ความคิดเห็นที่ 1 .. จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 21:57:41

ความคิดเห็นที่ 2 นั่งจ้องอยู่ตั้งนานกว่าจะเข้าใจ อิอิ วิธีนี้ผมก็ใช้อยู่บ่อยๆ ยังไงก็ขอบคุณครับที่นำมาแบ่งปัน จากคุณ : Horizonte เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 22:30:03

ความคิดเห็นที่ 3 จำได้ว่าตอนประถมที่โรงเรียนผม (โรงเรียนวัดในไทย) ก็สอนผมแบบนี้นะครับ จากคุณ : มีดแรกไม่พลาดเป้า เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 22:54:51

ความคิดเห็นที่ 4 ผมปัดอีกแบบแฮะ 52 - 35 ผมเอา 52 - 32 = 20 ก่อน แล้วค่อยหักออกอีก 3 เหลือ 17 63 - 19 ผมเอา 63 - 20 = 43 ก่อน แล้วค่อยบวกมาอีก 1 เป็น 44 167 - 48 ผมเอา 167 - 47 = 120 ก่อน แล้วค่อยหักออกอีก 1 เหลือ 119 จากคุณ : basicguy เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 23:04:28

ความคิดเห็นที่ 5 สมัยประถมผมก็โดนสอนแบบนี้นะ - - จากคุณ : 4-lunatic เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 23:06:34

ความคิดเห็นที่ 6 ดูแล้วก็วิธีปกตินี่ครับ ??? จากคุณ : ZXR เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 23:19:56

ความคิดเห็นที่ 7 ที่สำคัญ คือ ญี่ปุ่นเค้าสอนออกมาเป็นรูปธรรม และเป็นหลักสูตร ที่ทำให้คนในชาติมีทักษะพื้นฐานทางการเลขที่ดีต่อไป จากคุณ : STL เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 23:20:56

ความคิดเห็นที่ 8 แบบนี้ ผมเรียนแบบนี้ครับ แต่แบบสองนี้ไม่ได้เรียนแบบนี้ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 23:28:24

ความคิดเห็นที่ 9 อิอิ ตอนเด็ก ๆ ผมโกงตลอด เพราะผมเรียนเลขจากการผ่าฟืน ตอนเด็ก ๆ ที่บ้านใช้เตาถ่าน ต้องใช้ไม้ที่ผ่าเป็นซี่เล็ก ๆ ราดน้ำมันก๊าดเป็นเชื้อก่อน ผมเลยมีหน้าที่นั่งผ่าฟืนกับแม่ ผ่าฟืนไปแม่ก็สอนเลขไป บวกก่อน อะไรบวกกับอะไรได้เท่าไหร่อยู่ในหัวหมด เพราะเราจำภาพของจำนวนฟืนแต่ละกองที่แม่สอนได้ พอลบก็หักออก มันก็จำได้อีก วิธีลบสมมติว่า 121 - 63 ผมก็บวกเข้าไปอันละ 7 มันก็จะกลายเป็น 128 - 70 ได้ 58 อย่างเร็ว คิดในใจตลอด ไม่ต้องทำแบบที่ครูสอนเพราะมันช้าไม่ทันใจ พอเป็น 72 - 26 ก็กลายเป็น 76-30 ตอบ 46 อย่างเร็ว เช่นเคย เป็นสุดยอดนักคิดเลขเร็วตอน ป.2 เชียว เพื่อนเริ่มจรดดินสอจะลงมือคิด ผมตอบสวนแล้ว จนตอนหลังครูต้องบอกให้นั่งเฉย ๆ 555 ภูมิใจมากตอนนั้น จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 23:30:19

ความคิดเห็นที่ 10 #9 คิดคล้ายๆผมเลย แต่วิธีนี้ ผมได้มาใช้ตอนมัธยมแล้ว  ตอนประถม คิดแบบตั้งลบธรรมดา จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 23:55:36

ความคิดเห็นที่ 11 แบบนี้ง่ายกว่าไหม จากคุณ : pkmea เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 00:05:15

ความคิดเห็นที่ 12 เขาก็สอนกันมาแบบนี้นะครับ จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 00:29:52

ความคิดเห็นที่ 13 ของผม น่าจะง่ายกว่ากระมัง เอามาสอนหลานๆ แล้วหลานชอบมาก ไม่ต้องทด ไม่ต้องจำ จับแยก แล้วลบกัน ลบ แบบชิวๆ คับ ลองดูนะครับ อาจใช้หลายขั้นตอน ก้อจริง ถ้าลองทำจริงๆ จะเร็วมาก น่าจะไม่เกิน 8 วินาที ในแต่ละข้อครับ คนเก่งๆ คิดในใจ 2-3 วินาที จะได้คำตอบครับ เป็น patern ที่ทำแล้ว สามารถนำไปคิดในใจได้ครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 00:45:36

ความคิดเห็นที่ 14 ลองดูอีกนิดครับ น่าจะพอเห็นภาพ ถ้าให้เด็กทำดู เด็กแทบจะเขียนไปได้โดยไม่สะดุดครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 00:59:07

ความคิดเห็นที่ 15 ซ้ำครับ ลบก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 55 00:59:56 จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 00:59:35

ความคิดเห็นที่ 16 อีกสองข้อครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 01:01:53

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเคยคิดอีกแบบนึงด้วย เช่น 52-35=? ตามองเลข 35 ชู 1 นิ้ว เป็น 45 (ชูในใจก็ได้) ชู 2 นิ้ว เป็น 55 (แต่ละนิ้วมีค่าเป็น 10) 55 มันเกินมา 3 จาก 52 ดังนั้นได้ 17 หรือ 121-63=? ตามองเลข 63 แล้วนับไป ชู 1 นิ้ว 73 (พูดเฉพาะเลขหลักสิบ เป็น 7, 8, 9, ... ในฐานะที่เข้าใจว่าลงท้ายด้วย 3) ชู 2 นิ้ว 83 ชู 3 นิ้ว 93 ชู 4 นิ้ว 103 ชู 5 นิ้ว 113 ชู 6 นิ้ว 123 เกินมา 2 ดังนั้นได้ 60-2 = 58 ผมคิดอย่างนี้ถนัดดีนะ 555 จากคุณ : Horizonte เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 01:20:51

ความคิดเห็นที่ 18 121-63=? 63+60 = 123 ยังเกินมาอยู่ 2 แสดงว่าต้องบวกด้วย 58 แทน ผมใช้หลักประมาณนี้ครับ จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 01:38:42

ความคิดเห็นที่ 19 ผมชอบวิธีของคุณ LUCKPOWERRICH มากครับ ถ้าเอาไปสอนเด็กคิดว่าเด็กน่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ จากคุณ : annalog เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 04:30:20

ความคิดเห็นที่ 20 สมัยนี้ก็สอนกันแบบนี้ค่ะที่ไทย  เด็กที่สาธิตจุฬาก็เรียนวิธีนี้ แต่หลายๆที่ก็ไม่เรียนแบบนี้ เหมือนกับหลายๆที่ในญี่ปุ่นก็ไม่ได้เรียนแบบนี้ โดยเฉพาะเอกชน   เป็นการแชร์ข้อมูลด้านการศึกษาค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 06:01:55

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณ น้าพร และคุณ  basicguy   คุณ LUCKPOWERRICH และทุกท่านที่แชร์วิธีคิดแบบเร็วๆนะคะ   เรียนสมัยนี้ต้องแข่งขันจริงๆ  ที่โรงเรียน เรียนเพื่อให้เบสิคแน่นขึ้น   ส่วนโรงเรียนกวดวิชาข้างนอก คงมีแนวคิดแตกต่าง และคิดได้เร็วมากขึ้นกว่านี้ค่ะ   จะเอาวิธีที่ทุกท่านแนะนำ ไปสอนเด็กๆค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 06:07:27

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 1  แนวคิดแบบลูกเชอรี่   ที่วงกลมให้ดู เพราะเอาตัวที่กระจายจากตัวบน มาลบออกจาก ตัวลบล่าง   เช่น โจทย์ที่ 1    121 - 63 คำตอบ 58 มาจาก   10 - 6 แล้วเอาขึ้นไป + 1 ก็จะได้ 5   ส่วน 8 ก็มาจากตัวทด+เลขหลักหน่วย  คือ 11 -3 ก็จะได้  8 เป็นวิธีแจกแจงให้เห็นภาพ ....... แต่พอตั้งคำถามแล้วให้ คิดในใจตอบ  การคำนวณก็ต้องใช้วิธีคิดในใจแบบนี้ค่ะ  พอเด็กได้ยินตัวเลข  ต้องแตกภาพออกมาแบบนี้ในใจ  ตามภาพนี้   ไม่ได้ตั้งลบ บน ลง ล่างแต่ประการใด       จขกท. เกิดมาในสมัยที่เอาหลักหน่วย -หน่วย  แล้วยืมตัวทดมาจากหลักสิบ  แล้วค่อยเอาหลักสิบมาลบหลักสิบ  ก็จะได้คำตอบน่่ะค่ะ   ถ้าคิดในใจก็ตั้งหน่วย-หน่วย และสิบ-สิบไปตรงๆค่ะ  ถ้ารวมตัวทด แล้วเกิน 10 บางทีนับนิ้วด้วย ^^ ไม่รู้ว่าเด็กไทยสมัยนี้ เรียนวิธีไหนกันบ้าง   เห็นในยูทูป บางทีก็สอนตั้งลบธรรมดา  แต่ที่สาธิตจุฬาก็เรียนแบบที่เอามาให้ดู   ลูกเพื่อน จขกท.ที่เรียน นานาชาติที่ธรรมศาสตร์   มีวิธีคิดอีกแบบค่ะ ไม่เหมือนกันเลย   วิธีสอนเลขเขาจะ วนไปมาๆโดยใช้ตัวเลขเดิมๆ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 06:25:26

ความคิดเห็นที่ 23 ของคุณน้าพร  คิดง่าย แต่จะผิดตรงเครื่องหมายบวกลบนี่แหละค่ะ   ส่วนของคุณ LUCKPOWERRICH   เป็นวิธีคิดที่ดีและเร็วแต่เมื่อตัวเลขเยอะและมีหลายหลัก จะติดหรือเปล่าคะ ส่วนของญี่ปุ่น เราว่าเป็นวิธีที่ดีมากๆเลยนะคะ  มองแบบนี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีในการคิดเลขต่อไป แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 55 07:15:17 จากคุณ : BIOTOMNEG เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 07:02:28

ความคิดเห็นที่ 25 อยากทราบว่าในปัจจุบันเมืองไทยสอนโดยใช้วิธีไหนครับ เพราะเมื่อตอนผมยังเด็กครูที่โรงเรียนก็สอนวิธีคล้ายๆแบบนี้เหมือนกันครับ จากคุณ : memorystick เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 08:20:47

ความคิดเห็นที่ 26 สอนเด็กแบบไหนดี อยู่ที่จะเลือกเอาอะไรมาก่อน ระหว่าง skill กับ sense โดยธรรมชาติ skill จะเกิดขึ้นเองจากการทำซ้ำๆ แล้วจะค่อยๆ พัฒนาจนเกิด sense ถ้าจะสร้าง sense โดยไม่ต้องพัฒนา skill ก่อนก็ได้ แต่การสร้างความเข้าใจในระดับเด็กเล็กอาจยากซักหน่อย เด็กบางคนก็เลยใช้วิธีจำหลักเกณฑ์เอา อย่างไรก็ตามเมื่อถึงวุฒิภาวะอันควร เด็กที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างตั้งใจก็จะพัฒนาทั้ง sense และ skill ในเรื่องนี้ได้เท่าๆ กันไม่ว่าจะเริ่มต้นมาด้วยวิธีใด จากคุณ : like_that เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 08:47:04

ความคิดเห็นที่ 27 สงสัย ทำไมทู้ 24 หายไปคะ  ใครมาลบออก จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 08:48:09

ความคิดเห็นที่ 28 ตอน จขกท.เด็กๆ ครูก็สอนแบบนี้มาค่ะ ... สงสัยว่า เด็กๆเขาเรียนแบบใหม่กันแล้วหรือเปล่า การบวกเลขสองจำนวนสองหลักแบบมีทด วิธีทำ 1. บวกเลขในหลักหน่วยกับหลักหน่วยก่อนใส่คำตอบที่เป็นหลักหน่วยไว้ก่อน 2. ทดจำนวนที่เกินไว้ในหลักสิบ 3. บวกเลขหลักสิบกับหลักสิบ และบวกจำนวนที่ทดไว้ด้วย ตัวอย่าง 35+18=53 ผลลัพธ์ได้มาจากการบวกหลักหน่วยก่อน คือ 5+8=13 ใส่จำนวน 3 ไว้ก่อน แล้วทด 1 ต่อมาให้บวกเลขหลักสิบ คือ 3+1 = 4 บวกกับทด 1 เป็น 5 เพราะฉะนั้นคำตอบคือ 53 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 55 08:54:07 จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 08:53:50

ความคิดเห็นที่ 29 จำไม่ได้ว่าตอนเรียนเรียนแบบไหน แต่ทุกวันนี้ใช้วิธีแบบน้าพรค่ะ จากคุณ : แมงป่องหางด้วน เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 09:22:38

ความคิดเห็นที่ 30 ผมก็ใช้วิธีนี้ลบ บวกเลข หลักพัน หลักหมื่นอยู่ครับ จากคุณ : atto-zepto-yocto เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 12:05:16

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาตอบ คห 23 ครับ ถ้าตัวเลขเยอะมีปัญหามั้ยผมก็จำไม่ค่อยได้นะครับ แต่จำได้ว่า 3-4 หลัก ในตอนเด็ก ๆ นี่สบายมาก ตอนนั้น เป็นตัวประหลาดของโรงเรียนเล็ก ๆ ในตลาดเล็ก ๆ ตจว บรรดาครูยังพากันถามเลยว่าทำไมคิดได้เร็วจัง ผมก็จะตอบแต่ว่าแม่สอน จริง ๆ บางอันมันนึกได้ของมันเองอัตโนมัติถามว่าเพราะอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ยกตัวอย่าง 532-375 มันก็จะกลายเป็น 537-380 (จากหลัก 5+5=10 และ 75+5 ก็ได้ 80) เนื่องจากผมถูกสอนให้นับเลขมาตั้งแต่แรกว่านิ้วหัวแม่มือขวาคือ 1 นิ้วชี้ 2 ไล่ไปจนถึง 6 ที่นิ้วหัวแม่มือขวา นิ้วก้อยซ้ายคือ 10 ฉะนั้น 7 คือ นิ้วชี้ข้างซ้าย ผมก็จะคิดเลขด้วยนิ้วชี้ข้างซ้าย ที่เหลือคือ 53-38 เป็น 55-40=15 ตอบ 157 ก็ 55-40 คือ 15-0 ไงครับ ใช้เวลาแค่แว้บเดียวครับ ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเก่งมากอย่างภูมิใจ เพราะไวสุด ๆ เคยลองบอกวิธีคิดให้เพื่อนฟัง เพื่อนงงตั้งแต่คิดเลขด้วยนิ้วแล้ว ส่วนครูก็แค่รู้ว่า ให้ผมห้ามตอบ เพราะถ้าผมตอบ ครูจะสอนต่อลำบากแล้วเพื่อนก็จะรู้เรื่องรึเปล่า ครูก็จะไม่รู้ ตอนเด็ก ๆ ผมถึงชอบเรียนเลขมาก เพราะมันแสนเชิดหน้าชูตา 555 แต่ไอ้เรื่องคิดเลขด้วยนิ้วนี่ มันมาของมันเองไม่เคยมีใครสอน แต่มันมายังไงผมก็ไม่รู้เหมือนกัน คืออยู่ ๆ มันก็ทำแบบนั้นแล้วก็ทำเรื่อยมา ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดเลขบวกลบคุณหารในใจได้ไวอยู่ แต่อาจไม่ปรู๊ดปร๊าดเท่าตอนเด็ก ๆ ครับ จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 12:54:37

ความคิดเห็นที่ 32 เอ่อ ผมเกินมา 27 ปีแล้ว เมื่อตอนอนุบาล 2 (22 ปีก่อน) ก็สอนแบบนี้นะ สมัยนี้เค้าไม่สอนแบบนี้กันแล้วหรอ จากคุณ : james_shadow เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 15:54:00

ความคิดเห็นที่ 33 ตอนเด็กก็เรียนแบบที่ว่านี่แหละ แต่พอโตจะคิดแบบ #18 เพราะถนัดบวกเลขมากกว่า จากคุณ : FlyingChicken เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 16:16:43

ความคิดเห็นที่ 34 บางครั้งก็ใช้วิธีการบวกเอา เช่น 121-63 ก็เปลี่ยนจาก 63 เป็น 36 (มาจาก 99-63) แล้วเปลี่ยนเครื่องหมายลบเป็นบวก 121+36 จะได้ 157 จากนั้นก็ลดหลักแรกไปหนึ่ง แล้วเพิ่มหลักสุดท้ายไปหนึ่ง จะเป็น 058 121-63 จะได้ 58 145-26  ก็เปลี่ยนจาก 26 เป็น 73 (มาจาก 99-26) แล้วเปลี่ยนเครื่องหมายลบเป็นบวก 145+73 จะได้ 218 จากนั้นก็ลดหลักแรกไปหนึ่ง แล้วเพิ่มหลักสุดท้ายไปหนึ่ง จะเป็น 119 145-26 จะได้ 119 132-55 เปลี่ยนเป็น 132+44 จะได้ 176 เปลี่ยนเป็น 077 132-55 จะได้ 77 167-48 เปลี่ยนเป็น 167+51 จะได้ 218 เปลี่ยนเป็น 119 167-48 จะได้ 119 จากคุณ : หนุ่ม (Noum NaMon) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 16:33:06

ความคิดเห็นที่ 35 ผมใช้วิธีลบจากหลักด้านซ้ายไปขวาครับ วิธีนี้คิดในใจได้สะดวกและเร็วดีกว่า 52-35 - เอา 52 ตั้ง - ลบด้วย 30 << การลบในขั้นนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะหลักสิบเท่านั้น เพราะหลักหน่วยเป็น 0 เสมอ ทำให้ดึงเลขเดิมลงมาได้เลย - ได้ 22 - ลบออกอีก 5 - ได้ 17 63-19 63 - 10 = 53 53 - 9 = 44 121-63 121 - 60 = 61 61-3 = 57 167-48 167-40 = 127 127 - 8 = 119 จากคุณ : ฉันมีค่าแค่ไหน เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 16:40:07

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบแบบคุณ คห. 9 แฮะ สะดวกดี จากคุณ : หมูนุ่มชุ่มฉ่ำ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 16:49:23

ความคิดเห็นที่ 37 ผมใช้วิธีคล้ายๆ น้าพร แต่ใช้เลขลบเข้ามาเกี่ยวด้วยหน่อยนึง (ผมสอนแต่เด็กมัธยมครับ - - ) 52-35 = 50+2-30-5 = 50-30+2-5 (จับคู่หลัก) = 20-3 (อันนี้เค้าต้องรู้ว่า 2-5=-3) = 17 จากคุณ : WalkingTrail เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 18:07:14

ความคิดเห็นที่ 38 งง จัง จากคุณ : ตาแป๊ะหวานเย็น เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 12:36:16