ความคิดเห็นที่ 1 ทำครั้งเดียวก็ได้กินแค่ครั้งเดียวสิครับ จากคุณ : เต่าทางเรียบ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 06:55:01

ความคิดเห็นที่ 2 กินหมดวันนี้ แล้ววันหน้าจะกินอะไร จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 06:57:33

ความคิดเห็นที่ 3 การคอรัปชั่นประมูลงานทำให้สร้างออกมาต่ำกว่าสเปคที่กำหนด เพราะราชการจะกินสินบน แก้กฏหมายอนุญาตให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินสเปคถนนไปมากทำให้ถนนพังเร็ว เพราะนักการเมืองมีเอี่ยวกับธุรกิจพวกนั้น ไม่พอ ยังไม่กวดขันจับกุมรถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่านั้นไปอีก เพราะตำรวจจะกินส่วย สามอย่างรวมกันก็เลยกลายเป็นหายนะ แบ่งกันกินจนอ้วนพี แถมยังมองการณ์ไกลว่าจะได้ค่าคอมมิชชั่น ค่าฮั้วประมูลงานซ่อมอีกนะ จากคุณ : Lethe เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 07:04:17

ความคิดเห็นที่ 4 งบประมาณที่สร้างถนน ได้มาจากผลประกอบการของประชาชนรายปีงบประมาณ ในรูปแบบของภาษี จึงไม่สามารถตั้งสเป็กให้สูงเกินกว่าความสามารถที่จะจัดสรรเงินในแต่ละปีได้ ถ้าจะเอาสเป็กสูงจริง ๆ คงต้องสะสมเงินไว้หลาย ๆ ปีค่อยสร้าง หรือแม้แต่การกู้เิงินจากสถาบันการเงินมาสร้าง ก็จะไม่มีใครให้กู้เงิน ผลก็เลยเป็นแบบนี้ครับ สร้างให้คุณภาพพอใช้ได้ตามกำลังที่มีก่อน แล้วงบซ่อม ก็จะได้มาเป็นรายปีอยู่แล้ว เศรษฐกิจก็โตครับ มีรายได้กันถ้วนหน้า ดีกว่าทำดีเกินไป แล้วหลังจากนั้นบริษัทต่าง ๆ ก็ขายของ ขายวัสดุก่อสร้างไม่ได้อีก จากคุณ : หม่องวิน มอไซ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 07:17:39

ความคิดเห็นที่ 5 เข้าใจว่าถนนไทยตอนสร้าง เขาคอรัปชั่นด้วยวิธี "ของตามสเป็ค แต่คิดแพงกว่าที่ควร" ตั้งสเป็คไว้เท่าไหร่ แต่ถ้าตอนใช้บรรทุกเกินสเป็ค มันก็ไม่ทน ถนนรับ 21 ตัน บรรทุก 23 ตัน พอเปลี่ยนเป็นให้รับได้ 23 ตัน ก็บรรทุก 25 ตัน ใช้อย่างนี้ยังไงก็พัง แถมการซ่อมบำรุงก็ไม่แน่ใจว่าได้ตามมาตรฐานหรือเปล่าอีก จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 07:35:03

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าการสร้างไม่โกงกิน ถ้าคนออกแบบฉลาดมากกว่านี้ ถ้าตรวจจับรถบรรทุกไม่ให้บรรทุกเกิน รับรองได้ไม่มีการซ่อมแน่นอนครับ จากคุณ : ลุงน้อยลำปาง เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:05:09

ความคิดเห็นที่ 7 ตาม # 4 ครับ อันที่จริง หลายสายทาง ที่รถน้อย ฐานดินธรรมชาติดี ก็ซ่อมน้อยมาก เช่นทางสายเหนือ นับแต่ ลำปางขึ้นไป ส่วนภาคกลาง รอบๆ กทม. สาเหตุหลักมีสองประการคือ 1. ดินทรุดตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะมีรถหรือน้ำหนักมากดหรือไม่ 2. มีการบรรทุกเกินพิกัด และผ่านเส้นทาง หลายแสนเที่ยว วิธีแก้ไข คือ ตอกเสาเข็ม ทุกๆ 1 เมตร แล้วทำฐานถนนบนเข็ม ต่อจากนั้น จึงทำถนนบนฐานอีกครั้ง และ ตรวจจับพวกบรรทุกเกิน ทุกคันอย่างเข้มงวด การสร้างโดยตอกเสาเข็ม ก็เท่ากับ ค่าก่อสร้างทางด่วน แต่ให้คนใช้ฟรีๆ ซึ่งแพงระยับ งบประมาณเราไม่มากพอที่จะทำอย่างนั้นได้ หากทำไป ก็ทำได้สองหรือสามปี 1 เส้นทาง ส่วนเส้นทางอื่นต้องปล่อยไป ไม่เหลืองบที่จะทำสายทางใหม่ หรือซ่อมบำรุง วันหนึ่งหากภาวะเศรษฐกิจ ของเราโตกว่านี้ อาจมีเงินเหลือพอที่จะ สร้างแบบที่ว่าได้ เรื่องดินในกทม และรอบๆ นี้ เป็นดินพิเศษ ฝรั่งตั้งชื่อให้ว่า "Bangkok clay" หากจะเอาจริง ก็มีสาขาวิชา ที่ต้องเข้ามานั่งเรียนรู้กันโดยเฉพาะ ตัวอย่างชัดๆ คือ หนองงูเห่า แม้แต่ ต้องใช้ เทคโนโลยีที่ดีกว่าการทำถนน ก็ยังต้องซ่อม แต่ดีหน่อย ตรงที่ซ่อมที่ผิว ไม่ได้ซ่อมที่ฐาน คือไม่มีการทรุดตัว แต่ผิวร่อนมีปัญหา ที่ฐานไม่ทรุด เนื่องจากเขาตอกเข็มลงไปถี่ยิบ ค่าก่อสร้างก็แพงขึ้นไปเป็นเงาตามตัว เรื่องนี้ เป็นเรื่องทางวิชาการ ไม่ควรนำมาปนกับ เรื่องที่ จะมีการโกงกินกัน หรือเอามาคิด แล้วคลุกเข้าด้วยกัน ไม่งั้น จะมองปัญหาไม่ออก จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:09:35

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ เห็นด้วยกับน้าพรส่วนหนึ่งเรื่องเทคนิคการก่อสร้างที่ดี จะต้องราคาแพง แต่อีกส่วนก็คือ ของธรรมดาๆ ที่ไม่ได้แพง ก็ยังมีการโกงกินงบประมาณกันแทบทุกอย่าง เพราะข้าราชการ ไม่มีระบบตรวจสอบกันเอง สตง. ปปช. มีไว้เพื่อให้กล่าวโทษกันในระบบการเมือง ถ้าการตรวจสอบที่ดี จะต้องตรวจเอง โดยไม่ต้องมีคนมาฟ้อง เหมือนเป็นเรื่องปรกติไปซะแล้ว ที่ข้าราชการไทยจะต้องโกงกิน ต้องมีค่าคอมฯ ทุกอย่าง งบประมาณราชการที่ได้รับไปจัดซื้อ จัดจ้าง ล้วนแล้วแต่ "เหลือเฟือ" ทั้งนั้น เอาแค่ งบประมาณจัดซื้อแอร์ คอมพิวเตอร์ กล้องวงจรปิด อุปกรณ์สำนักงาน ฯลฯ ในหน่วยงานแห่งหนึ่ง ของทุกอย่าง ล้วนแต่ราคาแพงกว่าชาวบ้านซื้อไม่ต่ำกว่า 3 เท่าทั้งนั้น แต่ถ้าราคาไม่แพง ก็เป็นของคุณภาพห่วยมากๆ แบบชาวบ้านก็ยังไม่กล้าซื้อมาใช้เลย ในระดับล่างๆ งบประมาณไม่มีส่วนเลยต้องได้ของห่วยๆใช้งานกัน ถ้าเอาจริงๆ ลองไปดูสิครับว่า ทำไมข้าราชการ ระดับสูงๆ ถึงได้มีเงิน มีทองนักหนา ทั้งๆที่ เงินเดือนน้อยกว่าระดับเดียวกันของเอกชน จากคุณ : กบกินกะลา เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:22:31

ความคิดเห็นที่ 9 นอกจากปัญหาที่หลายท่านได้กล่าวไปเเล้ว อยากให้ทราบถึงปัจจัยพื้นฐานของพื้นดินในเขตภาคกลางด้วยว่ามันคือตะกอนดินปากเเม่น้ำ เเล้วยิ่งช่วงบางนาตราดพระรามสอง ไม่กี่ปีมานี้มันยังเป็นป่าพรุ ป่าชายเลนอยู่เลย ยังไงมันก็ทรุด หรือถนนตามหมู่บ้านซึ่งสร้างจากการเสียสละที่ปลายสวนของเเต่ละบ้านมา บางจุดก็เป็นท้องร่อง บ่อน้ำ คลองเก่า ก็จะมีการทรุดตัวได้อยู่เเล้ว อย่างน้าพรว่าครับ อย่าเอามาปนกัน หลายงานที่โกงเเต่เสปคก็ยังไม่ตก จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:25:51

ความคิดเห็นที่ 10 ตามระเบียบของการประมูลงานของราชการ คือต้องเลือกผู้รับเหมาที่เสนอราคาต่ำสุดจากราคากลางครับ ผู้รับเหมาพอกดราคาต่ำแล้วก็เลยไปลดสเปคอีกที แล้วไปเอาอกเอาใจคนตรวจรับงานสักเล็กน้อย ก็ได้แล้ว จากคุณ : เช้าวันศุกร์ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:28:34

ความคิดเห็นที่ 11 แถวบ้าน ถนนบางขันธ์-คลองหลวง จำได้ว่า 2 ปีก่อน ถนนก็ยังดีเอายางมะตอนมาราดทับอีกชั้นนึงให้หนาขึ้น มาวันนี้ถนนยังดีๆ ทยอยลอกผิวหน้าออก จะทำถนนอีกแล้ว สรุปว่า ไม่ว่ายังไง ถนนก็ต้องทำ ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไง ถึงวงรอบแล้วก็ต้องทำ ถนนเมืองไทยนี่เหมาะแก่การใช้รถกระบะจริงๆ ทำแม่มทั้งปี จากคุณ : yai6000 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:45:37

ความคิดเห็นที่ 12 คุณเคยสังเกตุไหมว่าผิวถนนตรงที่เคยเสียตรงไหน เป็นประจำมันก็จะเสียอยู่   อย่างนั้นแม้ว่าจะซ่อม หรือ ทำใหม่สักกี่หน  ก็เพราะใต้พื้นถนนบริเวณนั้นมัน มีปัญหา ที่แก้ได้ยาก  อย่าเพิ่งเหมารวมว่าโกงเสียทั้งหมด  เช่นกรณีแผ่นยาง มะตอย หลุดเป็นวงกลม แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 55 08:57:06 จากคุณ : Terawat เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:54:13

ความคิดเห็นที่ 13 - จากคุณ : Terawat (Terawat) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:58:48

ความคิดเห็นที่ 14 มันก็มีทั้ง สถาพพื้นดินจริงๆด้วยครับ ไม่ใช่แค่เรื่องการกินกันอย่างเดียว อย่างมอเตอร์เวย์มันทรุดทุกปี เพราะดินบ้านเราอ่อน ถ้าจะแก้คือ คุณต้องลงเสาเข็มตลอดทาง(สังเกตุว่าที่สะพานไม่ทรุด เพราะมีเสาเข็มไง) แต่ถามจริงๆเถอะว่าทำยังงั้น งบประมาณที่ใช้ต้องมหาศาลแน่ๆ เลยไม่มีใครทำครับ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 09:14:02

ความคิดเห็นที่ 15 ราดยางมะตอยปีละสามหน จน ฟุตบาท เหลือนิดเดียว จากนั้นก็งบทำฟุตบาทตามมา แล้วก็งบทำฝาท่อตามมาอีก.... เพราะท่อ เป็นหลุม ต้อง ทำเสมอผิวถนน... เฮ่อ เป็นทอดๆ จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 09:14:19

ความคิดเห็นที่ 16 มีกระทู้เรื่องถนน แล้ว อัดอั้นมานานเลยผม ไม่กล้าลงกลัวไปโดนใครเข้า ผมเคยทำงานกับบริษัท เครื่องจักรกล แห่งหนึ่งของเมืองไทย เคยซ่อมรถ กัดถนน รถบด Genset รถปูยาง ไรงี้  พอดี มีการทำถนน เมื่อ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรา หมายถึงผมรุ่นน้องในบริษัท ที่ทำงานใหม่ นั่งรถไปด้วยกันผ่านเขตก่อสร้างถนนนั้น เขาก็ถามผมเลยว่า เมื่อไหร่มันจะเสร็จอะพี่ ไอถนนเส้นนี้ อืม ด้วยความที่ผมมีองค์ความรู้ และประสบการณ์ ในเรื่องนี้ ก็อธิบายให้น้องเขาได้รู้ ว่า  "น้องเอ้ย บริษัทนี่เขาทำเร็วเครื่องจักรเขาเยอะ นี่ ไอรถกัดถนน (เรียก รถ Recycling อะไรซักอย่างมั้ง) ขุดของถนนเก่ามาผสมใหม่อาจมีซีเมนต์ ด้วย แล้วบดอัด ด้วยรถบด ที่เห็นกันนี่ จากนั้น อีกซักสี่ห้าวัน จากนี้พอแน่น... ก็จะลาดด้วย Asphalt หรือ ยางมะตอยที่น้องรู้จักนะแหละ ราดหนาๆ พอแห้งก็ตีเส้น เป็นอันเสร็จ รวดเร็วทันใจ" น้องเขาก็พยักหน้าอ๋อ เข้าใจ อืม.. สองวันต่อมา เราก็ผ่านเส้นนั้นอีก และน้องเขาก้ได้เห็นถึงองค์ความรู้ผม รถบดกำลังบดอัด ถนน หลังจาก รถกัถนน ขุดและผสม ส่วนผสมใหม่ แล้ว  แต่หันไปอีกฝากถนนที่รถบดอัดเรียบร้อยมีการผสมยางมะตอยไปด้วยบางๆ ก็มีคนพูดขึ้นมา " อ้าวพี่ น่าจรู้มาผิดนะ เพราะที่เห็นตอนนี้ เขาตีเส้นแล้ว " อ้าวไม่มีการราด Asphalt ด้วยรถปูยางเหรอ                            "บดอัดเสร็จ ตีเส้นเลย " ผมนั่งเหม่อ หน้าแตกอยู่พักหนึ่งพอจะนึกออกได้เรื่องเดียว คือถนนนี้ควรจะชื่ออะไรดี และได้คำตอบ จึงบอกน้องเค้าไปว่า ที่เค้าทำอย่างนี้เพราะ ถนนนี้มันมีชื่อ  ชื่อก็คือ        "ถนนเสือหิว"    ไงพอเข้าใจมั้ย จากคุณ : รักน้องนก เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 09:19:21

ความคิดเห็นที่ 17 โครงการข้ามชาติ เส้นวิ่งบ่อยคือนครสววรค์ กำแพงเพชร   รถบรรทุกพอวิ่งเลนซ้ายพังหมด ก็ย้ายมาวิ่งขวาแทน เพราะเลนซ้าย รถพี่เค้าก้เอาไม่อยู่เหมือนกัน ตอนนี้วิ่งไหล่ทางกันแล้ว 55 จากคุณ : Hispano เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 09:55:31

ความคิดเห็นที่ 18 จากงานวิจัยที่กำลังทำกันอยู่ หลายๆชิ้น พบว่า รถบรรทุกบ้านเรา ล่อไปเกือบ 100 ตัน แล้วครับ จากกำหนดไว้ 25 ตันมั้ง จากคุณ : วัยละอ่อน เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 10:13:04

ความคิดเห็นที่ 19 คห. ๑๓ รูปจากดาวอังคารล่าสุดเหรอฮะ จากคุณ : รักน้องนก เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 10:13:43

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้ารถบรรทุกไม่บรรทุกเกินขนาดกันขนาดนั้น ถนนก็คงไม่พังเร็วขนาดนั้นหรอกครับ ปัญหาที่ #4 กับ #7 บอกน่ะ เป็นปัญหาจริงๆ  แต่กว่าจะได้งบประมาณซ่อมปีนึงๆ รถบรรทุกก็บรรทุกกันจนพังตั้งแต่ไม่กี่เดือนแรกแล้ว ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือความเห็นแก่ตัวของคนนั่นแหละ จากคุณ : blind เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 10:41:43

ความคิดเห็นที่ 21 เอ่อ...แล้วด่านชั่งรถบรรทุกเขาชั่งกันทำไมครับ ผมอยู่นครสวรรค์ เห็นมีตั้งหลายแห่งบนถนนสายเอเชีย จากคุณ : ... (นายช่างค่อนข้างใหญ่) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 11:14:23

ความคิดเห็นที่ 22 แค่ปล่อยให้แดดเผา และฝนตกใส่ หญ้าขึ้น ถ้าไม่ได้ซ่อมก็พังแป๊ปเดียว จากคุณ : ช่างบ้านนอก เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 11:15:49

ความคิดเห็นที่ 23 ระบบตรวจสอบ มีครับ มีระบบ "ตรวจสอบภายใน" ซึ่งคนทำงานตรวจสอบภายในจะเป็นทีรักของหน่วยงานอื่นๆ.. คิดว่าไงละครับ จากคุณ : paefah เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 11:22:29

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบในฐานะมีรถขนส่งอยู่ ด่านชั่งน้ำหนักเนี๊ยะ ถ้ารถคุณเกินแล้วไปขึ้นชั่งเนี๊ยะ จบเลยน่ะครับ เพราะมันจะเข้าระบบ เข้าคอม ทำไรไม่ได้ จะจ่ายยังไงก็ไม่ได้ ขึ้นศาลลูกเดียวครับ เพียงแต่ด่านชั่งมันก็ไม่ได้มีตลอดถูกไหมครับ ถ้าอย่างรถวิ่งทางไกลๆ อย่างของผม มหาชัย - สุราษฎร์ เจอตลอดทาง 3 ด่านชั่ง ยังไงก็หลบไม่ได้ แต่พวกที่วิ่งทางสั้นๆซึ่งไม่เจอด่านชั่ง อย่างนี้ทำได้ครับ จากคุณ : BaLL182 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 11:51:31

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าไม่โกงกันมาตลอดชาติ ก็น่าจะมีงบเหลืออีกเยอะ จากคุณ : angelzpuu เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 13:16:12

ความคิดเห็นที่ 26 ต้องทำถนนทุกสาย ด้วยปูนคอนกรีตเสริมเหล็กครับ อย่าไปเอาแบบราดยาง มันโดนน้ำโดนร้อนบ่อยๆ ก็พังแล้ว จากคุณ : WinandBP เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 13:40:26

ความคิดเห็นที่ 27 #16 ผมอ่านแล้วงงครับ ถนนเส้นใหนเหรอครับ  การก่อสร้างถนนสายหลักและสายรอง เสปกจะตามมาตรฐานครับ มีการกำหนดอายุการใช้งานด้วยครับ เช่นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 7 ปี ที่มันพังไม่ได้เกิดจากการลดเสปกเปลี่ยนวัสดุนะครับ(90%)  การตรวจสอบและการทดสอบวัสดุและการขออนุมัติเป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่าง องค์ประกอบหลายๆอย่างที่ทำให้ถนนพัง หลักๆ คือจากความสามารถและเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาด้านเทคนิคของบุคลากรในการควบคุมการก่อสร้าง  ขาดเทคโนโลยีใหม่ๆในการเพิ่มความแข็งแรงของคันทาง  ระยะเวลาในการก่อสร้าง ฝน  น้ำใต้ดิน ความสามารถในการรับน้ำหนักของชั้นดิน  การบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าการออกแบบไว้ ถ้าต้องการออกแบบให้ถนนและยางมะตอยรับน้ำหนักได้มากขึ้น ค่าก่อสร้างก็จะแพงขึ้นด้วย  ส่วนเรื่องโกงวัสดุ ลดเสปก ลดขั้นตอนการก่อสร้าง ผมว่ามันก็มีส่วนนะ แต่น้อยลงมากเมื่อเทียบกับสมัยก่อน เรื่องการประมูลส่วนใหญ่บริษัทท้องถิ่นในภาคนั้นๆจะได้งานเพราะเค้ามีแหล่งวัสดุของตัวเอง จากคุณ : Good will hunting เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 14:35:26

ความคิดเห็นที่ 28 ถนนทุกสายมีมาตรฐานกำหนดตามหลักวิศวกร และหากทำตามมาตรฐาน ไม่มีปัญหาตามมาแน่นอน แต่คนไม่มาตรฐาน งบประมาณที่จัดมาด้วยภาษีของประชาชน ที่ทำมาหากินด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา ก้อถูกจัดสรรปันส่วนไปตามระยะทางของงบประมาณนั้นๆ หึหึ การเมืองของประเทศ ถึงได้มีการแย่งชิงกันเอาเป็นเอาตาย ด้วยเพราะผลประโยชน์มากมายมหาศาล จากคุณ : szs เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 14:35:58

ความคิดเห็นที่ 29 ถนนเมืองไทย พัฒนาได้เรื่ิอยๆ ลาดยาง วางท่อระบายน้ำอันเล็ก ทำทางเดิน เปลี่ยนท่อระบายน้ำขนาดใหญ่  วางท่อประปา รื้อเปลี่ยนเสาไฟต้นใหม่ ปูตัวหนอนทางเดิน   เปลี่ยนฝาท่อ วางสายเคเบิ้ล ทำเสาไฟส่องสว่างต่อ อนาคตเอาเสาไฟลงดิน ขุด แล้ว เจาะ ได้เรื่อยๆ พอฝนมา น้ำท่วม ระบายไม่ทันอีก เอ๊ะ งง ถนนสร้างเสร็จ เลนหายไปข้างละเลน เพราะเป็นที่จอดรถ ฟุตบาทก็หายเป็นที่ขายของอีก เลนซ้าย ทางใต้ก็เป็น บางจุดเป็นคลื่นเลย จากคุณ : บางนรา เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:41:13

ความคิดเห็นที่ 30 เส้น เทพารักษ๋ ก่อสร้างตั้งแต่ผมเป็นเด็กน้อย จนป่านนี้ ยังมิเสร็จดี จากคุณ : เปลวเพลิงสีฟ้า เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:59:38

ความคิดเห็นที่ 31 ถนนถ้าทำให้ดีก็ทำได้ดูอย่างถนนบนทางด่วนสิ ไม่ค่อยพังเท่าไหร่ อย่างบางกรณีก็เป็นที่ดินเหมือนกันอย่างเส้นบางนา-ตราด ดินข้างล่างมันนิ่มมันจะทรุดตัวลงเรื่อยๆ ถ้าไม่อยากให้ทรุดก็ต้องอย่างที่น้าพรบอกคือตอกเสาเข็มลงไป ดูอย่างถนนบนทางยกระดับข้างบนถนนบางนา-ตราดไม่มีปัญหาอะไร แต่ทีนี้ค่าก่อสร้างก็จะแพงขึ้นตามไปด้วย เพราะเหมือนสร้างถนนทางด่วนเลยต้องตอกเสาเข็มลงไปยันไม่ได้ถนนทรุดลงไป จากคุณ : อากิระ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:06:28 A:180.180.96.58 X: TicketID:107410

ความคิดเห็นที่ 32 ครับคุณ คห.27 จะว่า ทำแบบที่ผมเล่ามา ถูกผิด หรือ เปล่า ผมไม่แน่ใจ แต่ ถ้าเทียบ กับถนน ที่เขาปู Asphalt เต็มๆ เวลารถแล่นก็รู้สึกได้ว่า ต่างกัน เสียงยางสัมผัสถนนจะดังมาก การสึกหรอของถนน ก็เร็วกว่า ยางก็สึกอย่างแรง ถนนเส้นไหน ที่ผมว่านั้นเมื่อ สี่ปีที่แล้ว ดูเหมือนว่า จะกลายเป็น Idol ไปแล้วเพราะ หลังจากนั้นก็จะเจอ แบบนั้น บ่อยๆ จนปัจจุบันก็มี  สรุปว่า ตอนนี้ก็หลายเส้นทางครับ ในโซนภาคใต้ ถ้าระบุไม่น่าดีครับ เพราะจะรู้ว่า โครงการไหน ใครก่อสร้าง  ตามจริงจะบอกว่า เค้าผิดก็ไม่กล้า เพี่ยงแต่รู้สึกว่า ไอถนนรุ่นใหม่นี่ มัน แข็งๆ เห็นแต่ทรายกับหิน (เขาอาจให้มี ความแข็งมากยือหยุ่นน้อยก็ได้ครับ) ก็ประมาณนั้น เพราะก็ไม่เห็นมีใครโวยวายนอกจากประชาชน ...บางคน จากคุณ : รักน้องนก เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 17:29:33

ความคิดเห็นที่ 33 มันหลายเรื่องอ่ะครับ แบบก็แบบมาตรฐาน ของกรมฯ ราคาก็มาจาก กรมการค้าภายใน อยู่ที่ระหว่างก่อสร้าง ว่าจะคุมคุณภาพได้ดีแค่ไหน บางทีปูนมา ใบส่งปูน กำลังถึง แต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ ถึงไหม บางที ถนนยังไม่ได้บ่ม หรือบ่ม ไม่ได้ที่ ชาวบ้านก็เอาที่กั้นออก แล้วขับรถลุยกันเข้าไปเลย เพราะชาวบ้านบอกว่า "เห็นมันแข็งแล้ว" บรรทุกเกิน อันนี้ ปัญหาสาหัส สากรรจ์ มาก บางที ตอนบดอัดชั้นรองทางไม่ดี หรือบางทีดีแล้ว แต่ น้ำดันมาเซาะ ท่อใต้ถนนแตก สารพัดวุ่นวายอ่ะครับ จากคุณ : ไม้โมก เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 19:32:16 A:180.180.127.63 X: TicketID:225494

ความคิดเห็นที่ 34 ถนนมีหลายชนิดครับ แบบที่กรมทางใช้กับถนนเส้นใหญ่ ๆ จะเป็นแบบ asphaltic Concrete ซึ่งจะมีเครื่องจักรผสม หินคลุก แอสฟัลส์ แล้วปู asphaltic pavement ครับ ส่วนพวกตามชนบท ใช้วิธีบดอัดเป็นชั้น ๆ แล้วลาดยางมะตอยทับหน้าบาง ๆ เรียกว่า slurry seal จะทำกี่ชั้น กี่รอบ ก็ขึ้นกับแบบและงบประมาณครับ ผมอยู่ในวงการนี้ บอกตามตรงมันฮั๊วอยู่แล้วครับ พวกถนนนี่ตัดกัน 25% ช่วงแข่งขันสูง ๆ สายใหญ่ ๆ เคยตัดกันที่ 30% (ใต้โต๊ะ) เปรียบเทียบกับงานก่อสร้างอาคารตัดกันที่ (10-15%) เท่านั้นเอง ผมว่ากรมบัญชีกลาง หรือ สตง. น่าจะมีข้อมูลในมือนะครับ เอาข้อมูลออกมากลางกันได้เลย ว่าราคางานก่อสร้างราชการในบ้านเราผมฟันธงได้เลยภาพรวม ราคาประมูลได้ต่ำกว่าราคากลางไม่ถึง 5% จากคุณ : X-Sy เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:45:23

ความคิดเห็นที่ 35 16# คิดในแง่ดี ทำขั้นตอนบดอัดเสร้จ จำเป็นต้องปล่อยรถวิ่ง เพราะกระทบการสัญจรมากๆ ก็เลยต้องตีเส้นเลยมั้งครับ ไว้พอได้ที่แล้ว ค่อยมาทำต่อให้เสร็จ แต่เผอิญ คนตรวจรับ รับกระดาษอย่างเดียว ไม่ไปดูของจริง ก็เลยเลยตามเลยมั้งครับ อิอิ แถวบ้านนอกบ้านผม สเปกเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่จริงๆข้างในเป็นไม้ไผ่สาน แล้วพอเสร็จก็เอาเหล็กเส้นมาเสียบหัวท้ายก็มี ปัญหาคือคนตรวจสอบควบคุม จริงๆนะ จากคุณ : deletenumlock เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 11:04:13

ความคิดเห็นที่ 36 หน่วยซ่อมบำรุงก็พากันตกงานหมดนะซิ จากคุณ : eawpk เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 19:48:33