ความคิดเห็นที่ 1 แนะนำที่ห้องสมุด หัวข้อปรัชาญาศาสนาเลยครับ มีคนอาการเดียวกับคุณหลายคน จากคุณ : SpiritDreamInside - [ 12 ธ.ค. 47 18:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมบวชเรียนมา 11 ปีเต็ม เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาจริง ผ่านการสอบมาทั้งภาคปริยัติ ทั้งภาคปฏิบัติ สอบมาทั้งคู่สวด เคยเป็นพระสังฆาธิการ สอบมาทั้งปาฏิโมกข์ ว่าปากเปล่า ฯลฯ อ่านพระตรัยปิฏกจบมากว่า 3 รอบ แต่บังเอิญว่า ผมเข้ามาตอนที่เน็ตจะตัด แล้วผมจะมาบอกให้ฟังครับ จากคุณ : คนเก่า - [ 12 ธ.ค. 47 19:42:59 A:203.113.71.40 X:203.150.217.120 TicketID:069986 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แก้คำผิดเป็น ไตรปิฏก แก้เพราะรีบ เกิดไปเขียนแบบ พระรัตนตรัย จากคุณ : คนเก่า - [ 12 ธ.ค. 47 19:45:22 A:203.113.71.40 X:203.150.217.120 TicketID:069986 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมกลับมาอีกทีและขอตอบ ดังนี้ เบื้องต้น ผมต้องขอออกตัวก่อนว่า เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังนี้ 1. เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติของผมเอง 2. เป็นเรื่องจริง ที่เล่าด้วยจิตบริสุทธิ์ ไม่คิดหวังจะได้อะไร แม้แต่ความเชื่อถือ ผมนั่งมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ปัจจุบัน ย่าง 49 คุณคิดว่า พอจะมีประสบการณ์ไหม ผมเคยเห็นมาหมดทั้งภูตผีปีศาจ อสูรกาย สัตว์นรก หรือแม้กระทั่งเปรต ผมเคยเห็นมาหมดตั้งแต่พระภูมิเจ้าที่ไปจนถึงที่สุดพรหมโลก ผมเคยบอกกับคนหลายๆคนว่า มนุษย์ธรรมดาๆที่ชอบหลอกลวง ไม่รู้จักผม แต่เทวดา อินทร์ พรหม รู้จักผมดี ดังนั้น อาการแบบคุณหรือยิ่งกว่าคุณ ผมเองเจอมานับครั้งไม่ถ้วน ด้วยประสบการณ์ของการฝึกจิตยาวนานกว่า 40 ปี และด้วยการศึกษา จนสอบผ่านหลักปริยัติที่มาจากพระโอฏฐ์ของพระพุทธเจ้า ผมนำมาเทียบเคียงตรงกัน จึงขอบอกว่า จิตตาการของคุณ เป็นเรื่องดี จิตกำลังสงบจะเข้าวิถีขององค์ฌาน จึงมีอาการของปีติต่างๆ เช่นตัวเบา เป็นต้น และจิตจะเข้าสู่วิถีฌาน มันจะมีตัวนิวรณ์มากางกั้นทำให้เกิดลังเลหรือเขวไปได้ จงตั้งจิตใจให้แน่วแน่ ไม่ต้องกลัวต่อความรู้สึกหลอนหรือล่อของมาร และขอสรุปว่า ที่คุณทำมาทั้งหมดนั้น ถูกทางแล้วครับ ทำต่อไป เท่าที่จะมีเวลาและพอใจ ระตะนัตตะยะเตเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา แปลความแบบยกศัพท์ทีละคำว่า ระตะนัตตะยะเตเชนะ - ด้วยเดชแห่งพระรัตนตรัย โสตถิ - ขอความปลอดภัย โหตุ - จงมี เต - แก่คุณ สัพพะทา - ทุกเมื่อ ปล. คนไม่เคยเรียนมา ลอกหนังสือมา รับรองว่า แปลยกคำ แบบผมไม่ได้เด็ดขาด ตอบด้วยเมตตากรุณาและมุทิตาจิต๛ จากคุณ : คนเก่า - [ 12 ธ.ค. 47 21:15:28 A:203.113.71.37 X:203.150.217.113 TicketID:069986 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเริ่มเข้าสู่ปฐมฌาน แต่เป็นจิตสังขาร หรือนิมิต คือการปรุงของจิตไม่มีตัวตนจริง นักปฏิบัติที่ไม่ได้เรียนมา หรือไม่มีอาจารย์ เมื่อมาถึงจุดนี้ อาจจะหลงไหล เคลิบเคลิ้มได้ ดังนั้น คำตอบของคนส่วนใหญ่สำหรับผู้ที่มาถึงตรงนี้แล้ว ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า - อย่าไปสนใจ - ตอนแรก จับอารมณ์ไหนมา ก็จับอารมณ์นั้นต่อไป เหมือนกับจะเดินไปไหน เจออะไรกลางทางก็อย่าแวะ เพราะจะทำให้หลงทาง เป็นต้น จากคุณ : SpiritDreamInside - [ 13 ธ.ค. 47 10:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทั้ง 2 ท่านนะค่ะที่มาช่วยตอบให้ทราบ ตอนแรกคิดว่าตัวเองเป็นบ้าเพราะอยู่ๆก็เกิดเห็นในสิ่งที่คนอื่นๆเขาบอกว่าเขาเองนั่งมานานแต่ไม่เคยเป็นหรือเห็นแบบที่ดิฉันเห็นเลย ระยะหลังได้คุยกับพี่คนหนึ่งที่นับถือกัน พี่คนนี้เล่าว่าแกเองก็ชอบนั่งสมาธิและระดับของแกนั้นสามารถสื่อสารกับสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณได้ และเล่าให้ฟังในทำนองเดียวกับคุณคนเก่า ถึงสิ่งที่ไปพบเห็นมา และบอกใครๆว่าเห็นเพราะนั่งสมาธิ แต่คนทั่วไปบอกว่าแกบ้า เพ้อเจ้อ ดิฉันจึงไม่กล้าที่จะถามใครอีก เสียดายที่พี่คนนี้แกย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียแล้วจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอีก และตัวเองก็ไม่กล้านั่งสมาธิอีกเลย เพราะเกิดความกลัวดังที่เล่าไปข้างต้น กลัวว่าถ้าพบเจอแบบนั้นอีก แล้วถูกจับกักตัวไว้ดิฉันจะทำอย่างไรดีค่ะคุณคนเก่า มีวิธีแก้ไขอย่างไรหากได้พบเจอสิ่งต่างๆที่ไม่คาดฝัน (ในกรณีของพี่ที่เล่าไปข้างต้นแกบอกว่าตอนแกนั่งสมาธิครั้งแรก คือตอนที่แกบวช มีพระอาจารย์คอยชี้แนะเป็นพี่เลี้ยง ) แต่กรณีดิฉันไม่เหมือนพี่แกค่ะ เป็นผู้หญิงธรรมดาที่บังเอิญอยากหัดทำสมาธิเท่านั้น หากจิตเราตกอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าหลงทางแล้วกลับไม่ได้ เราจะทำอย่างไร มิเป็นเจ้าหญิงนิทราไปหรือค่ะ คุณคนเก่ามีประสบการณ์ทางด้านนี้ช่วยแนะนำด้วย ดิฉันตอนนี้ทั้งกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ยังอยากจะลองนั่งสมาธิดูอีก ก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากหยุดไประยะหนึ่งจะได้พบเจออะไรแปลกๆอีกไหม...ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : สาวอีสาน - [ 13 ธ.ค. 47 19:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมก็นั่งโดยไม่มีอาจารย์แนะนำครับ แต่คุณพ่อของผมเอง เป็นผู้สอนให้ผมสวดมนต์ไหว้พระและสอนให้นั่งสมาธิ มาตั้งแต่ 5 ขวบ ก่อนเข้าเรียน ป.1 เนื่องจากผมถูกผีอำบ่อยครั้งมากครับ ผมอดขอบใจผีที่มาอำผมไม่ได้ เพราะเป็นเหตุให้ได้มาฝึกและทำในสิ่งที่ดี ถ้าพูดถึงศิษย์มีครู คุณพ่อผม ท่านเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า และสอนให้ผมเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ผมก็ใช้ "พุทโธ" เป็นคำนิยมทั่วไปแทบจะทุกที่ ทุกวัด เพราะแปลตรงตัวว่า "พระพุทธเจ้า" คุณบอกว่า "เวลาจิตสงบจะมองเห็นบุคคลที่เคยรู้จักที่เสียชีวิตไปแล้วและบุคคลที่ไม่รู้จักแต่รู้ด้วยจิตขณะนั้นว่าเขาตายแล้ว บุคคลเหล่านั้น ต้องการจะสื่อสาร จึงเกิดรู้สึกกลัว จิตจึงสะดุด และออกจากสมาธิ" ผมเจอวิญญาณคนที่ตายไปแล้ว ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักเขามามากมาย เขามาหาผม มาให้ผมเห็น เพราะรู้ว่าผมมีบุญพอที่จะอุทิศให้เขา เขาจึงมาขอส่วนบุญกับผม เขาไม่สามารถจะมาจับหรือกักตัวผู้นั่งสมาธิได้หรอกครับ เพราะสูงกว่าเขา ขณะที่เรานั่งสมาธิจนจิตสงบ จะสงบมากหรือน้อยก็ตามที เราก็สูงกว่าดวงวิญญาณเหล่านั้น เวลาเราเห็นเขา จึงควรอธิษฐานจิตอุทิศส่วนบุญที่นั่งนี้ให้เขาพลอยอนุโมทนาบุญครับ ไม่ต้องไปกลัว ไม่ต้องไปวิตกกังวลในดวงวิญญาณเหล่านั้น เขามาดี ไม่ได้มาร้าย คุณบอกอีกว่า "บางครั้งนั่งสมาธิเมื่อจิตสงบ นิ่งและลึกมากๆ ก็จะรู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้ รู้สึกได้อย่างนั้นจริงๆ จึงเกิดความกลัวว่าจิตออกจากร่างแล้วกลับไม่ได้ กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ควรทำอย่างไร" ผมเคยนั่งตอน 3 ทุ่ม ออกสมาธิตอน 7 โมงเช้า สงบนิ่งและสงบลึกจนปิดทวารทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ไม่ว่าจะเจอะเจออะไร ก็เฉยๆ ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ใดๆทั้งสิ้น อาการตัวเบาเหมือนปุยนุ่น หรือตัวเย็นซาบซ่าเหมือนนั่งอยู่บนยอดเขาที่มีลมโกรกแรง ฯลฯ ผมเจอมาหมด อาการเหล่านี้ จัดอยู่ในจำพวกปีติ ดังนั้น เป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องร้าย อย่าได้วิตกกังวลใจไปเลยครับ ขอเพียงแต่คุณยังรู้ตัว คือมีสติในขณะนั่ง ตัวเบาก็รู้ตัว นิ่งสงบก็รู้ตัว แบบนี้ ไม่มีการหลงทางจนกลับไม่ได้ ไม่มีทางเป็นเจ้าหญิงนิทราอย่างที่วิตกกังวลครับ เพราะเวลาจิตอิ่มตัว จิตจะถอนจากสมาธิและเข้าที่เองโดยอัตโนมัติครับ ผมจึงสรุปว่า เรื่องเห็นดวงวิญญาณของบุคคลที่ตายไปแล้ว - ควรตั้งจิตอุทิศส่วนบุญอันเกิดจากการนั่งสมาธินี้ให้เขาไป เรื่องจิตสงบนิ่ง สงบลึก ตัวเบา เป็นอาการของสมาธิและอาการของปีติ ซึ่งอาการเหล่านี้ ถือว่าดี ไม่ต้องไปแก้ไข และไม่ต้องกลัวว่าจิตจะเข้าร่างไม่ได้ เพราะที่จริงแล้ว จิตก็ยังอยู่กับร่างเรานั่นเอง แต่อยู่ในองค์ของสมาธิจิตครับ. จากคุณ : คนเก่า - [ 14 ธ.ค. 47 20:27:53 A:203.113.71.36 X:203.150.217.114 TicketID:069986 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมขออนุญาตถามหน่อยนะครับ อาการเห็นแสงสว่างเจิดจ้า และความรู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตอย่างแรง ผมเจอแบบนี้มาจะทำยังไงดีครับ ต้องรีบถอนสมาธิออกมาทันที รู้สึกเหมือนเกือบตายเลยครับ ถ้าผมยังดูแสง และรับความรู้สึกโดนไฟช็อต ต่อไปจะเป็นอย่างไรครับ? จากคุณ : ^ ^ - [ 15 ธ.ค. 47 02:39:04 A:210.86.155.146 X: TicketID:045577 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อาการที่ว่านี้ ผมเองเคยเจอสมัยที่สมาธิตกลงมา กลายเป็นสมาธิแบบปลอมๆ ไม่แท้ ไม่ถึงที่จริง อุปมาคล้ายดั่งนักกีฬาที่คิดว่าจะเข้าเส้นชัย แต่สุดท้ายคว้าน้ำเหลว ไปไม่ถึงเส้นชัย บางทีนั่งไปนั่งมาสงบใกล้จะดิ่ง เกิดอาการตัวชาไปหมด เว้นแต่เส้นผมและขนที่ไม่ชา เกอดอาการตัวหนักจะจมลงไปในพื้น คล้ายถูกธรณีสูบ ฯลฯ อาการพวกนี้ ยังเป็นสมาธิปลอมๆ ไม่แท้และไม่ถึงที่ คนเป็นนักกีฬา จิตใจต้องมาก่อน ถ้าอยากเข้าเส้นชัย อย่ากลัวการฝึกหนัก อย่ากลัวเหนื่อย และอย่ากลัวปวดเมื่อย นักสมาธิก็เช่นเดียวกัน หากเจอด่านของมารที่มาห้ามหรือมาตัดการเข้าสู่สมาธิ แล้วหวาดผวา กลัวเกรง ก็จะไปไม่ถึงหลักชัยของสมาธิที่แท้จริง. จากคุณ : คนเก่า - [ 15 ธ.ค. 47 18:44:01 A:203.113.71.39 X:203.150.217.114 TicketID:069986 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แก้คำผิด บรรทัดที่ 7 นับลง จาก เกอดอาการ เป็น เกิดอาการ. จากคุณ : คนเก่า - [ 15 ธ.ค. 47 18:46:22 A:203.113.71.39 X:203.150.217.114 TicketID:069986 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากครับ คุณ คนเก่า จากคุณ : ^ ^ - [ 15 ธ.ค. 47 19:50:04 A:210.86.155.157 X: TicketID:045577 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตามมาอ่านค่ะ รู้สึกชอบการตอบคำถามของคุณคนเก่ามากเลยค่ะ ทำให้ได้ความรู้อะไรดีๆ หลายอย่างกลับไปคิด อืมม์.... ถ้านั่งแล้วเห็นอย่างคุณเจ้าของกระทู้ ก็น่ากลัวเหมือนกันนะคะ เคยได้ยินคนที่นั่งสมาธิพูดถึงเรื่องนี้กันบ่อยเหมือนกัน จากคุณ : Sky - [ 15 ธ.ค. 47 21:01:15 A:203.113.33.8 X:203.150.217.120 TicketID:074336 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การนั่งสมาธิแบบกำหนดลมหายใจเข้าออก หรืออาจจะเรียกว่า ใช้สติตามลมหายใจ เช่น หายใจเข้า "พุทธ", หายใจออก "โธ" เป็นการทำสมาธิที่ไม่มีอันตรายอะไรหรอกครับ ส่วนการทำสมาธิแบบที่เขาพูดกันว่า ถ้าทำพลาด อาจถึงขึ้นสติแตก จิตวิปลาสไปนั้น เป็นสมาธิอีกแบบหนึ่งครับ เช่น การเพิ่งเทียน หรือเพ่งกองไฟ เป็นสมาธิแบบ "เตโชกสิณ" สมาธิแบบนี้ ถ้าเกิดภาพหลอนและคุมสติไม่อยู่ จึงอาจจะเป็นภัย สติแตกได้ครับ เช่น เพ่งไปเพ่งมา ถึงระดับหนึ่ง อาจจะถูกมารมาทดสอบความเข้มแข็งของจิต เห็นเปลวไฟที่เพ่ง ขยายใหญ่ขึ้นขนาดเท่าภูเขาเลากา แล้วพุ่งวาบเข้ามาเผาตัวเราเอง ทำให้รู้สึกร้อนรุ่มปานประหนึ่งตกอยู่กลางกองไฟ บางคนคุมสติได้ ก็ออกจากสมาธิและไม่กล้าทำอีก บางคนตกใจช่วงที่ถูกเผา คุมสติไม่อยู่ สติแตก ก็วิปลาสไป แต่สมาธิแบบ "อานาปานะ" ใช้สติกำหนดลมหายใจ หรือสมาธิแบบ "พุทธานุสติ" เพ่งพระพุทธรูป สมาธิแบบนี้ ไม่มีอันตรายครับ. จากคุณ : คนเก่า - [ 15 ธ.ค. 47 21:26:58 A:203.113.71.36 X:203.150.217.120 TicketID:069986 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แก้คำผิด นับลงบรรทัดที่ 8 จาก การเพิ่งเทียน เป็น การเพ่งเทียน จากคุณ : คนเก่า - [ 15 ธ.ค. 47 22:42:30 A:203.113.71.39 X:203.150.217.116 TicketID:069986 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ต้องขอบคุณ คุณคนเก่ามากค่ะที่ช่วยให้ความกระจ่างและชี้แนะในเรื่องการพบเห็นสิ่งต่างๆ ในขณะนั่งสมาธิ ดิฉันจะนำไปปฏิบัติอีกครั้ง และหากว่ามีปัญหาข้องใจอะไรอีก ก็คงต้องรบกวนคุณคนเก่าอีกหวังว่าจะได้รับคำแนะนำนะค่ะ เกี่ยวกับเรื่องนั่งสมาธินี้ที่จริงไม่นึกหรอกว่าตัวเองจะเข้าถึงได้ลึกซึ้งถึงขนาดนี้ คงเป็นบุญเก่าที่ทำมากระมัง จิตถึงสงบและพบเห็นสิ่งที่ผู้ที่เจริญสมาธิมานานกว่า ไม่เคยพบเคยเจอหรือเข้าถึงได้ ทำให้ดิฉันไม่รู้จะขอความรู้และพูดคุยได้อย่างเต็มปากกับใครในเรื่องนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณ คุณคนเก่ามากๆเลย คุณคนเก่าสามารถนั่งสมาธิได้จนสามารถติดต่อสื่อสารกับสิ่งที่คนเราไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้แสดงว่าคุณเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถควรค่าน่ายกย่องจริงๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ จากคุณ : สาวอีสาน (สาวอีสาน) - [ 19 ธ.ค. 47 15:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เป็นไรครับ หากมีปัญหาสงสัย เชิญมาถามได้ครับ ผมตอบเท่าที่ทราบ และเท่าที่เคยเรียน เคยสอบ เคยผ่าน เคยทำมาได้จริง ถ้าไม่มีความรู้จริง ทำไม่ได้จริง ผมไม่ตอบหรอกครับ คนอื่นแม้จะไม่รู้ ผมก็อายตัวเองครับ เรื่องบุญเก่า สำคัญครับ คนไม่มีบุญเก่า นั่งตลอดชีวิตนี้ ก็ติดอยู่ที่แค่ กามฉันท์ ฯลฯ ไปไม่ถึงไหนหรอก ให้นั่งทั้งชาติ ก็ไม่เห็น ไม่เจออะไร จะถอยและถอดใจไปในที่สุด สุดท้ายของบางคน อาจจะกลายเป็นไม่เชื่อว่า มีคนทำได้ เห็นได้ เพราะตนเอง ทำไม่ได้ บางที ก็กลายเป็นคนฉ้อฉล หมายความว่า ตนเองทำไม่ได้จริง แต่ไปจำคำของผู้ที่ทำได้ มาโอ่อวด มากล่าวตู่ เสมือนว่าตนเองทำได้ แบบนี้ บาปหนักครับ จะปฏิบัติไม่ขึ้นไปอีกหลายภพหลายชาติ ผมเอง เริ่มนั่งไม่กี่ครั้ง สมัยอายุ 5 ขวบ ก็รู้เห็นและประสพมามากกว่าคนนั่งมาเกือบตลอดชีวิต จึงไม่ต้องพูดถึงปัจจุบันนี้ ที่สั่งสมมาอีกหลายสิบปี เรื่องของวาสนาบารมีธรรมหรือบุญเก่านั้น มันต้องสั่งสมมายาวนานหลายภพหลายชาติครับ คุณมีบุญเก่ามาก่อน สั่งสมเพิ่มเติมในภพนี้อีก ก็จะเป็นอุปนิสัยปัจจัยสืบต่อไปในภพหน้าครับ. จากคุณ : คนเก่า - [ 19 ธ.ค. 47 23:40:02 A:203.113.71.37 X:203.150.217.112 TicketID:069986 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากค่ะ คุณ คนเก่า จากคุณ : สาวอีสาน - [ 20 ธ.ค. 47 20:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่เป็นไรครับ. จากคุณ : คนเก่า - [ 4 ม.ค. 48 13:45:14 A:203.113.71.38 X:203.150.217.113 TicketID:069986 ]