ความคิดเห็นที่ 1 ท่า ท่า ๑ ความหมาย น. ฝั่งนํ้าสําหรับขึ้นลงหรือจอดเรือ, ท่านํ้า ก็เรียก, ที่สําหรับขึ้นลงริมนํ้า เช่น ท่าข้าม; โดยปริยายหมายถึงที่จอดยานพาหนะบางชนิด เช่น ท่าเกวียน ท่าอากาศยาน; เรียกนํ้าในแม่นํ้าลําคลองว่า นํ้าท่า, คู่กับ นํ้าฝน. ท่า ๒ ความหมาย น. ลักษณะท่วงทีของร่างกายที่อยู่นิ่ง ๆ ในบางอิริยาบถ เช่น ท่ายืน ท่านั่ง ท่านอน; การแสดงกิริยายกมือยกเท้าเป็นต้นตามกําหนดเป็นวิธีไว้ เช่น ท่ามวย ท่ารํา; ชั้นเชิง, ท่วงที, วิธี, เช่น พลาดท่า ได้ท่า เสียท่า. ท่า ๓ ความหมาย ก. รอคอย เช่น เหตุไฉนรีบมาไม่ท่ากัน. (อิเหนา), มักใช้เข้าคู่กับ คอย หรือ รอ เป็น คอยท่า รอท่า. ถ้า ถ้า ความหมาย สัน. คําแสดงความคาดหมาย คาดคะเน หรือข้อแม้, ผิ, แม้, หาก. ถ้าว่า, ถ้าหากว่า สัน. ผิว่า, แม้ว่า, หากว่า. จากคุณ : ped cad เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 10:12:33

ความคิดเห็นที่ 2 ติดแก๊สได้มั้ยครับ จากคุณ : ntbnk เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 10:17:35

ความคิดเห็นที่ 3 คห. 2 เนอะๆ ติด LPG พอฉุกเฉินระเบิดหมดก็ปลดถังแก๊สสำรองทื้งใส่เลย เป็นระเบิดนาปาร์มน้อยๆ จากคุณ : stryker เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 10:20:40

ความคิดเห็นที่ 4 นั่นสินะ ท่า -*- โทษทีครับ จากคุณ : monkeymosba เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 10:54:44

ความคิดเห็นที่ 5 1 รัศมีทำการ 800 กิโลเมตร 2 ลำตัวตอนบนครับ 3 เรดาร์ AESA คืออะไร เป็นมัลติโรลเรดาร์เฟสอะเรย์สแกน active electronically scanned array (AESA) radar แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 12:25:35 จากคุณ : พัดกุ้ง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 12:24:26

ความคิดเห็นที่ 6 Gripen ไม่ติดถังน้ำมันอยู่ที่ราว 800 กม.ครับ(บินไป-กลับ) ส่วนติดถังน้ำมันสำรอง 3 ถังอยู่ที่ 1500 ของ f16 จำไม่ได้ครับ จากคุณ : Wizzard เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 13:28:36

ความคิดเห็นที่ 7 ขอตอบเรื่อง radar ก่อนครับ --ต้องบอกก่อนผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้าน radar แค่พอรู้  อาจจะพูดผิด ก็ขออภัย.. --ขออธิบายคร่าวๆ PESA passive electronically scanned array เป็นการสร้างคลื่น ด้วย high-power Radio frequency(RF) source (transmitter) แบบเดี่ยว เพื่อส่งคลื่น phase shift modules ด้วย digitally-controlled  เป็นตัวควบคุม และการควบคุมการเป็น transmitting และreceiving จะใช้คาน ซึ่งเป็นส่วนของการแสกน หรืออธิบายอีกอย่าง คือใช้ Electronic steering and shaping of a beam  เป็นตัวควบคุมการทำงานแต่ละMode  ซึ่ง phased array 1ชุด จะทำงานได้หลายหน้าที่ พร้อมกัน ซึ่งแตกต่างจากmechanical scanning systems  เช่น PESA สมารถทำงานเป็น ระบบเตือนภัย (ตรวจจับ) ได้ด้วยการปรับเปลี่ยนลักษณะของone beam shape and scan pattern (รูปร่าง และการแสกนแบบหนึ่ง) และในขณะเดียวกัน มันก็สามารถค้นหาเป้าหมายภาคพื้นดินได้ พร้อมกัน ด้วย one beam shape and scan pattern (รูปร่าง และการแสกนแบบอีกแบบหนึ่ง) **ปัญหา เนื่องจากมันใช้แหล่งpower Radio frequency(RF) source (transmitter)  แหล่งเดียว จึงเกิดการรั่วไหลของสัญญาน ซึ่งเมื่อเกิดปัญหานี้ ทำให้ลดความไหวของ radar เอง ซึ่งถ้า เป็น PESA รุ่นแรกๆ จะเกิดปัญหานี้มาก แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยที่มัน เป็นelectronically scanned  จึงทำงานได้เร็วกว่า mechanical scanning มาก รวมถึงการทำงาน แบบ multi-tasking หลายๆ mode พร้อมกันได้ AESA เหมือนPESA แต่เปลี่ยนให้แต่ล่ะ transmitting elements (T/R transmitter-receiver)  ที่มีจำนวนมากนั้น สร้าง RF source ได้เอง อิสระ ซึ่งวิธีนี้ ถ้าเกิดปัญหา transmitting elements บางตัว ล้มเหลว radar ก็สามารถทำงานต่อได้ ซึ่งผิดจาก PESA ที่ถ้าล้มเหลวตัวเดียว ก็ไปหมด และในแต่ T/R(transmitter-receiver) นั้นจะต่อเชื่อมกับ high-speed processors.  โดยแต่ล่ะ high-speed processors จะสร้าง transmitter, receiverและ processing power เป็นของตนเอง  ซึ่งแต่ล่ะT/R นั้นยังโปรแกรมได้ว่าทำงานยังไง ซึ่งถือว่า เป็นการทำงานแบบหลายหน้าที่ (multi-tasking) อย่างแท้จริง เช่น ทำงานเป็น warning receiver  และขณะเดียวกัน เป็น jammer ในเวลาเดียวกัน โดยปกติ AESA จะมีประสิทธิภาพกว่า radar รุ่นเดิมกว่า 10-30 เท่า และทำงานได้เร็วกว่า PESA และ mechanical array กว่า10-100 เท่า สิ่งที่ AESA มีนอกเหนือกว่าอันอื่น 1.ทนต่อการ ECM (Electronic countermeasure)ของข้าศึก 2.ด้วยที่ว่ามันทำงานเร็วมาก (fast scan ) จึงยากต่อที่ ECM device ของข้าศึกที่จะหา azimuth และ elevation เพื่อที่จะ jaming ได้ 3.ลดปัญหาไฟไม่พอ เพราะใช้พลังงานน้อยกว่า 4.ทำหน้าที่เป็น Radar warning receiver ได้ ซึ่งเป็นการลดโอกาสการตรวจจับของข้าศึก 5.High jamming resistance นอกจากทำงานได้เร็วแล้ว ในแต่ล่ะคลื่นจะมีลักษณะแตกต่างกัน ซึ่งโอกาสที่จะ jam ทำเลียนแบบนั้นยากมาก 6.ทน อึด กว่า PESA ----เหตผลบอกไปแล้วข้างบน 7.ลด RCS ถ้าเปลี่ยนจาก mechanically scanned array  เป็น AESA   8.มุมครอบคลุมกว้างกว่า mechanically scanned array จากคุณ : Hongse_c เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 13:33:30

ความคิดเห็นที่ 8 (8) AESA สแกมมุมกว้างสุดอยู่ที่ 120 องศา หน้าตัดเรด้าร์จะเล็กลง เพราะตัดแกนเคลื่อนไหวออก(7) และยังทนทาน ซ่อมบำรุงง่าย ยกเว้นของ rafale,eurofight จะผสม AESA กับแกนเคลื่อนไหวด้วย ทำให้มุมสแกนกว้างขึ้น AESA สามารถทำ Electronic warfare ได้เลยไม่ต้องติดกระเปาะ* AESA สามารถสแกนค้นหาเป้าหมาย เมื่อเจอเป้าสามารถแทรคตามเป้าได้หลายๆเป้า(ใน youtube บอก 21 เป้าใน 9 วินาที) รู้ความเร็วทิศทาง ความสูง ระยะทาง ระบุฝ่ายได้ ยังสามารถชี้เป้าให้กับอาวุธจรวดนำวิถีได้ด้วยในคราวเดียวกัน พร้อมๆกับแสกนตรวจจับเป้าหมายภาคพื้นดิน และเเยกเยอะเรนเดอร์สร้างภาพวัตถุ และพื้นผิว จดจำเป้าหมายให้เสร็จ F-16 ไทยล่าสุดจะเป็น AN/APG-68 V9 ดอปเลอร์เรด้าร์ลองเรนท์ ทั่วโลกทยอยเปลี่ยน เฉพาะของสหรัฐ AESA radar by Northrop Grumman AN/APG-77, F-22 Raptor AN/APG-80, F-16E/F AN/APG-81  F-35 Scalable Agile Beam Radar (SABR), F-16 saving cost project AESA radar by Raytheon AN/APQ-181 AESA for the B-2 Spirit bomber AN/APG-63(V)2 and AN/APG-63(V)3, for the F-15C Eagle APG-63(V)3 สำหรับ F-15 SG AN/APG-79 for F/A-18E/F , EA-18G AN/APG-82(V)1 for F-15E AESA radar by Ericsson PS-05/A MK-5 for JAS 39 Gripen * กระเปาะยังมีติดอยู่ จะเป็นระบบเตือนภัย  มีระบบ ใช้ ALE-50 ใน F-16 ,ALE-55 ใน F-18 ปล่อยวัตถุลวงเป้าหมาย สื่อสารผ่านแสงเลเซอร์ ใช้ลวงเป้าจรวดนำวิถี(AAED Advanced Airborne Expendable Decoy)ทำงานประสานกับ ระบบ AEW หลักในเครื่องบินรบ ARL-67 เป้นระบบเรด้าร์เตือนภัย(radar warning) เนื่องจากมุมของ AESA กวาดไม่ทั่วด้านหลัง แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 16:17:15 จากคุณ : พัดกุ้ง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 15:13:07

ความคิดเห็นที่ 9 AN/APG-81 ติดตั้งบน F-35 แสดงแผนภูมิการตรวจจับ โดยเรด้าร์ AESA แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 55 12:45:20 จากคุณ : พัดกุ้ง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 15:14:53

ความคิดเห็นที่ 10 inside จากคุณ : พัดกุ้ง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 15:28:09

ความคิดเห็นที่ 11 อันนี้ AN/APG-79 ของ F/A-18E/F ซุปเปอร์ฮอนเน็ท, EA-18G พราวเลอร์ จากคุณ : พัดกุ้ง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 15:40:44

ความคิดเห็นที่ 12 8.มุมครอบคลุมกว้างกว่า mechanically scanned array AESA กว้างกว่า mechanically scanned array AESA  บางรุ่น ติดส่วนเคลื่อนไหวได้ ให้มุม กว้างยิ่งขึ้น เครื่องบินบางรุ่น อย่างT50 และ J20 ติด L band bar ที่ปีก เพื่อเพิ่ม มุมตรวจจับ และระยะ AESA ยังมีข้อจำกัด เรื่องระยะ ของ look-up or look down ที่ต่างกัน แต่เครื่องยุค 5 นำ ระบบ optical distributed aperture system (DAS) probe. และ passive sensor มาแก้ใขปัญหานี้ และ  mechanically scanned array ก็สามารถติด ส่วนเคลื่อนไหวได้  มุมสแกน ก็ก้วางขึ้น แต่สัญญาน รบกวนก็ตาม มา ทำให้ประสิทธิภาพลดลง AESA มาตรฐานปัจจุบัน ตรวจจับ ติดตาม 30-40 เป้า พร่อมกัน จากคุณ : Hongse_c เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 16:20:40

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้ายังไม่เข้าใจ เอารูปมาให้ดู mechanic scan จะมีรอบการสแกน และเมื่อเจอ ยอดคลื่นแรก จะใช้ไม่ได้ ต้องใช้ต่อไป ซึ่งเป็นข้อจำกัด และเวลาสแกนต่อรอบ ช้ามาก และยังต้องรอ switch เปลี่ยนการทำงาน ซึ่งทำงานได้ หน้าที่เดียวเท่านั้น เพราะรอบ สแกนทำงานตามการทำงานของ switch ไม่ทัน และสัญญานรบกวนมาก ตอบสนอง ต่ออะไร ที่มีความเร็ว และความเร่งสูงไม่ได้ จากคุณ : Hongse_c เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 16:48:57

ความคิดเห็นที่ 14 pesa เปลี่ยนจาก mechnic เป็น electronic scan แทน ต่อรอบทำงาน ใช้เวลา 0.001 sec ใช้ T/R transmitter-receiver แยกกัน ใช้ switch มาควบคุม แหล่งpower Radio frequency(RF) source (transmitter) ร่วมกัน ทุก element จึงทำให้เกิดสัญญานรบกวน   ใช้พลังงานมาก และล่ม ก็ล่มหมด การทำงานค่อนข้างช้า (เทียบกับ aesa)และขาดประสิทธิภาพ เพราะต้องใช้ switch มาควบคุมอยู่ดี จากคุณ : Hongse_c เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 16:54:59

ความคิดเห็นที่ 15 AESA แก้จุดอ่อนของ pesa ใช้ transmitting elements (T/R transmitter-receiver) เป็นตัวรับ และส่ง ในทุกๆ element  ไม่มี switch อีกต่อไป สัญญานที่ได้ ต่อโดยตรงกับชุดประมวลผล และถือว่าทำงาน หลายหน้าที่ (multi-tasking) อย่างแท้จริง จากคุณ : Hongse_c เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 16:57:41

ความคิดเห็นที่ 16 แล้ว AESA ปรับมุมได้ยังไงครับ?? จากคุณ : พิมพ์บน Galaxy Tab (LogiEng) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 20:50:35

ความคิดเห็นที่ 17 AESA ก็ปรับมุมเหมือน PESA คือ PESA ใช้ Phase shifter เป็นตัวปรับมุมเฟสของภาคส่ง ส่วน AESA ใช้การ delay การปล่อยสัญญาณ ของแต่ละโมดูล ทำให้ดูเป็น phase shift เหมือนกัน แต่ไวกว่า เพราะไม่ใช่ switch จากคุณ : อิๆ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:14:12 A:58.9.40.121 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 18 AESA ปรับมุมโดยใช้กลไก มาปรับมุม การรับ ส่ง ทำงานตามการควบคุม ขอระบบควบคุม จะได้มุม และ ระยะ ของ look-up or look down ที่ใกล้เคียงกัน และแนวระดับด้วย ซึ่งระบบแบบนี้ มักใช้กับเครื่องบิน และอีกแบบ คือการ ควบคุมการทำงาน ของแต่ล่ะelements (T/R transmitter-receiver) ให้ทำงาน แตกต่างกันในแต่ละรอบ สแกน ผลที่ได้คือ ทำให้AESA แบบ ยึดอยู่กับที่ เช่น ที่ใช้ในเรือ ตรวจจับได้หลากหลาย เป้า แม้เป้าหมาย มีระยะ ความสูง และมุมเข้าหาต่างกัน รูป AESA แบบปรับมุมได้ ผู้ผลิต เคลมว่า กว้างกว่าทั่วไป ถึง บวก-ลบ 30 องศาเลยทีเดียว จากคุณ : Hongse_c เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 14:32:35

ความคิดเห็นที่ 19 รูปที่ 2 เป็น AESA แบบยึดอยู่กับที่ ใช้บนเรือ การปรับมุม ตรวจับ จะใช้การควบคุม elements (T/R transmitter-receiver)  แทน รูปซ้าย แบบปกติ มุมสแกนขนานกับ plate  รูปขวาควบคุม elements ทำให้ แนวสแกนเปลี่ยนไป จากคุณ : Hongse_c เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 14:38:42

ความคิดเห็นที่ 20 รูปข้างบน อาจงง ลองดูรูปนี้ เป็นการเคลมของ lockheed martin ว่าspy1 ทำงานได้คลอบคลุมขนาดไหน จากคุณ : Hongse_c เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 14:42:16