ความคิดเห็นที่ 1 โครงการที่ก้าวหน้าที่สุดของ Seti มีการวางระบบแบบแผนขั้นตอน เงื่อนไขและวิธีการสำรวจ ตามหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ โดยดำเนินการสำรวจด้วยสัญญานคลื่นวิทยุระยะไกลจากโลกมานับ 20 ปี ซึ่งเราเคยได้รับคลื่นตอบรับเพียงครั้งเดียว เรียกสัญญาณนั้นว่า Wow แม้ถูกมองว่าเป็นโครงการที่อาจไม่ได้ผล แต่มีวิธีอื่นที่ดีกว่าหรือไม่ การใช้ยานสำรวจก็เพิ่งเริ่มต้น อย่างน้อยมนุษย์สามารถข้ามออกไปสู่ระบบสุริยะอื่นคงใช้เวลาอีกร้อยปีและระบบของ Seti จะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า แทนที่ต้องขับรถไปหาเพื่อน แต่เราใช้โทรศัพท์โทรไปคุย ผลเบื้องต้นได้เช่นกัน การสืบค้นทางสัญญานวิทยุระยะไกลนั้นมีข้อจำกัดคือ การเดินทางของคลื่นเสียงช้ากว่าคลื่นแสง เรายังไม่แน่ใจเลยว่าตลอดเวลา ตั้งแต่วันแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ได้ส่งคลื่นสัญญานออกไป ได้พ้นขอบสุริยะหรือยัง ??? Wow จากวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นการตอบโต้จากโลกอื่น เมื่อ 15 สิงหาคม ค.ศ.1977 เป็นครั้งเดียวที่ได้เกิดขึ้น จนปัจจุบันนี้ ยังไม่มีการพบเพิ่มเติม ...... แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 10:53:43 จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 10:51:41

ความคิดเห็นที่ 2 คำว่า โลกอื่น มิใช่ต้องเหมือนหรือคล้ายโลกเพียงแต่เป็น ดาวเคราะห์ ซึ่งมีหลายประเภท อย่างน้อยที่สุดในขณะนี้ ได้มีข้อมูลจากการสำรวจดาวเคราะห์อื่น จากการพัฒนาอุปกรณ์ สำรวจระยะไกล เรียกว่า Planets’ light spectra (การวิเคราะห์ค่าแสงของวัตถุ โดยการแยกสีของดาวเคราะห์) ประเด็นสำรวจสภาพบรรยากาศได้เจาะจงสู่ Photosynthesis (การเปลี่ยนทางเคมีโดยอาศัยแสง เช่น บนโลกคือการสังเคราะห์แสง) ทำให้สามารถพิจารณาลักษณะเฉพาะของทางธรรมชาติชีววิทยาได้ ดังนั้นจึงมองเห็นลู่ทางความเป็นไปได้ของข้อมูล ที่อาจแสดงออกมาว่ามีคล้ายคลึงกับโลกมากน้อยเพียงใดหรือบางกรณี สภาพบรรยากาศอาจมีความร้อนสูง ไม่ได้หมายความว่าสิ่งมีชิวิตอยู่อาศัยไม่ได้ โดยแม้แต่บนโลกได้มีรายงานที่น่าแปลกใจจาก NASA and Jet Propulsion Laboratory สรุปแหล่งดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์บนโลกในสถานะที่ไม่น่าเป็นไปได้ ค่าของคลื่นแสงตามปกติในชีวิตประจำวันบนโลก มีความต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของแหล่งแสง ........ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 11:01:55 จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:00:14

ความคิดเห็นที่ 3 เพราะฉะนั้นการสืบค้นถึงการพัฒนาการทางธรรมชาติของโลก นำเราไปสู่เบาะแสการเห็นสภาพบนโลกอื่นๆได้ว่าอนาคตข้างหน้าจะมีสภาพเป็นเช่นใดบ้าง ราว 3,000 - 4,000 พันล้านปีก่อนหน้านี้ ได้กำเนิดโลกดึกดำบรรพ์ โดยยังไม่มีสีเขียวและต้นไม้ใดๆ ส่วนใหญ่บนพื้นผิวโลก ถูกห่อหุ้มไปด้วยรังสีอันตรายเป็นจำนวนมากซึ่งดูดกลืนแสงไว้ จึงไม่สามารถผลิตก๊าซออกซิเจน ครั้งแรกกำเนิดโลกเมื่อ 4.5 พันล้านปี เต็มไปด้วยรังสีที่เข้มข้น และร้อนอยู่มาก ..... แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 11:06:03 จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:04:58

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากนั้นถัดมาอีกหลายแสนปี จึงเกิด Bacteria ขึ้นมากมายแพร่ขยายออกไปทั่ว ทำให้เกิดก๊าซออกซิเจนตามขึ้นมา เริ่มต้นเกิดรูปแบบโครงสร้าง Chlorophyll (ธาตุสีเขียว) แต่ยังไม่สมบรูณ์ ยังไม่เป็นสีเขียวในทันที มีพัฒนาการอย่างช้าๆที่ละน้อย ในเวลาต่อมา   เริ่มต้นลักษณะของหินและ Bacteria ได้ปรากฏขึ้น .......... จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:08:00

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อมาราว 1,500 ล้านปี ได้เกิดสาหร่ายสีแดงและน้ำตาล (Red and brown algae) เป็นโครงสร้างที่สมบูรณ์ขึ้นของ Chlorophyll จนปรากฏเป็นสีเขียว ครั้งแรกเมื่อ 1,000 ล้านปีที่ผ่านมา เพราะความแข็งแกร่งของโครงสร้างได้รับแสงและดูดซึมน้ำ โลกจึงเกิดตะไคร่น้ำสีเขียว ตามพื้นที่ชุ่มชื้นก่อนเมื่อ 750 ล้านปีที่ผ่านมาแทนเห็ดราสีน้ำตาล แต่ก็ยังไม่มาก เพราะยังไม่ลำต้นและราก ในหลายพื้นที่ยังขาดแคลนน้ำ กระทั่ง 420 ล้านปีที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนโลก เกิดพืชพันธุ์ไม้จำพวกหญ้า เฟิน (Fern) และตะบองเพชรอย่างแท้จริง ด้วยมีแสงและน้ำเพิ่มมากทั่วไปบนโลก ปัจจุบันสามารถพบร่องรอย Red and brown algae อายุ 3,000 ล้านปี อยู่ในภูเขาหินและใต้น้ำ ....... แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 16:12:36 จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:11:15

ความคิดเห็นที่ 6 ผลของการมองเห็นโลกอื่น สีน้ำตาลอมแดง ......... โลกในระบบสุริยะอื่น มีสีที่แตกต่างกันจากโลกของแน่นอน ทั้งนี้แต่ละสีสามารถบอกช่วงพัฒนาการหรืออายุของโลกอื่นได้ หากลองมองย้อนกลับไปดูโลกของเรา ครั้นกำเนิดยุคแรกๆ จะพบว่าเต็มไปด้วยการลุกไหม้ เช่นกันบนโลกอื่นๆ หากพบแบบเดียวกัน ก็ถือว่าเป็นเวลาที่เพิ่งกำเนิด หากถัดมา 2,000 -3,000 ล้านปีพบว่าโลกเรามีสีน้ำตาล โลกอื่นก็เช่นกันเพราะยังไม่ระบบการสังเคราะห์แสง ซึ่งโลกอื่นที่สำรวจพบใหม่ในขณะนี้มักมีสีน้ำตาล ระหว่างเริ่มเย็นตัวลง การสำรวจระยะไกลยังมีข้อจำกัดด้วยเหตุผลเพราะดาวเคราะห์ที่เย็นตัวจริงๆน่าจะมีอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อมีความร้อนน้อย การหาค่าความร้อนน้อยเป็นเรื่องยากในเทคนิคการสำรวจ จึงต้องหาดาวเคราะห์ ที่มีค่าความร้อนพอตรวจจับได้ หลังจากนั้นจึงพุ่งเป้าไปบริเวณใกล้เคียง เชื่อว่าดาวเคราะห์ที่เย็นตัว โคจรอยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วย อย่างไรก็ตามพื้นผิวของดาวเคราะห์ ไม่มีข้อจำกัด ความเป็นไปได้ของการสร้างเม็ดสี (Pigments) แต่ขึ้นอยู่กับ ประเภทสเปกตรัม (Spectrum) ดาวเคราะห์หรือ Host Star โคจรก็ส่งผลต่อรังสีของแสงด้วย ดาวเคราะห์ก๊าซในระบบสุริยะพิเศษ ประเภทเดียวกับดาวพฤหัสบดี ..... จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:18:11

ความคิดเห็นที่ 7 โลกอื่นที่อยู่ในกลุ่ม Habitable Zone .... คือ ดาวเคราะห์ ที่อยู่ในเขตที่สามารถดำรงชีพได้ โดยถือหลักว่ามีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ ประมาณ 1 AU. ระบบสุริยะมี 3 ดวงคือ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดังนั้น หากมีโลกอื่นที่มีระยะทางห่างจากดวงอาทิตย์ของตนเองประมาณ 1 AU. มีระดับอุณหภูมิคงที่ ก็สามารถเอื้อให้เกิดน้ำเหมือนโลกได้เช่นกัน หากเป็นเช่นนั้น อาจมีก๊าซออกซิเจน และมีระบบสังเคราะห์เหมือนโลกได้เช่นกัน สิ่งที่เห็นก็จะเหมือนบนโลกเช่นเดียวกัน ถึงกระนั้นแม้ว่าสำรวจพบตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว พบว่ามีความร้อนสูงและใกล้ดวงอาทิตย์มาก บางกลุ่มอยู่ระหว่างกาีรตรวจสอบและยืนยัน สิ่งที่น่าสนใจรายงานใหม่ เริ่มพบน้ำในบรรยากาศและดวงจันทร์ (ของโลกอื่น) มีสภาพอุณหภูมิเย็นและมีน้ำแข็ง   Habitable Zone ของระบบสุริยะเรา ........ จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:21:42

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่สำรวจพบในกาแล็คซี่ทางช้างเผือกขณะนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นดาวประเภท M Stars หรือ Red dwarfs (ดาวแคระสีแดง) เป็นจำนวนมาก มีการเปล่งของแสงน้อยกว่าดวงอาทิตย์ (ซึ่งเป็นประเภท G Stars) แต่มักมีการแผ่ขยายตัวเฉพาะรังสี Near-infrared มาก สมมุติว่ามีความเป็นได้ที่เกิดก๊าซออกซิเจนและมีระบบสังเคราะห์แสง ภายใต้รังสี Near-infrared มีองค์ประกอบทางเคมีร่วมกับโต้ตอบสัมพันธ์กับพื้นผิวหิน ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะพบสิ่งมีชีวิต และช่วงอายุน้อยของ M Stars มีการเปล่งรังสี Ultraviolet อย่างเข้มข้นและโชติช่วงมาก่อนหน้านี้ เช่นบนโลกเมื่ออดีต แหล่งกำเนิดชีวิตทั้งหลายเกิดจากใต้มหาสมุทรลึกด้วยความลำบากทั้งสิ้น เพราะต้องหลบหลีกรังสี Ultraviolet ความเข้มข้นจากดวงอาทิตย์และปราศจาก ชั้น Ozone ช่วยดูดซับรังสี Ultraviolet ในขณะนั้น ชั้น Ozone มีความหนาบริเวณ Arctic ด้านขั้วโลกเหนือ ขนาด 60% ของชั้นบรรยากาศและด้านขั้วโลกใต้ ขนาด 2.3 ล้านตารางกิโลเมตร (ตัวเลขเมื่อปี ค.ศ.2000) ........ จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:25:41

ความคิดเห็นที่ 9 ปาด ทันมั้ย จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:25:45

ความคิดเห็นที่ 10 บทสรุปเงื่อนไขการกำเนิดชีวิตบนโลกอื่น ณ ขณะนี้ ........ ระบบการสังเคราะห์แสงเป็นต้นทางให้โอกาสเกิดสิ่งมีชีวิตในทางชีววิทยาบนโลกอื่นได้ แต่ยังไม่ความชัดเจนนัก มโนภาพจากประสบการณ์เรียนรู้บนโลกเรายอมรับว่าต้นทางการก่อกำเนิดชีวิตทั้งหมดนั้น มาจากมหาสมุทรใต้ทะเลลึก บางอย่างในการสำรวจระยะไกล ยังไม่สามารถทราบถึงรายละเอียดมากนัก คงจะประเมินจากสภาพบรรยากาศเท่านั้น อนาคตคงสามารถแบ่งแยกการสังเคราะห์แสงบนโลกอื่นได้ว่ามีกี่ประเภท ขณะนี้มีข้อสรุปอยู่ภายใต้เงื่อนไขโอกาสเกิดได้ดังนี้ Anaerobic (แบบไม่ต้องการอากาศหายใจ) และAerobic (แบบต้องการอากาศหายใจ) ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุและ ประเภทลำดับชั้นของดาวและประเภทดาวเคราะห์ จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:34:15

ความคิดเห็นที่ 11 โหวตโลด จากคุณ : Dovahkiin เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:40:10

ความคิดเห็นที่ 12 1. ชีวิตในมหาสมุทร แบบไม่ต้องการอากาศหายใจ Host Star(ดาวหลักหรือดวงอาทิตย์) ทุกประเภทที่อายุน้อย Organism (สัตว์หรือต้นไม้) บนดาวเคราะห์นั้นๆไม่จำเป็นต้องใช้ก๊าซออกซิเจนชั้นบรรยากาศอาจจะมีก๊าซชนิดต่างๆ เช่น Methane (ก๊าซมีเทน) 2. ชีวิตในมหาสมุทร แบบต้องการอากาศหายใจ Host Star (ดาวหลักหรือดวงอาทิตย์) ทุกประเภทที่อายุเก่าแก่มากเมื่อเวลาล่วงเลยไป ดาวเคราะห์ในระบบนั้นๆ อาจมีระบบสังเคราะห์แสงด้วยก๊าซออกซิเจนจากพัฒนาการเริ่มต้นไปสู่บรรยากาศ ที่มีก๊าซออกซิเจนได้ 3. ชีวิตบนแผ่นดิน แบบไม่ต้องการอากาศหายใจ ดาวเคราะห์ในกลุ่ม M Star หรือมี รังสี Ultraviolet เล็กน้อย ด้วยพื้นดินมีพันธุ์พืชอาจไม่จำเป็นต้องใช้ก๊าซออกซิเจน 4. ชีวิตบนแผ่นดิน แบบต้องการอากาศหายใจ Host Star (ดาวหลักหรือดวงอาทิตย์) ทุกประเภท ที่มีพัฒนาการอย่างเต็มที่แล้วโดยมีดาวเคราะห์นั้นๆ เต็มไปด้วยพื้นดินที่มีพันธ์พืช ชีวิตจะมีโอกาสเกิดเหมือนโลกในระบบสุริยะได้ ซึ่งหากเราสังเกตหลักเกณฑ์การสำรวจระบบสุริยะอื่นๆ คำว่าชีวิตนั้นได้เริ่มเปลี่ยนความหมายไปแล้วว่าอาจไม่ต้องการอากาศหายใจ ......... สุดท้ายขอขอบคุณความรู้ดีๆจาก http://www.sunflowercosmos.org ครับ จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 11:41:23

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ  ^^ จากคุณ : Zenmaster_T เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 15:08:58

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ นะครับ แต่มีข้อผิดพลาดนิดหน่อย red and brown algae เป็นสาหร่ายนะครับไม่ใช่เห็ดรา รบกวนแก้เพื่อความถูกต้องไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิดครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : rijjina เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 15:55:07

ความคิดเห็นที่ 15 #14 ..... ขอบคุณครับ ได้แก้ไขใหม่ให้แล้ว จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 16:13:42

ความคิดเห็นที่ 16 เราเอาสาหร่าย แบคทีเรียทนๆ แมลงสาบไปทิ้งไว้ที่ดาวที่สภาพอากาศดีๆมั่งได้มะครับ อีกสักพันปีมันคงนั่งยานมาเที่ยวบ้านเราได้ จากคุณ : Dr.boyze เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 19:14:07

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นแว่บๆตอนสายๆ กลายเป็นกระทู้แนะนำแระ ลงชื่อค่ะ เพลียจากการเดินทาง ค่อยอ่านค่ะ จากคุณ : mangpongja เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 21:21:34

ความคิดเห็นที่ 18 เยี่ยมจริง ขอบคุณมาก ๆ ............... จากคุณ : ULtr@_PerioD (Moonlight-Eclipse) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 21:33:44

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอยากรู้มาตั้งแต่เด็กๆเลยค่ะ อยากรู้ว่าในอวกาศจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆเป็นแบบไหน ส่วนตัวเชื่อว่าอวกาศกว้างใหญ่ต้องมีสิ่งมีชีวิตอื่นแน่ๆ แต่ในสภาพที่แตกต่างกันกับโลกของเรา ทำให้สงสัยว่าสิ่งมีชีวิตจะเป็นแบบไหน จากคุณ : kypsan เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 23:11:54

ความคิดเห็นที่ 20 สุดยอดความรู้ประดับหัว ^^ ขอบคุณค๊าบบบ จากคุณ : ToTo UD เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 14:37:30

ความคิดเห็นที่ 21 we are not  alone in the universe. จากคุณ : wrought เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:51:42

ความคิดเห็นที่ 22 จินตนาการถึงโลกอื่นไม่ออก ขอเพียงได้ท่องเที่ยวไปในโลกเราใบนี้ให้เยอะๆก็วิเศษสุดๆแล้วค่ะ จากคุณ : mangpongja เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 19:30:27

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณครับบ    (  : จากคุณ : spyboy007 (spyboy007_forall) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 01:08:41

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : kaws เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 18:33:30

ความคิดเห็นที่ 25 จากคุณ : PasinUbon เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 11:27:50

ความคิดเห็นที่ 26 #1 "การสืบค้นทางสัญญานวิทยุระยะไกลนั้นมีข้อจำกัดคือ การเดินทางของคลื่นเสียงช้ากว่าคลื่นแสง เรายังไม่แน่ใจเลยว่าตลอดเวลา ตั้งแต่วันแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ได้ส่งคลื่นสัญญานออกไป ได้พ้นขอบสุริยะหรือยัง ???" ผมอ่านแล้วยังงงๆ นะครับ แต่ว่า สัญญาณวิทยุ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านะครับ ไม่ใช่คลื่นเสียง (ผมยังงงอยู่ว่าคลื่นเสียงที่ว่าคืออะไร มาจากไหน) และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับแสงครับ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 16:16:20

ความคิดเห็นที่ 27 มีความสุขทุกทีที่ได้อ่านอะไรแบบนี้  ผมเชื่อมาตลอดว่าน่าจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นในจักรวาล เป็นเรื่องของดาวอันไกลโพ้นที่ไม่ไกลตัวเลย จากคุณ : พุ่งกระฉูด เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 19:29:53

ความคิดเห็นที่ 28 รอสักวัน คงต้องเจอแน่ๆๆ จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 21:56:34

ความคิดเห็นที่ 29 #1 เทียบกับการส่งสัญญาณควัน น่าจะตรงกว่าโทรศัพท์ไปคุย (เพราะโทรไปคุยเราต้องรู้จักเบอร์ปลายทางก่อน) จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 09:36:19

ความคิดเห็นที่ 30 "การสืบค้นทางสัญญานวิทยุระยะไกลนั้นมีข้อจำกัดคือ การเดินทางของคลื่นเสียงช้ากว่าคลื่นแสง" คนหาข้อมูลมาทำบทความมั่ว หรือคนแปลมั่ว ฮะ เค้าส่งคลื่นวิทยุนะ ไม่ใช่คลื่นเสียง ที่สำคัญมันเดินทางเร็วพอๆกับแสงนั้นแหละ จากคุณ : จาบู้ ณ cmu เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 11:12:15

ความคิดเห็นที่ 31 ตั้งแต่ขุด stargate sg-1 มาดู ก็เริ่มคิดว่ามันอาจจะเป็นไปได้ที่ดาวอื่นมีคนอาศัยอยู่ แล้วเค้าก็คงสงสัยเหมือนที่เราสงสัยนี่ล่ะ จากคุณ : เมื่อไหร่จะมีชื่อที่ใครพอใจ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 23:06:01