ความคิดเห็นที่ 1 ผมเองก็มีประสบการณ์เช่นเดียวกันเรื่องนั่งสมาธิแล้วลอยได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามตัวอย่างข้างต้น และตามที่คุณคนเก่าได้เคยชี้แนะแนวทางมาก่อนว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามจริตของแต่ละบุคคลอันเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นความก้าวหน้าขั้นหนึ่ง แต่การทดลองไปหยิบของบนหลังคายังไม่เคยทำเท่านั้น เนื่องจากคาดว่าร่างที่ลอยสูงขึ้นไปนั้นเป็นเพียงกายทิพย์เนื่องจากมีโซ่สีเงินคล้องอยู่ที่ตัวกับกายหยาบ แต่เรื่องผลดีที่ได้จากการทำสมาธิเช่นนี้ผมยังไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านใดด้านหนึ่ง คงเป็นเพียงที่คุณคนเก่าอธิบายไว้ว่าเป็นความก้าวหน้าแบบหนึ่งในการปฏิบัติครับ จากคุณ : Son of a Beach - [ 3 เม.ย. 48 11:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่ลอยขึ้นนั้น เป็นกายเนื้อ นอกจากนี้ จากหนังสือ หยดน้ำบนใบบัว บอกเล่าถึงเรื่องคล้ายกัน โดยหลวงตามหาบัว ตามที่ผมแนบมาด้วยนี้ครับ... จากคุณ : superbat - [ 3 เม.ย. 48 21:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 (ต่อ) สิ่งที่นำเสนอ เพียงเพื่อ ให้ผู้ที่ไม่เคยทราบ ได้ทราบในเรื่องเกี่ยวกับการฝึกจิตครับ ว่ามีผลอย่างนี้ ๆ เกิดขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขอให้ใช้วิจารณญาณ เพราะเรื่องนี้ประกอบด้วยเหตุปัจจัยอื่นหลายอย่าง จากคุณ : superbat - [ 3 เม.ย. 48 21:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พระท่านคงไม่มุสา.. ผมเชื่อแบบนั้น.. แต่อีกใจ รู้สึกว่ามันขัดกฏฟิสิกส์พิกล เคยมีสารคดีที่ทำเรื่องนี้บอกว่า ถ้าสมาธิ ทำให้คนหลุดพ้นจากแรงดึงดูดได้ คนๆ นั้นจะลอยขึ้นอย่างเร็ว ออกไปนอกโลก เพื่อหาจุดสมดุลในจักรวาล จากคุณ : freeek!!! - [ 4 เม.ย. 48 06:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นี่ละครับคุณ Freek ที่พวกเราปุถุชนในฐานะผู้สังเกตุการณ์ ที่ไม่สามารถเหมือนท่านเหล่านั้นจะต้องมาหาเหตุแห่งการเกิด ตามหลักการที่สามารถเข้าใจได้ เริ่มจากความรู้เบื้องต้นของเราเป็นต้นไป มีอะไรที่เรารู้แล้วบ้าง? เนื่องจาก ยังอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของโลกดังนั้น การลอยตัวต้านแรงดึงดูดเช่นนั้น เท่าที่ผมคิดออกตอนนี้เป็นไปได้คือ 1. มีแรงยกขึ้น 2. สภาพมวลสารของร่างกายท่านเบาขึ้น กว่าปกติ 3. เกิดภาวะไร้แรงดึงดูดรอบๆตัวท่านเหล่านั้น...คล้ายกับห้องจำลองอวกาศ ของการฝึกนักบินอวกาศ จาก ข้อมูลทั้งสองกรณีข้างต้น จะเห็นว่า ร่างกายท่านยังตกลงมาเช่นเดิมในสภาวะสมาธิหนึ่ง นั่นก็หมายความว่า แรงดึงดูดยังส่งผลและมวลสารก็ไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นข้อสมมุติ ที่ 2 จึงอาจจะมีความเป็นไปได้น้อยกว่า กรณี 1 และ 3 ในขั้นต้นนี้ จะเห็นว่า มีสิ่งที่เกี่ยวข้องคือ ร่างกาย และจิตใจเท่านั้น ร่างกายเป็น สสาร มีมวล มีรูปร่าง  ถ้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยปกติน่าจะมีข้อ  สังเกตได้ง่าย แต่การเปลี่ยนแปลงทางจิตล่ะ? และการเปลี่ยนแปลงนั้นจะสัมพันธ์กับ ทางกายอย่างไร? หรือไม่สัมพันธ์กันเลย? แต่ผมก็ยังคิดว่า สองสิ่งนี้จะสัมพันธ์กัน เราอาจจะตรวจการเปลี่ยนแปลงของจิตจากการเปลี่ยนแปลงของกายที่เราเรียกว่า Bio-feedback ซึ่งได้มีการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ระดับหนึ่งแล้ว.. จะเห็นว่า การจะศึกษาในเชิงวิทยาศาสตร์นั้น ยังมีคำถามตามมาอีกมากมาย...ที่จะต้องตอบ หากมุ่งแต่ผล ก็ลงมือเลย ไม่ต้องไปทราบอะไรให้ยุ่งยากเพราะมีคนทำได้ และมีวิธีการทำอยู่... เปรียบเสมือนช่างฝีมือซ่อมเครื่องยนต์ครับ บางคนอาจไม่รู้ว่าส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์นั้น ถูกผลิตขึ้นมาบนหลักการวิทยาศาสตร์อย่างไรบ้าง แต่เขารู้ว่าทำอย่างนี้ๆ แล้วจะแก้ปัญหาได้ และใช้ได้ ฉันใดก็ฉันนั้นครับ และสิ่งทั้งหลายเมื่อเกิดขึ้น ปรากฏขึ้นแล้ว สิ่งนั้นก็ธรรมดา ย่อมมีเหตุแห่งการเกิดครับ จากคุณ : superbat - [ 4 เม.ย. 48 09:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หากพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่พยายามนำทางจิตเข้าสู่วิทยาศาสตร์ ผมคิดว่า เกิดจากสภาวะทางสมองที่สามารถบังคับพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่อยู่ในตัวคนให้อยู่ในสภาวะสมดุลได้ เปรียบเสมือนรถไฟที่เคลื่อนที่ด้วย การเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งรถไฟชนิดนี้เคลื่อนที่ด้วยการลอยอยู่บนอากาศครับ ปล.  หากความคิดทำนองวิทยาศาสตร์ทีอธิบายนี้เกิดขึ้นจริง ก็จะหมายความว่า ในอนาคต หากมีมนุษย์ผู้ใดที่สามารถเข้าถึงนิพพานได้ ก็จะมีเครื่องโคลนกระแสจิตเข้าถึงบุคคลทุกคนได้ คล้ายกับการสะกดจิตแต่เป็นทำนองส่งคลื่นสมองแทน นั้นอาจจะหมายถึงสภาวะของยุคพระศรีอารย์ก็เป็นได้ จากคุณ : วารี (anable) - [ 5 เม.ย. 48 23:16:46 ]