ความคิดเห็นที่ 1 ค่าเงินของญี่ปุ่น แข็งขึ้นมาก ในขณะที่เศรษฐกิจของทุกประเทศในโลกแย่ลง สินค้าญี่ปุ่นแพงกว่าสินค้าจากเกาหลี จีน ใต้หวัน คนไม่ต้องการสินค้าคุณภาพสูง เอาแค่เทคโนโลยี่ทันสมัยที่สุด ไม่ต้องทนทาน ใช้ไม่นานก็จะเปลี่ยน เรื่องแบบนี้เกิดกับ อเมริกา ยุโรป มาก่อนแล้ว ถ้าปรับตัวไม่ได้ก็ตายไป จากคุณ : Capt Aod เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 10:47:52

ความคิดเห็นที่ 2 แต่ของ sony เค้าก็ดีจริงๆนะ มายกมือว่าเป็นสาวกโซนี่ \(*0*)/ จากคุณ : entomo62 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:06:18

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นกลไกของการตลาดครับ แบรนด์ญี่ปุ่นที่สู้แบรนด์เกาหลีไม่ได้ก็เรื่องราคามั้งครับ ถ้า TV LED จอ 42 นิ้ว ตัวท็อปของ SONY ราคาเท่ากับตัวท็อปของ LG ผมเลือก SONY นะ ตอนนี้ไม่ใช่เฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่นหรอกครับ เกือบจะเป็นสินค้าทุกชนิดของญี่ปุ่นเลยที่กำลังแย่ เงินเยนก็แข็ง เศรษฐกิจภายในประเทศญี่ปุ่นเองก็ไม่ดี จำได้สมัยผมยังเด็ก(30กว่าปีก่อน) เครื่องใช้ไฟฟ้าเค้าไม่ใช้ของญี่ปุ่นกันหรอกครับ ใช้ของยุโรปทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ฟิลิป ทอมสัน บาวฟลุ๊ง รวมทั้งธานินท์ของไทยเราเองด้วย หลังจากนั้นก็มีของญี่ปุ่นมา แรกๆคนที่ไม่คุ้น แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่าของยุโรป คนก็ค่อยๆเริ่มความนิยม ตอนนี้เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ก็เอาตามแบบญี่ปุ่นในอดีตล่ะครับ คือเล่นเรื่องราคาที่ถูกกว่า พอซักพักคนก็ชินสินค้าก็ติดตลาด ตอน SAMSUNG มาบ้านเราใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยมีคนยอมรับว่าเกรดต่ำกว่าของญี่ปุ่น เหมือนกับเมื่อก่อนของญี่ปุ่นมาคนก็ยังไม่ยอมรับว่าเกรดต่ำกว่าของยุโรป จากคุณ : Nenko เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:14:48

ความคิดเห็นที่ 4 บ้านเราถ้าทีวีก็ต้องพานาเท่านั้น ของเค้าทนมา รอดฟ้าผ่ามาได้หลายครั้ง ตอนที่ไม่ไหวจริง ๆ ก็มีคนจากศูนย์มารับไปซ่อมแล้วเอามาส่ง ส่วนมือถือ samsung galaxy mini ของแฟนนั้น ลง firmware ใหม่ด้วยโปรแกรมของซัมซุง ถึงกับดับแบบถาวร เอาไปเข้าศูนย์ 5 วันไปเอา พนักงานบอกว่า "เปลี่ยน mainboard ให้เรียบร้อยแล้วคะ" เฮ้อก็ไม่รู้ว่าเอา board  refurbished ของใครมาใส่ให้ จากคุณ : uyadas เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:31:06

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ เพิ่งซื้อแกแล็คซี่แท็บมาไม่กี่วัน อยากลองใช้แอนดรอยด์ดู แฮ้งไปสามรอบ เอาไปเปลี่ยนที่ร้านไม่ให้เปลี่ยนบอกเครื่องเป็นรอย ให้ติดต่อศูนย์ใหญ่ ไปศูนย์ใหญ่บอกที่นี่ไม่มีเครื่องสำรองให้ไปที่ร้าน สรุปทำอะไรไม่ได้ ครั้งเดียวพอกับยี่ห้อนี้ ทีวีที่บ้านผมยังใช้โตชิบาอยู่ครับ จากคุณ : LedZepp เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:36:12

ความคิดเห็นที่ 6 สินค้าของSony ที่ดังมากเมื่อก่อนคือ พวกเครื่องเล่นเพลงต่างๆ ทุกวันนี้เกือบสูญพันธุ์แล้ว จากคุณ : ntbnk เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:38:24

ความคิดเห็นที่ 7 ทีวีผมยัง  Panasonic ครับ จากคุณ : IRQ5 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:54:37

ความคิดเห็นที่ 8 บ้านผมเท่าที่ดูๆแล้วไม่มีซัมซุมสักอย่าง ทีวีพานากับโซนี่ ตู้เย็นเครื่องชักผ้าโตชิบ้า จากคุณ : แมวเถื่อน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 11:58:32

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าว่าระดับแบรนด์ รอดแน่นอน หลายคนยังเข้าใจว่า brand ดังอย่าง sony,panasonic ทำแค่ เครื่องใช้ไฟฟ้า แสดงว่าท่านยังไม่รู้ลึกถึงความหลากหลายของบริษัทเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น sony เค้าไม่ได้ทำแค่ ธุรกิจ เครื่องใช้ไฟฟ้าครับ เค้าทำเยอะมาก เช่น sony music ,sony picture (columbia picture),sony entertanment(PSP) ไหนจะพวกกล้อง digital ซึง sony ก็เป็นผู้นำ นวัตกรรมด้าน mirrorless ตอนหลังทำตามออกมากันครบ ทั้ง nikon,canon,olympus,samsung ไม่รวมพวกอุปกรณ์ hitech ขั้นสูง อย่างพวกกล้อง ความละเอียดสูง กล้อง HD ที่ใช้ในงานเฉพาะกิจ เยอะแยะ มากมาย ยังไม่รวม สิทธิบัตร ที่ sony จดลิขสิทธ์ไว้ เป็นบริษัทที่จดสิทธิบัตรไว้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก อีกตัวอย่าง ก็ panasonic หลายคนคงไม่รู้ รถยนต์ hybrid แบตเตอรรี่ส่วนใหญ่มาจาก panasonic นี่ล่ะ ยังไม่รวม นวัตกรรมอื่น ๆ panasonic และบริษัทชั้นนำอื่น ๆ ของญี่ปุ่นเค้าจดสิทธิบัตรไว้มากมาย ตอนนี้สิ่งที่ทำให้บริษัทญี่ปุนอยู่รอดคือ นวัตกรรมใหม่ ๆ และ การเพิ่มมูลค่าของสินค้า พวกของพื้น ๆ เค้าก็ยังทำ ไปเรื่อย ๆ ส่วนงานอื่น ๆ เค้าก็พัฒนากันต่อไป จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:03:22

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าsamsung QC ได้ใกล้เคียง sony เมื่อไหร่ถึงตอนนั้นค่อยน่ากลัว จากคุณ : Kloster60D เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:09:53

ความคิดเห็นที่ 11 Sony ตอนนี้มีแค่โปรเจคเกมส์ที่ยังเอาตัวรอดไปได้เรื่อยๆอยู่ แต่ก็ไม่รู้อีกนานแค่ไหน จากคุณ : ความจำสั้นสันหลังยาว เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:17:38

ความคิดเห็นที่ 12 รอดไม่รอด ไม่รู้ แต่ sony pana sharp ขาดทุนกันถ้วนหน้า ล่าสุด sharp โดน bank บังคับให้ลดพนักงาน เพื่อแลกเงินกู้ล๊อตต่อไป ตรงกันข้ามกับ samsung ที่ กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกแล้ว จากคุณ : k_jojo เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:19:30

ความคิดเห็นที่ 13 งบการเงินล่าสุดของ sony ขาดทุน อยู่ 464 เยน ต่อหุ้น มูลค่าบริษัท เหลือไม่ถึง 1/10 ของ samsung เอามาเทียบกันคงไม่ได้แล้ว เพราะ samsung เป้าหมายต่อไปคือโค่น apple แล้วก้าวขึ้นสู่เบอร์หนึ่งของโลก จากคุณ : k_jojo เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 12:32:55

ความคิดเห็นที่ 14 ดูความเป็นเจ้าตลาดด้านอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเลคโทรนิค บริษัทดังญี่ปุ่นดูเหมือนจะยังครองแค่ส่วนเดียวคือ กล้อง อ้างอิงจาก http://finance.yahoo.com/q/is?s=SNE+Income+Statement&annual สามปีมานี่ โซนี่ สหรัฐ ขาดทุน -437, -3,132, -5,549 ล้าน USD ตามลำดับปี 2010,2011,2012 ยิ่งดู หนี้สิน 136,000 ล้าน USD ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นแค่ 24,000 ล้าน USD   นี่มัน................ ลองคิดคนมีหนี้้ 136,000 มีเงินเก็บ 24,000 มีรายรับ -5,549 ต่อปีสิ   จะเห็นปัญหาของโซนี่ จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:10:33

ความคิดเห็นที่ 15 ฮิตาชิกับมิตซุย หันไปผลิตสินค้าชั้นสูงให้ทุกแบรนด์ กล้องยังดีอยู่ ญี่ปุ่นขาลง ยุโรปป่วน จีนเกาหลี แรงมาก จากคุณ : Alone among the crowd เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:17:41

ความคิดเห็นที่ 16 ตามความเห็นที่ 9 เลยครับ แต่ผมจะบอกว่าส่วนนึงมาจากความซื่อจนเซ่อของระบบธุรกิจแบบญี่ปุ่นๆด้วย จากคุณ : TENS เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:31:14

ความคิดเห็นที่ 17 แบรนด์ญี่ปุ่นยังได้เปรียบในเรื่องสิทธิบัตรอยู่ครับ หลายๆอย่างเป็นผู้คิดค้นนวตกรรมใหม่ กล้องดิจิตอล วอลค์แมน  DVD บูลเลย์ดิส ฯลฯ มาจากญี่ปุ่นทั้งนั้น แต่แบนรด์เกาหลีต่อยอดได้ดีกว่า เข้าใจลูกค้ามากกว่า เปิดกว้างมากกว่า จากคุณ : MIGGERS เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:40:20

ความคิดเห็นที่ 18 sony แน้วโน้มขาดทุนมีมานานแล้ว เพราะต้นทุนบริหาร จัดการสูง ค่าจ้างก็แพง ตอนนี้ การจัดการของ sony คือ ธุรกิจไหน ไม่ทำกำไร ขาย และ ไปไล่ซื้อ ธุรกิจที่ดูดีมีอนาคตกว่าแทน รวมถึงการลดต้นทุน รวมการ ลดคนด้วยนั่นเอง วัฒนธรรมที่แข็งของคนญี่ปุ่นคือ คนที่ทำงาน ที่ไหนแต่แรก เค้าก็จะอยู่ยันแก่เลย ไม่ค่อยเปลี่ยนงาน เพราะฉะนั้น คนญี่ปุ่นเลยทำงานกันมานานเงินเดือนก็เยอะ และที่สำคัญ คนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อย layoff คน ไม่เหมือนทางฝรั่ง ต้นทุนเลยบาน มาเจอ วิกฤต หลายด้าน รวมถึง ซึนามิ โรงงาน sony ก็โดนด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ สุดท้าย ยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น กำลังปรับตัวอย่างหนัก เพราะตอนนี้ ตลาดล่าง แพ้เกาหลี จีน เพราะต้นทุน ค่าแรง หลายอย่าง ทำให้สู้ราคาไม่ได้ ยุคนี้เป็นยุคการจัดการต้นทุนและ logistic ถ้าใครบริหารตรงนี้ได้เก่ง ลดต้นทุนไปบานเลย จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:46:01

ความคิดเห็นที่ 19 ปรับตัวช้า อุ้ยอ้าย ก็งี้แหละ Brand ญี่ปุ่น จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:48:17

ความคิดเห็นที่ 20 เกาหลีชนะได้เพราะราคาล้วนๆ ของ LG samsung ราคาถูกกว่า sony pana เกือบๆ 30 - 40 % ในสเปคเดียวกัน เพราะสมัยนี้ น้อยคนที่จะใช้ของไฮเทคกันสิบปี เพราะแค่ สองปีมันก็ตกรุ่น ล้าสมัยไปแล้ว อย่างมือถือ อีกอย่างโซนี่ ของดีก็จริงแต่ราคาสูง ซ่อมแพง เมื่อก่อนผมเอา walkman ไปซ่อมที่ศูนย์ เปลี่ยนสายพานยางขับตัวหมุนเทป ราคาอะไหล่ (สายพานยางเส้นเดียว) ก็ล่อไป 650 บาท ค่าแรงอีก 250 บาท โดนไปเก้าร้อย กับสายพาน 1 เส้น หลังจากนั้นก็เข็ดเลย ที่บ้านผมเป็นพวก indy ชอบใช้ของปนๆกัน ทีวี JVC เครื่องซักผ้า Toshiba ตู้เย็น samnsung ไมโครเวฟ sharp พัดลม pana กล้อง sony จอคอม LG เครื่องเล่น DVD distar นะฮับ... จากคุณ : กบกินกะลา เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:54:36

ความคิดเห็นที่ 21 อ้างอิงคห.9 ---------------- ยกตัวอย่างเช่น sony เค้าไม่ได้ทำแค่ ธุรกิจ เครื่องใช้ไฟฟ้าครับ เค้าทำเยอะมาก เช่น sony music ,sony picture (columbia picture),sony entertanment(PSP) ไหนจะพวกกล้อง digital ซึง sony ก็เป็นผู้นำ นวัตกรรมด้าน mirrorless ตอนหลังทำตามออกมากันครบ ทั้ง nikon,canon,olympus,samsung --------------- เท่าที่จำได้ เรื่องกล้องเนี่ย โซนี่ซื้อ konica minolta มาทำต่อนะครับ ส่วน mirrorless น่ะ Olympus ทำก่อน หลังจากนั้น nikon>sony>samsung ค่อยทำตาม ตามลำดับครับ เรื่องที่โซนี่ invent เอง และจารึกในประวัติศาสตร์คือ walkman, PS, PSP ที่ล้มเหลวหนักๆ ก็ miniDV (ไม่แน่ใจว่าชื่อนี้หรือเปล่า) จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:08:19

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อไหร่ไทยจะทำเครื่องไฟฟ้าดีๆออกมาแข่งบ้าง ธานินเจเนอเรชั่นใหม่อะไรเทือกนี้ จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:32:43

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้ากล้อง digital sony มีของตัวเองมานานแล้วครับ แต่ ตอนหลังมาซื้อ KM เพราะต้องการต่อยอดกล้อง DSLR รวมถึง เลนส์ กล้อง mirrorless อันนี้ผมไม่แม่น แต่ที่แน่ ๆ sony ทำให้มัน บูม ขึ้นมาแน่ ๆ ขนาด canon กะว่าจะไม่เล่นตลาดนี้ ยังต้องเข็นออกมาจนได้ จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:33:02

ความคิดเห็นที่ 24 อืม เกาหลียึดบ้านจริงๆ ทั้ง โทรศัพท์ แอร์ เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น หม้อหุงข้าว กาน้ำร้อน แต่รวมๆทั้งหมดไม่ถึงครึ่งเดียวของรถญี่ปุ่น 1 คัน ที่บ้านมีรถญี่ปุ่น 2 คัน ที่สำคัญ ญี่ปุ่นลงทุนในประเทศอื่นเยอะมากครับ เป็นอันดับหนึ่งในไทยด้วย การเกิดมาก่อนไม่ตายไปง่ายหรอก เพราะเกาะ(หุ้น)ดูดเลือดฝังนโยบายอยู่กับแบรนด์และตั้งอยู่ในประเทศอื่นๆด้วย จากคุณ : nomeny เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:51:32

ความคิดเห็นที่ 25 รถคงจะยังอยู่อีกนาน คันหน้าก็กะซื้อรถญี่ปุ่น แต่โน็ตบุ๊คเครื่องหน้าเข็ดโซนี่ เพราะไม่ดีเท่าที่แพง  แต่ในกระทู้นี้กำลังโฟกัสเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:00:07

ความคิดเห็นที่ 26 โกดักยังเจ๊งไปแล้วเลยครับ จากคุณ : blind เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:19:34

ความคิดเห็นที่ 27 บ้านผมเกาหลียังไม่ยึดนะ  plasma ก็ยัง pana  อุปกรณ์อื่นๆก็ปนๆกันไป   แต่มีจีนปนๆบ้างแล้ว  แต่เกาหลียังไม่มีสักชิ้น จากคุณ : Night_Angel เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:46:22

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนนี้ที่บ้านมี LG หลายอย่างแล้ว และก็ใช้ดีด้วย พอใจมาก จากเมื่อก่อนที่ดูถูกแบรนด์เกาหลี แต่ LG ยุคใหม่เปลี่ยนใจเราได้ แต่ภาพรวมแล้วเครื่องไฟฟ้าญี่ปุ่นยังมาตรฐานสูงกว่า ใช้แล้วสบายใจกว่า (ถ้าเงินถึง) จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 17:09:30

ความคิดเห็นที่ 29 LG ดีครับ แต่ ซัมซุงสวยกว่า จากคุณ : ฟฟ7 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 17:15:46 A:110.171.72.193 X: TicketID:375732

ความคิดเห็นที่ 30 >วัฒนธรรมที่แข็งของคนญี่ปุ่นคือ คนที่ทำงาน ที่ไหนแต่แรก >เค้าก็จะอยู่ยันแก่เลย ไม่ค่อยเปลี่ยนงาน >เพราะฉะนั้น คนญี่ปุ่นเลยทำงานกันมานานเงินเดือนก็เยอะ >และที่สำคัญ คนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อย layoff คน ไม่เหมือนทางฝรั่ง สมัยนี้ ญี่ปุ่นไม่เป็นอย่างนี้แล้วครับ ใครไม่มีผลงานถูกออกได้เหมือนกัน ทำเอาคนกลางวัยขึ้นไป บางคนอยู่มานานก็ตกงานได้ ปัญหาคือ คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆ ปัจจุบัน บรรยากาศออกไปทางขาด NOZOMI คือ ความใฝ่ฝัน จึงออกไปงานด้านบันเทิงมากกว่า จะคนรุ่นก่อนๆ ที่ทำงานแบบถวายชีวิตสมัยหลังสงครามโลกใหม่ๆ ครับ จากคุณ : STL เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 17:40:28

ความคิดเห็นที่ 31 Kodak ไม่ใช่ของเจปุ่นนะครับ บริษัทสหรัฐแท้ ๆ จากคุณ : In Darkness เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 18:04:48

ความคิดเห็นที่ 32 บ้านดิฉันที่เมืองไทยไม่มีของเกาหลี ไต้หวันเลยค่ะ ทีวี ตู้เย็น แอร์ เครื่องดูดฝุ่น รถยนต์ ของญี่ปุ่นหมดเลย ยกเว้นแต่เครื่องซักผ้าเป็นของเยอรมัน เครื่องคอมพิวเตอร์แมคและเดลของอเมริกา จากคุณ : อ่าวโตเกียว เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 19:11:59 A:114.181.162.254 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 33 แฟนๆแบรนด์ "ธานินท์" มีบ้างไหมคร้าบ จากคุณ : Kong เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 19:52:19 A:180.180.187.117 X: TicketID:027915

ความคิดเห็นที่ 34 ที่บอกบ้านไม่มีของประเทศอื่นนอกจากญี่ปุ่นนี่ คือ 5 ปีที่ผ่านมาก็ซื้อเครื่องไฟฟ้าและอิเลคโทรนิค ญี่ปุ่นตลอดใช่ไม้ครับ ? จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 19:56:14

ความคิดเห็นที่ 35 อย่าลืม ตอบกระทู้กันด้วย แบรนด์จะรอดไม้ จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 19:57:05

ความคิดเห็นที่ 36 แบรนด์ญี่ปุ่นดูท่า sharp จะหนักสุด ไม่อยากให้ sharp เจ๊งเลยอะ เครื่องใช่ไฟฟ้าเขามีคุณภาพดีทั้งนั้น โดยเฉพาะจอภาพ จากคุณ : Love to live เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 20:04:00

ความคิดเห็นที่ 37 วิทยุธานินท์ ทุกวันนี้ยังมีขายอยู่นะ ... จากคุณ : justic เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 20:14:43

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่รอดครับ แบรนดังๆจะหันไปพัฒนาอาวุธแทน เพราะที่เขาลงทุนพัฒนาสินค้ามาขายเป็นฉากหน้าเฉยๆ แต่เงินกำไรจะลงกลับไปพัฒนาอาวุธที่รอการมีกองทัพญี่ปปุ่นอีกครั้ง ถ้าเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม ถ้ารัฐบาลญี่ปุ่นประกาศสงครามเป็นกองทัพอิสระเอา มิตซุ โซนี่ ฟูจิ พานา ฮอนด้า โตโยต้า และอีกหลายร้อยบริษัทมารวมกันแต่ละชิ้นส่วนนี่ก็ กันดั้มดีๆนี่เอง จากคุณ : สมอ (harvardวิทยาคม) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 20:22:31

ความคิดเห็นที่ 39 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทนทานที่สุดในบ้านผมคือ เครื่องดูดฝุ่น Electrolux ใช้มาจะ 30 ปีแล้ว ไม่ยอมพังซักที ไม่รู้จะทนไปไหน ใช้ทิ้งๆขว้างๆมันก็ยังไม่ยอมพัง ทนจนไม่รู้จะทนยังไงแล้ว เรื่องสินค้าญี่ปุ่น เขาคงไม่ยอมตายง่ายๆหรอกครับ อย่างน้อยๆเขาก็ยังมีบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อยู่หลายบริษัท ส่วนบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า เดี๋ยวเข้าก็คิดของใหม่ๆมาขายเราได้เรื่อยไปแหละครับ คนญี่ปุ่นหัวดี+ชาตินิยมสุดๆ แบรนด์เขาคงไม่ตายง่ายๆ แต่ก็ต้องยอมรับอย่างนึงว่าสินค้าเกาหลี ราคามันน่าคบจริงๆ ถ้าเอาสเปคไปเทียบราคา สินค้าเกาหลีคงนำโด่ง แต่ถ้าเรื่องความทนทาน ก็คงอยู่ท้ายๆ เรื่องนี้ผู้บริโภคก็คงรู้ๆกันอยู่ แล้วแต่ว่าจะเลือกแบบไหน จากคุณ : a1255 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 21:07:47 A:183.89.16.14 X: TicketID:321368

ความคิดเห็นที่ 40 เอ่อ ขอย้ำว่าแบรนด์ไฟฟ้าและอิเลคโทรนิคของญี่ปุ่นนะครับ  ไม่ได้พูดเรื่องรถยนต์ กล่าวคือ กระทู้เรื่อง  เรื่องแบรนด์สินค้าประเภทไฟฟ้าและอิเลคโทรนิคของญี่ปุ่นนะครับ #38 ปิดเทอมนี้ซื้อกันดั้มตัวไหนดีอ่ะ แนะนำด้วย เอาที่ไม่แพงนะ เดี๋ยวพ่อว่าเอา จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 21:46:23

ความคิดเห็นที่ 41 ตอบให้ตามมุมมองของผู้บริโภคค่ะ ที่บ้านใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนของญี่ปุ่นกับยุโรปมาตลอดตั้งแต่ดิฉันเกิด(เกิดสมัยโบราณ) ยี่ห้อต่างๆเหล่านั้น อาทิ เครื่องดูดฝุ่นโตชิบ้า ตู้เย็นและทีวีเนชั่นแนล(พานาโซนิค) หม้อหุงข้าวซันโย แอร์มิตซูบิชิ เครื่องปั่นผ้าอิเลคโทรลัคส์ เครื่องซักผ้าซีเมนส์ ทีวีฟิลิปส์ ทีวีทอมป์สัน เตารีดผ้าทีฟาล เครื่องคอมพิวเตอร์แม็คกับเดลของอเมริกา มือถือโนเกีย ...ตราบเท่าที่บริษัทเหล่านี้ยังผลิตสินค้ามาขาย เราก็จะซื้อใช้ไปเรื่อยๆล่ะค่ะเพราะรูปลักษณ์สวยงามทนทานคุณภาพมั่นใจได้ คือ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเลิกซื้อแบรนด์เหล่านี้ เว้นแต่เค้าจะเลิกทำขาย เลยอาจจะไม่ค่อยอินกับกระทู้ที่ว่าแบรนด์ญี่ปุ่นจะไปไม่รอด (ขนาด ฟิลิปส์ที่แป้กมากในเอเชีย แต่ในยุโรปเค้าก็ยังขายดีเป็นแบรนด์แถวหน้า แบรนด์ญี่ปุ่นแม้ในอนาคตอาจจะแป้กนอกบ้าน แต่ตลาดใหญ่ที่เป็นตลาดในบ้านเค้าเองก็คงทำให้แบรนด์เหล่านี้อยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ) จากคุณ : อ่าวโตเกียว เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 22:30:44 A:114.181.162.254 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 42 แอร์ LG ขอซื้อหนเดียวพอ จากคุณ : วุฒิ (นันทะนะ) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 22:44:03

ความคิดเห็นที่ 43 บ้านน้าผมที่อเมริกา ตอนปากกัดตีนถีบ เริ่มจากของเกาหลีแทบทั้งบ้านครับ LG ซัมซุง พอรวยแล้วก็แบรนด์ญี่ปุ่นทั้งบ้านครับ ยกเว้นอย่างเดียวที่ไม่เคยเห็นแบรนด์เกาหลีในบ้านแก คือรถยนต์ แกว่าแบรนด์นี้ ไว้ให้พวกแบกจ๊อบมันขับกันที่นั่น มันราคาถูกดี จากคุณ : อิิๆ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 23:26:26 A:61.90.92.44 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 44 แอร์ กล้อง samsung โคตรห่วยอะ แบรนด์ ญี่ปุ่นเดียวนี้ผมว่าแย่ลงนะ ทำรุ่นเล็กมาแข่งราคา กับเกาหลี  ดัีนห่วยกว่าซะอีก notebook viao นี่หมดประกัน 1 ปีพัง ทันที  เห็นมาหลายเครื่องแล้ว จากคุณ : Sacrifice เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 23:57:55

ความคิดเห็นที่ 45 ญี่ปุ่นเศรษฐกิจพังพาบ เลยเอาใจลูกค้าฝรั่งเก่าๆ(แถมเป็นลูกหนี้รายบิ๊ก) หันไปมีเรื่องกัดกับลูกค้าหน้าใหม่(แถมเป็นคู่แข่งตัวพ่อในเวลาเดียวกัน) ค้าขายให้มันได้อย่างงี้ซิ คงคิดว่าจะเจริญ เดิมพันเอาละ แม่ค้าแถวบ้านยังแอบเสื้อเหลืองเสื้อแดงไว้เข้าไปขายม้อบเลย แต่นอกม้อบนี่สารพัดสี จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 00:49:06

ความคิดเห็นที่ 46 การขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีอีกหลายมุมครับ มุมที่ผู้บริโภคเห็นมักจะเป้น แบรนด์ แต่ในทางเทคโนโลยี บริษัทที่ถือสิทธิบัตรยังมีอีกเยอะ ที่ทำให้ sony ลำบากจริงๆ คือเรื่อง สิทธิบัตร cd ที่ มันไม่มีใครใช้แล้ว ปัญหาของ sony คือ product หลังๆ ของเค้า งี่เง่าเกินไป ตอนหลังยุค mini disc ทุกอย่างที่ซื้อของ sony จะต้องใช้กับของ sony ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มี cloud ไม่มี internet แบบตอนนี้ ทำให้มันกลายเป็นความยุ่งยากในการใช้งาน และผู้ใช้ยังปรับตัวไม่ได้ อันต่อมาคือ LCD ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ เกาหลี สามารถก้าวกระโดดตรงนี้ได้ อาจจะเพราะว่า LCD เป็นเทคโนโลยีที่พึ่งหมด patent เลยกลายเป้นว่าเปลี่ยนแปลงจากการขายเทคโนโลยีมาเป็นขายราคา ซึ่งในช่วง 10 ปีก่อนนั้น ญี่ปุ่นไม่คุ้นกับการแข่งราคาเมหือนยุคบุกเบิก 30 ปีก่อน เกาหลี ตอนนี้เน้นผลิตของที่มีเทคโนโลยีพร้อมแล้ว เป้นหลักเลยทำให้ทำงานง่าย โดยใช้วิธีกินค่าแรงเอาเป้นสำคัญ (ผมคิดอย่างนี้จริงๆนะ) จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 01:23:48 A:124.122.70.223 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 47 ความเจริญของสินค้าเทคโนพี่เกา หลักๆอยู่ที่นโยบายช่วยเหลือของพี่กันครับ เทคโน LCD ที่ไม่โบราณ เป็นพี่กันถ่ายทอดให้เกาหลี ขนาดที่ญี่ปุ่นต้องไปแชร์โรงงานผลิตกับกิมจิ ส่วนทางโมบาล์ยมือถือ ยิ่งชัดเจน โรงงานผลิตเวเฟอร์ชิพ samsung exynos ตั้งอยู่ข้างๆ Texas Instrument รอ Ti สร้างชิพ Omap เสร็จออกขาย แล้วเอา schematic ที่ห่วยกว่า ไม่ผลิตให้ซัมซุงไปทำมือถือต่ออีกที จากคุณ : อิิๆ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 03:07:18 A:61.90.92.44 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 48 TV ผมใช้ JVC Remote ของจอแก้ว 15ปีที่แล้ว เอามากดบังคับจอ led ได้ด้วย จากคุณ : Go-Der เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 09:30:40

ความคิดเห็นที่ 49 คงมีรวมกอดกัน เพื่อรอด กันบ้างหละครับ   ส่วน SS นะ ที่โต ๆ ๆ ๆ เนี่ย คง เพราะ เป็นคนทำ LED LCD รายแรก ๆ ของโลก (ตอนนั้น จอต้อง Trinitron @ sony เน๊อะ) SS โตแบบก้าวกระโดดเพราะ iPhone 3 4 ใช้ จอ SS mac ใช้ จอ SS  ซึ่งตอนแรก SS ไม่ได้คิดจะทำ มือถือแข่งเลย แต่คงเพราะ เห็นความน่าจะโต ของตลาด เลยโดด ลงมาด้วย apple ขายดีเท่าไหร่ SS ก้ รวยขึ้นตามไปเรื่อย ๆ เช่นกัน ^^ จากคุณ : vinze เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 10:15:10

ความคิดเห็นที่ 50 เข้า เป็น กลุ่ม ธุรกิจ ครบวงจรหมดแล้ว ล่ะ ขาดทุน ด้าน อิเล็กโทรนิก ก็ ไปเอากำไร ทางอื่นแทน  มีขึ้นมีลง ตามธรรมชาติ แต่ เชื่อได้ ว่า เขาไม่ หยุด อยู่นิ่งๆ แน่  เดี๋ยวก็ กลับมา จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 11:37:33

ความคิดเห็นที่ 51 แบรนด์ไม่ล้มครับ อยู่รอดต่อไปแต่อาจจะเปลี่ยนโครงสร้าง ขายกิจการให้เจ้าอื่นไป (แต่สำหรับโซนี่คงยากที่จะล้ม) อย่างโมโตโรล่าตอนนี้ กูเกิ้ลควบกิจการไปแล้วแต่ยังใช้แบรนด์เดิมเนื่องจากแบรนด์แข็งแกร่งมายาวนาน บ้านผม เครื่องใช้อิเลคโทรนิกส์ มัลติมีเดียเป็นโซนี่หมดเลย มือถือโมโตโรล่าทุกเครื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรวมถึงแอร์เป็นชาร์ปและอิเลคโทรลักซ์ ไม่มีเกาหลีเลยแม้แต่ชิ้นเดียว 555 จากคุณ : tolstoy เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 12:28:02

ความคิดเห็นที่ 52 อย่าง sony อาจจะต้องขายธุรกิจบางอย่างทิ้ง เหมือนที่ IBM ขายธุรกิจ pc ทิ้ง ให้ lenovo ไม่แน่ อนาคต อาจจะเห็นทีวี sony ที่ไม่ใช่แบรนด์ญี่ปุ่นก็ได้ จากคุณ : k_jojo เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 16:20:44

ความคิดเห็นที่ 53 brand sony,panasonic ไม่หายไปจากโลก ในระยะเวลา 50-100 ปี นี้แน่นอน เค้ามีอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด ถึงแม้จะไม่ได้ขาย TV ก็ตาม 555 จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 18:21:07

ความคิดเห็นที่ 54 Sharp ก็กำลังแย่ http://www.msnbc.msn.com/id/49206314/ns/technology_and_science-tech_and_gadgets/t/banks-stake-billion-sharp-bailout-recoup-money/#.UHAUdk4dqCh จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 18:23:06

ความคิดเห็นที่ 55 แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีดีๆ หรือแบรนด์ดังๆ ถ้ารายจ่ายมากกว่ารายรับนานๆ  เดี๋ยวบริษัทก็ต้องจากไป เอาสิทธิบัตรไปขายถูกๆ หาใครซื้อไม่้ได้ก็มี  สิทธิบัตร เวลามีค่ามันมีค่ามาก  เวลาไม่มีค่าอาจจะไม่มีเลย  และก็อาจจะไม่สำคัญอะไรเลยก็ได้ มันขึ้นกับยุคสมัยด้วย เพราะงั้นสิ่งสำคัญของแบรนด์ญี่ปุ่นจะให้อยู่รอดก็คือ  1. บริษัทเจ้าของแบรนด์อยู่รอด เป็นหลัก 2. บ ญี่ปุ่นอื่นมาซื้อแบรนด์ไป (ถ้า บ ประเทศอื่นมาซื้อเราจะเรียกว่า แบรนด์ญี่ปุ่นไม้ครับ?) แต่ถ้าตายทั้ง sector แบบกรณีญี่ปุ่นนี่  ใครจะกล้ามาซื้อ take over? หรือแบบ Moto แม้ว่าแบรนด์จะอยู่รอด  แต่ความสำคัญอยู่ที่ไหน? ก็กลายเป็นแบรนด์ธรรมดาไม่ต่างจากแบรนด์เล็กๆอื่นๆที่มีเต็มโลกไปหมด จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 18:46:08

ความคิดเห็นที่ 56 โมโตโรล่า มันถูกรัฐบาลกำหนดบทบาทให้ไปเล่นอย่างอื่น เอาตลาดมือถือให้ช่วยเกาหลีใต้ไปตั้งตัวสู้กับเกาหลีเหนือ ในอาวุธไฮเทคพี่กัน มีชิพโมโตโรลล่าอยู่เต็มไปหมด แผนกโมบาล์ยเซลลูล่าร์ ก็เลยหมดความสำคัญ ให้กูเกิ้ลเอาไปใช้ ส่วนพวกไฮเทค เปลี่ยนชื่อเป็น บ.ชื่ออื่นๆ แฝงตัวอยู่ในอุตสาหกรรมอาวุธพี่กัน ซัมซุง มันขอเทคโนฯเค้ากินไปวันๆ เทียบโมโตฯตัวจริงไม่ติดฝุ่นหรอกครับ แต่รัฐบาลพี่กันแกแกล้งเนียน แอบช่วยเหลือกิมจิมันไป ที่ฟเองกับแอปเปิล มันก็หน้าฉาก เหมือนที่แอปเปิ้ลทะเลาะกับกูเกิ้ลนั่นแหล่ะ อิๆ จากคุณ : อิๆ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 17:55:28 A:110.168.130.116 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 57 sharp อาจจะดีขึ้น เพราะ ได้ทำจอให้ apple แทน samsung แล้ว จากคุณ : NightWolf เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:05:35

ความคิดเห็นที่ 58 moto ผมพึ่งเข้าวงการตอน ระบบ 800 กำลังตาย ตอนนั้นระบบ 800 ของ moto ดีมาก และแพงมาก แต่พอเปลี่ยนเป็น GSM กลายเป็นดับสนิทเพราะทาง อเมริกาไม่นิยม GSM และ ถ้าว่ากันแต่ brand moto คงคล้าย ๆ nokia คือมุ่งทำธุรกิจสื่อสารเป็นหลัก ถ้าขายไม่ได้ก็จบเห่เลย เพราะไม่มีธุรกิจมารองรับ คงเทียบไม่ได้กับทาง sony,pana ที่เค้า product กว้างกว่ามาก อันไหนกำไรก็ขยายไป อันไหนขาดทุนก็ขายทิ้ง อย่างธุรกิจ mobile ของ sony ยุคแรก ขาดทุนยับเยิน ถึงกับเลิกทำไปเลย ตอนหลังมาร่วมทุนกับ ericson กลายเป็น sony ericson พอเห็นเค้าลางว่าจะทำกำไร ก็ รวบกิจการซะเลย ตอนนี้กลายเป็น sony mobile ล้วนๆ ธุรกิจมันก็พลิกมา พลิกไป เดี๋ยวซื้อ เดี๋ยวขาย ขึ้นอยู่กับ การวางแผน และเงินทุน ถ้าบริหารดี ๆ ยังไง ก็รอดแน่นอน ส่วน moto เจอ ของถูก เข้ามาตีตลาด จบข่าว จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 08:59:21

ความคิดเห็นที่ 59 อดีต ยุโรปร่วง ญี่ปุ่นรุ่ง ปัจจุบัน ญี่ปุ่นร่วง เกาหลีรุ่ง อนาคต เกาหลีร่วง ไทยรุ่ง จากคุณ : เดาเอา (sepianhomo) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 11:23:51

ความคิดเห็นที่ 60 เข้าใจว่า ไทยเรา จะรอรุ่ง อยู่หลังสุดเค้า จากคุณ : ฟฟ7 เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 15:46:14 A:110.171.72.111 X: TicketID:375732