ความคิดเห็นที่ 1 A จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง - [ 8 ธ.ค. 47 20:51:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 B จากคุณ : พัฒนาตนเองได้ดี (Elrond) - [ 8 ธ.ค. 47 21:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 a จากคุณ : Great_Terrorist_Ozama - [ 8 ธ.ค. 47 21:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 B จากคุณ : เล่นมั่ง (สมภพ เจ้าเก่า) - [ 8 ธ.ค. 47 21:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อมูลแค่เนี้ย จากคุณ : เด็กเก่ง. - [ 8 ธ.ค. 47 22:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 a จากคุณ : [H]yBRId!!^Kn|gh[T] (ไม่มีสมาชิกชื่อนี้) - [ 8 ธ.ค. 47 22:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 A เก่ง B ก็เก่ง (แต่เก่งกว่า A หรือเปล่าไม่รู้) เพราะไม่มีตัวแปรควบคุม ถ้า ข้อสอบไม่งี่เง่าปัญญาอ่อนนะ ปล. ตอนมัธยม ผมมีเพื่อนเป็นแบบนาย A เลย ไม่เรียน แต่ได้ GPAรวม สูงเป็นอันดับ3ของรุ่น และเป็นคนเดียวในtop20 ที่อยู่ครบจนจบม.6 เพราะชาวบ้านเขาไปเทียบกันหมดแล้ว แต่มันขี้เกียจ!! ไม่ค่อยได้เรียนครับ เน้นเตะบอล แต่เป็นตัวแจกโพยประจำ -แก้ไขข้อความ แหม่ ขอบคุณคุณ โปรโตซัวครับ แห่ะๆๆ ปล่อยไก่ตัวบะเฮิ่ม แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 47 05:55:28 จากคุณ : MaSaChi - [ 8 ธ.ค. 47 22:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การบ้านบางอย่างไม่ประเทืองปัญญาเลย ใช้แต่กำลัง ขี้เกียจทำก็ลอกเขาซะเลย จากคุณ : ไจโรสโคป - [ 8 ธ.ค. 47 22:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ทั้ง 2 คนก็เข้าเรียนทุกครั้ง ฟังอาจารย์สอนทุกวิชาเหมือนกันหนิคับ ถ้าตอนนั้นเข้าใจก็ โอเค อย่างข้างบนว่าคับ บางที การบ้านบางอย่าง มันก็ไม่ได้ประเทืองปัญญา มยุรา ขึ้นมาเลย ปล. #7 คับ GDP มันผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศเบื้องต้นมะช่ายเหรอคับ จากคุณ : โปรโตซัว - [ 9 ธ.ค. 47 00:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องยึดตามผลคะแนนเป็นหลัก ครั้งแรก เก่งเท่ากัน ครั้งสอง B เก่งกว่า จากคุณ : แกะแหนม - [ 9 ธ.ค. 47 03:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้าเรียนทุกครั้ง ฟังอาจารย์สอนทุกวิชา ส่งการบ้าน/งานให้ครบ (ไม่จำเป็นต้องทำเอง แต่ต้องลอกมาอย่างฉลาดอย่าสักแต่ลอก) ... แค่นี้ก็พอเพียงแล้วสำหรับคำว่า "เก่ง" ... เพราะว่าการบ้านบางอย่าง (เน้นเฉพาะบางอย่าง) มัน แทนที่จะประเทืองปัญญา เด็ก ... กลายเป็นการบ้านที่ บั่นทอนปัญญา เด็กแทนซะนี่ ... จากคุณ : UPluto - [ 9 ธ.ค. 47 07:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 definition :นายAเข้าเรียนทุกครั้ง ฟังอาจารย์สอนทุกวิชา แต่ไม่เคยทำการบ้านเลยสักครั้ง ลอกเพื่อนแบบพอเข้าใจ นายBเข้าเรียนทุกครั้ง ฟังอาจารย์สอนทุกวิชา ทำการบ้านเองทุกครั้ง หมั่นทบทวนเนื้อหาก่อนและหลังเรียนเป็นประจำ สรุป: A เก่ง Bขยัน แต่ A นิสัยไม่ดี ไม่รับผิดชอบ ขี้เกียจ เก่งแต่ชาติกำเนิด B ขยัน เป็นนักเรียนดีตามมาตรฐานสังคม เก่งหรือเปล่าไม่รู้ แต่ว่าความเก่งบางทีถ้าคุณทำอะไรสม่ำเสมอ ก็เก่งไปเอง เก่งจากการฝึกฝน ถ้าเป็นคนทำงานในองค์กร คนที่เป็นB จะรุ่ง คนที่เป็นA จะอีกโก้จัด และไม่ค่อยให้ความร่วมมือองค์กร แถมยังดูถูกคนอื่นด้วย ความคิดเห็นส่วนตัว ตอบตามกระทู้คะ ไม่ผิดกติกาใช่ไหมคะ จากคุณ : ฝนปลายฟ้า - [ 9 ธ.ค. 47 07:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นได้ในระดับมัธยมหรือปริญญาตรีในไทย แต่ถ้าในต่างประเทศ ผมว่าคงเกิดได้ยากนอกจากเอเป็นอัจฉริยะ เพราะที่สอนในห้องนั้นรายละเอียดน้อย โดยเฉพาะพวกอาจารย์ระดับชั้นนำบางคนที่สอนไม่ค่อยเก่ง นักเรียน ต้องออกมาค้นคว้าเพิ่มเติมอีกมาก และการบ้านอาจต้องการให้มีการค้นคว้าเพิ่มเติม ไม่สามารถทำได้จากความเข้าใจที่ได้จากในห้องเรียนเท่านั้น คือเมืองไทย อาจารย์จะป้อนให้เกือบทุกอย่างและไม่ค่อยเน้นการบ้านเท่าไหร่ แต่ต่างประเทศ (ไม่รู้ที่อื่นเป็นรึเปล่า) เขาเน้นที่การบ้านพอสมควร บางวิชา การบ้านยากกว่าสอบเยอะ เสียเวลาทำเป็นวันๆ แต่เราก็ได้เรียนรู้จากการทำการบ้านมากเหมือนกัน เพราะคำถามบางอย่างยากเกินไปที่จะเป็นข้อสอบ นอกจากเป็น take home exam.. จากคุณ : มองอีกมุม - [ 9 ธ.ค. 47 09:08:59 A:69.162.29.66 X: TicketID:064569 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ในกรณีที่ข้อสอบเป็นข้อสอบที่ดีมากๆ สามารถวัดความเก่งได้จริง ถ้าได้ 100 เท่ากัน ก็ยังบอกไม่ได้ครับว่าใครเก่งกว่า เพราะความเก่งของทั้งสองคนเกิน scale ที่ใช้วัด ถ้า A ได้ 80, B ได้ 100 ก็ B เก่งกว่า สำหรับผม ความเก่งวัดกันที่ 'ผล' ครับ ไม่สนใจความพยายาม แต่ก่อนผมก็เคยหลงผิดครับ คิดว่าถ้าพยายามน้อยกว่าเพื่อนแล้วได้คะแนนพอๆกัน แสดงว่าตัวเอง 'เหนือกว่า' พอตอนนี้นึกย้อนกลับไปแล้วอยากเขกกะโหลกตัวเองจริงๆ ตอนนี้ผมเข้าใจว่า คนที่เก่งจริงๆต้องชนะคนอื่นแบบจะๆครับ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่า ถ้าพยายามมากขึ้นเราจะเก่งกว่านี้หรือเปล่า หรือว่านี่มันคือ 'เพดาน' ของเราแล้ว อีกอย่างหนึ่งคนที่เรานึกดูถูกเขาว่าเขาขยันถึงได้ 'เก่ง'เท่าๆกับเราที่ขี้เกียจกว่า วันข้างหน้าเขาก็สามารถ 'เก่ง' กว่าเราได้ ด้วยความขยันของเขานี่แหละ ตราบใดที่เรายังไม่เลิกหลงภูมิใจโง่ๆว่า 'ตูเก่งกว่าเพราะขยันน้อยกว่า' ปล. การลอกการบ้าน คือ 'การโกง' ครับ มันคือการเอาผลงานของเพื่อนมา 'หลอก' ครูว่าเป็นผลงานของตัวเอง ไม่ต่างอะไรกับการลอกเลียนเพลง หรือการขโมยผลงานทางวิชาการเพื่อเอาชื่อเสียง ข้ออ้างว่าการบ้านไม่สร้างสรรค์ ฟังไม่ขึ้นหรอกครับ ถ้าคิดว่าไม่สร้างสรรค์ไม่ต้องทำก็ได้ แต่ก็ไม่ต้องส่งสิครับ ทำไมต้องลอกเพื่อนครับ? "ไม่เป็นไรหรอก แค่ลอกการบ้านนะ เรื่องเล็กน้อยเอง ใครๆก็ทำกัน อย่าคิดมากน่า" ก็คิดกันแบบนี้ไงครับ สังคมเรามันถึงมีคนที่ได้โกงบ้านกินเมืองกันได้หน้าตาเฉย สำหรับเขามันก็เรื่องเล็กน้อย เขาไม่ทำคนอื่นก็ทำเหมือนกันแหละ ไม่เชื่อไปถามดูก็ได้ ถ้าแรงไปหน่อย ก็ขอโทษด้วยครับ 'ของ' มันขึ้น อย่างไรก็ตามขอให้คนที่คิดจะ 'ทำ' ตระหนักไว้ก็แล้วกันครับว่า มันคือ 'การโกง' แล้วจะทำหรือไม่ทำก็ตามใจท่านเถิด จากคุณ : Amygdala - [ 9 ธ.ค. 47 14:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สรุปไม่ได้ครับ เต็ม 100 ทั้งคู่ไม่ได้หมายความว่าเก่งเท่ากันนะ ถ้าเต็ม 1000 B อาจจะได้ 997 A อาจจะได้ 750 ก็ได้ ถ้าเต็มล้าน B อาจจะได้ 9 แสน A อาจจะได้ 6 แสน ข้อมูลแค่นี้บอกไม่ได้หรอกครับ พูดถึงความรู้ B อาจจะรู้กว่า A มาก แต่ข้อสอบอาจจะทำได้พอ ๆ กัน ได้คะแนนสอบเท่ากันไม่ได้หมายความว่ารู้เท่ากันนะ จากคุณ : RT - [ 9 ธ.ค. 47 18:09:23 A:160.2.212.65 X:61.90.149.29 TicketID:076578 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โดยส่วนตัว ไม่สนับสนุนคนที่ไม่ทำงานด้วยตัวเอง โดยเฉพาะนิสัยเอาเปรียบคนอื่น ด้วยการลอกเพื่อนส่ง ครับ ใครเก่งไม่เก่งไม่รู้ แต่ถ้าจะรับคนเข้าทำงานด้วยกัน ต้องเลือกคนอย่าง B แน่นอน จากคุณ : คาเฟอีน - [ 9 ธ.ค. 47 18:45:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คนเก่งคือคนมีปฏิภาณดี ปฏิภาณดีคือมีความคิดไว แตกแขนงเชื่อมโยงความรู้ออกไปได้ไม่จำกัด ถ้า A และ B ไปพบปัญหาบางอย่างเช่น หลงรักผู้หญิงแล้วผู้หญิงไม่รักทำใจไม่ได้ ตามไปยิงทิ้งแบบนี้ก็ไม่เก่ง จากคุณ : Peet - [ 9 ธ.ค. 47 23:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นี่ก็เป็นการบอกถึง คำว่า "เก่ง" ในแต่ละคน ต่างคน ต่างมุมมอง แต่ถ้าพูดถึงในชีวิตประจำวัน B น่าจะรุ่งกว่า A แน่ แต่บางทีขึ้นอยู่กับไหวพริบแต่ละคนมากกว่าว่าคิดที่จะหลบปัญหาหรือแก้ปัญหา ปล.หลบปัญหา บางทีก็ดีเหมือนกัน หลบแบบคุ้มทุนนะ จากคุณ : ผู้ไม่รู้เลย - [ วันรัฐธรรมนูญ 12:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอาข้อสอบมาดูจึงจะบอกได้ อิอิอิ จากคุณ : เซียนแห่งmath - [ วันรัฐธรรมนูญ 12:18:14 A:192.168.3.32 X:61.90.4.236 TicketID:051546 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ของผม ไม่เข้าเรียนสักครั้ง ไม่ทำการบ้านเอง รายงานไม่ส่ง สอบก็ลอกเค้าเอา แต่สอบเอ็นสะท้านได้ที่2ของคณะวิศวะมหาลัย....ของภาคเหนือ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ7ปีที่แล้วนะครับ จากคุณ : นักรักแห่งลุ่มน้ำโขง - [ วันรัฐธรรมนูญ 17:33:20 A:61.91.84.204 X: TicketID:075607 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คนแบบ A ที่ผมรู้จักมีเยอะครับ เค้าเอาเวลาที่นาย B ทำการบ้าน ไปหาประสบการณ์อื่นๆที่เขาสนใจ เช่นถ่ายหนัง ก็ถ่ายจนได้รางวัลมากมาย ไปเล่นดนตรี ก็ไปประกวดได้รางวัลมากมาย ไปทำค่ายสร้างชื่อเสียงให้กับมหาลัยให้กับคณะและสร้างความสุขให้แก่นิสิตนักศึกษาและประชาชนในท้องถิ่นไม่รู้เท่าไร บางคนก็ฝึกฝนไปสอบใบผู้ประกาศฝึกฝนจนมีทักษะที่ชำนาญ ผมว่าไม่ว่าจะนาย A นาย B ก็เก่งด้วยกันทั้งคู่น่ะแหละ ถ้าเป็นผมผมจะเลือกเก่งแบบนาย A เพราะยังมีเรื่องอีกมากที่ผมอยากจะฝึกฝนแต่เวลามีอยู่จำกัดเหลือเกิน จากคุณ : Disorder - [ 11 ธ.ค. 47 00:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 #21 มันก็ต้องแลกกันครับ ถ้าไม่ specific ก็ general ไม่มีคำตอบตายตัวว่าอะไรดีกว่าอะไร และเลือกเป็นทั้ง 2 อย่างก็ไม่ได้ จากคุณ : RT - [ 11 ธ.ค. 47 02:11:39 A:202.5.84.162 X: TicketID:076578 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #21 เพิ่มเติมอีกหน่อย นิยามคำว่าเก่งของคุณ Disorder คงกว้างมากเลยใช่มั้ยครับ เรื่องข้อสอบคงไม่มีความหมายแล้วถ้าอย่างนั้น จากคุณ : RT - [ 11 ธ.ค. 47 02:12:47 A:202.5.84.162 X: TicketID:076578 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ครับ ผมตอนนอกประเด็นไปหน่อย และที่กล่าวไปแต่ละคุณลักษณะก็ต่างคนออกไปนะครับ ไม่ใช่คนเดียวกันทำทุกอย่าง(ทำได้หมดก็ซุปเปอร์แมนแล้ว) แต่ผมก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องเรียนไม่ใช่เรื่องสำคัญนะครับ ในมุมมองของนิสิตนักศึกษาแต่ละคนก็ให้ความสำคัญกับการเรียนไม่เท่ากัน แต่สำหรับผมแล้วเรื่องเรียนเรื่องใหญ่และสำคัญมากครับ ทั้งเรื่องเข้าเรียนตั้งใจเรียน งานและสอบ ผมทำเต็มที่อยู่แล้วครับ เพียงแต่ถ้ามีเวลาว่างก็จะทุ่มเทให้กับกิจกรรมที่สนใจมากเป็นพิเศษถ้าเทียบกับการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมในวิชาเรียนก็เท่านั้นเองครับ ถ้าผมไม่สนตั้งเรียนก็เท่ากับหักหลังความพยายามของตัวเอง ผมทำไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : ผมรักจิตวิทยา (Disorder) - [ 11 ธ.ค. 47 12:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมมองต่างจาก Disorder ครับ คนอย่างนาย B มีทางออกเยอะในการทำงาน และการพัฒนาตัวเอง ...... เราต้องดูที่จุดประสงค์ของวิชาและการเรียนรู้ต่างๆ รวมถึงการทำงานด้วย สิ่งแรกผมเห็นในตัวนาย A คือ - นาย A ไม่มีวินัยในการดำรงชีวิต ทั้งเรื่องขาดความรับผิดชอบ และการดำรงชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่เรียกว่า EQ - ถึงแม้ว่าจะทำคะแนนได้ดีแค่ไหน มากกว่านาย B ก็ตามที IQ สูงกว่า แต่อนาคตผมมองว่า "คนที่ขาดความรับผิดชอบ ในหน้าที่ของตนเอง 'ไม่เจริญ' " เคยเจอมาเยอะแบบนาย A น่ะ ก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่าคนอื่นเท่าไหร่หรอก IQ สูง EQ เตี้ย มันก็ไม่ประสบความสำเร็จหรอก เพราะว่าส่วนมากแล้วคนแบบนาย A เนี่ยจะเป็นพวก Ego สูง เข้ากับใครไม่ได้หรอก คือ เข้าทีมไหน หัวหน้า และเพื่อนร่วมทีมตายกันหมด หรือล่มจม .... คือคิดว่าตัวเองเก่ง ไม่ต้องทำอะไร เดี่ยวก็ได้ คนอื่นทำตาย ก็ไม่ไหว จากข้อมูลของผู้ที่ตั้งกระทู้ผมมองว่า นาย B เก่งทั้ง EQ และ IQ มองว่า อนาคตเจริญแน่นอน เพราะว่ามีความรับผิดชอบในหน้าที่ดี ทำงาน หรือเป็นเจ้าของกิจการก็ดีทั้งนั้น นาย A ห่วย EQ แต่ถึง IQ จะดี อนาคตก็ดับ เพราะขาดความรับผิดชอบ ถึงแม้คุณ Disorder จะบอกว่านาย A เอาเวลาไปทำอย่างอื่นเพื่อ "เสริมสร้างโลกทัศน์" ก็ตาม แต่ผมคิดว่า "หน้าที่ตัวเองคืออะไรต้องรับผิดชอบก่อน เรื่องรองลงมาทำที่หลัง ต้องแบ่งให้ออกว่าอันไหนหน้าที่ อันไหนเสริมสร้างโลกทัศน์ ไม่ใช่เอามาปนกันมั่ว" ...... ยังไง ก็ลองอ่านข้อความของเจ้าของกระทู้ใหม่นะครับ ว่ามันคือยังไง เพราะว่า "บุคคลที่ลอกการบ้านเค้า หรือคิดว่าพอเข้าใจ เป็นบุคคลที่นำความเสื่อมมาสู่สังคม เพราะนั้นคือการเอาผลงานคนอื่นมาเป็นของตัวเอง" ถ้าเป็นเจ้าของกิจการ หรือคนที่ทำงานด้วยกัน คุณจะคิดยังไง ในการรับเข้าทำงาน หรือเป็นเพื่อนร่วมงาน ...... คุณต้องมองว่าเค้าไม่ใช่เพื่อนก่อนนะครับ ถึงจะเข้าใจว่าเค้าเอาเปรียบคุณหรือไม่ ถ้าเอาคำว่า "เพื่อน" มาเป็นบรรทัดฐานด้วย ผมว่า เป็นใครก็มองไม่ออกหรอก ..... จากคุณ : Xel'Naga - [ 11 ธ.ค. 47 17:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมมองว่าการ "ลอกการบ้าน" กับ "ลอกผลงานหรืองานนวิจัย" มันคนละเรื่องกันน่ะครับ เพราะเจ้าของกระทู้บอกว่าลอกการบ้านอย่างเดียวแล้วผมเองก็มีทัศนส่วนตัวด้วยว่า การลอกการบ้าน กับการมีEQต่ำนั้น น่าจะมีจุดร่วมที่น้อยกันมากครับ "นิยามของคำว่า "เก่ง" แล้วแต่ความคิดแต่ละคนจะพิจารณา อ้อ ลืมไป สองคนนี้ มีอันดับอยู่ที่ 1 และ 2 แบบทิ้งห่าง เพื่อนๆทุกคน" นี่คือสิ่งที่เจ้าของกระทู้อยากทราบนี่ครับว่าทุกคนมีความคิดเห็นส่วนตัวว่าอย่างไร ผมก็ว่าไปตามที่คิด ผมไม่เคยดูถูกคนแบบ B เลยเพียงแต่ในวันนี้ที่ผมยังเป็นนิสิตนักศึกษาอยู่ ผมยังไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมเท่าคนแบบ A ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : Disorder - [ 12 ธ.ค. 47 08:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 #26 ลอกการบ้าน กับ ลอก ผลงานมันต่างกันยังไงล่ะครับ การบ้านก็ถือว่าเป็นผลงานนะครับ การบ้าน ไม่ใ่้่ช่ขี้ ๆ หมดนะ บางอย่างกว่าจะทำเสร็จออกมาได้ยากนะครับ คุณ Disorder เป็นคนแบบ A มีผลงานมากกว่า แต่นั่นเป็นแค่ประสบการณ์ของคุณครับ คนอื่นเค้าอาจจะเป็นคนแบบ B มีผลงานมากกว่าก็ได้ครับ อย่างเช่นเพื่อนผมเป็นคนแบบ B มีผลงานเยอะแยะมากมายครับ ทั้งได้ที่ 1 การประกวด... ได้ที่ 3 การประกวด...ระดับชาติ คนแบบ A ไม่เห็นจะมีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย อยากให้คุณ Disorder มองโลกให้กว้างกว่าที่ตัวคุณเห็นด้วยนะครับ ประสบการณ์ของคน ๆ เดียวมันตัดสินอะไรไม่ได้เลย เห็นมั้ยว่าประสบการณ์คุณกับผมก็ต่างกัน ตรงกันข้าม 180 องศาแล้วครับ จากคุณ : RT - [ 12 ธ.ค. 47 20:43:41 A:202.5.82.105 X: TicketID:076578 ]

ความคิดเห็นที่ 28 "คุณ Disorder เป็นคนแบบ A มีผลงานมากกว่า แต่นั่นเป็นแค่ประสบการณ์ของคุณครับ คนอื่นเค้าอาจจะเป็นคนแบบ B มีผลงานมากกว่าก็ได้ครับ" พิมพ์ผิด "เห็นคน" นะครับ ไม่ใช่ เป็นคน จากคุณ : RT - [ 12 ธ.ค. 47 20:45:28 A:202.5.82.105 X: TicketID:076578 ]

ความคิดเห็นที่ 29 1. ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่า ถ้า A ขยันเท่า B แล้ว A จะได้คะแนนเหมือนกับ หรือมากกว่า B 2. ไม่มีอะไรบอกได้ว่า A เอาเวลาที่ทุ่นได้จากการลอกการบ้านเพื่อน เพื่อไปทำสิ่งไหน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม หรือต่อตัวเอง 3. การที่ B ขยันทำการบ้าน ขยันเรียน ก็ไม่ได้บอกว่า B เรียนหนังสืออย่างเดียว โดยไม่สนใจโลกภายนอก หรือการหาความรู้ด้านอื่น ๆ 4. การสนใจไปทำเรื่องอื่น ไม่อาจจะเป็นเหตุผลมาอ้างในการไม่ยอมทำงานของตัวเองด้วยตัวเองได้ การเอาเวลาไปทำงานอื่น จนงานที่ตัวเองทำออกมาไม่ดี... เรื่องนี้พอเข้าใจได้ และอย่างน้อยก็เห็นว่าได้ทำในความรับผิดชอบของตนเอง ด้วยตัวเอง แต่การลอกงานส่ง โดยอ้างว่าจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น มองจากสายตาคนนอก จะคิดอย่างไร?? คนเรามีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน... ถ้ารักจะทำหลายอย่าง ก็ต้องยอมลดเวลาส่วนตัว หรือเวลาพักผ่อนลงไปบ้าง แต่ไม่ใช่ไปเบียดบังเวลาหลัก (ของความรับผิดชอบหลัก) นะครับ จากคุณ : คาเฟอีน - [ 13 ธ.ค. 47 03:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ครับ ได้ฟังคุณ คาเฟอีนว่ามา ก็เห็นด้วยครับ ผมคงมองอะไรง่ายไป เพราะผมตีความคำว่า การบ้าน ไม่เหมือนคนอื่นและสิ่งที่ได้เสนอข้างต้น ก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวจริงๆ ก็ถือว่าเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันนะครับ อันนี้ลองคิดเล่นๆดู เล่นๆจริงๆนะครับ เพราะผมกระจ่างในประเด็นข้างต้นแล้ว สิ่งที่อยากให้ลองคิดก็คือ คนที่ลอกการบ้านส่งนั้น มีความรับผิดชอบหรือไม่ เพราะสุดท้ายแล้วก็มีการบ้านส่งอยู่ดี อันนี้น่าคิดนะครับ จากคุณ : Disorder - [ 13 ธ.ค. 47 19:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 31 #30 ต้องนิยาม ความรับผิดชอบ แล้วล่ะครับ ว่าหมายถึงอย่างไร คนลอกการบ้านส่ง มีความรับผิดชอบ ต่อตัวเอง แต่ไม่ได้มีความรับผิดชอบต่อคุณธรรมครับ ผมมองอย่างนั้นนะ อย่างถ้าผมไปปล้นชาวบ้านมาซื้อข้าวกิน เพราะผมไม่มีเงิน อย่างนี้ผมก็มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง แต่ไม่มีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นครับ จากคุณ : RT - [ 13 ธ.ค. 47 23:26:44 A:202.5.83.3 X: TicketID:076578 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นเหตุการณ์สมมุติครับ... อย่าจริงจังมาก ในความเป็นจริง ข้อมูลแค่นี้คงไม่พอ และวัดไม่ได้ คงต้องดูรอบ ๆ ด้านหลายอย่าง คนเก่งอย่างหนึ่ง อาจจะไม่เก่งอีกอย่างหนึ่งก็ได้ บางคนอาจจะเก่งทางลึก บางคนอาจจะเก่งทางกว้าง ฯลฯ จากคุณ : คาเฟอีน - [ 14 ธ.ค. 47 18:54:15 ]

ความคิดเห็นที่ 33 #31 ของคุณ RT ทำผมกระจ่างแล้วครับ ขอบคุณครับ ^_^ จากคุณ : Disorder - [ 14 ธ.ค. 47 23:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมก็แค่อยากให้ลองนิยามคำว่าเก่งแล้วตอบคำถามดู ว่าคุณคิดยังไง ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าข้อมูลไม่เพียงพอ คนเราเกิดมาต่างกัน ประสบการณ์ ความรู้ ความคิด ซึ่งสิ่งนี้จะชี้ให้เห็นว่าความดีทำไปเถอะ อย่างน้อยก็มีคนเห็นคุณค่าในตัวเรา เพราะคนแต่ละคนคิดต่างกัน ถามว่าAทำให้ใครเดือดร้อนไหม ซึ่งAก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนแต่อาศัยคนอื่นซึ่งทำการบ้านแล้วเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ปล.ไม่น่าเชื่อจะมีคนตอบเยอะขนาดนี้ ขอบคุณทุกคนนะครับโดยเฉพาะคุณDisorderและคุณRTเด่นตอนท้ายๆ จากคุณ : ผู้ไม่รู้เลย - [ 15 ธ.ค. 47 11:20:44 ]