ความคิดเห็นที่ 1 น้ำดื่มยังผ่านโอโซนเลยครับ ตอบสั้นไป คือกระบวนการใช้โอโซนเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการจัดการน้ำดื่มน่ะครับ แน่นอนว่าหลังการ treatment ทั้งหลายน้ำดื่มที่ได้ต้องมีคุณสมบัติต่างๆ ตามมาตฐานที่กฏหมายกำหนด แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 46 15:28:44 จากคุณ : ETO - [ 19 ส.ค. 46 15:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หึหึ จริงขนาดที่เมืองไทยยังมีบางสระที่ซื้อไปติดเลย ในนากุ้งกุลาดำเขาก็นิยมใช้กัน ที่ปุ๋ยแห่งชาติเขาก็ใช้ได้ ผล ยังมีอีกหลายที ที่ว่าตู้ปลาทองไม่ควรใช้นั้น ก็เพราะว่า ozone มันจะไปทำลายเยื่อตาของปลาทอง ทำให้ตาบอดน่ะ เมื่อก่อนก็เคยลองปลามันก็ตาบอดจริง ไม่ต้องถามน่ะว่ารู้ได้ยังไงว่าปลามันตาบอด ที่ห้องเรารกมากเราก็ใช้ ozone บำบัด แต่ไม่ได้เปิดไว้ตลอดเวลา มักจะเปิดตอนที่ไม่อยู่ห้อง พอกลับมาก็ปิด ozone จะอยู่ในอากาศได้ประมาณ 1-20 นาที มันก็จะทำปฏิกริยาหายไปหมด O3 -> 02 จากคุณ : หึหึ - [ 19 ส.ค. 46 16:09:34 A:210.86.199.223 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 โอโซนใช้ฆ่าเชื้อโรคแทนคลอรีนได้ครับ แต่ไม่ได้ช่วยในการบำบัดอื่นๆ มีข้อดีตรงไม่ทิ้งสารประกอบที่เป็นอันตรายไว้ในน้ำเหมือนคลอรีน จึงเหมาะกับการผลิตน้ำดื่ม โอโซนที่ความเข้มข้นแบบที่ใช้ในโรงประปา อันตรายมากครับ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 46 01:38:40 จากคุณ : ม้าหงอย - [ 19 ส.ค. 46 22:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านเจอในเว๊บฝรั่งการบำบัดน้ำด้วยโอโซนหรือคลอรีน สำหรับอุปโภคหรือบริโภค ล้วนมีสารอันตรายก่อมะเร็งตกค้างทั้งสิ้น เพียงแต่ฝรั่งใช้เป็นทางเลือกเท่านั้นว่าจะเลือกใช้อะไร จากคุณ : เฉยๆ - [ 19 ส.ค. 46 23:32:53 A:203.149.14.248 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 สนับสนุนคุณม้าหงอยค่ะสารประกอบคลอรีนที่ตกค้างในน้ำดื่มเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก เชื่อไหมน้ำประปาบ้านเราถ้าจะตรวจหาสารพวกนี้จริงๆเชื่อว่ามีอาจจะอยู่ในปริมาณที่สูงด้วย ขณะที่โอโชนค่อนข้างปลอดภัยกว่าแต่ก็ไม่มีอะไรดี 100% ถ้าน้ำดื่มนั้นยังมีสารประกอบอินทรีย์เจือปนอยู่นะคะเช่นพวก assimilable organic carrbon สารโมเลกุลเล็กๆพวกนี้เป็นอาหารของแบคทีเรียอย่างดีเลยจะแน่ใจได้ยังไงว่าฆ่าเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื้อโรคตายหมดไม่เหลือและไม่เติบโตขึ้นใหม่หลังจากบรรจุขวดไปแล้ว จากคุณ : เจนนิเฟอร์ค่ะ - [ 19 ส.ค. 46 23:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่เคยอ่านงานวิจัยเขาบอกว่าอนุมูลคลอไรด์ที่หลงเหลืออยู่ในน้ำ จะทำปฎิกิริยากับสารประกอบอินทรีย์ (ซึ่งมีมากในน้ำผิวดิน) เกิดเป็นสารประกอบในหมู่ไตรฮาโลมีเธน ที่เป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็งคับ สำหรับการผลิตโอโซนเท่าที่ทราบในปัจจุบันยังมีข้อจำกัดมาก ความชื้นในอากาศมีมากก้อไม่สามารถผลิตได้ เนื่องจากต้องใช้แรงดันไฟฟ้าที่สูงมากเพื่อเพิ่มพลังงานให้อะตอมออกซิเจนจับตัวเป็นโอโซน ผิดถูกยังไงก้อขออภัยนะคับ เพราะทิ้งมานาน เคยศึกษาตอนปี 31 เพราะว่ามีบริษัทนึง จะถวายระบบบำบัดน้ำด้วยโอโซนให้เจ้านายคับ แต่มีปัญหา ง.ง. จากกรมศุลว่าบริษัทต้องเสียภาษีด้วย ก้อเลยเลิกไป ผมก้อเลยไม่ได้เรียนรู้อะไรมาก จากคุณ : Waterman - [ 20 ส.ค. 46 00:52:12 A:169.210.103.182 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบความเห็นที่ 4 ไม่ทราบว่าคุณอ่านจากเวปไหนมาครับ โอโซนนั้นไม่เสถียร ดังนั้นเมื่อสัมผัสกับน้ำแล้ว ก็จะแตกตัวกลายเป็นออกซิเจนไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสารประกอบที่ก่อมะเร็งที่เกิดจาก ozone oxidation ก็จะสลายตัวไปอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่นาที ดังนั้นน้ำดื่มที่ฆ่าเชื้อโรคด้วยโอโซนจึงปลอดภัยกว่าน้ำดื่มที่ฆ่าเชื้อโรคด้วยคลอรีน ซึ่งถ้าน้ำนั้นมีสารอินทรีย์เหลืออยู่มาก ก็จะก่อให้เกิดสารประกอบ trihalomethane อย่างที่คุณ waterman ว่ามา ซึ่งสารนี้ค่อนข้างเสถียร ที่คลอรีนยังใช้ในการผลิตน้ำประปาอย่างแพร่หลาย ก็เพราะระบบไม่ยุ่งยากเท่าโอโซน เพราะคลอรีนไม่จำเป็นต้องผลิตในโรงประปา และหาซื้อมาเก็บไว้ได้ แต่โอโซนไม่เสถียร จึงต้องผลิต ณ จุดที่ใช้ นอกจากนี้คลอรีนที่เหลืออยู่ในน้ำ จะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนในท่อส่งน้ำได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ท่อรั่วและน้ำไหลอ่อน และยังมีคนสูบน้ำจากท่อประปาโดยตรง โอโซนจะเหมาะสมกับการผลิตน้ำดื่มที่บรรจุขวด เพราะว่าไม่มีการส่งน้ำตามท่อ จึงไม่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนในภายหลัง และยังปลอดสาร byproduct ตกค้างด้วย ด้วยเหตุผลที่โอโซนไม่มีสารตกค้างที่ช่วยในการฆ่าเชื้อโรค ระบบประปาที่ใช้โอโซน จึงต้องเติมคลอรีนอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งเข้าระบบท่อจ่าย เวปข้างล่างมีอธิบายเรื่องการใช้โอโซนในการฆ่าเชื้อโรค http://www.snwa.com/html/wq_treatment_ozonation.html http://www.gewater.com/library/tp/844_Ozonation_.jsp จากคุณ : ม้าหงอย - [ 20 ส.ค. 46 02:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆ ผมเห็นข้อมูลแบบที่คุณ #4 ว่าไว้ครับ คือทุกกระบวนการจะมี byproduct จากปฏิกิริยาซึ่งก่อให้เกิดมะเร็งได้ แต่ในโอกาสที่ค่อนข้างต่ำน่ำครับ จากคุณ : ETO - [ 20 ส.ค. 46 12:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ครับ ozone จะก่อให้เกิด bromate ซึ่งอาจก่อมะเร็งได้ (พบในสัตว์ทดลอง) ก็ต่อเมื่อในน้ำมี bromide ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ซึ่งจะพบในน้ำบาดาลบางแห่ง และในน้ำทะเลหรือน้ำกร่อย และหากจะนำน้ำทะเลหรือน้ำกร่อยมาทำน้ำประปา ก็จะต้องนำมาผ่าน RO ก่อน ซึ่งจะสามารถกำจัด bromide ได้ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 46 14:04:55 จากคุณ : ม้าหงอย - [ 20 ส.ค. 46 13:51:28 ]