ความคิดเห็นที่ 1 เล่น Empire Total War ดีกว่าฮะ จากคุณ : ChromaticCircle เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 16:37:55

ความคิดเห็นที่ 2 ...สงครามกลางเมืองใช้แค่ช่วงแรกๆเท่านั้นครับ จากคุณ : LegalisM เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 16:53:41

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ต้องตั้งแถวดื้อๆแบบนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการสังหารข้าศึกครับ เพราะปืนคาบศิลา ระยะหวังผลมันค่อนข้างแย่ คือยิงไปแล้วลูกกระสุนมันกระจายห่างจากเป้าไปเยอะ บ้างก็ตรง บ้างก็ลงดิน เลยมายืนเรียงแถวนี่แหละโดนเป้าชัวร์ๆ ถ้าแยกกันไปยิง คงยิงกันจนกระสุนหมด อาจจะยังไม่มีใครตายเลยก็ได้ หนังแนวประวัติศาตร์อเมริกามี The patriot ไม่แน่ใจว่าตั้งแถวยิงอยู่หรือเปล่านะครับ อีกเรื่องก็ Abraham Lincoln ครับ กำลังจะฉาย อันนี้เหตการณ์เดียวกันคือสงครามกลางเมืองอเมริกา จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 16:55:38

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าจำไม่ผิดจะมีเรื่องนี้ครับ Waterloo (I) (1970) http://www.imdb.com/title/tt0066549/ หรือหาหนังที่เกี่ยวกับ นโปเลียนครับ น่าจะมีเยอะอยู่ จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 16:58:41

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องตั้งแถวเพราะใช้เวลา reload นานด้วย เลยจัดขบวนแบบนี้จะได้กำจัดข้อเสียเรื่องนี้ไปด้วย มั้งครับ จากคุณ : ความจำสั้นสันหลังยาว เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 17:20:00

ความคิดเห็นที่ 6 ที่ต้องตั้งแถวดื้อๆแบบนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสถูกยิง จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 17:38:58

ความคิดเห็นที่ 7 ทำไมไม่ใช้ดาบวิ่งเข้าไปเลย จากคุณ : ธรรมสถิต เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 17:39:32

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ ^ จากคุณ : Roh_Z เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 18:00:02

ความคิดเห็นที่ 9 ... จากคุณ : Roh_Z เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 18:00:35

ความคิดเห็นที่ 10 แต่พวกพระเอกในหนัง ยิงยังไงก็โดนนี่สิ จากคุณ : KaMeLRo เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 18:58:06

ความคิดเห็นที่ 11 ...ปืนมันไม่ใช่ไม่แม่น เพียงแต่ระยะหวังผลต่ำ  ถ้าจำไม่ผิดปืนยุคนั้นหวังผลได้ในระยะ50เมตร     ระยะ50เมตร วิ่งเข้าชาร์จ โดนยิงซัก3ชุด ผมคิดว่าทัพหน้าอาจแตกได้ง่ายๆเหมือนกัน จากคุณ : LegalisM เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 20:12:01

ความคิดเห็นที่ 12 อีกเรื่องที่รบกันแบบนี้คือ the patriot ครับ ชาติบุรุษดับแค้นฝังแผ่นดิน เมล กิ๊บสัน แสดงครับ จากคุณ : จับแมลงสีเทา เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 22:03:22

ความคิดเห็นที่ 13 ปืนยุคแรกมันรีโหลดยาก เพราะใส่ดินปืนทางปากกระบอกแล้วเอาไม้กระทุ้ง เวลารีโหลดก็ต้องยืนอยู่ดี เพราะปืนยาว รีโหลดเสร็จล้มตัวลงยิงแล้วลุกขึ้นมารีโหลดใหม่คงเสียเวลาและเหนื่อยน่าดู ก็ยืนยิงมันเลยดีกว่า แถมปืนยุคนั้นไม่มีเกลียวยิงก็ไม่แม่น วัดกันตรงใครโหลดเร็วกว่าเท่ายิงได้มากกว่าโอกาสยิงถูกเป้ามากกว่า ยุคหลังมีการคิดค้นปลอกกระสุน ชนวนกระทบแตก และกลไกโหลดกระสุนแบบโบลท์แอคชั่น รวมทั้งเกลียวในลำกล้อง ทำให้วิธีสู้รบด้วยปืนเปลี่ยนไป จากคุณ : ตอบโจทย์ เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 22:03:49 A:58.11.234.73 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 14 @7 .... พลปืนสามพัน ตั้งแถวแบบสามชั้น ของโนบุนากะ  ทำเอาทหารม้าหุ้มเกราะนับหมื่น  ของ ทาเคดะกระจายมาแล้ว จากคุณ : sillfai เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 22:08:42

ความคิดเห็นที่ 15 #14 คงไม่มีแค่พลปืน3000 หรอก ปัจจัยมันต้องมากกว่านั้น จากคุณ : Zinile13 เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 22:36:40

ความคิดเห็นที่ 16 ู^ ^ ^ ในตอนที่ปะทะ  ทาเคดะนั้น กลยุทธที่โนบุนากะใช้เป็นแบบนี้ หน้าสุดเป็นรั้วไม้ และขวากม้าทำให้ ทหารม้าของทาะเคดะที่เข้าชาตร์ ต้องเสียเวลาที่รั้วไม้ ส่วนพลปืนของ โนบุนากะตั้งเป็น ตั้งแถวยิงเป็นสามชั้น  แถวแรกยิงเสร็จ  ถอยไปเป็นแถวที่สาม  แถวที่สองเลื่อนขึ้นมายิง แถวที่สามรอ ยิงเสร็จก็พอดีที่แถวแรก บรรจุกระสุนเสร็จพอดี กลยุทธนี้ โนบุนากะนำมาใช้ก่อนตะวันตกราวๆ 200 ปี อีกประการ  ผู้ที่เป็นผบ.ในครั้งนั้น คือทาเคดะ คัตซึโยริ ผู้เป็นบุตร  ไม่ใช่ผู้เป็นพ่อ ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้น  และความดื้อดึงของเจ้าที่จะให้ทหารม้าเข้าต่อกรไม่ยอมถอยตามคำแนะนำของขุนศึก ก่อนหน้านั้น โนบุนากะยึดเมืองท่า ซาไก  เอาไว้ได้ ทำให้แทบจะเป็นผู้ที่ผูกขาดการซื้อขายปืน  พ่อค้าคนอื่นหากไม่ขายปืนให้โนบุนากะก็จะถูกบ่อนทำลายต่างๆ  ทำให้โนบุนากะเป็นขุนพลเพียงผู้เดียวที่มีการครอบครองปืนเอาไว้มากที่สุด โนบุนากะ  เป็นคนแรกที่นำหน่วยปืนไฟเข้ามาใช้อย่างเป็นทางการ มานานแล้ว ทำให้วินัยและความชำนาญของพลปืน   ของโนบุนากะมีสูงสุด ก่อนหน้านั้น  พลปืนจะเ็ป็นหน่วยเล็กๆที่อยู่รวมกับทหารม้า  โดนพลปืนจะยิงเปิดทางก่อนจากนั้นจะให้ทหารม้าเข้าชาตร์  ซึ่งทาเคดะก็ใช้วิธีนี้   แต่ โนบุนากะ แบ่งการบังคับบัญชา  ออกเป็นสามเหล่าอย่างชัดเจน  คือ  พลหอก  พลม้า  และพลปืน  ซึ่งผบ.พลปืน ก็คือ  ฮิเดโยชิ  ขุนศึกผู้ที่รวบรวมแผ่นดินญี่ปุ่นในเวลาต่อมา   เมื่อทุกสาเหตุรวมกัน  ทำให้  ฝ่ายทาเคดะ เป็นฝ่ายปราชัยอย่างย่อยยับ  เสียทหารราว 10000คน  โดนโนบุนากะ ไม่เสียทหารเลยแม้แต่เพียงผู้เดียว จากคุณ : sillfai เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 01:41:15

ความคิดเห็นที่ 17 ...ถ้าจัดทัพม้าเป็นแนวลึกแทน โนบุนากะเสร็จไปแล้ว ไปเรียงแถวหน้ากระดานกับทหารม้ายุโรป ทหาร3พันนั่นมีเสร็จแน่ๆ จากคุณ : LegalisM เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 01:55:59

ความคิดเห็นที่ 18 17 ผมก็ว่าน่าจะอย่างนั้น  แต่เท่าหาๆดู ก็ไม่มีบอกไว้ว่า ทาเคดะจัดแถวทหารม้าเป็นรูปแบบใด เท่าที่ค้นๆดู  ปัญหาหลักไม่ได้อยู่ที่ปืน  แต่มันคือแนวรั้วและแนวขวากม้า  ที่ให้ทหารของทาเคดะ โจมตีได้ไม่เต็มที่  มีขุุนศึกคนนึง พยามนำ ทหารม้าเข้าชาต์ร ตรงช่องว่าง ของแนวกั้นม้า  แต่ก็โดนยิงตายเสียก่อน  มีบันทึกไว้ว่า  โนบุนากะเอ่ยปากชมว่าหาก  คัตซึโยริ ยอมทำตามขุนศึกผู้นั้น  เขาอาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็เป็นได้ จากคุณ : sillfai เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 02:17:16

ความคิดเห็นที่ 19 คห. 16 มั่วโคตร โนบุนากะไม่เสียหายยังไงละครับ ในเมื่อส่งแนวหน้าไปล่อทหารนับหมื่นให้หลุดเข้ามาใน ดงปืน สงครามนะครับไม่ได้เล่นขายของ แนวหน้าตายไปเท่าไหร่ จากคุณ : PolitESolunA เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 04:27:36

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นหลายคนอ้างอิงเรื่องการใช้พลปืนไฟที่นากาชิโนะมาหลายกระทู้ คงถึงเวลาต้องชี้แจงบ้างแล้ว 1.การรบที่นางาชิโนะถูกเข้าใจว่าเป็นตำนานการรบที่ทหารม้าวิ่งเข้าไปให้พลปืนไฟยิงเอาอยู่ฝ่ายเดียว  แต่ที่จริงแล้วเป็นการรบระยะประชิดที่ดุเดือดกินเวลาถึง5ชั่วโมง โดยทั้ง2ฝ่ายต่างก็สูญเสียไปมาก  เรื่องนี้ถูกเข้าใจผิดกันมากแม้แต่ในสื่อของญี่ปุ่นเอง 2.กองทัพทาเคดะไม่ได้แยกทหารม้าเป็นหน่วยรบเอกเทศ  แต่จัดทหารม้าผสมกับทหารราบผสมเป็นหน่วยเดียวกัน (กองทัพทาเคดะจัดอัตราส่วนของทหารม้าต่อทหารราบเป็น1:2)  เวลาเข้าโจมตีข้าศึกจะให้ทหารราบในหน่วยเข้าปะทะก่อนส่วนทหารม้าในหน่วยจะอาศัยความเร็วเข้าโจมตีซ้ำที่จุดอ่อน  การรบในนากาชิโนะของทาเคดะจึงไม่ใช่กองทหารม้าขนาดใหญ่เข้าชาร์จแนวรั้ว  แต่เป็นกองทหารราบขนาดใหญ่ที่มีทหารม้าประกบคู่เข้าชาร์จพร้อมกัน 3.ฝ่ายทาเคดะรู้ดีว่ากองทัพโอดะมีปืนไฟมาก  แต่คาดการผิดว่าปืนไฟจะใช้ไม่ได้เพราะฝนตกหนักในคืนก่อนการรบจะทำให้เชือกจุดไฟแห้งไม่ทันในตอนเช้า  กลับกลายเป็นว่าฝ่ายโอดะรอบคอบกว่าสั่งให้พลปืนเก็บรักษาอุปกรณ์การยิงไว้ตั้งแต่ก่อนฝนตกแล้ว 4.ปีกขวาของฝ่ายโอดะคือกองทัพโตกุกาวะไม่มีแนวรั้วไม้และไม่ได้จัดหน่วยพลปืนไว้เหมือนทัพโอดะ  แต่แนวรบทางนี้ก็ยันการบุกของทาเคดะไว้ได้ตลอดการรบอย่างหืดจับ . แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 05:18:00 จากคุณ : Lowfailer เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 04:42:18

ความคิดเห็นที่ 21 +++ 5.พลปืนในทัพโอดะมีหน้าที่คอยยิงตัดกำลังและยิงสนับสนุน พวกที่มีบทบาทในการรบมากที่สุดคือทหารราบพลหอกที่คอยยันทัพทาเคดะไว้ตั้งแต่ 8โมงเช้าถึงบ่าย 1 ชัยชนะของฝ่ายโอดะมาจากการตั้งยันข้าศึกอย่างเหนียวแน่นจนฝ่ายบุกสูญเสียไปมาก   ไม่ได้เป็นชัยนะที่ไร้รอยขีดข่วนจากการระดมยิงอยู่ฝ่ายเดียวอย่างที่เชื่อกัน 6.ตำนานพลปืนในศึกนางาชิโนะที่จริงแล้วมาจากการจัดหน่วยพลปืนจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และหน่วยพลปืนของโอดะในครั้งนี้มีวินัยในการยิงสูงมากคือจะไม่ยอมยิงเด็ดขาดถ้าไม่เข้าระยะ 50เมตรซึ่งเป็นระยะยิงที่แม่นที่สุด ปกติพลปืนที่ส่วนใหญ่เกณฑ์มาจากชาวนาจะวินัยต่ำ ถ้าคุมไม่ดีอาจจะตื่นกลัวสนามรบจนเปิดฉากยิงจากระยะที่ไกลเกินไป ในการรบครั้งนี้โอดะโนบุนางะหวังไว้กับพลปืนมากถึงกับส่งหน่วยองครักษ์ไปควบคุมวินัยการยิงของพลปืน ในการรบที่นางาชิโนะฝ่ายทาเคดะพยายามเข้าตีฝ่ายโอดะหลายครั้ง แนวรับทางปีกซ้ายและทัพตรงกลางของโอดะถูกทหารทาเคดะตีแตกได้ครั้งนึง แต่ก็โดนพลปืนระดมยิงยันกลับไปได้ 7.ฝ่ายโอดะเสียทหารไปพอสมควร โดยเสียไป 6พันคน จากทหาร 38000คน  แต่ฝ่ายทาเคดะก็สูญเสียหนักกว่าเพราะเสียทหารไปถึง 1หมื่นจาก15000คน  แถมยังสูญเสียแม่ทัพชั้นยอดไปอีกหลายคนจนตระกูลทาเคดะอ่อนแอลงไปมาก . แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 05:06:58 แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 05:05:04 แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 04:52:57 แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 04:49:57 จากคุณ : Lowfailer เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 04:45:05

ความคิดเห็นที่ 22 +++ ตอบคำถาม จขกท. การตั้งแถวยิงถูกใช้ในยุโรป ทวีปอเมริกาและออตโตมันครับ ในเอเชียจำได้ว่ามีความพยายามฝึกทหารให้ตั้งแถวยิงในจีน มีการจ้างครูฝึกทหารชาวตะวันตกมาแต่ก็ฝึกได้แค่ไม่กี่หน่วย แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 05:18:56 จากคุณ : Lowfailer เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 05:16:12

ความคิดเห็นที่ 23 ขอขอบคุณ 20+21  อันนี้ผมก็พึ่งรู้  ก็ว่าสงสัยอยู่ทำไม ทาเคดะ คัตซึโยริ  ทำแบบนั้น ผมก็ตามอ่านที่เป็นภาษาไทยนี่ล่ะ  ผมก็ชอบประวัติศาตร์ ขอบคุณมากครับที่ช่วยแก้ไขให้ ส่วน คห.19 วันหลังอย่าเผลอโชว์โง่ล่ะครับ  ผมจะซ้ำให้จมดินเลย จากคุณ : sillfai เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 05:22:34

ความคิดเห็นที่ 24 เข้าเรื่องดีกว่า อิตาลีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ยังจัดทัพแบบเป็นขบวนอยู่เล้ย โดน ปืนกล ออสเตรียสอยเสียหายหนัก สมัยปลอดแอกเมริกาอีก ทัพอังกฤษเดินเป็นขบวนเจอกบฏอเมริกาลอบยิงไปเรื่อยๆ ทหารก็เสียขวัญ จากคุณ : PolitESolunA เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 11:57:08

ความคิดเห็นที่ 25 บางที ถ้าเป็นทัพม้าของทาเคดะชินเง็นผู้พ่อ ทัพปืนของโนบุนากะคงแตกกระจายไปแล้วก็เป็นได้ ขนาดแค่ขุนพลแก่ๆก็มองเห็นช่องว่างของทัพโนบุนากะแล้ว เสียแต่แม่ทัพคือทาเคดะคัตซึโยริผู้ลูกไม่ยอมฟังขิงแก่ เลยจบเห่ จากคุณ : เทาทองวอร์ริเออร์ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 14:37:11

ความคิดเห็นที่ 26 ปืนไฟยุคแรกใช้เวลาบรรจุกระสุนนานมากครับ หนึ่งนาทีอาจจะยิงได้แค่นัดเดียวเท่านั้นเอง ดังนั้นระหว่างที่ปืนไฟบรรจุกระสุนอยู่ก็ต้องมีทหารหอกยาว (pike) คอยป้องกันการชาร์จจากทหารม้าข้าศึก ยุคแรกทหารปืนกับทหารหอกยาวก็ยืนปนๆ กันไปครับ สเปนนั้นจัดกระบวนทัพแบบนี้เรียกว่า Tercio ซึ่งแปลว่าหนึ่งในสาม คือทหารหนึ่งส่วนจะเป็นทหารปืน อีกส่วนจะเป็นทหารหอกยาว และอีกส่วนจะเป็นทหารใช้ดาบ จัดกระบวนเป็นสี่เหลี่ยม เรียงกันเป็นฟันปลา เพื่อให้ทหารปืนของ Tercio หนึ่งสามารถยิงสนับสนุนอีก Tercio หนึ่งได้ สเปนใช้กระบวนทัพนี้สยบยุโรปอยู่ช่วงหนึ่ง ต่อมาพวกดัตช์ก่อกบฏต่อต้านสเปน แม่ทัพคนสำคัญของดัตช์คือมัวริส (Maurice of Nassau) ปรับกระบวนทัพให้แบนลง (คือจากสี่เหลี่ยมเป็นเส้นแทน) ลดทหารหอกยาวเพิ่มทหารปืน เพื่อให้ Tercio สามารถใช้ปืนยิงสกัดข้าศึกได้มากขึ้น และใช้เทคนิค rolling fire ก็คือทหารแถวแรกยิงแล้วก็ไปต่อข้างหลังระหว่างบรรจุกระสุน เหมือนกับที่โนบุนากะใช้ล่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าคิดกันได้เองหรือว่าใครเรียนรู้จากใครนะครับ จากนั้นในสงคราม 30 ปี กุสตาวัส อดอล์ฟัสกษัตริย์ของสวีเดนก็นำการยิงพร้อมกัน (salvo) มาใช้ เพื่อเพิ่มอำนาจการยิงและข่มขวัญข้าศึกด้วย ยิงเปาะแปะกันทีละนัดสองนัดถ้าโดนก็ตายนะครับ แต่ทหารข้าศึกแต่ละคนอาจจะมีความหวังว่าไม่โดนกรูหรอกโดนคนข้างๆ มากกว่า ในทางกลับกันถ้าทั้งแถวยิงพร้อมกันเปรี้ยงเดียวนี่มันน่ากลัวกว่าเยอะ นอกจากนี้การยิงซัลโวยังทำให้ทหารข้าศึกตายพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ทำลายขวัญข้าศึกได้อย่างยอดเยี่ยม คิดดูว่าถ้าเราโดนซัลโวใส่แล้วเพื่อนข้างๆ สี่ห้าคนตายหมดเนี่ย เราจะรู้สึกอยากวิ่งแค่ไหน แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 55 02:15:59 จากคุณ : HotChoc เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 01:42:16

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าสงสัยว่าทำไมไม่หาที่กำบังหรือที่หลบ แล้วยิงสู้กันในแบบปัจจุบัน จริงๆ แล้วสมัยก่อนก็มีทหารปืนที่รบแบบนั้นนะครับ คือพวก skirmisher หรือทหารราบเบาที่ใช้ก่อกวนกระบวนทัพข้าศึก แต่ทหารพวกนี้มีหน้าที่ชะลอการเดินทัพหรือทำให้กระบวนทัพสับสนเท่านั้นเอง ไม่สามารถหยุดยั้งทัพข้าศึกได้ เพราะอัตราการยิงที่ต่ำ (อย่างเก่งก็ 3-4 นัดต่อนาที ไม่เหมือนปืนยุคใหม่ที่ยิงได้สามสิบสี่สิบนัดในครึ่งนาที) ความแม่นยำที่น้อย รวมกันทำให้อำนาจการยิงค่อนข้างต่ำครับ นอกจากนี้การขยายแถวให้ทหารไปหาที่กำบังจะทำให้อำนาจการยิงกระจายตัวออกไปในแนวกว้าง ไม่โฟกัสรวมจุด ถ้าเจอทหารม้าข้าศึกชาร์จเข้าใส่อาจไม่มีอำนาจการยิงเพียงพอที่จะหยุดการชาร์จได้ จากคุณ : HotChoc เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 01:51:47

ความคิดเห็นที่ 28 การตั้งแถวยิงใช้เรื่อยมาจนถึงยุคนโปเลียนครับ หลังจากนั้นประมาณ 70 ปีถึงมีสงครามกลางเมืองอเมริกา ซึ่งก็ยังใช้การตั้งแถวยิงอยู่ในช่วงแรก คือแทคติกแบบเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือปืน ปืนยุคนั้นคว้านเกลียวแล้วทำให้ยิงแม่นขึ้นมาก ปืนยุคนโปเลียนจะแม่นที่ 50-70 เมตร ในขณะที่ปืนยุคสงครามกลางเมืองนั้นแม่นที่ 200-400 เมตรเลยครับ นอกจากนี้ยังมีปืนแบบบรรจุกระสุนทางท้าย หรือบรรจุเป็นแมกกาซีนใช้บ้างแล้ว ทำให้อัตราการยิงสูงขึ้นมากด้วย ปืนที่ดีขึ้นประกอบกับแทคติกตั้งแถวยิงแบบเก่า ทำให้สงครามกลางเมืองของอเมริกามีการสูญเสียทหารมากที่สุดรองจากสงครามโลกครั้งที่สองเลยครับ (และเนื่องจากต้องนับเบิ้ลด้วย) ถ้าเทียบเปอร์เซ็นต์การสูญเสียต่อประชากรนั้นก็เป็นที่หนึ่งของประวัติศาสตร์อเมริกาเลยเพราะจำนวนทหารที่ตายนับเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดตอนนั้น (สงครามโลกครั้งที่สองทหารตายคิดเป็น 0.3% ของประชากรตอนนั้น) จากคุณ : HotChoc เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 02:10:40

ความคิดเห็นที่ 29 ขอดีของปืนคือใช้เวลาฝึกน้อยกว่าดาบ ฝึกไม่นานก็รบได้ แต่ดาบต้องฝึกกันหลายปีกว่าจะไปรบได้ จากคุณ : เด็กขงเบ้ง เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 12:38:37

ความคิดเห็นที่ 30 หนังยาว แนะนำ Gods and Generals   หาดูยาก แต่ตั้งแถวยิงกันมัน  นักแสดงเยอะมาก  เป็นประวัติของนายพลคนนึงของสงครามกลางเมืองอเมริกา  Thomas "Stonewall" Jackson   แต่เนื่องจากมันยาวเกิน หนังเลยเจ๊ง  ถ้าไม่ใช่คอประวัติศาสตร์จริงดูแล้วหลับได้   Glory  สงครามกลางเมืองอเมริกา ที่เริ่มมีฝึกทหารผิวดำรบให้ฝ่ายเหนือ    The Patriot  อเมริกา vs อังกฤษ  สงครามประกาศอิสรภาพของอเมริกา เรื่องนี้หาง่าย   พระเอก รบกองโจร โดยไม่ไปตั้งแถวยิงกับเขา ใช้ยิงแล้วหนี   The Alamo (2004) มีหลายเวอร์ชั่น เคยดูแต่2004  เม็กซิโก  vs เท็กซัส  เรื่องของบางระจันของเท็กซัส ป้อมเดียวยันกองทัพของเม็กซิโกไว้  ซื้อเวลา ให้กองทัพใหญ่ จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 16:10:14