ระบบนิเวศแห่งจักรวาล

    เคยนั่งนึกนะว่า
    ถ้าเราเอาหลังทาบกับผืนดิน แล้วนอนหงายทอดตาไปสู่บนฟ้า
    สิ่งที่เราจะเห็นก็คือ เราเป็นแค่เศษอณูนิดเดียวของจักรวาลเท่านั้นเอง

    ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย

    ดาวบางดวง .. อายุมาก
    จากแสงขาว กลายเป็นแสงเหลือง
    ดาวบางดวง .. ใกล้ดับ
    เป็นสีแดงกล่ำ

    ดาวเกิดดับ - เกิดดับ
    สม่ำเสมอในแต่ละช่วงเวลา

    จักรวาลก่อตัวขึ้นมากมาย
    ....
    หันมาดูเศษอณูเล็กนิดเดียว คือ มนุษย์เราบ้าง

    ร่างกายก็มีการผลัดเปลี่ยน
    ผลัดผิว ผลัดหนัง ผลัดไปตามวันเวลาและฤดูกาล
    มีการเกิดดับ - เกิดดับ

    เป็นภาวะของสรรพสิ่งและเป็นสิ่งธรรมดา

    วิถีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง

    บางคน ยึดติดกับสิ่งที่ตัวเองพึงปรารถนา
    และผลักสิ่งที่ตัวเองไม่พึงปรารถนาออกไป

    ทั้งที่ .. เป็นภาวะธรรมชาติ
    เกิดดับ - เกิดดับ
    แต่เราไปยึดว่า เป็นตัวเป็นตน
    ....
    ธรรมชาติมีระบบกลไกเพื่อให้สรรพสิ่งอยู่ได้อย่างสมดุลอยู่แล้ว
    และถ้าเราปรับตัว ปรับใจให้เข้ากับธรรมชาติได้
    ก็จะเกิดความสมดุล

    ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือว่า

    เราไปยึดว่า เราเป็นผู้ยิ่งใหญ่
    เป็นตัวเป็นตน ลืมนึกไปว่า เป็นเพียงหนึ่งเศษอณูเล็ก ๆ ในห้วงจักรวาลเท่านั้นเอง

    จึงเป็นจุดที่ทำให้เกิดการหลงยึด
    เมื่อหลงยึด ก็ทำให้วนเวียนอยู่ในกรอบของระบบนิเวศ
    ไม่สามารถมองสรรพสิ่งอย่างเข้าใจและหลุดพ้นได้

    ถ้าหลุดพ้นจากกรอบของระบบนิเวศหรือวนเวียนแห่งการเกิดดับ - เกิดดับ
    เราจะอยู่เหนือสภาวะ
    มองมุมกว้าง มองสภาวะอยู่นอกตัว ไม่ยึดเข้าหาตัว
    มองระบบได้ทั้งระบบ โดยไม่ไปยึด ไปติด กับระบบนั้น ๆ
    ยอมรับระบบนั้นได้อย่างเข้าใจ

    ก็จะเป็นความโปร่งเบา .. สบาย

    พุทธ เรียกว่า นิพพาน
    คริสต์ เรียกว่า การรวมตัวเข้ากับพระเจ้า
    ฮินดู เรียกว่า ปรมาตมันต์
    ซึ่งแดดเช้ามองว่า จุดสุดท้ายของทุกศาสนา คือ จุดเดียวกัน (หลายคนอาจจะไม่เห็นด้วย)

    เอาเป็นว่า ...
    อาจารย์ท่านหนึ่งที่เคยสอนวิชาจิตวิทยาสังคม ท่านบอกว่า
    วิธีคิดของทางตะวันออก กับ ตะวันตก แตกต่างกัน
    ทั้งที่จุดมุ่งหมายเดียวกัน

    ตะวันตก - ขยายตัวตนครอบจักรวาล
    ตะวันออก - ลดตัวตนลงจนเหลือศูนย์

    ตะวันตก - เริ่มจากโลกภายนอกแล้วเข้ามาค้นหาโลกภายใน
    ตะวันออก - เริ่มจากโลกภายในแล้วออกสู่โลกภายนอก

    การพัฒนาวิทยาการทางตะวันตกและตะวันออกจึงแตกต่างกัน ด้วยวิธีคิดที่สวนทางกัน (ทั้งที่มาจากจุดเดียวกันคือ คำถามว่า ชีวิตคืออะไร โลกคืออะไร เกิดมาเพื่ออะไร)
    ตะวันตก จึงเริ่มจากการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ แล้วหันมาสนใจศาสตร์ทางจิต
    ตะวันออก จึงเริ่มจากการหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องจิตใจ แล้วจึงคิดหาเทคโนโลยี

    ปัจจุบัน ทางตะวันตกให้ความสนใจทางด้านจิตมากขึ้น
    แต่ทางตะวันออก กำลังตอบสนองความจำเป็นทางด้านการดำรงชีวิต

    อดีตที่ผ่านมา ชาวอินเดียแสวงหากันอย่างมาก ฤๅษีชีไพรที่อยู่ในป่าจำนวนมากกำลังคิดค้นลัทธิต่าง ๆ อย่างมากมาย
    ในขณะที่ทางโลกยุโรปเกิดนักวิทยาศาสตร์สร้างสรรค์เทคโนโลยีทางวัตถุขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกกันอย่างมากมายเช่นกัน

    อยากให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นค่ะ .. เห็นด้วยกับแดดเช้าไหมคะ?
    เผื่อจะได้เกิดมุมมองอะไรใหม่ ๆ มีอะไรดี ๆ เป็นข้อมูลแลกเปลี่ยนกัน

    เพื่อที่จะเกิดเป็นการบูรณาการกันทางความรู้
    เป็นความรู้ทางศาสตร์ลึกลับ ศาสตร์ของชีวิตและจิตวิญญาณ

    ลองเข้ามาคุยกันดูนะคะ : )
    นำเสนอและเปิดประเด็นแค่นี้ก่อน

    เรามาสร้างบรรยากาศแห่งการเสวนาทางวิชาการกันดีกว่า .. เนาะ

    แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 46 15:50:29

    จากคุณ : แดดเช้า - [ 12 ส.ค. 46 15:48:45 ]