ความคิดเห็นที่ 1 หรือว่ามันจะเหมือนเรื่อง mib ตอนจบที่จักรวาลทั้งหมดเปนแค่ลูกแก้วลูกกลมๆที่ ถายนอกลูกแก้วลูกนั้นก็เปนอีกโลกนึงของสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ๆสุดๆ หรือว่าในก้อนกรวดเม็ดนึงที่อยู่ตามพื้นข้างในก็อาจมีจักรวาลที่เล็กกว่ากล้องไดๆในโลกจะส่องได้ มันจะเปนไปได้หรือเปล่าแบบตอนจบในเรื่อง MIB น่ะครับ จากคุณ : pop (popktb) - [ 4 มี.ค. 48 02:41:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้า ถามตอนนี้ คงตอบได้ว่า คงเป็นไปได้หมดเท่าที่เราคิดมันอะครับ เพราะเรา ยังไม่สามารถรู้อะไรไปมากกว่าการที่ได้ส่องวัตถุต่างๆในจักรวาลที่ไกลออกไปเท่านั้น เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าขอบเขตของมันอยู่ที่ไหน และจะมีตัวอะไรอยู่ข้างนอกนั่น แต่ยังผมก็เชื่อว่าจักรวาลต้องมีหลายจักวาลแน่นอนครับ... จากคุณ : Styer - [ 4 มี.ค. 48 03:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จะวนกลับมาที่เดิมอ่ะครับ เหมือนเกมงูในโนเกียอ่ะ จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง - [ 4 มี.ค. 48 07:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าตามนิยาม ก็ไม่มีขอบครับ ตีเสียว่า อาณาเขตกินบริเวณกว้างมาก ครอบคลุมทุกพื้นที่ ขอบอยู่ไกลเป็นอินฟินิตี้ บอกไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหน รู้แต่ว่า ไกลมากกกกกก จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 มี.ค. 48 07:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อวกาศ มีปริมาตราจำกัด แต่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุด ... เมื่อเดินทางตรงออกไปเรื่อยๆ จะวนกลับมาที่เดิม ... เหมือนมดที่เดินบนลูกบอล ... จากคุณ : UPluto - [ 4 มี.ค. 48 08:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มีคำตอบที่แท้จริงสำหรับคำถามแนวนี้... จากคุณ : แอนิเมจัส - [ 4 มี.ค. 48 09:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขนาดแค่คิด ก็ยังไปไม่ถึง จากคุณ : aerozer - [ 4 มี.ค. 48 10:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมบอกความจริงไปคุณก็ไม่เชื่อหรอก จากคุณ : แกะแหนม - [ 4 มี.ค. 48 12:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สักวันนึงคงมีคำตอบ เหมือนในอดีตที่มนุษย์เคยคิดว่าโลกแบน จากคุณ : oro - [ 4 มี.ค. 48 12:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คนเราจะมีกรอบความคิดอยู่ เช่น กรอบความคิดว่า จักรวาลมีที่สิ้นสุดหรือไม่สิ้นสุด ถ้าคิดว่าจักรวาลมีที่สิ้นสุด เราก็จะสงสัยว่า แล้วนอกจักรวาลคืออะไร? อาจจะเป็น สุญญตา หรือ สิ่งนอกเหนือสัมผัสของเรา หรือ อาจจะเป็นจักรวาลอื่นก็ได้ แต่ถ้ากรอบความคิดมีว่าจักรวาลไม่มีที่สิ้นสุด ก็ไม่ต้องไปหาขอบเพราะมันไม่มีขอบ คิดง่าย ๆ ว่าเลข 1 เอาไปหาร 2 เรื่อย ๆ เมื่อไหร่จะหมด ลองหาดูนะครับ มันไม่มีวันหมดหรอก เพราะมันย่อยลงไปได้เรื่อย ๆ ถ้าเอาแนวคิดนี้ย้อนกลับ ในเมื่อสิ่งเล็ก เล็กลงเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุดแล้ว ย้อนกลับขึ้นไปก็อาจจะใหญ่ได้ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน จากคุณ : RT - [ 4 มี.ค. 48 13:55:00 A:160.2.212.65 X:61.90.149.29 TicketID:076578 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ค.ห.ที่ 8 ได้โปรดบอกความจิงกับผมด้วยครับ ถึงจะเปนแค่สันนิฐานหรีอว่า เรื่องจิง ผมก็ยังอยากรู้ครับ เพราะว่าผมเองก็ไม่มีคำตอบเลย ถึงจะเหมอืนเกมงูแต่เกมงูก็มีขอบคือหน้าจอโทรศัพนะครับ ถึงจะเหมือนมดเดินบนลูกบอลแต่ว่าลูกบอบ ก็มีอากาศ และอยู่บนโลกเราอีกทีนึงครับ ที่พูดมามันก็มีขอบนอกทั้งหมดครับ คุณ ค.ห.ที่8คุณแกะแหนม ช่วยเล่าให้ผมฝังด้วยครับ เคยมีคนที่เคร่งในศายนาบอกผมว่า จักรวาลก็แบ่งเปน 7 ชั้นชั้นบนคือ เทย ลงมาก็เทวดา ลงมาก็มนุษย์ และลงมาก็ พวกเปรต และสัตรเดรัจฉานครับ เทพก็คือมนุษย์ต่างดาวนั่นเอง ส่วนพวกผีก็คือชั้นที่ต่างออกไป ไม่รู้คนเล่าเอามาเกี่ยวกันได้ยังไง แต่มันก็มีเหตุผลนะ ว่าแต่สุดขอบของสุดขอบแล้วมันคืออะไร ช่วยกันคิดหน่อย เอาที่มันเปนไปได้ครับ นักคิดลองช่วยคิดหน่อย  ยังไงของทุกอย่างมันก็ต้องมีขอบครับ อย่างโลกมันก็มีขอบ ระบบสุริยะมันก็มีขอบ กาแล๊กซี่มันก็มีขอบ แล้วจักรวาลล่ะ มันต้องมี และอยากรู้จิงว่าขอบนั้นอีกด้านมันคืออะไร จากคุณ : popktb - [ 4 มี.ค. 48 13:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คนเรานั้นรับรู้ได้จำกัดด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 แต่ความจริงแล้วคนยังมีประสาทสัมผัสที่ 6 คือ จิต ถ้าจิต ฝึกดีแล้วจะเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปไม่เห็นครับ จะรับรู้ได้อีกมาก อย่างเช่น พระพุทธเจ้า มองเห็น เปรต ได้ ซึ่งเปรต มันก็เดินไปเดินมาอาจจะอยู่ข้าง ๆ คุณก็ได้ แต่ด้วยตาเนื้อของคนจะมองไม่เห็น โลกเราก็อาจจะแบ่งออกเป็นหลาย layer มีมิติต่าง ๆ ซ้อนทับกันมากมาย แต่ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่สามารถสัมผัสได้ คุณลองคิดง่าย ๆ ถ้าไม่มีหู คุณก็จะไม่ได้ยินเสียง ไม่มีตาก็จะไม่เห็นภาพ แต่สิ่งที่ใช้ประสาทสัมผัสสัมผัสมันไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีอยู่ เช่น เราไม่เคยเห็น ไดโนเสาร์ของจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีจริง ความจริงอาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่แม้แต่จิตยังสัมผัสไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่แสดงว่านั่นก็อยู่นอก Framework ของมนุษย์ไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องสนใจก็ได้ จากคุณ : RT - [ 4 มี.ค. 48 14:00:28 A:160.2.212.65 X:61.90.149.29 TicketID:076578 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ค.ห.ที่ 12 ช่วยผมได้เยอะเลย เออมันจิงด้วยถ้าเราไม่มีตาเราก็มองไม่เห็นทั้งที่อาจจะมีอะไรเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด หรือถ้าเราไม่มีหูเราก็คงไม่ได้ยินอะไรเลย ทัง้ที่จิงๆแล้วมันมีเสียงอะไรเต็มไปหมดเลย เราอาจจะไม่มีสว่นที่ทำให้เรารู้ถึง สิ่งที่เราสัมผัสไม่ได้อีกเช่นที่เรา ตาบอดหรือหูหนวก อืม....จิงคัรบเหมือนเราไม่มีสัมผัสที่ 6 จากคุณ : popktb - [ 4 มี.ค. 48 14:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ความจริงก็คือที่คุณถามน่ะมันไม่มีใครรู้หรอก คนที่บอกอย่างงั้นอย่างงี้ก็คือเดาเอาทั้งนั้น แค่ปัจจุบันมองเห็นกาแลคซี่อื่นได้ก็ถือว่าเก่งแล้ว อย่าไปถามเรื่องขอบจักรวาลเลย จากคุณ : แกะแหนม - [ 4 มี.ค. 48 14:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ...... เท่าที่เคยอ่านหนังสือมา รวมทั้ง A Brief Story of Time ของ Stephen Hawking ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ด้วย คำตอบในตอนนี้อาจเหมือนกับคามคิดเห็นที่ 3 กับ 5 คือ จักรวาลมีขนาดจำกัด แต่ไม่มีขอบเขต ถ้าเรา ถ้าเราเดินทางตรงออกไปเรื่อยก็จะกลับมาพบกับจุดเดิมตอนที่เราออกเดินทาง คล้ายๆ กับเราเริ่มเดินทางจากจุดหนึ่งบนเส้นศูนย์สูตรของโลก แล้วเดินไปตามเส้นศูนย์สูตร สุดท้ายแล้วเราก็จะกลับมาเจอที่จุดเดิม แต่อวกาศมันไม่เหมือนพื้นโลก มุ่งหน้าไปทางไหนก็ได้ แต่สุดท้ายก็จะกลับมาที่จุดเดิม . ..... ผมประหลาดใจมากเมื่ออ่านเจอแนวคิดแบบนี้เป็นครั้งแรก เพราะมันตรงกับที่ผมเคยคิดก่อนหน้าที่ผมจะอ่านเจอเรื่องนี้ซะอีก จากคุณ : หมู หมา กา ไก่ - [ 4 มี.ค. 48 15:32:13 A:unknown X:unknown, 203.121.168.232, 202.57.163.238 TicketID:090124 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่มีที่สิ้นสุด แต่มีขนาดครับ เราจักรวาลเป็นวงกลม(คล้ายโลก มีทฤษฎีอยู่ว่าถ้าเราขับยานอวกาศตรงไปเรื่อยๆในอวกาศ สักวันหนึ่งเราจะย้อนกลับมาที่จุดเดิม เหมือนที่เดินไปบนโลกแล้ววนกลับมาจุดเดิม ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะอวกาศมี 4 มิติ เมื่อมิติที่ 4 (เวลา) บิตงอ เราจึงเดินทางเป็นวงกลมได้ แม้จะคิดว่าเดินทางเป็นเส้นตรงในระบบ 3 มิติ เช่นขีดเส้นตรงในกระดาษซึ่งถือว่ามี 2 มิติ เส้นจะไม่วนกลับมาจุดเดิม แต่ถ้าเราม้วนกระดาษในมิติที่ 3 เป็นทรงกระบอก เส้นตรงที่เราลากก็จะสามารถบรรจบเป็นจุดเดิมได้ ว่ากันว่าหากเราเดินทางด้วยความเร็วแสงไปในอวกาศจนวนกลับมาจุดเดิมได้ เราจะเห็นตัวเราเองที่ทำลังจะเดินทางออกไปเรียกว่าย้อนเวลาได้นั่นเอง จากคุณ : คนคิดเว่อร์ - [ 4 มี.ค. 48 17:37:46 A:61.90.29.14 X: TicketID:073865 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอโทษนะครับคุณ RT ถึงคุณจะตาบอดมองไม่เห็น ก็ไม่ได้แปลว่า โลกนี้จะไม่มีแสงสว่าง ผมเข้าใจว่าคุณต้องการบอกแค่ว่า มีบางคนที่มีประสาทสัมผัสมากกว่า 5 อย่าง แต่ผมกำลังจะบอกคุณว่า ไม่ว่าคุณจะมีประสาทกี่ร้อยกี่หมื่นสัมผัสก็ตาม มันไม่ใช่ประเด็น เพราะประเด็นคือ ถ้าสิ่งนั้นมันมีอยู่จริง สิ่งนั้นก็ยังคงมีจริงอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะสัมผัสมันได้หรือไม่ได้ก็ตาม หรือพูดอีกนัยนึง การมีอยู่ของมัน มันไม่ได้ขึ้นกับการมีหรือไม่มีประสาทสัมผัสของคุณ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 มี.ค. 48 19:14:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #17 ผมก็พูดอย่างนั้นแหละครับ ความหมายคือ อย่าจำกัดความคิดด้วยประสาทสัมผัสครับ สิ่งที่เราไม่รู้ ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่จริง แค่นั้นเองครับ "ผมว่ายังไงทุกอย่างมัน็ต้องมีขอบ" คำพูดนี้ของเจ้าของกระทู้สะท้อนกรอบความคิดที่ว่า ทุกสิ่งต้องมีขอบ เพราะเค้าเคยเห็นแต่สิ่งที่มีขอบ แม้แต่โลก, ดวงอาทิตย์ ก็มีขอบเขต แต่การที่ไม่เคยเห็นสิ่งที่ไม่มีขอบเขต ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นจะไม่มีอยู่จริงครับ จากคุณ : RT - [ 4 มี.ค. 48 19:27:03 A:160.2.212.65 X:61.90.149.29 TicketID:076578 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าจักรวาล ไม่มีขอบ จักรวาลก็อาจเป็นเซ็ตเปิด เซตเปิดนี่อาจมีขนาดจำกัดได้แต่หาขอบไม่ได้ จากคุณ : Aloner - [ 4 มี.ค. 48 19:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าจักรวาลอยู่ในเงื่อนไขภายใต้แรงโน้มถ่วง จักรวาลนี้ก็น่าจะเป็นทรงกลมขนาดใหญ่ครับ จากคุณ : กระเพราเป็ด - [ 4 มี.ค. 48 21:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 21 " หากเราเดินทางด้วยความเร็วแสงไปในอวกาศจนวนกลับมาจุดเดิมได้ เราจะเห็นตัวเราเองที่ทำลังจะเดินทางออกไปเรียกว่าย้อนเวลาได้นั่นเอง " ถ้าเราเอาไฟฉายที่มีความเข้มของแสงมากๆ ส่องไปในจักรวาล แสงนั้นมันก้จะมากระทบหลังเรา ผมคิดถูกไหมครับ จากคุณ : LTK - [ 4 มี.ค. 48 21:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 บางทีคำตอบอาจอยู่ในคำถาม จากคุณ : bankattapon - [ 4 มี.ค. 48 21:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หรือนั่นแสดงว่าเราสามารถหาปริมาตรของจักรวาลได้ครับ? เว้นแต่ว่ากระเปลี่ยนแปลงของมิติที่ 4 จะถูกเบี่ยงเบนไปโดยมิติที่ 5 ที่ 6 ที่.... อันเป็นเหตุให้การเปลี่ยนแปลงของมิติเวลาไม่สามารถระบุได้ (และมากลายเป็นสูตรของไฮเซนเบิร์ก) จากคุณ : สิ่งก่อสร้าง - [ 4 มี.ค. 48 22:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเรียนดาราศาสตร์เหมือนกันครับ แต่อ. สอนไม่รู้เรื่อง ทำให้ผมต้องศึกษาเอง กลายเป็นความสนใจ ความเข้าใจที่ว่า เมื่อเราอยู่ในสภาวะสูญญากาศ เมื่อเราออกแรง แรงนั้นจะคงความเร็วเท่าเดิมไปตลอด จนกว่าจะมีแรงอีกแรงมากระทำ เหมือนกับการกำเนิดเอกภพ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการระเบิดครั้งใหญ่จากจุดเล็กๆจุดหนึ่ง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ การระเบิดครั้งนั้นรุนแรงมาก จนทำให้ความร้อนสูงเป็นล้านๆเคนวิน และอุณหภูมิก็เย็นตัวลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเอกภพขยายตัวอกไปเรื่อยๆ และเนื่องจากการเย็นตัวอย่างรวดเร็ว อนุภาคต่างๆทำปฏิกิริยากันเป็นอะตอมขนาดเล็ก และเริ่มรวมตัวกันเป็นกลุ่มพลังงาน ซึ่งทำปฏิกิริยากันเรื่อยๆ และเริ่มจับตัวกันเป็นของแข็ง ขอพูดข้ามไปเลย ก็คือกลายเป็นดาวฤกษ์ แต่ขนาดของเอกภพนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด ลองนึกดูนะครับว่า แค่แรงระเบิดนิวเคลียส์แค่ลูกเดียว มีแรงอัดมหาศาล เป็นคลื่นความถี่ที่มีความเร็วสูงมากๆ ขนาดอยู่ในบรรยากาศ แล้วถ้าลองนึกดูว่า การระเบิดบิกแบงนั้นเกิดขึ้นในสูญญากาศ แล้วรุนแรงพอที่จะทำให้ความร้อนสูงขนาดเป็นล้านๆเคนวิน แรงอัดจะต้องมหาศาล และคลื่นความถี่ของแรงอัดก็มากเช่นกัน แล้วแรงเมื่อเคลื่อนที่อยู่ในสูญญากาศ ก็จะเคลื่อนที่ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด จนตอนนี้ คิดว่าเอกภพก็คงกำลังขยายตัวออกไปเรื่อยๆ เราไม่รู้หรอกว่า ส่วนที่แรงของการระเบิดนั้นยังไปไม่ถึงคืออะไร แต่ถ้ามีแรงอะไรที่อยู่นอกเหนือของเขตของเอกภพมากระทำ ก็อาจจะหยุดการขยายตัวของเอกภพได้ แต่ถ้าข้างนอกเอกภพนั้น มีแต่ความว่างเปล่า เราก็อาจจะเดินทางไปในเอกภพโดยที่ไม่สามารถหาขอบเขตได้เลย จากคุณ : nirakan - [ 4 มี.ค. 48 22:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ข้างบนบอกว่าจักรวาลขยายตัวออกไปเรื่อยๆหรอครับ ถ้างั้น จักรวาลกำลังขยายตัวออกไปหาอะไรล่ะครับ มันขยายตัวออกไปกินพื้นที่ของอะไรไปเรื่อยๆ ถ้ามันขยายไปกินพื้นที่ได้เรื่อยๆ ก็แสดงว่าส่วนนั้นก็เป็นส่วนๆนึงซึ่งมีอยู่จริง มีใครตั้งชื่อให้ส่วนนั้นแล้วยังครับ ไม่ได้ต้องการคำตอบนะครับว่าส่วนนั้นมันคืออะไร แต่ถ้าใครจะพยายามคิดหาก็มิได้หวงห้ามนะครับ แต่ว่าถ้ายังไม่มีใครตั้งชื่อให้มันล่ะก็ผมตั้งเป็นชื่อแรกก่อนนะคับ เอาเชื่อ ... * SpamD * ละกันเพราะรู้สึกว่าชื่อยี้จะเยี่ยมจ๊อร์ชชชมาก ใครจะส่งประกวดชื่ออะไรอีกมั๊ยคับ ถ้าไม่มีก็ช่วยๆกันจำชื่อนี้และเผยแพร่กันด้วยนะครับ ว่าส่วนนั้นน่ะเค้าเรียกว่า * SpamD * เพื่อให้เกียรติคนตั้งชื่อส่วนส่วนนี้เป็นคนแรกของโลกนะครับ เรามาภาคภูมิใจกันเถอะที่มีคนไทยได้มีชื่ออยู่เหนือจักรวาล ขอบคุณครับ จากคุณ : SpamD - [ 4 มี.ค. 48 23:59:43 A:61.91.247.160 X: TicketID:055657 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แตกประเด็นซะเลยดีกว่า ขออนุญาตินะครับ จากคุณ : SpamD - [ 5 มี.ค. 48 00:02:52 A:61.91.247.160 X: TicketID:055657 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมคิดว่าคลื่นเวลา น่าจะขยายตัวมากกว่านะ ขยายตัวออกไป แล้วคุณสมบัติของเวลา คือ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในกรอบดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แล้วเวลาเป็นมิติที่เป็นตัวเชื่อมโยงมิติต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน และถ้าเวลาขยายตัวออกไปถึงส่วนที่มันยังขยายตัวไปไม่ถึง(สำหรับผมขอเรียกว่านอกเอกภพนั่นเอง) มันก็จะเปลี่ยนส่วนนั้นๆ ให้เป็นมิติที่เกี่ยวข้องกับตัวของเวลา ซึ่งก็คือ มิติ ที่เราอยู่กันซึ่งเรียกว่า ปริมาตรหรือพื้นที่ มิติที่เราอยู่กันทุกวันมี 3 มิติ ถูกเรียกว่าเป็นมิติแห่งสสารและพลังงาน ถึงแม้เราจะอยู่ในแค่ 3 มิติเองก็ตาม แต่ก็อาจจะมีมิติอื่นๆที่เรายังไม่รู้ อยู่ในมิติของเวลาอีกก็ได้ครับ จากคุณ : Styer - [ 5 มี.ค. 48 01:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ปัจจุบันสัณณิษฐานว่ามีทั้งหมด 10 มิติ รวมเวลาไปอีกหนึ่ง เป็น 11 มิติ ครับ จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง - [ 5 มี.ค. 48 01:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทฤษฎีสัมพันธภาพของไอสไตน์น่าจะมีคำตอบนะครับ เพียงแต่ยังไม่มีคนที่เข้าใจถึงสิ่งที่ไอสไตน์ต้องการสื่อออกมาอย่างถ่องแท้นั่นเอง  ส่วนตัวผมผมว่าจักวาลน่าจะเหมือนวงแหวน โมบิอุส ที่ไม่มีจุดสิ้นสุดแต่มีขอบเขต จากคุณ : praphrut608 - [ 5 มี.ค. 48 11:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 error... จากคุณ : siamese dog - [ 6 มี.ค. 48 00:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มองในระดับมหภาค อาจเห็นขอบเขต มองระดับอนุภาคอาจไม่เห็นเขตขอบ ขอบเขตและเขตขอบมีอยู่และไม่มีอยู่ ในมุมมองที่ต่างกันไป บรรลุธรรมหรือยัง จากคุณ : mrgon - [ 6 มี.ค. 48 17:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าอยากทราบความใหญ่ของจักรวาล บางส่วน ดูได้จากเวปนี้ครับ มีภาพซูมให้ดู http://www.space.com/php/multimedia/zoomviewer/ จากคุณ : SpiritDreamInside - [ 8 มี.ค. 48 22:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เคยคิดว่า ในร่างกายของคนเรา ก็มีเซลล์ต่าง ๆ ซึ่งมีชีวิต และมีสสาร มีของแข็ง ของเหลว มีก๊าซ มีพลังงาน ซึ่งเป็นสิ่งไม่มีชีวิต >>>>>>>>>>>> ประกอบกัน กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงสติปัญญากว่า บนโลก ก็มีสิ่งมีชีวิตใหญ่น้อย และสิ่งไม่มีชีวิตอีกมากมาย ของแข็ง ของเหลว ก๊าซ พลังงาน ถ้าสิ่งเหล่านี้ ประกอบกันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญากว่า บ้างล่ะ?? เหมือนกรณีแรกที่บอกไป (ใครเข้าใจที่เราพูดบ้างเนี่ย) จากคุณ : หิมะสีเงิน - [ 20 มี.ค. 48 23:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 34 (มาต่อนิดนึง) เพราะสิ่งมีชีวิตในร่างกายเราอย่างเช่น เซลล์ มันก็ทำงานอยู่ในกรอบที่จำกัดความสามารถของมันไว้ คงคิดไม่ได้หรอกว่า ตัวมันประกอบขึ้นมาเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ได้ แล้วถ้าคนเราเป็นแบบมันล่ะคะ  (เอาแค่จินตนาการคงพอไหว แต่ความจริงช่างมันไปก่อนค่ะ) จากคุณ : หิมะสีเงิน - [ 20 มี.ค. 48 23:28:19 ]