ความคิดเห็นที่ 1 // num stores a value in base 10   // solution will have digits in an array   index = 0 ;   while ( num != 0 )    {       remainder = num % K ;  // assume K > 1       num       = num / K ;  // integer division       digit[ index ] = remainder ;       index ++ ;    } http://www.cs.umd.edu/class/spring2003/cmsc311/Notes/Data/toBaseK.html จากคุณ : J-a-y - [ 2 ส.ค. 48 18:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Converting a number to base K involves repeatedly dividing by K, and storing the remainder in an array. You can then take the values out of the array and create a string that looks like the printed form of that number. What are you really doing when you divide by K? Essentially, you are trying to create larger and larger powers of K. Notice that the remainder, when dividing by K, is between 0 and K - 1. This is exactly the property we want when we convert to base K. As practice, pick an arbitrary number in base 10, and convert it to an arbitrary base. To double check your answer, convert it back to base 10 to see if you get the same number as before. http://www.cs.umd.edu/class/spring2003/cmsc311/Notes/Data/toBaseK.html แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 48 18:28:20 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 48 18:27:48 จากคุณ : J-a-y - [ 2 ส.ค. 48 18:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เอา 2 หารไปเรื่อยๆ แล้วเก็บเศษไว้ เรียงถอยหลัง นั่นแหละ เลขฐานสอง จากคุณ : ช่างไฟ - [ 2 ส.ค. 48 19:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 start > run > calc กรอก กด F8 รับผล จากคุณ : ChronoSEAL - [ 2 ส.ค. 48 20:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มีคนอยู่ 10 ประเภท คือคนที่เข้าใจเลขฐานสอง และคนที่ไม่เข้าใจ จากคุณ : Duke! - [ 2 ส.ค. 48 20:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทำตามที่ คุณช่างไฟ บอกแหละครับ นำ 2 มาหารเลขจำนวนนั้นไปเรื่อยๆ แล้วจดไว้ว่าได้เศษเท่าไหร่ในการ หาร 1 ครั้ง พอหารหมด ก็ อ่านจากหลังไปหน้า จะได้คำตอบ เช่น   เลขฐาน2 ของ 5 2 หาร 5  ได้ 2 เหลือเศษ 1 2 หาร 2  ได้ 1 เหลือเศษ 0 เลขฐาน2ของ 5  เท่ากับ 101 (ต้องอ่านจากหลังไปหน้านะแต่นี่เลขมันซ้ำกัน) จากคุณ : เก่งน้อย - [ 2 ส.ค. 48 20:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อยากได้วิธี ก ไก่ กุ๊กๆ มั้ยคะ 2n ... 25 24 23 22 21 20     ... 32 16  8  4  2  1 แยกดูตำแหน่งไหน มี ก็เป็น 1 ตำแหน่งไหนไม่มีก็ 0 เช่น     ...  1   0   1  1  1  0  = 32+8+4+2 = 46 เป็นวิธีคิดกลับไปกลับมาจากการหารสองไปเรื่อยๆ ค่ะ :) จากคุณ : D_AkIrA - [ 2 ส.ค. 48 23:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นั่นละครับ  ตาม คห. 3 และ 7 จากคุณ : 001 JZ Team - [ 3 ส.ค. 48 09:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพิ่มเติมสำหรับทศนิยม เอา 2 คูณไปเรื่อยๆ เก็บค่าหลักหน่วยเรียงจากซ้ายไปขวา เช่น 0.25:  0.25 * 2 = 0.5 ->  0        0.5 * 2 = 1.0 -> 1 0.25:  .01 0.75:  0.75 * 2 = 1.5 -> 1        0.5 * 2 = 1.0 -> 1 0.75:  .11 0.97 = .1111100001010001111010 จากคุณ : กะต่อ - [ 3 ส.ค. 48 10:23:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ^/\^   ว่าแต่ เราจะคิดเป็นดิจิตอลกันแล้วรึ จากคุณ : angy_11 - [ 3 ส.ค. 48 10:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก็เครื่องคิดเลขที่แถมมากับ Windows ของคุณนั้นแหละครับแปลงได้ทั้ง ฐาน 16-10-8-2 โดย คุณกดตัวเลขที่ ฐาน 10เข้าไปก่อนว่าจะเอาเลขอะไร แล้วก็ไปเปลี่ยน Mode ของเครื่องคิดเขลให้เป็นฐานที่คุณต้องการ จากคุณ : Adung - [ 3 ส.ค. 48 12:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เลือก Mode ที่นี้ จากคุณ : Adung - [ 3 ส.ค. 48 12:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Base -- From MathWorld http://mathworld.wolfram.com/Base.html Binary numeral system -- From Wikipedia, the free encyclopedia http://en.wikipedia.org/wiki/Binary_numeral_system จากคุณ : anon II - [ 3 ส.ค. 48 12:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอ่อ...ไม่ทราบว่าถามหาวิธีคำนวณหรือถามว่าจะหาได้ยังไง กรุณาระบุความต้องการด้วยครับ จากคุณ : นิสัยถาวร - [ 4 ส.ค. 48 16:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลึกซึ้งมากคห. ๕ จากคุณ : - -" - [ วันรพี 01:24:32 A:85.212.35.73 X: TicketID:094848 ]