ความคิดเห็นที่ 1 ได้ "สึนามิ" ตอบให้เข้ากับสถานะการณ์ จากคุณ : jaminonez - [ 4 ม.ค. 48 10:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ได้ "ระยะทาง" ครับ ^^ จากคุณ : Marine Red - [ 4 ม.ค. 48 10:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ... เข้ามาเคลื่อนที่ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 4 ม.ค. 48 10:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เวลา จากคุณ : Amygdala - [ 4 ม.ค. 48 10:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ได้ปริมาตรมากขึ้นครับ จากคุณ : beothegolfer - [ 4 ม.ค. 48 10:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคลื่อนที่ผ่าน "อะไร" ? จากคุณ : NaCl - [ 4 ม.ค. 48 10:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่รู้เหมือนกันครับ ถ้ารู้แต่ว่าก้อนอิฐเคลื่อนที่มากระทบศีรษะ แล้วจะได้ไปหาหมออ่ะครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 ม.ค. 48 11:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคลื่อนที่ตามแกนไหน จากคุณ : อยากรู้ - [ 4 ม.ค. 48 11:10:53 A:127.0.0.1 X:203.155.9.163 TicketID:016653 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จุดเคลื่อนที่ 5 หน่วย ได้เส้นยาว 5 หน่วย เส้นยาว 5 หน่วยเคลื่อนที่ไป 5 หน่วย ได้แผ่น 25 ตารางหน่วย แผ่น 25 ตารางหน่วยเคลื่อนที่ไป 5 หน่วย ได้ปริมาตร 125 ลูกบาศก์หน่อย ปริมาตร 125 ลูกบาศก์หน่วยเคลื่อนที่ 5 หน่วย ได้ 625 .... แต่ปัญาคือ เคลื่อนที่ไปทางไหนนั่นเอง เขิกๆๆๆๆๆๆๆ เพราะมันหมดแกนแล้วววว จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 4 ม.ค. 48 11:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก็ได้ปริมาตรมากขึ้นไง จากคุณ : เดี๋ยวให้ - [ 4 ม.ค. 48 12:45:31 A:61.90.50.196 X: TicketID:001863 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ได้ร่องรอยปริมาตรมากขึ้น จากคุณ : Elrond - [ 4 ม.ค. 48 17:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ...เข้ามาดู จากคุณ : ascertain - [ 4 ม.ค. 48 18:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Point to Line Line to Plane Plane to Cube (or 3 dimension) Cude to Hypercube (higher dimension) จากคุณ : we are we (วีอาวี) - [ 4 ม.ค. 48 18:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ได้ปริมตารใหม่ แต่เปลี่ยนแปลงรูปร่างด้วย แล้วแต่ว่าจะเคลื่อนที่ไปทางแกนไหน . . จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 4 ม.ค. 48 18:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 "คิดแบบนี้...เพียงฝุ่นเพชรก็กลายเป็นก้อนเพชรได้" ไม่ยากๆๆ...โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกล... จากคุณ : ขามเรียง - [ 4 ม.ค. 48 18:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งั้นเดี๋ยวผมขึ้นรถพยาบาลไปก่อนนะครับ หวีหวอหวีหวอ....... จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 4 ม.ค. 48 20:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขึ้นอยู่กับจำนวนมิติของ space ที่วัตถุนั้นอยู่ ใน space 3 มิติ, ร่องรอยการเคลื่อนที่ของปริมาตร (วัตถุ 3 มิติ) ก็ได้ปริมาตรที่ใหญ่ขึ้น (ยังเป็นวัตถุ 3 มิติเหมือนเดิน) ใน space ที่มิติมากกว่า 3, ร่องรอยการเคลื่อนที่ของวัตถุ 3 มิติ อาจจะได้วัตถุ 4 มิติ ? ถ้าสนใจเรื่องพวกนี้ก็ลองศึกษาวิชา Geometry กับ Topology ดู Hypersurface -- from MathWorld http://mathworld.wolfram.com/Hypersurface.html Four-Dimensional Geometry -- from MathWorld http://mathworld.wolfram.com/Four-DimensionalGeometry.html จากคุณ : anon II - [ 4 ม.ค. 48 20:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มนุษย์ในโลก 2 มิติ จะเห็น ลูกฟุตบอลเป็นวงกลม พอลูกบอลเริ่มแตะพื้นผิวเขาจะเห็นเป็นจุด เมื่อลูกฟุตผ่านระนาบเข้าไป เขาจะเห็นว่าจุดขยายเป็นวงกลม ใหญ่ขึ้น ๆ เมื่อเลยไประยะหนึ่ง วงกลมจะหดเล็กลง ๆ จน หายวับไปเหมือนล่องหน เขาเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ แต่ชาว 3 มิติจะไม่สงสัยใด ๆ เพราะเขาเห็น ลูกบอลทั้งหมด เมื่อมนุษย์ 4 มิติ ผ่านมายังโลก 3 มิติของเรา ด้วยยานทรงกลมของเขา ชาวโลก 3 มิติก็จะเห็น ลูกกลม เล็ก ๆ แล้ว ใหญ่ ขึ้น ๆ เคลื่อนที่ไป อย่างรวดเร็วมาก แล้ว หดเล็กลง ๆ และ หายไปในที่สุด เขาเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ ยังมีต่อ.... จากคุณ : prasitstar - [ 5 ม.ค. 48 00:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อย่างไรก็ตาม ถ้ามี ลูกบากศก์(ลูกเต๋า) 4 เหลียม ผ่านไปยังโลก 2 มิติ ชาว 2 มิติก็เห็น ลูกเต๋า ที่ผ่านระนาบ 2 มิติ ด้วยรูปร่าง พิสดารมาก ยิ่งถ้า มีเงาของ ลูกบาศก์ ทาบลงไปในระนาบ 2 มิติ ชาว 2 มิติก็เห็น รูป 4 เหลี่ยม ถึง 6 รูป (ของด้านทั้ง 6 ของลูกบาศก์) แปรเปลี่ยนไปอย่างแปลกประหลาดจนเหลือเชื่อ จากคุณ : prasitstar - [ 5 ม.ค. 48 00:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 และถ้ามี ลูกเต๋า ของ ขาว 4 มิติ มาผ่าน โลก 3 มิติ ละก้อ... ชาวโลก 3 มิติ ก็จะเห็น ลูกบาศกฺ์ รูปร่าง แปลก ๆ ถึง.... เอาไว้ ไปอ่านเอง ใน "เหนือ มิติที่ 4 ของไอน์สไตน์ " จากคุณ : prasitstar - [ 5 ม.ค. 48 00:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาถึงวันนี้  ผมควรเชื่อในความฟุ้งซ่านของไอไสตน์แค่ไหน  ที่พาฟิสิกส์ยุคใหม่หลงทาง  โดยใช้เรขาคณิตง่ายๆมาอธิบายให้ดูเหมือนง่าย เหมือนน่าเชื่อ หลงเข้าใจแล้วก็น่าภูมิใจ กับเหตุการณ์ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้แบบนั้น  ไม่ว่าจะอีกกี่ล้านปี ที่จริงหลายเรื่องแล้ว  แต่ผมอดทนฟังเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 48 16:04:24 จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 5 ม.ค. 48 15:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อทุกคน(เกือบยี่สิบรวมทั้งผม)ไปถึงโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว.....รอหมอ... ไม่ยอมทำอย่างอื่น...สุมหัวต่อ...อิอิ...สมาชิกจะมาเพิ่มไม๊เนี่ย? วิเคราะห์ได้ว่ามีเงื่อนไข ๑.สร้างปริมาตรมิติ ๒.มีการเคลื่อนที่ของมิติในใจแบบสะสมมิติ+1(ใจเคลื่อนไปเอง ในโลกสมมุติทางเรขาคณิตศาสตร์) ๓.เคลื่อนเป็นมุมฉาก ทำไมหัวหน้าคณะที่ขึ้นรถหวอก่อนเพื่อน ไม่สร้างเงื่อนไข อื่นอีก เช่นหมุน2แล๓มิติหรือเส้นทะแยงจากมุมตรงข้าม กำหนดเงื่อนไขเคลื่อนไปในแนววงกลมฯลฯ จะได้ปริมาตรแบบอื่นอีก ที่ไม่ใช่625หน่วย จากคุณ : ขามเรียง - [ 5 ม.ค. 48 16:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เส้นเคลื่อนที่ได้ระนาบ (เมื่อเคลื่อนที่ไปในแนวอื่น) ระนาบเคลื่อนที่ได้ปริมาตร (เมื่อเคลื่อนที่ไปในแนวอื่น) แต่การเคลื่อนปริมาตร ยังอยู่ในมิติเดิมๆ ย่อมเป็นปริมาตร เหมือนเดิมครับ.... จากคุณ : TUM (PJSOFT) - [ 5 ม.ค. 48 16:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อย่างที่คุณ ประสิทธิ์ดาว (prasitstar) บอกไว้นั่นแหละครับ มันจะเป็นอย่างนั้น จากคุณ : Elrond - [ 5 ม.ค. 48 16:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณสมภพ ฟิสิกส์ ตั้งแต่ยุค กาลิเลโอ นิวตัน เป็นต้นมา เขาใช้ model คณิตศาสตร์ อธิบายจักรวาลวิทยา ทั้งนั้น โดยเฉพาะเรขาคณิต เพราะว่า รูปแบบทางเรขาคณิต นั้น ใช้ อธิบาย ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ได้ ดี (สอดคล้องกับการทดลอง)  และ เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น ที่ว่า นั้น จริง ๆ เกิดขึ้น ตลอดเลวา เช่น เวลา ยืด ของ เมซอน เพียงแต่ ความรู้สึกของเรา จับไม่ได้ เพราะมันเร็วเกินไป เหมือน ดั่ง หอยทาก ที่ ไม่สามารถ รู้ได้ถึงปรากฏการณ์ที่เกิด และ จบเร็วกว่า 0.5 วินาที คนเราไม่สามารถจับ ภาพสิ่งที่เกิด-ดับ เร็ว เกิน 1/24 วินาทีได้ แต่ก่อน คนเรายังเชื่อว่า พระพรหม เป็น อมตะ เพราะ กว่าจะดับก็นานเกินไป เกินกว่าคนธรรมดาจะรู้ได้ เรื่องนี้พระพุทธเจ้า รู้แจ้งว่า แม้แต่พรหมก็มี เกิด ดับ ใครที่ว่า เหตุการณ์ที่ไอน์สไตน์กล่าสวถึงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะอีกกี่ล้านปีนั้น แสดงว่ายังมีประสบการณ์คับแคบ เกินไป ที่จริงแล้ว ผู้ที่ไม่เข้าใจสิ่งใด ก็จะได้แต่อึดอัดและทนฟังเท่านั้น แต่อย่าเพิ่งสรุปไปว่า เรื่องนั้น ไม่มีทางเกิดขึ้น เหมือน ดั่ง เต่า กับปลา เต่า จะเล่าว่าบนบกมีอะไร ๆ บ้าง ปลาก็ว่า ไม่มีจริง ๆ  เพราะไม่เคยไปไม่เคยคิด ผมว่า คุณสมภพคงเข้าใจสิ่งนี้ดี แต่ว่า กำลัง วางอุบาย เพื่อหาข้อมูลอะไรบางอย่างอยู่ แต่ผมก็ยินดีตอบ แม้ว่าจะตกหลุมก็ตาม ครับ :) แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 48 17:00:35 จากคุณ : prasitstar - [ 5 ม.ค. 48 16:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 #24 ไม่ควรสรุปอะไรง่ายๆ กับสิ่งที่ฟังดูง่ายๆนะครับ ท่านต้องทราบสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ถ้ามิติอื่นไม่มี ทุกอย่างก็จบ ท่านย่อมรู้ดี ว่ามันจำกัดแค่ 3 มิติ ดังนั้น จะไม่มีปรากฏการณ์เกิดมีจุดปรากฏขึ้น แล้วขยายตัวเป็นวงกลม แล้วหดกลับไปเป็นจุดอีกครั้ง เหมือนลูกทรงกลมลงไปในระนาบ ก็หาไม่ ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร? หลักฐานการมีตัวตนของมิติอื่นคืออะไรครับ? ที่ไม่ใช่การยัดเยียดให้แรงโน้มถ่วงที่น้อยกว่าแรงชนิดอื่น เพราะมันส่งผลต่อมิติอื่นนั่นหนะ โดยลืมคิดไปว่า แรงโน้มถ่วงมิติอื่น ไม่ส่งผลต่อมิตินี้บ้าง หลักฐานการมีตัวตนของมิติอื่น ที่ไม่ทำให้ผมถลำลึก เสียเวลาไปศึกษา โดยพบข้อความเดิมๆ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 5 ม.ค. 48 22:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ประกาศขอขมาคุณ prasitstar ก็เพียงแต่ผมรู้สึกแปลกๆกับเรื่องนี้ แต่อธิบายไม่ถูก จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 5 ม.ค. 48 22:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องใดๆที่ซับซ้อนมา เขาบอกว่าเขาคำนวนพบมิติจำนวนเท่านั้นเท่านี้ ขดอยู่อย่างงั้นอย่างงี้ คุณได้ยินแล้ว คุณ "เชื่อ" เลยไหม ถ้าผมเอาบทสรุปของทฤษฏีของผมมาลงอย่างงี้ คุณจะ "เชื่อ" เลยไหม จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 5 ม.ค. 48 23:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทั้งที่มันเป็นเพียง model คณิตศาสตร์ อย่างที่คุณว่าไว้ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 5 ม.ค. 48 23:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมไม่ทราบว่าคุณสมภพกำลังเรียนอยู่หรือทำงานแล้ว... แต่ก็จะเล่าให้ฟัง การจะเชื่อ ทฤษฎี (theory=ทิฐิ)ใด นั้น จะต้องเข้าเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ 1.ทฤษฎี นั้น สอดคล้องกับข้อเท็จจริง หรือผลการทดลอง ต่าง ๆ มากพอควร 2.ทฤษฎี นั้น สามารถอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ ชัดเจน และถ้าหากทำนายเหตุการณ์ ต่าง ๆ ได้ถูกต้อง ก็จะยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้น เช่นทำนายว่า จะมีการเลี้ยว เบน ของแสงดาวเมื่อผ่านดวงอาทิตย์ จะวัดอายุของเมซอนที่มีความเร็วสูงได้เท่านั้นเท่านี้ --- ที่กล่าวมาเรียกว่า การเชื่อ โดย ใช้ข้อเท็จจริง เป็นการเชื่อที่ ปราศจากข้อสงสัย แต่จะถามว่า เชื่อได้ 100 % หรือไม่ คงตอบว่า ไม่ ครับ เพราะ ข้อมูลอาจคลาดเคลื่อน ไม่สมบูรณ์ เพราะเครื่องมือวัดไม่ละเอียดพอ หรือวิธีการวัดไม่เหมาะสม และจะต้อง ดูว่า ผู้เก็บข้อมูลน่าเชื่อเพียงใด แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ คนละฝ่าย ก็ ยัง ไม่เชื่อกันข้อมูลของกันและกัน การวิจัยเรื่อง อนุภาคพลังงานสูง โดยเครื่อง ไซโคลตอน หรือ ทางดาราศาสตร์ เพื่อ พิสูจน์ ทฤษฎีทางจักรวาลวิทยา หรือโครงสร้างอะตอม ก็ อยู่ในลักษณะนี้ ในปัจจุบัน นั้น "ยังไม่มี ทฤษฎีใดที่ยอมรับกันว่า จริง 100% " เพราะเหตุดังกล่าวมา ยังมีต่อ... จากคุณ : prasitstar - [ 6 ม.ค. 48 12:03:13 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตามประวัติวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านมา มีทฤษฎีที่ถูกยกเลิกไป หรือ ถูกพัฒนาให้ ดี (ดี=น่าเชือถือ=ใช้อธิบาย ทำนาย ได้ดี) ขึ้น เช่น ทฤษฏี(ความเชื่อว่า)โลกแบน --> ถูกแทนที่ -->ทฤษฎี(ความจริงที่ว่า)โลกกลม ทฤษฎีดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก--> ถูกแทนที่ -->ทฤษฎีโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ ทฤษฏีแรงโน้มถ่วงของนิวตัน --> พัฒนาเป็น -->ทฤษฏีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ ทฤษฎีอะตอมของกรีก --> พัฒนาเป็น -->ทฤษฏีควอนตัม ทฤษฏีควอนตัม+ทฤษฎีสัมพัทธภาพ--> พัฒนาเป็น -->ทฤษฎีซูเปอร์สตริง ? (ซึ่งยังมีผู้ไม่เชื่ออีกมาก) 3.ความเชื่อโดยศรัทธา คือความเชื่อที่ ไม่มีทางพิสูจน์ ได้ ด้วยตัวของผู้เชื่อเอง เพราะมีความสามารถไม่ถึง แต่เชื่อเพราะ เชื่อมั่นใน ตัวศาสดา ที่ตนยอมรับว่าเป็นผู้รู้แจ้ง เป็นผู้มีคุณธรรมอันประเสร็ฐ เช่น ความเชื่อของ ชาวพุทธ ที่เชื่อ ใน กฎแห่งกรรม เชื่อใน อริยสัจสี่ ทั้ง ๆ ที่ ตนเอง ก็ ยังไม่บรรลุ ความเชื่อนี้ เรียกว่าศรัทธา ... โดยมากศรัทธา จะเป็นความเชื่อในทางดี ว่าปฏิบัติแล้วจะได้ผลลัพธ์ในทางดี ๆ ...ความเชื่อนี้จะเหนียวแน่น ถาวร มากกว่าความเชื่อแบบวิทยาศาสตร์ ยังมีต่อ... แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 48 12:14:41 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 48 12:07:04 จากคุณ : prasitstar - [ 6 ม.ค. 48 12:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วน ความเชื่อแบบวิทยาศาสตร์เป็นความเชื่อชั่วคราว เช่นความเชื่อใน ทฤษฎี สัมพัทธภาพ ทฤษฎีควอนตัม ทฤษฎีซูเปอร์สตริง ฯลฯ แม้ทฤษฎีจะขัดความรู้สึก เพียงใด หรือแม้ตนจะไม้เข้าใจถ่องแท้ ก็เชื่อไว้ก่อน แต่ถ้าหากมีข้อมูลขัดแย้งกับ ทฤษฎีนี้เพียง อย่างเดียว ก็จะเลิกเชื่อทันที ไม่เหมือนกับ ความเชื่อโดยศรัทธา ที่แม้จะมีข้อมูลขัดแย้งกับ ความเชื่อ(ทฤษฎี) ก็ไม่ยอมที่จะเลิกเชื่อได้ง่าย ๆ เขาเลือกที่จะเชื่อว่า ข้อมูลผิดมากกว่า หวังว่าจะแก้ความอึดอัดของคุณได้บ้าง ... อย่ายึดมั่นถือมั่นเกินไป ครับ ;D ถือว่า ทฤษฏีควอนตัม,ทฤษฎีสัมพัทธภาพ,ทฤษฎีซูเปอร์สตริง เป็นเรื่อง ประเทืองปัญญา เหมือนดั่ง ไตรภูมิพระร่วง กามนิต-วาสิฏฐี ก็ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 48 12:09:22 จากคุณ : prasitstar - [ 6 ม.ค. 48 12:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หมายเหตุ เรื่อง กามนิต-วาสิฏฐี (การ์ตูน) ให้ความรู้ จักรวาลวิทลา และเรื่อง ธรรมมะ ได้ดีมาก เรื่อง เวลา ยืด หด นั้น มีมาก่อน ไอน์สไตน์ กว่า 2500 ปีมาแล้ว จากคุณ : prasitstar - [ 6 ม.ค. 48 12:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 34 # 28 ยังเชื่อไม่ได้ เพราะ ไม่สามารถ ทำการทดลอง ยืนยันได้ แต่มีหลักการอื่นที่ขัดแย้งกับ model นี้ (ซึ่งผมเชื่อว่าคุณสมภพ หาได้แล้วตอนนี้) แต่ทฤษฎี ซูเปอร์สตริง ควอนตัม หรือแม้แต่ทฤษฎี สัมพัทธภาพ นั้น พอจะมีทางทดลองเพื่อพิสูจน์ บางส่วนของมัน (ไม่มีทางพิสูจน์ ว่า ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ใด ๆ ให้เชื่อว่าถุกต้อง 100%) จากคุณ : prasitstar - [ 6 ม.ค. 48 12:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แถมอีกนิดที่ ทฤษฎี ซูเปอร์สตริง ควอนตัม หรือแม้แต่ทฤษฎี สัมพัทธภาพ น่าเชื่ออยู่ ก็เพราะ ยังไม่มีการทดลองใดที่ขัดแย้ง แม้บางส่วนของมัน จากคุณ : prasitstar - [ 6 ม.ค. 48 12:30:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมเห็น คุณ สมภพ post ยาว ๆ หลาย หน้า ต่อกัน ก็ ลอง บ้าง ^_^ จากคุณ : prasitstar - [ 6 ม.ค. 48 12:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 37 GPS -- การประยุกต์ของทฤษฎีสัมพัทธภาพ http://www.physto.se/~narit/GPS.pdf ฟิสิกส์ของหลุมดำ http://physics.science.cmu.ac.th/ps/ps8/ps8a1.htm เมื่อมนุษย์จะสร้างหลุมดำขึ้นมาเอง ! http://physics.science.cmu.ac.th/ps/ps8/ps8a5.htm จากคุณ : anon II - [ 6 ม.ค. 48 15:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาในหลุมดำตรงนี้ มึนไปเลย แล้วกามนิตหนุ่มน้อยนั่นต้องทำกรรมแบบใดจึงจะมาลงหลุมดำได้ครับ? จากคุณ : ขามเรียง - [ 7 ม.ค. 48 12:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ประกาศขอขมาคุณ prasitstar อีกครั้ง ไม่ได้เข้ามานาน ไม่กล้าอ่านข้อความยาวๆของคุณแล้ว ฮื่อๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 7 ม.ค. 48 20:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เอาสั้น ๆ คือ ความเชื่อ ทางวิทยาศาสตร์ กับ ความเชื่อทางศาสนา ต่างกันตรงที่ ความเชื่อทางศานาอาศัยศรัทธา แต่ความเฃื่อ (ทฤษฎี)ทางวิทยาศาสตร์ ต้องอาศัยข้อมูลเป็นหลัก คุณจะไม่อ่าน ก็ ไม่เป็นไร ผมเขียนไว้ ให้ ใคร ก็ ได้ที่นสใจ อ่าน ก็พอ จากคุณ : prasitstar - [ 8 ม.ค. 48 14:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แล้วคุณคิดว่า ความเชื่อทางศาสนา ไม่อาศัยข้อมูลเหรอ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 9 ม.ค. 48 00:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความเชื่อ ทางวิทยาศาสตร์ กับ ความเชื่อทางศาสนา ต่างก็อาศัยศรัทธา และ อาศัยข้อมูลเหมือนกัน แต่... ความเชื่อทางศาสนาอาศัยศรัทธาเป็นหลัก หมายความว่า ลงได้เชื่อ แล้ว แม้จะมีข้อมูลขัดแย้งโต้ง ๆ ก็ไม่เปลี่ยนความเชื่อง่าย ๆ แต่ ถ้ามี ข้อมูล สนับ สนุน แม้เพียงน้อยนิด ก็ สรุปว่านั่นไง เป็นจริง 100 % เลย ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์อาศัยข้อมูลเป็นหลัก หมายความว่า เมื่อเชื่อแล้ว แม้จะมีข้อมูลขัดแย้งเพียงข้อมูลเดียว ก็จะสรุปว่า ทฤษฎีมีความบกพร่อง ต้อง รีบแก้ไข แต่ ถึงแม้จะมีข้อมูลสนับสนุน มากมาย ก็ยังไม่ สรุปว่า ทฤษฎีนั้น เป็นจริง 100 % ขออภัยที่อธิบายยาวไปหน่อย :P เพราะ ถ้พูดสั้น ๆ เกินไป ก็ จะตีความไปอีกอย่าง จากคุณ : prasitstar - [ 9 ม.ค. 48 15:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แต่คุณ prasitstar ต้องทราบว่า พระสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวาของพระพุทธองค์ ก็เคยเป็นคนศาสนาอื่นมาก่อน สรุปว่า เปลี่ยนได้เช่นกัน เพียงแต่เราจะถือเอาศาสนาใดมาพูดถึงเท่านั้น เพราะศาสนาพุทธก็ต้องมีปัญญาด้วย วิทยาศาสตร์บางอย่าง ได้ข้อมูลนิดหน่อย เชื่อ 100% ก็มีนะ ลองนึกย้อนดูสิครับ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 10 ม.ค. 48 22:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ในมาตรฐานปัจจุบัน ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์เน้นข้อเท็จจริงก่อนความเชื่อ ประกาศทฤษฎี-->มีผลการทดลองสอดคล้อง-->จึงเชื่อ ถ้าไม่เป็นตามนี้ดก็เป็นวิทยาศาสตร์ จอมปลอม ศาสนาพุทธนั้น จริง ๆ แล้วก็อาศัย ศรัทธา เหมือนกัน แม้ตอนแรกจะใช้ปัญญา(สูตมยปัญญา+จินตมยปัญญา=การจินตนาการ เห็นว่าคำสอนของ พระพุทธเจ้านั้น จะนำไปสู่ทางหลุดพ้นได้) แล้วจึงเกิดศรัทธา ใน พระพุทธองค์ ในคำสอน แล้วจึงลงมือปฏิบัติตามคำสอน จนเกิด ปัญญาสูงสุด (ภาวนามยปัญญา) จนหลุดพ้นได้ สรุป กระบวนการความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ ประกาศทฤษฎี-->มีผลการทดลองสอดคล้อง-->จึงเชื่อ กระบวนการความเชื่อแบบพุทธ 1.ปัญญา(จินต)-->2.ศรัทธา(เชื่อ)-->3.ปฏิบัติ-->4.ปัญญา(ภาวนา)-->หลุดพ้น กระบวนการความเชื่อแบบศาสนาอื่น (เข้าใจเอาเองนะ) 1.ศรัทธา(เชื่อ)-->2.ปฏิบัติตามหลักศาสนา-->3.บรรลุขั้นสูงสุด จากคุณ : prasitstar - [ 11 ม.ค. 48 18:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แบร่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 13 ม.ค. 48 21:58:21 ]

ความคิดเห็นที่ 46 -*- หุหุ เหมือนนั่งดู นักวิชาการ เถียงกะ เด็กประถมเลย (มะได้แสดงถึงความดูถูกเหียยดหยามนะครับ ผมมองในแง่ ความเครียดและจิงจัง ผมเคยทะเลาะกะน้องผมอะครับประมาณนี้เลย สุดท้ายผมก้อแพ้ภัยตัวเอง เพราะผมจิงจังเกินไป บางทีลมหนาวก้อจำเป็นในฟดูร้อนนะ ครับ) จากคุณ : ToOkToNg NaKrAb - [ 14 ม.ค. 48 11:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมไม่ได้เครียดนะ จากคุณ : prasitstar - [ 14 ม.ค. 48 14:59:24 ]