ความคิดเห็นที่ 1 ทำใจกล้าๆ เอาไม้ยาวๆ 2 เมตร สายไฟ 1 เส้นผูกติดกับปลายไม้ ก่อนเสียบเข้าปลั๊กไฟ แล้วเอาปลายทองแดงข้างที่ติดกับปลายไม้ เขี่ยสายดิน ทำทีละสาย (ก่อนโผล่ปลายทองแดง ถอดปลั๊กก่อนเด้อ) ถ้าไม่ลงดิน จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าลงดิน ก็ตูม .. แล้วฟิวส์ขาด :-D หนุกดี จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 6 ส.ค. 47 21:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การไฟฟ้ามีเครื่องวัดความต้านทาน น่าจะขอให้เค้าช่วยทดสอบได้ จากคุณ : ยัยปุย - [ 6 ส.ค. 47 22:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แหม เรื่องแบบนี้ อย่าเอามาล้อเล่นสิครับ คุณเหมียว... อืม ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะ จะเทสยังไงครับ ใช้วิธีวัดความต้านทานเทียบกับดินได้ไหม? ถ้าได้ ในทางปฎิบัติ เค้าทำกันยังไงครับ จากคุณ : bodin - [ 7 ส.ค. 47 02:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีอีก วิธีง่ายๆ เอา แต่ สายดินสีเขียว (ถอดออกจากระบบทั้งหมด) ไห้เหลือแต่ตัวสายดินปล่าๆ แล้วเอา สายไฟ L มาต่อกับ G หากวัดความต่างสัก ได้ 220 V ก็ OK แสดง ว่าน่าจะมีการต่อลงดิน เอา หลอดไฟฟ้า อะคับ ต่อระหว่าง สายดิน กับสายไฟ L (ที่เอาไขควงวัดไฟจี้แล้วติดอะ) ถ้าสว่างตามปรกติก็ oK จากคุณ : พี่หมา (Angel..) - [ 7 ส.ค. 47 04:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จริงอย่าง คคห.3 บอกครับ เรื่องระบบสายดิน ไม่ควรจะทำการทดสอบตาม คคห.1,3 บอกครับ เพราะสายกราวด์เป็นสายช่วยชีวิต ค่าความต้านทานของมันไม่ควรเกินค่ามาตรฐาน(ไม่เกิน 5 โอมห์ แต่ถ้าไม่ได้อยู่บนเขา หรือดินทราย เกิน 2 โอมห์ก็แย่แล้วครับ ค่ายิ่งต่ำยิ่งดี) วิธีการวัดค่าความต้านทานดิน จะใช้เครื่องวัดที่เรียกว่า earth tester(ใช้เครื่องวัดธรรมดาวัดไม่ได้นะครับ) ติดต่อที่การไฟฟ้าให้เค้ามาวัดให้ แต่ถ้าเป็นผมนะครับ ผมจะทำระบบสายดินใหม่เลย วิธีการทำระบบสายดินคือ หาจุดตอก ground rod ให้ลึกลงไปในดิน ประมาณ 60 cm.แล้วต่อสายจาก rod (ปกติการต่อสายจาก rod จะใช้วิธี exothermic weld แต่ในกรณีคุณ ใช้ clamp หัวใจก็ได้ครับ) มาที่แผงเมนประจำบ้าน เข้า bar ground ส่วนขนาดสายดินต้องเลือกขนาดที่เหมาะสม ไม่เล็กเกินไป ถ้าบ้านคุณติดมิเตอร์ขนาด 15/45 220v. ก็ใช้สายดินขนาด 6 mm^2 แต่ถ้าไม่ใช่ช่วยบอกด้วยจะเช็คขนาดให้ ทีนี้พอเอาสายดินเข้า bar ground แล้วก็ต้องมีวิธีการต่อระบบไฟฟ้าให้ลงกราวด์ที่ถูกต้องด้วย ควรให้ช่างไฟที่ชำนาญเป็นผู้ดำเนินการ(ช่างที่คุณบอกว่าทำกราวด์หลอกไว้อย่าใช้นะครับ แย่มาก ไม่มีความรับผิดชอบในชีวิตผู้อื่นเลย) เกือบลืมครับ สายกราวด์ที่ต่อไปเครื่องทำน้ำร้อนก็ต้องใช้ขนาดที่เหมาะสมเหมือนกันครับ อย่าให้เล็กเกินไป ถ้าสงสัยอะไรเพิ่มเติมก็สอบถามมาแล้วกันครับ จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 7 ส.ค. 47 10:37:40 A:202.57.156.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 -จะเคื่องทำน้ำอุ่น คุณก็ต้องติดสายดินเพิ่มหนึ่งเส้น อยู่แล้วนี่ครับ -ไปสนใจทำไมครับตรงจุดอื่นๆ สายดินลงทุนไม่ถึง 100 บาทเอง จากคุณ : แสนแก้ว - [ 7 ส.ค. 47 11:28:39 A:202.28.76.186 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 --------เคื่องทำน้ำอุ่น ต้องต่อสายดินที่ตัวเครื่องแล้วลงดินเส้นใหม่ไปเลย จึงจะดีที่สุด ปลอดภัยแน่ครับ -เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากๆ ควรต่อสายดินเส้นใหม่ลงดินไปเลยครับ ยิ่งมีสายดินลงดินมากปริมาณเหมาะสม ค่าไฟคุณจุถูกลงนะครับ คุณจะเชื่อคนอื่นก็ได้นะครับ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X2945628/X2945628.html จากคุณ : แสนแก้ว - [ 7 ส.ค. 47 11:29:46 A:202.28.76.186 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 การทำสายดินที่ถูกต้อง การต่อสายดิน จะต้องปักลึกลงไปในชั้นดินชื้น โดยต้องปักลึกลงไปอย่างน้อย 1.5 เมตร ถ้าจะให้มั่นใจ ลองไปหาซื้อ Ground Rod ที่ขายทั่วๆไปสิครับ ตาม โฮมโปร ก็มี มาตราฐานที่ขายกันอยู่ที่ 1.8 เมตร ถ้าเป็นตะปูเล็ก ปักลงคอนกรีต รับรองว่า ไม่ได้ช่วยอะไรแน่นอน(ถึงแม้ว่าจะชื้น) เพราะมันต้องมีชั้นคาร์บอน ในการดูซับประจุ(เช่นใน capacitor) ซึ่งจะมีอยู่ในชั้นดิน (ซึ่งโลกของเราเปรียบเสมือนตัวเก็บประจุ capacitor ขนาดใหญ่ ตามทฤษฎี จึงสามารถซับกระแสไฟฟ้าได้) เนื่องจากคอนกรีต ไม่เพียงพอที่จะซึมซับกระแสไฟฟ้าได้ จึงไม่ได้ช่วยอะไรเลย วิธีทดสอบสายดิน อย่างง่ายๆ ให้ทำการตอกสายดิน แล้วเกี๋ยวด้วยสายไฟฟ้า จากนั้นลองปล่อยไฟฟ้าเข้าสายที่ว่า (ต่อจากปลั๊กไฟฟ้าก็ได้) แล้วให้ใช้ไขควงลองไฟ มาแตะที่บริเวณโลหะของแท่งสายดิน หรือปลอกฉนวนสายดินออก แล้วแตะดูก็ได้ ถ้าไขควงมีไฟติดสว่าง แสดงว่าสายดินนั้นใช้ไม่ได้ผล(ให้ตอกลึกลงไปอีก) แต่ถ้าไฟไม่ติด ให้ลองอีกครั้งโดยยืนเท้าเปล่าบนพื้นคอนกรีต แล้วใช้ไขควงลองไฟ แตะอีกที ถ้าไฟไม่ติด แสดงว่าสายดินคุณใช้ได้ เพราะไฟไหลลงดินหมดโดยไม่ผ่านตัวคุณเลย คราวนี้คุณจะอาบน้ำได้อย่างปลอดภัย จากคุณ : Bird (Bird_Tiger) - [ 2 ส.ค. 47 01:09:30 ] จากคุณ : Dr.slump - [ 7 ส.ค. 47 12:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณแสนแก้วครับ ค่าสายดินไม่แพงหรอกครับ เพราะเป็นสายไฟธรรมดา แต่ค่าทำจุดต่อลงดินที่แพงนะครับ(เอาสายไฟไปจิ้มลงดิน เค้าไม่เรียกสายดินนะครับ) แค่ราคา ground rod ตามมาตรฐาน อย่างเดียวราคาก็แพงกว่าที่คุณบอกไว้เยอะแล้วครับ เค้าถึงทำจุดต่อลงดินจุดเดียวที่แผงเมน ซึ่งจะได้ประโยชน์ 2 ส่วนครับ คือเป็น system groud และ equipment ground ด้วย แล้วก็สายดินนี่ไม่ได้ช่วยให้ค่าไฟถูกลงนะครับ เพราะยังไงปริมาณการใช้ไฟฟ้าก็เท่าเดิม แต่มันช่วยป้องกันคนไม่ให้โดนไฟดูด เพราะกระแสที่leakออกมาที่จุดสัมผัสถึงจะลงดินผ่านทางสายดินไม่มาผ่านคน(ความต้านทานดินจะต่ำกว่าคนมากๆ) อีกอย่าครับ การต่อลงดินหลายๆจุดต้องระวังเรื่อง step voltage ด้วยเนื่องจากค่าความต้านทานของดินแต่ละจุดไม่เท่ากัน ผมอธิบายคร่าวๆนะครับ เพราะถ้าเอาละเอียดก็ยาวเลยครับ จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 7 ส.ค. 47 12:28:38 A:202.57.156.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติมถึงคุณแสนแก้วนะครับ จากกระทู้ที่คุณอ้างถึง ผมเข้าไปดูที่คุณโพสไว้ อธิบายคุณเพิ่มยังงี๊แล้วกันนะครับ 1. การ balance phase ใช้กับระบบไฟ 3 phase ครับ ถ้าเป็น 1 phase ก็ไม่ต้อง balance เพราะมี phase เดียว แล้วก็การ balance phase ไม่ได้ช่วยให้ค่าไฟถูกลงนะครับ ไม่เกี่ยวกัน แต่ทำเพื่อให้กระแสที่ไหลในสายไฟแต่ละเส้น ใกล้เคียงกัน เพราะถ้าคุณไม่ balance คุณต้องใช้สายไฟเส้นใหญ่ใน phase ที่มีปริมาณกระแสมากครับ 2. ถูกต้องแล้วครับ การทำสายดินและการเข้าใจเรื่องการต่อลงดินไม่ง่ายครับ แล้วเรื่องสายดินหลายๆจุด กับเรื่องค่าไฟ ผมอธิบายไปแล้วตามข้างบนครับ กรุณาเข้าใจใหม่นะครับ เพราะคุณบอกว่าคุณอยู่กับช่างไฟ ผมกลัวว่าคุณจะไปแนะนำวิธีที่ผิดๆกับคนอื่นน่ะครับเรื่องไฟฟ้าเป็นเรื่องอันตรายครับ เพราะมันอยู่ใกล้ตัวเรา แต่เราไม่เห็นมัน ที่ผมบอกนี่ไม่ได้ว่าผมเก่งกาจอะไรนะครับเพียงแต่พอจะมีความรู้ด้านนี้และทำงานด้านนี้เท่านั้นเองครับ อย่าโกรธผมนะครับ ติเพื่อก่อครับ ถ้าผมผิดพลาดตรงไหนก็ติได้ครับ จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 7 ส.ค. 47 12:44:46 A:202.57.156.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 -ผมไม่โกรธจริงๆครับ เพราะสิ่งที่ผมทำที่บ้าน ผมทำแบบนั้นจริงๆครับ -ตอนที่ไม่ทำ ค่าไฟบ้านผม 900 - 1000 มาตลอดครับ แต่พอมาทำ มันเหลือ 400 กว่า มาตลอดเลยครับ ต้องเปิดไฟกระหน่ำ --ผมจำคำพูดช่างไฟมาครับ และเค้าก็บอกว่า วิธีนี้ไม่มีในตำราครับ เป็นวิธีที่ อาจารย์ของเค้าบอกมาจากปากเอง คืออาจารย์คิดเองว่างั้น -หม้อไฟบ้านผมก็ไม่เสียครับ แต่พูดมากไปผมจะอายคนเปล่าๆ ผมว่ายังมีทฤษฎีเกี่ยวกับไฟฟ้าอีกมากมายที่ไม่มีใครรู้ --ผมยืนยันว่าผมคงทำต่อไปครับ เพราะทำไปแล้วจะไปเอาออกก็เสียเวลา จากคุณ : แสนแก้ว - [ 7 ส.ค. 47 13:01:05 A:202.28.76.186 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 -ขอบคุณๆแสนแก้วครับ ที่ไม่โกรธผม แต่ตอนนี้ผมอยากวิเคราะห์การต่อลงดินของคุณแสนแก้วจังที่คุณบอกว่าทำแล้วทำให้ค่าไฟลดน่ะครับ ถ้าเป็นไปได้ช่วยส่งรายละเอียดเป็นไดอะแกรมมาให้ผมดูหน่อยครับว่าทำแบบไหนจะได้วิเคราะห์ถูก อยากเห็นครับ แล้วก็ที่บอกว่าค่าไฟลดแล้วต้องเปิดไฟกระหน่ำนี่ อย่าทำเลยครับอุตส่าห์ลดค่าไฟได้แล้ว แล้วก็ถ้าคุณแสนแก้วไม่ไปยุ่งที่มิเตอร์ก็ไม่ต้องกลัวการไฟฟ้าหรอกครับเราไม่ได้ไปแก้ไขของๆเค้านี่นา -ผมว่ามันคงต้องมีคำอธิบายแหละครับ เพียงแต่อาจารย์ของช่างไฟท่านคงขี้เกียจจะอธิบายมากกว่าครับ ไฟฟ้ากำลังเป็นวิชาที่ค่อนข้างตายแล้วน่ะครับ หมายความว่าหลักการของมันได้ถูกคิดค้นมาหมดแล้ว(หลักการนะครับ) ตอนนี้ก็แค่ปรับปรุงประสิทธิภาพน่ะครับ เน้นนะครับ เฉพาะไฟฟ้ากำลังครับ -ผมพอนึกอะไรแว๊บขึ้นมา คุณแสนแก้วได้ไปทำเรื่องเปลี่ยนการคิดค่าไฟมารึเปล่าครับ เพราะผมก็ไปทำเรื่องมาหลายปีละ ที่เค้าให้เปลี่ยนเป็นแบบ tod ได้น่ะ เหมาะกับบ้านที่ช่วงกลางวันไม่มีคนอยู่ ค่าไฟลดไปเยอะเหมือนกันผมก็ไปเปลี่ยนมา ลองตรวจสอบการไฟฟ้าดูนะครับว่ายกเลิกไปรึยัง ถ้ายังน่าใช้ครับเน้นนะครับ เหมาะกับบ้านที่ไม่ค่อยมีการใช้ไฟช่วงกลางวันเท่านั้น จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 7 ส.ค. 47 13:45:22 A:202.57.156.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณวิศวกร ทิ้งอีเมล์ที่คุณไม่ค่อยได้ใช้ไว้ดีกว่าครับ หรือที่คุณสะดวก เดี๋ยวผม จะไปบอกในนั้นให้ครับ จะส่งไปให้ --แต่ผมบอกข้อมูลแบบแค่ภายนอกๆที่มองเหนนะรับ ผมไม่ใช่ช่างไฟ ผมอธิบายแบบตำราไม่ได้ครับ ------ตอนนี้ผมเริ่มอายคนละครับ เริ่มพูดเปิ่นๆ เฉิ่มๆแบบไม่มีความรู้ อายจัง จากคุณ : แสนแก้ว - [ 7 ส.ค. 47 14:51:51 A:202.28.76.186 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 บ้านคุณ แสนแก้ว ใช้ไฟ 3 เฟส หรือเปล่าครับ จากคุณ : Dr.slump - [ 7 ส.ค. 47 15:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณวิศกรไฟฟ้า ช่วยดูความเห็นที่8 เรื่องวีธีทดสอบสายดินด้วยครับ ผมอธิบายไม่เก่ง ทำแบบนั้น ถึงตายได้นะครับ อันตรายมากๆ จากคุณ : delight - [ 7 ส.ค. 47 15:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ส่งมาที่นี่เลยครับ max4313@hotmail.com อย่าส่งไวรัสมานะครับ:) ล้อเล่นครับ อธิบายคร่าวๆ ว่ามันต่อจากจุดไหนไปไหนบ้าง หรือต่อจากอะไรลงดินก็ได้ครับ แต่ถ้าได้ละเอียดยิ่งดีครับ เอาให้ครบทุกจุดเลยครับ ผมจะลองวิเคราะห์ดู ขอบคุณล่วงหน้าที่ได้ให้ความรู้ใหม่แก่ผมครับ จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 7 ส.ค. 47 15:50:28 A:202.57.156.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 อืม ขอบคุณๆ คคห.ที่ 15 ครับ คุณ Dr. slump ครับ ถ้าคุณใช้วิธีแบบนี้ (ผมสันนิษฐานว่าคุณต่อสายไฟเส้นเดียวจากปลั๊กไฟไปที่ ground rodนะครับ)คุณจะพบปรากฎการณ์ดังนี้ครับ 1. ถ้าคุณต่อเข้ากับสาย line คุณจะไม่ทันได้วัดที่ ground rod ครับ อุปกรณ์ป้องกันก่อนหน้าปลั๊ก(เบรคเกอร์หรือฟิวส์ก็ได้)จะตัดวงจรครับ เพราะคุณได้ทำ line to groud short circuit แล้วครับ ผลที่ตามมา จะมีกระแสปริมาณมากไหลผ่านสายไฟ สายไฟอาจไหม้ หรือถ้าสายมีรอยถลอกแล้วคุณไปโดนโดยที่คุณลงดินอยู่(ไม่มีฉนวนกั้นระหว่างคุณกับดิน)คุณก็จะโดนไฟดูดอย่างรุนแรงครับ หรือถ้าอุปกรณ์ป้องกันไม่ยอมตัด ผมก็ไม่อยากคิดแล้วครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น 2.ถ้าคุณโชคดีต่อเข้ากับสายnuetral มันก็ไม่ได้ช่วยวัดอะไรเกี่ยวกับระบบสายดินว่าดีหรือไม่เลย ยังไงไฟจากไขขวงเช็คไฟก็จะไม่ติด มันเป็นแค่การทำให้ nuetral ลง ground (มีศักดาเท่ากัน)ครับ เน้นตรงนี้นะครับ การวัดค่าความต้านทานของดิน เพื่อที่จะดูว่าเป็น ground ที่ดีหรือไม่วัดได้จากเครื่องมือวัดอย่างเดียวครับ จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 7 ส.ค. 47 16:33:37 A:202.57.156.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 อืมมม ครับ Iz ครับ วิธีลอง สายดินแบบนั้น แปลกๆ จริงด้วย ถ้าต่อ L - G ก็ ระเบิด ก่อนได้ลอง แบบพี่ วิวะ บอกอะ เอร นึกขึ้นได้ แต่ถ่อน เคยอ่านกระทู้หนึ่ง เขา บอก ว่า ไห้ ทศสองสายดินในบ้างโดย การ วัดความต่างสัก ไฟฟ้า ระหว่า G - N ไช่หรือเปล่าไม่แน่ ใจ (แล้วมันจะไห้ผลอย่างไร อะคับ) มันแค่มองเห็น ground loop หรือเปล่า ? หรือว่า ทำไห้เราคาดการ ความต้านทานดินได้ อะ ?? จากคุณ : พี่หมา (Angel..) - [ 8 ส.ค. 47 01:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณวิศวกรไฟฟ้านี่ตอบมันจริงๆ ขอบคุณครับ ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : Sonata in Love - [ 8 ส.ค. 47 02:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมก็ก็อบเค้ามา คิดว่าวิธีที่ คุณ Bird_Tiger เอามาคงเป็นวิธีของช่างลูกทุ่งมั้งครับ เหมือนประมาณว่า ต่อให้มันตั้งใจรั่วไปเลย แทนที่จะรอเครื่องไฟฟ้ารั่วเอง ถ้ามันรั่วแล้ว ไฟไม่ลงดิน เบรกเกอร์ ไม่ตัด ก็แสดงว่ายังทำระบบไม่ดี .. จากคุณ : Dr.slump - [ 8 ส.ค. 47 10:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อืม...system groud และ equipment ground ... แสดงว่าคุณ วิศวกรไฟฟ้า เข้าใจระบบกราวน์เป็นอย่างดี ....ให้ทำตามคำแนะนำของคุณ วิศวกรไฟฟ้า จะดีที่สุด ....สำหรับการเช็คว่าระบบสายดินมีคุณภาพหรือไม่นั้น การวัดค่าความต้านทานดินจะให้คำตอบที่ดีที่สุด ....สำหรับการตรวจสอบว่าต่อลงกราวน์จริงหรือไม่ ให้หาว่าจากขั้วต่อสายไฟของ ground terminal ได้มีการต่อสายไฟไปยัง ground rod ที่อยู่ในดินหรือไม่ ถ้ามีเพียงขั้วต่อสายไฟลอยๆ แต่ไม่ได้ต่อลงดินผ่าน ground rod แสดงว่าระบบไฟบ้านคุณไม่มีสายดิน ....ส่วนการต่อสายดินจะต่อยังไงให้ปรึกษาคุณ วิศวกรไฟฟ้า ให้วาดรูปการต่อสายไฟให้ด้วยก็จะดี จากคุณ : arm_cc - [ 9 ส.ค. 47 07:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาตอบเพิ่มครับ คุณพี่หมา คคห.18 การวัดโวลต์ระหว่าง L-G เพื่อตรวจสอบดูว่าสายนิวทรัลมีความต่อเนื่องหรือไม่(ไม่ขาดหรือหลวม)จะทำได้ต้องทำสายกราวด์ให้ดีก่อน โดยปกติสายนิวทรัลต้องมีการต่อลงดิน(system ground) ที่แผงเมนหลักหลังเครื่องวัด วัดถุประสงค์หลักเพื่อให้เป็นสายศูนย์จริงๆของระบบ (หากสายนิวทรัลก่อนเครื่องวัดหลุดหรือหลวม ไฟก็ยังเป็น 220 V. อยู่) ส่วนเหตุผลอื่นยังมีครับ แต่ไม่ขอพูดถึงเพราะเป็นเรื่องเทคนิคครับ ทีนี้ถ้าสายนิวทรัลหลุดหรือหลวมจะเกิดเหตุการณ์ที่พวกช่างไฟเรียกว่านิวทรัลลอย คือ หากเอาไขควงเช็คไฟจิ้มที่สายนิวทรัลจะมีไฟติด(ปกติต้องไม่ติด) หรือถ้าเอามิเตอร์วัด N-G จะไม่ได้ศูนย์ และวัด L-N จะได้ไม่ถึง 220 V. (เพราะ refernence ของระบบ คือนิวทรัลถูกยกขึ้นมา ไม่ใช่ศูนย์) ทีนี้มาว่าเรื่องระบบไฟฟ้าในบ้านและการต่อสายดินครับ ว่าต้องทำยังไงบ้าง (ผมทำdiagramไห้เปิดดูได้ในเน็ทไม่เป็นน่ะ เพราะผมใช้แต่ autocad)เอาคร่าวๆนะครับ เน้นนะครับว่าสำหรับไฟบ้าน รับไฟ 220 V. ถ้า 380 v. จะมีวิธีต่ออีกแบบ แต่ผมไม่พูดถึงเพราะคงไม่ค่อยมีใครใช้ 1.เอาสาย L หลังมิเตอร์ มาเข้าเครื่องป้องกันตัวแรก ด้าน L-in (ด้าน out เค้าจะต่อไว้สำเร็จมาแล้ว) 2. เอาสาย N หลังมิเตอร์ เข้า bar ground แล้วจาก bar ground เข้า n-in ของเครื่องป้องกัน ส่วน n-out ต่อเข้า bar นิวทรัล (ต่อแบบนี้จะมีข้อดี สำหรับบ้านที่ติดเซฟ-ที-คัทด้วย) 3.เอาสายกราวด์ เข้า bar กราวด์ วิธีการทำกราวด์ผมบอกไว้แล้วข้างบนน่ะ 4.ทีนี้ก้อดึงสายกราวด์ ไปใช้จาก bar กราวด์ แล้วสายนิวทรัลก็ให้ดึงจาก bar นิวทรัล(อย่าดึงกราวด์ไปใช้แทนนิวทรัล เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้ แต่อันตรายครับ) เน้นๆนะครับ ว่า การต่อนิวทรัลลงกราวด์ทำได้ที่จุดเดียวคือ ที่แผงเมนหลังเครื่องวัดเท่านั้น ห้ามไปทำที่จุดอื่นข้อเสียมีมากมายครับ โอยเหนื่อยครับ กว่าจะพิมพ์เสร็จ หวังว่าคงจะพอเข้าใจแล้วก็ทำกันได้ถูกต้องนะครับ ผมอธิบายไม่ค่อยเก่งด้วย:) จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 9 ส.ค. 47 11:43:08 A:202.57.156.217 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณ คุณ วิศวกรไฟฟ้า มากเลยครับ ได้ความรู้เพิ่มมากเลย ยังไงรบกวนส่งไฟล์ autocad มาให้ได้ไหมครับ ผมรู้วิธีเอามาโพสในนี้ได้ เดี๋ยวผมโพสให้ จากคุณ : ม่อน (bodin) - [ 9 ส.ค. 47 12:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอเมล์คุณม่อนหน่อยครับ จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 9 ส.ค. 47 13:05:10 A:202.57.156.217 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 bodin_akun@hotmail.com ครับ หรือกดที่อมยิ้มก็ได้ครับ (แต่ผมไม่แน่ใจ ว่า คนที่ใช้บัตรผ่านเข้ามา จะกดดูได้หรือเปล่า) ได้มาแล้ว ผมอาจจะตั้งกระทู้ใหม่เลยนะครับ เพราะกลัวกระทู้นี้จะตก จนไม่มีใครมาดู จากคุณ : ม่อน (bodin) - [ 9 ส.ค. 47 23:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เมล์คุณม่อนเต็มนะครับ ผมเมล์ไปแล้วไม่ผ่าน ขอเมล์ใหม่ หรือส่งเมล์คุณม่อนมาให้ผมที่ max4313max@hotmail.com ก็ได้ครับ จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 10 ส.ค. 47 14:20:11 A:202.57.156.205 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 hotmail มันเปลี่ยนระบบ filter เมล์ใหม่ เล่นเอาเมล์เพื่อนๆผม ไปลงถัง junk mail หมดเลยครับ = =" (แถมเพื่อนมันเมล์แต่รูปมา จนเต็ม) ผมเปิดมาดู ใน inbox ไม่เห็นมีเมล์เลยซักฉบับ เลยนึกว่า พื้นที่มันว่างอยู่ รบกวนส่งใหม่อีกทีนะครับ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลาครับ จากคุณ : ม่อน (bodin) - [ 10 ส.ค. 47 23:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมเมล์ไปให้คุณม่อนแล้วนะครับ จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 11 ส.ค. 47 08:58:55 A:202.57.156.205 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเอารูปไปโพสที่กระทู้แยกประเด็นแล้วนะครับ จากคุณ : bodin - [ 13 ส.ค. 47 11:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมวัดเอาแบบลูกทุ่งครับ ว่าสายดินผมมันเวิร์คมั๊ย ปรกติเคสของคอมทุกเครื่องของผมจะมีไฟรั่วเสมอ ถ้าไม่ได้ต่อสายดิน และเท้าเปล่า เอาหลังมือแตะ ต้องมีสะดุ้ง พอปลูกบ้านใหม่ ต่อสายดินเรียบร้อย ทดสอบวิธีเดิม เอาแก้มไปแนบนี่ยังไม่รู้สึกเลย แสดงว่า มัน WORK จ้า จากคุณ : Ont - [ 13 ส.ค. 47 18:23:09 A:61.90.28.104 X: TicketID:001332 ]