ความคิดเห็นที่ 1 เขาเรียกว่า Athlete's foot น่ะครับ ต้องทายาติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอหลายอาทิตย์กว่าจะหาย ถ้าทาบ้างไม่ทาบ้างก็เป็นปีครับ จากคุณ : Practical x 2 - [ 13 ก.ย. 47 00:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอเสริมหน่อยครับ ถ้าหายแล้วก็ควรจะทาต่ออีกสักระยะนึงนะครับ จากคุณ : networkthai - [ 13 ก.ย. 47 02:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 "โรคผิวหนังจากเชื้อรารักษาได้โดยการใช้ยาต่ออีกระยะ" "โรคผิวหนังจากเชื้อราใช้...ยาทาเดี๋ยวก็หาย" จากคุณ : ascertain - [ 13 ก.ย. 47 10:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ่ะ อาการเดียวกันเลยครับ ขึ้นที่ฝ่าเท้าอ่ะ ก่อนนี้เป็นที่ปลายนิ้วมือด้วย เป็นมาตั้งแต่ ต้นปี จนปลายปียังไม่หายเลย ทายาแล้ว เห็นมันหายๆ เลยไม่ทาต่อ เลยกลับมาเป็นอีก .... เฮ้อออ ใช้ยาตามแพทย์สั่งอ่ะครับ ชื่อยา benovate อะไรเนี่ยแหละ ผมใช้ยา จนกลัวมันจะดื้อยาเช่นกันครับ คราวนี้ คงตั้งใจดูแลมากกว่าเดิม โรคแบบนี้ สังคมรังเกียจนะเนี่ยยยย จากคุณ : yog_bf - [ 13 ก.ย. 47 21:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไรมารีน...แก้ได้ทั้งราและแบคทีเรีย ลองดูนะครับ จากคุณ : bavornchol - [ 13 ก.ย. 47 22:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืมๆ มีคนอื่นเป็นเหมือนกันเหรอเนี่ย ขอให้หายเร็วๆนะครับ :) จะว่าไปอยากรู้ว่ายาตัวไหนดีบ้างนะครับ เพราะดูฉลากแล้ว ฟังเจอเดิม มีตัวยา Chotrimazole 1gm/100gm ทาโวเจน มีตัวยา Isoconazole 10mg/1g ไม่รู้ว่าตัวยาไหนดีกว่ากันหรือเปล่า benovate จากคุณ yog_bf ไรมารีน จากคุณ bavornchol นี่ ดีมั๊ยครับ? แบบว่าในใจคิดว่าถ้าจะให้ดี ให้หมอขูดเนื้อไปนิดๆ ดูว่ามันราชนิดไหนแล้วเลือกทาให้มันเจ๋งๆไปเลยดีมั๊ย(ซาดิสม์) --------------------- แล้วเรื่องสาเหตุ มีใครบอกได้บ้างครับ ว่าเพราะอะไร บางคนบอกว่าเป็นเพราะภูมิร่างกายต่ำ เพราะช่วงที่ผ่านมาผมนอนน้อยมาก(ตี2 ตื่น7โมง) อีกทฏษฏีที่สงสัยคือ ก่อนหน้านี้ผมล้างห้องน้ำแล้วยืนแช่กะน้ำยาล้างห้องน้ำนานๆ (ในน้ำยามีกรดด้วย แล้วห้องน้ำก็คราบเพียบ ราทั้งนั้น =_=) หรือว่าโดนน้ำยากัดจนเท้าเราบาง แล้วเจ้าราเลยโดยงับซะ?? ขอบคุณทุกคำตอบครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 47 00:25:37 จากคุณ : Hoo - [ 14 ก.ย. 47 00:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 betnovate มันเป็น steroid ทาแล้วจะไม่คันเพราะมันไปกดระบบภูมิคุ้มกัน แต่ไม่ได้รักษาการติดเชื้อรา พอหยุดทาก็คัน + ลามขึ้นมาอีก เปลี่ยนไปใช้ยาต้านเชื้อราดีกว่าครับ ถามเภสัชกรก็ได้ จากคุณ : alan the lamb - [ 14 ก.ย. 47 12:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่รู้เหมือนผมหรือเปล่าคือผมสังเกตว่ามันเป็นเฉพาะก้อย+นางซ้าย ซึ่งมันเบียดกันอยู่แล้ว และรองเท้าก็เป็นแบบบีบ (เหมือนพวกรองเท้าหุ้มส้นทั้งหลาย)น่าจะอับชื้น เป็นบ่อยมากจนสุดท้ายติดเชื้อเป็นหนอง กินไปถึงเล็บ เลยต้องไปซื้อยาผงมาโรย+แฮลกกอฮอล์(เขียนผิด) หลายวันถึงจะหาย นึกว่าจะเป็นเบาหวานเสียแล้วเห็นรายวัน หลังจากหายก็ไปซื้อรองเท้าใหม่แบบที่เปิดสุด ๆ จากคุณ : น้ำเค็ม - [ 14 ก.ย. 47 14:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ของผม เป็นหนักที่ นิ้วเท้ากลาง+นางซ้าย ครับ เวลาใส่แอลกอฮอล์ ถ้าเป็นหลุมอยู่จะแสบสุดๆ แล้วยาผงที่ว่า นั่นคืออะไรเหรอครับ คุณ น้ำเค็ม จะได้เอามาลองมั่ง ---------------------------- แต่จะว่าไป 2 นิ้วนี้ก็ชิดกันตลอดเวลาจริงๆเวลาผมใส่รองเท้า แล้วผมก็เพิ่งใส่รองเท้าคู่นี้ไม่นาน เหมือนกัน งี้ต้องปารองเท้านี้ทิ้งเหรอ =_=' จากคุณ : Hoo - [ 14 ก.ย. 47 23:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับชื่อยาผง พอดีอยู่อีกบ้านหนึ่ง เป็นยาสำหรับโรยแผลเป็นหนองนะครับ เพราะของผมตอนนั้นเป็นหนองแล้ว (จากแค่ตุ่มคันเฉย ๆ) ส่วนเรื่องรองเท้าคงต้องเลือกว่าจะเป็นอย่างนี้ต่อหรือ แต่ก็ไม่แน่ครับ ไอ้ที่มันคันเกิดจากการอับชื้น ถ้าแก้ปัญหานี้ได้ ราก็ไม่เกิด (ไม่แนะนำให้แงะรองเท้าเฉพาะนิ้วก้อย มันประเจิดประเจ้อ ครับ :P) จากคุณ : น้ำเค็ม - [ 15 ก.ย. 47 12:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่าครับ ตอนนี้ผมเป็นอยู่ที่ นิ้วเท้า  นิ้วกลาง ทั้งสองเท้า ทั้งซ้ายขวา บนนิ้ว และ โคนนิ้วโป้งเท้าขวา  จนถึงด้านล่าง และฝ่าเท้า เท้าขวา อันนี้แค่หนังลอกๆ ไม่หนัก ตอนนั้น ที่รักษาจนหาย ผมเลิกใส่รองเท้าหนัง เปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะ แต่พันผ้าไว้ ถึง สองเดือนเชียวนะครับ แต่พอหายดี ก็กลับมาใส่รองเท้าหนัง และก็กลับเป็นอีก คุณ Hoo  ครับ มาแข่งกันรักษาตัวมั้ยครับ ใครจะหายก่อน ขอบคุณนะครับ คุณ alan the lamb  จะลองปรึกษาแพทย์อีกทีครับ ว่าจะโพสรูปเท้าให้ดู กลัวสยองกันอ่ะครับ แหะแหะ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 47 15:41:56 จากคุณ : yog_bf - [ 15 ก.ย. 47 15:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หุหุ ยาใกล้หมดพรุ่งนี้ว่าจะไปหาหมออีกรอบ แต่โดยรวมดีขึ้นมาแล้ว วิธีคือ -ก่อนนอน ทายา ฟังเจอเดิม แบบโม๊ะให้หนักๆเลยครับ -ตื่นเช้าขึ้นมาก่อนใส่รองเท้า โรยแป้ง ปิกลี่ฮีท หนาๆหน่อยจะดีครับ เพราะมันช่วยซับเหงื่อ และตัวมันเองก็มีสมุนไพรผสมอยู่ -พยายามถอดรองเท้า ตลอดเวลาที่อยู่ที่ทำงานครับ(ยกเว้นจะลุกเดินไปที่อื่น) -พก ทั้งแป้ง ทั้งฟังเจอเดิมไปที่ทำงาน เริ่มรู้สึก แป้งหมด โรยแป้ง มันคันขึ้นมาเมื่อไหร่ โปะยา แต่รู้สึกว่าเปลืองนิดนึง หมอกะว่า ยา 2 หลอดอยู่ได้ 2 สัปดาห์ นี่ ยังไม่ทันหมดสัปดาห์ หลอด 2 ไม่น่าจะเกินวันพรุ่งนี้(O_o') ---------------------------- ม่ายแข่งละครับ คุณ yog_bf บรื๋อ แค่ 2 นิ้ว + ลามมาที่มือ ประสาทก็จะกินแล้วครับ ที่สำคัญผมยังเป็นไม่เยอะ ได้เปรียบ :D ---------------------------- ขอให้สุขภาพดีๆกันถ้วนหน้าละครับ (^ ^) จากคุณ : Hoo - [ 17 ก.ย. 47 00:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แปลกที่ไม่มีใครลอง ขี้ผึ้งเบอร์ 28 เลย ทายาเชื้อราปกติ (พวกคีโตโคนาโซล) แล้วตามด้วยขี้ผึ้งเบอร์ 28 มันเป็นพวกกำมะถัน+กรด(อะไรไม่รู้) รู้สึกว่ามันช่วยป้องกันเชื้อราดีกว่านะ เคยเป็นเชื้อรา ทายาพวกยี่ห้อดังๆ พอเห็นว่ามันหาย แล้วเลิกทา ซักพักก็เป็นอีก เลยลองขี้ผึ้งเบอร์ 28 ดู วิเคราะห์ดู เหมือนว่าขึ้ผึ้งมันเป็นกำมะถัน มีฤทธิ์ต้านเชื้อราได้นานกว่า อีกอย่างลองใช้ ซีม่าโลชั่น ให้ผลในการฆ่าเชื้อราได้เร็ว ใช่ร่วมกัน 3 อย่าง คือ ยาที่หมอให้ (พวกคีโตโคนาโซล) ขี้ผึ้งเบอร์ 28 กับซีม่า พอเชื้อราหาย ก็ใช้ ขึ้ผึ้งเบอร์ 28 ทาไปเรื่อยๆ ซักพักมันจะช่วยให้หายขาด (เหมือนมันจะช่วยกำจัดเชื้อราที่จุดอื่นไปด้วย เช่น ในรองเท้า ช่วยไม่ให้กลับมาเป็นอีก อีกอย่างลองหายาฆ่าเชื้อรามาแช่รองเท้า หรือเสื้อผ้า ด้วยน่าจะดี จากคุณ : Professor (Professor) - [ 22 ก.ย. 47 23:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อืม เรื่องป้องกัน ผมลองใช้ แอลกอฮอล์ ขวดใหญ่ เท อักๆๆๆ ลงไปในรองเท้า แล้วก็เขย่าๆๆๆ ให้มันทั่วๆ แต่รู้สึกไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ คือ จะมีเจ็บๆ แบบเข็มแทง ในระหว่างวัน เวลาเท้าเริ่มชื้นเพราะเหงื่อ ซึ่งสังเกตเองว่าจุดที่เจ็บ จะมีตุ่มราตามมาเสมอ (แต่ตุ่มเกิดใหม่ทายาตอนกลางคืน ตอนเช้าก็หาย ไม่น่าห่วงนักถ้าไม่ดื้อยาซะก่อน) แอลกอฮอล์มันฆ่าเชื้อราได้มั๊ยเนี่ย ไว้จะลองหาซื้อ ขึ้ผึ้งเบอร์ 28 กับ ซีม่าตามที่แนะนำดูครับ ตอนนี้โปะ ปิกลี่ฮีท ไปเรื่อยๆก่อน ขอบคุณครับ จากคุณ : Hoo - [ 22 ก.ย. 47 23:53:33 ]