ความคิดเห็นที่ 1 ดีซีมอเตอร์ลองทำอย่างในรูป แล้วจะเข้าใจการทำงานนะ ใช้ลวดทองแดง กับถ่านไฟฉายกับแม่เหล็กที่ติดอยู่ที่ก้นถ่านขั้วขั้วลบ ดัดลวดให้บาล้าน ติดกับขั้วบวกตั้งได้ อย่างในรูป ปลายลวดจะมาแตะกับถ่าน ตรงแม่เหล้กขั้วลบข้างล่าง เมือมีกระแสไหลลวดทองแดง จะมีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าผลักกับสนามแม่เหล็กกาวรที่ก้นถ่าน มันจะหมุนได้ เพราะแปรงถ่านจะทำหน้าที่สลับขั้วให้ลวดเป็นแม่เหล็กไฟฟ้า จึงหมุนต่อไฟได้จากแรงเฉื่อย จากคุณ : joe (aircraftdesigner) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 00:40:09

ความคิดเห็นที่ 2 BLDC(brush Less DC)มอเตอร์ เนื่องจากแปรงถ่านเป็นตัวสลับไฟให้ขดลวดอย่างในรูปข้างบน ดีซีบรัสเลส จะใช้ทรานสิสเตอร์สลับขั้วให้ขดลวดแทนแปรงถ่าน ดูรูป นี่คือมอเตอร์พัดลมของเครื่องคอมพิวเตอร์ แกะเอาจากพัดลมที่เสียแล้ว หรือจะซื้อใหม่ก็ได้ราคาไม่แพง จะเห็นว่าขอบใบพัดจะมีแม่เหล็กเป็นวงกลมๆติดอยู่ ขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าจะติดกับแผ่นปริ้น ที่แผ่นปริ้นจะมีทรานสิสเตอร์ทำหน้าที่สลับขั้วให้กับขดลวด มันจึงหมุนต่อไปได้จากแรงเฉื่อยของใบพัด จากคุณ : joe (aircraftdesigner) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 00:49:43

ความคิดเห็นที่ 3 หลักๆก็มีอยู่ 2 แบบคือ 1. แม่เหล็กอยู่กับที่ แต่ใช้ขดลวดเคลื่อนที่แทน แบบนี้ต้องมี แปรงถ่าน ในการตัดต่อไฟเลี้ยงขดลวดให้เหมาะสม 2. ขดลวดอยู่กับที่ แต่แม่เหล็กหมุนแทน แบบนี้จะใช้วงจรควบคุมในการสร้างแรงสนามแม่เหล็กให้สัมพันธ์กับแท่งแม่เหล็กที่กำลังหมุน เด้อค่ะเด้อ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 07:30:37

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆแล้ว มอเตอร์บัสเลส เป็นมอเตอร์ AC ครับ  ต้องมีวงจรจ่ายกระแส AC 3เฟส ที่เค้าเรียกกันว่า สปีดคอนโทล นั่นแหละครับ  บัสเลสมอเตอร์ จะให้แม่เหล็กเป็นตัวหมุน และ ขดลวดทองแดงอยู่กับที่   แล้วให้การสลับเฟส การจ่ายกระแส่แต่ละขด  จนเกิดการหมุน การพันลวด แบบบัสเลย  จะมี 2 แบบ คือ  สตาร์ กับ เดลต้า ส่วน มอเตอร์DCธรรมดา   จะให้แม่เหล็กอยู่กับที่  แล้วให้ทองแดงหมุน  ในขณะที่ทองแดงหมุน แปลงถ่าน จะทำหน้าที่ สลับขั้วการจ่ายกระแสให้กับขดลวดแต่ละขด จนเกิดการหมุนครับ ส่วนความต่างของมอเตอร์ 2 ชนิดนี้   มอเตอร์ธรรมดา  จะมีความร้อน  และการสึกหลอที่แปลงถ่านสูง และการจ่ายกระแสผ่านแปลงถ่าน จะถูกลดทอนลง ตามการสัมผัสจากหน้าสัมผัส ส่วนบัสเลสมอเตอร์ จะเป็นมอเตอร์ ที่มีการสึกหลอต่ำคือมีการสึกหลอที่ลูกปืน หรือเพลา ส่วนการเชื่อมต่อสายทองแดง มีการเชื่อมต่อที่แน่นหนากว่า ทำให้รับกระแสได้ดีกว่า ง่ายๆคือ   แรงกว่า  ทนกว่า  เย็นกว่า   แต่ต้องมี  สปีดคอนโทร (วงจรจ่ายไฟกระแสสลับ 3 เฟส)ครับ จากคุณ : แคมปัส เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 07:33:28

ความคิดเห็นที่ 5 สงสัียมานานเรื่อง DC Brussless Motor ว่าสัญญาณที่ออกจาก Speed control เข้าไปป้อนขดลวด เป็น DC Pluse ที่มีไฟเพียงแค่ด้าน + หรือ - เพียงข้างเดียว หรือว่า เป็น  Pluse ที่มีทั้ง ซีก + และ - ครับ  เพราะถ้าเป็น Pluse ทั้งซีก + และ - ก็จะไม่เรียก DC เพราะมันคือ AC จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 08:19:21

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องเป็นบวกและลบครับ คาบบวกจะต้องเท่ากับคาบลบพอดี ถ้าไม่เท่ากันพอดีจะเหลือเศษเป็นดีซี จะทำให้แกนเหล็กอิ่มตัว วงจรระเบิดหรือขดลวดใหม้ จากคุณ : joe (aircraftdesigner) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 09:20:08

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณคุณ joe มากครับ สรุปมันก็ คือ AC Motor แต่ใช้ไฟ DC ไปเปลี่ยนเป็น AC แล้วจ่ายให้มัน ผมเข้าใจถูกต้องป่าวครับ จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 10:02:32

ความคิดเห็นที่ 8 ใช้แล้วครับ มันใช้ทรานสิสเตอร์แปลงไฟตรงให้เป็นกระแสสลับ ลองแกะพัดลมคอมพิวเตอร์ดูครับ จากคุณ : joe (aircraftdesigner) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 10:30:00

ความคิดเห็นที่ 9 การที่คุณจะเรียกว่าเป็น dc หรือ ac นั้นไม่ใช้อยู่ที่การจ่ายไฟ ณ motor เปลี่ยนพลังไฟฟ้าเป็นทางกลคือการหมุนเป็นจำนวนรอบ ac motor รอบเปลี่ยนแปลงได้เพราะอะไร dc motor เปลี่ยนแปลงได้เพราะอะไร ac รอบแปรผันตามความถี่ ผกผันตาม pole dc รอบแปรผันตาม แรงดันอาเมเจอร์ ผกผันกับ กระแสฟิน(field current) การสลับขั่วของ ac (ไม่ใช่สลับเฟสนะ) มอเตอร์หมุนกลับทางไหม การสลับขั่ว dc มอเตอร์หมุนกลับทางไหม ไม่อย่างนั้นเขาคงเปลี่ยนชื่อเป็น Ac Motor ไปแล้ว เอาความต่างของมอเตอร์ ไม่มีกับมีแปลงถ่าน dc motor มีแปลงถ่าน ขนาดใหญ่นะ ตัวที่อยุ่กับที่คือ stator เป็น field ตัวสร้างสนามแม่เหล็ก สนามแม่เหล็กหรือ flux แปลผันตรงกับกระแสที่จ่าย ตัวที่หมุน rotor เป็น armature อามาเจอร์ ได้รับไฟจากแปรงถ่านโดยผ่านคอมมิวเตเตอร์อีกที ทำงานเหมือนแม่เหล็กเมื่อขั่วต่างกัน ก็เกิดการพลักกัน ไปเลื่อยๆโดยเกิดจากคอมมิวเตอร์อีกทีที่จ่ายไฟให้กับขดลวดชุดใหม่ที่ถูกพลักมาอีกทีเป็ยอย่างนี้ไปเลื่อยๆ dc motor ไร้แปลงถ่าน ตัวหมุนคือ field ใช้แม่เหล็กถาวร flux คงที ปรับเปลี่ยนรอบด้วยการเปลี่ยนแรงดันที่ Va ตัวที่อยุ่กับที่คือ armature อามาเจอร์ ข้อดีไม่ต้อง ซ่อมบำรุงบ่อย กับ โครงสร้างเล็กลงและผมว่าจะได้รอบที่เสถียรมากกว่าเพราะ flux คงที่ อีกอย่าง field loss ไม่มี ตัวแปรงเรื่องความเร็วมีที่ armaturev อย่างเดียว จากคุณ : muvga (muvga) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 11:13:08

ความคิดเห็นที่ 10 คุณmuvga รบกวนอธิืบายนิดนึงครับ ว่า AC Brushless ต่างจาก DC Brushless ในส่วนของตัวมอเตอร์ เทคโนโลยี่ต่างกันอย่างไรครับ จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 13:59:03

ความคิดเห็นที่ 11 ตั้งกระทู้มาครับ จากคุณ : xxx (muvga) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:57:40