ความคิดเห็นที่ 1 รอยอะไรเอ่ย ๑. จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 09:05:06

ความคิดเห็นที่ 2 ๒. จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 09:06:50

ความคิดเห็นที่ 3 ๓. จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 09:10:40

ความคิดเห็นที่ 4 ๔. จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 09:13:37

ความคิดเห็นที่ 5 คุณเพ็ญชมพู ไม่อยากบอกเลยว่า ผมว่าผมทายถูกได้ทั้งสามรูปนะ (เป็นรอยสัตว์ทั้งสามรูปเลย) ฮะฮะ รอคนต่อไปมาตอบดีกว่า :-) แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 55 10:00:23 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 09:28:12

ความคิดเห็นที่ 6 รอยจากดอกยางล้อรถอะครับ พวกจักรยานไรเงี้ย จากคุณ : aditus เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 09:46:56

ความคิดเห็นที่ 7 มาตอบให้ก็ได้ว่า  นี่เป็นตัวอย่างแห่งความขัดแย้งทางความเชื่อ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ความขัดแย้งทางความเชื่อ ทำให้คนยกทัพฆ่ากันตายมามากมายในประวัติศาสตรโลก ผู้รู้จริงเช่นพระศาสดาของศาสนาหลายท่านจึงใช้วิธีบริหารความขัดแย้งไม่ให้ลุกลามใหญ่โต อย่างเช่นในกรณีนี้ศาสนาพุทธสอนให้วางเฉย หรือในบางกรณีย์ก็สอนให้อยู่ในทางสายกลาง จะเชื่อถืออย่างไรก็เอาไว้ในใจ    ถ้าไม่ทำเช่นนี้ ดังตัวอย่างการเขียนหนังสือว่ากล่าววิจารณ์ศาสนาที่ตัวเองไม่เชื่อไม่นับถือ เรื่องก็ลุกลาม อย่างที่เห็นกันอยู่ และความขัดแย้งทางด้านเศรฐกิจ ก็ทำให้คนฆ่ากันตายได้เช่นกัน เขาจึงต้องบริหารความขัดแย้งไม่ให้ลุกลาม  จะเป้นการดีที่สุด เรื่องบั้งไฟ เรื่องรอยพญานาคเป็นความขัดแย้งกันทางความเชื่อเล็กๆน้อยๆ ไม่ทำให้เสียหายมาก เพียงแต่ยกมาเป็นตัวอย่าง แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 55 10:18:16 จากคุณ : Autha เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 10:08:30

ความคิดเห็นที่ 8 แถมด้วยคลิปเบื้ิองหลังบั้งไฟพญานาค ในมุมมองของรายการ ถอดรหัส ช่องไอทีวี เมื่อปี 2545 ขอบคุณคุณ kanlaopipat ที่เอามาอัพขึ้นยูทูป ผมตามหามานานแล้ว จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 10:38:16

ความคิดเห็นที่ 9 ผมคนหนึ่งที่ไม่เคยเชื่อเรื่องรอยพญานาคอะไรนี่เลย... แต่เชื่อว่า พญานาค มีจริง.... เพราะถ้าศึกษาประวัติ ครูบาอาจารย์ พระสายปฏิบัติ ประเภทเคยเดินดงดั้นป่ามาแล้ว ร้อยทั้งร้อย มักจะเจอกับพญานาคมาแล้วทั้งนั้น แต่พญานาคไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลานแบบที่ชาวบ้านเข้าใจอยู่นี้ พญานาคเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่อยู่คนละภพภูมิ ต่างจากมนุษย์ เหมือนดังเช่น ภพภูมิของเปรต ภูติผี เทวดา หรือพระอินทร์ อะไรทำนองนี้ พญานาคมีกายละเอียดกว่ามนุษย์ สามารถเนรมิตร่างกายได้ เหมือนพวกเทวดา จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาเล่นโคลน และทิ้งร่องรอยไว้แบบที่ชาวบ้านเชื่อนี้... ถ้าเปรียบภพภูมิทางศาสนา  ก็เหมือนสปีชี่ส์...ในทางวิทยาศาสตร์ อะไรประมาณนี้รึป่าว คนที่เข้าใจพุทธศาสนาจริงๆ  จะไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้แน่นอน... แต่ในทางพิสูจน์  พุทธศาสนาบอกว่า ปฏิบัติเอง แล้วจะรู้เอง เห็นเอง พุทธศาสนายืนยันว่า มีจริง แต่จะเห็นได้ ต้องลงมือปฏิบัติ จึงจะรู้ และเห็น... พุทธศาสนาไม่เคยบอกให้เชื่อในสิ่งที่เห็น ในสิ่งที่ได้ยิน แต่บอกให้พิสูจน์ด้วยตนเอง เมื่อรู้เอง เห็นเองแล้วจึงให้เชื่อ จากคุณ : อ้ายเซียงจ่อย เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 10:45:29

ความคิดเห็นที่ 10 ที่มาของตัวการทำให้เกิดรอยพญานาคบนฝากระโปงรถ ไว้ให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชากัน คือตัวอะไร จากคุณ : ZHEZA_N1 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 10:48:40

ความคิดเห็นที่ 11 ผีเสื้อกลางคืนที่มาเล่นแสงไฟ แล้วตกลงที่ฝากระโปรงรถที่เปียกน้ำค้างกับฝุ่น ปีกมันก็จะติด เวลามันคลานไปบนฝากระโปรงรถมันก็ใช้ปีกกระพือไปด้วย ลองไปสังเกตกันนะครับ จากคุณ : ZHEZA_N1 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 10:58:37

ความคิดเห็นที่ 12 #3 เหมือนรอยปลาตีน จากคุณ : Sir Arthur เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 11:14:21

ความคิดเห็นที่ 13 รอยปลาตีน จากคุณ : The_Death_oF_Superman เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 11:30:06

ความคิดเห็นที่ 14 อันนี้รอยเต่า จากคุณ : The_Death_oF_Superman เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 11:33:26

ความคิดเห็นที่ 15 รอยพญานาค DIY จากคุณ : The_Death_oF_Superman เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 11:36:35

ความคิดเห็นที่ 16 เอาคลิปไอทีวีมาตัดต่อเป็นตอนสั้นๆ แล้ว จะได้ดูง่ายๆ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 11:49:53

ความคิดเห็นที่ 17 แหม เริ่มมีคนเอาเรื่องศาสนามาพูดแล้ว งั้นมาถกเรื่องความเชื่อ ในศาสนากันเลยมั้ย   กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตติยสูตร หรือเกสปุตตสูตร ก็มี[1]) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่ อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้ อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน ศาสนาพุทธ บัญญัติไว้ดีแล้วครับ   คนใช้เอาไปทำให้มันเพี้ยนเอง จากคุณ : The_Death_oF_Superman เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 11:56:15

ความคิดเห็นที่ 18 พญานาคมีจริงหรือไม่ เคยถกกันอยู่เป็นเดือนที่ "ห้องสมุด" http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/02/K7536233/K7536233.html จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 12:08:44

ความคิดเห็นที่ 19 ถามจากข้อสงสัยนะครับ รถที่มีรอยพญานาคทำมัย เลขป้ายทะเบียนถูกห่วยบ่อยๆ เคยอยู่ริมโขงมาสิบกว่าปีเจอตลอด ตั่งแต่เชียงคานยันโขงเจียม จากคุณ : somoil skywalker เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 12:09:15

ความคิดเห็นที่ 20 แปลกใจนี่มันห้องหว้ากอ ไม่ได้เอาข้อมูลไปยัดเยียดในห้องศาสนา ใครอยากรู้ข้อเท็จจริง อยากหาความเป็นไปได้ของปรากฏการณ์ว่าจะมาจากสาเหตุอะไร ถ้าเปิดเผยหรือตั้งสมมติฐานไม่ได้ เพราะไปขัดความเชื่องมงาย ก็ตลกใหญ่แล้ว สงสัยต้องกับไปกราบเจลลดไข้ ซดน้ำส้วม ห้ามสงสัย ห้ามถามว่ามันคืออะไร มาจากไหน จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 12:12:34 A:171.7.34.195 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 21 ก่อนจะเฉลยคำตอบของรอยปริศนาทั้ง ๔ รอย  อยากทราบคำตอบของอาจารย์เจษที่แน่ใจว่าตอบถูกทั้ง ๓ ข้อ จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 12:17:49

ความคิดเห็นที่ 22 รูปแรก น่าจะรอยเต่านะ รูปสอง เดาว่ารอยปูนะครับ รูปสาม รอยปลาตีน ตามที่มีคนเฉลย รูปสี่ น่าจะรอยปูเสฉวน เคยเห็นรูปนี้แล้วน่ะ ส่วนรูปนี้ ถ้าใครได้ดูคลิปแล้วจะรู้ทันทีว่าตัวอะไรทำ เจอกันเยอะมากมีปลายปีก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 55 12:34:33 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 12:33:28

ความคิดเห็นที่ 23 รอยปูไต่บนผืนทรายเป็นเช่นนี้หนอ จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 12:36:51

ความคิดเห็นที่ 24 คำตอบอยู่ในนี้      เปิดดูซีได้รู้กัน บางสิ่งที่เห็นนั้น      อาจใช่เป็นเช่นคิดนา http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3296.1650 จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 12:44:19

ความคิดเห็นที่ 25 คห 24 ตกลงเป็นรอยตะขาบยักษ์เดินเล่นบนโคลนเหรอครับ บรื่้อ  :-) จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 12:59:00

ความคิดเห็นที่ 26 ... จากคุณ : ปลาๆงูๆ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 13:32:30

ความคิดเห็นที่ 27 แต่ไม่ใช่ลูกกลิ้งสีแน่นอน ปล.ส่วนบั้งไฟต้องแยกให้ออกระหว่างปืนที่ยิง กับบังไฟพญานาคของจริง เพราะบั้งไฟพญานาคไม่ได้โผล่ที่แม่น้ำโขงที่เดียวครับ ผมคอนเฟิร์ม จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 15:40:46

ความคิดเห็นที่ 28 มีคนถ่ายได้ตอนน้ำท่วมใหญ่ จากคุณ : jo guevara เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 16:37:01

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ แต่ก็ไม่ใช่ลักษณะของกระสุนส่องแสง มันจะเลี้ยงตัวเหนือผิวน้ำ แล้วพุ่งหายไปช่วงสั้น และไม่มีเสียงด้วย แต่เดี๋ยวนี้จะเหลือแต่ของเก๊หรือเปล่า ประเด็นเลยเถิดไปแล้ว กระทู้นี้คุยเรื่องรอยพญานาค ผมว่าประเทศที่ถูกปลูกฝังความเชื่อมานานอย่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ให้เหตุผลกับปรากฏการณ์เป็นความเชื่อไปหมด เพราะไม่มีข้อมูลอื่นกว้างขวางพอ จากคุณ : กอดเข่าคุย เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 17:28:54

ความคิดเห็นที่ 30 มีแต่รอยบนรถ แล้วไม่มีรอยบนถนนบ้างเหรอครับ ทำไมท่านพยานาคชอบขี่รถ กับในบ้าน ไม่ไปที่อื่นเลย ก่อนเข้าบ้านแล้วขึ้นรถท่านพยานาค มาจากไหนครับ จากคุณ : ไม้โมก เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 17:40:20 A:180.180.127.104 X: TicketID:225494

ความคิดเห็นที่ 31 ...การพบ รอยพญานาคปลอม หรือ พิสูจน์ได้ว่าเกิดจากสัตว์อื่นทำ ...แล้วพยายามโยงว่า ก็เหมือนกับ "บั้งไฟพญานาค" เพราะชื่อเรียกและมีคนเชื่อ+งมงาย เหมือนกัน ...ผมว่้า มันไม่เกี่ยวกันเลยครับ ...เช่นเดียวกับ ...การไปพบ clip การยิงกระสุนส่องแสง แล้วดันมีคนฝั่งไทยเฮ ...แล้วพยายามจะบอก ว่า "บั้งไฟพญานาค" ทั้งหมดที่มีคนเห็น มันก็คือ กระสุนส่ิองแสง นั่นเอง ...ผมก็ว่้า มันไม่เกี่ยวเหมือนกัน ครับ จากคุณ : sungod เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 17:45:48

ความคิดเห็นที่ 32 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 55 18:10:25 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 18:09:56

ความคิดเห็นที่ 33 อยู่รู้ไม่ยาก เอาเรือดำน้ำลงไปดิ ผมก็เคยเหนก๊อสซิล่านะ จากคุณ : indyfreedom เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 18:44:11

ความคิดเห็นที่ 34 อย่าสรุปแบบเหมารวมนะครับ ถ้าเอาตามภาพที่มีในกระทู้นี้ ก็ไม่ใช่เพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ แต่ถ้ามีรูปอื่นๆด้วย ที่ไม่ใช่รอยอย่างที่ยกตัวอย่าง ค่อยว่ากันใหม่จะดีกว่าครับ จากคุณ : Pom40D เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 19:14:19

ความคิดเห็นที่ 36 ** รอยต่างๆบนพื้นดินเห็นมาแต่เด็กๆ มีสารพัด บนพื้นทราย ดินเลน รอยบนฝุ่นในห้อง  รอยหอยทาก  ฯลฯ รอยสัตว์อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นรอยติดต่อกันไปยาวๆ ที่ชาวบ้านบอกไม่ได้ว่าเป็นรอยอะไร   เขาจะบอกว่าเป็นรอยพญานาคทั้งสิน้     ดั่งคณิตติดค่า X ไว้ในค่าที่ยังไม่รู้ ที่กรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆจึงมีข่าวพบรอยพญานาคอยู่บ่อยๆ คิดชั้นเดียวก็คือ เมื่อมีคนบอกว่าพบรอยพยานาค คนฟังก็คิดว่ามีตัวพยานาค และคิดต่อไปว่า ตัวพญานาคไม่มี  ดังนั้นรอยนี้จึงไม่ใช่รอยพญานาค  จึงว่างมงาย และคิดต่อไปว่า เมื่อไม่มีพญานาค  บั้งไฟพญานาคมันก็ย่อมไม่มี   เมื่อไม่มีแล้วมันมาจากใหน  ถ้าไม่ใช่คนทำขึ้น  ดังนี้ จากคุณ : ตาเป๋า เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 19:38:05

ความคิดเห็นที่ 37 บางทีก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมไม่ไปพิสูจน์กันแบบจะๆไปเลยว่า พญานาค มีจริงรึเปล่า   อย่างเช่นที่เห็นว่าเป็นเหมือนคลื่นน้ำ ทำไมไม่มีคนใจกล้าๆพายเรือไปดูใกล้ๆ ส่งนักประดาน้ำมากฝีมือลงไปดู เอาเฮริคอปเตอร์ไปถ่ายจากด้านบนลงมา รึบั้งไฟพญานาคนี่ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร คนทำรึเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ วันออกพรรษา นั่งเรือไปกลางน้ำ รอดูเลยว่ามาจากไหนกันแน่ แต่จะหาคนที่ใจกล้าอย่างนั่นมันก็น่าจะยากอยู่  เพราะเป็นเราเราก็ไม่กล้า คือได้แต่คิดอะนะ  แหะๆ จากคุณ : หนูรี่VSหมามด เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 19:40:02

ความคิดเห็นที่ 38 คห 37 เคยเห็นสารคดีหนึ่งที่ทีมงานคนไทยได้ข่าวมาว่าที่บึงแห่งหนึ่งในประเทศลาว มีสัตว์ในตำนานพื้นบ้านของชาวบ้านอาศัยอยู่ ชาวบ้านก็กราบไหว้บูชาไม่กล้าเข้าไปหาปลาในบึงนั้นทำให้ระบบนิเวศสมบูรณ์เป็นอย่างมาก พอทีมงานถ่ายทำสารคดีได้เข้าไปถ่ายทำเพื่อไขข้อข้องใจที่มีมาหลายร้อยปีได้ทำการพิสูจณ์ ปรากฎว่า สัตว์ในตำนานของชาวบ้านที่เห็นเป็นประจำนั่นคือ ปลาโลมาน้ำจืดพันธุ์หายากพันธุ์หนึ่ง(ขออภัยจำรายละเอียดไม่ได้) พอทีมงานเฉลยให้ชาวบ้านฟัง ก็เกิดความยินดี ชาวบ้านก็ดีใจ จะได้ไม่ต้องกลัวบึงต่อไป ทีมงานก็มีความสุขที่ได้ทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์ จบ กลับบ้าน ห้าปีผ่านไป ทีมงานได้กลับไปเยี่ยม ณ บึงแห่งนั้นอีกครั้งหนึ่ง ริมบึงมีร่องรอยอวนขาด พบซากโลมา และกระดูกเต็มไปหมด ปลาในบึงหายไป ป่าริมบึงถูกถากถาง ศาลที่เคยมีของเซ่นไหว้ถูกปล่อยร้าง เพราะชาวบ้านได้หมดความกลัว และได้เข้ามาจับสัตว์น้ำ ส่วนโลมาชาวบ้านทำกินไม่เป็น ขายก็ไม่ได้ เลยฆ่าทิ้งริมบึงเพราะมันมีขนาดใหญ่ ถ้าติดอวนจะทำให้อวนเสียหายมาก เลยจำเป็นต้องล่าเพื่อฆ่าทิ้งก่อน เหลือความรู้สึกใจหายเพียงอย่างเดียว บางเรื่องผมก็คิดว่า ก็ควรปล่อยให้เชื่อเช่นเดิมก็ดีแล้วครับ เห็นแบบนี้แล้วใจหายจัง แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 55 20:02:52 จากคุณ : เขียนบนไอโฟนสามซิมทีวีชัดเวอร์ (เสี่ยปักกิ่งสะกิดตลิ่ง) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 20:02:19

ความคิดเห็นที่ 39 รอยพญานาคบนฝากระโปรงรถ เกิดจากผีเสื้อกลางคืนกระพือปีกบนกระโปรงรถคันนี้ ผีเสื้อคงตัวใหญ่น่าดู จากคุณ : ศิลปินเปิดหมวก เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 20:20:32

ความคิดเห็นที่ 40 ผีเสื้อตัวนี้ทำรอยอย่างเนี๊ยบ อัตราของรอยเท่ากันเด๊ะๆ เลยทีเดียว จากคุณ : ศิลปินเปิดหมวก เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 20:21:52

ความคิดเห็นที่ 41 ตัวนี้ไปตะกายอยู่หลังกระจกรถกันเลยทีเดียว จากคุณ : ศิลปินเปิดหมวก เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 20:24:02

ความคิดเห็นที่ 42 อันนี้คงเป็นคนเอาลูกกลิ้งไปปาดไว้หลังโต๊ะหมู่บูชาเป็นแน่ ปาดสวยซะด้วย ซอยสุขุมวิท 31 นี่เอง กลางกรุงกันเลยทีเดียว จากคุณ : ศิลปินเปิดหมวก เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 20:27:50

ความคิดเห็นที่ 43 มือไวเกิ๊น จากคุณ : ศิลปินเปิดหมวก เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 20:28:07

ความคิดเห็นที่ 44 เอ่อ คือ รู้สึกมันแปลกๆ กระทู้พูดถึงเรื่องรอย แล้วไม่รูปนี้ ... ขอเอามาเติมเต็ม ... จากคุณ : Register_AC เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 21:05:46

ความคิดเห็นที่ 45 เอาง่ายๆๆนะครับ Dr.เคยบวชหรือเคยเข้าวัดหรือเคยฟังประวัติพระพุทธเจ้าไหมครับ จากคุณ : Darkmanz เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 22:56:16 A:182.52.101.83 X: TicketID:380186

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับคลิปครับ จากคุณ : คุณชายใต้ทางด่วน เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 23:44:44

ความคิดเห็นที่ 47 #๔๕ คนอะไร เกิดมาแล้วเดินได้ ๗ ก้าวแหละครับ จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 23:49:05

ความคิดเห็นที่ 48 ก็คนที่สร้างศาสนา และสั่งสอนให้คนเป็นคนดีไงครับ จากคุณ : Darkmanz เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 23:51:32 A:182.52.101.83 X: TicketID:380186

ความคิดเห็นที่ 49 #48 ผมไม่ได้ล้อเล่นกับความเชื่อหรือ ศาสนานะครับ แต่อะไรทำให้ปักใจเชื่อได้ว่า เดิน7ก้าว ตั้งแต่แรกเกิดจริงๆ จากคุณ : apiwatrossi เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 00:10:33

ความคิดเห็นที่ 50 ในพระอภิธรรมปิฎก ไม่มีสอนในเรื่องพญานาค...ในวินัยปิฎกมีอ้างถึงนาคบ้าง  กรณีนาคแปลงเป็นเณรมาบวช ซึ่งบวชไม่ได้...แต่อย่าลืม หลักพุทธศาสนาหลักหนึ่งคือ อนัตตา. แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 55 00:11:42 จากคุณ : de_allamanda เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 00:10:49

ความคิดเห็นที่ 51 เข้าไปดูตามวัด ตามโบสถ ตามศาลาเข้าสร้างรูปพญานาคไว้ทำไม จากคุณ : Darkmanz เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 00:11:19 A:182.52.101.83 X: TicketID:380186

ความคิดเห็นที่ 52 มีครั้งหนึ่งได้เสด็จออกจากร่มไม้อธุปปาลนิโครธ ไปยังร่มไม้จิกชื่อ มุจลินท์ ทรงนั่งเสวยวิมุตติสุข อยู่ 7 วัน คราวเดียวกันนั้นมีฝนตกพรำ ๆ ประกอบไปด้วยลมหนาวตลอด 7 วัน ได้มีพญานาคชื่อ มุจลินท์ เข้ามาวงด้วยขด 7 รอบพร้อมกับแผ่พังพานปกพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อจะป้องกันฝนตกและลมมิให้ถูกพระวรกาย หลังจากฝนหายแล้ว คลายขนดออก แปลงเพศเป็นมานพมายืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า จากคุณ : Darkmanz เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 00:23:04 A:182.52.101.83 X: TicketID:380186

ความคิดเห็นที่ 53 นึกว่าห้องหว้ากอเป็นห้องวิทยาศาสตร์ซะอีก จากคุณ : foscarnet เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 00:58:21

ความคิดเห็นที่ 54 พวกหอยทากอะไรงี้ก็อาจจะเป็นไปได้ด้วยมั้งครับ จริงๆ พวกแมลงหรือสัตว์เล็กๆ ตอนกลางคืนนี่มีเยอะมากมายเลย มีโอกาสเกิดจากนั่นๆ นี่ๆ เยอะอยู่ครับ ยิ่งตอนกลางคืน น้ำค้างลง อากาศชื้นๆ ฝุ่นผงที่เกาะกับรถ โต๊ะ ผนังบ้าน เป็นไปได้สูงมากที่จะเกิดรอยหากมีอะไรไปโดนเบาๆ ครับ และสังเกตได้อย่างนึงคือ มักจะไปเยี่ยมเยียนกับรถยนต์หรือสถานที่ที่มีฝุ่น (เห็นรอยชัด) ส่วนรูป 43 นั้นจะต่างจากอันอื่น คือจะเป็นดินๆ ผมว่าคงต้องดูข้อมูลมากกว่านี้ว่าห้องพระนี้อยู่ที่ไหน บริเวณใด ชั้นล่างหรือเปล่า หรือชั้นบน (ชั้นล่างนี่บางทีเจอพวกไส้เดือนที่มันไต่ผนังได้ก็มีนะ) อะไรงี้เป็นต้นครับ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 55 02:28:44 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 02:24:24

ความคิดเห็นที่ 55 ศาสนาที่ดีหลอกลวง เพื่อให้คนเป็นคนดี ให้สังคมอยู่กันอย่างมีความสุข ศาสนาที่ไม่ดีหลอกลวง เพื่อประโยชน์ของบุคคล หรือกลุ่มบุคคล จากคุณ : pungya เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 03:53:58 A:210.1.5.88 X: TicketID:153583

ความคิดเห็นที่ 56 อยากให้ไปพิสูจน์พวกผีที่บ้านร้าง/สุสานร้าง ที่กินเครื่องเซ่นด้วย จากคุณ : Muyan เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 08:57:53

ความคิดเห็นที่ 57 darkmanz จะบอกอะไรก็บอกมาไวๆเถิดจะถามไปทำไม ขอหลักวิทยาศาสตร์ด้วยนะครับพี่ทิด จากคุณ : เขียนบนไอโฟนสามซิมทีวีชัดเวอร์ (เสี่ยปักกิ่งสะกิดตลิ่ง) เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 09:08:49

ความคิดเห็นที่ 58 เคยไปเรียนอินเดียมา 2 ปี ขอตอบว่า พญานาค มาจากคำว่า นาคา naga(ตามความเห็นที่ 18) แต่ไม่ได้หมายถึงเผ่าพันธุ์นึง แต่เป็นงู อยู่อินเดียมันไม่มีหงอน มันก็เหมือนงูทั่วไป พอมาเมืองไทย เติมหงอนให้มัน จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 09:15:57

ความคิดเห็นที่ 59 เจอมีดต้องเจอฝักมีด ว่าแต่ว่ามีใครเคยเจอ ครุฑ คู่ปรับรของ พญานาค หรือไม่ครับ ถ้าเจอผมจะเริ่มวิเคราะห์ รอยที่ว่า แต่ถ้าเรายังเจอบินๆอยู่แถวๆหน้าธนาคาร หรือตามกระทรวง ผมก็บอกได้เพียงว่า ผมก็เจอพญานาค ตามวัดและข้างกล่องไม่ขีดเช่นกัน จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 09:16:29

ความคิดเห็นที่ 60 साँप (นาคา) ในภาษาฮินดู แปลว่า งู จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 09:18:23

ความคิดเห็นที่ 61 มันมีทั่วโลกแหละรอยแบบนี้ แต่ไม่มีใครสนใจ นั่งหา นั่งบูชาว่ามันเป็นรอยอะไร ใช้หลักการคิดปรกติๆมันก็น่าจะรู้ๆกันอยู่ ว่ามันไม่ใช่รอย มนุตย์ต่างดาว หรือ สัปหลาดแต่อย่างใด เพราะว่ามันไร้สาระ จากคุณ : KeyboardWarrior เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 09:23:51

ความคิดเห็นที่ 62 อ่าว งั้นก็ต้องถามว่า สิงห์ที่ยกขาข้างขวดโซดา กับสิงห์โตที่แอฟฟริกา มันตัวเดียวกันป่าวคับ จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 09:24:45

ความคิดเห็นที่ 63 เรื่องรอยประหลาดประเภทรอยพญานาค ใช่ว่าจะมีเฉพาะในเมืองไทย ในอังกฤษก็มีเรื่องร่ำลือถึงรอยประหลาดชื่อว่า รอยเท้าปีศาจ อ่านรายละเอียดต่อได้ที่ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3296.msg93232#msg93232 จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 09:33:26

ความคิดเห็นที่ 64 พวกที่เอาเรื่องศาสนามาเถียงนี่ ไม่ทราบว่าท่านได้เข้าถึงแก่นแท้ของศาสนาแล้วหรือยัง ? จากคุณ : มวยมีค่าย เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 10:01:37

ความคิดเห็นที่ 65 แหมๆ  เห็นบางท่านยกเอาเรื่องตอนพระพุทธเจ้ามีนาคมาบังฝนให้แล้ว นึกอยากเอาหนังสือที่บันทึกเรื่องตอนในหลวง ร.9 สนธนาธรรมกับพระเถระผู้ใหญ่ รวมถึงสมเด็จพระสังฒราชฯ มาให้สแกนลงให้ดูทีเดียว ท่านถามเรื่องกะทะทองแดง เรื่องนรก สวรรค์ ว่ามีจริงไหม เป็นอย่างที่เล่ากันจริงไหม พระท่านตอบว่า ไม่จริงหรอก แต่เป็นเรื่องเติมแต่งขึ้น เพื่อให้คนศรัทธาในศาสนาน่ะ ของจริงอยู่ที่หลักธรรมคำสอน และวิธีการปฏิบัติธรรม ที่จะทำให้หลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา และทุกข์ตะหาก หาหนังสือเล่มนั้นไม่เจอแล้ว แต่อยากสรุปให้ฟังนะครับ ไว้หาเจอจะลองสแกนมาให้ห้องศาสนาได้ถกกันสักที จะดูสิว่า จะมีใครว่าพระเถระผู้ใหญ่เข้าใจพระไตรปิฏกหรือมีความรู้ในเรื่องศาสนาผิดไหม จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 10:32:06

ความคิดเห็นที่ 66 บางที่ บางชุมชุน บางยุคสมัย เขาเลีอกที่จะเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ต่อให้ไปพิสูจน์ จะจะ เขาก็ไม่เชื่อที่เราพิสูจน์ หาว่าลบหลู่อีกต่างหาก.. จากคุณ : .. (รัก กวน มึน) เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 10:34:01

ความคิดเห็นที่ 67 กระทู้แนะนำของวันออกพรรษาทุกปี อิอิ จากคุณ : ไม่น่าเข้ามาอ่านก่อนนอนเลย เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 11:29:40

ความคิดเห็นที่ 68 แก่นแท้ศาสนาพุทธจะไม่มี ผีสาง เทวดา ยักษ์ หรือพญานาคเลย ไม่มีนาคเอามาบังฝน หรือ เกิดมาเดินได้ 7 ก้าว แต่เพราะศาสนาพุทธในอินเดียเริ่มถดถอย ส่วนนึงเกิดจากอิสลามมาเผานาลันทา สาวกจึงได้เริ่มสังขยนาขึ้น โดยเติมแต่งเรื่อง เทพ เทวดาเข้าไป เพราะตอนนั้นคนอินเดียชอบเรื่องพวกนี้ เพื่อความอยู่รอดของพุทธ แต่ก็มีพุทธบางส่วนไม่เพิ่มเข้าไป จึงเกิดเป็นหลายนิกายขึ้น ให้จำหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นพอครับ เช่น อิริยะสัจสี่ หรือ  กาลามสูตร 10 เป็นต้น จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 11:50:40

ความคิดเห็นที่ 69 ปล. ผมคนพุทธครับ จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 11:59:05

ความคิดเห็นที่ 70 ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ บางทีก็ปกป้องธรรมชาิติ เหมือนคห. 38 เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อความเชื่อเก่าๆถูกลบล้าง ชาวบ้านไม่ได้สมาทานวัฒนธรรมแห่งปัญญาสมัยใหม่เข้าไปรองรับเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติด้วยนี่สิ ความเชื่อดั้งเดิมเพื่อการอยู่ร่วมกับธรรมชาิติ คนสมัยนี้ดันงมงาย กราบไหว้บูชา ไม่นึกถึงเหตุผล ผิดฝาผิดตัวไปเสียหมด จากคุณ : guerilla gorilla เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 12:04:06

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่ว่ารอยต่างๆ จะเกิดจากสัตว์โลกชนิดใดก็แล้วแต่ ทั้งพิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นตามนั้นจริงๆ แต่เชื่ออยู่อย่างว่า จะยังไงเสีย หากปรากฏรอยขึ้นอีก และสื่อทีวีหรือ นสพ.ก็เล่นข่าวอีก ชาวบ้านก็ยังคงวนเวียนอยู่กับความเชื่อและยังขอหวยเหมือนเดิม.. จากคุณ : Thai_Am เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 12:25:10

ความคิดเห็นที่ 72 #9 กับ #17 พูดดี อย่าเพิ่งเชื่อ ถ้าไม่ได้มาลองปฎิบัติ อย่าพึ่งเชื่อเพราะฟังๆกันมา อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเป็นครู อย่าเพิ่งเชื่ิอในสิ่งที่ตาเห็น จากคุณ : R66 เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 12:50:51

ความคิดเห็นที่ 73 #68พูดดีครับ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ไม่ได้สอนให้เชื่อเรื่องพวกนี้ ให้เชื่อในการปฎิบัติเพื่อให้หลุดพ้น หรือสูงสุด คือนิพพาน #65 จากที่ตอบมา เพราะอ่านจากหนังสือ ซึ่งก็ตรงกับหลักที่ว่า อย่าเพิ่อเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นหรือ ได้ยินต่อๆกันมา เพราะผมว่าคุณคงไม่ได้ปฏิบัติ แต่ไม่เป็นไรครับที่จะไม่เชื่อ เพราะเมื่อครั้งที่พระพุทธทรงโปรดสอนแก่บุคคลทั่วไป เกิดความเบื่อหน่ายในการที่พระองค์ทรงสอนพวกที่ไม่เชื่อหรือกล่าวว่าพระองค์ พอดีกับที่พระองค์มองในสระเห็นดอกบัว จึงได้เกิดความเข้าใจว่า มนุษย์ก็เปรียบเหมือนบัวสี่เหล่า บ้างพ้นน้ำ บ้างปริ่มๆ บ้างไม่พ้น บ้างอยู่ในตม จึงไม่แปลกใจที่สอนเท่าไหร่ พวกเหล่านั้นก็ไม่เข้าใจ จึงเป็นที่มาของ การที่พระองค์ตื่นมาตอนเช้า แล้วทอดพระเนตรว่าวันนี้จะไปโปรดผู้ใด ถ้าสงสัยว่าทำไม แค่ฟังคำสอนก็สำเร็จ คือของแบบนี้ใครทำใครได้ จะสะสมติดดวงจิต ไปเรื่อยๆ จากชาติก่อนๆหรือเคยปฏิบัติมาแล้ว ในชาตินั้นจนสะสมกัน เพียงแค่พระองค์ทรงตรัส เหมือนด้ายขึงให้ตึง รอแค่กรรไกรมาตัดฉึบเดียว จากคุณ : R66 เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 13:14:34

ความคิดเห็นที่ 74 ผมว่านะ จะบอกจะพิสูจน์จะโต้แย้งยังไง คนเชื่อ มันก็เชื่อ คนไม่เชื่อ มันก็ไม่เชื่อ จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 14:41:17

ความคิดเห็นที่ 75 มีคนถอดกายละเอียดมาคลั่งศาสนาทั้งที่ไม่เคยจะเข้าถึงความรู้ความเข้าใจที่แท้จริง ไม่สามารถแยกออกระหว่างเนื้อหาคำสอนกับเรื่องที่ปรุงแต่งกันมา จากคุณ : เซียนหวย เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 14:56:44

ความคิดเห็นที่ 76 เข้ามาเสพ แผล่บๆ จากคุณ : คิกขุแมน เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 15:08:10

ความคิดเห็นที่ 77 เละ จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 15:32:40

ความคิดเห็นที่ 78 ศาสนาพุทธ มีไว้เพื่อให้คนเชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ มีไว้เพื่อขอเครื่องรางของขลัง ต่อดวงชะตา ทำบุญด้วยส้มตำปู ตอนตายแล้วจะได้สร้อยปูม้าฝังเพชรบนสวรรค์ อย่างนี้ใช่มั้ยครับ? ศาสนาพุทธ สอนให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ สอนให้คนรู้จักกฏแห่งกรรม สอนให้คนรู้จักใช้เหตุและผล ไม่เชื่องมงายตามกาลามสูตร แบบนี้ไม่ใช่หรอกหรอ? คนเราในอดีตสร้างศาสนามาเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ถ้ามีแต่เนื้อเพียวๆ นํ้าไม่มี มันก็น่าเบื่อ แล้วใครจะสนใจล่ะจริงมั้ยครับ มันก็ต้องเพิ่มเติมแต่งพวกอภินิหารลงไป เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ หรือใช้เป็นกุศโลบายต่างๆ ก็เป็นได้ เนื้อเรื่องแบบนี้สอนเราได้ง่าย เข้าใจ เหมาะแก่การพูดให้คนทั่วๆไปฟัง ถ้าศาสนามีแต่หลักการอย่างเดียวเหมือนกฏหมายแล้วใครจะสนใจ มันก็จบเห่ตั้งแต่แรกแ้ล้ว คิดว่าจริงมั้ยครับ? แต่คนเราบางจำพวก กลับไปยึดติดกับสิ่งพวกนี้  ยึดติดกับ "เงาของความจริง" เรื่องมายาเรื่องลวง โดยไม่แยกแยะซักนิดว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของศาสนาคืออะไร ถึงได้แห่ไปกราบไหว้งูสองหัว แห่ไปดื่มนํ้าส้วม แห่ไปศรัทธาบั้งไฟพญานาคอะไรนั่น ไม่น่าเชื่อว่า 2,500 กว่าปีที่ผ่านมา มุมมองของคนที่นับถือศาสนา มันผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวไปมากมายได้ขนาดนี้ เป็นเพราะอะไร? ทำไมคนไทยถึงชอบเสพแต่เรื่องแบบนี้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เคยมีคนพูดไว้ ว่าศาสนาพุทธสอนให้รู้จักใช้เหตุใช้ผล แต่ึคนที่นับถือกลับงมงาย ไม่ใช้เหตุผล ส่วนศาสนาที่นับถือพระเจ้าเป็นศาสดา คนยังรู้จักใช้เหตุผล งมงายน้อยยิ่งกว่าพุทธบางคนซะอีก จากคุณ : Mr.Potato Head เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 15:48:26

ความคิดเห็นที่ 79 การท่องเที่ยวววววววววววววววววววววว ภาคนั้นไม่ติดทะเล  ไม่มีจุดขายยยยย กระตุ้นเศรษฐกิจกันด้วยความเชื่อ  อิอิ   จากคุณ : nokun เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 16:16:46

ความคิดเห็นที่ 80 พญานาค ชอบไต่รถสกปรก ฝุ่นจับ ไม่ได้ล้าง... แปลกดีนะ จากคุณ : ari เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 16:53:44 A:125.24.140.181 X: TicketID:313880

ความคิดเห็นที่ 81 .การพบ รอยพญานาคปลอม หรือ พิสูจน์ได้ว่าเกิดจากสัตว์อื่นทำ ...แล้วพยายามโยงว่า ก็เหมือนกับ "บั้งไฟพญานาค" เพราะชื่อเรียกและมีคนเชื่อ+งมงาย เหมือนกัน ...ผมว่้า มันไม่เกี่ยวกันเลยครับ ...เช่นเดียวกับ ...การไปพบ clip การยิงกระสุนส่องแสง แล้วดันมีคนฝั่งไทยเฮ ...แล้วพยายามจะบอก ว่า "บั้งไฟพญานาค" ทั้งหมดที่มีคนเห็น มันก็คือ กระสุนส่ิองแสง นั่นเอง ...ผมก็ว่้า มันไม่เกี่ยวเหมือนกัน ครับ จากคุณ : sungod คุณ Sungod พูดได้ถูกต้องครับ ถ้าเรียนตรรกะศาสตร์ ตอนม. 4 เอง น่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก รูป 44 รอยกางเกงยีนต์ยังอยู่นะ  คาดว่าถูกตำรวจจับ ให้หันหน้าเข้ากับรถยนต์ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 16:54:03

ความคิดเห็นที่ 82 พวกที่เชื่อ เขาไม่ได้เรียกว่า "เชื่อ" หรอกครับ เขาเรียกว่า "งมงาย" "โง่งม" ถ้าเอ็งบอกว่า ไม่เห็น ไม่ได้แปลว่าไม่มี Here งั้น จอมมารพิคโกโร่ มันก็มีจริงล่ะสิ จากคุณ : โตแล้ว อย่าปัญญาอ่อน (Pakinai) เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 18:06:09

ความคิดเห็นที่ 83 คห 82 ตัวคุณเองก็ไม่เคยเห็น แต่ก็เชื่อว่าไม่มี นี่ไม่เรียกว่า งมงายพอกันหรอครับ?  การตั้งสมมุติฐานของนักวิทย์ ดังๆหลายคน บางทีเค้าตั้งจากจินตนาการล้วนๆ หลายเรื่องิสูจน์ชัดว่าไม่เป็นจริงเค้าก็ล้มเลิกกันไป แต่ตัวคุณ ก็ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นแต่กลับเลือกจะไม่เชื่อแล้วไปด่าคนอื่นโง่ ตัวคุณก็โง่พอกันนั่นแหละครับ ไม่สามารถอธิบายเหตุและ ผล ไม่เคยไป ไม่มีการพิสูจน์ แล้วไปด่าคนที่เชื่อว่าโง่ แล้วตัวคุณคืออะไรละครับ? ผู้วิเศษ การจะเชื่อในเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เรื่องงมงายเลยครับ เพราะจิตใจยึดติดเอาไว้กับคำว่าศาสนามากเกินไป โลกเราลึกลับและเข้าใจยากส์เกินกว่า ที่ใครสักคนที่มีช่วงอายุ แค่50-100ปีจะสรุป ผลลัพธออกมาได้ในทันทีหรอกครับ บางทีสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหารหรือสิ่งลี้ลับเล้นลับอะไรต่างๆที่เราตกใจ อาจเป็นการตกใจผลลัพธ์ ที่มนุษย์เราเองเป็นคนก่อและสร้างเอาไว้เองในอดีต ที่ยาวนานมากก็ได้ มีมากมายกี่ร้อยกี่พันเรื่อง ที่เราต้องมานั่งไขปริศนาอารยะธรมมในอดีตของมนุษย์เราเอง บางทีการเจริญทางเทคโนโลยีอาจไม่ใช่การเจริญก้าวหน้าที่สูงสุดของมนุษย์ ก็ได้ พูดง่ายๆเราอาจจะหลงทาง และลืมอะไรหลายๆอย่างทิ้งไป และเราอาจต้องใช้เทคโลยีทั้งหมดของเราในอนาคตเพื่อตามหามัน แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 55 22:19:57 แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 55 22:17:45 จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 22:09:23

ความคิดเห็นที่ 84 ถ้าไม่มีใครพูดว่าลูกไฟนี้คือของพญานาค คลื่นน้ำนี้คือพญานาค รอยนี้คือพญานาค จะไม่มีใครคิดเด็ดขาดว่ามันเป็นฝีมือของพญานาค ------------------------- ส่วนเรื่อง"งมงาย" อย่าคิดว่า"งมงาย"จะมีแค่ด้าน"เชื่อ" ด้าน"ไม่เชื่อ" ก็สามารถนับว่าเป็นการงมงายด้วยเช่นกัน ------------------------- สงสัยเรื่องคนที่ชอบพูดว่าพุทธเป็นวิทย์ แต่คนที่ชอบพูดเช่นนี้มักจะแสดงความเห็นที่ไม่ใช่วิทย์ออกมาอยู่เสมอ พุทธมักบอกให้มนุษย์ละทิ้งอัตตาของตนไป แต่คนที่อ้างว่าตัวเองนับถือมักยึดอัตตาของตนมากยิ่งกว่าใคร ๆ จุดมุ่งหมายหนึ่งของพุทธคือการทำให้จิตใจผ่องใส แต่ทำไมคนที่อ้างว่าตนเองเข้าถึงพุทธมาก ๆ มักจะแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด ประชดประชันกับคนที่เห็นตรงข้ามอยู่เสมอ และคนที่อ้างว่าตัวเองศรัทธาในพุทธ ก็ไม่เห็นจะศรัทธาในแก่นของพุทธเลย มีแต่ศรัทธาเพียงเปลือกของพุทธกันทั้งนั้น ------------------------- ลักลั่นดีเนอะ ? จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 23:05:00

ความคิดเห็นที่ 85 ...ต่อจากคหบน แต่คนที่ไม่เคยอ้างว่าตัวเองศรัทธาพุทธ กลับมักจะแสดงถึงความเป็นพุทธและรู้รอบในเรื่องพุทธมากกว่าใคร ! เราว่าเป็นเพราะคนที่รู้จริงและเข้าถึงจริงในเรื่องพุทธ จะละจากการยึดอัตตาตนเองไปแล้ว ทว่าคนที่ไม่รู้จริงหรือยึดถือแค่เปลือก ยังยึดอัตตาตนเองอยู่ จึงทำให้มักอวดอ้างตนเองอยู่เสมอ แน่นอน ถ้าหากพลังวิเศษในเชิงพุทธานุภาพมีอยู่จริง คนที่อวดอ้างว่ามีนั่นแหละสิบแปดมงกุฏ ทว่าคนที่ไม่พูดเลยต่างหากที่จะเป็นของจริง จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 23:11:32

ความคิดเห็นที่ 86 เจอปลาช่อน ปลากระดี่ นี่ไปไม่เป็นเลยตู..อิอิ จากคุณ : กระรอกแสนซน เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 23:15:00

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้าคิดว่าไม่มีอะไรเป็นจริงเกินกว่าที่คุณๆ เคยเห็นมาแล้ว ก็คงต้องคิดหาคำตอบว่าทำไม พระพุทธเจ้าท่านจึงได้ให้นำกระดูกส่วนอกมาไว้ที่ริมแม่น้ำโขง หลังปรินิพพานไม่กี่ปี จากคุณ : chakrint เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 23:53:00

ความคิดเห็นที่ 88 เพิ่มภาพจากเน็ตให้ บางคนคงจะบอกว่า เริ่มออกทะเลไปไกลละ แต่ถ้าศึกษาให้ดีก็จะรู้ว่าเชื่อมโยงกัน จากคุณ : chakrint เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 23:57:31

ความคิดเห็นที่ 89 รอยพวกนี้เขาดูเอาฮาแต่แรกอยู่แล้วอะนะ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 00:47:42 A:1.4.253.132 X: TicketID:208572

ความคิดเห็นที่ 90 ก็ยังถกประเด็นเดิมๆของปีที่แล้ว พอหาข้อโต้แย้งฝ่ายวิทย์มาไม่ได้ ก็จะบอกว่าท่านไปหาหลักฐานที่ว่า พญานาคไม่มีอยู่จริงมาซิ ท่านลองปฏิบัติเหมือนเราซิแล้วจะเห็น อืม...ก็วนเวียนประเด็นเดิมๆ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 00:55:29

ความคิดเห็นที่ 91 ตาบอดคลำช้าง กันไปทำไม ?? ตาบอดสอดตาเห็น !! จากคุณ : WinandBP เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 09:35:18

ความคิดเห็นที่ 92 """ จากคุณ : WinandBP เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 09:35:43

ความคิดเห็นที่ 93 ฮาน้องหมาติดเบรค #26 จากคุณ : SONIM เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 09:52:10

ความคิดเห็นที่ 94 เรื่องพญานาคตามความเชื่อของชาวบ้านมาจาก อิทธิพลของพุทธศาสนา รวมถึงครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือของชาวบ้าน อริยะสงฆ์ท่านเคยเห็นและบอกเล่ากันมา โอกาสที่จะทำลายความเชื่อคงจะยากมาก แม้แต่ในพระไตรปิฏกก็มีปรากฏให้เห้นนับสิบแห่ง แต่คุณสมบัติที่คนทั่วไปเข้าใจคือ เป็นสัตว์ดิรัจฉานธรรมดา ในสปีชี่ใดๆ ของนักชีววิทยาก็คงไม่ใช่เพราะว่าไม่มีโครงกระดูกใดๆให้เห็น 1) พิเศษตรงนี้  พญานาคแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ 2) ในยุคสมัยนี้ยังไม่มีใครเห็นตัวจริง 3) พญานาคพูดได้ จะเรียกว่างมงายก็คงไม่ถูก เพราะมันเกี่ยงโยงกับภพภูมิ นรก สวรรค์ เทวดา ทั้งหลาย ตามความรู้ในพุทธศาสนา สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทำได้คือการตั้งสมมุติฐานแล้ว นำมาเชื่อมโยงเหตุผล ต้องพิสูจน์ว่า ไม่มีภพภูมิใดๆในโลกนี้อีกแล้ว เกิดมา ตายแล้วก็จบกัน ทำดีทำเลว ตอนตายก็ดับสูญมีค่าเท่ากันหมด เพราะฉะนั้น ความเชื่อเรื่องพญานาค จะยังคงเหนียวแน่นอีกนับพันปี ที่ริมแม่น้ำโขง อยากชวน อ เจษ พิสูจน์ทดลองจากของจริง เรื่องกระสุนส่องแสง อยากให้มีการทดลองยิงจริง กลางแม่น้ำโขง ใช้งบประมาณไม่มาก แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน โดยยิงจากสถานที่จริง น่าจะมีคนเชี่ยวชาญอาวุธปื่นหลายท่านในห้องนี้ 1) ยิงสะ้ท้อนผิวน้ำ 2) ลอยเรือแล้วยิงจากกลางลำน้ำโขง 3) ลอยคอหรือดำน้ำลงไปแล้วยิงจากใต้น้ำ เชื่อว่าใครทดลองงานนี้ อาจจะได้ออกทีวีทั่วโลกแน่นอนครับ เรื่องนาคแปลงกายเป็นมนุษย์มาขอบวช            [๑๒๗] ก็โดยสมัยนั้นแล นาคตัวหนึ่งอึดอัด ระอา เกลียดกำเนิดนาค จึงนาคนั้นได้ มีความดำริว่า ด้วยวิธีอะไรหนอ เราจึงจะพ้นจากกำเนิดนาค และกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เร็วพลัน. ครั้นแล้วได้ดำริต่อไปว่า พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรเหล่านี้แล เป็นผู้ประพฤติ- *ธรรม ประพฤติสงบ ประพฤติพรหมจรรย์ กล่าวแต่คำสัตย์ มีศีล มีกัลยาณธรรม หากเรา จะพึงบวชในสำนักพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร ด้วยวิธีเช่นนี้ เราก็จะพ้นจากกำเนิดนาค และกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน ครั้นแล้วนาคนั้นจึงแปลงกายเป็นชายหนุ่ม แล้วเข้าไป หาภิกษุทั้งหลายขอบรรพชา.  ภิกษุทั้งหลายจึงให้เขาบรรพชาอุปสมบท. สมัยต่อมา พระนาคนั้น อาศัยอยู่ในวิหารสุดเขตกับภิกษุรูปหนึ่ง. ครั้นปัจจุสสมัยแห่งราตรี ภิกษุรูปนั้น ตื่นนอนแล้ว ออกไปเดินจงกรมอยู่ในที่แจ้ง. ครั้นภิกษุรูปนั้นออกไปแล้ว. พระนาคนั้นก็วางใจจำวัด. วิหาร ทั้งหลังเต็มไปด้วยงู. ขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง. ครั้นภิกษุรูปนั้นผลักบานประตูด้วยตั้งใจจัก เข้าวิหาร ได้เห็นวิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู เห็นขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง ก็ตกใจ จึงร้อง เอะอะขึ้น.            ภิกษุทั้งหลายพากันวิ่งเข้าไปแล้วได้ถามภิกษุรูปนั้นว่า อาวุโส ท่านร้องเอะอะไปทำไม?            ภิกษุรูปนั้นบอกว่า อาวุโสทั้งหลาย วิหารนี้ทั้งหลังเต็มไปด้วยงู ขนดยื่นออกไปทาง หน้าต่าง.            ขณะนั้น พระนาคนั้น ได้ตื่นขึ้นเพราะเสียงนั้น แล้วนั่งอยู่บนอาสนะของตน.            ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส ท่านเป็นใคร?            น. ผมเป็นนาค ขอรับ.            ภิ. อาวุโส ท่านได้ทำเช่นนี้เพื่อประสงค์อะไร?            พระนาคนั้นจึงแจ้งเนื้อความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย. ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่ พระผู้มีพระภาค.            ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ใน เพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วได้ทรงประทานพระพุทธโธวาทนี้แก่นาคนั้นว่า พวกเจ้าเป็นนาค มีความไม่งอกงามในธรรมวินัยนี้เป็นธรรมดา ไปเถิดเจ้านาค จงไปรักษาอุโบสถในวันที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์นั้นแหละ ด้วยวิธีนี้เจ้าจักพ้นจากกำเนิดนาค และจักกลับได้อัตภาพ เป็นมนุษย์เร็วพลัน. ครั้นนาคนั้นได้ทราบว่า ตนมีความไม่งอกงามในพระธรรมวินัยนี้เป็นธรรมดา ก็เสียใจหลั่งน้ำตา ส่งเสียงดังแล้วหลีกไป.            ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุแห่งความ ปรากฏตามสภาพของนาค มีสองประการนี้ คือ เวลาเสพเมถุนธรรมกับนางนาค ผู้มีชาติเสมอ กัน ๑ เวลาวางใจนอนหลับ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุแห่งความปรากฏตามสภาพของนาค ๒ ประการนี้แล            ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบัน คือ สัตว์ดิรัจฉาน ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบท แล้ว ต้องให้สึกเสีย. http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12861990/Y12861990.html หลักฐานบางส่วนจากพระไตรปิฏก จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 10:16:07

ความคิดเห็นที่ 95 เข้ามาฮา ความคิดเห็นที่ 49     #48 ผมไม่ได้ล้อเล่นกับความเชื่อหรือ ศาสนานะครับ แต่อะไรทำให้ปักใจเชื่อได้ว่า เดิน7ก้าว ตั้งแต่แรกเกิดจริงๆ จากคุณ : apiwatrossi เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 00:10:33   ถูกใจ : ยามวิกาล เคยเข้าวัดป่ะครับ เคยสนทนากับผู้มีความรู้ทางศาสนาไหมครับ เขาเป็น กุศโลบาย ครับเข้าใจไว้ด้วย พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้เมื่อ 35 พรรษา แล้วคนอายุ 35 พรรษาเดิน 7 ก้าวไม่ได้หรอครับ จากคุณ : anutakoon01 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 10:54:19

ความคิดเห็นที่ 96 เรื่องบั้งไฟที่หนองคาย ไม่เกี่ยวกับคำสอนในทางพุทธศาสนาเลย (แล้วทำไมหลายคนในห้องนี้ ถึงพูดว่าเกี่ยวกันก็ไม่ทราบ) ในคัมภีร์ทางพุทธก็ไม่เคยเห็นมีคัมภีร์เล่มไหนกล่าวถึงเรื่องบั้งไฟนี้เลย เพียงแต่ศาสนาพุทธบอกแค่ว่า "นาค" นั้นมีจริง นาคก็คือ "งูใหญ่" ชนิดหนึ่ง แต่ไม่ใช่งูทั่วไปที่เราเคยเห็น กำเนิดนาคส่วนใหญ่เป็นแบบผุดเกิดขึ้น (โอปปาติกะ) มีจิต แต่มีกายละเอียด (อานุภาคเล็กกว่าปรมาณูจึงทำให้ตามนุษย์มองไม่เห็นในยามปกติ) ลำตัวขนาดใหญ่ประมาณถังน้ำมัน ๒๐๐ ลิตร มีหลายแบบ และหลายสีด้วย มีทั้งนาคลำตัวสีขาว , ลำตัวสีแดง , ลำตัวสีดำ , ลำตัวสีเขียว ฯลฯ รู้จักรัก รู้จักโกรธเหมือนมนุษย์เรา ซึ่งเรื่องนาคนี้จะมีจริงหรือไม่ ก็ยังพิสูจน์กันไม่ได้ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ในยุคนี้หรอก ดังนั้นจึงไม่ควรมาถกเถียงกันด้วยเรื่องว่านาคมีจริงหรือไม่ ? ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของศาสนาไปดีกว่า ใครอยากจะเชื่อก็เชื่อไป ใครอยากจะไม่เชื่อก็ตามใจ แบบเดียวกันเรื่องพระเจ้าว่ามีจริงหรือไม่นั่นแหละ มันสามารถพิสูจน์กันได้ด้วยแสงเลเซอร์ คลื่นอุลตร้าโซนิค หรือด้วยกล้องจุลทรรศน์หรือ ?? ขนาดเชื้อไวรัสซึ่งมีขนาดเล็กว่าแบคทีเรียมากมาย คนเรายังต้องใช้เวลาตั้งนาน กว่าจะประดิษฐ์ใช้กล้องจนมองเห็นมันได้เมื่อไม่นานมานี้เอง แล้วไม่คิดกันบ้างหรือว่ามันอาจจะมีอะไรที่เล็กยิ่งไปกว่านี้อีก ?? (ถามจริงเหอะ นักวิทย์ทั้งหลายไม่คิดกันบ้างหรือ ? เป็นนักวิทย์จริงหรือปลอมก็ไม่รู้) ส่วนรอยอะไรที่มีบนหน้ารถ รอยบนปูนหน้าบ้านอะไรนั่น ผมเองก็ไม่เชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นรอยพญานาค มันเป็นเรื่องของคนงมงาย เพ้อเจ้อ พวกนี้ไม่มีความรู้ทั้งทางวิทย์ทั้งทางพุทธกันทั้งนั้นแหละ แต่เป็นพวกที่อยากพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อหวังรวยทางลัดเท่านั้นเอง แล้วพวกนักวิทย์จะเอาพวกนี้มาเป็นบรรทัดฐานในการพิสูจน์พญานาคได้อย่างไร ?? เพราะพวกนี้ "บ้าหวย" กันทั้งนั้น ส่วนบั้งไฟที่หนองคายและลำน้ำโขง จะเป็นอะไรนั้น ก็พิสูจน์กันไป ไม่ควรดึงเอาศาสนาพุทธมาเกี่ยวข้อง เพราะก็รู้กันอยู่ว่าคำว่า "บั้งไฟพญานาค" คนไทยเราเพิ่งจะมาประดิษฐ์คำเรียกกันเอง คือผมก็ยังงงๆ อยู่ว่า ตกลงจะพิสูจน์กันว่า ๑. "พญานาคมีจริงหรือไม่?" หรือจะพิสูจน์กันว่า ๒. "บั้งไฟพญานาคคืออะไร?" ตกลงจะพิสูจน์เรื่องอะไร ข้อไหนกันแน่ครับ ช่วยบอกผมหน่อย เพราะผมกำลังงงกับคำวิจารณ์ของพวกนักวิทย์ทั้งหลายในห้องนี้มากๆ ตกลงจะพิสูจน์เรื่องอะไรกันแน่ครับ ?? จากคุณ : WinandBP เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 11:24:54

ความคิดเห็นที่ 97 ขั้นแรกควรเริ่มจากการตีความตามตัวอักษรเสียทีเถิด ทั้งตำราพุทธ ตำราคริสต์ หรือ ตำราไหนๆ มัวแต่หลงอักษรไม่เห็นข้อความ จากคุณ : JengisKhan เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 11:29:33

ความคิดเห็นที่ 98 เข้ามาฮา ความคิดเห็นที่ 95 เคยเข้าวัดป่ะครับ เคยสนทนากับผู้มีความรู้ทางศาสนาไหมครับ เขาเป็น กุศโลบาย ครับเข้าใจไว้ด้วย พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้เมื่อ 35 พรรษา แล้วคนอายุ 35 พรรษาเดิน 7 ก้าวไม่ได้หรอครับ จากคุณ : anutakoon01 ------------------- อย่างนี้ มันจะต่างอะไรกับการตีความ ซึ่งแต่ละคนก็อุปโลกน์ กันเอาเองก็ได้ ผมไม่ทราบว่าในพระไตรปิฎกเขียนว่าอย่างไร ระหว่าง "เกิดมาแล้วเดินได้ 7 ก้าว" "หลังตรัสรู้แล้ว ทรงเทศนาไป 7 แคว้น" อย่างนึงแสดงให้รู้สึกถึงปาฏิหาริย์ เป็นผู้วิเศษ เหนือบุคคลทั่วไป อีกอย่างนึง เป็นแค่การอธิบาย ธรรมดาๆ จากคุณ : หัวกลม เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 11:36:41 A:58.10.84.67 X: TicketID:357962

ความคิดเห็นที่ 99 ซึ่งก็ยังไม่ทำให้พิสูจน์ได้ว่าพญานาคไ่ม่มีจริง จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 12:07:23

ความคิดเห็นที่ 100 1) พญานาคมีจริงตามคำบันทึกสมัยพุทธกาล ในพระไตรปิฏกมีกล่าวถึงหลายแห่งครับ - พญานาคเป็นสัตว์ดิรัจฉาน  แปลงร่างเป็นคนมาขอบวชได้ - พญานาคสามารถพูดได้ คุยกับมนุษย์ได้เหมือนคน 2) พระพุทธเจ้าประสูติแล้วยืนตรง จากนั้นเดินได้อีก 7 ก้าว พร้อมทั้งเปล่งวาจา ก็เป็นเรื่องจริงที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฏก ส่วนเรื่องดอกบัวผุดเป็นเรื่องที่แต่งเป็นนิทาน เรื่องเทวดามารองรับก็เป็นเรื่องจริง จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 13:49:19

ความคิดเห็นที่ 101 1) พระพุทธศาสนาสอนว่า ตายแล้วไม่ดับสูญ ยังคงมีภพภูมินรก สวรรค์ 2) เมื่อมีนรก สวรรค์ ย่อมมี เทวดา ยักษ์ และพญานาคแปลงร่างมาขอบวช 3) นาลันทาถูกเผาจริง แต่พระไตรปิฏก แต่ฉบับเถรวาทรักษาพระธรรมวินัยครบถ้วนที่สุด 4) หลักกาลามสูตรคือ อย่าเพิ่งเชื่อในเรื่องที่เป็นกุศลด้วยตรรกะต่างๆ 5) พญานาคมีอยู่จริง และพระเถระในจังหวัดก็ยืนยันหนักแน่น 6) อิทธิปราฆิหาริย์มีอยู่จริง ถ้าคนนั้นรู้ตามไม่ทำ แต่ถ้าเข้าใจลึกซึ้งสิ่งนั้นก็คือเรื่องธรรมดา 7) ไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาติสำหรับพระพุทธศาสนา เพราะปรากฏการณ์ทั้งหลายก็มาจากธาตุของสรรพสัตว์ปรุงแต่ง 8) แยกเป็นสามประเด็น พญานาคมีจริงตามพระไตรปิฏก และ ลูกไฟที่เห็นก็เป็นความเชื่อว่ามาจากธรรมชาติหรือมาจากพญานาคก็ได้ หรืออาจจะมีคนยิงปืนผสมก็ได้ 9) ไม่มีใครรู้ว่าพญานาคเคลื่อนที่แบบไหน มีแต่ร่องรอยที่เชือว่าเป็นพญานาค 10) พุทธศาสนามีความเป็นวิทยาศาสตร์ จุดหมายของพุทธคือ ทำดีไม่ทำชั่วจิตผ่องใส ดับทุกข์ 11) ธรรมชาติของปุถุชนที่ยังไม่บรรลุอนาคามี ย่อมมีโกรธมีโทสะไม่พอใจ เป็นเรื่องธรรมดา ถ้ายังไม่ได้โสดาบันย่อมมีโอกาส ศีลไม่สมบรูณ์ 12) ถ้าไม่ปริยัติ ไม่ปฏิบัติ ไม่ปฏิเวธ ยังไงก็มีความโง่บังอยู่ ยังมีอวิชชาทุกคน 13) พลังวิเสษ หรือ อภิญญา วิชชาสาม วิชชาแปดมีอยู่จริง ประโยชน์เพื่อเกื้อกูฃในโลกุตตระธรรม มิใช่โลกียะ แบบปุถุชน (ถ้าเพื่อลาภสักการะให้มองเป็นของปลอมไว้ก่อน) จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 15:33:24

ความคิดเห็นที่ 102 เรื่องตาบอดคลำช้าง เอาจริงๆ คงโดนช้างโฉบไปกินหมด ที่เหลือก็คงเป็นถุงมือช้าง จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 15:36:54

ความคิดเห็นที่ 103 #94 ... ตอบตามหลักความปลอดภัยในการใช้ปืน/ดำน้ำนะครับ 1) ยิงสะท้อนผิวน้ำ ..... ห้ามทำเพราะ ถ้าเจอมุมดีๆ มันข้ามฝั่งได้สบาย .... จะยิงเป็ดกลางแม่น้ำ ยิงไป คนนั่งตกปลาฝั่งตรงข้ามตาย T_T 2) ลอยเรือแล้วยิงจากกลางลำน้ำโขง 3) ลอยคอหรือดำน้ำลงไปแล้วยิงจากใต้น้ำ ..... น้ำจืดตอนกลางคืน อันตรายครับ ขนาดกลางวันดำลงไปนิดเดียวก็มองไม่เห็นอะไรแล้ว ถ้าเจอน้ำเชี่ยวก็จบข่าวเลย ดีไม่ดีจะกลายเป็นอาหารปลาใต้แม่น้ำไปซะเอง เท่าที่ดูแล้ว มีแค่ 1 กับ 2 ที่พอทำได้จริง และไม่อันตรายเกินไป แต่จะทำไปเพื่ออะไรครับ ???? ปล. ความรู้เพิ่มเติม...... กระสุนส่องแสงมีแบบที่ ยิงไปแล้วกระสุนเคลื่อนที่ไประยะนึงถึงเริ่มเผาไหม้ด้วยนะครับ เอาไว้ป้องกันการหาตำแหน่งของฝ่ายตรงข้าม ปล2. พระพุทธเจ้าเกิดก่อน พระไตรปิฎก ประมาณ 80 ปี ............ช่วงนั้นใครเป็นคนบันทึกการคลอด, บันทึกลงอะไร, บันทึกวันที่เท่าไหร่ และ ยังมีหลักฐานนั้นเหลืออยู่อีกหรือไม่ ความเข้าใจของผมคือ การเดิน 7 ก้าวมันเป็นการเปรียบเทียบไม่ได้เดินจริงๆนะครับ จากคุณ : ginosty เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 16:17:49

ความคิดเห็นที่ 104 พระไตรปิฏก ก็โดนแก้ตั้งแต่สังขยานาครั้งแรกแล้วครับ ต้องไปหาพระไตรปิฏกแท้ก่อนแก้ ซึ่งคงไม่มี จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 16:31:35

ความคิดเห็นที่ 105 คห.44 นั้นพญานาค จำแลง มาใช่ไหม จากคุณ : ตัวละครลับจริงๆนะ เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 17:38:53

ความคิดเห็นที่ 106 เราก็ไม่ค่อยชอบล้างรถ ถ้าเจอรอยแบบนี้ เราคิดว่าเรากลัวนะ กลัวว่าจะมีงูอยู่ในรถอ่ะ ต้องช็อคตายแน่ๆ จากคุณ : Alex on the rock เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 21:55:21

ความคิดเห็นที่ 107 อยูที่การตีความ คนที่เชื่อกัยคนที่ไม่เชื่อ ก็ตีความกันคนละแบบ ลองตีความนี้ดู ครับ พระพุทธเจ้า ทรงตรัสกับพวกสาวกว่า "........" ผมตีความว่า   ทรงไม่ตรัสกับสตรีสูงอายุ...อิ อิ จากคุณ : juti เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 03:07:33

ความคิดเห็นที่ 108 เห็นข่าวที่เจอรอยที่อยุธยา พญานาคนี่ไปไกลจังเลยนะ ไปเรื้อยอะไรในบ้านร้าง คนเรานี่ก็แปลก ไม่คืดบ้างหรอว่ามันจะเป็นสัตว์อื่น เห็นรอยทีก็บอกเป็นพญานาคไปหมดละ ไฟแช็คยังทำไฟลอยได้เลย จากคุณ : โดราลิบ เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 03:52:21

ความคิดเห็นที่ 111 อิอิ จากคุณ : noterin เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 12:52:24