ความคิดเห็นที่ 1 เพราะแม่เหล็กที่ลำโพงรึปล่าว จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 14:43:32

ความคิดเห็นที่ 2 เข็มทิศนี้ใช้สำหรับนำทางบนเครื่องบินหรือ? ผมนึกว่าเครื่องบินจะบินตามคลื่นวิทยุนำร่อง หรือไม่ก็ GPS ซะอีก จากคุณ : vrod เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 14:54:24

ความคิดเห็นที่ 3 *********ขออนุญาต นำข้อความที่ผู้โพสอธิบายใน Youtube มาโพสในห้องนี้นะครับ******* ทำไมเราจึงควรปิดโทรศัพท์บนเครื่องบิน Why we have to turn off cellphone in flight? ผมทำการจำลองการโทรศัพท์ ขณะอยู่บนพื้นดิน ว่าการที่เราโทรออกทำให้ Magnatic Compass เข็มทิศ เบี่ยงเบนไปมากน้อยแค่ไหน นี่คือเหตุผลที่ทำไม ควรจะปิดโทรศัพท์ขณะอยู่ในเครื่องบิน จริงอยู่แม้ว่าการใช้โทรศัพท์บนเครื่องบินอาจจะมีผลไม่มากนักแต่อย่างน้อยการทดลองนี­้ทำให้ทุกท่านได้เห็นการใช้โทรศััพท์ทำให้เกิดการรบกวนอุปกรณ์การนำร่องของเครื่องบิ­นจริง การเบี่ยงเบนของ heading แม้เพียง 1 องศา ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ลองคิดดูถ้าหากหลายๆท่านพร้อมใจกันเปิดมือถือหรือ โทรออก ในขณะที่เครื่องยังจอดไม่สนิท จะเกิดอะไรขึ้นครับ? จริงอยู่ เครื่องบินสมัยใหม่ นำร่องด้วยสัญญาณดาวเทียม แต่การนำร่องด้วยวิธีการที่ Basic ที่สุดคือเข็มทิศ ขณะที่คุณเปิดโทรศัพท์ คุณอาจจะไม่รู้ว่านักบินอาจจะต้องการเข็มทิศในการนำร่องเนื่องจาก อุปกรณ์นำร่องอื่นๆไม่สามารถใช้งานได้ อยู่ก็ได้ เลิกเถอะครับ เปิดโทรศัพท์ขณะโดยสารเครื่องบินเนี่ย หากท่านได้ชมคลิ๊ปนี้แล้ว ร่วมด้วยช่วยกันบอกต่อนะครับ จากคุณ : Brawo เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 14:58:23

ความคิดเห็นที่ 4 คิดต่างนะครับ อย่าได้โกรธเคือง เข็มทิศระบบแม่เหล็กนั้น จะเบี่ยงเบนได้ก็ต้องมี วัตถุที่มีแรงสนามแม่เหล็กไปผลักหรือดึงมัน จากในคลิปเป็นมือถือ Blackberry ที่เกือบทุกรุ่นจะมีเซนเซอร์ holster ซึ่งเป็นแม่เหล็ก ตรวจจับว่าเราใส่ซองมือถืออยู่หรือป่าว และยังมีลำโพงภายในตัวเครื่อง ที่อาจส่งผลกระทบ ถ้าเป็นผู้โดยสารใช้งานมือถือและเปิด flight mode แล้ว จากตำแหน่งที่นั่ง ระยะแล้ว ผมว่าไม่น่ามีผลกระทบกับเข็มทิศเลย (จากในคลิปต้องนำมาจ่อใกล้ๆ) ยกเว้นเสียว่าจะมาใช้งานแถวๆห้องกัปตัน ถ้าอยากให้การทดลองนี้ได้ผลเด่นชัดที่สุด ต้องลอง - ทดสอบมือถือเครื่องอื่นๆ ด้วยรุ่นที่ไม่มีแม่เหล็ก เป็น iPhone ก็ได้ ที่ใช้เซนเซอร์แสงตรวจจับแทนระบบแม่เหล็ก - ทดสอบแบบไม่เอามือถือไปจ่อ   - ลองเปลี่ยนระยะการทดสอบ เราอาจได้ความรู้ใหม่ๆมาก็ได้ครับ ปล.อย่างไรก็ตาม...ผมก็ยังสนับสนุนให้งดใช้โทรศัพท์ขณะอยู่บนเครื่องดีที่สุดครับ เพื่อความปลอดภัยของเราและเพื่อนร่วมทางทุกคน แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 15:53:04 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 15:51:50 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 15:47:54 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 15:35:02 จากคุณ : ปลาเค็ม (Paakiam) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 15:23:50

ความคิดเห็นที่ 5 โหวตต จากคุณ : ChromaticCircle เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 15:24:08

ความคิดเห็นที่ 6 พูดเฉพาะเรื่องผลการทดลองนะ และห้องนี้เป็นห้องหว้ากอน่าจะถกกันได้ด้วยเหตผล (ส่วนเรื่องเปิดมือถือบนเครื่อง ควรไม่ควร ขอไม่พูดถึง) มันยังมีประเด็นว่า มันน่าจะเหนี่ยวนำจากโลหะที่ใช้ทำมือถือมากกว่า รึเปล่า ต้องทดลองใหม่แบบนี้ครับ วางมือถือ ไว้ที่ตำแหน่งเดิม แล้วเปรียบเทียบกัน ระหว่าง เปิดเครื่อง กับปิดเครื่อง ว่ามีผลต่างกันอย่างไร จากคุณ : madcatzz เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 15:43:27

ความคิดเห็นที่ 7 มันโดนแม่เหล็กลำโพงของโทรศัพท์ครับ  เล่นจ่อซะขนาดนั้น ลองง่ายๆ  ปิดเครื่อง หรือถอดแบตโทรศัพท์ออก แล้วเอาไปจี้ดูเหมือนเดิมสิ ผมไม่ชอบเลยแฮะ ทดลองแบบไม่ควบคุมตัวแปรเนี่ย  โดยเฉพาะคนทดลอง เป็นถึงผู้มีความรู้ด้านการบิน  แต่ไม่รู้ถึงปัจจัยที่มีผลต่อเครื่องวัดบนเครื่องบิน แล้วมีผู้โดยสารท่านไหน เอาโทรศัพท์ไปจ่อในห้องควบคุมการบินมั่งหว่า นอกจากกัปตัน แล้วตอนนั้น  มีระบบอื่นๆรวนบ้างไหม ระบบบนเครื่องบิน ออกแบบมาดีมาก  ขนาดฟ้าผ่าใกล้ๆ  EMP จากฟ้าผ่า ยังไม่สามารถทำอะไรระบบการบินได้เลยครับ  และคุณรู้หรือไม่ว่า  ในห้องนักบิน มีระบบสื่อสารมากมาย  ระบบเรดาห์  ระบบวิทยุสื่อสาร ซึ่งกำลังสูงกว่าโทรศัพท์มือถือมากมาย  แต่มันก็สามารถทำงานได้ ไม่มีปัญหา จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 15:44:42

ความคิดเห็นที่ 8 จขกทลอง เปิดโหมด  flight mode  แล้วเอาไปจ่อใกล้ๆดูครับ ถ้าเข็มทิศยังเบนอยู่เป็นที่แม่เหล็กในโทรศัพท์ครับ จากคุณ : อยู่ไปก็ไร้ความหมาย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 15:55:39

ความคิดเห็นที่ 9 จำได้ว่าเคยดูใน myth blaster ทดสอบแล้ว มีผลกระทบเฉพาะ อุปกรณ์ที่เป็น analog รุ่นเก่า ๆ แต่ความแรงของสัญญานมือถือก็ยังไม่แรงพอที่จะรบกวน ต้องใช้เครื่องส่ง กำลังสูงถึงรบกวน จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 16:08:34

ความคิดเห็นที่ 10 คือว่า   ถ้าต้องเอาไปจ่อขนาดนั้น บอกเฉพาะกันบินกับผู้ช่วยก็พอแล้วละครับ จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 17:09:09

ความคิดเห็นที่ 11 คห7 นักบิน จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องหรอกครับ มีความรู้ ภาษาอังกฤษ และเรืองที่เกี่ยวข้อง วิศวกรรม กับระบบการบินเท่านั้น ไม่ได้เก่งกาจเรื่อง ฟิสิกส์ อะไรมากมายหรอกครับ จากคุณ : p (panama) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 17:39:02

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเคยมาม่ากับประเ้ด็นนี้มาแล้วในห้องนี้ (อยู่ข้างเห็นด้วยกับปิดมือถือ) แต่งวดนี้ของนั่งดูดีกว่าครับ จากคุณ : a fat cat in a hat เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 17:54:35

ความคิดเห็นที่ 13   ถ้าแค่การทดลองเอามือถือไปจ่อเข็มทิศ  แต่ไม่ได้ทดลองความแตกต่างระหว่างโทร กับ ไม่โทร แล้วสรุปว่า  มันเกิดจากการโทร  ผมว่า มันก็เกินไปหน่อยนะครับ  ^ ^" ส่วนเรื่องความรู้   เรื่องเข็มทิศธรรมดา กับเข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์ และระบบนำร่อง นักบินควรรู้นะครับ  ว่ามันจะมีปัญหากับอะไรบ้าง จุดอ่อนของมันคืออะไร  ไม่งั้น วันดีคืนดี นักบินเอาหูฟัง หรืออะไรที่มีอำนาจแม่เหล็กไปใกล้เข็มทิศ แล้วเห็นเข็มทิศมันไม่ตรงกับระบบนำทาง  อาจมีสับสนได้นะ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 18:22:37 จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 18:22:09

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่มีผลฮะ ...สิบกว่าปีก่อน นั่งไปฝรั่งเศส 14 ชั่วโมง ก็เห็นฝรั่งมันนั่งรับมือถือคุยได้เฉย ... ต่อมาทดลองเอง... ไม่เชิงทดลอง แต่คิดได้เองว่าไม่เป็นไร ...ก็เลยไม่ได้ปิด iPhone 4 นั่งไปฮ่องกง ทั้งฟังเพลง ทั้งเล่นเกม ไม่ได้ flight mode ก็ไม่เป็นไร ...แต่ทำตอนเครื่องถึงระดับคงที่ที่เพดานบินแล้วนะ ...แล้วก็ยังไม่มีตัวอย่างคนโทรเข้ามาด้วย ... ส่วนตัวมองว่า ในห้องผู้โดยสาร ไม่มีผลฮะ ... ไม่งั้น B-class หรือ 1st-class ได้ด่ากันขรมแน่เลย .. เครื่องสมัยนี้มันไม่ได้แย่แบบเมื่อก่อนแล้วฮะ ...ยิ่งไอ้ A-380 ตัวใหม่ด้วย ใครได้บินปฐมฤกษ์ไปสิงคโปร์หรือฮ่องกงก็รบกวนมาแชร์กันบ้างนะฮะ จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 18:43:23

ความคิดเห็นที่ 15 เอาเฉพาะประเด็นเข็มทิศกับการบินก่อนนะเจ้าคะ เข็มทิศบนเครื่องบินทุกลำ จะมีอยู่ 2 ตัว ขึ้นไปเสมอ ตัวนึงเป็นเข็มทิศแม่เหล็ก อีกตัวเป็นเข็มทิศไจโร สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบ ไจโร (gyro) เป็นอุปกรณ์เชิงกล ในลักษณะของลูกข่างหมุน ที่มันจะพยายามรักษาทิศทางเดิมไว้เสมอตราบเท่าที่มันยังหมุนอยู่ ก่อนออกบิน นักบินจะตั้งเข็มทิศไจโรให้ตรงกับ heading ของรันเวย์ที่กำลังวิ่งขึ้น เพื่อตั้งเข็มทิศให้ตรง เข็มทิศไจโร อาศัยหลักการของการรักษาโมเมนตัมเชิงมุม มันจึงไม่ถูกกระทบจากสนามแม่เหล็กใดๆ นี่ยังไม่นับเครื่องบินสมัยใหม่ ที่มีอุปกรณ์บอกทิศด้วย GPS อีกด้วย แล้วก็ยังควรทราบอีกว่า เครื่องบินพาณิชย์ทุกลำ ถูกควบคุมโดยศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศ ซึ่งคอยมอนิเตอร์ตำแหน่งพิกัดของเครื่องบินอยู่ตลอดเวลา เขาไม่ปล่อยให้เครื่องบินใดๆ บินออกนอกเส้นทางโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้เครื่องบินยังมีเครื่องช่วยเดินอากาศอีกหลายตัว อาทิ เครื่องรับ ILS / VOR / NDB / DME ฯลฯ ในการบอกตำแหน่งและทิศทางของเครื่องบิน นอกจากนี้ เครื่องบินที่บินระยะไกล ยังมี Auto-Pilot คอยบินนำทางให้เอง โดยมันจะมีเซนเซอร์ต่างๆมากมาย คอยปรับแก้อาการของเครื่องบิน ชดเชยลม ชดเชยทิศทางให้เองโดยอัตโนมัติ นักบินมีหน้าที่นั่งมองดูมันทำงานเท่านั้นเอง ดังนั้นถ้านักบินยังสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ จึงเป็นเรื่องยากมากๆที่นักบินจะหลงทิศ บินออกนอกเส้นทาง เอาแค่นี้ก่อนนะ คงพอช่วยให้เข้าใจเนื้อหากระทู้นี้ได้มากขึ้นเจ้าค่ะ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 18:52:28

ความคิดเห็นที่ 16 คิดง่ายๆครับ ถ้ามันอันตรายถึงขนาดที่จำให้เกิดเครื่องบินตกได้ เค้าคงห้ามเอาขึ้นเครื่องแต่แรกแล้ว - -a จากคุณ : cakecheeze เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 18:54:09

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยตาม #7 รู้ไม่จริง ทดลองแบบผิดๆ (ไม่ได้ควบคุมตัวแปรใดๆ สักแต่เอามาจ่อ) แล้วก็เผยแพร่ออกไปเรื่อย อยากจะทดสอบยืนยัน ก็น่าจะศึกษาให้ละเอียดกว่านี้หน่อย โทรศัพท์เวลาโทรเข้าโทรออก (มีการรับ-ส่งสัญญาณกันจริงจัง) ยังไม่สามารถกวนอะไรได้มากเลย หากไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปจ่อใกล้ๆ ถ้ามันแรงสุดๆ จริง ป่านนี้คงใช้งานอิเล็กโทรนิกส์อะไรไม่ได้ขณะโทรศัพท์ไปแล้วล่ะครับ ปล. เห็นสมัยนี้เริ่มมีบริการ wifi บนเครื่องกันแล้วนี่ ถ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพวกนี้มันกวนได้จริง น่าแปลกใจว่าทำไมเปิดให้บริการ wifi บนเครื่องกันได้หว่า จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 00:19:19

ความคิดเห็นที่ 18 คลื่นแม่เหล็กจากมือถือทำแบบนั้นได้ แล้วคลื่นแม่เหล็กที่ออกมาจากเครื่องยนต์ทั้งหลายละครับ มันรุนแรงกว่าหลายเท่านัก จากคุณ : elvish346 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 00:39:40

ความคิดเห็นที่ 19 ผมข้องใจว่า คนที่ขึ้นไปถึง cockpit แล้วถ่ายคลิปมาได้เนี่ย... เค้าเป็นใคร.... คือ... มันควรจะมีความรู้ตรงนี้ระดับนึง... ไม่ใช่มั่วมาแบบนี้ ได้เรียน Navigation System ของเครื่องบินมามั่งรึเปล่าเนี่ย.... แต่ก็นะ... ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ ที่จะมีคนที่ขาดความรู้มาทำงานอยุ่ในสายงานนี้เต็มไปหมด.... ไม่ต้องถามหรอกว่าทำไม ..... ผมรู้ว่าคุณก็รู้....  - - แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 01:56:35 จากคุณ : Mikegelo เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 01:53:57

ความคิดเห็นที่ 20 เขาเลยโทรศัพท์กันไปแล้วจ๊ะ FAA ไฟเขียวให้นักบิน American Airlines ทุกคนใช้ iPad ระหว่างทำการบินได้ เป็นที่ทราบกันดีว่าระหว่างการเดินทางโดยเครื่องบิน ผู้โดยสารจะไม่สามารถใช้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ใดๆ ได้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดสัญญาณรบกวนกับเครื่องมือนำทาง แต่อย่างไรก็ดี เมื่อไม่นานมานี้มีกระแสข่าวว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ หรือ FAA อาจปรับกฏใหม่เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารได้ และล่าสุด FAA ก็ได้นำร่องข่าวดี ด้วยการมีคำสั่งอนุมัติให้ สายการบินแห่งชาติ American Airlines กลายมาเป็นสายการบินเชิงพาณิชย์รายแรกที่อนุญาตให้นักบินทุกคนสามารถใช้ iPad แทนเอกสารคู่มือที่เป็นกระดาษแบบเดิระหว่างทำการบินได้ "ด้วยคำสั่งอนุมัติของ FAA ทำให้สายการบินสามารถใช้ iPad ได้เต็มประโยชน์มากขึ้น จากเดิมที่กระเป๋าของนักบินจะต้องบรรจุข้อมูลเที่ยวบิน, แผนที่นำทางและอุปกรณ์อ้างอิงๆ อื่น สำหรับการเดินทางที่เป็นกระดาษ แต่เมื่อมีคำสั่งไฟเขียวดังกล่าว ทำให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้น" Captain John Hal ประธานบริหารสายการบินอธิบาย อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ในปี 2011 สายการบิน American Airlines เคยได้รับคำสั่งอนุมัติให้นักบินใช้ iPad ระหว่างทำการบินมาแล้ว หากแต่ถูกจำกัดเฉพาะบางเที่ยวบินเท่านั้น และคำสั่งดังกล่าวก็อนุมัติจำกัดเฉพาะการใช้ iPad ของแอปเปิ้ลเท่านั้น ไม่รวมถึงแท็บเล็ตแบรนด์อื่นๆ http://www.pantip.com/tech/newscols/news/120912h.shtml จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 02:02:19

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่รู้จะโดนรุมด่าหรือป่าวนะครับ แต่ผมไปโพสลงใน youtube เขาแล้ว ว่าการทดลองและการสรุปผล มันคนละเรื่องเดียวกัน จากคุณ : ปลาเค็ม (Paakiam) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 03:28:49

ความคิดเห็นที่ 22 ต่อไปนี้ คนจะไปเที่ยวห้ามซื้อ ของที่ระลึกเป็นแม่เหล็กติดตู้เย็นมาฝากคนที่บ้านนะ จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 08:25:55

ความคิดเห็นที่ 23 รวมถึงการโทรศัพท์ระหว่างเติมน้ำมันด้วยนะครับ ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายใดๆเลย จากคุณ : LordOfHero เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 09:16:20

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 23 ผมเคยถามคนที่ทำงานอยู่ในวงการปั้มน้ำมัน เขาบอกว่า ที่ห้ามโทรศัพท์ขณะเติมน้ำมัน ไม่ได้เกี่ยวกับคลื่นโทรศัพท์ ไปทำให้เกิดผลกระทบ แต่กลัวคนโทร เผลอทำหลุดมือ ทำหล่น แบตเตอรี่มือถือ lithium เมื่อตกกระแทกพื้น มีโอกาสที่จะทำให้เกิดประกายไฟได้ครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 09:29:13

ความคิดเห็นที่ 25 คลื่นมือถือ ที่กำลังส่งประมาณไม่เกิน 5watt ไม่สามารถทำให้น้ำมันติดไฟได้ครับ แต่ที่เขากลัวก็คือ  ประกายไฟจากขั้วต่อระหว่างแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ และตัวโทรศัพท์ ถ้ามันไม่แน่น มันสร้างประกายไฟได้  แต่ถ้าอยู่ในรถ ปิดกระจก  มันก็ไม่มีผล เว้นแต่เดินมาใกล้ๆตู้ แต่เอาจริงๆแล้ว  แบตมือถือ มันอยู่ในฝาปิดอีกที  มันก็เลยยากมาก ที่จะทำให้เกิดประกายไฟ กรณีที่เกิดไฟลุกตามปั๊มต่างๆนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากไฟฟ้าสถิต และมักจะเกิดระว่างเอาหัวเติมไปใส่ถังน้ำมัน  หรือระหว่างถอดหัวเติม ออกจากถัง ซึ่งระหว่างนั้น ไฟฟ้าสถิตที่เกิดจากการเสียดสีกันของเสื่อ โดยเฉพาะเสื้อแขนยาว มันจะกระโดดไปหาตัวถังรถ หัวจ่าย หรือกระโดดระหว่าเสื้อด้วยกันเอง  จึงเกิดการจุดระเบิดขึ้น ทีนี้ เนื่องจากปัจจุบัน คนแทบทุกคนที่มีรถ พกมือถือกันทั้งนั้น  บางคนก็โทรระหว่างเติม  บางคนก็ไม่ได้โทร    จำเลยเลยไปตกที่มือถือซะงั้น   ถ้าจะว่ากันจริงๆ  ประกายไฟจากมอเตอร์สตาร์ท รุ่นที่ใช้แปรงถ่าน  น่ากลัวกว่ามือถือมาก  เพียงแต่มันไม่มีไอน้ำมันบริเวณนั้นให้จุดระเบิดเท่านั้นเอง    แต่ถ้าเติมน้ำมันหกออกมาเลอะพื้น ไหลไปใต้ห้องเครื่อง   ถ้าสตาร์ท  มีโอกาสระเบิดได้เลย แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 10:27:55 จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 10:26:35

ความคิดเห็นที่ 26 อันนี้คือ มือถือ ป้องกันการระเบิด  สำหรับผู้ที่ต้องทำงานใกล้วัตถุไวไฟ การทำงานของมัน ไม่ใช่ว่า มันไม่ส่งคลื่นออกไป (ถ้าไม่ส่งคลื่น มันก็ใช้งานไม่ได้น่ะสิ)  เพียงแต่มันมีซีล์ด ป้องกันไอน้ำมันเข้าไปในมือถือ ป้องกันการเกิดประกายไฟในจุดต่างๆ  ป้องกันไฟฟ้าสถิต ป้องกันประกายไฟจากการหล่นกระแทก ป้องกันการลุกใหม้ของแบตและวงจรมันเอง ถ้ามันจะระเบิดจากคลื่นมือถือ   มือถือเครื่องนี้ ก็ไม่สามารถใช้งานได้ เช่นกัน จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 10:35:34

ความคิดเห็นที่ 27 กลัวทำไม ยังไงคุณก็มีเพื่อนตายอีกทั้งลำ เปิดเถอะครับ ไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพ ซ้ากกกคำ จากคุณ : NMT@STUT เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 13:20:01

ความคิดเห็นที่ 28 ผมเคยพูดไปแล้วเรื่องมือถือกับเครื่องบิน ว่าเค้าไม่มาใช้ตรรกกะแบบคนห้องนี้หรอก แบบนี้แหละที่เค้าเรียกว่า งมงายในวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องเหลวไหลนะ ตีความให้ดี ถ้าคิดได้บ้าง แต่เป็นการเอาขั้นตอนทางวิทยาาศาสตร์มาเป็นข้ออ้างเข้าข้างตัวเองนี่แหละ ที่เค้าเรียกว่างมงายในวิทยาศาสตร์ คนที่เค้าทำงานในสายงานี่ต้องรับผิดชอบคนเป็นร้อยเป็นพัน เค้าไม่ได้คิดแบบคุณนะ ที่พวกคุณคิดคือ ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันอันตราย จากคุณ : TITAN11 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 13:41:59 A:101.109.207.225 X: TicketID:309862

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเคยพูดไปแล้วเรื่องมือถือกับเครื่องบิน ว่าเค้าไม่มาใช้ตรรกกะแบบคนห้องนี้หรอก แบบนี้แหละที่เค้าเรียกว่า งมงายในวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องเหลวไหลนะ ตีความให้ดี ถ้าคิดได้บ้าง แต่เป็นการเอาขั้นตอนทางวิทยาาศาสตร์มาเป็นข้ออ้างเข้าข้างตัวเองนี่แหละ ที่เค้าเรียกว่างมงายในวิทยาศาสตร์ คนที่เค้าทำงานในสายงานี่ต้องรับผิดชอบคนเป็นร้อยเป็นพัน เค้าไม่ได้คิดแบบคุณนะ ที่พวกคุณคิดคือ ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันอันตราย = ใช้ได้ ที่สายการบินเค้าคิดคือ ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ว่าปลอดภัย100% = ห้ามใช้ครับ เห็น 2 อย่างนี้แล้วเข้าใจอะไรขึ้นบ้างมั๊ย ผมเองจะออกแบบอะไรที ต้องคำนวนแล้วคำนวณอีก เผื่อแล้วเผื่ออีกกว่าจะ แอพพรูฟได้ เพราะฉนั้นถ้าพวกคุณอยากใช้ ก็พิสูจน์มาว่ามันปลอดภัย 100% เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นสายการบินต้องรับผิดชอบไม่ใช่พวกคุณ จากคุณ : TITAN11 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 13:42:13 A:101.109.207.225 X: TicketID:309862

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ถึง คห. ข้างบน ผมยังไม่เห็นว่าใครในห้องนี้ สนันสนุนให้ใช้มือถือบนเครื่อง หรือบอกว่าการใช้มือถือบนเครื่องบิน ปลอดภัย 100% ที่คนทักท้วง เขาบอกว่า การทดลองมันไม่สมเหตุสมผล คือทดลองเอาแม่เหล็กในโทรศัพท์ไปจี้เข็มทิศแม่เหล็ก แล้วสรุปผลว่าให้ปิดเครื่องโทรศัพท์ คุณอย่ามาเบี่ยงเบนประเด็นสิครับ (พูดไปโน่น รับผิดชอบชีวิตคนอื่น ไม่ปลอดภัย100% ห้ามใช้) ปล. คนเราย่อมผิดพลาดได้เสมอ มันไม่ได้เสียหน้าอะไรมากนักหรอกครับ จากคุณ : ปลาเค็ม (Paakiam) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 17:20:41

ความคิดเห็นที่ 31 ล้มบ้างก็ได้ - บอย เบน นภ จากคุณ : Paakiam เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 17:38:20

ความคิดเห็นที่ 32 มีคนไปแย้งตามหลัก "วิทยาศาสตร์หน่อย" ลบคลิ๊ปหนีไปแล้ว 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 17:59:31

ความคิดเห็นที่ 33 #29 ยังไม่มีใครสนับสนุนให้ใช้เลยนะครับ  แค่อยากให้ทดลองใหม่ โดยกำหนดระยะห่างมือถือกับเข็มทิศคงที่ แล้วลองโทร กับไม่โทร ห้องนี้ เปิดกว้างให้เอาเหตุผล และข้อมูลมาถกกันครับ  ถ้ามีข้อมูลก็ช่วยกันเอามาแชร์  ไม่ใช้เอาลำโพงมือถือไปจ่อ แล้วบอกว่า เข็มทิศมันมีปัญหากับคลื่นมือถือ   ถึงแม้มันจะเหมือนเป็น ไวท์ไล เพื่อให้คนไม่กล้าใช้มือถือบนเครื่อง แต่สมัยนี้แล้ว  บอกเหตุผลกันตรงๆ  ทดลองแบบจริงจัง  ดีกว่าไหม ที่บอกว่า "ผมเองจะออกแบบอะไรที ต้องคำนวนแล้วคำนวณอีก เผื่อแล้วเผื่ออีกกว่าจะ แอพพรูฟได้" คุณออกแบบอะไรผมไม่รู้   แต่ผมออกแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้เครื่องมือแพทย์   - ผมออกแบบให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ทนสัญญาณมือถือ /วิทยุรับส่ง ได้มากกว่า 10 W ในระยะห่าง 1เซนติเมตร - ทนแรงดันกระชาก จากฟ้าผ่าเข้าสาย L-N ตรงๆได้ - ไฟตกจาก 220V เหลือ 80V เครื่องยังทำงานได้ปกติ - ไฟดับ มีแบตสำรอง  แบตสำรองหมด มีระบบแมนวล ให้พยาบาลสามารถจัดตัวหมุน ๆไปพลางๆ เพื่อให้ การทำพลาสม่าเอกเชนจ์ ยังดำเนินต่อไปได้ เพื่อรักษาชีวิตคนไข้ - หากมีฟ้าผ่าเข้าระบบไฟ  คนไข้ที่เชื่อมต่อกับเครื่อง ต้องไม่ได้รับผลกระทบ และอีกมากมาย ตามข้อกำหนดมาตรฐาน ผมไม่ได้ออกแบบระบบเครื่องบิน  แต่ผมเชื่อว่า คนที่ออกแบบเครื่องบิน  เขาออกแบบเครื่องมา มาตรฐานความปลอดภัยสูงไม่น้อยกว่าผมหรอกครับ และอย่างที่คุณบอก   เขาต้องเผื่อไว้แล้ว แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่า 1. ห้องนักบินมีวิทยุสื่อสารกำลังส่งอย่างน้อย 10watt 2. ห้องโดยสารชั้นธุรกิจบางสายการบิน  มีWiFi ซึ่งเป็นคลื่นวิทยุความถี่ 2.4 Ghz  สูงกว่ามือถือ 2เท่า 3. WiFi ตัวลูกที่ต่อโน๊ตบุคของผู้โดยสาร มีหลายเกรด แต่ละตัวก็สร้างสัญญาณรบกวนได้ 4. พวกมือถือ คอมพิวเตอร์ MP3 แทปเลต มี CPU ทำงานที่ความที่ 100-3000 Mhz สามารถสร้างความถี่ออกมารบกวนได้แบนด์กว้างมาก 5. ขณะบินผ่านจานส่งสัญญานดาวเทียมบางจุด  เครื่องบินกำลังบินผ่านลำคลื่นไมโครเวฟเข้มข้นไป 6. ฟ้าผ่าแต่ละครั้งถ้าผ่าใกล้ๆ มันแรงพอจะเกิด EMP เหนี่ยวนำให้วงจรไฟฟ้าที่ละเอียดอ่อน พังได้ 7. ขณะเครื่องบินไต่ระดับ  บินผ่านวิทยุชุมชน กำลังส่ง  10000 W ไปกี่สถานี 8. ถ้าเผลอทำปรอทวัดไข้ ที่ภายในบรรจุปรอทอยู่ แตกบนเครื่องบิน  สามารถทำให้เครื่องบินตก หากปรอท หลุดรอดไปถึงโครงสร้างเครื่องได้ ทั้ง8ข้อนี้ พิสูจน์หรือยังว่าปลอดภัย 100%   ถึงกล้าบิน *** ขออภัย พิมพ์ผิด ตกหล่นเยอะไปหน่อยครับ   แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 18:14:32 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 18:09:37 จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 18:08:10

ความคิดเห็นที่ 34 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:51:06

ความคิดเห็นที่ 35 สวัสดีครับ ผมเจ้าของคลิ๊ปเองครับ ก่อนอื่นขอเรียนขอโทษทุกท่านในที่นี้ครับ ที่ทำให้เป็นประเด็นขัดแย้งกัน ผมขออนุญาต ชี้แจงครับ อย่างแรกผมมิใช่นักวิทยาศาสตร์ จึงอาจจะไม่เข้าใจกระบวนการทดลองมากนัก การควบคุมตัวแปร หรือการตั้งสมมุติฐานต่างๆ อาจจะไม่ถูกต้องตามหลักการทดลอง ผมมีแค่เจตนาที่ดี ที่จะทำให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย เห็นภาพว่าอุปกรณที่ส่งสัญญาณ อาจจะทำให้เกิดการรบกวนเครื่องช่วยเดินอากาศ แม้จะน้อยมากหรืออาจจะก่อให้เกิดที่ระยะใกล้ๆมากเท่านั้น แต่สามารถทำให้เกิดได้ครับ เนื่องจากมีผู้โดยสารหลายๆท่านไม่เข้าใจขณะที่เราปฎิบัติงาน ผมจึงแค่หวังว่าให้ผู้โดยสารเข้าใจบ้างว่าเราคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารทุกท่าน ดังนั้น แม้แต่เพียงประเด็นนิดเดียว ก็มิสามารถเพิกเฉยได้ ผมจึงจัดทำคลิ๊ปนี้มาให้ชม มิได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง สอง ที่ผมลบคลิ๊ปออกมิใช่ ที่จะหนีหาย หรือโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ครับ แต่ผมมิอยากให้เป็นประเด็นขัดแย้ง โต้เถียงกันครับ ผมขอน้อมรับความผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ สาม ผมมิได้ต้องการอวดอ้างตัวหรืออย่างใดทั้งสิ้น แค่ต้องการทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เห็นภาพเท่านั้น เพราะขณะที่เครื่องบินลงจอดแตะพื้นได้ไม่กี่วินาที ผู้โดยสารหลายๆท่านก็เริ่มเปิดโทรศัพท์กัน ซึ่งอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับตัวท่านเองและผู้อื่นได้ในกรณีฉุกเฉิน สี่จริงอยู่ที่ FAA อนุญาตให้ใช้ IPAD บนเครื่องบิน หรือที่เราเรียกว่า EFB Electronic Flight Bag เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากรต้นไม้ เนื่องจากประหยัดการใช้กระดาษ และลดน้ำหนักเครื่องบิน ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ลดคาร์บอร์นให้โลกมากขึ้น แต่เครื่องมือเหล่านั้นมิใช่การปล่อยสัญญาณโดยตรงออกมาเป็นแค่อุปกรณ์ ที่ช่วยให้นักบินคำนวนน้ำหนัก และใช้ Checklist จากตัวเครื่องเท่านั้น และเท่าที่ประสบการณ์น้อยนิดในวงการบินที่ผมมี หนังสือที่ผมได้อ่าน ยังไม่มีที่ไหนรับรองได้ 100% ว่าการใช้โทรศัพย์ไม่เป็นการรบกวนการทำงานของระบบนำร่องครับ มีแต่งานวิจัยหลากหลายสำนัก แต่ไม่มีการการันตีได้เลยตามประเด็นดังกล่าว ห้า อันนี้ส่วนตัวครับ จริงอยู่ที่หลายๆสายการบินเปิดให้มีการใช้โทรศัพท์บนเครื่องบิน และ WiFi  แต่อุปกรณ์ที่ติดตั้งเข้าไปนั้นทุกชิ้นต้องไรรับการรับรองเรื่องมาตราฐานความปลอดภัยทางการบิน ทั้งสิ้น แม้ว่าสิ่งเล็กที่่ทานอาจจะคาดไม่ถึง เช่นพรม เบาะ หรือแม้แต่กระทั่ง Sticker ที่แปะอยู่บนเครื่องบินต้องผ่านการรับรองว่าหากเกิดความร้อนไฟติดขึ้นมาจะไม่ลามไปยังส่วนอื่นๆ เช่นเดียวกันครับ ที่ผมจะบอกคือการใช้โทรศัพย์บนเครื่องที่ไม่ได้ออกแบบมาให้สามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารเช่นโทรศัพย์ได้ ก็ยังอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยได้ครับ สุดท้ายผมขอโทษอีกครั้ง สำหรับกระทู้นี้ หากทำให้หลายๆท่านไม่สบายใจ ผมมแต่เจตนาที่ดี และคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารทุกท่าน ผมจึงมิสามารถปล่อยให้สิ่งที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ว่าไม่มีความอันตราย แม้เพียงหนึ่งเปอร์เซ็นมาเป็นประเด็นได้ครับ ในทางการบิน เราคิดในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเสมอครับ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเราจะได้รับมือได้ทัน จากคุณ : patpilot (patpilot) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:35:07

ความคิดเห็นที่ 36 เรียนตอบคำถามที่ 33 ครับผมขอเรียนตอบในสิ่งที่ผมมั่นใจนะครับว่าถูกต้อง หนึ่งข้อครับ วิทยุชุมชนอาจจะให้เครื่องบินตกได้หรือไม่? ตอบคือ ได้ครับ แต่อาจจะไม่ใช่การรบกวรระบบการนำร่องของเครื่องบิน แต่เป็นการสื่อสารครับ ในประเทศไทยมีคลื่นแทรกทางวิทยุการบินเยอะเหลือเกิน จนบางคืล่นความถี่นักบินไม่สามารถรับฟังข้อมูลจากวิทยุการบินได้ชัดเจน ซึ่งอาจจะทำให้เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุได้ครับ อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับท่าน แต่อย่างที่บอกครับ เราคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด วิทยุการบินเองยังใส่ใจเรื่องนี้มากเป็นพิเศษจัดสรรค์งบประมาณในการป้องกันหลายสิบล้านบาทเพื่อป้องกันปัญาที่จะเกิดขึ้น ก่อนที่จะสายเกินไปครับ ด้วยความเคารพ จากคุณ : patpilot เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:43:03

ความคิดเห็นที่ 37 ที่แน่ๆมันไม่อันตรายขนาดนั้น  เพราะถ้ามันอันตรายเจ้าหน้าที่ต้องเก็บมือถือจากผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่องไปแล้วล่ะ จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:40:27

ความคิดเห็นที่ 38 #36 ผมเข้าใจดีครับเรื่องความเป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกเรือ และผู้โดยสารทุกๆท่าน  และผมก็เป็นห่วง แต่ในฐานะผู้ที่อยู่ในวงการออกแบบด้านอิเล็กทรอนิกส์คนนึง  ผมก็รู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจ กับการที่หลายๆคนเข้าใจว่า ระบบอิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องบิน มันสามารถถูกรบกวนได้ง่ายๆ   เนื่องจากการที่เราจะปล่อยให้เครื่องมือเหล่านั้น ออกไปสู่ตลาด โดยเฉพาะในงานที่เสี่ยงกับความเป็นความตายเช่นนั้น  กว่าจะออกผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นไปได้  มันผ่านการทดสอบที่แสนโหด ครอบคลุมแทบทุกอย่างที่คิดว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ครับ เช่นฟ้าผ่า  เอามือถือไปวางบนอุปกรณ์ หยดน้ำกระเด็นไปถูกวงจรไฟฟ้า  โดยเฉพาะวงการแพทย์ กับอากาศยาน  มันไม่มีช่องว่างสำหรับการผิดพลาดเลย  ถ้าพลาด คนไข้ ผู้โดยสาร ตาย   สอบสวนพบการผิดพลาดจากส่วนใดส่วนหนึ่งของการออกแบบ  คนออกแบบ  ทดสอบ แล้วเจ้าของผลงาน  ไม่ตายก็เหมือนตายครับ แต่หลายๆคนที่อยู่ในวงการนี้ ก็ไม่ได้อยากพูดอะไร เพราะการไม่ให้เปิดมือถือบนเครื่อง มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพวกเรา  กลับดีซะอีก ที่ลดปัจจัยเสี่ยงให้เครื่องบินไปได้อีก1อย่าง ปัญหามันอยู่ที่ว่า   คลิปการทดลองอันนั้นแหละครับ   ทำให้ผมรู้สึกว่า  มันเกินไปหน่อยครับ ที่เอามือถือไปใกล้เข็มทิศ เข็มทิศขยับเบี่ยงเบนจากแนวเหนือใต้จริงๆ  แล้วบอกว่าเป็นผลจากคลื่นมือถือ  โดยที่ไม่มีการควบคุมตัวแปร   เช่น ให้มือถืออยู่กับที่ แล้วลองเทียบ โทรออก กับไม่โทรออก   หรือไม่ก็ ทดสอบปิดมือพือ แล้วเอาไปใกล้ๆ เข็มทิศด้วยลักษณะเดียวกันกับการเปิดมือถือโทรออก  ซึ่งเหมือนเป็นการจับแพะ ชนแกะ แล้วบอกว่าเครื่องบินโดนรบกวนจากมือถือ ถามว่า มือถือกวนเข็มทิศได้ไหม ผมขอตอบว่า   ได้ครับ   คลื่นวิทยุคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า  โทรสัพท์มือถือ สมมติว่าเป็น GSM 1800 จะสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 1800ล้านไซเกิลต่อวินาที ไปก่อกวนเข็มทิศได้ ซึ่งหมายความว่า มันเป็นไปได้ว่า เข็มทิศจะแกว่งไปมา ด้วยความเร็ว 1800ล้านรอบต่อวินาที แต่เรื่องจากมันแกว่งไปมาทั้ง+และ-  มันจึงหักล้างกันพอดี  เข็มจึงควรอยู่กับที่ครับ ไม่ใช่เบี่ยงเบนขนาดในคลิป ถามต่อว่า  ถ้ามือถือมีผลกับเข็มทิศ  มันจะมีผลกับระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆไหม   ก็ขอตอบว่า  ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกส่งไปอยู่ในมือของท่าน  ได้ผ่านการออกแบบ และผลิต ทดสอบมาอย่างดีแล้วว่า  มันมีหน้าที่และความสามารถ ที่จะไม่ถูกรบกวน โดยสิ่งที่คาดว่า ผู้โดยสารหรือนักบิน จะสามารถพกขึ้นไปใช้งานได้ครับ  ส่วนเรื่องเชิงลึกของเทคนิคการป้องกัน แต่ละชิ้นส่วน แต่ละเครื่องมือ ใช้เทคนิคที่ต่างกันออกไปทั้งทาง Hardware และ softwareครับ คือความจริงก็ไม่มีอะไรหรอก   แต่ผมแค่อยากให้พวกเรา  รู้ข้อเท็จจริง และมีการทดลองอย่างถูกต้องเท่านั้นครับ  และทราบดีว่า ระบบวิทยุการบิน  ถูกรบกวนอยู่ตลอดเวลาครับ  แต่ไม่ใช่จากมือถือ ระบบสื่อสารการบิน วิทยุสื่อสาร ย่าน VHF 117.975- 137 MHz วิทยุสื่อสาร ย่าน UHF 225- 400 MHz อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร บริเวณท่าอากาศยาน Air- Ground 117.975-137 MHz Ground - Ground 150 - 170 MHz และ ย่าน 400 MHz ระบบพวกนี้ ถูกรบกวนอยู่เสมอ เนื่องจากการใช้งาน เครื่องวิทยุสื่อสาร และวิทยุกระจายเสียง ทั้งจงใจ และไม่จงใจครับ  ส่วนระบบนำร่องอื่นๆ  พวกนั้นออกแบบมาให้สามารถทำงาน แม้ถูกรบกวนได้ครับ (ถ้าไม่ได้จงใจรบกวนเพื่อวินาศกรรมตรง)  และในอนาคตอันใกล้ ระบบสื่อสารการบิน อาจจะถูกเลื่อนไปที่ความถี่สูงขึ้น และมีการเข้ารหัสแบบดิจิตอล เพื่อแก้ไขปัญหาการรบกวนครับ จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 23:31:57

ความคิดเห็นที่ 39 http://www.dailymail.co.uk/news/article-2144190/Hello-I-CAN-talk---Mobile-phone-use-planes-cleared-Virgin-Atlantic-planes.html ตอนนี้สายการบินเริ่มเปิดให้บริการใช้มือถือบนเครื่องขณะอยู่ในอากาศแล้วครับ อย่าเพิ่งถกเถียงกันกันเลยครับ ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริง เขาคงไม่เริ่มเปิดให้บริการนะครับ จากคุณ : Giuseppe เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 01:47:23

ความคิดเห็นที่ 40 อ๋อ.... เขาเรียก white-lie สินะ ทันสมัยนะเนี่ย อินเทรนด์สุดๆ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 08:13:00