4. ก่อนจะได้ผลต้องเจ็บปวดเสียก่อน
การหลอกลวงรักษาทางเลือกแบบหลอกลวงนี้ จะขาดเทคนิกนี้ไปเสียไม่ได้ เพราะตรงส่วนนี้คือเทคนิกที่ใช้หากิน
คนที่ป่วยแล้วโดนหลอกให้มารักษาจะมีทั้งโรคที่หายเองได้และโรคที่ไม่หายเองถ้าไม่ได้รักษา
คนที่หลงเข้ามาตามขั้นที่ 1 - 2 - 3 บางคนหายหลังจากการรักษารอบแรกเพราะโรคมันหายของมันเอง ... กลุ่มนี้จะกลายไปเป็นคนที่ชักชวนคนอื่นให้เข้ามาเพิ่มเติม
ทีนี้ย่อมมีบางคนที่ป่วยเป็นโรคที่ไม่มีทางหาย
เมื่อเข้ามาในขั้นที่ 1 - 2 - 3 แล้ว เค้าก็ไม่หาย ผู้รักษาก็จะบอกว่าคุณต้องกลับเข้าสู่กระบวนการรักษาใหม่นะ ก็จะกลายเป็นวงจร 1-2-3-2-3-2-3 .... ไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็ล้างสมองไป ทำพิธีไป รักษาไป ซึ่งแน่นอนว่าไม่หาย
ถ้าหากโดนตั้งคำถามว่าทำไมจึงไม่หายเสียที
ถ้าหากเป็นการรักษาด้วยความเชื่อ : ก็ดุว่าทำไมไม่มีความเชื่อ ไม่ศรัทธา ลบหลู่
ถ้าหากเป็นการรักษาด้วยวิทยาศาสตร์เทียม : ก็บอกว่ามันคือเรื่องปกติ ก่อนจะหายอาการจะหนักขึ้น เป็นเพราะการรักษากำลังไปสู้กับโรค
เช่นเดียวกัน คนที่ตั้งคำถามว่าทำไมไม่หายจะโดน"ลงโทษ"ด้วยวิธีการทางมวลชน ไม่ว่าจะเป็นการตำหนิต่อหน้าหรือใช้คนหลายๆคนมาว่า
ลักษณะจะเหมือนกับการเล่นพนัน คือ เราลงทุนไปกับสิ่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ จนเกิดความรู้สึกว่าเรามาไกลแล้ว
ประกอบกันกับมีคนหลายคนที่อยู่รอบๆยืนยันว่าเรามาถูกทางแล้ว และให้ความมั่นใจว่าคนอื่นๆที่ผ่านมาเค้าก็เป็นกันแบบนี้
ในปี1997 กลุ่ม Heaven's gate ซึ่งประกอบไปด้วยคนที่มีฐานะ คนที่มีความรู้การศึกษาสูงหลายๆคน ถลำเข้าไปในวงจรนี้ ถลำไปจนกระทั่งพวกเขาเหล่านั้นขายบ้าน ขายสินทรัพย์ ลาออกจากงาน เพื่อการเตรียมตัวตายให้วิญญาณไปพร้อมกับยานอวกาศที่พวกเขาเชื่อว่าบินตามหลังดาวหางฌอลบ็อบมา
เมื่อคนกลุ่มนี้ไปซื้อกล้องดูดาวเพื่อหวังจะหายานอวกาศขนาดใหญ่ที่บินตามหลังดาวหาง แต่เมื่อส่องดูแล้วไม่เจออะไรนอกจากความว่างเปล่า สิ่งที่ตามมาก็คือพวกเขาเชื่อว่ายานอวกาศมีอยู่จริง แต่กล้องดูดาวต่างหากที่มีปัญหา ...
เพราะพวกเขาเดิมพันทุกอย่างที่มีในชีวิตลงไปหมดแล้ว
เช่นเดียวกันกับคนที่หลงไปรักษากับหมอทางเลือกจอมปลอมเหล่านี้
เมื่อรักษาไป อาการก็ทรุดลงเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ คนไข้และครอบครัวมองว่าเขาลงทุนมาไกลแล้ว หนำซ้ำยังมีคนรับรองว่านี่คืออาการปกติ
แม้ในใจจะไม่เห็นด้วย แต่อีกใจนึงก็จะบอกว่า "เอาน่ะ เอาอีกนิดนึง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว"
ถ้าโชคดี รอดตายขึ้นมา ... คนกลุ่มนี้จะกลายเป็นคนที่ออกไปโฆษณาเผยแพร่สรรพคุณของพวกจอมปลอมเหล่านี้ทันที
ถ้าหากไหวตัวทัน แล้วเลิกรักษาล่ะ ... คนกลุ่มนี้เมื่อออกไปหาแพทย์แผนปัจจุบัน ... หากเสียชีวิต จะกลายเป็นวัตถุดิบของหมอทางเลือกจอมปลอมทันที ว่าเพราะความดื้อรั้นของพ่อแม่พี่น้องคนไข้ เอาคนไข้ออกจากการรักษาเลยทำให้ตาย
แต่หากหาย ก็จะยกเครดิตว่าขนาดไม่ได้รับการรักษาครบยังรอด แต่ที่อาการหนักเพราะออกไปอยู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน
แต่ถ้าโชคร้ายที่สุด คือ หลงเชื่อยอมรักษากับคนเหล่านี้ต่อไปจนตายล่ะ
คำแก้ตัวและกล่าวโทษต่างๆก็จะตามมาไม่ว่าจะเป็น
การค้นหาว่าพ่อแม่ญาติมิตรของคนตายทำอะไรไม่ถูกสักขั้นไหม แล้วโทษให้เป็นความผิดของญาติคนตายไป
หาว่าเคยไปรักษาที่อื่นหรือไม่ แล้วโทษว่าเป็นผลข้างเคียงของการรักษาที่ผ่านมา
หาว่าระหว่างรักษามีการใช้ยาทางแผนปัจจุบันไหม ... ถ้าใช้ก็โทษว่ายาแผนปัจจุบันฆ่า
หาว่าระหว่างรักษามีการหยุดยาแผนปัจจุบันหรือไม่... ถ้าหยุดโดยที่ไม่ได้บอกให้หยุดก็บอกไปว่าไม่ได้สั่งให้หยุดซะหน่อย มันต้องรักษาคู่กันนะ ไปหยุดทำไม
หรือไม่ก็ระบุว่าโรคที่เป็นคือขั้นที่ร้ายแรงมากอยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตายแน่นอนไม่มีทางรักษา ที่รอดมาได้นานขนาดนี้เป็นเพราะมารักษากับเค้านะ
ถ้าเป็นการรักษาด้วยการเอาศาสนามาอ้างล่ะ ... ก็ตัดจบง่ายๆ คนๆนี้เค้ามีกรรม คนๆนี้เค้าทำบาปมาก่อน มีบุญมาแค่นี้
ส่วนมากเมื่อญาติมิตรหรือผู้ป่วยเองตกมาอยู่ในวังวนที่อาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ จะน่าสงสารมากครับ
อาการก็หนักลงทุกวัน ใจนึงกลัวก็กลัว แถมพอตั้งข้อสงสัยก็โดนด่าทั้งครอบครัว ยิ่งถ้าคนที่รักษาเป็นที่นับหน้าถือตาบางครั้งมันมีผลต่อการอยู่อาศัยในสังคมนั้นๆเลย ใจนึงก็มองว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วก็เอาให้ถึงที่สุด
บางครอบครัว คนในครอบครัวตายไป โดนกล่าวโทษว่าดูแลไม่ดีจึงตาย
บางครอบครัว คนในครอบครัวตายไป รู้ทั้งรู้ว่าอะไรแต่ละอายใจที่เปลี่ยนใจช้าเกินไป มองว่าตนเองก็ผิด ก็ปล่อยให้เรื่องมันเงียบไป
ปล่อยให้คนชั่วลอยนวลรักษาคนอื่นหลอกเอาเงินต่อไป