X2624812 ............ยางพารา................ใครรู้มั่ง? []

ความคิดเห็นที่ 5

เท่าที่ตาม ๆ ดู ยังไม่มีเวปไหนให้รายละเอียดมากเท่าไหร่หรอกครับ เพราะ มันเป็นเรื่องทางการค้า
พอจะสรุปได้ดังนี้
1. รับซื้อยางแผ่นดิบ ที่เกษตรกรผึ่งแห้ง มา ทำการล้างออกให้หมดสิ่งเจือปน
2.นำไปผึ่งบนราวตากที่ทำเป็นลักษณะรถเข็น ภาษาเฉพาะเรียก เก๊ะ 1 เก๊ะ โดยเฉลี่ย จะได้ 3 - 6 ตัน(โรงสูง ความสูงของเก๊ะจะสูงตามไปด้วย)
3.ตากให้สะเด็ดน้ำ จึงลำเลียงเข้าโรงรม ซึ่งจะใช้ฟืนไม้ยางเป็นหลัก และมีไม้อื่นปนได้บ้าง เพราะยางเมื่อไหม้ไฟแล้วในเขม่ายาง จะมี สาร คลีโอโสด cleosode ช่วยถนอมการเกิด ราบนผิวยางรมควัน
4. ใช้ไฟขนาด 50 - 70 องศา เซลเซียส โดยรมอยู่นานประมาณ 54 - 72 ชั่วโมง แล้วแต่ความหนาของแผ่นยาง(หนาประมาณ 2 - 3.5 มิลลิเมตร) หนามากจะใช้เวลามาก
5.เมื่อครบเวลาแล้ว เอายางออกมา ตัด ส่วนสกแปรกที่ติดอยู่ในเนื้อยางออก เรียกขั้นตอนนี้ว่า คัตติ้งยาง
6.ความชื้นของยางแผ่นรมควัน จะอยู่ที่ 3 % ไม่เกินนี้
7.จากนั้น จะเอามามัดห่อรวมกัน ให้ได้น้ำหนัก 111.11 กิโลกรัม หรือ ไม่เกิน 113 กิโลกรัม (9 ก้อน ให้ได้ 1 ตัน)
8.ทาด้วยแป้งแมกนีเซียมผสมน้ำมันดีเซล เคลือบผิวไว้ เก็บเข้าโกดัง ซึ่งยางที่มัดห่อแล้ว เรียกว่า ยางลูกขุน
ขั้นตอนการทำงานทั้งหมด สามารถเพิ่มมูลค่ายางได้ กิโลกรัมละ 4 บาท ไม่เกินนี้ โดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ 2.5 - 3.2 บาท เพราะฉะนั้น จึงต้องทำต้นทุนให้ไม่เกินกิโลกรัมละ 1.5 บาท
โดยเฉลี่ย จะมีต้นทุนกิโลกรัมละ 70 - 85 สตางค์
ยางรมควันเมื่อจะนำไปใช้ จะเอาไปเข้าลูกกลิ้ง สับยางให้เป็นชิ้น กรือ ฉีกยางให้เป็นแผ่น จากนั้น จะไปเข้าเครื่องผสมยาง two roll mill เพื่อผสม กัมมะถัน สารเร่งปฏิกิริยา และตัวเติม filler อื่น ๆ โดยสูตร แตกต่างกันไป
ทั้งนี้ จะใส่สารกัมมะถันได้ไม่เกิน 3 ส่วน ต่อยาง 100 ส่วน
PHR (part per hundred of rubber) และสารเคมี รวมกัมมะถันแล้วไม่เกิน 7 phr แต่สามารถเติมตัวสเติมเพิ่มให้ยางผสมราคาถูกลง หรือ เจือส่วนให้ มีสมบัติอื่น ๆ ได้อีก ตรมใจชอบ เช่น ยางลบ มี ส่วนของยาวงพารา ประมาณ 9 % ของชิ้นงานทั้งหมด หรือยางรถยนต์ จะมี ส่วนของยางกับ สารยางจากปิโตรเลียม ได้ อัตราตั้งแต่ 30:70 จนถึง 70:30 ทีเดียว

จากคุณ : s.suk - [ 15 ม.ค. 47 23:51:45 ]