PANTIP.COM : X3332143 สุดยอดดด จักรวาลใหม่ถูกตั้งชื่อโดยคนไทย!!!{แตกประเด็นจาก X3330275} [ดาราศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 15

จริงๆ แล้ว ทฤษฏีล่าสุดที่นักวิทยาศาสตร์เริ่มให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ คือทฤษฏี M ซึ่งไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า M ย่อมาจากอะไร บางคนบอก Membrane บางคนบอก Mother

คือทฤษฏีนี้เกิดมาจากการพัฒนาทฤษฏีทางฟิสิกส์ (String Theory) ซึ่งพยายามที่จะรวมแรงพื้นฐานทั้งสี่ให้เข้าเป็นสมการเดียวให้ได้ ซึ่งปัญหาหลักก็คือไม่สามารถรวมแรงดึงดูดเข้าไปกับแรงอีกสามแรงได้ (นิวเคลียร์เข้ม/อ่อน และ แรงแม่เหล็ก)

คือจากสมการที่ได้ สามารถตีความได้ประมาณว่า จักรวาลมีหลายมิติ (จากการแก้สมการคณิตศาสตร์ บอกเช่นนั้น) ซึ่งแต่ละจักรวาลจะมี ค่าพื้นฐานทางฟิสิกส์ต่างกัน เช่นประจุของอิเล็กตรอนในอีกจักรวาลอาจไม่เท่ากับค่าในอีกจักรวาล ทำให้สิ่งที่เป็นจริงในอีกจักรวาล อาจไม่เป็นจริงในอีกจักรวาล คือค่าพื้นฐานเหล่านี้มีค่าเป็นชุดๆที่ทำให้จักรวาลเสถียรอยู่ได้) ไม่ใช่ว่าเป็นได้ทุกค่า ซึ่งเป็นที่มาของเอกภพคู่ขนานในหนังวิทยาศาสตร์

ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์คิดว่า แต่ละจักรวาลอาจจะเทียบได้กับเมมเบรนแต่ละแผ่น ซึ่งแผ่นเหล่านี้จะล่องลอยอยู่และเกิดการชนกันเป็นช่วงๆ (ซึ่งก็คือ Big Bang นั่นเอง)

สิ่งที่น่าสนใจคือทฤษฏีนี้อาจอธิบายสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ว่า ทำไม ในแรงดึงดูดทั้งสี่ประเภท ถ้าเทียบความเข้มของแรงแล้ว แรงดึงดูดนั้นมีค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับแรงอื่น ทั้งๆที่ในระดับจักรวาล แรงดึงดูดเป็นแรงหลักเลย (คือนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าความเข้มของแรงทั้งสี่น่าจะพอๆกัน)

ทฏษฏีนี้อธิบายโดยสตริง แบบเป็นลูป (ไม่มีปลาย) และแบบเป็นเส้น (คือมีปลายเปิดสองด้าน) นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า แรงดึงดูดมีปลายเปิดของสตริง ทำให้มันสามารถเกิดปฏิสัมพันธ์กับแรงดึงดูดในอีกมิติ หรือจักรวาลอื่นได้ ในขณะที่ แรงอีกสามแรงเป็นปลายปิด ดังนั้นเวลาเราวัดแรงดึงดูด ค่าที่ได้จะเป็นค่าในจักรวาลเราเท่านั้น ส่วนที่หายไป คือแรงดึงดูดที่เกิดกับจักรวาลอื่นด้วย ทำให้แผ่นจักรวาลแต่ละแผ่นเคลื่อนเข้าหากัน และเมื่อชนกันก็จะเคลื่อนห่างจากกัน เกิดเป็นวัฐจักรไปเรื่อยๆ

ขอโทษทีครับ นอกเรื่องไปพอควรเลย ชื่ออะไรก็แล้วแต่ เพราะคงอยู่ไม่ถึงตอนที่ค้นพบจักรวาลอื่น

จากคุณ : อืม - [ 6 มี.ค. 48 01:40:36 A:69.162.29.66 X: TicketID:064569 ]