ความคิดเห็นที่ 1 "ความคิดเห็นที่ 2     "แล้วจะแยกออกได้ยังไงว่า เป็น ธรรมดา หรือ GMO ครับ ต้นมะละกอที่บ้านผม มีอายุได้ 2 ปีกว่าๆ แล้ว มันเกิดเองตามธรรมชาติ แบบนี้เป็น GMO มั้ย เพราะมันไม่เคยมีโรคเลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้ดูแลอะไรเลย" ถ้าดูด้วยตาเปล่าจะแยกยากมากครับ มะละกอจีเอ็มโอกับพันธุ์ตั้งต้นของมันนั้นจะมีรูปร่างหน้าตาหรือแม้แต่รสชาติเหมือนกัน อาจจะต้องลองเอาเชื้อไปป้ายดูว่าติดโรคมั้ย หรือไม่ก็ต้องเอาเข้าแล็บไปตรวจทางดีเอ็นเอครับ ส่วนมะละกอที่บ้านของ คห2 นั้นปลูกอยู่เดี่ยวๆ ที่บ้าน ซึ่งถ้าไม่อยู่ในแหล่งระบาดของโรค ก็จะไม่ติดโรคครับ ------------------------------------------------------ "ความคิดเห็นที่ 4   "แล้วทำไมถึงมีคนออกมาต่อต้านล่ะค่ะ เขารู้ได้ไงว่ามันไม่ดีหรือรู้ได้ไงว่ามันดี" น่านนนซิครับ คือผมคิดว่า คนที่ต่อต้านก็รับแต่ข้อมูลว่ามันไม่ดี ซึ่งก็ไม่ได้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือครบถ้วน ขณะที่ข้อมูลด้านดีนั้น ไม่ค่อยมีใครทำออกมาเผยแพร่ ทำมาแล้วก็ฟังดูยากเกินไปชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ไม่เหมือนบอกว่ามันกินแล้วอันตราย กินแล้วเป็นมะเร็ง (ทั้งๆ ที่ไม่มีเหตุผลรองรับ) มันเชื่อง่ายกว่าเยอะ -------------------------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 9     "คงต้องคอยกฏหมายความปลอดภัยทางชีวภาพของบ้านเราออกมาประกาศใช้ก่อนครับ อะไรที่มันแพร่ระบาดไปแล้วเช่น มะละกอและฝ้าย ก็ปล่อยไปก่อน พอกฏหมายออกมาก็จัดการให้เข้ารูปเข้ารอยซะ แล้วก็ทำตาม protocol ที่เป็นมาตรฐานสากลยอมรับกัน" รอกฎหมายนี้มากว่า 10 ปีแล้วครับ ผมช่วยในกระบวนการร่างตอนแรกๆ ด้วย แต่ป่านนี้แล้วยังไม่ออกมาจากกฤษฎีกาเลย ... ความจริงเราก็สามารถใช้กฎหมายอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วในการดูแลการนำเข้าและปลูกหรือใช้จีเอ็มโอครับ และก็เป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วย แต่การมีกฏหมายเฉพาะจะช่วยให้รวมศูนย์ในการดูแลมากขึ้น จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 11:15:09

ความคิดเห็นที่ 2 "ความคิดเห็นที่ 12     ผมไม่ได้ห่วงนะเรื่องว่า "กิน" เข้าไปแล้วมันจะอัตราย แต่ที่ผมห่วงคือมันจะกระจายจนไม่รู้ว่าจริงๆแล้วที่เรากำลังกินอยู่น่ะ อันไหนไม่ใช่ เพราะถ้าไม่ควบคุมดีๆ มันก็จะกระจายพันธุ์ผสมกันมั่วซั่วไปหมด" ถ้าเป็นไปอย่างที่เป็นอยู่ คือ ไม่อนุญาตให้ปลูกกันเป็นทางการ ก็จะควบคุมไม่ได้และไม่มีใครดูแลครับ อย่างมะละกอเนี่ย เนื่องจากประเทศไทยเราประกาศเป็นประเทศไม่ปลูกจีเอ็มโอ ดังนั้นพอมันอาจจะกระจายไปทั่วอย่างนี้ก็ไม่มีใครมาดูแล เพราะมันจะเป็นการไปยอมรับผิดด้วยว่าไม่มีการควบคุมตั้งแต่แรก ----------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 13     "60 ปีก่อน ตอนมียาฆ่าแมลงออกมาใหม่ ก็บอกว่าไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตอนนี้ละเป็นไง หากตอนนี้บอกว่า GMO ปลอดภัยไร้กงวล อีก 50 - 60 ปีข้างหน้า เราอาจมีกฎหมายควบคุมและกำจัดมนุษย์กลายพันธุ์อย่างใน X-MEN กันก็ได้" ก็ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์กันครับว่ามันเป็นอันตราย ไม่ใช่แค่ตั้งข้อสงสัยไปเรื่ีอย เหมือนผมบอกว่า กินน้ำเปล่าน่ะอันตรายนะ ห้ามกิน อีก 50-60 ปีข้างหน้า เราจะค้นพบว่ามันอันตรายต้องห้ามกินตั้งแต่ตอนนี้ เราอยู่ในโลกปัจจุบันที่ทุกอย่างมีความเสี่ยงในชีวิตทั้งนั้นแหล่ะครับ แต่ต้องอยู่บนการประเมินว่าอะไรเสี่ยงน้อย อะไรเสี่ยงมาก ไม่ใช่อาศัยความกลัวไปก่อนอย่างไม่มีเหตุผล ------------------------------------------------ "ความคิดเห็นที่ 16     "ผมมองว่า GMO เป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ในมะละกออาจไม่มีปัญหา แต่ต่อไปพอพัฒนาไปมากๆเข้า การตัดต่อยีนมันมีขอบเขตกว้างขึ้นเรื่อยๆ การเอายีนบางอย่างไปผสมกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างอาจจะทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่คาดคิดตามมาก็ได้" เทคโนโลยีจีเอ็มโอเนี่ย ผมว่ามันค่อนข้างจะล้าสมัยไปเยอะแล้วเมื่อเทียบกับความก้าวหน้าอื่นๆ ทางเทคโนโลยีชีวภาพหรือทางการแพทย์ ผมเล่นเรื่องตัดต่อยีนมาตั้งแต่จะยี่สิบปีแล้ว และในประเทศอื่นๆที่เคยล้าหลังกว่าเราด้านเทคโนโลยีชีวภาพ อย่างเวียดนาม มาเลเซีย หรือแม้แต่พม่า ตอนนี้ก็วิจัยด้านจีเอ็มโอกันล้ำหน้ากว่าเราเยอะ พม่ายังพัฒนาพันธุ์และปลูกเป็นการค้าแล้วเลย ข้อดีของกฏเกณฑ์ที่มีตอนนี้ในด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ คือ การที่ต้องตรวจสอบทุกขั้นตอน ตั้งแต่วางแผนสร้างจนสร้างจีเอ็มโอนั้นเสร็จว่าผลที่ได้จะมีอะไรบ้าง คำว่าผลที่คาดไม่ถึงเนี่ยเป็นสิ่งที่ทุกคนช่วยกันตามหาตลอดการพัฒนาจีเอ็มโอขึ้นมา และถ้ามีแนวโน้มใดๆ ว่าจะเกิดขึ้น การพัฒนาจีเอ็มโอนั้นก็จะถูกยกเลิก (เคยมีแค่เคสเดียว ที่เอายีนของถั่วมาใส่เข้าไป แล้วพบว่าอาจจะเป็นปัญหากับคนที่แพ้ถั่วได้ ซึ่งก็ยกเลิกไปในระดับห้องแล็บ) จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 11:27:56

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ตอนที่เรายังไม่รู้จักโรคเอดส์ เราก็มีอะไรกันโดยไม่ป้องกัน เพราะเราไม่คิดว่ามันจะไม่ดี แต่พอเรารู้จักแล้วเราถึงป้องกันครับ ส่วนคนที่ติดไปแล้วก็เสียใจด้วยครับ มันหลายมุมมองครับอาจารย์ บ้างก็กลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด (ซึ่งอาจจะมีข้อมูลไม่เพียงพอ ว่าทำอย่างนี้แล้ว ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้) บางคนก็มั่นใจว่ามันไม่มีทางเกิดผลด้านลบแน่ๆ บางคนเช่นผม ไม่ชอบอะไรที่มันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ผมก็กินส้มตำประจำนะครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่ามะละกอมาจากไหน แต่เห็นว่ามันมีมาหลายปีแล้ว ยังไม่ค้นพบด้านเสียของมัน ก็กินๆกันไปก่อนได้ครับ จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 11:35:13

ความคิดเห็นที่ 4 "ความคิดเห็นที่ 17     สิ่งที่อันตรายที่เรามักมองข้ามคืออันตรายต่อ Gene pool ในธรรมชาติ เพราะยีนที่ถูกตัดต่ออาจส่งผลต่อประชากรในอนาคต อีกทั้งอันตรายต่อระบบนิเวศ เพราะไม่มีใครรู้ว่าในระบบมีแมลงกี่ชนิดที่ได้รับผลกระทบ อาจเป็นทั้งแมลงดีและแมลงไม่ดี สุดท้ายเราอาจต้องสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพโดยไม่รู้ตัว" การพูดถึงอันตรายที่มีต่อยีนพูล หรือต่อระบบนิเวศ ต้องมีเหตุผลมารองรับด้วยครับ ไม่ใช่ยกขึ้นมาลอยๆ ให้น่ากลัว อย่างที่พูดถึงผลกระทบต่อแมลง คำตอบจากการใช้จีเอ็มโอกว่า 10-20 ปีในหลายๆ ประเทศคือพบว่าทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ระบบนิเวศดีขึ้น ความหลากหลายทางชีวภาพสูงขึ้นในพื้นที่นั้น .... ทำไมหรือ ก็เพราะว่ามันช่วยลดการใช้ยาฆ่าแมลงลงไป ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการฆ่าแมลงทุกชนิดในพื้นที่ ขณะที่พืชจีเอ็มโอจะเลือกฆ่าเฉพาะแมลงที่เป็นตัวศัตรูพืชที่ต้องการเท่านั้น ------------------------------------------ "ความคิดเห็นที่ 19     "ผมว่าวิทยาตาสว่างคราวนี้ไม่ค่อยมีความรู้ ที่เป็นวิชาการเท่าไร ค่อนข้างจะเป็นลักษณะทางการเมือง บอกว่าไม่อันตรายแล้วเอามาลองกินกันดู  ถ้าจะเข้าสู่วิชาการให้สมกับคำว่าเป็นวิชาการแล้ว ผมคิดว่าน่าจะอธิบายว่าเขาตัดต่อมันเป็นอย่างไร มันทำอย่างไร และ คนที่กลัว เขากลัวตรงไหน ไม่ใช่เอาทางสังคมมาพูด ไม่ใช่กินแล้วเป็นซอมบี้ หรือ ผีดิบ หรือ ป้าเฉ่ง ก็ตาม เขาใช้ RNA ตัวไหน ไปตัด แล้ว แม้เราจะทราบส่วนที่เอาไปผลิตยาฆ่าแมลง ทำให้ใช้ปุ๋ยน้อย เอาไปต่อในพืชที่เราต้องการ แต่การตัดต่อ โดย DNA RNA มันมีส่วนเกิน  " เข้าใจความรู้สึกของผู้ชมที่เป็นนักวิชาการหรือเป็นอาจารย์ แล้วอยากให้รายการออกมาเป็นวิทยาศาสตร์จ๋าๆ เป็น scince documentary อย่างที่มีคนกันแล้ว (ดูตัวอย่างข้างล่าง) แต่รายการวิทยาตาสว่างที่ผมกับเพื่อนๆ พยายามทำกันนี้จะออกเป้น general science หรือ popular science ที่พยายามจะกระตุ้นให้คนคิดวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ ที่ใกล้ตัว จับต้องได้ ไม่ใช่วิชาการเพียวๆ ที่ดูแล้วน่าเบื่อ (อันนี้ก็แล้วแต่คน ว่าใครจะชอบแบบไหน) ถ้าได้ลองฟังเนื้อหาในคลิปผมอีกครั้งนึง จะเห็นว่าผมพูดถึงประเด็นต่างๆ เอาไว้ครบแล้ว แต่ให้สั้นๆ ง่ายๆ อยู่ใน 5 นาทีเท่านั้น ว่าเค้าตัดต่อยังไง เค้ากลัวกันตรงไหน และก็ที่พูดถึงกินแล้วเป็นผีดิบเนี่ย พวกเอ็นจีโอเค้าพูดอย่างนั้นจริงๆ / เรื่องนี้เป็นเรื่องมะละกอจีเอ็มโอ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องใช้ปุ๋ยน้อยครับ การพาไปลองชิมเป็นช่วงท้ายของการพิสูจน์เท่านั้น เป็น gimmick ที่ประกอบการให้คนเห็นว่ามะละกอจีเอ็มโอมันก็หน้าตาเหมือนมะละกอทั่วไป ถ้าทำรายการแบบมีแต่อธิบายด้วยรูป ด้วยตัวหนังสืออย่างเดียว โดยไม่เห็นของจริง คนก็ไม่เชื่ออีก แล้วก็จะมีคนท้าทายอีกว่าถ้าดีจริงก็ต้องกล้ากินให้ดูซิ ผมก็เลยกินให้ดูซะเลย จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 11:41:42

ความคิดเห็นที่ 5 " ความคิดเห็นที่ 19     "ปัญหาที่เขา สงสัยคือ สารพันธุ์กรรมส่วนเกินนี้ มันจะทำให้เกิดอะไรหรือเปล่า สำคัญคือไม่รู้ว่า มันจะเกิดอะไร  (ดังนั้นการตรวจหา ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงเป็นเรื่องยาก)นักวิชาการจำนวนมากจึงไม่มั่นใจ ที่จะบอกไปว่ามันปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ แม้วันนี้มันจะกินได้โดยไม่ตายก็ตาม เพราะว่า สารบางตัวที่เกิดจากสารพันธ์กรรมที่เราไม่อาจจะ ออกแบบได้ อาจจะมีผลในระยะยาวก็ได้ สำหรับยาฆ่าแมลงตอนนี้ปัจจุบัน มียกเลิกไปหลายตัว เพราะมีปัญหาทางสิ่งแวดล้อม และ สะสมย่อยสลายได้ยาก และ มีผลต่อความหลากหลายทางชีวภาพจำนวนมากที่เดียว  กว่าจะยกเลิก ก็ผ่านไปเยอะแล้ว ของบางอย่างเขามีบทเรียนจากการใช้ของที่ไม่รู้ว่าใช้อย่างไร แต่ไม่รู้ผลข้างเคียงที่เราไม่รู้ จึงมีคนต่อต้านพอสมควร นอกจากนั้นยังไม่รวมถึง การผลิตที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้ ความหลากหลายทางชีวภาพเสียอีกต่างหาก ส่วนผมเอง ไม่รังเกียจ GMO แต่จะให้บอกว่า ปลอดภัยเต็มร้อย ผมเองไม่สามารถพูดได้นะ" ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ปลอดภัย 100% ครับ แม้แต่ข้าวที่เรากินทุกวัน ก็ยังเป็นอันตรายเลยถ้ากินมากเกินไปหรือเกินไม่เหมาะกับคน (เช่นป่วยเป็นเบาหวาน) แต่เราก็อยู่ในโลกได้เพราะการประเมินว่าเราคุ้มค่าที่จะเสี่ยงกับสิ่งเหล่านั้นมากแค่ไหน ไม่ใช่ว่าอยู่เพราะความกลัวที่คนอื่นบอกมา ดังนั้้น คำว่า "อาจจะเป็นอย่างนั้น" "อาจจะเป็นอย่างนี้" ก็ต้องมาจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่ามันเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน มีนัยสำคัญมั้ย มีเหตุผลมั้ยหรือถูกหลอกให้กลัวหรือเปล่า ที่น่าขำคือ คนเรากลับอาศัยความเคยชินเป็นตัวตัดสินเรื่องต่างๆในชีวิต เรากินพืชที่ฉีดยาฆ่าแมลงเยอะๆ ได้เพราะความเคยชิน มากกว่าที่จะเป็นเพราะประเมินว่ามันอันตรายน้อยกว่าจีเอ็มโอ ------------------------------------------------------------ "ความคิดเห็นที่ 20     "ผมไม่คิดว่ากินแล้วเป็นอันตราย มันก็เหมือนกันของแปลกใหม่นั่นแหละ แต่ที่น่าห่วงกว่าคือ เหมือนกับเอา เอเลี่ยนสปีชี่มาปล่อยในระบบนิเวศน์ อันนี้อันตรายกว่า" บรรดาพืชไร่ที่เรากิน เราปลูก กันอยู่ในประเทศนี้ ไม่ว่าจะข้าวโพด มะละกอ หรือยางพารา ก็เป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ทั้งนั้นแหล่ะครับ เป็นอันตรายอย่างไรบ้างต่อสิ่งแวดล้อม มันระบาดกระจายไปทั่วอย่างควบคุมไม่ได้มั้ย คำตอบคือน้อยมาก เพราะพวกพืชไร่นั้นจะมีชีวิตอยู่รอดเองได้ยากมาก ถ้าไม่มีใครคอยให้น้ำ ให้ปุ๋ย ให้ยาฆ่าแมลงมัน ฉันใดก็ฉันนั้นครับ ข้าวโพดจีเอ็มโอ หรือมะละกอจีเอ็มโอ ก็ปรับมาจากพืชไร่ดั้งเดิมให้มีคุณสมบัติต่างๆ ไปบ้างเล็กน้อยตามที่เราต้องการ แต่ความสามารถในการรุกรานสิ่งแวดล้อมนั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากพืชตั้งต้นของมัน ------------------------------------------ " ความคิดเห็นที่ 22     "บริษัททำยาฆ่าแมลงไม่เจ้งหลอกครับเพราะบริษัทพวกนี้แหละที่ทำ GMO เสร็จก็จดลิขสิทธ์ขาย ใครเก็บเม็ดไว้ปลูกซ้ำก็โดนฟ้องกันหมดตัวเลยทีเดียว ไปหา the world according to Monsanto มาดูกันนะ" ถูกต้องที่บอกว่าบริษัที่เคยทำยาฆ่าแมลงจะไม่เจ๊งครับ แต่เป็นเพราะบริษัทพวกนี้จะหันมาพัฒนา GMO ขายกัน และลดการขายยาฆ่าแมลงกัน ซึ่้งไม่ได้มีแต่ Monsanto อย่างที่พวกเอ็นจีโอสร้างภาพไว้ให้ดูน่ากลัว แต่มีเป็นร้อยๆ บริษัทเลยที่กำลังทำ GMO ขาย กรณีการฟ้องร้องระหว่างบริษัทกับเกษตรกรที่เก็บเมล็ดไว้ปลูกซ้ำนั้น ก็เป็นเรื่ืองของกฎหมายแต่ละประเทศซึ่งเกษตรกรของประเทศนั้น (ในกรณีคือ อเมริกากับแคนาดาที่เคยโดยฟ้อง) รับทราบอยู่แล้วว่าทำไม่ได้ แต่การต่อสู้คดีคือการอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุไม่ได้ตั้งใจเก็บ สำหรับมะละกอจีเอ็มโอ เป็นพันธุ์ที่นักวิชาการไทยเป็นคนพัฒนาเอง และไม่ได้มีเงื่อนไขในเรื่องสิทธิบัตรหรือเรื่องการห้ามปลุกซ้ำแต่อย่างไร จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 12:05:11

ความคิดเห็นที่ 6 ผมไม่กลัวเรื่อง GMO นะ อาจเป็นเพราะดูน่ากินกว่า จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 12:06:50

ความคิดเห็นที่ 7 ตลาด Organic foods ยังไปได้ดีอยู่ แถมเมืองไทยก็มีพื้นฐานเรื่องเพาะปลูกมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ไทยเราสามารถจับตลาดนี้ได้ไม่ยาก  แถมใครจะมาแข่งด้วยก็ไม่ง่ายนัก เพราะไทยเรามีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาก ดังนั้น สำหรับประเทศที่อดหยากหรือขาดแคลนด้านอาหาร จึงจำเป็นต้องพัฒนา GMO foods เพื่อให้ทันต่อความต้องการบริโภค แต่ในขณะที่ไทยแลนด์ ณ ขณะนี้ ยังไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องหันเหไปพึ่ง GMO foods แต่อย่างใด เพราะไม่รู้จะไปลงเล่นในตลาดที่มีคู่แข่งที่ทรงพลังทรงอำนาจทำไมให้เปลืองตัว จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 12:35:31

ความคิดเห็นที่ 8 "ความคิดเห็นที่ 23    " "แค่คิดว่าเรากำลังแทนวิธีคัดเลือกโดยธรรมชาติด้วยแล็ปที่มีมนุษย์เป็นคนตัดสินใจแทนธรรมชาติ แค่นี้ก็สยองแล้วครับ ผลเสียที่ตามมามันไม่แน่เสมอไปว่าเราจะตามไปแก้ได้" พืชอาหารที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้่ แทบทุกอย่างก็มาจาการที่มนุษย์เป็นผู้ตัดสินใจแทนธรรมชาติ ด้วยการจับต้นนั้นมาผสมกับต้นนี้แล้วเลือกต้นที่ชอบไปปลูกต่อๆ เรื่อยๆ และยังใช้วิธีการในห้องแล็บมากมาย ทั้งเรื่องสารเคมี เรื่องรังสี หรือเครื่องหมายดีเอ็นเอมาใช้ ปรับปรุงพันธุกรรม แม้แต่พวกสัตว์ที่เรากินกันอยู่ก็เกิดมาจากกระบวนการอย่างนี้ ------------------------------------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 24    " "GMOs ก็คือการตัดเลือกสายพันธุ์โดยมนุษย์? มันทน มัน อึด ไม่มีโรค ? ถ้าวันหนึ่งมีโรคเกิดกับมัน ยาที่ใช้ ก็ต้องแรง ขึ้นใช่ปะ? นั้นหมายความว่า สารเคมีก็อันตรายต่อเรามากขึ้น? ถ้าไปผสมกับ พืชปกติ ก็หมายความว่า shipหายแล้ว พืชปกติ อาจเกิดการกลาย พันธุ์ ที่นี้ทาง บวก รึลบ ละ  แต่ถ้า มันไปในทางลบ เช่นว่า ทำให้ไม่มีเมล็ด (อ้าว แล้วจะขยายพันธุ์ไงละ สำหรับพืชที่มีเมล็ด)   GMOs เอาง่ายๆว่าถ้ามันมีผลต่อ สิ่งมีชีวิตหนึ่ง มันก็ต้องส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แน่ แต่เรายังไม่มีวิจัยในมนุษย์ที่จะยืนยันได้ ?" ถ้ามะละกอจีเอ็ม เกิดมีโรคใหม่ติดมันได้ วิธีแก้ก็คือการพัฒนาพันธุ์ใหม่ขึ้นมารับมือกับโรคใหม่นั้นครับ ไม่ใช่ไปใช้ยาแรงขึ้นหรือสารเคมีอันตรายขึ้น ไอ้วิธีการที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ในการฉีดยาแรงขึ้นต่างหากที่อันตราย ไม่ได้มีรายงานหรือหลักฐานใดๆ ครับว่าพืชจีเอ็มไปผสมกับพืชตั้งต้นของมันแล้วได้ผลลบ หรือทำให้ไม่มีเมล็ด ... เป็นแค่ข่าวลือหรือเปล่าครั้บ หรือสงสัยกังวลไปเอง และก็ไม่จำเป็นที่ถ้ามันมีผลต่อสิ่งมีชีวิตหนึ่ง แล้วต้องมีผลต่อสิ่งมีชีวิตอื่นหรือต่อมนุษย์ครับ เหมือนมะละกอจีเอ็มเนี่ยก็ไม่ได้มีผลใดๆ กับร่างกายมนุษย์ครับ ----------------------------------------------------------------- " ความคิดเห็นที่ 32     "สำหรับผมอยากเห็นฉลากระบุมากกว่า ว่าสินค้าตัวไหนเป็นGMO อันไหนเป็น Organic จะได้มีสิทธิเลือก" มีกฏหมายระบุอยู่แล้วครับให้ติดฉลาก .....ส่วนของ สธ.นั้น โดย อย.ซึ่งดูแลทางด้านผลิตภัณฑ์อาหารที่จะต้องแสดงฉลากโดยระบุคำว่า "ดัดแปรพันธุกรรม" ท้ายชื่อส่วนประกอบของอาหาร หากเป็นอาหารประเภทถั่วเหลืองและข้าวโพดที่ได้จากเทคนิคการดัดแปรพันธุกรรม เมื่อมีปริมาณตั้งแต่ร้อยละ 5 และเป็นส่วนประกอบหลัก 3 อันดับแรก โดยอาหารที่ดัดแปรพันธุกรรมอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องแสดง ...... นอกจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ตามประกาศนี้ ยังห้ามใช้ข้อความว่า "ปลอดอาหารดัดแปรพันธุกรรม" หรือ "ไม่ใช่อาหารดัดแปรพันธุกรรม” เป็นต้น ในกรณีที่ฝ่าฝืนจากประกาศดังกล่าว มีบทลงโทษทั้งจำและปรับแล้วแต่กรณี ทว่าจนขณะนี้ก็ยังไม่มีการตรวจพบการทำผิดตามประกาศแต่อย่างใด.................... --------------------------------------------------------------------- " ความคิดเห็นที่ 33     "อืมมม..... ดูแล้วก็รู้สึกแปลกๆนะคะ เพราะว่าที่เขากลัว GMO กันนี่ไม่ใช่กรณีกิรแล้วลงไปชักดิ้นชักงอตาย เหมือนกินยาฆ่าแมลงเข้าไป อะไรแบบนั้น เขาน่าจะกลัวผลกระทบของจีโนมที่ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติน่ะค่ะ ว่าจะส่งผลให้จีโนมธรรมชาติอื่นๆกลายพันธุ์ได้หรือเปล่า (เช่นของมนุษย์) ถ้าอยากทดลองเรื่องนี้ คงต้องเอาคน 300 คนมากินอาหาร GMO บ่อยๆ แล้วเก็บข้อมูลความเปลี่ยนแปลงไปซัก 5 ชั่วอายุคนล่ะค่ะ......" คนจำนวนมากยังเชื่อว่ากินแล้วเป้นอันตรายเหมือนกินยาฆ่าแมลงแบบตายผ่อนส่งระยะยาวครับ แบบเชื่อว่ากินแล้วเป็นหมันหรือแม้แต่ที่เชื่อว่ากินแล้วเป็นผีดิบจริงๆ ยังมีเลย ส่วนพิธีกรในรายการนี้ก็พยายามทำให้ดูตลกๆ ตามคอนเซปต์ของรายการด้วย การทดลองให้คนกินเรื่อยๆ แล้วติดตามผลไป 5 รุ่นเนี่ย เจ้าของความเห็นก็คงรู้อยู่ว่าทำไมได้ง่ายๆ และจริงๆ ก็เป็นวิธีการของพวกเอ็นจีโอที่จะหลอกให้กลัวอย่างนั้น กลัวเรื่องระยะยาววววว ไปเรื่อยๆ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 12:35:51

ความคิดเห็นที่ 9 "ความคิดเห็นที่ 35     "มนุษย์เริ่มทำหน้าที่แทนพระเจ้าซะแล้ว จริงๆ แล้วยังไม่มีการพิสูจน์อย่างแน่ชัดว่าพืช GMO เป็นอันตรายกับมนุษย์ แต่มีการทดลองว่ามันเป็นอันตรายกับสัตว์บางชนิด "ทดลองให้หนูกลุ่มหนึ่ง กินมันฝรั่งที่ผ่านการตัดต่อและดัดแปลงรหัสทางพันธุกรรมเป็นเวลา 10 วัน พบว่าอวัยวะต่างๆ ตลอดจนระบบภูมิคุ้มกันของหนูกลุ่มนี้ถูกทำลาย  ในขณะที่หนูอีกกลุ่มกินมันฝรั่งธรรมดานั้น ตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ    เขาจึงสรุปว่า ขบวนการตัดต่อและดัดแปลงรหัสทางพันธุกรรมต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงทำให้ มันฝรั่งกลายเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย  ซึ่งนักวิทยาศาตร์ได้ตั้งเป็นสมมุติฐานว่า มีการติดเชื้อไวรัสที่ทำลายเซลล์เยื่อบุลำไส้ของหนูซึ่งเป็นผลมาจากการตัดต่อรหัสทางพันธุกรรมของพืช" http://en.wikipedia.org/wiki/Pusztai_affair หลักการ GMO คือนำ ยีน อย่างเช่นแบคทีเรีย มาตัดต่อใส่ในพันธุ์พืช เช่น ข้าวโพด นำยีน จากแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis  ที่ผลิดสารพิษจากธรรมชาติที่ใช้ฆ่า หนอนศัตรูพืช ซึ่งสารเหล่านี้ก็สามารถซื้อมาพ่นใส่ป้องกันแมลงได้อยู่แล้ว แต่พืชเหล่านี้สามารถผลิดได้เอง ซึ่งทำให้แมลงดีๆ อย่างผีเสื้อบางชนิดต้องตายลง" มนุษย์ทำให้หน้าที่แทนพระเจ้ามานานแล้วในการคัดพันธุ์พืชและสัตว์มาปรับปรุงเป็นอาหาร เป็นสัตว์เลี้ยง เป็นไม้ประดับ ฯลฯ ขึ้นกับเรานิยามว่าพระเจ้าคืออะไร พระเจ้ามีจริงหรือไม่ และสิ่งที่เราทำอยู่นี้คือสิ่งที่พระเจ้าดลใจให้ทำอยู่หรือเปล่า ถ้าเจ้าของคอมเม้นต์ได้อ่านเนื้อหาในเว็บวิกินั้น จะทราบว่าการทดลองของ Dr.Pusztai เป้นที่ทราบกันดีในวงการวิทยาศาสตร์ว่าการทดลองที่ผิดพลาด ไม่เหมาะสมในการออกแบบการทดลองและวิเคราะห์ และยังไม่ได้ตีพิมพ์ก่อนจะเผยแพร่ออกสื่อด้วย เจ้าตัว เองยังถูกไล่ออกจากสถาบันที่ทำงานเลย แต่พวกเอ็นจีโอเอาเรื่องนี้มาอ้างตลอด ส่วนเรื่องสารพิษจากบีทีที่ทำให้หนอนเจาะข้าวโพดตายได้นั้น ก็เช่นกัน ก็เป็นการทดลองที่ผิดพลาดที่ถูกตำหนิกันเยอะ เนื่องจากเอาเกสรของข้าวโพดบีทีไปบังคับให้ผีเสื้อบางชนิดที่ว่านั้นกิน ทั้งๆที่ไม่ใช่อาหารของมัน ------------------------------------------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 38     "อย่างนี้เข้าข่าย งมงายในวิทยาศาสตร์ มั้ย พอแปะป้าย ว่ามาจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เลยดีไปหมดเลย เหรียญมันมีสองด้าน แม้แต่วิทยาศาสตร์ ก็ต้องใช้อย่างระมันระวัง บางทีกลับไปค้ดพันพืช/สัตว์ แบบเดิมที่ทำกันมาเป็นพันปี อาจจะดีกว่าก็ได้" ไม่ครับ อย่างนี้เข้าข่าย "งมงายในความกลัววิทยาศาสตร์" ครับ พอแปะป้ายว่ามาจากกระบวนการวิทยาศาสตร์ ก็เลวไปหมด จีเอ็มโอถูกสร้างขึ้นมานั้น หลักๆ ก็เมื่อวิธีการเพาะปลูกปรับปรุงพันธุ์ด้วยวิธีการดั้งเดิมนั้นทำไม่สำเร็จแล้วหรือช้ามากๆๆๆ และต้องหาวิธีการใหม่ๆ มาช่วยให้เร็วขึ้น อย่างมะละกอเนี่ย ถ้าไม่ทำเป็นจีเอ็ม วิธีอื่นๆ ก็ไม่ได้ผลเท่าไหร่หรอกครับ -------------------------------------------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 40    " "ใน Food Inc. Monsanto ทำ GMO ดัดแปลงพันธุกรรมพืชให้ทนต่อยาฆ่าแมลงของตัวเอง เลยได้ผูกขาดทั้งพันธ์พืชและยาฆ่าแมลง เกษตรกรที่ไร่ถูกปนเปื้อนด้วยพื้ชตัดแต่งพันธุกรรมก็ถูกฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์ สรุปคือรายย่อยตายหมด" การผูกขาดเป็นอีกประเด็นนึงที่คนยกขึ้นมาเรื่อย แต่ก็เป็นสิทธิของเกษตรกรนี่ครับ ถ้าไม่อยากใช้หรืออยากใช้ยี่ห้ออื่นๆ ที่มีอีกเป็นสิบๆ ยี่ห้อ ก็ใช้ได้ ตอบข้างบนไปแล้วว่าการฟ้องร้องลิขสิทธิ์เป็นเรื่องของกฎหมายแต่ละประเทศ และในอเมริกากับแคนาดาเค้าก็ยอมรับเรื่องที่จะไม่ละเมิดลิขสิทธิ์การใช้พันธุ์พืชจีเอ็มซ้ำฤดูกาล ดังนั้นถ้าไม่ได้ทำผิดจริง (เช่น เป็นอุบัติเหตุ ปนเปื้อนเข้ามาจริงๆ ) ก็ฟ้องร้องสู้กันครับ สถานการณ์การปลูกพืชจีเอ็มตอนนี้ ได้เปลี่ยนมาอยู่ในประเทศกำลังพัฒนามากขึ้นทุกๆ ปีครับ และก็เป็นเกษตรกรรายย่อยนั่นแหล่ะที่ได้ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าตายหมด แต่มันต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นแน่ๆ ถึงได้เพิ่มพื้นที่การเพาะปลูกกันต่อเนื่อง จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 12:52:08

ความคิดเห็นที่ 10 #7 เป็นความเห็นที่น่าฟัง แต่ดูดีๆนะครับ ฝ้ายออร์กานิคถ้าจะมาปลูกในบ้านเราเนี่ย (ปลูกแบบอุตสาหกรรมนะ) มันจะรอดมั้ย จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 12:52:31

ความคิดเห็นที่ 11 "ความคิดเห็นที่ 77     "เรื่อง GMO ต้องมองเป็นรายกรณีครับ พิจารณารวมไม่ได้ ปล. เรื่องมะละกอ GMO น่าจะเชิญอาจารย์สุพัฒ หรืออ.วิชัย เจ้าของที่มาพูดบ้างนะครับ น่าจะได้ข้อมูลดีๆ  นอกจากการใช้สถานที่ถ่ายทำอย่างเดียว" ตอนนี้ก็เน้นแต่เรื่องมะละกอจีเอ็มโอเรื่องเดียวครับ ตอนถ่ายทำ (รวมถึงสคริปต์) ก้ได้ปรึกษาอาจารย์สุพัฒน์แล้วครับ รวมทั้งเชิญอาจารย์เป็นวิทยากรในรายการด้วยนะ แต่อาจารย์ไม่สะดวกครับ ขอดูห่างๆ เท่านั้น ------------------------------------------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 80     "http://www.bbc.co.uk/news/science-environment-19585341 ใช้ round up คู่กับ GMO จนเกิด Super weed วัชพืชที่ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย  Dow Agrosciences เลยทำข้าวโพด GMO ตัวใหม่ โดยทำให้ทนยาฆ่าหญ้าที่เป็นส่วนผสมหนึ่งของฝนเหลืองที่เอาไปโปรยใส่เวียดนามสมัยสงคราม  ใช้ไปใช้มาเดี๋ยวก็เกิด super weed ตัวใหม่วนไปเป็นงูกินหางไม่รู้จบ ทำไปทำมาคงจะเหลือแค่ super weed กับพืช GMO ที่เหลือสูญพันธ์หมด" "ความคิดเห็นที่ 81     "เกษตรกรก็หมดทางเลือกเพราะพืชธรรมดาปลูกไม่ได้แล้ว สู้ Superweed ไม่ไหว" กรณีนี้ ผมว่าข่าวใช้ศัพท์เกินเหตุไปกับคำว่า superweed ครับ คือมันก็แค่เริ่มดื้อยาฆ่าหญ้า roundup ของมอนซานโต้ ซึ่งมอนซานโต้ก็ต้องหาทางแก้ต่อไป เป็นเรืองปรกติของการเกษตรทั่วๆ ไปที่วัชพืชจะดื้อยาขึ้นมาได้ แต่ทางอีกบริษัทนึงคือ ดาว เค้าใช้จังหวะนี้ชิงพัฒนาจีเอ็มโอใหม่ให้ต้านยาของหญ้าของบริษัทเค้า ซึ่งเป็นยาที่เป็น 2-4 D เป็นยาฆ่าหญ้าที่ใช้กันมานานแล้ว เป็นส่วนผสมของฝนเหลืองจริง แต่ไม่ใช่ตัวที่เป็นปัญหา คือ ไดออกซิน (ข่าวนี้จึงหาเรื่องให้เป็นมุมลบเกินไป) ผมไม่เห็นว่ากระบวนการที่วัชพืชดื้อยา และสร้างพืชจีเอ็มตัวใหม่ จะทำให้พืชที่เหลือสูญพันธุ์ได้อย่างไร ถ้าพืชดั้งเดิมต้นไหนมันดี คนชอบ คนก็ปลูกกันต่อไป มันจะสูญพันธุ์ได้ก็ต้องแปลว่ามันไม่ดีไม่มีใครปลูก ถ้าอยากให้พืชธรรมดาที่ว่า มันสู้กับวัชพืชที่ดื้อ roundup ได้ ก็ฉีด 2-4D ลงไป ก็เท่านั้นครับ --------------------------------------------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 82     "GMO ไม่ใช่ซุปเปอร์แมน  คือไม่ใช่ใช้แล้วจนทนได้ทุกโรค  มันมีแค่โรคหรือสองโรคเท่านั้นเองที่ไม่เป็น  เจอโรคอื่นก็บ้อท่า และเรายังไม่รู้ผลกระทบในระยะยาวของมัน   หากทำโดยไม่ควบคุม  อาจงานงอกได้ เพราะเราไม่รู้ว่า อันไหนเป็นอันไหน   แลที่สำคัญบางประเทศในยุโรป  เขาแบน พืช GMO" ถูกต้องครับ พืชจีเอ็มเราสร้างให้มันทนได้เป็นโรคๆ ไปตามต้องการครับ แค่นั้นก็ได้ผลผลิตเพิ่มมหาศาลแล้วครับ และที่สำคัญหลายประเทศในยุโรป ไม่ได้แบนการนำเข้าพืชจีเอ็มครับ แต่ปลูกเองขายเองด้วย จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 13:14:02

ความคิดเห็นที่ 12 "ความคิดเห็นที่ 85   "ผมว่ามะละกอ GMO มีประโยชน์มาก ครับ เพราะว่าชาวสวนประสบปัญหาจริงๆ เนื่องจากโรคนี้ทำให้ปลูก มะละกอไม่ได้ จะพ่นยายังไรก็สู้ไม่ได้   ต้องย้ายที่ปลูกไปเรื่อยๆ แต่วันนี้ก็มีข่าวเรื่อง ข้าวโพด GMO ทำให้เกิดมะเร็งขึ้นมา ซึ่งทางฝรั่งเศสก็กำลังปวดหัวกะการ์ตูนเกี่ยวกับหนังมุสลิมที่เป็นข่าว เอ๊ย กำลังสอบดูว่า..ข้าวโพด GMO ก่อให้เกิดมะเร็งหรือไม่ประการใด http://www.dailytelegraph.com.au/news/france-to-probe-cancer-link-to-genetically-modified-corn/story-e6freuy9-1226477704690 เป็นที่น่าสังเกตุว่า ทางเมืองนอกเขาจะบอกพันธุกรรมของข้าวโพดไว้ว่า เป็นตัวไหน  ของไทยก็น่าจะบอกไว้ด้วยว่าเอาอะไรใส่เข้าไป เผื่อทีหลังมีปัญหาจะได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้" มะละกอจีเอ็มของไทย ก็มีข้อมูลบอกไว้ละเอียดหมดเลยเหมือนกันครับ สามารถเช็คได้ครับ เรื่องข้าวโพดจีเอ็มก่อมะเร็งนั้น กำลังเป็นประเด็นใหญ่จริงๆ ผมได้ตอบไว้ละเอียดในกระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X12703236/X12703236.html แต่สรุปสั้นๆ ว่าการทดลองนี้มีปัญหาให้นักวิทยาศาสตร์ในวงการตำหนิกันมาก จากที่มีจำนวนหนูทดลองแค่ 10 ตัวต่อชุด (มาตรฐานคือ 50 ตัว) และหนูพันธุ์นี้พอเลี้ยงไปนานๆ อย่างในงานทดลองนี้ (2 ปี แทนที่จะเป็นแบบมาตรฐานคือ 90 วัน) มันก็จะเริ่มเป็นมะเร็งได้เองถ้าให้อาหารมันกินดีเกินไป และอีกหลายๆ ประเด็นที่วิจารณ์กันครับ ------------------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 87     "ปัญหาอีกอย่างที่ต่อต้านกันก็คือเกษตรกรไม่สามารถขยายพันธุ์เองได้เมื่อเก็บผลครบรอบแล้วก็ต้องโค่นทิ้งแล้วซื้อต้นหรือเมล็ดพันธุ์ใหม่มาปลูก" ชาวกรุงอย่างเราอาจจะกังวลกับเรื่องนี้ แต่เกษตรกรจริงๆ อย่างพวกปลูกข้าวโพดเนี่ยเค้าซื้อเมล็ดพันธุืใหม่ทุกปีอยู่แล้วครับ เพราะเมล็ดพันธุ์ไฮบริดลุกผสมเนี่ยจะให้ผลผลิตสูงมากในรุ่นแรกแต่รุ่นต่อไปจะแย่ลงมาก ซึ่งการซื้อเมล็ดพันธู์ใหม่เนี่ยก็ไม่เป็นปัญหาถ้ามันยังทำกำไรให้เค้าได้ ส่วนมะละกอจีเอ็มโอนี้ไม่ต้องซื้อเมล็ดใหม่ก็ยังปลูกต่อได้อีกหลายรุ่นครับ (ข้าวโพดปลูกรอบใหม่ก็ต้องโค่นต้องเก่าทิ้งอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจีเอ็มหรือไม่ครับ) ------------------------------------------------------- จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 13:31:15

ความคิดเห็นที่ 13 GMO จะอันตรายจริง รึเปล่า ก็ยังเป็นข้อถกเถียงกันต่อไป แต่ว่าตอนนี้ถึงแม้ว่าวงการเกษตรของไทยจะยังไม่ใช้ GMO แต่พืชผลทางการเกษตรของเราก็ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี เป็นจำนวนมาก (นำเข้าทั้งนั้น) ก็ต้องเลือกเอาแล้วล่ะ ว่าจะใช้อย่างไหน จากคุณ : AKB-SKE เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 14:00:40

ความคิดเห็นที่ 14 "ความคิดเห็นที่ 57     "สุดท้าย ทางเลือกของผู้บริโภคก็คือ การยอมรับพืช gmo หรือไม่ อาจารย์ครับ ได้ลองถามเกษตรกรที่ปลูกพืช gmo หรือปล่าวครับว่าผลผลิตของเขานั้นนำไปจำหน่ายยังตลาดหรือไม่ ได้ติดฉลากหรือระบุหรือไม่ว่าพืชเหล่านี้เป็นพืช gmo หรือไม่ได้ระุบุไว้ ถ้า ไม่ได้ระบุไว้ นี่ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อผู้บริโภคหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าไม่ใช่ผู้บริโภคทั้งหมดที่จะยอมรับพืช gmo" คือตอนนี้ในประเทศไทยต้องถือว่าไม่มีการเพาะปลูกพืช gmo เป็นการครับ เพราะฉะนั้นถ้าไปถามเกษตรกร (สมมติว่าชาวไร่มะละกอ) ว่าสงสัยว่าต้นของเค้าเป็น gmo รับรองว่าเค้าไม่ยอมรับแน่ๆ ครับ แต่ถ้าเป็นสมัยเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนที่เอ็นจีโอยังไม่เริ่มประท้วง ก็มีเกษตรกรเยอะมากครับที่อยากได้มะละกอนี้ไปปลูก ถ้าตอนนี้ประเทศไทยอนุญาตให้ปลูกได้จริงๆ ก็ต้องมีกฎหมายติดฉลากมารองรับครับ ซึ่งผมเห็นด้วยเรื่องให้เป็นทางเลือกของผู้บริโภคครับ -------------------------------------------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 64     "กลัวว่า พอทำออกมาจริงๆ ต้องไปง้อซื้อเมล็ดพันธุ์สิทีนี้ " คนจะง้อซื้อเมล็ดพันธุ์ก็เพราะเมล็ดพันธุ์มันดี คุ้มค่า ได้กำไร ไม่งั้นก็ไม่ซื้อหรอกครับ ในกรณีของมะละกอจีเอ็มโอนี้ ผมว่าจะเป็นการแจกฟรีซะด้วยซ้ำ เพราะเป็นของรัฐพัฒนาเอง เหมือนกับพันธุ์ข้าวพันธุ์พืชต่างๆ ที่ต้องแจกกันทุกปี ----------------------------------------------------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 68     "ตอนแรก ผมก็สงสัยว่างมงายในวิ่ยาศาสตร์จริงหรือเปล่า ตอนนี้ชักมั่นใจ GMO เหมือนเอเลี่ยนสปีชี่ ทำให้ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ อันนี้คงเข้าใจ มองแบบสุดขั้ว ปัญหาคือการระบาดของ สิ่งมีชีวิต GMO อย่างควบคุมไม่ได้" ไม่ใช่ครับ ผมตอบไปข้างบนแล้วว่าพืชไร่จีเอ็มโอก็เหมือนกับพืชไร่ทั่วไป ที่ถ้าไม่เลี้ยงดูมันดีๆ มันก็ไม่สามารถอยู่รอดแพร่กระจายพันธุ์ในธรรมชาติได้ อย่างมงายในความกลัววิทยาศาสตร์ครับ "...........สรุปคือผมไม่คิดว่า เกษตรแบบอุตสาหกรรมเป็นคำตอบสำหรับอนาคต ยี่งมีGMOยี่งแย่ เพราะเรื่องผูกขาด ที่มันประสบความสำเร็จทุกวันนี้เพราะเรายังมีทรัพยากรณ์ให้มันผลาญ ลองถ้าหมดพื้นที่ป่า ก็เรียบร้อย ไม่ต้องถึงกับน้ำมันหมดโลกหรอก" ส่วนเกษตรธรรมชาตินั้นยังต้องการการพัฒนา เพื่อให้คนหันมาทำกันมากขึ้น จริง ๆ ถ้าไม่กลัวเหนื่อย เกษตรธรรมชาติอยู่ในขั้นใช้ได้ทีเดียว ไม่ต้องอะไรมาก ถ้าอยู่ทาวเฮ้าส์แค่มี aquponics ไว้แปลงก็ลดค่าอาหารได้เยอะแล้วแถมสดกว่าอีก แต่ที่ยังไม่แพร่หลายในวงกว่า เพราะเครื่องมือยังไม่พร้อม ยังเหนื่อยที่จะทำเกษตรแบบนี้" ผมคิดว่าเกษตรอุตสาหกรรมแบบที่ยั่งยืนและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมมากเหมือนสมัยก่อน คือทางออกในสังคมโลกที่ประชากรกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ขณะที่เกษตรอินทรีย์ไม่สามารถตอบโจทย์นี้ได้ จากการปลูกพืชไร่จีเอ็มในหลายๆ ประเทศที่ผมไปดูงานมา ก็เห็นชัดว่ามันช่วยลดปริมาณการใช้ยาฆ่าแมลงลงได้มหาศาล ลดการ ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นแต่ใช้พืนที่น้อยลง ซึ่งก็ตอบโจทย์ข้างบนนั้นคือได้ทั้งเกษตรที่รองรับประชากรจำนวนมากและทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ส่วนจะเป็นเรื่องผูกขาดมั้ย ผมบอกแล้วว่ามีหลายบริษัทแข่งขันกัน ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์เค้า และผมก็ไม่เห็นว่าการปลูกมะละกอจีเอ็มโอที่ภาครัฐพัฒนากันขึ้นมานี้ จะเป็นผูกขาดอย่างไร จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 14:14:31

ความคิดเห็นที่ 15 "ความคิดเห็นที่ 90     "ชาวนาฆ่าตัวตายเพราะมอนซานโต้ พืชพันธ์พื้นเมืองเดิมทีมันทนแล้งได้ดี ไม่มีปัญหา แต่พอมีพันธ์ใหม่มาขายให้ปลูก มันไม่ให้ผล เพราะมันทนแล้งไม่ได้ เป็นพืชที่ไม่เหมาะสมกับพื้นที่เพาะปลูก ชาวไร่ขาดทุนยับ ฆ่าตัวตาย  รัฐบาลไม่สนใจช่วยเหลือใดๆ บริษัทอ้างว่าเขาไม่ผิด เพราะว่าได้ผลดีจริงในที่ที่ฝนตกดี มีระบบชลประทานดี" ผมไม่แน่ใจว่าข่าวนี้จะจริงเท็จหรือเป็นวงกว้างแค่ไหน แต่เกษตรกรอินเดียที่ปลูกพืชจีเอ็มโอมามากขึ้นทุกปีและปริมาณการเพาะปลูกก็สูงมาก ถ้ามีปัญหาที่แก้ไม่ได้จริง ก็ต้องมีแต่จะลดลงซิครับ --------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 91     "ยังมีปัญหาเรื่องเกสรมันกระจายออกไปยังพื้นที่อื่น และทำให้พืชพื้นเมืองกลายเป็น GMO และชาวไร่ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสีบหายมากมาย ทั้งที่ตัวไม่ได้ปลูกพืชของมันเล้ยยยยย น่ากลัวกว่านั้นคือ Terminator Gene ซึ่งกันไม่ให้พืชนั้นสืบพันธ์ไปยังรุ่นต่อไปได้ การแพร่กระจายของเกสรไปติดพืชที่ไม่ได้เป็น GMO ทำให้เมล็ดของมันตายในรุ่นถัดมา และสูญพันธ์ไปเลย หากไม่มีใครเก็บเมล็ดบริสุทธิ์ของมันไว้ เราจะประสพปัญหาการขาดแคลนอาหารในอนาคต !!" เล่าไปข้างบนแล้วว่าเป็นปัญหาข้อกฏหมายในแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศเหล่านัั้นรับรองเรื่องการไม่เก็บเมล็ดปลูกซ้ำ แต่เกษตรกรคนนั้นอ้างว่าไม่ได้เก็บ แต่เกสรกระจายมา จริงต้องต่อสุ้กันทางกฎหมาย ส่วน terminator gene นั้นไม่เคยมีการนำมาใช้จริงในพืช gmo ที่ปลูกเชิงพานิชย์กันอยู่ครับ เป็นการกล่าวหากัน ---------------------------------- "ความคิดเห็นที่ 99     " แต่เราๆ ทุกคนก็ยอมรับอยู่แล้วว่ายังไงซะ GMO ก็ชนะในแง่การค้าอยู่วันยังค่ำ แต่นั่นควรใช่ประเด็นที่นักวิทยาศาสตร์ควรจะพยายามโน้มน้าวให้คนยอมรับ GMO ด้วยเพราะยังไงก็หนีไม่พ้น.....งั้นเหรอ?" ผมไม่ได้โน้วน้่าวคนให้ยอมรับเพราะหนีไม่พ้ิน แต่ผมพูดตามข้อมูลและประสบการณ์ของผมโดยพยายามให้เหตุผลที่โต้แย้งกับฝ่ายที่ต่อต้าน gmo ซึ่งอาจจะดูเป็นเรื่องแปลกสำหรับสังคมนักวิทยาศาสตร์ไทยที่จะออกมาพูดถึงประเด็นที่ยากในการชี้แจงประชาชนที่ถูกให้ข้อมูลด้านเดียวมานานแล้ว คลิปวิทยาตาสว่างตอนนี้ จึงนับเป็นความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของรายการ ที่จะสามารถเผยแพร่ข้อมูลในด้านตรงกันข้ามกับความเชื่อทั่วไป ให้คนหันมาคิดไตร่ตรองมากขึ้นด้วย จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 14:26:59

ความคิดเห็นที่ 16 แย้ง อาจารย์นิดเดียวนะครับ .. ผมว่ายุคนี้ ไม่ใช่ยุคที่จะ ใช้ไปก่อน ถ้าไม่ดี ค่อยห้าม  ค่อยแก้ .. เราอยู่ในยุคเสียค่าบทเรียนราคาแพงมาเยอะ ..ไม่ว่าจะเป็น ยาฆ่าแมลง  ไปถึง บุหรี่ . ถ้าเราจะไม่เอามาเป็นบทเรียน ก็ออกจะเสียไปเปล่าๆ นะครับ GMO ไม่มีโทษ ในระยะนี้  แต่ผมเชื่อว่า เรามีวิธีการที่จะตรวจสอบได้ก่อนถึงเวลาที่จะ  จำเป็นต้อง เอามาใช้จริงๆ  ครับ จากคุณ : ทุ่มเท เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 14:30:54

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบความเห็นจากในกระทู้นี้บ้างนะครับ --------------------------------- ความคิดเห็นที่ 7   พืชหลายอย่างเราน่าทำเป็น organics ครับ แต่อีกหลายๆ อย่างนั้น organics ไม่ได้ (อย่างกรณีมะละกอหรือฝ้ายเนี่ยเสร็จเลยครับ) หรือถ้าทำได้ก็ผลผลิตก็ต่ำกว่ามาก และทำให้ราคาแพงขึ้นด้วย ถ้าเพื่อส่งออกก็ประการหนึ่ง แต่ถ้าเพื่อบริโภคภายในก็ลำบากครับ หลายๆ คนคิดว่าประเทศไทยไม่ขาดแคลนด้านอาหาร ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ เราเองต้องนำเข้าถั่วเหลือง ข้าวโพด ฝ้าย ฯลฯ จากประเทศอื่นตลอด และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้นทุกวัน เนื้อสัตว์ราคาขึ้นก็อ้างอาหารสัตว์ราคาแพง พืชไร่ราคาแพงก็อ้างแมลงศัตรูเยอะ ... ทั้งๆ ที่ของพวกที่เราต้องนำเข้ามานี่ ก็ GMO กันทั้งนั้น แต่ทำไมเราปลูกเองไม่ได้ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 14:43:39

ความคิดเห็นที่ 18 เบื่อ NGO พวกนี้อ้างอะไรก็ได้ ขอให้มีคนร่วมเยอะๆเป็นพอ ไม่คำนึงว่าเป็นวิทยาศาสตร์ หรือเป็นความเชื่อลอยๆ จากคุณ : นกแคปหมู เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 18:40:42

ความคิดเห็นที่ 19 เรามีลูก ก็เหมือนกับการตัดต่อพันธุกรรมโดยธรรมชาติอยู่แล้วครับ คือตัดของพ่อมาครึ่ง ของแม่มาครึ่ง แต่ทีนี้ เราดันมีลูกสวยเหมือนอั้ม พัชราภา ถึงเราจะไม่สวยไม่หล่อเหมือนอั้มก็เถอะ แต่ในตัวเรานั้นก็มียีนส์ที่หน้าตาดีแบบ โดม อั้ม หรือชมพู่อยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงใช้การตัดต่อพันธุกรรมมาช่วยในการคัดเลือกพันธุ์ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาครับ จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:29:03