 |
เคยมาพิมพ์เล่าไว้หลายหนแล้ว เรื่องลูกไฟแม่น้ำโขงเนี่ย พิมพ์จนจะเบื่อแล้วเนี่ยเพราะไม่นานกระทู้ก็ตกหายไปเปล่าๆ
ผมไปดูมา 3 หน แล้วก็ได้เห็นเจ้าลูกไฟที่ว่านี้ทุกครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่าร้อยลูก ใช้เวลาดูครั้งหนึ่งแค่ 2 ชั่วโมง แล้วต้องกลับออกมาเพราะกลัวรถเยอะ คือเริ่มดูตั้งแต่โพล้เพล้ราว 6 โมงเย็น ถึงประมาณแค่ 2 ทุ่มก็กลับ
ตำแหน่งที่ดูคือท่าน้ำวัดไทย อ.โพนพิสัย ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่มีคนไปรอดูกันเยอะมาก
ประมาณปี 49 มั้ง (จำปีพศ.แน่นอนไม่ได้) ลูกไฟที่ว่านี่ พุ่งขึ้นริมตลิ่งท่าน้ำวัดไทยนั่นเอง โดยจุดที่พุ่งขึ้นอยู่ห่างจากฝั่งออกไปแค่ประมาณ 2 หรือ 3 เมตร โดยพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ณ จุดนั้นถึง 4 ลูกติดๆกัน เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ถูกเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะริมตลิ่งตรงนั้นมีหลอดไฟนีออนยาวตั้งไว้ที่ริมตลิ่งอยู่ ทำให้ได้แสงสว่างส่องให้เห็นผิวน้ำและพื้นที่โดยรอบชัดเจน ทำให้ยืนยันได้เลย ว่าไม่มีใครอยู่ในน้ำตรงนั้น แล้วก็ไม่มีอะไรดำผุดดำว่ายอยู่แถวนั้น กับทั้งไม่มีอะไรที่ควรจะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือจุดหรือดีดลูกไฟเหล่านี้ขึ้นมาจากน้ำได้เลย
ขอยืนยันจากประสบการณ์ตรง ว่าลูกไฟดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากใต้น้ำอย่างแน่นอน โดยมันเหมือนเป็นอะไรบางอย่างที่มีขนาดพอสมควร ถูกปล่อยขึ้นมาด้วยความแรงและเร็วมาก เพราะมันสามารถทำให้มีน้ำกระจายตามขึ้นไปด้วยสูงประมาณถึง 2, 3 เมตร เสียงที่ได้ยินในตอนนั้นเหมือนกับอะไรที่มีแรงดันสูงๆ ถูกพ่นออกมาจากที่เก็บดัง พุ่บ ๆ ๆ ๆ (ตามจำนวนลูกไฟ) เสียงที่เกิดขึ้นมีปนเปไปกับเสียงการสาดกระจายของน้ำด้วย โดยในระดับด้านล่างๆนี้จะยังมองไม่เห็นว่ามีดวงไฟเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่เมื่อพ้นจากระดับยอดของน้ำที่กระจายขึ้นไปเล็กน้อย จะปรากฏขึ้นเป็นดวงไฟสีแดงอมชมพูอย่างที่ได้เห็นๆกัน โดยจะพุ่งสูงต่อเนื่องขึ้นไปตามทิศทางนั้นๆอย่างเร็วแต่ไม่มีเสียงแหวกอากาศให้ได้ยิน ก่อนจะหายไปเฉยๆ แบบลูกไฟที่ไม่มีควัน และไม่มีลักษณะของสะเก็ดไฟใดๆออกมาจากลูกไฟดังกล่าว
เรื่องนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาคนที่อยู่บนท่านั้นเป็นพันๆคนในปีนั้นเป็นสักขีพยานบุคคลได้ หนึ่งในนั้นคือพิธีกรของวัดซึ่งคุมไมค์ คอยให้เสียงพากย์อยู่บนตลิ่งวัดไทยนั่นเอง ที่บอกได้เพราะเขาได้พูดถึงเหตุกาณ์นี้ออกไมค์ตอนกำลังเกิดเหตุการณ์นี้ด้วย
แต่เชื่อว่าไม่มีใครหยิบกล้องขึ้นถ่ายรูปนี้ได้ทันหรอก เพราะความไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นลูกไฟดังกล่าวมาเกิดขึ้นใกล้ตลิ่งให้ได้ดูกันแบบจะๆตาขนาดนั้น
ปล. มาเล่าสิ่งที่ได้เห็นมากับตาอย่างนี้แหละ เกิดขึ้นเพราะอะไรยังไม่รู้แน่ แต่ก็รู้สึกดีที่มีสิ่งอย่างนี้เกิดขึ้นในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 01:42:35
จากคุณ |
:
รู้สึกตัว
|
เขียนเมื่อ |
:
1 พ.ย. 55 01:39:15
|
|
|
|
 |