ความคิดเห็นที่ 1 ขั้นที่1 เกี่ยวกับ ลมหายใจ และ อิริยาบทต่างๆ 1.1 เกี่ยวกับลมหายใจ เราจะฝึกโดยให้สติตามลมหายใจไปตลอด ตั้งแต่ลมหายใจเข้ามาที่จมูกเรื่อยๆไปจนถึงสะดือ แล้วออกมาจากสะดือเรื่อยๆมาจนถึงจมูกอีกครั้ง ให้มีสติติดตามลมหายใจไปอย่างนี้เรื่อยๆอย่าขาดตอน(แต่ตอนแรกๆมันจะขาดตอนอยู่แล้วเป็นธรรมดา ต่อเมื่อชำนาญขึ้นๆมากขึ้นๆถึงจะไม่ค่อยขาดตอน) 1.2 เกี่ยวกับอิริยาบทต่างๆ 1.2.1 อิริยาบทเดิน เราจะฝึกโดยให้สติตามการก้าวเดินของเราไป เราแบ่งการก้าวเดินของเราเป็น3จังหวะคือ ยก-ย่าง-เหยียบ แล้วให้เรามีสติติดตามการก้าวเดินของเราไปอย่างนี้เรื่อยๆอย่าขาดตอน 1.2.2 อิริยาบทอื่นๆ ให้เราแบ่งการเคลื่อนไหวของเราเป็น จังหวะ แล้วก็ทำเหมือนกับอิริยาบทเดิน ยกตัวอย่างเช่น อิริยาบทกิน เราก็แบ่งเป็นจังหวะๆว่า ตัก-ยก-ใส่ปาก-วาง ๆลๆ อธิบายเพิ่มเติม ในขั้นที่1 เกี่ยวกับลมหายใจ และ อิริยาบทต่างๆ ขั้นนี้เราก็จะเน้น ลมหายใจ และ การเดิน เป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อฝึกสติ(เพราะถ้าไม่มีหลักเลย ฝึกไปทุกอิริยาบทจะทำได้ยากมาก ควรฝึก2อย่างให้ชำนาญก่อน) ส่วนอิริยาบทอื่นๆหลังจากชำนาญ2อย่างแล้วก็จะทำได้ไม่ยากไปเอง   แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 46 04:30:59 จากคุณ : ราศีคนคู่ - [ 28 ก.ย. 46 03:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แทรก ในขั้นต่อๆไป(ขั้นที่2,3,4) จะขอยกตัวอย่างที่เป็นอิริยาบทเดินเป็นหลัก เพราะง่ายที่สุดในการสังเกตสำหรับผู้ฝึกใหม่ ต่อเมื่อชำนาญแล้วที่เกี่ยวกับ ลมหายใจ และ อิริยาบทอื่นๆ ก็จะเข้าใจได้เอง เพราะใช่หลักเหมือนๆกัน จากคุณ : ราศีคนคู่ - [ 28 ก.ย. 46 03:36:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขั้นที่2 การกำหนด รูป-นาม รูป ให้สังเกตที่ อาการเคลื่อนไปมาของเท้า(ยก-ย่าง-เหยียบ) นาม ให้สังเกตที่ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเท้า(การกระทบว่า แข็ง-อ่อน,เจ็บ,ปวด,สบาย,ไม่สบาย,ๆลๆ ) จากขั้นที่1 พอเราฝึกการเดินมานานพอและชำนาญพอในระดับหนึ่งแล้ว(สติเริ่มไม่หนีไปไหนแล้ว) เราก็จะเปลี่ยนมากำหนด รูป-นาม จากการเดิน โดยดูจากของจริงว่า ชีวิตเรา(ซึ่งตอนนี้จำลองให้เหลือแต่ในรูปแบบการเดิน)อะไรที่เรียกว่า "รูป" อะไรที่เรียกว่า "นาม" โดยให้ดูของจริง จากในขั้นตอนของการปริยัติที่เรา ฟัง,อ่าน,จดจำ มาว่าชีวิตประกอบไปด้วย รูป-นาม นั้น(ขันธ์5 แต่รวม เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ใว้ในคำว่า นาม คำเดียวเพราะเป็นระบบลัดสั้น) มาถึงขั้นปฏิบัตินี้เราจะได้เห็นของจริงแล้วว่า รูป-นาม ของจริงนั้นเป็นอย่างไร ให้เราฝึกดู รูป-นาม อย่างนี้ไปเรื่อยๆจนชำนาญ   แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 46 11:57:44 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 46 04:36:06 จากคุณ : ราศีคนคู่ - [ 28 ก.ย. 46 03:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขั้นที่3 การกำหนด เกิด-ดับ เกิด-ดับ เป็นการย่อมาจาก เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป หรืออนิจจัง(ความไม่เที่ยง) ในขั้นนี้เราจะมากำหนดดูการ เกิด-ดับ ของ รูป-นาม (หรือก็คือตัวชีวิตของเรานั้นเอง) โดยดูจากของจริง ที่เกิดขึ้นจริงๆเช่นกันดังนี้ รูป หรือ อาการเคลื่อนไหวของเท้า ยก-ย่าง-เหยียบ พอเรายกเท้า อาการเหยียบดับไป เกิดอาการยกขึ้น พอเราย่าง อาการยกดับไป เกิดอาการย่างขึ้น พอเราเหยียบ อาการย่างดับไป เกิดอาการเหยียบขึ้น สลับซับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปอย่างนี้ นาม หรือ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเท้า(การกระทบว่า แข็ง-อ่อน,เจ็บ,ปวด,สบาย,ไม่สบาย,ๆลๆ ) ให้เราคอยสังเกตดูกับความรู้สึกต่างๆ เช่น เจ็บ เราก็ดูว่า เกิด แล้วซักพักมันก็ ดับ ไป เกิดเป็นความรู้สึกใหม่ๆขึ้นมาแทนเช่น มันจะสลับซับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ ให้เราฝึกดูการ เกิด-ดับ อย่างนี้ไปเรื่อยๆจนชำนาญ จากคุณ : ราศีคนคู่ - [ 28 ก.ย. 46 04:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขั้นที่4 การกำหนด ความไม่เที่ยง จากขั้นตอนที่3 พอเราฝึกดูการ เกิด-ดับ มามากพอและนานพอ เราก็จะพบได้เองว่า รูป-นาม (ขันธ์5)ซึ่งประกอบกันขึ้นมาเป็นชีวิตเรา เป็นตัวเรา นั้นจริงๆแล้วมันไม่เที่ยงแท้เลย เกิดๆ-ดับๆ อยู่ตลอดเวลา(เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป) พอเราเห็นความไม่เที่ยงมากๆเข้า นานๆเข้า เราก็จะพบไปอีกขั้นหนึ่งว่า จริงๆแล้ว แท่งทึบๆ(รูป)+สิ่งที่นึกคิดรู้สึกได้(นาม=เวทนา+สัญญา+สังขาร+วิญญาณ) มันอิงอาศัยกันเกิดชั่วคราว แล้วก็ดับไป เป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ ดูแล้วก็จะพบว่ามันก็ไม่ได้มีลักษณะ เป็นตัวเป็นตน แต่อย่างใดเป็นแต่เพียงธรรมชาติล้วนๆ เป็นไปตามกฏของธรรมชาติ จากนั้นก็จะค่อยๆเกิด วิราคะ ความจางคายจากความยึดถือ แล้วก็เกิดการสลัดคืน เหมือนกับขั้นที่ 16 ของอานาปานสติ 16 ขั้นเช่นกัน   แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 46 11:57:19 จากคุณ : ราศีคนคู่ - [ 28 ก.ย. 46 04:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เนื้อหาทั้งหมด ผมย่อมาจากหนังสือ อานาปานสติภาวนา ฉบับลัดสั้น เล่มเล็ก ของท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านใดสนใจเนื้อหาโดยละเอียด หาเพิ่มเติมได้จากหนังสือนะครับ จากคุณ : ราศีคนคู่ - [ 28 ก.ย. 46 04:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ คุณราศรีคนคู่ ที่แนะนำการทำสมาธิแบบลัดให้ การฝึกฝนการปฏิบัติอานาปานสติ 16 ต้องใช้เวลานานมากหลายปีเลยหรือครับ อย่างนั้นฝึกฝนแบบลัดขั้นที่ 1 น่าดีกว่า เพราะไม่ยากเท่าไหร่ และเป็นสมถกรรมฐานด้วย แค่กำหนดลมหายใจเข้าออกเท่านั้น อยากฝึกสมถกรรมฐาน เพราะสามารถแสดงฤทธิ์ได้ ( หูทิพย์ ตาทิพย์ ) ไม่อยากอยากฝึกแบบวิปัสสนากรรมฐาน เพราะอาจจะทำให้เบื่อหน่ายในโลกีย์ได้ ก็คนมันอยากดูสาวๆ สวยๆ อยู่ ทำไงได้ ทำตามนี้ถูกต้องไหมครับ ************************************* ขั้นที่1 เกี่ยวกับ ลมหายใจ และ อิริยาบทต่างๆ 1.1 เกี่ยวกับลมหายใจ เราจะฝึกโดยให้สติตามลมหายใจไปตลอด ตั้งแต่ลมหายใจเข้ามาที่จมูกเรื่อยๆไปจนถึงสะดือ แล้วออกมาจากสะดือเรื่อยๆมาจนถึงจมูกอีกครั้ง ให้มีสติติดตามลมหายใจไปอย่างนี้เรื่อยๆอย่าขาดตอน (แต่ตอนแรกๆมันจะขาดตอนอยู่แล้วเป็นธรรมดา ต่อเมื่อชำนาญขึ้นๆมากขึ้นๆถึงจะไม่ค่อยขาดตอน) 1.2 เกี่ยวกับอิริยาบทต่างๆ 1.2.1 อิริยาบทเดิน เราจะฝึกโดยให้สติตามการก้าวเดินของเราไป เราแบ่งการก้าวเดินของเราเป็น3จังหวะคือ ยก-ย่าง-เหยียบ แล้วให้เรามีสติติดตามการก้าวเดินของเราไปอย่างนี้เรื่อยๆอย่าขาดตอน 1.2.2 อิริยาบทอื่นๆ ให้เราแบ่งการเคลื่อนไหวของเราเป็น จังหวะ แล้วก็ทำเหมือนกับอิริยาบทเดิน ยกตัวอย่างเช่น อิริยาบทกิน เราก็แบ่งเป็นจังหวะๆว่า ตัก-ยก-ใส่ปาก-วาง ๆลๆ ************************************* จากคุณ : .............................. (ninja2000) - [ 28 ก.ย. 46 10:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีครับ คุณนิน ถ้าจะฝึก 16 ขั้น น่าจะใช้เวลาหลายปี-หลายสิบปี ครับ(ไม่ตายตัวแล้วแต่บุคคล) ถ้าฝึกแบบระบบลัดสั้นนี้ไม่มีฤทธิ์นะครับ จะมีฤทธิ์ต้องมีสมาธิระดับณานนะครับ แล้วก็ขึ้นกับสิ่งที่เรามาใช่ในการฝึกสมาธิจนได้ณานด้วย เช่น ฝึกโดยเชโตกสิณ(ใช้ไฟในการฝึก) ก็จะแสดงฤทธิ์เกี่ยวกับไฟได้ ฝึกโดยอโลกกสิณ(ใช่แสงสว่าง) ก็จะแสดงฤทธิ์เกี่ยวกับ หูทิพย์ ตาทิพย์ ได้ ๆลๆ และในขั้นต่อไปฤทธิ์ต่างๆอาจได้มาจากณาน เช่น เข้าณาน4 ออกณานมาเข้าณาน1 ก็จะได้ผลเป็นฤทธิ์อย่างหนึ่ง ๆลๆ ป.ล.ที่ตอบด้านบนนะผมจำๆมาจากตำรานะครับ ไม่ได้ฝึกได้เองแต่อย่างใด บ้างอย่างอาจจะคลาดเคลื่อนได้ครับ จากคุณ : ราศีคนคู่ - [ 28 ก.ย. 46 11:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กระทู้น่าสนใจดี จากคุณ : envoy - [ 28 ก.ย. 46 16:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณนะครับ สำหรับข้อมูลที่น่าสนใจ จากคุณ : อริสโตเติล - [ 28 ก.ย. 46 20:07:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 .........อยากเริ่มฝึกสมาธิเหมือนกันค่ะ......แต่ สงสัยอ่ะค่ะ....งงๆๆ...แหะๆๆ.....ขั้นที่ 1 น่ะค่ะ......ตอนกำหนดลมหายใจอ่ะค่ะ....เคยตอนเด็กๆพอจะเข้าใจอยู่บ้าง.....แต่ข้อ 1.2 เกี่ยวกับอิริยาบทน่ะค่ะ.......เวลาฝึกต้องฝึก 1.1 กับ 1.2 ควบคู่กันไปด้วยเหรอคะ.....แล้วเราจะกำหนดจิตไว้ที่ไหนอ่ะคะ.....ที่ลมหายใจเข้าออก หรือว่า ที่ อิริยาบท หรือว่า ทั้งสองอย่าง ( แต่ ทั้งสองอย่างเนี่ยทำไงอ่ะ ทำได้เหรอคะ ...ไม่เข้าใจเลยค่ะ) จากคุณ : จีจี้ - [ 28 ก.ย. 46 21:32:16 A:203.113.67.69 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 กำหนดที่ละอย่างใน1ช่วงเวลาครับน้องจีจี้ ถ้าฝึกลมหายใจอยู่ ก็ฝึกลมหายใจอย่างเดียวครับ ไม่ต้องฝึกเดินครับ ถ้าฝึกเดินอยู่ ก็ไม่ต้องฝึกลมหายใจครับ จากคุณ : ราศีคนคู่ - [ 29 ก.ย. 46 08:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หยุดเดี๋ยวนี้เลย คุณนินจา ในฐานะ ที่ เราเป็นกัลยานมิตรกัน หนูจ๋อย ขอให้พี่นิน ฝึกแบบ สติปัญฐานสี่ การขอให้ ในที่นี้ หมายถึง ขอ บังคับ ค่ะ ให้ ตามรู้ ให้เท่าทัน ทั้งกาย กับ ใจ ฝึกไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวจะ ละ ได้ง่ายๆ หรอกค่ะ พี่นิน ไม่เชื่อไปถามปู่ ฟ้าห่มดาว ดู หลวงพ่อพุธ เป็นอาจารย์ คนนึง ของ หนู ท่าน สอนเสมอว่า เราเป็นผู้ครองเรือน ไม่ใช่นักบวช ก็ อาศัยธรรมะ ของผู้ครองเรือน นี้แหล่ะ เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ว้า งานยุ่ง เดี๋ยวมาใหม่ ลุงมหา ขา มาเทศนา ให้ ตาพี่นิน ฟังหน่อย มาเร็วๆ นะคะ หรือ ทีเรียกว่า ความรู้ตัวทั่วพร้อม จากคุณ : หนูจ๋อย - [ 29 ก.ย. 46 10:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ใช่ครับๆ อย่างที่คุณหนูจ๋อยว่านะครับคุณนิน มันไม่ได้ "ละ" กันง่ายๆจริงๆครับ เห็นด้วยกับคุณหนูจ๋อยเรื่องนี้มากๆเลยครับ >>หลวงพ่อพุธ เป็นอาจารย์ คนนึง ของ หนู ท่าน สอนเสมอว่า เราเป็นผู้ครองเรือน ไม่ใช่นักบวช ก็ อาศัยธรรมะ ของผู้ครองเรือน นี้แหล่ะ เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ป.ล.เพื่อนผมคนหนึ่งเคยบอกว่าจะส่งหนังสือของหลวงพ่อพุธมาให้ผม ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ส่งมาเลย ถ้าคุณหนูจ๋อยว่างๆนำคำสอนของหลวงพ่อมาให้อ่านบ้างนะครับ ผมอยากทราบคำสอนของท่านครับ จากคุณ : ราศีคนคู่ - [ 29 ก.ย. 46 10:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สาธุ จากคุณ : intrepid - [ 29 ก.ย. 46 14:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ได้เข้ามาอ่านนานมากๆ เพิ่งได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ดี มากๆ เลยล่ะ ที่นำเรื่องเกี๋ยวกับ การปฏิบัติธรรม มาโพสให้คนอื่นๆ ได้อ่านกัน ขออนุโมทนาบุญ กับธรรมทาน ครั้งนี้ด้วยนะจ๊ะ ราศีคนคู่ ^___^ จากคุณ : PrincessShalala - [ 6 ต.ค. 46 16:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ต่อ.... จากที่ได้อ่านดูแล้ว เข้าใจง่าย และปฏิับัติได้ไม่ยากเลยค่ะ โดยเริ่มต้นจากข้อแรก จากนั้นก็สามารถฝึกต่อไปได้อีกตามลำดับ วิธีคิดง่ายๆ เลยก็คือ ไม่ได้ฝึกเพื่อให้ได้ ฌาณ หรือ ฤทธิ์อะไรทั้งนั้นน่ะค่ะ แต่ว่า่ การพิจารณาการ เกิด ดับ (เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป) เราก็สามารถ นำมาปรับใฃ้กับชีวิตปัุจจุบันของเราได้ด้วย อาจนำมาพิจารณากับทุกข์ ที่เกิดกับเรา ใครมีทุกข์หรือปัญหา ก็นำธรรมะข้อนี้มาช่วยพิจารณาได้ เพราะทุกอย่าง ย่อมไม่เที่ยง แม้ทุกข์ที่บางคนคิดว่าแสนสาหัส เกินที่ีจะทนได้ หรือความสุข ที่คิดว่าบางทีเรามีมากซะจนกลัวว่าจะสุขเกิน แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่มีอะไรเที่ยง เกิดขึ้นมาแล้ว ก็ย่อมดับไปในที่สุด ดังนั้นเราก็จะใ้ช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ทุกข์มากๆ ก็ไม่เศร้ามากจนเกินไปจนคิดสั้น สุขมากๆ ก็ไม่สุขซะจนลืมตัว ใช้ได้กับทุกๆ เรื่องเลยนะคะขอบ่ออก ดีม่าากๆ @^_____^@ (นานๆ โพสที ยาวนิดนะจ๊ะ) แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 46 17:24:28 จากคุณ : PrincessShalala - [ 6 ต.ค. 46 17:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ PrincessShalala เขียนได้เหมือน ในใจ หนูจ๋อยเลย หนู หาสมดุลย์มาเรื่อยๆ ตั้งแต่เล็ก เริ่มตั้งแต่ ป3 ที่โรงเรียน มีการให้เข้า ปวารณาตัว เป็น พุทธมามิกา ....พุทธมามกะ มาได้ใช้การตามรู้ กับ ปัจจุบันขณะ นี่แหล่ะ เป็น เครื่องดำเนินชีวิต ในยามที่ความทุกข์ มาเยือน เมื่อ คนรัก ตายจากไป ก็รู้ว่า แม้จะทุกข์เดี๋ยวทุกข์ ก็ไป เช่นเดียวกับสุข นั่นแหล่ะ คุณ ราศรีคนคู่ อยากได้หนังสือ หลวงพ่อพุธ ไหมคะ หนูจ๋อยมีมากมาย เนื่องจาก เพื่อนสนิท ใกล้ชิดท่าน ดูแลการทำหนังสือ ให้ท่านมากมาย ถ้าทิ้งเมล์ไว้ หนูจ๋อยจะส่งไปให้ ด้วยความยินดี ค่ะ จากคุณ : หนูจ๋อย - [ 6 ต.ค. 46 18:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณหนูจ๋อยคะ ดีใจค่ะที่คิดเหมือนกัน ส่วนมาก คนเราก็ ต้องเจอทุกข์ก่อนน่ะค่ะ เราถึงจะรู้หาวิธีดับทุกข์ได้ แต่ทั้งที่ตอ้งรู้เท่าทันจิตใจ เราเท่านั้นเองน่ะค่ะ ถ้า มัวแต่ทุกข์ก็หาทางออกไม่เจอ ว่าแต่อยากได้หนังสือบ้างค่ะ หรือแนะนำที่ซื้อก็ได้นะคะ จากคุณ : PrincessShalala - [ 6 ต.ค. 46 19:53:44 ]