ความคิดเห็นที่ 1 http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=2 ระหว่างที่รอคุณปาริสัชชามาตอบ ลองแวะไปอ่านที่นี่ดูอีกทางนะคะ จากคุณ : เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นนะคะ - [ 12 ก.ย. 47 23:15:49 A:203.156.74.121 X: TicketID:068000 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โอยสะดุ้งเลยครับคุณอริสฯ แหมเจาะจงผมอย่างงี้ต้องขอออกตัวก่อนหล่ะนะครับว่า จริงๆผมเองก็ยังต้วมเตี้ยมๆอยู่ ยังไม่ค่อยกล้าแนะนำใครหน่ะครับ ประมาณว่าตายังบอดๆอยู่ ผมว่าคุณอริสฯเองจะไปไกลกว่าผมซะอีกครับ อีกอย่างก็มีอาจารย์ดีอยู่แล้วนะครับ ผมขอเป็นแบบว่าเล่าสู่กันฟังเป็นประสบการณ์ที่ผ่านมาดีกว่าครับ แล้วหากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็เรียนเชิญท่านผู้รู้มาแนะนำผมอีกทีอย่างนี้ดีกว่านะครับ... จากคุณ : ปาริสัชชา - [ 13 ก.ย. 47 22:03:36 A:221.128.103.214 X: TicketID:028099 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เริ่มต้นจากถ้าเป็นการเจาะจงฝึกมโนมยิทธิในแบบวัดท่าซุง ก็คงมีวิธีปฎิบัติตามลิงค์อยู่แล้วนะครับ แต่จะขอเล่าเสริมเล็กน้อยนะครับว่า ตอนที่ผมฝึกก็ใช้คำภาวนา นะ มะ พะ ทะ และใช้กระดาษที่มีอักขระ นะโมพุทธายะ ปิดหน้า ขณะที่ภาวนา จะดูลมหายใจเข้าก็ภาวนาว่า "นะมะ" พอหายใจออกก็ภาวนาว่า "พะทะ" (ใช้กำลังใจแค่อุปจารสมาธิ) แต่ที่สำคัญก็คือ ก่อนทำต้องพิจารณาตัดขันธ์ห้าให้ได้ก่อน จนใจจะรู้สึกคลายจากการยึดมั่นในร่างกาย (เพียงชั่วในขณะนั้น) พอภาวนาไปเรื่อยๆ จะสังเกตุว่าอาการทางใจจะเบา และสว่างๆ จนรู้สึกว่า มีแสงสว่างปรากฏอยู่แบบทะลุหน้ากากที่ปิดหน้าออกไป คือเหมือนไม่มีหน้ากากปิดหน้าอยู่หน่ะครับ ต่อจากนั้นก็จะรวบรวมกำลังใจพุ่งตามแสงออกไปตามที่อาจารย์ท่านแนะนำ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะพุ่งออกไปที่พระจุฬามณีเป็นแห่งแรกครับ หลังจากนั้นก็จะกำหนดรู้อะไร หรือไปดูอะไรก็ใช้กำลังจิตแบบนี้หน่ะครับ.... จากคุณ : ปาริสัชชา - [ 13 ก.ย. 47 22:08:03 A:221.128.103.214 X: TicketID:028099 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทีนี้มาเล่าถึงวิธีปฎิบัติแบบต้องการทรงฌานระดับลึกๆ เริ่มต้นก็คือจะใช้กรรมฐานกองใดก็ได้ที่ถนัด แต่ที่สำคัญนั้น จะทิ้งลมหายใจโดยไม่กำหนดรู้ไม่ได้ จริงๆมีวิธีขึ้นต้นหลายแบบนะครับ แล้วแต่ภาวะนั้นๆของใจ ถ้าใจสงบอยู่บ้างแล้ว ก็ใช้วิธีพิจารณาร่างกายต่อไปเลยแบบให้เห็นถึงภายใน ให้เห็นถึงความสกปรก ความเสื่อมไป หรือแยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ จนไม่เหลืออะไรที่เป็นตัวตนที่เป็นตัวเราอยู่เลยนะครับ แต่ถ้าขณะพิจารณาไปแล้ว จิตใจเริ่มเคลื่อนไปในทางฟุ้งซ่าน ก็กลับไปทำสมาธิคือกำหนดดูลมหายใจจนจิตสงบแล้วกลับมาพิจารณาใหม่ .... หรือที่บางศัพท์ท่านเรียกว่า "ใช้ปัญญาอบรมสมาธิ" หรือจะ "ใช้สมาธิอบรมปัญญา" ก็แล้วแต่ภาวะจิตใจในขณะนั้นๆหน่ะครับ ... เรียกว่า ทำภาวนาสลับกับการพิจารณาไปเรื่อยๆ มีข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งก็คือ บางครั้งที่มีอารมภ์แทรกเข้ามาอย่างเช่น รัก โลภ โกรธ หลง หากพิจารณาจนตกได้ สภาวะจิตก็จะวิ่งกลับไปทางตรงกันข้าม คือจิตจะสงบมาก อุปมาเหมือนกับ ถ้าข้าศึกที่จู่โจมเข้ามามีกำลังแรงเท่าไหร่ แล้วหากพิจารณาจนชนะข้าศึกได้ กำลังของจิตก็จะมีกำลังแรงขึ้นไปอีก และจิตก็จะสงบลงมากขึ้นเท่านั้นหน่ะครับ.... จากคุณ : ปาริสัชชา - [ 13 ก.ย. 47 22:11:26 A:221.128.103.214 X: TicketID:028099 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อมาเมื่อจิตสงบลงจากสิ่งรบกวนอื่นๆแล้ว สังเกตุง่ายๆคือจิตจะมีอาการสว่างๆ และเบาๆ คำว่าอาการสว่างๆ ถ้าไม่ได้ฝึกกสินหรือฝึกกำหนดจับภาพนิมิตอะไร จิตมันจะมีอาการสว่างๆ แบบสว่างชัดรู้ในจิตเอง ซึ่งอาการนี้ ตามศัพท์ก็จะเรียกว่า "เป็นอุปจารสมาธิ หรืออุปจารฌาน" พอทรงอารมภ์นี้ไว้อย่างแนบแน่น จิตก็จะเลื่อน เข้าสู่ปฐมฌานเอง การสังเกตุจิตที่เป็นปฐมฌานก็คือ จิตจะจดจ่ออยู่แต่กรรมฐานกองที่ทำโดยไม่สนใจใน เสียงภายนอกเลยอย่างนี้เป็นต้นครับ .... ส่วนการที่จะทรงฌานให้ได้ลึกจริงๆ คงจะมีองค์ประกอบอยู่หลายประการ ในเรื่อง "สัปปายะ" ด้วยนะครับ ซึ่งคนในเมืองที่จะต้องทำงาน และจิตใจต้องกระทบอารมภ์ต่างๆก็คงจะทรงฌานลึกๆ ได้ยากสักหน่อย แต่หากท่านผู้ใดสามารถกำหนดรู้ลมหายใจไปได้ในระหว่างวัน หรือกำหนดรู้อริยาบทเคลื่อนไหว ไว้ให้ได้โดยตลอด การทำฌานก็จะทำได้ง่ายนะครับ มีข้อสังเกตุอีกอย่างก็คือ จิตใจที่จะฝึกสมาธิต้องน้อมจิตให้อ่อนโยน น้อมระลึกถึงพระรัตนตรัยให้แนบแน่น ถ้าสวดมนต์แบบตั้งใจสวดอย่างไม่รีบเร่ง ก็จะช่วยให้จิตใจอ่อนโยน พร้อมที่จะเข้าสู่สภาวะจิตสงบอย่างลึกได้ง่ายด้วยนะครับ แต่ถ้าชำนาญแล้วก็จะว่องไวขึ้นเอง .... จากคุณ : ปาริสัชชา - [ 13 ก.ย. 47 22:15:34 A:221.128.103.214 X: TicketID:028099 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นพื้นฐานคร่าวๆหน่ะครับ แต่พื้นฐานนี่เป็นสิ่งสำคัญมากครับ ถ้าปูพื้นได้ดีจิตก็จะไต่ขึ้นไปได้ดี และถึงแม้ว่าจะมีอาการแกว่งเพราะแรงเสียดทานของอารมภ์กระทบบ้าง กำลังจิตก็จะไม่สลายตัวไปง่าย ผมจึงให้ ความสำคัญกับพื้นฐานมากหน่ะครับ.... ทีนี้ผมขอมาพูดถึงในคราวที่ฝึกมโนมยิทธิที่วัดท่าซุงเพื่อเป็นกำลังใจเสริมผู้อ่าน อีกแรงนะครับว่า สมัยนั้นผมฝึกแบบอาจารย์ว่ายังไง ก็ว่าตามกัน คือเวลาท่านให้พิจารณาร่างกายให้เห็นว่าเป็นทุกข์ ก็พิจารณาตามไป จนพอจิตมันปล่อยวางจากร่างกาย(ชั่วคราว)แล้ว จิตจะสว่างๆ มีแสงอยู่ข้างหน้า ท่านก็ให้พุ่งจิต ตามแสงออกไป จิตก็จะออกไปได้ในกำลังเพียงอุปจารสมาธิที่ได้ .... บางท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจแย้งว่า "หลงนิมิตหรือ" ผมเองมีความเห็นว่า คำว่า "หลง" ก็มีความหมายว่า "เผลอสติ" แต่ตอนนั้นสติดีไม่เผลอนี่นะครับ แต่อาจมีบางท่านแย้งต่อไปว่า "หลงแบบมีสติก็หลงได้" ตรงข้อนี้ผมขอมองอย่างนี้ครับว่า ให้ดูตนเองว่าการปฎิบัติธรรมใดๆก็ตาม แม้จะมีนิมิตหรือไม่มีก็ตาม หากปฎิบัติแล้ว จิตใจเยือกเย็น มีความสงบเบา มานะทิฎฐิลดลง และสรุปสุดท้ายคือ เห็นทุกอย่างในโลกนี้ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน มีแต่ทุกข์ แต่จิตก็ไม่สลดหดหู่จนเกินไป คือมีอาการรู้ทันสภาวะที่เป็นไป ตามธรรมชาติ ธรรมดา และจิตจะเบา และจะมีความสว่างแจ่มใสอยู่ในตัวเองแบบผู้รู้ หากเป็นเช่นนี้ การปฎิบัติธรรมนั้น ผมมั่นใจว่ามาถูกทางแล้วนะครับ หากมีอาการตรงกันข้ามกับที่ผมว่า อย่างนี้ต้องกลับไปทบทวนการปฎิบัติมาใหม่ ทีนี้ตอนที่ผมฝึกมโนมยิทธิจริงๆ จิตใจผมจะสบาย มีภาพพระติดตา ( ติดใจ ) ทรงอยู่ตลอดเวลายืนเดินนั่งนอน ทุกอริยาบท และคล้ายๆกับมีจิตรู้มองดูตัวเองตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าอยู่ตลอดไม่ทำอะไรทุกอริยาบท แม้อารมภ์ใดวิ่งเข้ามากระทบ ก็จะเห็นอารมภ์นั้นๆ ราวกับเป็นวัตถุที่เป็นรูปธรรมที่วิ่งเข้ามา และก็จะดักจับได้ เมื่อจับได้แล้ว ก็จะพิจารณาอารมภ์กระทบนั้น จนตกไป จิตใจก็จะมีแต่สงบสบาย โดยที่ผมเองก็ไม่ได้ไปฝึกสติปัฏฐานอะไร เพียงแต่ฝึกมโนมยิทธิผลก็ปรากฎออกมาหลายๆอย่างครับ ส่วนการกำหนดรู้ด้วยญาณอะไรที่ตามมานั้น ผมเข้าใจว่าเป็นของแถม และเป็นเครื่องเสริมกำลังใจได้ดีมากอีกอย่างหนึ่งครับ ..... จากคุณ : ปาริสัชชา - [ 13 ก.ย. 47 22:21:23 A:221.128.103.214 X: TicketID:028099 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมด ก็ขอเล่าพอสังเขปนะครับ ส่วนผลการปฎิบัติก็คงมีความแตกต่างกันไปในแต่ละท่าน แต่จุดหมายก็คงมุ่งเน้นปลายทางเดียวกันคือ พระนิพพาน ผมจึงขออนุญาตก๊อปความเห็นจากท่านหนึ่งมาที่ท่านทำลิงค์เอาไว้ซึ่งเป็นคำสอนของหลวงพ่อฤาษีฯ เพิ่มเติมจากคุณอริสฯ และท่านที่คคห.ที่ 2 ที่ทำลิงค์ไว้ให้นะครับ และขอความเจริญในธรรมพึงบังเกิดมีแด่ท่านผู้สนใจปฎิบัติยิ่งๆขึ้นไปนะครับ ..... *//........................................................................................................................................................................................................................................*// MP3 ประวัติหลวงพ่อปาน และคำสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน สำหรับ download ครับ ขอขอบพระคุณพี่"หนึ่ง"จากเชียงใหม่ที่เอื้อเฟื้อแผ่น CDs ต้นฉบับนะครับ ผมยังไม่มีเวลาทำ links ให้สวยงาม แต่ท่านสามารถ download ได้จาก virtual directories โดยตรงเลยครับ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน A http://www.luangpor.com/audio/A/ ประวัติหลวงพ่อปาน และอานาปานุสติกัมมัฏฐาน http://www.luangpor.com/audio/LuangpuPan/ ผมยังมีอีก ๑๘ แผ่นที่ยังไม่ได้ upload จะค่อยๆทยอยเอาลงนะครับ เพราะแผ่นนึงใช้เวลา upload ตั้งเกือบ ๘ ชั่วโมงแน่ะ จากคุณ : Deus Absconditus (God) - [ 1 เม.ย. 47 13:05:33 ] จากคุณ : ปาริสัชชา - [ 13 ก.ย. 47 22:26:01 A:221.128.103.214 X: TicketID:028099 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขออภัยท่านผู้อ่านนะครับว่า คงอ่านยากหน่อย ผมเคาะขึ้นต้นบรรทัดเมื่อ Preview ดู ก็แบบหนึ่ง พอคลิ๊กส่ง ไหงออกมาทะแม่งๆนะครับ จากคุณ : ปาริสัชชา - [ 13 ก.ย. 47 22:28:57 A:221.128.103.214 X: TicketID:028099 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากครับคุณเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นนะคะ ^_^ และ คุณปาริสัชชา ได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาเยอะเลยครับ ^_^ ด้วยอานิสงค์แห่งธรรมทานนี้ ผมขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้าทรงประทานพรให้ท่านที่แนะนำทางกุศล ได้บรรลุธรรม ได้สมดังที่ปรารถนาทุกประการครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 47 23:27:00 จากคุณ : อริสโตเติล - [ 13 ก.ย. 47 23:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โมทนาค่ะ จากคุณ : + - [ 13 ก.ย. 47 23:47:07 A:203.156.73.245 X: TicketID:068000 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สาธุ จากคุณ : LoveZ - [ 14 ก.ย. 47 15:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โมทนาในธรรมด้วยครับ จากคุณ : หนุ่มทิพย์ - [ 15 ก.ย. 47 11:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 MP3 ประวัติหลวงพ่อปาน และคำสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน สำหรับ download ครับ ขอขอบพระคุณพี่"หนึ่ง"จากเชียงใหม่ที่เอื้อเฟื้อแผ่น CDs ต้นฉบับนะครับ ผมยังไม่มีเวลาทำ links ให้สวยงาม แต่ท่านสามารถ download ได้จาก virtual directories โดยตรงเลยครับ จากคุณ : Deus Absconditus (God) - [ 1 เม.ย. 47 13:05:33 ] ````````````````````````````````````````` จากคุณ : ann~nna - [ 17 ก.ย. 47 03:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หลวงพ่อพระราชพรหมยาน A http://www.luangpor.com/audio/A/ ประวัติหลวงพ่อปาน และอานาปานุสติกัมมัฏฐาน http://www.luangpor.com/audio/LuangpuPan/ ผมยังมีอีก ๑๘ แผ่นที่ยังไม่ได้ upload จะค่อยๆทยอยเอาลงนะครับ เพราะแผ่นนึงใช้เวลา upload ตั้งเกือบ ๘ ชั่วโมงแน่ะ จากคุณ : Deus Absconditus (God) - [ 1 เม.ย. 47 13:05:33 ] ````````````````````````````````````````` จากคุณ : ann~nna - [ 17 ก.ย. 47 03:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขออนุโมทนาให้สำเร็จญาณสมใจ แต่ถ้าจะเป็นยังไงเราก็ควรละการยึดติด ไม่งั้นจะเป็นผลร้ายต่อเราได้นะ จากคุณ : หวังดีนะ (envoy) - [ 3 ต.ค. 47 18:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของทุกๆท่านครับ กุศลผลบุญใดที่ผมได้ไปทำบุญ ปฏิบัติธรรมที่วัดท่าซุง จงเป็นปัจจัยให้ทุกท่านได้เข้าใจและเข้าถึงพระนิพพานได้โดยง่ายครับ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 47 23:16:57 จากคุณ : อริสโตเติล - [ 6 ต.ค. 47 23:11:41 ]