ความคิดเห็นที่ 1 แผ่นที่2 จากคุณ : Precambrian (Precambrian) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 10:22:48

ความคิดเห็นที่ 2 แผ่นที่3 จากคุณ : Precambrian (Precambrian) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 10:23:16

ความคิดเห็นที่ 3 แผ่นที่4 จากคุณ : Precambrian (Precambrian) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 10:23:48

ความคิดเห็นที่ 4 หวังว่าสมาชิกห้องหว้ากอ จะได้รับประโยชน์จากเอกสารชุดนี้ ไม่มากก็น้อยนะครับ ส่วนหากต้องการโหลดต้นฉบับสามารถเข้าไปได้ที่ http://www.thaigeology.com/index.php?mod=content_detail&data=82 จากคุณ : Precambrian (Precambrian) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 10:25:43

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อมูลน่าสนใจแต่เนต3Gผมช้ามากเดี๋ยวไปที่ร้านจะไปอ่านดูนะครับขอบคุณที่มาโพสให้อ่าน จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 10:57:31

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ซื้อเพิ่มเลย 100 ต้นๆ ได้เพิ่มอีกเท่าตัว นึกว่ามีไม่กี่คนจะเล่นบนมือถือซะอีก จากคุณ : stlive เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 11:12:07

ความคิดเห็นที่ 7 กราฟ 3 มันเพี้ยนไปเยอะ เพราะขาดข้อมูลของประเทศรอบอ่าวเปอร์เซีย ที่มีการผลิตขนาดใหญ่ ดูมันใส่บาห์เรน ประเทศเล็กๆ กระจอกๆในนั้นเข้ามาอันเดียว พวกใหญ่ๆ มีนัยสำคัญไม่ใส่เข้ามาให้ดู ทั้ง ซาอุ อิรัก คูเวต อิหร่าน เจ้าฝรั่งคนทำกราฟร่วมกับกระทรวงฯนี่ นรกจริงๆ จากคุณ : แค่นี้ก็โดนฝรั่งเอาไปบาน เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 12:37:44 A:58.9.212.118 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 8 #7 จะให้เทียบกับประเทศที่มีกำลังผลิตเยอะๆ จนเหลือมาส่งขายให้ไทยได้ยังไงล่ะครับ? มันก็ต้องเทียบกับประเทศที่กำลังผลิตพอๆกับไทย ว่าส่วนแบ่งรายได้ ใกล้เคียงกันไหม จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 13:34:55

ความคิดเห็นที่ 9 #8 นั่นแหละที่ทำให้งง ระดับกลาง ๆ คืออะไร ? เมื่อเทียบกับอะไร ? แล้วในกราฟมีบอกหรือว่าเทียบกับประเทศที่มีกำลังผลิตใกล้เคียงกับไทย ? ประเทศต่าง ๆ ที่ยกมี มานัยยะอะไรที่ใกล้เคียงถึงยก มีพูดด้วยหรือไม่ ? และกำไรจำเป็นต้องมีมากขนาดนั้นถึงกระตุ้นการลงทุนในด้านนี้ต่ออย่างนั้นหรือ ? ปรกติธุรกิจต่าง ๆ จำต้องคิดถึงอนาคตอยู่แล้ว การไม่เตรียมหาแหล่งใหม่เลยต่างหากที่น่าแปลก ขนาดผู้รับเหมาก่อสร้างในปัจจุบันเองยังรับงานที่"เท่าทุน"เพื่อให้อยู่รอดเลย แต่บริษัทน้ำมันนี้กลับต้องมีกำไรต้อง50-70% ถึงจะยอมทำต่อ มันไม่น่าแปลกงั้นเหรอ ? หรือจะบอกว่า 50-70% คือเงินที่จะใช้สำรวจแหล่งใหม่ ? อ้าว ? ปรกติเงินส่วนนี้ต้องรวมอยู่ในส่วนต้นทุนด้วยไม่ใช่เหรอ ? เวลาเสียภาษีมันจะได้เสียน้อย ๆ เพราะผลกำไรสุทธิลดลงแบบที่ควรจะเป็น เช่นกัน กราฟของประเทศอื่น เอามาด้วยมาตรฐานเดียวกันไหม ? ต้นทุนการสำรวจเอาไปรวมด้วยหรือไม่ ? ที่สำคัญ น้ำมันในไทย ผูกขาดอยู่เจ้าเดียว ไม่มีคู่แข่ง (ยี่ห้ออื่นก็ต้องซื้อน้ำมันมาจากรายนี้) ดังนั้นมันจะมีการพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้นได้อย่างไร ? ในเมื่อไม่มีอะไรมากระตุ้นให้ต้องพัฒนาตัวเองเลยแม้แต่น้อย ? กลับกันหากมีคู่แข่ง ยังไงหากไม่อยากจะหายไปในตลาด ก็ย่อมจะพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งในที่นี้ไม่ว่าจะราคาหรือคุณภาพต่างก็จะเป็นมิตรกับผู้บริโภคกว่าในปัจจุบันแน่ หนำซ้ำทางภาครัฐเองก็จะอุ้มธุรกิจด้านนี้น้อยลงด้วย จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 14:14:20

ความคิดเห็นที่ 10 น้ำมันในไทยผูกขาดเจ้าเดียวไม่มีคู่แข่ง? ไม่ว่าจะระดับUpstreamที่สำรวจและผลิตก็มีหลายเจ้าทั้งไทยเทศ ระดับDownstreamที่ซื้อน้ำมันมากลั่นต่อหรือทำผลิตภัณท์อื่นๆหรือแค่เอามาขายตามปั้มก็มีหลายเจ้าทั้งไทยเทศ บริษัทสำรวจและผลิตในประเทศที่ใหญ่ที่สุดและมีปริมาณปิโตรเลียมสำรองมากที่สุดเป็นบริษัทของต่างชาติ บริษัทปิโตรเลียมที่เปิดมานานที่สุดในไทยก็เป็ฯของต่างชาติ หลายๆบริษัทต่างชาติที่ทิ้งธุรกิจนี้ในไทยไปด้วยคำว่า"ขายให้บริษัทคนไทย"เค้าทิ้งเพราะประเทศเราแหล่งมันกระจอกมากเมื่อเทียบกับแหล่งอื่นๆทั่วโลกที่บริษัทระดับเค้ามี ไม่ได้ขายเพราะเราไปบังคับซื้อเค้า เวลาที่พูดว่าประเทศไทยผลิตปิโตรเลียมในประเทศได้เท่านู้นเท่านี้ต่อวัน ตัวเลขนี้ไม่ใช่เป็นของบริษัทไทยแห่งนั้นที่เดียวหากแต่รวมถึงทุกแหล่งในไทยของทุกบริษัททุกชาติทั้งหมด น้ำเปล่าลิตรนึงราคา10บาทโดยที่ค้นทุนคือน้ำประปา+ค่าโฆษณา+ค่าขนส่ง+ค่าจัดการ+กำไร น้ำมัน1ลิตร มาจากค่าสัมปทานของบริษัทสำรวจปิโตรเลียม ค่าสำรวจพื้นที่ ค่า ขุดทดสอบ ค่าความเสี่ยงที่อาจจะไม่เจอเลยสักหลุมหรือถึงเจอก็ไม่คุ้มที่เอามาใช้ ค่าเจาะหลุมสำรวจเบาะก็เป็นล้านเหรียญเจอไม่เจอไม่สน ถ้าโชคดีเจอก็ต้องสร้างแท่นผลิตเป็นหมื่นล้าน จัแจงเส้นทางการขนส่ง เข้าโรงกลั่นเสียค่ากลั่น สร้างปั้มน้ำมัน รวมค่าจัดการกว่าจะถึงผู้บริโภครายย่อย นี่ยังไม่รวมภาษีอีกกี่ต่อกับค่าตอบแทนที่ต้องให้รัฐอีกกี่ทอดแบบที่เอกสารข้างบนกล่าว มาถึงวันนี้ E85ราคายี่สิบต้นๆ E20ราคาสามสิบต้นๆ ดีเซลเรี่ยๆสามสิบ ทั้งหมดนั้นเป็ฯค่าบ้าค่าบอรวมอยู่ในนั้นหมดแล้ว ธุรกิจอะไรตรวจสอบได้ถึงกระทั่งเลเวลค่าการตลาด จะชอบใครเกลียดใครไม่มีใครว่าแต่อย่าเผาบ้านตัวเองโดยไม่จำเป็น บริษัทไทยที่คุณมองว่ามันรวยนักรวยหนามันไม่ได้ขี้เล็บกับที่อยู่ที่ตึกแบ้งค์ม่วงสำนักงานใหญ่ที่เป็นเจ้าของreserveมากกว่า50%ของไทยเลย คุณจะเอาไอ้บริษัทไทยนี่ไปถ่วงให้ราคาของบริษัทต่างชาติอื่นขายถูกลง? มันก็เหมือนเอาโชว์ห่วยไปลดราคาเกทับแมคโคร มีแต่ตายกับตาย ที่ผ่านมามีตั้งกี่ครั้งที่มีบ้าจี้ลดราคาอยู่แค่2บริษัทต่างชาติที่เหลือเค้าแคร์ซะที่ไหน เค้าก็รู้อยู่ว่าเอ็งจะมีเยอะกว่าข้าได้ซักกี่น้ำ ไอ้ที่มีบริษัทไทยขายชาติอยู่เนี่ย ก็มีไว้ขู่มันนิดนึงว่า ไม่ใช่gvH'จะคิดปิดแท่นปิดท่อเมื่อไหร่มาแบลคเมล์ประเทศนี้ได้นะเฟ้ยพวกหัวทอง เอ็งปิดข้าก็ยังไปได้ถึงแม้จะไม่นานนักก็เถอะ จากคุณ : POR_SK116 เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 15:14:16

ความคิดเห็นที่ 11 # ซ่อนนาม ก่อนอื่นลองหาข้อมูลเบื้องต้นก่อนนะครับ ไม่งั้นจะคุยไปคนละเรื่อง บ.ผู้ได้รับสัมปทานการขุดเจาะในอ่าวไทย ไม่ได้มีแต่ปตท.สผ.นะครับ(ต้องบอกว่าส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง) โรงกลั่นน้ำมันในไทย ไม่ได้มีแต่ของปตท.นะครับ มีของไทยเองก็หลายเจ้า ของฝรั่งก็มี(จริงๆเมื่อสิบปีก่อนฝรั่งมันขายเลหลังให้ปตท.ด้วยซ้ำ เพราะขาดทุนมาก) บ.ผู้ค้าน้ำมันในไทย ไม่ได้มีแต่ปตท.เจ้าเดียวนะครับ บางจาก เอสโซ่ คาร์ลเท็ก เชลล์ ปิโตรนาส และรายย่อยอีกหลายเจ้า(บ.ปตท. ขึ้นราคาทีหลัง และลดราคาก่อนบ.น้ำมันต่างชาติเสมอนะครับ) ก่อนจะว่าผูกขาด ผมว่าเรามองกว้างๆก่อนว่ามีผู้เล่นกี่คนในตลาดบ้าง? ถ้าเข้าใจข้อเท็จจริงพื้นฐานผิดพลาด มันก็จะทำให้เกิดอคติไปผิดๆทุกเรื่องครับ จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 16:34:04

ความคิดเห็นที่ 12 พลังไทย "เพื่อไทย" ชัดเจนนะครับ โอเคร 555 จากคุณ : เทส เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 16:40:08 A:27.55.169.131 X: TicketID:378274

ความคิดเห็นที่ 13 #10 #11 โอเค รับทราบ ต้องยอมรับว่าข้อมูลที่ได้มาเป็นข้อมูลที่ฉาบฉวยฟังจากคนอื่นมาเหมือนกัน เพราะเหตุนี้ เพื่อไม่ให้เข้าใจผิดต่อ อยากทราบข้อมูลเพิ่มว่า 1 "ปัจจุบัน" บริษัทใดที่กำลังทำการค้นหาแหล่งน้ำมันดิบใหม่ หรือครองแท่นขุดเจาะอยู่ - เป็นบริษัทที่ปตท.จัดหาเอง หรืออื่น ๆ และกำไรของบริษัทพวกเขาเท่าไหร่ ? 2 บริษัทจาก 1 ขายให้โรงกลั่น "ของใคร" ในปัจจุบันบ้าง และมีผลกำไรเท่าไหร่ - ทั้งนี้ขอแยกเป็นในประเทศกับต่างประเทศ โดยตปทไม่ต้องละเอียดก็ได้ 3 โรงกลั่นจากข้อ 2 ขายน้ำมันให้ปั๊มใดในอัตราส่วนเท่าไหร่ และได้กำไรแค่ไหน 4 และกำลังการขายของน้ำมันจากคู่ค้าอื่น มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตลาดน้ำมันไทยแค่ใด ? ปล. เนื่องจากขี้เกียจหาข้อมูลเลยต้องขอให้ผู้ที่รู้เรื่องอยู่แล้วมาช่วยนี่แหละ ปล.2 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถามไป ก็ไม่ได้ผิดอะไรตรงไหนไม่ใช่หรือ ? ระดับกลาง ๆ ที่ว่า เทียบกับอะไร ? ประเทศในกลุ่มไหน ? (ทำไมในกราฟไม่มีบอก) เรื่องอะไร ? (ค่าMean ค่าเฉลี่ย ของกำไรสูง-ต่ำ หรือประเทศ) แน่นอน รวมถึงย่อหน้าบน ๆ ที่ไม่ใช่สองย่อหน้าสุดท้ายด้วย ทำไมถึงต้องมีกำไรมากก่อนถึงอยากให้ทำต่อ ในเมื่อปตทเป็นบริษัทของไทย ? ส่วนบริษัทต่างชาติก็ไม่แปลกเพราะมีทางเลือกอื่นอยู่แล้ว ก็ไม่เถียงว่ายิ่งกำไรมากก็ยิ่งดีอยู่แล้วล่ะ แต่ปตทมีสิทธิ์เลือกขายประเทศอื่นก่อนไทยด้วยเหรอ ? ถึงต้องให้มีกำไรมากไว้ก่อนขนาด 50-70% ถึงจะยอมดำเนินธุรกิจต่อ ? จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 17:16:32

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเริ่มงง ตรงไหนเหรอครับที่บอกว่าต้องได้กำไร50-70%? ถ้าพูดถึงกราฟใน#3 นั่นเค้าเอาให้ดูว่าแต่ละประเทศรัฐได้เท่าไหร่เอกชนได้เท่าไหร่จากการทำปิโตรเลียมนี่ครับ สีแดงคือสัดส่วนที่รัฐได้ซึ่งสำหรับประเทศไทยมีตั้งแต่75%เมื่อกิจการปิโตรเลียมในปีนั้นดีเกอนคาดตามหลักเกณฑ์การคิดค่าภาคหลวงใน#2 กับให้ตายต่ำสุดยังไงรัฐก็ยังได้50%นี่ครับ ส่วนข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับปิโตรเลียมในไทยเชิญที่นี่ครับ http://www.dmf.go.th/index.php?act=petroleum&sec=concession จากคุณ : POR_SK116 เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 17:53:51

ความคิดเห็นที่ 15 #14 อุ๊ยตาย อ่านอีกที อ่านผิดนี่นา ขอจรลี ไปเก็บเศษหน้าเล็กน้อย (ก็ตอนอ่านดันแอบอู้งานมานี่นา ) แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อแลกกับการสูญเสียใบหน้าที่แหลกละเอียดไปแล้ว ขอถาม คำถามเดิมอีกครั้ง 1 "ปัจจุบัน" บริษัทใดที่กำลังทำการค้นหาแหล่งน้ำมันดิบใหม่ หรือครองแท่นขุดเจาะอยู่ - เป็นบริษัทที่ปตท.จัดหาเอง หรืออื่น ๆ และกำไรของบริษัทพวกเขาเท่าไหร่ ? 2 บริษัทจาก 1 ขายให้โรงกลั่น "ของใคร" ในปัจจุบันบ้าง และมีผลกำไรเท่าไหร่ - ทั้งนี้ขอแยกเป็นในประเทศกับต่างประเทศ โดยตปทไม่ต้องละเอียดก็ได้ 3 โรงกลั่นจากข้อ 2 ขายน้ำมันให้ปั๊มใดในอัตราส่วนเท่าไหร่ และได้กำไรแค่ไหน 4 และกำลังการขายของน้ำมันจากคู่ค้าอื่น มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตลาดน้ำมันไทยแค่ใด ? ตามนี้แหละ ถ้าได้ข้อมูลมา เวลามีกระทู้ทำนองนี้อีก จะได้อัพเดทข้อมูลใหม่ล่าสุดสักที จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 19:19:49

ความคิดเห็นที่ 16 #15 1. ทุกบริษัทก็พยายามค้นหาแหล่งใหม่อยู่ตลอดแหละครับมันเป็นKPIของบริษัทพวกนี้อยู่แล้วที่จะต้องเพิ่มปริมาณสำรองให้กับportfolioตัวเองไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ส่วนจะนำมาผลิตเท่าไหร่เมื่อไหร่นั่นอีกเรื่อง ส่วนเครื่องแท่นขุดเจาะผมไม่แน่ใจว่าคุณหมายถึงแท่นผลิตปิโตรเลียมรึเปล่าถ้าใช่ทุกบริษัทก็ต้องมีเป็นของตัวเองสำหรับทุกแหล่งผลิตของเค้าอยู่แล้วครับ แต่ถ้าหมายถึงแท่นขุดเจาะที่เอาไว้ขุดสำรวจจริงๆจะมีบริษัทเฉพาะทางเอาไว้ให้outsourceครับ ส่วนผลกำไรอยากดูของบริษัทไหนเข้าเวปเค้าได้เลยครับเค้าประกาศไว้ในหมวดผู้ถือหุ้นอยู่แล้ว 2. ไม่มีการบังคับว่าต้องไปเข้าโรงไหนนะครับมีแต่ว่าประสิทธิภาพของแต่ละโรงไม่เท่ากันซึ่งบางโรงอาจจะไม่สามารถกลั่นให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการได้เทียบกับที่อื่นและไม่ได้จำกัดการกลั่นอยู่เฉพาะปิโตรเลียมในประเทศ ใครจะเข้ามาก็ได้ รายได้ก็เช่นกันเข้าเวปเค้าได้เลยครับ 3. โรงกลั่นมีรายได้จากค่าการกลั่นครับไม่ได้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่กลั่นได้ คนที่ส่งมากลั่นก็จะนำไปขายต่อหรือไปแปรรูปต่อเองครับ ซึ่งตรงนี้จะมีหลากหลายทางมากทั้งน้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติค อีกมากมาย ตรงนี้ลองsearchหาคำว่า petroleum value chainดูได้ครับ 4. ผมไม่ค่อยเข้าใจคำถามนี้เท่าไหร่แต่ถ้าหมายถึงว่าเค้าโดนบริษัทขายชาติเราเอาเปรียบมั้ย ผมจะบอกว่าพวกนี้ทุกคนแข่งกันที่หน้าทีวีกับหน้าปั้มแต่จูบปากกันตอนที่สำรวจและผลิตครับ ลองสังเกตุดูได้ว่าน้อยมากที่แหล่งปิโตรเลียมเกิดใหม่หนึ่งๆจะเป็นของบริษัทใดบริษัทหนึ่งเจ้าเดียวเพราะเค้าก็ร่วมมือกันสำรวจเพื่อลดความเสี่ยงเหมือนกันครับ ถูกลอตเตอรี่ยังจะง่ายกว่าขุดเจอแหล่งที่ใช้ได้เลย อีกอย่างราคาหน้าปั๊มมันมีขั้นตอนการคิดภาษีมาอีกหลายขั้นตอน น้ำมันบางประเภทที่รัฐสนับสนุนเช่นแกซโซฮอลล์ เวลาคุณเติมที่บริษัทขายชาติทุกๆลิตรรัฐก็ต้องจ่ายสมทบแทนคุณให้บริษัทแต่มันก็จะกลับไปหารัฐอีกทีเพราะรัฐก็เป็นเจ้าของอยู่ แต่ถ้าคุณเติมที่บริษัทต่างชาติเงินสนับสนุนที่เค้าก็ต้องได้เหมือนกันก็ออกจากไทยไปหาเค้าเต็มๆครับ รายละเอียดโครงสร้างราคาน้ำมันละเอียดถึงรายวันของไทยดูที่ลิ้งค์นี้ได้ครับเลือกวันที่เอาเลย http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html ขอบคุณที่สนทนากันดีๆนะครับ :) จากคุณ : POR_SK116 เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 55 22:33:00

ความคิดเห็นที่ 17 #16 ขอบพระคุณมาก จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 08:17:41

ความคิดเห็นที่ 18 ภาษีในบ้านเราเก็บหลายซ้อนมาก รวมถึงเงินเอาไปอุดหนุนราคาอีก จากคุณ : kunimitsu69 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 16:32:24

ความคิดเห็นที่ 19 รายชื่อ/ที่อยู่สำนักงานบริษัทผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมในประเทศไทย กลุ่มบริษัท เฮสส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กลุ่มบริษัท อพิโก แอลแอลซี กลุ่มบริษัท บีจี เอเชีย แปซิฟิก พีทีอี จำกัด กลุ่มบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น จำกัด กลุ่มบริษัท แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด กลุ่มบริษัท เพิร์ล ออย (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัท ซิโน-ยูเอส ปิโตรเลียม อิงค์ กลุ่มบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต กลุ่มบริษัท คริสเอ็นเนอร์ยี่ ออย แอนด์ แก๊ซ (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มบริษัท ซาลามานเดอร์ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มบริษัท คาร์นาร์วอน ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด กลุ่มบริษัท เจเอสเอ็กซ์ เอ็นเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มบริษัท นอร์ธเทิร์น กัลฟ์ ออย (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ็กซอนโมบิล เอ็กซ์โพลเรชั่น แอนด์ โพรดักชั่น โคราช อิงค์ บริษัท CEC International, Ltd. บริษัท พลังโสภณ จำกัด บริษัท ออเร้นจ์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด บริษัท โททาล อี แอนด์ พี ไทยแลนด์ บริษัท อดานิ เวลสปัน เอ็กซ์พลอเรชั่น ลิมิเต็ด บริษัท อินเทอร์รา รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท Twinza Oil Limited บริษัท อ่าวสยามมารีน จำกัด บริษัท Sun Resources NL บริษัท มิตรา เอ็นเนอร์ยี่ ลิมิเต็ด บริษัท เทเท็ก ไทยแลนด์ แอลแอลซี บริษัท Shaanxi Yanchang Petroleum (Group) Co.,Ltd บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด ........................................................................ คือผมสงสัยว่ารายได้ที่เข้ารัฐ 55% ที่ว่านี่ คิดจากรายได้ของพวกบริษัทข้างบนที่ว่าใช่ไหมครับ คือผมสงสัยว่ารายได้ของพวกเขามันจบตรงไหน มันนับถึงรายได้จากน้ำมันที่เขาขายให้ผู้บริโภคอย่างเราๆไหมครับ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 55 23:57:01 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 55 23:51:25 จากคุณ : Tawatchoo (sunk_t) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 23:48:40

ความคิดเห็นที่ 20 รายได้ของพวกนี้จบลงที่การขายทอดแรกครับ ส่วนใหญ่ก็ขายให้เจ้าที่จะนำไปขายหลังจากกลั่นหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นอีกครับ จากคุณ : POR_SK116 เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 11:35:30