มีคำกล่าวว่า
"หากอาจจะทราบว่าโบราณ นักคณิตศาสตร์/นักดาราศาสตร์/นักโหราศาสตร์ภาคคำนวณ
ได้คำนวณกันอย่างไร ให้ไปดูคัมภีร์โหราศาสตร์ภาคคำนวณโบราณ"
ก็คงไม่เกินเลยกระมัง..
หากไม่มีพื้น คัมภีร์เบื้องต้น คือ คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัส มาก่อน
จะค่อนข้างมึนเอาได้ใน คำศัพท์เทคนิคอล ที่เฉพาะทาง เอามว๊าาากกๆๆได้
หากให้อธิบายแบบย่อๆ ถึงระบบคณิตศาสตร์โบราณ ที่ปรากฏในคัมภีร์นี้
เราจะสามารถเห็นได้ทั้งการคำนวณสมัยที่ยังไม่เกิด ระบบเลขทศนิยม
ที่ต้องมีกรรมวิธีกระจายตัวเลขตัวตั้งและตัวหาร
ออกอย่างมากมายก่อนทำการหาร เพื่อให้ได้ค่าความละเอียดมากๆ
เช่น ดูในขั้นตอนที่ ๑-๕ ที่แปลง อุณทิน (day number)
ไปเป็น พลอาทิตย์ พลจันทร์ พลราหู ก่อนคำนวณหาตำแหน่งดาวต่อๆไป
หรือ อย่างระบบคำนวณตรีโกณมิติสมัยโบราณ
ก่อนจะเกิดเป็น sin cos อย่างในสมัยปัจจุบัน
ที่ปรากฏในการคำนวณที่เรียกว่า "ฉายาเท่าขันธ์"
ในช่วงขั้นตอนข้อที่ ๑๔ - ๑๘ โดยประมาณ
คำว่า "ฉายา" คือ sine (ไซน์) นั่นเองแหละครับ
(นอกจากนี้ยังมี "โกฏิฉายา" ก็คือ cosine (โคโซน์)
แต่ไม่มีความจำเป็นสำหรับการคำนวณคราส จึงไม่ปรากฏในคัมภีร์นี้)
หรือ อย่างระบบคล้ายๆแคลคูคัส differentiate ดังที่กล่าวไป
ในการคำนวณหา "ภุกดิ" และ "ภุกดภุกดิ"
ก่อนจะปรับ ได้เป็นค่า "สมรวีกุลา" "สมจันทรกุลา"
และได้ผลลัพธ์เป็น "ตักกลารวี" = "ตักกลาจันทร์" และประมาณ= "ตักกลาราหู"
ซึ่งเป็นกระบวนการคำนวณหา
ตำแหน่งพระอาทิตย์ พระจันทร์ ในบริเวณจุด node คือ ราหู
อันช่วงเวลาสำคัญแห่งการเกิด ปรากฏการณ์ สุริยคราส ในที่สุด
ตามกรรมวิธีคำนวณหา คราสแบบโบราณที่ตกทอดมาสู่สยามครับ