การ "ถมทะเลสร้างเมืองใหม่" ในประเทศไทย มีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน
|
|
| | | | | ผลดีมากกว่า (36 คน) | | | | ผลเสียมากกว่า (58 คน) | | |
จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 94 คน |
ซุ่มเงียบ! รัฐเตรียมแผนถมทะเลสร้างเมืองใหม่ ทุ่มงบ 1.8 ล้านล้าน
รัฐบาลซุ่มเงียบ! เตรียมแผนถมทะเลสร้างเมืองใหม่ ทุ่มงบ 1.8 ล้านล้านบาท เอาโครงการสร้างศูนย์ราชการเป็นต้นแบบ ผุด รีสอร์ท, ท่าเรือมารีน่า และรถไฟฟ้าความเร็วสูง เล็งสมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี และชลบุรี เป็นจุดเริ่มต้นโครงการ
วานนี้ (29 กันยายน) นายบุญเชิด คิดเห็น อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ยกร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ โดยเสนอให้จัดตั้งเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) ชื่อบริษัท บริหารจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย จำกัด (TPMD) ในรูปแบบเหมือน บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เพื่อผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจและการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ ทั้งแปรสภาพแหล่งน้ำ และถมทะเล ซึ่งขณะนี้ได้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ผ่านการพิจารณาของคณะทำงานยกร่างฯ แล้ว และจะเสนอกระทรวงมหาดไทยและคณะรัฐมนตรี พิจารณาเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดตั้งโครงการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) ในรูปบริษัท ถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วน ตามโครงการถมทะเลก่อสร้างเมืองใหม่ ในเนื้อที่ 2 แสนไร่ มูลค่าลงทุนกว่า 1.8 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย, รีสอร์ท, ท่าเรือมารีน่า และรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งตัวโครงการดังกล่าว นอกจากจะเป็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจแล้ว ยังสามารถป้องกันน้ำท่วมและป้องกันปัญหาน้ำทะลกัดเซาะชายฝั่งได้ด้วย เพราะเมื่อถมทะเล ตัวโครงการจะเป็นเขื่อนหรือเกาะกั้นทะเล ทำให้การกัดเซาะชายฝั่งลดน้อยลง
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับงบประมาณที่ใช้ลงทุนจำนวนมหาศาลนั้น ทางกระทรวงมหาดไทยได้เสนอแนะให้ดำเนินการโดยจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจขึ้น โดยใช้บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ซึ่งกรมธนารักษ์จัดตั้งขึ้นสำหรับใช้ระดมทุนด้วยการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ และใช้โครงการสร้างศูนย์ราชการ 2.4 หมื่นล้านบาท เป็นต้นแบบในการแบ่งการพัฒนาเป็นเฟส ๆ ตามความเหมาะสม
อย่างไรก็ดีผู้สื่อข่าวยังระบุอีกว่า รูปแบบของโครงการอาจจะเป็นการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำในทะเล หรือการถมทะเลให้เป็นเกาะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผลการศึกษาจะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งหากการก่อสร้างเขื่อนลึกเข้าไปในทะเลก็ใช้ประโยชน์เป็นเส้นทางสัญจรไปมา เส้นทางคมนาคมขนส่ง รวมถึงสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย โดยจะมีการพัฒนาพื้นที่ในจุดที่มีความเหมาะสม ทำเป็นเมืองควบคู่ไปด้วย
สำหรับเป้าหมายหลักในการถมทะเลนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นการป้องกันพื้นที่ กทม. และพื้นที่ภาคกลางที่ติดกับทะเล ซึ่งตอนนี้กำลังประสบปัญหาถูกน้ำทะเลกัดเซาะรุนแรงให้ปลอดภัยจากปัญหาแผ่นดินทรุด และถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนพื้นที่ที่จะถมทะเลนั้น มีหลายจังหวัดที่เป็นตัวเลือก อาทิ สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี และชลบุรี ในเบื่องต้นจะคัดเลือกพื้นที่เป็น 2 แนวทางคือ...
1. ก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำบริเวณริมฝั่งทะเล จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วอ้อมทะเลอ่าวไทยไปเมืองพัทยา
2. ก่อสร้างลึกเข้าไปในทะเล ห่างจากชายฝั่งทะเล 15-16 กิโลเมตร ตามแนวสันทราย จากชายฝั่งทะเลในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ไปถึงฝั่งทะเลด้าน จ.ชลบุรี รูปแบบจะเป็นถนนขนาด 4-6 เลน ตลอดทางจะมีประตูน้ำขนาดใหญ่สำหรับระบายน้ำทะเลเข้าออก และจะมีการถมทะเลพัฒนาเชิงพาณิชย์
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเมกะโปรเจ็กต์ถมทะเล เป็นโครงการที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงเอาไว้เมื่อปี 2554 โดยจะว่าจ้างบริษัทระดับโลกมาศึกษาและออกแบบให้ ซึ่งสิ่งที่อยากได้นั้นก็คือ เมืองใหม่ ที่มีทั้งที่สาธารณะ ที่เชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย รีสอร์ท ท่าเรือมารีน่า ฯลฯ
แต่ทั้งนี้ โปรเจ็กต์ดังกล่าวของพรรคเพื่อไทยเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิชาการและองค์กรภาคเอกชนในวงกว้างหลังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ไปเยี่ยมชมเมืองเทียนจิน เมืองท่าใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือของจีน ซึ่งมีการพัฒนาเมืองใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาโดยได้สั่งให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ศึกษาแนวทางพัฒนาเมืองใหม่ลักษณะเหมือนเมืองเทียนจิน
ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/76684
| จากคุณ |
:
Nihaoman  
|
| เขียนเมื่อ |
:
1 ต.ค. 55 13:06:42
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่ 1
