ความคิดเห็นที่ 1 ผมเห็นมีแต่ intel ที่ต้องลงมาแข่งในตลาดมือถือกับเค้ามั่ง จากคุณ : erkDaZe เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 10:58:07

ความคิดเห็นที่ 2 คงไม่มีทางไปแข่งกับ intel ,amd ได้หลอกครับ สองเจ้านี้เขาพัฒนาจนไปไกลมากแล้ว รอแต่ว่าเมื่อใหลจะบุกตลาดมือถือกับแท็บเลดเท่านั้นเอง จากคุณ : Achaki Oddy เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 11:01:04

ความคิดเห็นที่ 3 ตอบแบบ งูๆ ปลาๆ จากที่เคยอ่านๆ มา (บวกกับการเดาเอาเองนิดหน่อย) CPU กับ GPU ต่างกันตรงไหน ทำไม GPU ถึงวาดภาพ 3D ได้รวดเร็วกว่า CPU งั้นถ้าเอา GPU มาทำเป็น CPU จะเร็วกว่าหรือไม่ ได้คำตอบประมาณว่า GPU วาดภาพได้เร็ว ทั้งที่ความถี่ต่ำกว่า CPU เพราะ GPU มี Core อยู่ภายในเยอะกว่า (เคยอ่านมาบางรุ่นมี 320 Core) แต่ GPU จะเหมาะกับการรับคำสั่งเดียว แล้วให้ Core ทุกตัวช่วยกันทำแบบเดียวกัน (แบ่งจอออกให้แต่ละ Core วาดแต่ละส่วน) ในขณะที่ CPU ที่มีแค่ 4 Core แต่ละ Core จะทำงานแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง (เหมาะกับการทำงาน Multitread) GPU ที่มี Core เยอะกว่า เลยไม่สามารถใช้งานแทน CPU ได้ CPU x86 x64 แตกต่างกับ CPU ของมือถือยังไงบ้าง ที่พอรู้มาคือ จะคล้ายกัน (เคยเห็น PC ลง Android กับพวก Tab ลง Windows ด้วย) แต่ CPU ของ PC จะเร็วกว่ามาก แม้ความถี่หรือมี Core เท่ากัน เพราะ CPU PC มี Cache เยอะกว่า และมีหลายระดับ L1 L2 L3 (เนื่องจากว่า CPU จะทำงานโดยการอ่านคำสั่งจากหน่วยความจำ ดังนั้นหน่วยความจำจะต้องมีความรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นก็จะช้าตามหน่วยความจำ) หน่วยความจำที่เร็วที่สุดคือ Register ที่อยู่ใน CPU โดยจะมีความเร็วเท่ากับความถี่ที่ระบุ (1.80 3.00 3.30Ghz) รองลงมาคือ Cache L1 ที่อยู่ติดกับ Core (เป็นหน่วยความจำที่ใช้แยกกันสำหรับแต่ละ Core) ถัดมาเป็น L2 ที่อยู่นอกออกมาอีกระดับ ที่ Core แต่ละตัวแชร์กันใช้ (บางรุ่นมี L3 ด้วย) (RAM จะเรียกใช้ผ่าน BUS มีความเร็วต่ำกว่า Cache หลายเท่า ถ้า CPU ไม่มี Cache แล้วเรียกใช้ RAM อย่างเดียวจะช้าเป็นคอขวด) หน่วยความจำที่เอามาทำ Cache เป็น SRAM มีความร้อนสูง และทำให้กินไฟเยอะ CPU มือถือ จำเป็นต้องลดพวกนี้ลง การทำงานเลยช้ากว่า CPU PC แม้จะมีความถี่และ Core เท่ากัน ปล. รอผู้รู้จริงมาแก้ แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 11:29:34 แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 11:18:58 จากคุณ : ปลาๆงูๆ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 11:18:36

ความคิดเห็นที่ 4 หัวใจหลักของการทำงาน CPU คือการติดต่อกับหน่วยความจำ แต่หน่วยความจำที่รวดเร็วจะยิ่งมีขนาดเล็ก จากคุณ : ปลาๆงูๆ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 11:20:11

ความคิดเห็นที่ 5 พออ่านหัวกระทู้ของ จขกท. อีกครั้ง ฮ่าฮ่าฮ่า ผมตอบนอกเรื่อง ขอโทษครับ จากคุณ : ปลาๆงูๆ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 11:32:51

ความคิดเห็นที่ 6 ไปกันคนละแนวตั้งแต่แรก x86 มากับคอนเซป กินไฟไม่ว่า แต่ขอให้แรง ARM กับ MIPS ในมือถือ แท๊บเล๊ต คอนเซปตรงกันข้าม กินไฟเรื่องใหญ่ ความเร็วเรื่องเล็ก ดังนั้น สิ่งที่ต่างกันเห็นชัดๆคือ จำนวนทรานซิสเตอร์ใน วงจร cpu ของค่าย arm จะน้อยกว่า intel อยู่ 3-4 เท่า ใน cpu ที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วน GPU มันเป็นหน่วยประมวลผลแบบตายตัว เพราะคำสั่งทางกราฟฟิค มันเริ่มจากร่วมกันกำหนดเป็นมาตรฐานขึ้นมาก่อน แล้วผู้สร้างชิพ ก็ออกแบบให้มีการคำนวณตามรูปแบบคำสั่งนั้นๆ เช่นการ + - X / แบบแมทริกซ์ ซึ่งใช้บ่อยในการคำนวณกราฟฟิค ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนทำ GPU ว่าจะเอาไปทำทีละกี่หน่วย ก็ขนานหน่วนคำนวณมันเข้าไป เรียกง่ายๆว่าจำนวนบิท แล้วก็จะเน้นความเร็วตรงไหน 2D หรือ 3D ยังมีเรื่องปลีกย่อย การออกแบบ เพื่อให้รับคำสั่งถอดรหัสหนังได้แบบข้ามขั้นไวปรี๊ดๆ พูดรวมๆคือ มันเป็นพัฒนาการเฉพาะทางที่มากขี้นมาจากเดิมที่เป็นแค่ชิพ DSP อเนกประสงค์ จากคุณ : อิิๆ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 12:05:27 A:58.9.53.167 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องเข้าใจก่อนว่า การประมวลผลทางกราฟิกนั้น ส่วนใหญ่เป็นการทำงานซ้ำๆกัน อาทิ การระบายสีหน้าจอ ก็คือการเอาค่าค่าหนึ่ง ใส่ในหน่วยความจำทุกช่องให้เต็ม หรือการวาดเส้นตรงหนึ่งเส้น คือการวาดจุดหนึ่งจุด ซ้ำๆกันหลายร้อยหลายพันครั้ง เป็นต้น ซึ่งงานลักษณะนี้ มันแบ่งกันทำได้ และสามารถเริ่มทำได้พร้อมกันๆ เสร็จพร้อมๆกัน GPU ถูกออกแบบมาเพื่องานลักษณะนี้โดยเฉพาะ มันจึงทำงานซ้ำๆแบบนี้ได้เร็ว จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 12:23:48

ความคิดเห็นที่ 8 ยืนยันตาม #6 ครับ CPU ตระกูล x86 ออกแบบมาใช้กับ Desktop เพื่อใช้เป็น personal computer ซึ่งมีพลังงานแทบไม่จำกัด ดังนั้นผู้ผลิต Desktop CPU ทั้งหลายนจึงพยายามรีดเร็วออกมาให้มากที่สุด เรียกกันว่า high performance chips โดยแทบไม่ได้คำนึงถึงเรื่องพลังงาน (จนช่วงปี 2000) แต่ CPU ของ ARM กลับออกแบบมาเพื่อประหยัดพลังงาน เรียกกันว่า low power chips ซึ่งตอนที่ ARM เปิดตัวครั้งแรก คนยังมองไม่เห็นว่าเราจะเอา CPU ที่ประหยัดพลังงานไปทำไม เพราะสมัยนั้นคำว่า mobile computer ยังไม่มีเลยครับ ในส่วนเรื่อง Fabrication ก็เช่นเดียวกัน Desktop CPU ก็จะ optimize โครงสร้างของ transistor และวงจร เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุด โดยไม่ให้ใช้ พลังงานมากเกินไป แต่ low power chips จะปรับโครงสร้างของ transistor เพื่อให้ใช้พลังงานน้อยที่สุดครับ แต่ถ้าคุณถามถึงเครื่องจักรที่ใช้ fabrication ก็ใช้เครื่องเดียวกันได้ครับ จากคุณ : ped cad เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 12:30:30

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่า intel amd จะโดนแซงทางโค้ง ก็mobile computing แบบพวกมือถือ ipadนี่แหละ เหมือนเมนเฟรม โดนมินิแซง มินิ โดนไมโครแซง ไมโคร โดนโมบายแซงแน่นอน จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 12:46:24

ความคิดเห็นที่ 10 intel ลงมาตลาด mobile แล้วนะครับ atom งัย แต่มันยังกินไฟมากกว่าตระกูล ARM อยู่ดี อีกอย่าง ผลพวงจาก embedded linux และ android ซึ่งการพัฒนาส่วนใหญ่เริ่มมาจาก ARM ทำให้นักพัฒนายิดอยู่กับ platform นี้ครับ จากคุณ : debud เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 13:00:48

ความคิดเห็นที่ 11 Performance per Clock ฝั่ง x86 กินขาด Power Consumption per Clock ฝั่ง ARM ก็ชนะขาดเหมือนกัน ตอนนี้ฝั่ง x86 พยายามออกรุ่นประหยัดไฟลงมาแข่งกับ ARM ส่วน ARM ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะขยับขึ้นไปชนในตลาด Desktop จากคุณ : TohKung121 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 13:18:49

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้า arm ไม่ขึ้นไปเล่นตลาดแรงๆบ้างระวังจะเป็บแบบ crusoe สมัยนึงโน้ตบุ๊ค fujitsu รุ่นแพงๆเล็กจะใช้ตัวนี้เป็นหลักเพราะมันกินไฟน้อย จนกระทั่ง intel ลงมาเล่นตลาดนี้เต็มตัว ออกตัว LV ท้ายสุด intel ครองตลาด กินรวบ ดังนั้นถ้า ARM ยังทนงตนก็ระวังตัวให้ดี ทางเลือกมีสองทาง ทางนึง ทำตัวเองให้ล้ำ intel ให้ตลอด สอง ไปเล่นของแรงให้ intel เสียวสันหลังบ้าง ลองนึกดูสิถ้า ARM ทำ CPU ให้ notebook ได้แรงพอๆกับ intel แต่กินไฟน้อยกว่า ราคาถูกกว่า intel ก็ intel เหอะหนาวแน่ แต่จะได้หรือเปล่านี่สิ 555 เอ๊ะ เดียวก่อน จำได้ว่าสมัยก่อนนี่ intel ก็เคยทำ CPU ให้พวก pocket PC หรือ PDA phone นี่น่า ถ้าจำไม่ผิดมันชื่อ xscale อ้อ เจอแล้ว intel ทำก็จริงแต่เป็นสถาปัตยกรรม ARM จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 13:36:44

ความคิดเห็นที่ 13 ลองดูความสามารถทาง สถาปัตยกรรมของ ARM และ ความสามารถทางprogramming ต่อไปครับ ตอนนี้งาน presentation บน desktop ลงมาอยู่บน tablet แล้วครับ รวมถึงงาน art  ก็ลงมาอยู่ tablet แล้วดีซะด้วย งาน desktop หรือ laptop อาจจะเหลือแค่ high performance process หรือเผลอๆ desktop  จะกลายเป็น server ให้ tablet ไปซะ remote process ซะเลย http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T12726498/T12726498.html http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T12762634/T12762634.html http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T12798645/T12798645.html ผมว่าน่าสนุกครับ จุดเปลี่ยนเทคโนโลยี ขนาด microsoft ที่ครองตลาด desktop windows ยังต้องหันมาผลิต windows สำหรับ arm เลย แพ้ชนะจะวัดกันใน 5 ปีนี้แหล่ะ จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 14:27:00

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ WindMaster สำหรับ ตัว table ออกแบบมาสำหรับเป็น PC เครื่องที่ 2 อยู่แล้ว (มาแทน notebook) ตัว PC มีขอดี ตรงการ ประมวลผล ขนาดใหญ่ๆ เกมขนาดใหญ่ๆ ภาพกราฟฟิก ที่สวยงาน 3 D ซึ่งข้อดี มี ขอเสียที่ ตรงแดก พลังงาน มาก โดยเฉลีย เกม 3 D เกม หนึ่ง ตกชมละ 300 W (นี้อย่างน้อย นะ )ถ้าภาพสวยมาก ตก 500 W เลย ถ้าพวกออกแบบ นี้ไม่ต้องพูดเลย ระดับ 1000W นี้เป็น มาตราฐานเลย ถ้ายิ่งตัดต่อ ก็ 500 W ขึ้นไป ง่ายที่สุด แค่ word  ยังใช้ไฟ 70-100 W เลย รู้หรือปล่าวว่า PCI Express สำหรับ VGA สามารถจ่ายไฟได้  75 W  เลย ถ้าตัวไหน มี ต่อไฟเพื่ม สำหรับ 6 pin รับไฟได้ 75 W หมายความว่า VGA ตัวนั้นกินไฟ สูงสุด 150W และ 8 PIN รับไฟได้ 150 W สำหรับตัว table พลังงานที่ใช้ ต่อ ชม ต้องไม่เกิน 10 W (บางตัวอาจจะได้ถึง15W แต่แลกกับแบตตารีหมดไว ซึ่งคนที่ใช้table ไม่ต้องการอยู่แล้ว ถ้าโทรศัพท์หรือtable อยู่ได้แค่ 3-4 ชม )   ดังนั้น ตัว table จะมาแทน PC เป็นไปไม่ได้เลย  ถ้าจะมาแทน PC ต้องมีพลังงาน ขนาด 5000W เป็นอย่างน้อย พูดง่ายๆ ไฟเท่าแบตตารี่ รถยนต์(กะบะ) นั้นละ แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 17:41:51 แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 16:51:33 จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 16:47:19

ความคิดเห็นที่ 15 แต่ผมเคยได้ยินเรื่อง power consumption กลายเป็น performance ได้ จากการต่อ Architecture ที่มี power ต่ำๆหลายตัวเป็น multicore ไม่รู้จะทำให้ Tablet CPU มาแข่งกับ x86 ได้ไม้? จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 16:51:32

ความคิดเห็นที่ 16 #15 Power Consumption ต่ำๆหลายตัวต่อ Grid กันสุดท้ายก็กลายเป็นกินพลังงานสูงครับ แล้วประสิทธิภาพที่ได้มามีเงื่อนไขค่อนข้างเยอะครับ เช่น OS + Application ต้องรองรับการประมวลผลแบบ Parallel (อย่าสับสนกับ Multi-Tasking นะครับ คนละอย่างกัน) และต้องเป็นงานที่แบ่งออกเป็นงานย่อยได้ด้วยครับเช่น render 3D แบ่งกัน render คนละพื้นที่ ถ้าเป็นงาน Sequential ที่ต้องรอผลลัพธ์เป็นขั้นตอนยาวๆ x86 ที่ Performance per Clock สูงจะได้เปรียบมากครับ เพราะ ARM ที่ต่อ Grid จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ (เกิดการรองาน ตัวที่รอก็ idle ไป) แล้วก็ตอนนี้ยังไม่มีตัวเปรียบเทียบที่ชัดเจนว่า ARM ระดับท๊อปอย่าง S4, Tegra 3 เมื่อเทียบกับ x86 แล้วประสิทธิภาพต่างกันขนาดไหน ถ้ามีตัว Benchmark ที่เชื่อถือได้ออกมาเราคงจะเห็นภาพชัดเจนกันมากขึ้นครับ จากคุณ : TohKung121 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 17:50:37

ความคิดเห็นที่ 17 พิมพ์ไปพิมพ์มานึกถึงบทความหนึ่งที่เคยอ่าน แต่หาต้นขั้วไม่เจอแล้ว เป็นเรื่อง Diminishing Return to Scale ของ CPU แบบ Multi-Core ว่าในงานระดับ Consumer นั้นประสิทธิภาพรวมของ CPU แบบ Multi-Core จะสูงสุดที่ราวๆ 4-8 Core ซึ่งเมื่อเกินจากนั้นไป ประสิทธิภาพที่ได้จะไม่กระโดดสูงเท่า 1 --> 2 --> 4 --> 8 แล้ว ส่วนงานใหญ่แบบ Render Farm นั้นต้องใช้ OS ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ เช่น Linux/Unix บาง Distro ที่ถูกทำออกมาเพื่อรองรับ Grid Computing โดยเฉพาะ ไม่งั้นแล้วต่อให้มี 100 Core ก็ทำงานได้เร็วกว่า 4 Core แค่ไม่กี่เท่า ทั้งๆที่ Core มากกว่ากัน 25 เท่าครับ จะเห็นได้ว่าฝั่ง x86 ก็เริ่มถึงทางตันของ Multi-Core แล้วเช่นกัน ปัจจุบันไปมุ่งเน้นที่การเพิ่ม instruction set ที่ใช้งานเฉพาะทางมากขึ้น และลดขนาด Die เพื่อลดความร้อน และเพิ่มจำนวน Transistor แทนเพื่อดัน Clock ให้สูงขึ้นกว่า Multi-Core ยุคแรกๆแทน แล้วพอถึงกำแพงที่ 4.0 Ghz. อีกรอบเมื่อไร เราคงได้เห็นอนาคตโลก CPU ครับว่าจะเดินต่อไปทางไหน จากที่เมื่อก่อน Single Core ตันที่กำแพงความเร็ว ก็หันมาลงที่ 64 Bits + Multi Core กัน จากคุณ : TohKung121 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 17:57:10

ความคิดเห็นที่ 18 intel ลงมาตลาด mobile แล้วนะครับ atom งัย แต่มันยังกินไฟมากกว่าตระกูล ARM อยู่ดี สำหรับ ATOM นี้สำหรับ NETBook นะครับ ไม่ใช่ table ตัว ATOM ตระกูล N นี้ 8-9 W  สำหรับรุ่นใหม่ ตระกูล Z 3 W (1core) จากการกินไฟ ต่างกัน 1 เท่า แต่มี ข้อดี ที่ไว กว่า Cortex-A8(ที่เอามาทำiphone 4-5 samsung S3)  กินไฟ 0.4W(1core)1.9(4core) W แต่ นั้น แต่ ข้อเสียสู้ ATOM คื่อความไว จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 18:11:17

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วพอถึงกำแพงที่ 4.0 Ghz. อีกรอบเมื่อไร เราคงได้เห็นอนาคตโลก CPU ครับว่าจะเดินต่อไปทางไหน จากที่เมื่อก่อน Single Core ตันที่กำแพงความเร็ว ทางintel ได้สูงสุดที่ 10 GHz นะ ครับ แต่ ใน1 แผ่น เวเฟอร์ จะได้ ไม่ถึง 10 ตัว บางแผ่นได้ 1-2 ตัวด้วย แต่ มีปัญหาที่แก้ไม่ตก คือความร้อน ที่เขาตัน ที่ 4 GHz ที่สามารถใช้งานที่อุณหภูมิห้องได้ เขาเลยตันที่ เท่านี้ ก็หันมาลงที่ 64 Bits มีการเริ่มมาตั้งแต่ Intel i860 RISC  ในปี 1989 แล้ว สำหรับเครื่อง PC เริ่มต้นเมือ Pentium Pro หรือที่เราใช้กัน Pentium II (ก็คือPentium Pro+MMXนั้นละ) และ พัฒนามาเรื่อยๆ จนกระทั้ง ถึงปัจจุบัน + Multi Core กัน จริงๆ มันใช้ Multi Core ได้มาตั้งแต่ windows 2000 แล้วว ที่ต้องใช้ Multi Core เนื่องจาก กำแพงเรื่องความไว กับ software ตั้งแต่ windows XP ใช้เป็นแบบ 64 BIT กันหมดแล้ว แต่ การประมวลผลเป็นแบบ 32 Bit อยู่ เลยใช้ วิธี ;bj' 32 bit คู่ ยกเว้น windows server ต่อมา windows 7 ได้ วิ่ง 64 bit จริง จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 18:35:06

ความคิดเห็นที่ 20 ผมยังมองว่ายังไม่ลงมาเปิดศึกกันเท่าไหร่ครับเล่นตลาดเดิมของตัวเองมากกว่า และทางผู้ผลิต CPU มือถือแทปเลทก้ไม่จำเป็นต้องผลิตเพื่อไปสู้กับ Intel หรือ AMD เพราะ 2 ค่ายนี้ก็สู้กันแรงอยู่แล้ว ------------------------------------------------------------ ในอนาคตน่าจะผลิตNB CPU 1 / 1.5 / 2.0 Ghz ที่รองรับแอนดรอยโน๊ตบุ๊คมากกว่า ผมเห็นแล้ว 2-3 ตัวถ้าทำตลาดซักหน่อยน่าจะดึงลูกค้า ที่อยากเล่นเกมส์แอนดรอย แชท ออนไลน์ พิมพ์งานที่ไม่ต้องการสเปคที่แรงมากแต่เล่นได้นานเป็น10ชั่วโมง มากกว่าและผมว่ามูลค่าทางการตลาดน่าจะสูงกว่าไปเล่นตลาดนั้นโดยตรงนะครับ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 18:50:18

ความคิดเห็นที่ 21 เข้าใจถูกแล้ว ... ผู้ผลิต CPU เลยต้องมาลงแข่งกับ GPU ใช่เลย มันเกิดมาเมื่อสองสามปีที่แล้ว คือพวก Intel 3000-4000 Graphic แต่ผมคุ้นว่ามี การพยายามเอา Architect ของ gpu มาใส่ แต่ก็แถๆ ไปเรือ่งการเพิ่มจำนวน Core เอา ตอนจบเลยทำให้ Intel เลี่ยงๆไปได้ (ตอนนั้นมีมวยกับ nVidia เลยหละ ... nVidia เลยสู้ด้วย Ion) ส่วนเรื่องโครงสร้าง ... GPU Vs CPU หลักๆ คือเรื่องการประมวลผลคำสั่งแบบ Parallel ที่ GPU จะไม่สามารถ(ในยุคแรก) ในการประมวลคำสั่งเช่น If หรือ Conditional Statement แตกต่างกับ CPU ส่วน CPU จะต้องสามารถคิอคำสั่งที่มี Conditional ได้เป้นสำคัญ ซึ่งเพื่อเพิ่มตรงนี้ Intel เลยออก Prediction core ออกมา ส่วนรูปแบบ ALU ก็ต่างกัน ของ GPU จะเป้นแนวที่จำทุกอย่างเป็น Matrix 4*4หมด เพราะในการวาดภาพใช้เยอะที่สุด แต่ CPU นะไม่เน้นตรงนี้ เพราะมีไปก็ไม่มีประโยชน์ ในรายละเอียด ALU คือ GPU จะมีการประมวลผลที่ ยอมให้มี Error มากกว่า คือเป้น Float แบบ Low precision (โดยเฉพาะคำสั่งพวก หาร) เพราะในการวาดกราฟิกไม่ค่อนได้ใช้และ มีวิธีอื่นที่ใช้เลี่ยงได้เช่นกัน (คือคิดไม่ต้องแม่นภาพก็สวยได้) แต่ CPU จะเน้นความแม่นยำที่มากกว่า ยังมีอีกหลายเรื่อง แต่นึกออกตอนนี้เท่านี้ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 19:57:18 A:124.120.66.160 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 22 -CPUแบบ x86 ของ Desktop กับ CPU ของมือถือ ต่างกันอย่างไรบ้างครับ ในเชิงการออกแบบ และการFabrication? ตอบ x86 มีความซับซ้อนกว่า มีผู้ผลิตหลักสองเจ้าคืออินเทลกับเอเอ็มดี ลงทุนทำโรงงานผลิตของตัวเอง ในขณะที่ CPU ของมือถือซึ่งมักจะเป็น arm นั้น เป็นชิบที่เน้นความไม่ซับซ้อนและใช้พลังงานต่ำ ขายไลเซนส์ให้โรงงานต่างๆเอาไปผลิตขาย รวมทั้งขายสิทธิการใช้งานทรัพสินทางปัญญาให้ผู้ผลิตหลายเจ้าเอาไปออกแบบและผลิตเองตามใจชอบ -GPU ต่างกันอย่างไรบ้างครับ ในเชิงการออกแบบ และการFabrication? ตอบ GPU เน้นทำงานเฉพาะด้านการทำกราฟฟิคภาพสามมิติ การออกแบบมีลักษณะเน้นที่กำลังการประมวลผลสูงโดยลดความยืดหยุ่นในการใช้งานลง ครั้งหนึ่ง (ทศวรรษ 90)ชิปตระกูล x86 กับ ชิปตระกูล risc ทำสงครามการตลาดกันอย่างหนัก เพราะว่าตลาดของเวิร์กสเตชั่นกับตลาดPC กำลังจะเป็นตลาดเดียวกัน ผลสุดท้าย x86 ชนะขาดทำให้ risc แทบหายไปจากตลาด แต่กลับมีชิปตระกูล risc ตัวหนึ่งคือ arm ที่เน้นตลาดชิปประหยัดพลังงาน สามารถอยู่รอดได้และยึดตลาดสมาร์ทโฟนไปเกือบหมด โดยที่อินเทลเป็นฝ่ายถอนตัวออกไปเอง สาเหตุเพราะอัตราผลตอบแทนต่ำ แต่ arm อยู่ได้ เพราะไม่ได้ผลิตชิปเองแต่ขายสิทธิให้ใครก็ได้ที่ต้องการเอาไปผลิตเอง แค่จ่ายค่าไลเซนส์ให้ arm แต่ว่าตอนนี้ตลาดสมาร์ทโฟนกำลังขยายตัวอย่างมหาศาลในขณะที่ตลาดพีซีค่อนข้างอิ่มตัว ทำให้อินเทลสนใจจะกลับมาในตลาดนี้ ฝ่าย arm เองก็คิดจะบุกเข้าไปในตลาดที่ x86 ยึดครองอยู่เหมือนกัน เริ่มจากแทปเล็ตซึ่งตอนนี้เป็น arm ไปเยอะ และเซิร์ฟเวอร์ที่ประหยัดพลังงาน (บริษัทที่ใช้เซิร์ฟเป็นจำนวนมากๆอย่างกูเกิ้ลหรือเฟซบุ๊ค จะสนใจเรื่องประหยัดพลังงาน เพราะการที่มีเซิร์ฟเวอร์มากๆนั้นใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมหาศาล รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการระบายความร้อนด้วย) ด้านตลาด GPU นั้นเดิมมีตัวหลักอยู่สองเจ้าคือ amd และ nvidia แต่พอขายดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะตลาดเกมส์หันมาเน้นกราฟิคสามมิติคุณภาพสูง (นักเล่นเกมส์จำนวนมาก ยอมจ่ายเงินมากๆเพื่อให้ได้เล่นเกมส์ที่ภาพสวยๆ) อินเทลก็โดดลงมาทำด้วย แต่อินเทลมาในแนวขายเหล้าพ่วงเบียร์ โดยขาย GPU รวมไปกับ CPU ผลทำให้ amd จำเป็นต้องตอบโต้ด้วยการออกชิปรุ่นที่มี CPU+GPU ในชุดเดียว เพื่อมาสู้กับอินเทล แต่ nvidia นั้นไม่มีCPU เป็นของตัวเอง nvidia จึงไปเอาชิป arm มารวมกับ GPU ของตัวเองเพื่อออกมาสู้กับทั้งเอเอ็มดีและอินเทล ศึกใหญ่เริ่มขึ้นละ ต้องจับตาดูว่างานนี้ใครจะหมู่หรือจ่า จากคุณ : ตอบโจทย์ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 20:26:38 A:124.120.251.156 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 23 #22 ตอบได้โดน มากๆ หนุกดีๆ จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 21:08:34

ความคิดเห็นที่ 24 PII มี 64 Bits ??? ผมอ่านผิดรึเปล่าครับ จากคุณ : TohKung121 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 22:46:11

ความคิดเห็นที่ 25 14 กับ 22 ทำให้นึกถึงว่าการแข่งขันระหว่าง X86 กับ ARM น่าจะเริ่มกันที่ตลาดแท็บเลต จากคุณ : Achaki Oddy เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 00:49:53

ความคิดเห็นที่ 26 19 แม้แต่ดูอัลคอร์รุ่นแรกๆของอินเทลยัง 64 บิตปลอมเลยไม่ใช่หรือครับ(32 บิต2ตัว) จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 05:19:46

ความคิดเห็นที่ 27 "ผลสุดท้าย x86 ชนะขาดทำให้ risc แทบหายไปจากตลาด" เอ่อ... CPU ในโลกปัจจุบันนั้นเหลือแค่ x86 ที่เป็น CISC นะครับ CPU ตัวอื่นๆ เป็น RISC ทั้งหมด ถ้าคุณนับแค่ตลาด PC ก็ถูกที่ว่ามีแต่ CISC (x86) แต่อุปกรณ์ตัวอื่นตั้งแต่ server โทรศัพท์มือถือ router เครื่องเล่นเกมส์ ipod ทั้งหลายเนี่ยเป็น RISC หมด ที่ RISC ไม่สามารถตีตลาด PC ได้ก็เพราะ backward compatibility ครับ เครื่อง PC แต่ก่อนใช้ x86 อยู่แล้ว จะนำ CPU ที่ architecture ใหม่หมดมาใช้มันยุ่งยากมากเพราะโปรแกรมต่างๆ ต้อง compile ใหม่หมดและอาจมีประสิทธิภาพที่ไม่ดี (โปรแกรมถูก optimize สำหรับ x86) ปัจจุบันแม้แต่ Intel เองก็ยังใช้แนวคิดแบบ RISC กับสถาปัตยกรรม x86 เลยครับ เมื่อคำสั่ง x86 ถูก issue ออกมานั้นจะถูกแบ่งออกเป็นคำสั่งย่อยที่ประมวลได้ง่าย ทาง Intel เรียกว่า micro-operation พูดง่ายๆ ก็คือ x86 นั้นภายนอกเป็น CISC แต่มาแตกคำสั่งภายในเป็น RISC อีกที เพราะว่าได้มีการวิจัยแล้วว่า ชุดคำสั่งประเภท RISC นั้นสามารถใช้ประโยชน์จาก Instruction-level Parallelism ได้ดีกว่า CISC มาก จากคุณ : HotChoc เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 13:17:42

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องพลังงาน ลอกโน้ตบุ๊คครับ ใช้หนัก ต่อสายเอา จากคุณ : ฟฟ7 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 13:30:13 A:110.171.72.193 X: TicketID:375732

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคำถามจขกท. CPU x86 กับ CPU มือถือตระกูล ARM มีแนวคิดที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงนะครับ x86 เป็น CISC คำสั่งหนึ่งจะซับซ้อนทำหลายอย่างในคำสั่งเดียว มีคำสั่งเฉพาะกิจเยอะ กว่าจะเริ่มทำคำสั่งนึงได้ต้องใช้เวลาวิเคราะห์พอสมควรว่านี่เป็นคำสั่งอะไรใช้ออปชั่นอะไร ส่วน ARM เป็น RISC ซึ่งเป็นคำสั่งง่ายๆ จะทำงานอะไรต้องใช้หลายคำสั่งประกอบกัน คำสั่งเป็นคำสั่งพื้นฐาน ไม่ค่อยมีคำสั่งพิเศษ คำสั่งวนลูปบางทียังไม่มีเลย ใช้ conditional ทดแทนไป ส่วนการออกแบบ CPU นั้น x86 จะใช้เทคนิคซับซ้อนในการให้คำสั่งทำงานแบบคู่ขนาน มีทั้งไปป์ไลน์ ทั้ง reservation station เพื่อให้คำสั่งที่มาทีหลังสามารถเริ่มทำงานก่อนคำสั่งแรกได้ ในกรณีที่คำสั่งแรกติดขัด (เช่นข้อมูลยังไม่พร้อม หรือประมวลผลนาน) เป็นการทำงานแบบ out-of-order execution ในขณะที่ CPU ARM นั้นเน้นประหยัดพลังงาน โดยมากมักจะทำแค่ pipeline ซึ่งทำงานสองคำสั่งคู่ขนานกันไป แต่คำสั่งที่มาทีหลังแซงคำสั่งก่อนหน้าไม่ได้ เป็น in-order execution ครับ (แต่ผมไม่แน่ใจ ARM รุ่นใหม่ๆ นะครับว่าทำ out-of-order exe แล้วหรือยัง) ส่วน GPU นั้นเป็น manycore architecture คือมีคอร์เล็กๆ เต็มไปหมด แต่ทำงานได้จำกัดเฉพาะอย่าง เหมาะกับงานที่ข้อมูลเป็นข้อมูลคู่ขนานอยู่แล้ว และการประมวลผลข้อมูลเหมือนๆ กัน รูปภาพหรือวิดิโอเป็นตัวอย่างของข้อมูลลักษณะนี้ จากคุณ : HotChoc เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 13:32:29

ความคิดเห็นที่ 30 CISC vs RISC จากคุณ : ecorevo เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 15:01:48

ความคิดเห็นที่ 31 คห. 26 CPU 32 bit x 2 ตัว มันไม่ได้เท่ากับ 64 bit  นะครับ เข้าใจผิดแล้วครับ ที่ท่านสับสนน่าจะเป็น x86-64 กับ IA-64 (ใน Intel Itanium) มากกว่าครับ ทั้งคู่แม้จะคำนวนแบบ 64 bit ได้เหมือนกัน แต่ใช้คำสั่ง (Instruction Set) คนละแบบเลยครับ จะเห็นได้ว่ามี Windows Server สำหรับ Itanium เลย แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่าไรนัก แต่ทั้งคู่ก็คำนวน 1 cycle clock ได้ 64 bit เหมือนกันครับ จากคุณ : liddo-kun เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 16:05:05