณ : Kuroro Lucifer เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 21:02:13

ความคิดเห็นที่ 13 สังเกตได้ว่าศิลปินที่ดังหลายคนในยามมีชีวิตไม่มีใ:-)ซักคน กินแกลบลิ้มรสความงาม บรรลุขอบเขตพิสดารแห่งศาสตร์ศิลป์จวบจนสิ้นลม จากคุณ : Kuroro Lucifer เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 21:08:58

ความคิดเห็นที่ 14 เก็งกำไร จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 21:18:20

ความคิดเห็นที่ 15 ศิลปินดังไม่รวยอาจจะเป็นเพียงนิทานนะครับ เพราะศิลปินดังมักจะมีเศรษฐีมาง้อให้ไปทำโน่นทำนี่ให้ เรื่องเงินน่าจะมีเยอะกว่าชาวบ้านร้านตลาดแหละครับ(ลองคิดดูสมัยก่อนคนจนจะเอาเวลาที่ไหนมาเรียนศิลปะกันครับ เค้าก็คงต้องใช้แรงงานตั้งแต่เด็ก) เพียงแต่ศิลปินมักทำตัว"แนว"ก็เลยไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างคนรวยทั่วไปมากกว่า อย่างอาจารย์ศิลปะดังๆของไทยสมัยนี้ ถ้าทีวีไม่ไปถ่ายบ้านมาให้ดูจะรู้ไหมว่ารวยครับ แต่ละคนห่มผ้าพื้นบ้าน เดินต๊อกๆอยู่ตามวัด ถ้าคนไม่รู้จักโพรไฟล์มาก่อนไม่มีใครคิดว่าเป็นคนรวยหรอกครับ จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 21:24:00

ความคิดเห็นที่ 16 มันมีจิตวิญญาณของคนวาดแฝงอยู่ครับ คนที่คลุกคลีในด้านนั้นๆ จะเข้าใจในความมีคุณค่าของมันครับ แต่ส่วนหนึ่งก็ซื้อมาอวดคนอื่นๆด้วยน่ะนะ จากคุณ : เดินผ่านแล้วแอบดู เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 22:19:25

ความคิดเห็นที่ 17 เพราะคุณไม่ได้สนใจศิลปะมั้งนะ จะว่าไป ศิลปะไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่คนทั่วไปเข้าถึงนะ ต้องคนที่สนใจจริงๆ จากคุณ : A Boy From The Moon เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 22:34:21

ความคิดเห็นที่ 18 ก็ขึ้นอยู่กับการยอมรับของคนกลุ่มหนึ่งครับ ของพวกนี้มีค่าสำหรับบางคนเหมือน อัญมณี เพชร พลอย ก็ใช่ว่าจะมีค่าสำหรับทุกคน แต่มีค่าทางจิตใจสำหรับคนบางกลุ่ม ขอยกตัวอย่าง รถยนต์หรูๆล่ะครับ รูปร่างสวยโดดเด่น ประสิทธิภาพก็ดีกว่ารถยนต์ปกติธรรมดาสักสองสามเท่า ออฟชั่นแปลกๆเสริมมาเยอะหน่อย แต่นั่งเกินสองคนก็ไม่ได้ ขนของเยอะก็ไม่ได้ กินน้ำมันก็เยอะ แต่เพราะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คนก็ยอมจ่ายเงินซื้อมันแม้จะแพงกว่าหลายสิบ หลายร้อยเท่า ใครที่ชอบไลฟ์สไตล์แบบเดียวกันเห็นก็คงแอบฉิจฉา ส่วนบางคนที่ไม่ใช่แนวก็เฉยๆ รถธรรมดาๆก็ขับได้เหมือนกัน ขนคน ขนของได้เยอะกว่า ประหยัดด้วย แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 55 22:42:05 จากคุณ : ความเห็นส่วนตัว (greence350z) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 22:38:47

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบไม่ยาก  แต่จะสื่อให้เข้าใจยากค่ะ ความชอบเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้  ความรู้สึกก็จับต้องไม่ไ้ด้เหมือนกัน  บางคนเงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง  แต่ความอิ่มเอมใจเป็นพลังผลักดันทุกอย่าง ดิฉันเรียนด้านนี้แหละขีด ๆ เขียน ๆ ตอนเรียนป้าก็กุมขมับ  จบมาแล้วจะทำไรกินลูก  ศิลปินไส้แห้งเป็นแน่ ยังไม่จบค่ะ  และยังอวบอ้วนน่ารักเหมือนเดิม  บางทีได้ทำสิ่งที่ชอบและมอบให้คนที่ชอบด้วยเหมือนกัน  แม้ไม่มีราคาค่างวด  ไม่ได้รับเงินตอบแทน  แต่ค่าที่เขาเอาสิ่งที่เรามอบให้ติดไว้กลางบ้านชื่นชมเช้าเย็น และทุกครั้งที่เห็น  เป็นยิ่งกว่าน้ำเงินที่ควรได้รับอีกค่ะ   อีกหน่อยคงผอมไส้แห้ง  ถ้าจบเป็นศิลปินแล้ว  เห็นมั๊ยเรียนศิลปดีอย่างนี่นะเอง  จบแล้วจะผอมสวยเองอัตโนมัติ เงินมีค่ามั๊ย  มีค่ะ มากด้วย ศิลปะมีค่ามั๊ย  (สำหรับคนดูรูปแปลก ๆ แล้วชื่นชมโสมนัส ^^ )   ......ศิลปะ มีค่าพอ ๆ กับเงินเพราะในทุกธุระกิจที่เงินมีส่วนร่วมจะแทรกศิลปะทุกแขนงอยู่ด้วยค่ะ จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 22:39:27

ความคิดเห็นที่ 20 เอาความชอบส่วนตัวล้วนๆ แต่บางภาพ อายุของภาพ ผู้วาดก็เป็นตัวกำหนดราคา จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 22:41:35

ความคิดเห็นที่ 21 คห.13 พึ่งรู้ว่า คำว่า ใครลวย ก็โดนแบนแล้ว ระบบเซนเซอร์คำกากๆแบบนี้มีส่วนต่อพัฒนาการภาษาวิบัติปัจจัยนึงเลยนะ จาก ประสบการณ์ส่วนตัว แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 55 22:58:56 จากคุณ : Kuroro Lucifer เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 22:58:30

ความคิดเห็นที่ 22 ก็เหมือนกระเป๋ายี่ห้อแพงๆนะแหละ ทำที่จีนเหมือนกัน แต่แค่แปะยี่ห้อดังๆหน่อย ค่าตัวก็พุ่งเป็นแสน คนเราพอปัจจัย4ครบ มีเงินเหลือเยอะ ก็จะสนองความต้องการต่างไป ศิลปะ มันขึ้นกับความพอใจ จากคุณ : s เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 23:14:23 A:49.48.116.150 X: TicketID:165031

ความคิดเห็นที่ 23 "นานาจิตตัง" จากคุณ : MEngineer เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 23:31:59

ความคิดเห็นที่ 24 ศิลปะเป็นภาษาใจค่ะ เค้าบอกว่าถ้าคุณได้ชื่นชมงานศิลปะแล้วรู้สึกจับใจ ก็คือคุณอ่อนไหวพอที่เข้าใจอารมณ์นี้ คุณก็ได้คำตอบแล้วว่าทำไมคนถึงชอบ แต่ถ้าดูแล้วคุณไม่ชอบให้ถามคนที่เค้าชอบ คุณก็จะได้คำตอบค่ะ ^ ^ จากคุณ : ใบแพรว เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 23:38:33 A:69.237.0.205 X: TicketID:189734

ความคิดเห็นที่ 25 ยกตัวอย่างง่ายๆ ศิลปก็เหมือนดนตรีเหมือนความรักน่ะครับ ชีวิตไม่มีมันก็ไม่ตาย แต่มันคือน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ ไม่มีมันชีวิตก็ไม่มีความหมาย ดนตรีเสพทางหู  ศิลปะเสพทางตา  ความรักเสพทางใจ ภาพศิลปินดังๆ เหมือนฟังโมสาร์ท ครูเอื้อ บอดีสแลมป์ ใครๆ ก็อยากได้ผลงานไว้ครอบครอง จากคุณ : jo guevara เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 00:16:35

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นการลงทุน เพราะรู้ว่าซื้อมาจะขายได้ในราคาที่แพงกว่านั้น เคยดูโดราเอมอนตอนที่ทุกคนเห็นว่าฝาขวดน้ำอัดลมมีค่ามั้ยครับ ตอนนั้นโนบิตะเกือบได้ขายฝาขวดรุ่นพิเศษในราคาสูงลิ่ว จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 00:17:17

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่ามันเป็นเรื่องของคุณค่าทางจิตใจ... ผมเชื่อว่า ภาพ1ภาพแทนคำพูดได้นับพัน ไม่แปลกเลยในบางครั้ง ผมเองอาจยืนมองภาพๆ หนึ่งได้นานเกือบชั่วโมง ถึงตัวเองไม่มีเงินที่จะสามารถซื้อภาพแพงๆ ไว้เชยชมได้ แต่ผมก้อมักวะแวะไปหอศิลป์บ่อยๆ เพื่อไปเสพความงาม ของภาพเหล่านั้น... จากคุณ : Khaikung (odoji18) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 00:33:31

ความคิดเห็นที่ 28 เงินน่ะ เมื่อมีมากพอ มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไปแล้วครับ สิ่งที่คนต้องการในระดับต่อมาก็คือ การยอมรับ และ ชื่อเสียง ซึ่งการได้ครอบครอง แรไอเท็มที่มีเพียงชิ้นเดียวในเซิฟเวอร์ มันสามารถเติมเต็มความต้องการของเขาได้ จากคุณ : รอเธอโสด เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 01:06:33

ความคิดเห็นที่ 29 เหมือนเด็กๆเห่อ การ์ดยูกิ... ทั้งๆที่กระดาษธรรมดา แต่ไหงราคามันเว่อร์ ของพรรณนี้มันขึ้นอยู่กับความต้องการและยื่งของที่มีน้อยหรือแค่ชิ้นเดียวและมีความต้องการสูงก็ย่อมมีราคาแพง ยกตัวอย่าง  ส.ค.ส. ของพ่อหลวงของเรา ที่ท่านทรงประทานให้ทุกปี แจกจ่ายให้กับประชาชนทุกคนจากตามสื่อและอินเตอร์เน็ท... ลองคิดว่าถ้าท่านประทานให้แค่ชิ้นเดียวสิ จะมีราคาค่างวดเพียงใด จากคุณ : เบิ้มจัง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 01:19:40

ความคิดเห็นที่ 30 เหมือนเก็บพระเครื่องอ่ะ จากคุณ : เจ้าเด็ก เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 02:36:39

ความคิดเห็นที่ 31 1. เอาไว้เสพ 2. เอาไว้อวด 3. เอาไว้เก็งกำไร สรุปแล้วคงมีแค่นี้มั้ง จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 07:58:18

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเสนอมุมมอง จากธุรกิจด้านมืดครับ ผลงานศิลปะ มีประโยชนในการเลี่ยงภาษีมหาศาล ด้วยทุกวันนี้ เวลาทำบริษัท ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถนำไปเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ เช่นค่ารับรองท่านๆ ค่ารถยนต์ส่วนตัวผู้บริหาร ค่าน้ำมันหล่อลื่น ผลงานศิลปะที่ไม่มีราคาตายตัว ขึ้นอยู่กับการตีค่า สามารถมาอุดช่องโหว่ตรงนี้ได้ จากคุณ : รวมพล คนธรรมดา เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 09:41:34

ความคิดเห็นที่ 33 พระอรหันต์ จะมองกว่า พวกเราสะสมเงินไปทำไม เดี๋ยวก็ตายแล้ว คนเราบ้ากันไปคนละอย่าง บ้าหญิง บ้างาน บ้าเงิน บ้ารถ บ้าเหล้า... จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 09:56:20

ความคิดเห็นที่ 34 สำหรับฟอกเงิน จากคุณ : Mr.Tayy เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 10:49:19

ความคิดเห็นที่ 35 เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ศิลปินดังๆ คือคนที่คิดอะไรใหม่และเปลี่ยนวิธีคิดแบบเดิมในช่วงเวลาของเขา ไม่ได้ต่างจากนักฟิสิกส์หรือนักเคมีที่ได้โนเบลนั่นแหละ ก็ถูกในบางมุม ถ้าพูดแบบหยาบคาย งานศิลปะก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนที่ชอบพระเครื่อง จะเช่าพระเครื่องทำไม ทั้งๆที่มันเป็นแค่ดินปั้นผสมกล้วยบ้างข้าวสุกบ้าง เศษสำริดหรือโลหะที่หล่อบ้าง มันก็แค่ดิน แค่เหล็ก .....แต่คำถามที่พวกคุณหลายคนดูถูก มันก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด     ถามตัวเองว่าทำไมรูปถ่ายของผู้ใหญ่ในครอบครัวที่เสียชีวิตไปถึงทำให้เรารู้สึกดีทุกครั้งเวลาที่แหงนหน้ามอง  ผมคิดว่าพวกคุณคงไม่สนใจมั้งมันไม่เป็นวิทยาศาสตร์นี่  เหตุผลของศิลปะราคามันคล้ายๆกันนั่นแหละมันเป็นความรู้สึกล้วนๆ ที่เอาเหตุผลมาจับต้องลำบากแต่มันก็มี  เวลาเมิงฟังเพลงเพราะๆจนน้ำตาไหลเมิงมานั่งวิเคราะห์หรือไง ว่าเสียงไหนทำเมิงเศร้ากันอ่ะคะ ระ รวย จากคุณ : ณ ดินแดนแห่งความบ้าคลั่ง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 11:24:07

ความคิดเห็นที่ 36 32 ค่ะ ในต่างประเทศ  งานศิลปมีหมายเลขงานกำกับ  มี certificate คุ้มครอง  และมีใบเสร็จรับรองเพื่อทำประกันภัย   การฟอกเิงิน  ไม่มีใครเอางานศิลปออกมาแปลงการฟอกเงินหรอกค่ะ  โจ่งแจ้งเกินไปและตรวจสอบง่ายมากกกกกกก จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 11:36:18

ความคิดเห็นที่ 37 คนเราไม่ได้อยู่ได้เพราะ กิน ขรี้ ปี้ นอน นะ สุนทรีย์ การพักผ่อน การเสพ ศิลปะ มันต้องมีด้วย ง่ายๆ การดูหนัง ละคร เกมโชว์ เล่นกีฬา ฟังเพลง เราขาดไม่ได้หรอก นะ จากคุณ : chan ty เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 12:24:53

ความคิดเห็นที่ 38 เพราะเจ้าของกระทู้เสพ   Art    ไม่เป็นไง   ก็เลยเฉยๆ อีกอย่างหลายคนรายได้ต่ำเกินไป  ที่จะซื้องานศิลปะ ผมมีเพื่อนเป้นศิลปิน   อยู่เมืองไทยแทบจะอดตาย    ลูก  ๔  คน   ต้องเอาไปฝากแม่เลี้ยง   อาศัยวัดอยู่เพื่อวาดภาพ    เป็นศิลปินไส้แห้ง    หลายคนดูถูก ตอนนี้ไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย   ไปเขียนภาพขาย   มีเงิน    มีบ้าน   รับลูกๆ  ไปเรียนที่โน่นหมดแล้ว จากคุณ : น้อง18506 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:45:04