PANTIP.COM : X2958741 รูปแบบการต่อกราวด์ที่แผงเมนประจำบ้าน สำหรับมิเตอร์ 220 โวลต์{แตกประเด็นจาก X2948710} [วิศวกรรมและเทคโนโลยี]

ความคิดเห็นที่ 7

เห็นหลายคนสงสัย เพราะอาจขัดกับสิ่งที่หลายๆคนเคยทราบมา diagram นี้ผมเขียนเองครับ แต่เผอิญแปลง file ไม่เป็น คุณม่อนแกเลยอาสาให้ก็ขอขอบคุณๆม่อนไว้ตรงนี้ด้วยครับ ส่วนข้อสงสัยผมก็ขอชี้แจงเพิ่มดังนี้ครับ
-สำหรับ คคห.2,3 ก่อนที่จะทำการต่อไฟที่มิเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ ต้องมีการเช็คสายก่อนว่าเส้นใดเป็น phase และเส้นใดเป็นนิวทรัลหรือกราวด์ และจะต้องมีการทำเครื่องหมายกำกับไว้ที่สายด้วย ถ้าสายแยกสีไว้แล้วจะยึดถือ code สีในการเข้าสายดังนี้
phase ดำ แดง น้ำเงิน สำหรับ phase R,S,T เรียงตามลำดับ (เป็นมาตรฐาน อเมริกา และ ญี่ปุ่น ซึ่งบ้านเราใช้อ้างอิงอยู่ ถ้าเป็นของยุโรปจะใช้ code แดง เหลือง น้ำเงิน)
นิวทรัล สีขาว หรือ เทาอ่อน
กราวด์ สีเขียว หรือ เขียวคาดเหลือง
ยกตัวอย่างเช่นสายตีกิ๊บ(VAF) 2 แกน จะเห็นว่า ข้างในมีสายอยู่ 2 สี คือ ดำและเทาอ่อน เวลาเข้าอุปกรณ์ ให้ใช้ ดำเป็น phase และ เทาอ่อนเป็นนิวทรัล(ถ้าเป็นสายตีกิ๊ป 3 แกน(VAF-GRD) จะมีแกนที่สามที่มีขนาดเล็กกว่าสายอื่นเป็นสีเขียวคาดเหลือง ให้ใช้เป็นกราวด์)
ทีนี้สายที่มีขนาดใหญ่หรือมีสีดำสีเดียว ให้ใช้ PVC tape ทำการมาร์คที่ปลายสายทั้งสองข้างตาม code ที่ระบุ
แต่โดยส่วนตัวผม ก่อนจ่ายไฟทุกครั้งผมจะทำการตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งว่าสายอะไรเป็นสายอะไรและตรวจสอบค่าความเป็นฉนวนของสายด้วย เพราะช่างไฟบางคนยังเข้าสายผิด code สีอยู่ การทำงานกับระบบไฟฟ้า อย่าเชื่อคนอื่น จนกว่าจะได้วัดและตรวจสอบด้วยตัวเอง
-สำหรับ คคห.3 เหตุผลที่เอานิวทรัลลงกราวด์ ผมตอบไปแล้วในกระทู้ x2948710 อาจจะเข้าใจยากซักนิดนึงนะครับแต่ลองไปไล่ดูแล้วกันครับ
-สำหรับ คคห.4 ไม่พิกลหรือผิดตำราหลอกครับ diagram ที่ผมเขียน อ้างอิงจาก มาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้า ฉบับปี 2545 ของ วสท.ครับ(กฟน. และ กฟภ. ก็ยึดถือตามนี้แล้วครับ) ซึ่งกล่าวถึงมาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้าในส่วนของผู้ขอใช้ไฟ หมายความว่า หากมีการยื่นขอไฟ ให้การไฟฟ้าไม่ว่า กฟน. หรือ กฟภ. ตรวจสอบการติดตั้งหลังเครื่องวัดตามมาตรฐานนี้(ของเดิม จะใช้มาตรฐานคนละเล่ม ของ กฟน. เล่มนึง กฟภ. เล่มนึง ปวดหัวกันเป็นแถบเลยครับสำหรับคนทำงานด้านนี้ แต่เล่มนี้ก็จะยกเว้นไว้สำหรับระบบจำหน่ายของการไฟฟ้านะครับ) หรือถ้าอยากรู้จริงๆ (แนะนำสำหรับคนที่ทำงานด้านนี้ ควรมีไว้) เล่มนี้ครับ NEC-CODE (national electrical code) แต่หนาและอ่านยากหน่อย หนาประมาณพันหน้า เป็นมาตรฐานการออกแบบ และการติดตั้งระบบไฟฟ้าของอเมริกา ซึ่งเป็นหนังสือที่ วสท.อ้างอิงมา(ย่อมาพอเข้าใจ) ต่างกันบางส่วนและหน่วยจะใช้ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เช่น สายไฟ nec จะบอกเป็น AWG และ MCM ของเรา วสท. เป็น MM^2 ตามยุโรป และญี่ปุ่น และ วสท. จะเพิ่มในส่วนของการคำนวนห้องชุด, เพิ่มเติม มาตรฐาน ของ IEC เข้ามาด้วย (อันนี้ยุโรปใช้) ก็หวังว่าคงเข้าใจนะครับ ว่าผมไม่ได้นั่งเทียนเขียน:) อาจขัดความรู้สึกของคนทั่วไปนิดนึง แต่รับลองว่าไม่ได้ล่อเป้าอย่างที่เข้าใจครับ:) ผมมีจรรยาบรรณครับ เรื่องไฟฟ้าเป็นเรื่องอันตราย ถ้ารู้ไม่จริงผมก็ไม่กล้าออกความเห็นไว้ล่ะครับ ชีวิตคนหาซื้อมาคืนกันไม่ได้ครับ(เป็นวิศวกรต้องมีจรรยาบรรณ ถ้าไม่มีจรรยาบรรณก็ไม่ต่างอะไรกับโจรหรอกครับ ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
-อันนี้สำหรับ คคห.5 ครับ คิดว่าคุณคงทำงานด้านนี้เพราะคุณรู้ว่ากระแสของระบบจะต้องกลับแหล่งจ่ายไม่ทางใดก็ทางนึง ขอบคุณครับที่มาช่วยกันอธิบาย
ทั้งหลายทั้งปวงก็ลองย้อนกลับไปดูกระทู้เก่านะครับ ผมอธิบายไว้คร่าวๆถึงเหตุผลการต่อลงดินไว้ แต่ถ้าเอาละเอียดคงไม่ไหวครับ แค่นี้ผมก็พิมพ์จนเมื่อยมือแล้วล่ะครับ ขอบคุณทุกๆท่านที่มีข้อสงสัยครับ ช่วยๆกันคิด ช่วยๆกันถาม ช่วยๆกันตอบ เดี๋ยวก็ได้ความรู้ไหม่ๆครับ

จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 14 ส.ค. 47 12:45:43 A:202.57.150.218 X: TicketID:068816 ]

ความคิดเห็นที่ 10

-คุณ nanno ครับ ผมเสียใจอย่างสุดซึ้ง กับประสพการณ์ของคุณที่ได้รับจากช่างไฟที่ทำงานโดยไม่มีความรับผิดชอบและขาดทักษะในวิชาช่างที่ดี อย่างเช่น การเดินฝังสายในผนัง โดยที่ไม่มีการร้อยท่อ การถอดสายกราวด์ออกโดยที่บอกว่าต่อไปแล้วทำให้มีปัญหาทั้งๆที่ควรจะแก้ปัญหาให้ตรงจุด และติดตั้งให้ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินสาย หรือการเดินกราวด์ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกินจากมาตรฐานผิดหลอกครับ แต่เกิดจากคนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานมากกว่า สิ่งที่คุณเจอ เป็นสิ่งที่มาตรฐานได้เขียนบอกไว้ชัดเจนว่าห้ามดำเนินการโดยเด็ดขาด ซึ่งคุณก็เห็นผลของการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานไปแล้ว
-ทีนี้มาดูว่ามาตรฐานเกิดจากอะไร มาตรฐานเกิดจากทฤษฎี และการปฏิบัติจริง เอามาผสมผสานกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องไม่ขัดกับหลักทฤษฎี ดังนั้นถ้าบอกว่ามาตรฐานผิด ก็จะหมายถึงทฤษฎีผิดด้วย ดังนั้น เวลาผมจะอธิบายอะไรกับบุคคลทั่วไป ผมจะอ้างมาตรฐาน เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เช่นนะครับ อย่างเรื่องการต่อนิวทรัลลงกราวด์นี่ ถ้าผมจะคุยในเชิงวิชาการนี่ ผมก็ต้องบอกว่า ข้อดีของมันอีกอย่างคือ เมื่อเกิดการ short circuit ระหว่า l-n อุปกรณ์ป้องกันจะตัดได้ไวสุด เพราะเมื่อเราเอานิวทรัลลงกราวด์นการ short ckt ของ l-n จะเปรียบเสมือน เป็นการ short l-g ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่า แต่เมื่อดูผลของอุปกรณ์ป้องกัน ระหว่าง i กับ t จะเห็นว่า หากกระแส short รุนแรงเท่าไหร่ อุปกรณ์ป้องกันก็จะทำงานไวขึ้นเท่านั้น คุณอยากให้ผมอธิบายแบบนี้ เหรอครับ แล้วก็จะมีคำถามตามมาอีกมากมายว่า กระแส short รุนแรงทำไมถึงมีข้อดีกว่า short แบบน้อยๆ ซึ่งตามความเข้าใจของคนทั่วไปจะเข้าใจว่า การ short น้อยน่าจะดีกว่า แต่ตามหลักวิศวกรรม หาก short น้อย อุปกรณ์ป้องกันจะตัดช้า ผลที่ตามมา สายไฟจะรับ short ckt เป็นเวลานานขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้สายไฟละลาย,ไหม้ และเกิดอัคคีภัยอย่างที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ทีนี้ก็จะมีคำถามตามมาอีกว่า แล้ว short รุนแรง สายไฟไม่ไหม้เหรอ, แล้วเครื่องป้องกัน จะทนได้แค่ไหน ฯลฯ ซึ่งผมก็ต้องตามไปตอบถึงคุณสมบัติของสายไฟ ในการรับ withstand voltgage การคำนวณหาขนาดการรับ short ckt. ของเครื่องป้องกัน ฯลฯ ซึ่งถ้าผมตอบหมด ผมก็เขียนตำราสอนนักศึกษา ป.ตรี วิศกรรมไฟฟ้า ได้เล่มนึงแล้วครับ แต่ถามว่าบุคคลทั่วไปต้องรู้ลึกซึ้งขนาดนั้นไม๊ มีความจำเป็นแค่ไหน บุคคลทั่วเอาสิ่งนี้ไปใช้แค่ไหน นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงต้องอ้างมาตรฐาน ทั้งๆที่มาตรฐานไม่ได้ให้เหตุผลไว้ แต่ให้ยึดถือปฎิบัตร แต่ผมขอรับรองว่ามาตรฐานไม่ผิดหลักทฤษฎีแน่นอนครับ
-ก็ขออนุญาติทำความเข้าใจกับคุณ nanno นะครับและผมก็แนะนำกรณีของคุณนิดนึงครับ คุณควรว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้มีความชำนาญ ทำการตรวจสอบระบบไฟบ้านของคุณอีกครั้ง และแก้ไขให้ถูกต้องนะครับ แล้วก็ขออภัยหากคำชี้แจงของผมหรือข้อเสนอแนะของผม ไม่เป็นที่พอใจของคุณ nanno นะครับ ผมขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วย

จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 14 ส.ค. 47 17:41:08 A:202.57.150.218 X: TicketID:068816 ]