ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ผมเจอมาส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้นแหละครับ พบจบด็อกฯมาก็บรรลุแล้ว กูรู้แล้ว กูเก่ง ไม่มีใครเทียบได้ จากคุณ : ===Wladyslaw Szpilman=== - [ 27 ก.พ. 48 13:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่เรียนๆมาในระดับมหาวิทยาลัยนี่ เขาสอนให้รู้จักวิธีคิด วิธีเรียบเรียงความรู้ และการสร้างองค์ความรู้ใหม่ คนจบปริญญาเอก ไม่ได้รอบรู้ไปหมดทุกเรื่อง เขาก็คือคนธรรมดา รอบรู้เท่าๆกับเราๆท่านๆทั่วไป เขาจะรู้ดีกว่าคนอื่นก็แต่เฉพาะสาขางานที่เขาทำวิจัย และลงมือเขียนวิทยานิพนธ์เท่านั้นเอง ซึ่งมันก็แค่จุดเล็กๆจุดเดียวของความรู้ในสาขาวิชานั้น อย่างที่บอกข้างต้น จบมาแล้ว จะรู้มากรู้น้อย จะขยันไขว่หาความรู้หรือไม่ มันอยู่ที่ตัวบุคคลแล้วครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 27 ก.พ. 48 13:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอออกความเห็นหน่อยนะครับ พอดีมีน้องหลายคน ลูกน้าหละครับ จบแพทย์ กับเภสัช  อีกคนจบวิศวคนหลังไปเรียนต่อบริหาร เท่าที่ทำงานผ่านๆมาและก็ทำงานร่วมกับคนที่จบป.เอกนะครับ ที่หน่วยงาน คนที่จบป.เอกมาใหม่ๆไม่ใช่ว่าจะทำงานเก่งนะครับต้องมาหาความรู้เพิ่มเอาทั้งนั้นครับ หาความรู้เพิ่มเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำครับ ไม่มีใครเรียนรู้ได้ทุกอย่างครับเพราะว่ามันต้องใช้เวลามากในการเรียนรู้เขาจะอัพเดตความรู้เฉพาะส่วนที่ต้องใช้งานครับ ตรงสาขาที่เรียนมาบ้างไม่ตรงบ้างแหละครับ จากคุณ : bard - [ 27 ก.พ. 48 13:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอาผมเองเลยมั้ยครับ ตัวอย่างที่ดีเลย ผมจบมา ยี่สิบกว่าปี จบปุ๊บ ออกมาอยู่บ้านนอกเลย รับราชการ 5 ปี ทำคลีนิคเล็กๆในชนบท ตอนอยู่รพ.ก็มีการเข้าไปอบรม เมื่อเค้ามีการจัดอบรมเป็นระยะ แต่อันนั้นมันสั้นๆ แค่ ครั้งละสองวันสามวัน ปีละ ครั้งสองครั้ง ไม่ได้อะไรมากนัก ที่ได้จากหลักๆ ก็คือการทำงาน และ อ่านหนังสือ ทั้ง Text Book และ Journal ตลอดจนการ ปรึกษาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน และเมื่อ ผมลาออกจากรพ.มาเปิดรพ.เอกชนเล็กๆ ส่วนตัว เมื่อสิบห้าปีก่อน ตอนแรกอยู่คนเดียว  ก็อาศัยอ่านค้นคว้าจากตำรา และวารสารการแพทย์ ที่มีออกมาต่อเนื่อง พอมีอินเตอร์เน็ต ก็เข้ามาหาความรู้เพิ่มเติม ในนี้อีกทาง พอมีหมอเฉพาะทางเข้ามาอยู่ด้วย ก็ได้แลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ ที่ใหม่ๆ ตลอดเวลา เรื่องการเรียนรู้ ถ้าคนจะเรียนจะค้นคว้า แม้อยู่ในป่า ก็ไม่มีปัญหาครับ จากคุณ : -=Jfk=- - [ 27 ก.พ. 48 14:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สำหรับคนที่เรียนแพทย์ถ้าต้องการพัฒนาความรู้ควบคู่ไปกับการรักษาคนไข้ส่วนใหญ่คนที่สนใจด้านนี้จริงก็จะเข้าร่วมโครงการ MD.Ph.Dเพื่อเป็นอาจารย์แพทย์ คนกลุ่มนี้จะเป็นหมอนักวิจัย ส่วนคนที่จบป.เอกมาแล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นนักวิจัยหรือเป็นอาจารย์ แต่ตอนนี้คนที่เป็นอาจารย์ก็ต้องมีผลงานทางวิชาการหรือทำวิจัยควบคู่ไปด้วยค่ะ เนื่องจากว่าการทำresearch นั้นเป็นการทำงานที่ต้องอาศรัยเงินทุนและกำลังสมองเพราะจะนั้นผู้วิจัยต้องมีการศึกษาค้นคว้าตลอดเวลา โดยการอ่านวารสารนานาชาติ และเข้าร่วมconference หรือcollaborateกับต่างชาติ เป็นต้นค่ะ จากคุณ : graduate student - [ 27 ก.พ. 48 15:21:39 A:193.10.22.57 X: TicketID:007828 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับคนจบ Ph.D. นั้นต้องศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองคับ ไม่มีใครมานั่งอบรมให้คับ เมื่อไหร่ที่หยุดเรียนรู้ ก็จะค่อยๆตกยุคไป ตามอัตราการเติบโตของฐานความรู้ในแขนงนั้นๆ เช่นทางด้านเทคโนฯ สารสนเทศ จะต้องวิ่งตามมากกว่าด้านคณิตศาสตร์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนความรู้ในแขนงที่ใกล้เคียงกันด้วยคับ เหมือนกับการนั่งคุยเรื่องบอลพรีเมียร์กับเพื่อน ก็จะได้ความรู้ที่ไม่ต้องไปนั่งศึกษาเอง อันนี้แหละครับที่เรียกว่าแลกเปลี่ยนความรู้ จากคุณ : PUFF - [ 27 ก.พ. 48 17:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยืนยันตามคุณหมอ-=Jfk=- จากคุณ : 16 Med (komi_to) - [ 27 ก.พ. 48 17:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มีครับมี งบอบรม ของภาควิชาผมได้อาจารย์ท่านละ 10,000 บาท ต่อปีครับ นี่ผมยังไปได้ไม่ครบเลยเพราะ ติดงานสอนต่างๆ ความรู้ต้องแสวงหาอยู่เรื่อยๆ ครับ อย่าง 6 เดือนที่กลับมาทำงานนี้ ผมได้ความรู้เพิ่มอีกมาก เพราะเปลี่ยนฟิลด์งานที่ทำไปพอสมควรครับ แม้จะอยู่ กลุ่มเดียวกัน แต่ก็ต้องไปรื้อฟื้นหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมใหม่ จากคุณ : Practical x 2 - [ 27 ก.พ. 48 18:33:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อไม่ได้ใช้ ไม่ได้ใส่ใจ ก็ค่อยๆเลือนหายไป จำพอได้แต่หลักๆ บางหลักก็โยกเยก จากคุณ : ซุปฮ้อมหอม - [ 27 ก.พ. 48 21:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับเภสัชกรนี่ จะมีการศึกษาต่อเนื่องคับ CPE (Continuous Pharmaceutical Education) ชอบเรียกกันว่า เก็บซี คือต้องมีการพัฒนาตัวเองและ update ความรู้อยู่เสมอ และจะมีการทดสอบอยู่เรื่อย ๆ ถ้าไม่ผ่านหรือซีไม่ครบ ใบประกอบวิชาชีพก็จะขาดอายุ ... ขอเจือกด้วยคน จากคุณ : คุณชาย - [ 28 ก.พ. 48 00:44:26 A:161.200.255.161 X: TicketID:081997 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่จบปริญญาเอก ตอบได้ป่าวคับ คือถ้าอยู่ในสายอาจารย์ ไม่มีทางที่จะด้อยลงครับ อย่างน้อยในวิชาที่ตัวเองสอนอยู่ จะต้องตามเทคโนโลยีให้ทันสมัยเสมอ การอบรมก็จำเป็นอยู่บ้าน แต่ในระดับผู้สอนแล้ว จะอยู่ในลักษณะค้นคว้า หรือออกแบบการทดลอง สร้างองค์ความรู้ขึ้นมาเอง อาจารย์ถูกบังคับทำวิจัยเพื่อความก้าวหน้าครับ จากคุณ : โลหการ4 - [ 28 ก.พ. 48 01:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอตอบได้ไหม ผมว่า มันขึ้นกับคน ครับ ที่แย่คือ คนเรามักเรียน (ตามกระแส) ก็เราไม่ได้ สนใจ เรื่องดังกล่าว จบแล้ว ก็มักจะขี้เกียจจะด่าตามมัน นี้สาเหตุกระมัง ถ้าเราเรียนเพราะสนใจ อะไร อะไร มันก็จะดีขึ้นมาก จากคุณ : ช้างยิ้ม - [ 28 ก.พ. 48 12:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Clinic เขียนเป็นภาษาไทยว่า คลินิก Doctor เขียนเป็นภาษาไทยว่า ดอกเตอร์ เป็นหมอ เป็นดอกเตอร์ กันแล้ว อย่าเขียนภาษาไทยผิด น่าอาย จากคุณ : Archimedes - [ 28 ก.พ. 48 13:19:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยืนยันครับ อยู่ในป่าก็เรียนได้ ครับ หมายถึงถ้าไฝ่จะรู้ อยู่ที่ไหนฐานะอะไร ก็สามารถดิ้นรนที่จะรู้ได้ครับ จากคุณ : tiger hello - [ 28 ก.พ. 48 14:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ว้าวววว จากคุณ : Elrond - [ 28 ก.พ. 48 17:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าเรียนด้วยตัวเองไม่เป็น ไม่มีทางจบแพทย์ หรือ ป.เอกครับ ถ้าไม่ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน รักในการศึกษา ไม่มีทางจบแพทย์ หรือ ป.เอกครับ ฉนั้นคำถามของคุณเหมือนกับถามปลาว่า ถ้าขึ้นจากน้ำนานๆ จะลืมวิธีว่ายน้ำหรือเปล่า มันเป็นไปไม่ได้ ส่วนอย่างอื่นๆ ตอบแทนไม่ได้่ครับ และสำหรับแพทย์หลายๆคน ... ไม่มีโอกาสกินข้าวซักวัน ยังแย่น้อยกว่า  ไม่มีโอกาสหาความรู้เพิ่มเติม .. ยามอดหยากจริงๆ อ่านได้แม้กระทั่งถุงกระดาษในถังขยะ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 48 01:08:09 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 3 มี.ค. 48 01:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 I suppose to be a computer engineer. After several years without working on it.. I have nothing left... I do not even want install software in my computer. I can only know where to look for if I need it.. จากคุณ : Isvasu - [ 6 มี.ค. 48 20:39:10 A:4.8.139.227 X: TicketID:084617 ]