X2470781 มีสมาชิกท่านใด รู้เรื่องเกี่ยวกับการรับขันธ์บ้าง [เรื่องลึกลับ]

ความคิดเห็นที่ 9

ขอเล่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาค่ะ
((ผิดถูกอย่างไร ถือว่าเป็นการแชร์กันนะคะ))

เพราะการรับขันธ์ ก็คือ การที่เราจะต้องเป็นบริวาร ยอมรับใช้
เป็นร่างทรงให้เขาผ่านไปผ่านมาตลอดไป โดยมีข้อผูกมัด และพันธะต่อกัน …
ไม่อยากแนะนำให้รับ…ยกเว้นบางคน..ถ้าเค้าต้องการจริงๆ ก็อาจจะต้องยอมเป็นทางผ่านให้เค้า sad

การรับขันธ์ เท่าที่เห็น มี 2 อย่าง
คือ รับขันธ์ 5 แล้วจบกัน ..คนกลุ่มนี้จะมีองค์กันทุกคน(ไม่มีจะรับขันธ์ไม่ได้)
ลักษณ์ของขันธ์จะเป็น ดอกบัว 5 ดอก (สีเงินๆ)เมื่อรับไปแล้ว..ก็ให้เอาไปไว้ที่หิ้งพระ
แล้วก็จะทำตัวตามปกติ ไม่บังคับให้ไปเปิดตำหนักหรือเป็นร่างทรงเพื่อการใดๆ
ยกเว้นบางคนที่ต้องการเปิด..
ในบางคนเมื่อรับมาแล้วจะรู้สึกหนักที่ไหล่ทั้งสองข้าง..
นั่นหมายถึงมีองค์ซ้ายและองค์ขวาเหยียบไว้ ถ้าจะให้หายต้องไปถ่ายองค์
โดยไปเช่าพระ(ส่วนใหญ่ปางสมาธิ) แล้วไปให้ผู้ที่เราไปรับขันธ์ทำการถ่ายองค์ให้
กลับบ้านจะรู้สึกตัวเบาขึ้น
วิธีการปฏิบัติเมื่อรับขันธ์แล้ว..
ก็ทำตัวตามปกติ เวลากินอะไรก็ให้นึกถึงองค์ที่เรารับไว้(ชวนให้กิน)ในใจ
ไปวัด ทำบุญ สวดมนต์ นั่งสมาธิ…(นับถือพระศรีอาร์ย)
เมื่อคนไหนทำการเปิดตำหนัก หรือไหว้ครู หากว่างและต้องการไปเสริมบารมี
ก็สามารถทำได้โดยการไปร่วมงาน (จะใส่ชุดสีขาว) ลักษณะงานก็เหมือนการไหว้ครูทั่วๆไป
ในการไว้ครูในบางตำหนัก อาจจะมีการเคี่ยวน้ำมัน ซึ่งคนทรงบางคนจะสามารถเอามือลงไปกวนในน้ำมันร้อนๆได้…แล้วจะมีการรักษาโรคด้วย เช่นใครปวดขาก็จะให้ไปนั่งที่เก้าอี้ แล้วคนทรงที่ไปเล่นน้ำมันร้อนๆ จะไปทำการรักษาให้

อย่างที่ 2 ต้องรับขันธ์ 5 ปี แล้วปีต่อๆมา ถึงจะรับขันธ์ 9ได้
อย่างหลังนี้จะค่อนข้างเป็นพิธีการ คนที่รับขันธ์ไปแล้ว จะต้องดิ้นรนหาหนทางเพื่อที่จะเปิดตำหนัก
ลักษณะการแต่งกายจะแต่งกายตามองค์ที่ตนมี
เช่น พระแม่อุมา จะแต่งกายสีสดใส สวยงาม ฤๅษี ก็จะแต่งเป็นฤๅษี ฯลฯ
ในการไว้ครู จะทำสองวัน มีการแจกการ์ดเชิญสำหรับร่างทรงด้วยกัน
(คนที่รับขันธ์แล้ว ถือว่าเป็นร่างทรง)
แบบที่สองนี้ ก็จะมีการสวดมนต์ ทำบุญเหมือนกัน..แต่ว่าจะทุ่มทุนในการทำบุญมากกว่า
ในการสร้างตำหนัก จะใช้ทุนในการสร้างค่อนข้างมาก (ไม่ทราบราคา)
และค่าครูในแบบนี้จะแพงกว่าแบบแรก (จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่)

เมื่อเราอนุญาต โดยยอมให้ผ่านร่าง และให้คำสัตย์ เอาไว้
อย่าพยายามเสียสัจจะ เพราะว่าอาจจะเกิดผลร้ายได้(สำหรับบางคน)
เมื่อรับแล้วถอนคืน ทำไมได้หรอกค่ะ…ยังไงซะก็ถือว่าเรายังมีพันธะต่อกัน
((เอาเค้าไปปล่อยให้ลอยในน้ำ…ลอยไปลอยมา..ไม่สงสารกันบ้างหรือ)) haha

คนทรงมีทั้งจริงทั้งเท็จ…บางคนรับไปแล้ว ไม่สามารถบังคับตัวเองได้..
ต้องดูให้ดีว่าคนที่ผ่านเรา..เป็นเทวดา หรือว่าเป็นผี(มีวิชา)กันแน่
อย่าปล่อยให้พวกผีร้าย มาหลอกว่าเป็นเทพ แล้วมาอยู่กับเราเชียว

เรื่องนี่พูดยากจริงๆแฮะ sad
อย่างที่ลุงมหาพูดแหละคะว่า เค้าก็ต้องการใช้กรรมของเค้าเพื่ออัพเกรดตัวเอง
โดยไม่ต้องเสียเวลามาเกิดใหม่ และไม่เสี่ยงด้วย
เมื่อเรารับมาแล้ว เราก็ต้องทำบุญ นั่งสมาธิ เพื่อเสริมบารมี..
ทั้งของเราและคนที่ขอผ่านร่างเรา…….
ย่อมทำให้เราได้บุญด้วยเช่นกัน smile

ปล…แต่ก่อนก็ชอบไปดูงานทำบุญไหว้ครู แล้วเดาว่าคนนี่ คนนั้นองค์อะไร..
แต่ว่าหลังๆ ไม่ค่อยได้เห็น เลยห่างๆมานานแล้วเหมือนกัน

ไม่รู้ว่าตอนนี้…วิธีการ จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาหรือไม่

จากคุณ : ยายเมี้ยน - [ 26 ก.ย. 46 22:52:38 ]