ความคิดเห็นที่ 1 ผิดแล้วครับ.... ถ้าโดนกรดกำมะถัน ห้ามเช็ดครับ ต้องทำให้เจือจางโดยใช้น้ำอย่างเดียว    บ้านผมใช้กรดกำมะถันไล่โจรครับ  ที่บ้านใช้ปืนอัดน้ำแรงดันสูง แต่น้ำเป็นน้ำกรดเข้มข้ม ใช้ไล่โจร...  น้ำกรดพวกนี้ พอโดนแล้วตอนแรกไม่รู้สึกเจ็บครับ แต่จะคัน คันแล้วต้องเกา  รุ้มั้ยครับ เกาแล้วเนื้อติดมือออกมาเท่าไหร่...เป็นก้อนๆ ครับ     ถึงบอกว่า ถ้าโดนกรดพวกนี้ห้ามเช็ด ห้ามให้ผิวหนักถูกอะไรเสียดสี ....ทำให้เจือจางให้เร็วที่สุด แล้วรีบส่งโรงพยาบาลครับ จากคุณ : gmat032 - [ 23 ส.ค. 48 00:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ให้ล้างด้วยน้ำเย็น โดยให้น้ำไหลผ่านตลอด เป็นเวลาอย่างน้อยสิบห้านาที และส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด http://www.battery.co.za/download/dl/MSDS%2001.pdf ปล กรดในลิ้งค์ข้างบน น่าจะเป็นกรดที่คนทั่วไปหามาใช้เพื่อการนี้ได้ แต่ถ้าเจอกรดที่อยู่ในห้องทดลอง ก็ ... เพราะมันคงเข้มข้นกว่านี้ จากคุณ : :) - [ 23 ส.ค. 48 01:18:24 A:24.226.45.166 X: TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลืมบอกไปว่า เสื้อผ้าที่โดนกรด เขาใช้วิธีตัดทิ้ง อย่าเสียเวลาถอด เพราะนอกจะเสียเวลาแล้วยังเสี่ยงที่จะทำให้กรดมีโอกาสไปสัมผัสผิวหนังบริเวณที่ไม่โดนแต่แรกด้วย จากคุณ : :) - [ 23 ส.ค. 48 01:20:41 A:24.226.45.166 X: TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สงสัยจขกท เอามาจากFw Mail อิอิ จากคุณ : mohicann - [ 23 ส.ค. 48 03:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ "เอามาจากFw Mail" เป็นคำพูดที่หมิ่นประมาทอย่างแรงนะครับ สำหรับชาวหว้ากอ ...อิ อิ จากคุณ : vandalism - [ 23 ส.ค. 48 03:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมยังขอยืนยันว่าที่โพสต์มาถูกต้อง ถ้าไม่รู้จริง ทดลองมากับมือ ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ จะไม่มาโพสต์มั่วๆ ให้คนที่เชื่อนำไปปฏิบัติตามจนเกิดอันตรายหรอก แค่อ่านตามตำรา มันไม่พอหรอก ต้องทดลอง ถ้ายังไม่เชื่อ ลองทดลองดูก็ได้ ถ้ามีน้ำกรดกำมะถันเข้มข้น 98 % อยู่ในมือ เช็ดนื้วให้แห้ง ลองป้ายน้ำกรดดู จะเห็นได้ว่านานเป็นหลายนาที จะไม่รู้สึกร้อนหรือคันใดๆ จากนั้นก็รีบจุ่มลงล้างในน้ำ แต่ถ้านิ้วชื้นหรือเปียก ลองป้ายดูใหม่ จะรู้สึกร้อนทันที ถ้าล้างไม่ทัน ภานในไม่กี่วินาที จะร้อนจนผิวหนังนิ้วพองทันที จากคุณ : จขกท. - [ 23 ส.ค. 48 07:43:56 A:61.90.14.60 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รอคนมา Confirm ครับ ตกลงผมจะเชื่อ Comment ไหนดี - -' จากคุณ : cookiecompany - [ 23 ส.ค. 48 08:49:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมมี H2SO4  98 % อยู่  ถ้าว่างๆ จะทดลองดูนะ จากคุณ : NaCl - [ 23 ส.ค. 48 09:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นั่นดิ  รอคนมา Confirm   ด้วยคน - -' จากคุณ : madcatzz - [ 23 ส.ค. 48 09:18:19 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ คห.8 ครับ ต้องรอใคร Confirm คุณถึงจะเชื่อ หรือจะใช้เสียงส่วนใหญ่ตัดสิน แล้วแน่ใจหรือว่าเสียงส่วนใหญ่รู้จริง พิจารณาเอาเองก็ได้ คุณว่าผู้ตายเค้าจะไม่ล้างหรือ จะไม่ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนออกหรือ และไม่ไปโรงพยาบาลหรือ ผมเชื่อว่าเค้าทำหมดทุกวิธีแหละ แต่มันไม่ได้ผล คุณไม่มีทางเลือกหรอก ต้องทำตามที่ผมแนะนำเท่านั้น หรือใครมีวิธีที่ดีกว่านี้ practicalกว่านี้ ก็ลองเสนอมา ผมไม่รังเกียจเลย และจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : จขกท. - [ 23 ส.ค. 48 09:22:01 A:61.90.15.200 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอาให้ sure ครับพี่น้อง เรื่องแบบนี้อย่ามาสักแต่ว่า post นะครับ เรื่องคอขาดบาดตาย ขอแบบฟันธงครับ จากคุณ : V_MAN - [ 23 ส.ค. 48 09:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 นั่นสิ ...ตกลงความเห็นไหนหว่า.. จากคุณ : สาวแว่นเลี้ยวซ้าย - [ 23 ส.ค. 48 09:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ใช้น้ำครับ แต่ต้องมากๆๆๆๆและต่อเนื่อง ราดต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนกว่าจะปลอดภัย ไม่ใช่เช็ดด้วยผ้าเปียก แบบนั้นจะยิ่งทำให้รุนแรงมากขึ้น ที่หน้าห้องแลปที่ผมเคยเรียน จะมี Emergency station อยู่เป็นระยะๆ ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ก็ถอดเสื้อกาวน์ออก แล้วเดินไปยืนใต้ฝักบัว ดึงสายให้น้ำไหลลงมาชะ ถ้าเข้าหน้าเข้าตา ก็มีถังน้ำยาล้างตา ก้มหน้าไปแนบแล้วเหยียบแท่น น้ำยาจะพุ่งขึ้นมาล้างทั้งหน้าเลย ในกรณีที่ไม่มีน้ำมากพอ ใช้เช็ดแบบ จนกท. ก็น่าจะได้ เช็ดจนเหลือกรดไม่มากนัก แต่ถ้ามีน้ำ ใช้น้ำดีกว่าแน่นอน แต่น้ำต้องเยอะนะ จากคุณ : alan the lamb - [ 23 ส.ค. 48 10:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ้าว สรุปว่าผมผิดอีกที่รอคน Confirm - -' ผมก็คงรอคนที่ดูมี Credit ดีน่ะสิครับ ถามแปลกจริง -_-' จากคุณ : cookiecompany - [ 23 ส.ค. 48 10:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 http://www.bu.edu/es/labsafety/ESMSDSs/MSSulfuricAcid.html#anchor888780 http://www.ccohs.ca/oshanswers/chemicals/chem_profiles/sulfuric_acid/firstaid_sa.html http://www.chess.cornell.edu/safety/chemsop/slfrcacd.htm http://health.yahoo.com/ency/healthwise/sig256946 ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้น้ำครับ ยังไม่เจอที่ไหนให้เช็ดออกด้วยผ้า แต่ก็คงอย่างที่ คคห๑๔ว่าไว้ ต้องใช้น้ำเยอะมากๆๆๆๆ ถ้าน้ำไม่แยะจริงนี่ วิธีที่จขกทแนะนำ อาจ มีประโยชน์ แบบว่าดีกว่าเอาน้ำกระจึ๋งนึงมาล้าง แล้วออกไม่หมด กลับกลายเป็นเร่งปฏิกิริยาไปเสียอีก ส่วนที่ว่าให้ทดลองโดยการนิ้วจุ่มนี่ ขอเป็นนิ้วของจขกทก็แล้วกัน ทดลองแบบนี้ผมขอผ่าน :) แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 10:18:47 จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 23 ส.ค. 48 10:15:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใช้น้ำใจ ถ้อยทีถ้อยอาศัย ปลอดภัยที่สุดครับ จากคุณ : Practical x 2 - [ 23 ส.ค. 48 10:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มารอฟังค่ะ  ^^ คิดว่าการที่ไม่ให้ใช้น้ำน้อยๆล้างอาจเป็นเพราะน้ำจะพากรดที่ยังเข้มข้นอยู่ให้ไปสัมผัสกับส่วนอื่นของร่างกายทำให้กรดกระจายเป็นวงกว้าง   แต่น้ำจะไปเร่งปฏิกิริยานี่ยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะว่าจะไปเร่งปฏิกิริยายังไง  เพราะอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของกรดด้วยนิคะ  เพราะฉะนั้นถ้ากรดถูกเจือจางด้วยน้ำ อัตราการเกิดปฏิกิริยาก็น่าจะลดลง  อืม  ใครทราบช่วยอธิบายด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 23 ส.ค. 48 11:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณ จขกท คคห14 และ คคห16 ที่ช่วยสรุปให้ครับ -==- จากคุณ : geeg - [ 23 ส.ค. 48 11:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สาเหตุที่ให้ใช้น้ำไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่า คนที่เอาสาดจะเอากรดความเข้มข้นเท่าไหร่มา (และเขาคงไม่ประกาศก่อนมั้ง) และกรดที่ซื้อได้ตามท้องตลาด คือ กรดที่ใช้เติมแบตเตอร์รี่ ซึ่งจะส่วนใหญ่มีความเข้มข้นมากที่สุดก็ 75% ถ้าซื้ออย่างอื่นก็จะได้ ความเข้มข้นประมาณ 10-51% การเช็ดจึงไม่มีประโยชน์ เพราะมันมีน้ำผสมอยู่ในสารละลายนั้นเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : :) - [ 23 ส.ค. 48 11:56:44 A:24.226.45.166 X: TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขออภัยที่สับสนกับปฏิกิริยาเคมี ผมใช้คำไม่ถูกต้องน่าจะใช้คำว่าทำปฏิกิริยามากกว่า ถ้ามันโดนน้ำน้อยๆแบบออกไปไม่หมดแล้วมันจะเกิดการพาไปอย่างที่คุณว่าส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งผมยึดจากที่จขกทว่าคือ ถ้ายังไม่มีน้ำกรดจะยังไม่เกิดปฏกิริยารุนแรงน่ะครับ ส่วนที่น้ำทำปฏิกิริยาลองนึกถึงเวลาเจือจางกรดเข้มข้นท่านว่าให้เติมกรดลงในน้ำ ไม่ใช่เติมน้ำลงในกรด  อาจระเบิดได้ (ขอคนมายืนยัยตรงนี้นิดครับว่าระเบิด หรือเกิดปฏิกิริยารุนแรงแค่ไหน) เพราะฉะนั้นลองนึกถึงว่ามีกรดเข้มข้นมากๆบนตัวคุณแล้วมีน้ำ (ไม่มาก)เท่าไหร่มาร่วมแจม แต่ถ้าเป็นน้ำปริมาณมากๆ ไม่มีปัญหาเพราะกรดถูกเจือจางอย่างรวดเร็ว และช่วยพาความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาออกไป เขาถึงให้ล้างใน running water ไงครับ เติมกรดรดน้ำ ท่องไว้ให้แม่นแล้วจะปลอดภัย อันนี้ผมจำแม่นเพราะทำผิดตอนสอบแล็บกริ๊ง พอหมดข้อ อาจารย์เดินมาบอกทันที นับตั้งแต่นั้นมาไม่เคยลืมเลยครับ จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 23 ส.ค. 48 12:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เคยเรียนว่า  ใช้น้ำจำนวนมหาศาลล้างเลย  เหมือนกันอะ จากคุณ : ไจโรสโคป - [ 23 ส.ค. 48 12:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ใช้เนื้อหมู หรือขาหมูคากิแทนได้หรือเปล่าครับ ผมไม่เอามือผมลงไปจุ่มหรอก คลับคล้ายคลับคลาว่าในห้องLabของผมมีกรดตัวนี้อยู่นะ แต่ความเข้มข้นอาจจะไม่สูง จากคุณ : โลหการ4 - [ 23 ส.ค. 48 12:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คิดว่าวิธีที่ดีที่สุดคือใช้น้ำจำนวนมากๆล้างออก ตามห้อง lab โดยมาตรฐานแล้วเค้าจะต้องมีฝักบัวเอาไว้เลย เกิดเหตุฉุกเฉินอะไรก็วิ่งไปดึงวาล์วเปิดน้ำล้างได้ทันที จากคุณ : รองเท้าเปื้อนฝุ่น (dirty shoe) - [ 23 ส.ค. 48 13:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดีครับมา share กัน จากคุณ : V_MAN - [ 23 ส.ค. 48 13:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ^ น่าสนใจดี ทดลองแล้วมาบอกกันมั่งก็แล้วกัน ใน คห ๒๐ ตอบโดยตั้งสมมติฐานว่า จขกท พูดถูกนะว่า กรดบริสุทธิ์ จะไม่ทำปฏิกริยากับผิวหนัง แต่ในความรู้สึกคิดว่า มันน่าจะทำให้ไหม้ได้เลยนะ จากประสบการณ์แค่เปิดฝาขวดในตู้ดูดควัน ก็หนาวๆร้อนๆแล้ว จากคุณ : :) - [ 23 ส.ค. 48 13:37:34 A:24.226.45.166 X: TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หลายท่านคงยังไม่ชัดเจน ผมอยากให้มองในสภาพที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่ในห้องLab คุณจะเอาน้ำจำนวนมากๆในทันทีมาจากไหน ขณะที่ตัวคุณชุ่มโชกไปด้วยน้ำกรด ที่รอจะเกิดปฏิกริยากับเหงื่อบนตัวคุณแล้วคายความร้อนจำนวนมหาศาลออกมาลวกผิวคุณ ยิ่งผู้เคราะห์ร้ายและคนที่พยายามช่วย พยายามตักน้ำมาราด ราดทีละขันสองขัน ยิ่งถูกน้ำก็ยิ่งร้อน ผู้เคระห์ร้าย ก็ยิ่งตกใจ ดิ้นรนไม่กล้าให้ราดน้ำล้างต่อ ผู้คนที่พยายามช่วยก็ได้แต่ปล่อยให้ดิ้นทุรนทุรายไป ไม่กล้าทำอะไรต่อ รอแต่จะช่วยพาไปโรงพยาบาล อย่างเดียว สุดท้ายผลก็เป็นอย่างที่เกิด คืออาการหนักจนเกินเยียวยารักษา จากคุณ : จขกท. - [ 23 ส.ค. 48 13:50:40 A:61.91.79.64 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กรดกำมะถันที่ความเข้มข้นตำกว่า 90% ราดถูกผิวหนัง ถ้าที่อุณหภูมิปกติ ถ้าไม่เข้าตาเสียอย่าง ค่อยๆเดินช้าๆไปล้างได้เลย ไม่น่ากลัวเท่าไรหรอกในสายตาผม อย่ากลัวจนเกินเหตุครับ ไม่กล้าทดลองด้วยนิ้วตัวเอง ลองวิธีนี้ก็ได้ แช่กระดาษหนังสือพิมพ์แห้งๆลงในน้ำกรด สังเกตว่าเกิดอะไร รับรองไม่เกิดอะไรขึ้นเลย นำกระดาษชุบน้ำให้เปียก หยดกรดเข้มข้นลงไป กระดาษทะลุเป็นรูไหม้ทันที ย้ำทันที นำกระดาษแห้งมาราดด้วยน้ำกรดเข้มข้นให้เปียก จะไม่เกิดผลใดๆ แต่ลองหยดน้ำลงไปบนกระดาษ กระดาษจะไหม้ทะลุเป็นรูทันที แล้วอย่างนี้คุณว่าล้างด้วยน้ำจะทันไม๊ ถ้าน้ำไม่มากพอ ขณะที่กรดมีมาก จากคุณ : จขกท. - [ 23 ส.ค. 48 14:11:07 A:61.91.110.33 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โอ๊ว ดีจังครับความรู้ใหม่ ( ถ้าเกิดว่าเป็นข้อมูลจริง ๆ ) แต่ผมว่าเกิดกรณีอย่างนี้บ่อยนะ ทางการหน้าจะมีแหล่งความรู้ หรือ สื่อให้ประชาชนทราบ จากคุณ : ticker (Ticker) - [ 23 ส.ค. 48 15:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 30 วันก่อนดูข่าวต่างประเทศในทีวี ที่ทหารฝรั่งชาติอะไรไม่รู้สองคน โดนชาวบ้านเอาน้ำกรดสาด ตากล้องก็ถ่ายภาพมาให้เห็นจะๆ พวกเพื่อนทหารต่างพากันเอาน้ำเป็นแกลอนๆ ราดใส่ตัวทหารคนที่โดนน้ำกรดสาด เต้นเร่าๆร้องเสียงหลงเลยค่ะ  ซึ่งในภาพเขาไม่ได้ใส่เสื้อ คาดว่าคงถอดออก หรือตัดออก อย่างที่คุณข้างบนว่านะคะ และก็ข่าวเป็นอย่างไรต่อไปก็ไม่รู้ค่ะ ว่าทหารสองคนนั่นจะเป็นยังไงบ้าง จากคุณ : เด็กหัดเดิน - [ 23 ส.ค. 48 15:16:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ล้างน้ำอย่างเร็ว ดีที่สุด ปล. ถ้าข่าวน้ำกรดสาดกันมาจากเมืองจันท์ ส่วนใหญ่จะเป็นกรดกัดแก้ว HF อะครับ เค้าไว้ทำความสะอาดพลอยก้อน ดังนั้นจงอย่าทะเลาะบาดหมางกับคนเมืองจันท์ มีอะไรค่อยๆพูดกันดีกว่า จากคุณ : Dr.slump - [ 23 ส.ค. 48 15:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าผมมี อมยิ้ม(อ.ย.).. ผมโหวตให้เลย พับผ่า จากคุณ : ต้มยำไก่(Tom Yum Kai) - [ 23 ส.ค. 48 16:13:15 A:10.105.246.114 X:10.105.246.114, 202.12.118.36 TicketID:076435 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ้าวอย่างนี้คนที่จะสาดด้วยน้ำกรด เข้ามาอ่านในนี้แล้วเลือกสาดวันฝนตกจะซวยเอานะซิ อิอิ ล้อเล่นนะ จากคุณ : cha_srt - [ 23 ส.ค. 48 16:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่าล้างน้ำนะ มันเจือจางด้วยนำนี่ ใช้น้ำฉีดแทนผ้าเช็ดก็ได้มั้ง ใครให้ไปแช่นำเฉยๆละ จากคุณ : vechten - [ 23 ส.ค. 48 16:49:24 A:203.155.227.128 X: TicketID:082287 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ยืนยันว่า ...แลปมาตรฐานจะมีฝักบัวไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินแน่นอน จากคุณ : วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าเดิม - [ 23 ส.ค. 48 18:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โดนมาแล้วครับ  ไม่ถึง 98% หรอก (พวกนั้น แค่เปิดขวด คนถือก็โดนไอมันกัดกระจุยแล้ว เพราะมันเป็น H2S2O7 มากกว่า H2SO4)  เมื่อโดนแล้ว ล้างน้ำอย่างเดียว  น้ำปริมาณมากๆๆๆๆๆ เพื่อนำเอากรดออกจากพื้นผิวสัมผัสให้มากที่สุด  น้ำ ใส่ลงไปในกรด .. เคมีตามตำรา จะห้ามไว้ เพราะอะไร? ไม่ต้องรู้เหตุผลมาก ก็ควรเชื่อตามนั้นไว้ก่อน  และต้องรู้เหตุผลชัดเจน ถึงจะไม่ทำตามนั้น  เหตุผลที่ชัดเจน ที่ทำให้ไม่เชื่อตำรา  เพราะในชีวิตจริง ความร้อนที่เกิดขึ้น มีทางระบาย (ด้วยน้ำปริมาณมหาศาล ที่อุณหภูมิต่ำ ... ควรกลับไปดูฟิสิกส์พื้นฐานเรื่องความร้อนครับ)  ความร้อนจากการละลาย ปริมาณกรด ... ไม่ถึง 500cc + น้ำ 50,000-100,000cc  (3-4 ถัง) ความเข้มข้น จะเหลือเท่าไหร่?  ผมเคย demonstrate ให้ลูกน้องดู .. เอากรด 70% ด้วยซ้ำ 500cc ... เทใส่ถังกาละมังใบใหญ่ จากนั้นให้ลูกน้อง 3 คน หิ้วน้ำกันคนละถัง (5 ลิตร) เทลงไปพร้อมๆกัน  ไม่มีกระจายขึ้นมาเลยซัีกนิด จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 23 ส.ค. 48 18:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าเป็นกรด  H2SO4 ให้ใ้ช้ผ้าหรือกระดาษซับก่อน ถ้าเป็นกรดอื่น ให้เอาน้ำล้างทันที เพราะกรด  H2SO4 รวมกับน้ำแล้วจะเกิดความร้อนรุนแรงมาก ทำให้ผิวหนังนอกจากถูกกรดกัดแ้ล้ว จะเหมือนถูกน้ำร้อนลวกด้วย จากคุณ : ORG CHEM (245CM) - [ 23 ส.ค. 48 19:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วถ้ากระโดดสระน้ำล่ะ จะพอรอดจากน้ำกรดไหม เมื่อโดดสระแล้วดำน้ำหรือว่ายน้ำไปเรื่อยๆง่ะ จากคุณ : Kormicsamashoon - [ 23 ส.ค. 48 19:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ในโลกแห่งความเป็นจริง เจ้าคนสาดมันคงไม่บอกหรอกว่า มันซื้อกรดอะไรมา ความเข้มข้นเท่าไหร่ ฉะนั้น ลากตัวคนโดนสาด ไปยืนใต้ฝักบัว (ตอนนี้หลายบ้านน่าจะมีแล้ว) ใต้ก็อกน้า หรือข้างโอ่ง (ห้ามลงโอ่ง เพราะน้ำไม่ไหล) แล้วเปิดน้ำแรงสุดหรือเอาน้ำราดไปเรื่อยๆ น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายแล้วนะ ปล คนเมืองจันทร์นี่เล่น HF เลยเหรอ น่ากัว จากคุณ : :) - [ 23 ส.ค. 48 19:56:12 A:24.226.45.166 X: TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณ #21 ค่ะ ทีแรกตอนที่เรียนมาเห็นอาจารย์บอกให้เติมกรดลงในน้ำ ก็เข้าใจแค่ว่าอาจเป็นเพราะถ้าเติมน้ำลงในกรด  อาจทำให้กรดเข้มข้นสูงกระเด็นขึ้นมาถูกตัวผู้ทดลอง  ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมีด้วย  ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างค่ะ ^^ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 23 ส.ค. 48 21:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ คห.39 นี่ ผมรู้สึกว่าคุณพยายามจะตะแบงโมเมสรุปไปตามความเห็นตัวเองว่าเป็นคำตอบสุดท้ายให้ได้ คุณอ่านตามตำรา อ่านจาก MSDS ก็เชื่อตามไปทื่อๆ กรดที่สัมผัสถูกตาม MSDS มันเล็กน้อย เพราะในนั้นจะให้เราป้องกันก่อน ผิดพลาดก็เล็กน้อย แค่ล้างน้ำตามหรือเปิดฝักบัวราดก็เพียงพอแล้ว แต่นี่โดนกรดสาดนะครับ ปริมาณกรดและบริเวณที่โดนมันมาก จะใช้วิธีธรรมดาไม่ได้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ แต่ทางวิทยาศาสตร์ต้องพิสูจน์ ถ้าอยู่ต่อหน้า ผมจะสาธิตให้ชมเลย ราดน้ำกรดเข้มข้นใส่มือยังน้อยไป ต้องทั้งแขน แล้วผมจะเช็ดด้วยผ้าหรือกระดาษให้แห้ง แล้วค่อยล้างน้ำ ผมรับรองได้ว่าจะไม่มีแผลหรืออาการแดงหรือบาดเจ็บใดๆเลย แต่ถ้าไม่เช็ดก่อน แล้วไปล้างด้วยฝักบัว ก็เชิญคุณคนเดียว ผมไม่เอาด้วยหรอก ถ้าไม่รู้ ไม่เคยลอง อย่าเชื่อตามตำราเกินไป ตำราบอกไม่หมดหรอก เช่นใน MSDS บอกว่าถ้าเข้าตาให้ล้างด้วยน้ำที่มากๆไม่น้อยกว่า 15 นาทีแล้วรีบไปพบแพทย์ ถ้าดื่มเข้าไปให้ดื่มน้ำตามมากๆ ห้ามทำให้อาเจียน ก็บอกแค่นั้น แต่จากประสบการณ์ผม ถ้าเข้าตาบอดทุกราย ดื่มเข้าไป ตายทุกราย ไม่ว่าจะแก้ไขตามMSDS ยังไงก็ตาม ต้องป้องกันก่อน ดีที่สุด แต่ในกรณีนี้ ปัญหามันป้องกันไม่ได้ ก็ต้องคิดหาวิธีที่ดีที่สุดในการผ่อนหนักเป็นเบา ไม่ใช่ตาย อย่างกรณีนี้ และที่ผมพยายามเน้นและชี้ว่า ผู้เคราะห์ร้ายคงต้องใช้วิธีล้างด้วยน้ำแล้วแน่นอน แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ขอร้อง อย่ามาบอกให้ใช้ฝักบัวหรือเปิดน้ำจากก็อกล้าง เป็นวิธีการเดียวที่ดีที่สุด ถ้ามันถูกต้อง คงไม่ตาย จากคุณ : จขกท. - [ 23 ส.ค. 48 21:34:28 A:61.90.10.79 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมจะเชื่อใครดีละเนี่ยครับ ช่วยบอกอันที่ถูกด้วยเถอะครับ จากคุณ : เต้ครับ (MongA67) - [ 23 ส.ค. 48 21:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 43 นั่นสิครับ ขอผู้รู้จริงมายืนยันด่วนเลยครับ ^^' ตอนนี้กำลังงงมากๆ ระหว่าง รีบๆเอาน้ำราดๆไปเรื่อย ๆ จนเจือจาง กับ เช็ดออกให้หมดก่อนถึงเอาไปล้างน้ำ ตกลงยังไงกันแน่ครับ  อยากรู้ ๆๆๆ จากคุณ : หนึ่งกระบี่ แปรสามแจ้ง - [ 23 ส.ค. 48 21:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ผมลองมาหมดแล้วว่าถ้าสัมผัสถูกจะเป็นยังไง กรดกำมะถันเข้มข้น กรดเกลือเข้มข้น กรดไนตริก กรดฟอสฟอริก และแม้แต่กรดกัดแก้วเข้มข้น (HF) ผมไม่เคยเชื่ออะไร ถ้าไม่ลองเอง หรือเห็นผลที่เกิดต่อตาตนเอง Fuming Sulfuric acid ก็เคยเล่น ถ้าใครเคยเห็นการทำงานของมันก็จะรู้ว่า ผมไม่โง่ไปลองสัมผัสแน่นอน เทไปบนพื้นไม้ ไม้จะฟูขึ้นมาเป็นรูปดอกเห็ดสีดำสนิท สวยงามมาก และกรดกัดแก้วเข้มข้น ผมก็ทดลองโดย ใช้ปลายไม้จิ้มฟันจุ่มกรดให้ติดปลายไม้มานิดเดียว แล้วใช้วิธีสะบัดลงบนท้องแขน เพราะมันน้อยมากจนหยดไม่ได้ ผลก็คือ เจ็บแปลบเหมือนโดนเข็มตำทันที แม้จะรีบล้างน้ำทันทีก็ช่วยไม่ได้ ต่อมาก็มีอาการพองเหมือนโดนน้ำร้อนลวก นี่แค่โดนไม่ถึงหยด จากคุณ : จขกท. - [ 23 ส.ค. 48 21:53:12 A:61.90.10.79 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เป็นกระทู้ที่น่าติดตามครับ จากคุณ : ปออุ๊ก - [ 23 ส.ค. 48 22:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ที่รู้มาก็ตรงกับ จขกท ครับ เคยอยู่ในกิจการที่ใช้กรดกำมะถันค่อนข้างมาก เจ้าของโรงงานน้ำกรดบอกมาอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่ามาครับ ลองถามโรงงานน้ำกรดดูซิครับ อ้อมันแปลกอีกอย่าง กรดกำมะถันเข้มข้นไม่กัดเหล็กครับ เก็บในถังเหล็กสบาย แต่ถ้าเจอจาง..ไม่ได้ครับ จากคุณ : เห็นใจ จขกท - [ 23 ส.ค. 48 23:10:13 A:203.113.81.164 X: TicketID:097560 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เจ้าของโรงงานยังบอกอีกว่า ถ้าอากาศเย็นไม่มีเหงื่อ เทใส่ฝ่ามือสบาย แล้วซับออก จากคุณ : เห็นใจ..... - [ 23 ส.ค. 48 23:13:02 A:203.113.81.164 X: TicketID:097560 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สงสัยครับ ถ้าเราเอาสารที่เป็นเบสมาล้าง  มันจะดีกว่าใช้น้ำเย็นรึเปล่าครับ จากคุณ : คนหัวฟู - [ 23 ส.ค. 48 23:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 49 จำได้แค่ว่า ถ้าโดนกรดสาดให้รีบกระโดดลงคลอง จากคุณ : TheShadow - [ 23 ส.ค. 48 23:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เอา แหม แค่พยายามสรุป ก็ว่าด้วย งั้นรอคุณโลหการ เอา คากิไปทดลอง แล้วเอารูปลงให้ดูก็แล้วกัน จะให้ จขกท เอารูปมาลง ก็ไม่มีอมยิ้มเหมือนกันซะด้วย หรือใครกำลังอยู่ในแลป ก็ช่วยสงเคราะห์ด้วยก็แล้วกัน อ้อ แล้วคากิมันจะเห็นผลชัดไหมนี่ เลือดก็ไม่มี แถมแช่เย็นแล้วอีกต่างหาก แต่ใครอย่าไปเอาสัตว์ทดลองมาทำเชียว สงสารมัน ปล สรุปว่า จขกท ยืนยันว่าวิธีเช็ดใช้ได้กับทุกกรดใช่ไหม แล้วรวมกรดกัดแก้วด้วยหรือเปล่า เห็นบอกแต่ว่าใช้น้ำช่วยอะไรไม่ได้ แต่ความคิดเห็นส่วนตัว น้ำนะช่วยพากรดออกไปอยู่แล้ว แต่เนื่องจากคุณใช้ในปริมาณน้อยมาก กรดมันอาจทำปฏิกริยาไปหมดแล้วก็ได้ ส่วนที่พองเพราะกรดมันทำลายเนื้อเยื่อตั้งแต่ถูกกับผิวหนังแล้ว ปล สอง ถ้าไม่รวมกรดกัดแก้ว แล้วถามหน่อยเถอะ จะให้ทำยังไง ถ้าไม่ใช้น้ำน่ะ แล้วตกลงคุณเคยลองกรดกัดแก้ว แล้วใช้เช็ดเอาไหม ปล สาม ถ้าวิธีการมันใช้ไม่ได้กับทุกกรด การที่บอกว่า คนเอามาสาด ไม่เคยบอกว่าใช้กรดอะไร แล้วการใช้วิธีการกลางๆที่ปลอดภัยแน่ๆน่ะ มันผิดตรงไหน จากคุณ : :) - [ 23 ส.ค. 48 23:40:58 A:24.226.45.166 X: TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าเติมน้ำลงในกรดเข้มข้นจะทำให้เกิดระเบิดขึ้นน่ะค่ะ  ตอนทำแล็บอาจารย์บอก  ให้เติมกรดลงน้ำเท่านั้น จากคุณ : หมูหนาว - [ 23 ส.ค. 48 23:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ในที่เกิดเหตุ พบขวดเนสกาแฟ ฝาเหลือง 2 ขวด ใช้บรรจุน้ำกรด กระเป๋าสะพายสีชมพู และเสื้อแจ็คเกต 1 ตัว โดยของที่ตกในที่เกิดเหตุถูกน้ำกรดกัดเสียหาย             ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ น.ส.เมธินี ศรวิจิตรรัตน์ อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัตรเครดิตร ธนาคารกสิกรไทย สาขาพหลโยธิน อยู่บ้านเลขที่ 948/2 ถนนริมคลองชักพระ แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม. ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าซีกซ้ายทั้งแถบ ตั้งแต่ศีรษะลงมา จนผมหลุดร่วง และน้ำกรดยังกระเด็นเข้าตาขวาด้วย ผู้ประสบเหตุช่วยกันนำส่งรงพยาบาลพญาไท 2 และแพทย์ส่งตัวต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเปาโลในทันที ขณะเดียวกัน ตำรวจต้องรีบนำตัวนายภูมิพัฒน์ ส่งไปรักษาบาดแผลที่ถุกน้ำกรดกระเด็นใส่ยังโรงพยาบาลตำรวจ แพทย์ทำแผบบริเวณแขนทั้ง 2 ข้าง และบริเวณใบหน้า 3 จุดที่ถูกน้ำกรดกระเด็นใส่ โดยนายภูมิพัฒน์ เปิดเผยว่า ได้คบหากับ น.ส.เมธินี มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยพบกันครั้งแรกที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ผ่านมาได้ทุ่มเทให้ตลอดจนหมดเงินไปร่วมล้านบาท แต่ น.ส.เมธินีกลับทิ้งไปมีแฟนใหม่ ทำให้เกิดความแค้นจึงใช้น้ำยาฆ่ายางผสมน้ำใส่ขวดสาด น.ส.เมธินี เพื่อหวังทำร้ายร่างกาย ไม่ได้มีเจตนาทำให้เสียชีวิต http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9480000084280 ----------------------------------------------------- เอาข้อมูลจากข่าวมาให้เผื่อจะวิเคราะห์กันได้ดีขึ้น ----------------------------------------------------- ปล. ส่วน HF บางคนมักง่ายเปิดฝามือเปล่าๆไม่ได้ระวัง เจอแค่ควันมันเต็มๆ ก็ได้ล้างแผลไปหลายอาทิตย์แล้ว แต่กรดแบตเตอรี่เห็นบางคนเอามือไปกวนตรงๆ ก็ไม่เป็นไร สงสัยไม่เข้มข้น จากคุณ : Dr.slump - [ 24 ส.ค. 48 00:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 53 น้ำยาฆ่ายางผสมน้ำใส่ขวดสาด  <-------- ผมยังไม่เข้าใจคำนี้เท่าไหร่ จากคุณ : Dr.slump - [ 24 ส.ค. 48 00:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ใช่ครับ เราควรจะเชื่อผู้มีประสบการณ์สูงอย่างเจ้าของกระทู้ครับ ไอ้ตำรา MSDS (material safety data sheets) ที่พวกฝรั่งมันทำมาน่ะ กระจอกครับ อย่างไปเชื่อ พวกที่เขียนตำรานี้มันพวกอ่อนหัดครับ ใครจะไปรู้บางทีมันอาจจะเอา เด็ก ม.4 มาเขียนก็ได้ ฉะนั้นควรจะฟังคนที่เรารู้ตัวตนจริงๆ เก่งชัวร์ๆ อย่างเจ้าของกระทู้ครับ โง่ๆ อย่างผมก็พูดได้แค่นี้แหล่ะครับ ผมเรียนมาน้อยครับ อย่าถือสา ^ ^ จากคุณ : MaSaChi - [ 24 ส.ค. 48 00:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เอาเบสมาล้างก็ได้เกลือดิ จากคุณ : Elrond - [ 24 ส.ค. 48 00:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 น้ำกรดกัด โดยเฉพาะกรดกำมะถัน  ยังไงก็เช็ดไม่ได้ครับ  ผิวมันลอกแล้วลอกเลย  บอกไว้แต่ต้นแล้วว่า  ยิ่งเกายิ่งออกครับ ไม่ต้องดูอะไร โดนเสื้อก็ยุ่ยแล้ว ไอ้ที่บอกว่าให้เช็ดนี่เป็นไปไม่ได้     ข้างบนมีบอกว่า เก็บใส่ถังเหล็กได้ ก็ไม่จริง  ถังเหล็ก ต้องเป็นแบบเคลือบเท่านั้น ถึงจะกันได้ครับ        ที่บ้านทำอุตสาหกรรมเครื่องประดับ  ต้องใช้กรดพวกนี้จำนวนมาก  เวลากัดที ต้องออกต่างจังหวัดไปกัด เพราะอะไร  แค่ต้ม ควันไปโดนต้นมะพร้าวก็ตายหมดแล้ว...      ที่เจ้าของกระทู้บอกว่าให้เช็ดก่อน   ผมไม่อยากเถียงนะครับ  แต่จากประสบการณ์ ที่บ้าน เอากรดกำมะถันเข้มข้น ฉีดโจรที่ขึ้นบ้าน  เสื้อผ้าโดนกัดยุ่ย แล้วเค้าเกาจนเนื้อถลอกออกหมด ....        ถ้าเป็นไปได้ วิธีแก้ที่ดีจริงๆ คือใช้น้ำแหละครับ  อย่าไปเช็ด เช็ดยังไง สารพิษก็ยังคงอยู่ .... จากคุณ : gmat032 - [ 24 ส.ค. 48 00:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ง่า เท่าที่คิด ควรใช้น้ำเยอะ ๆ ๆ ๆ ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ กระโดดลงคลองได้ยิ่งดี แต่ถ้ามีน้ำเพียงนิดหน่อย ก้อไม่ควร เพราะว่า กรดซัลฟิวริก จะ ละลายน้ำแล้วเกิดความร้อนสูงมาก ถ้าเป็นเช่นนี้ ก้อควรหาแหล่งน้ำเยอะ ๆ ใช่ปะ แต่ถ้าเช็ดออก เนื้อมันจะไม่ติดออกมาเป็นก้อน ๆ หรอคับ เจรง ๆ ผมว่าเราควรเชื่อ msds นะ ตัดเสื้อผ้าออกให้เร็วที่สุด ล้างด้วยน้ำจำนวนมาก เป็นเวลาสิบห้านาที มันก้อเจือจางไปเรื่อย ๆ ดิ ความร้อนที่เกิดจากกรดละลายน้ำก้อจะไปตามน้ำด้วย จากคุณ : ชิโฮจัง - [ 24 ส.ค. 48 00:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ตอบคุณ หมูหนาว เสียหน่อย อ่านมา (ไม่ได้เรียนมา) จริงๆก็ยังงงอยู่ ใครเรียนมาสายตรงอธิบายต่อด้วยละกัน กรดจะทำลายผิวหนังได้โดยตรงอยู่แล้วโดยการทำลายคุณสมบัติของโปรตีนของผิวหนัง กรด sulfuric จะทำ dehydration type reaction ดึงเอา H and O ของ proteins ออกมาแล้วเหลือ carbon ไว้ กรด Nitric จะทำปฏิกริยากับ protein ทำให้เกิด xanthoproteic acid ทำให้แผลจะมีสีเหลืองๆ กรดอื่นๆก็มีกลไก แตกต่างกันไป แต่สุดท้ายคือ ทำลายโปรตีนที่ผิวหนังหรือดวงตาเหมือนกันหมด ทีนี้การจะทำลายได้แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของกรด และเวลาที่สัมผัส ซึ่งแต่ละตัวก็ไม่เหมือนกันอีก จริงอยู่ว่าการเอาน้ำใส่กรดมันทำให้เกิดความร้อน แต่ถ้าน้ำมากจริงๆ และไหลผ่านออกไปด้วย นี่ ถ้าเทียบโอกาสของความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดแผลไหม้ กับการเสี่ยงสัมผัสกับกรดที่ไม่รู้ทั้งชนิดและความเข้มข้น เลือกอันแรก น่าจะปลอดภัยกว่า อย่างน้อยน้ำที่ไหลผ่านก็พาทั้งความร้อนและกรดออกไปด้วยกัน (HF แค่ 20% ก็ไม่รอดแล้ว โดนปุ๊บไหม้ปั๊บ อยู่นานก็สยอง ไม่ต้องเอากรดบริสุทธิ์หรอก) ถ้า จขกท จะอธิบาย กลไก ที่ทำให้ กรดไม่ทำลายผิวหนัง ในวิธีคุณใช้ ก็จะเป็นพระคุณ เอาให้ครบทุกกรดเลยนะ จะได้สรุปได้สักที ว่าวิธีไหนปลอดภัยที่สุด ปล ยาฆ่าน้ำยางมันกรดอะไรคะ จากคุณ : :) - [ 24 ส.ค. 48 01:01:23 A:unknown X:130.15.126.81 TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เราเคยเห็นในละครไทยเรื่องนึง นางเอกโดนานงร้ายสาดน้ำกรด ในวันที่ฝนตกด้วยล่ะ แล้วนางเอกก็ตกใจกระโดดลงสระน้ำ นางเอกไม่เป็นไรเลย หมอบอกว่าเพราะว่ามีน้ำมาชะล้างมาก (ว่าแต่ ทำไมมันกระโดดลงสระน้ำที่มีคลอรีนผสมอยู่ได้ง่ะ) แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในละครไทยเนอะ เราก็อยากรู้ว่าจริงๆต้องทำไงเหมือนกันอ่ะ พอดีแฟนทำสวนยาง กลัวเจอกรดกัดยาง  อิอิ ป.ล. รึว่าเราจะส่งเรื่องนี้ไปให้รายการถึงลูกถึงคนดี จากคุณ : sugarspy - [ 24 ส.ค. 48 01:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอโทษคุณ คห.50 ถ้าเข้าใจว่าผมตำหนิ การถกเถียงทางวิชาการต่อให้เหตุผลที่นำมาเถียงจะงี่เง่าโง่เง่าแค่ไหน ก็ไม่ควรถูกตำหนิ ไม่อย่างนั้นก็ต่างคนต่างอยู่ต่างเชื่อต่างรู้ อย่ามาถกกันเลย ไม่นึกว่าเรื่องที่โพสต์แค่นี้ จะต้องมาถกกันยาวขนาดนี้ สงสัยผมต้องไปค้นข้อมูลอ้างอิงมาทำเป็นรายงาน อย่างเป็นงานเป็นการซะแล้ว จากคุณ : จขกท. - [ 24 ส.ค. 48 07:47:39 A:61.90.14.136 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอตอบเท่าที่รู้ที่มีถามแทรกมาในกระทู้นี้ ยาฆ่ายางก็คือ กรดกำมะถันเข้มข้น ที่บอกว่าเอาน้ำกรดไปฉีดโจร แล้วยิ่งเกาหนังยิ่งลอก ก็แสดงว่ากรดที่สัมผัสถูก ได้ทำปฏิกริยากับเหงื่อและความชื้นแล้ว ต้องรีบล้างด้วยน้ำมากๆโดยด่วน ไมใช่เอาแต่เกา ยืนยันตามคุณ คห.46 กรดกำมะถันเข้มข้นเก็บในถังเหล็กธรรมดาได้ แต่ถ้ากรดเจือจางกลับต้องเก็บในถังเคลือบ กรดอื่นๆรวมทั้งกรดกำมะถันเข้มข้นต่ำกว่า 90 % เมื่อสัมผัสถูกก็ล้างด้วยน้ำมากๆ หรือไม่แน่ใจจะเช็ดก่อนก็ไม่เสียหายอะไร แต่กรดกัดแก้ว ไม่ว่าจะเช็ดจะล้างก็ไม่ทันทั้งนั้น ถ้ามีสระน้ำอยู่ใกล้ๆ โดดลงน้ำดีที่สุดอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาเช็ดหรอก แสดงว่าคุณที่ถาม ที่อ่านมาตั้งแต่ต้นยังจับใจความได้ไม่หมด จากคุณ : จขกท. - [ 24 ส.ค. 48 08:05:14 A:61.90.14.136 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอเพิ่มอีกนิดเรื่องโจรถูกน้ำกรด ถ้าแถวนั้นหาน้ำไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีเช็ดออกอย่างเดียว ใช้ดินใช้ทรายซับกรดออกให้มากที่สุดเร็วที่สุด ถ้าเร็วพอ ถึงไม่มีน้ำล้างเลยก็คงแค่ระคายเคืองเป็นผื่นแดง หรือปวดแสบบ้าง และอย่างร้ายแรงที่สุดก็แค่แผลพองตื้นๆ ไม่ตายแน่นอน จากคุณ : จขกท. - [ 24 ส.ค. 48 08:19:56 A:61.90.14.136 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เรื่องตายนะไม่ตายแน่นอนครับ  นอกจากไปติดเชื้อแล้วตาย....       สิ่งที่เจ้าของกระทู้บอก พูดจริงๆ เป็นได้เพียงทฤษฏีเท่านั้นครับ  ผลอาจได้จริง  แต่ไม่มีใครเอามาปฏิบัติเท่าไหร่หรอกครับ         คนทำงานกับกรด เค้าไม่กลัวกันก็จริง แต่เห็นหลายๆ คนโดนกัน  ไม่มีใครใจเย็นมานั่งเช็ด แบบเจ้าของกระทู้หรอกครับ  วิ่งหาน้ำกันทั้งนั้น         ของบางอย่าง มันอยู่ที่ความรู้สึกด้วย ... จากคุณ : gmat032 - [ 24 ส.ค. 48 09:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อ่านดูก็รู้ว่า ... คุณจขกท.โพสต์ด้วยความรู้และประสบการณ์ โดยเฉพาะ ประสบการณ์ที่ผ่านการทดลองปฏิบัติด้วยตนเองจริง แต่คนที่มาตอบค้าน ค้านด้วยความเชื่อตามตำราทั้งนั้น ยังไม่เห็นท่านไหนจะบอกว่า ตนเองได้พิสูจน์แล้วด้วยการเอาวิธีทดลองของคุณจขกท.มาทำการพิสูจน์ และผลการทดลองก็พบว่าคุณจขกท.มั่ว มีแต่อ้างอิงข้างๆเคียงๆไปถึงกรณีกรดอื่น คุณสมบัติอื่น วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอื่นๆ เพราะงั้น ... หลายท่านเป็นนักวิทยาศาตร์ในตำราครับ น่าจะเรียก "นักวิทยาศาสตร์แห่ง MSDS" ก็แล้วกันนะครับ อิ๊อิ๊ ยิ่งบางคนที่ฟันธงไปแล้วว่าคุณจขกท.มั่ว นั่นแหละ สักวันจะถูกโจรย้อนศร ล้างแค้นด้วยการเอาหนังสติ๊กยิงกรดเดียวกันใส่ มาทายกันดูว่า ... แล้วคุณคนนั้นจะแก้ไขสถานการณ์ให้ตัวเองอย่างที่ตนเองเข้าใจมาตลอด หรือจะเอาวิธีคุณจขกท.มาใช้ เอิ๊ก เอิ๊ก กกก จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ส.ค. 48 09:54:11 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ที่ผิวหนังมีต่อมเหงื่อ หลั่งเหงื่อและสารต่างๆออกมาตลอดแต่มากน้อยต่างกันไปแล้วแต่บุคคลและสถานการณ์รอบข้าง(อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ {สะกดถูกไหมนี่} ฯลฯ) ที่เข้าตาแล้วตาบอดเพราะในตามีน้ำเป็นตัวหล่อลื่นมากและตลอดเวลา ไม่มีหลักการตายตัวหรอกครับ วิทยาศาสตร์และชีวิต มันมีทางหนีทางไปของมันตลอดล่ะครับ ถ้าคนสาดเขาสาดหน้าคนที่อยู่กลางแดดร้อนๆเหงื่ออกมากๆ แล้วเป็นยังไงครับ............... เช่นกันถ้าคนสาดสาดใส่คนที่เป็นโรคชนิดหนึ่งซึ่งในชั้นผิวหนังไม่มีต่อมเหงื่อเลย(เช่นตลกที่หน้างองอที่ไม่มีฟันไม่มีผมน่ะครับ)นั่นก็อีกเรื่อง ไปล่ะ จากคุณ : A Life In The Dark - [ 24 ส.ค. 48 09:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 66 #55 เอาเบสมาล้างไม่ได้แค่เกลือครับ แต่จะโดนกัดหนักกว่าเก่าด้วย เพราะเบสที่เข้มข้นพอก็ออกฤทธิ์กัดเนื้อเยี่อเช่นกัน จากคุณ : Autster - [ 24 ส.ค. 48 10:02:12 ]

ความคิดเห็นที่ 67 มารอฟังคำตอบสุดท้ายครับ โหวตกระทู้ให้ด้วย จากคุณ : ร่มรำไร - [ 24 ส.ค. 48 10:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ  แมวม่อนก็พูดถูกครับ ส่วนผมยังด้อยประสบการณ์  ขอฟังไว้ก่อนละกัน จากคุณ : logarithm - [ 24 ส.ค. 48 10:24:43 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ยังสรุปไม่ได้ใช่มั๊ยครับ จากคุณ : [Zero] - [ 24 ส.ค. 48 11:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ี่ผมจะเชื่อใครล่ะเนี่ย อ่านมาถึงตรงนี้เริ่มเชื่อ จขกท. มากกว่านิดๆแล้วอะ แล้วนี่ คนดังๆหว้ากอหายไปไหนหมดเนี่ย จากคุณ : A.R.T. - [ 24 ส.ค. 48 11:13:01 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้าเอากรดกัดแก้ว 1 ถัง(ทำจากอะไรก็ได้ที่ใส่ได้)  แล้วใส่หนูทดลองไป 1 ตัวนี่ หนูมันจะหายไปเลยหรือเปล่าครับ หรือว่าเหลือแต่กระดูก จากคุณ : Dont Be Sadism (Dont Be Serious) - [ 24 ส.ค. 48 11:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เวลาทดลองเอาน้ำกรดราดตัว    ทดลองทั้ง 2 แบบหรือเปล่า  คือ 1.  ใช้กรดเข้มข้นเท่าเดิม   เช็ดด้วยผ้าแห้ง 2.  ใช้กรดเข้มข้นเท่าเดิม   ล้างด้วยน้ำมากๆๆๆๆๆๆๆๆ  กระโดดลงสระน้ำ  แช่ลงไปในโอ่งทั้งใบก็แล้วแต่ แล้วอย่างไหนดีกว่ากัน ถ้าเช็ดด้วยผ้าแห้งดีกว่า   แม้จะกระโดดลงสระแล้วก็ตาม แล้วค่อยมาสรุปอีกที แต่ถ้าเช็ดด้วยผ้าได้ผล   แต่ไม่เคยทดลองกับน้ำมากๆๆๆๆๆๆๆ  แล้วจะมาฟันธงว่าเช็ดดีกว่าล้างไม่ได้นะคะ จากคุณ : ไจโรสโคป - [ 24 ส.ค. 48 11:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 73 รู้อย่างหนึ่งว่า ถ้ามีน้ำเยอะๆ นี่โอเคแล้วใช่มั้ยครับ ? แล้วใช้สายยางฉีดน้ำให้ใหลผ่านตลอดล่ะครับ พอจะกล้อมแกล้มได้มั้ย ? จากคุณ : Blue_Wind - [ 24 ส.ค. 48 11:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมไม่เห็นด้วยกัย จขกท.หง่ะ แยกสถานการณ์กันหน่อย ในสถานการณ์แบบในข่าว เวลาโดนกรดสาด ตำแหน่งที่จะมีปัญหามากที่สุดก็จะเป็นดวงตา และผม มัวแต่มานั่งซับผม พอดีหลุดหมดหัวกัน ยิ่งซับยิ่งกระจาย ถ้าคุณโดนกิ๊กสาดด้วยน้ำกรด จงวิ่งเข้าร้านที่น่าจะมีสายยาง เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร แล้วขอเปิดน้ำมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆล้างบริเวณที่โดนน้ำกรด ล้างจากผม หน้า คอ ลงไปเรื่อยๆ ถอดเสื้อผ้าได้ก็ถอด ระหว่างหาน้ำเยอะๆ กับหาอะไรมาซับ น่าจะหาน้ำได้เร็วกว่านะ แต่ถ้าหาน้ำไม่ได้ ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย นอกจากเหตุเกิดในสถานประกอบการ อันนั้นมันคนละเรื่องแล้ว สถานประกอบการที่ต้องใช้กรดเป็นประจำ ก็จะต้องรู้วิธีจัดการกับกรด เตรียม Emergency station ไว้ละกัน จะใช้น้ำล้าง หรือจะใช้ผ้าอนามัยซับ แล้วค่อยไปล้างก็แล้วแต่รสนิยมหง่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 12:21:56 จากคุณ : alan the lamb - [ 24 ส.ค. 48 12:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 75 กระทู้นี้ควรจบลงด้วยหลัก และ ผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ด้วยการปฏิบัติ นะครับ ถ้าใช้ความเชื่อ ... มันก็จะเป็นความเชื่ออยู่น่านแพร่พะเยา คนอ่านๆแล้วเวลาไปเจอสถานการณ์จริงจะได้ช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างถูกต้อง อยากให้มีนักวิทย์เจ๋งๆในนี้ (ที่คุณ A.R.T. ถามหาว่า คนดังหายไปไหน น่ะ) มาทำการทดลองครั้งนี้ เพื่อได้ข้อยุติที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ประเภทคนดัง Top 10 ในหว้ากอ ถึงโอกาสภาคสนามของคุณๆแล้วนะครับ ... อิ๊ เอ่ะ เอ่ะ จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ส.ค. 48 12:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 76 อ่ะห่ะ เข้ามาอ่าน คนไม่ได้เรียนวิทย์แบบเรา เชื่อเจ้าของกาทู้อ่ะ เพราะเราเชื่อปฏิบัติ มากกว่าทฤษฎี จากคุณ : แมวเหมียวพุงกาง - [ 24 ส.ค. 48 14:06:40 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อืมค่ะ ก็เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นะคะ เทน้ำใส่กรด หมดสวยจ้า จากคุณ : ทอฝัน...ในวันเหงา - [ 24 ส.ค. 48 14:31:00 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขอแนะนำให้เอาแมวในห้องนี้มาทดลอง... จากคุณ : gmat032 - [ 24 ส.ค. 48 15:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ดิฉันก็ว่า ถ้าซับเนี่ยมันจะเกี่ยวกับเวลาด้วยนาเพราะอากาศเราก้มีความชื้นผิวหนังเราก้มีเหงื่อออกมาตลอดเวลากว่าจะซับเสร็จ จะแย่ซะก่อน ดังนั้นถ้าดิฉันโดนก็คงเปิดน้ำแรงๆ ราดท่วมตัว แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 48 09:58:42 จากคุณ : สมควร - [ 24 ส.ค. 48 15:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ^ ^ ^ 555 ... คุณ gmat032 รู้นะ คิดไรอยู๊ ... เอิ๊ก เอิ๊ก กกก ว่าแต่คุณเถอะ ... ถ้าโจรเอา HHSOOOO มายิงหนังสติ๊กใส่ คุณเลือกจะปฐมพยาบาลตนเองเบื้องต้นอย่างไร ... อิ๊อิ๊ จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ส.ค. 48 15:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 81 นี่เป็นส่วนหนึ่ง ของลักษณะทางกายภาพ และวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นของหลายๆ สำนัก   ซึ่งบางแห่ง  ไม่ทราบว่าแค่นี้ จะ  "น่าเชื่อถือได้ " ในความเห็นของเจ้าของกระทู้หรือปล่าว     http://www.chemtrack.org/MSDSSG/Trf/msdst/msdst7664-93-9.htm http://www.chemtrack.org/MSDSSG/Trf/sgt/sgt7664-93-9.htm http://www.chemtrack.org/MSDSSG/Merck/sgt/1007/100709.htm http://www.chemtrack.org/MSDSSG/Merck/msdst/1007/100709.htm http://ilo.ilobkk.or.th/osh/detail.asp?icsc=0362     จากข้างบน ไม่มีแหล่งใดบอกเลยว่า  ถ้าโดนแล้วต้องเช็ดออก  ถ้าวิธีการเช็ดเป็นวิธีที่ถูกต้องจริงๆ  คงมีการเขียนขึ้นกระดานไปนานแล้ว   อย่าลืมว่า กรดไม่ได้ออกมาแค่ส่วนเป็นของเหลว  มัวเช็ดอยู่ คนโดนต้องสูดดมเข้าไปอีกเท่าไหร่...     ข้อมูล ของศูนย์ข้อมูลพิษวิทยา http://www.md.chula.ac.th/text/forum3/toxic/#7      เค้าย้ำว่า    "อย่าพยายามกระทำในสิ่งที่ไม่รู้จริง เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างรุนแรงโดยมิได้คาดคิด"       แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 17:22:51 จากคุณ : gmat032 - [ 24 ส.ค. 48 17:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ถ้าถามผม ผมตอบเลยว่า ผมเชื่อ paper ของวิชาการ อยู่แล้ว แต่ผมกำลังถามหา "เทคนิคพิเศษ" ที่ไม่ได่บ่งบอกไว้ใน paper น่ะ ยังมีศาสตร์อีกเย๊อะแย๊ะที่ paper ก็ไม่สามารถอธิบายได้และ/หรือ ไม่ว่างจะอธิบาย คิดว่าเจ้าของกระทู้นี้คงต้องการบอกตรงนี้น่ะคุณ gmat032 อ้อ ... เค้าย้ำว่า    "อย่าพยายามกระทำในสิ่งที่ไม่รู้จริง เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างรุนแรงโดยมิได้คาดคิด" ถ้าคิดแบบนี้ ... ก็หยุดทดลองทางวิทยาศาสตร์ไปเลยครับ เพราะไม่ต้องการวิทยการใหม่ ความรู้ใหม่กันแล้ว เอาเท่าที่มีอยู่แล้วมาเป็น reference  การันตีไปเลย ถือว่า คนรุ่นเก่า นักวิทย์ฯรุ่นเดิมเป็น immortal text ไปเลย ดีไหมครับคุณ gmat032 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 17:46:41 จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ส.ค. 48 17:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ผมยังข้องใจอยู่ครับ คิดว่าที่แน่ๆนี่ น้ำเยอะๆได้ผลแน่นอน แต่ในกรณีที่หาน้ำจำนวนมากไม่ได้ในทันที นี่ การใช้ผ้า "ซับ" ย้ำว่า "ซับ" นะครับ ไม่ใช่ "เช็ด" แก้ปัญหาเฉพาะหน้าระหว่างที่หาน้ำได้มั้ย ? การ ซับ เอากรดออกไปนั้นจะทำให้เกิดผลรุนแรงขึ้นหรือเปล่า โดยส่วนตัวของผมเองแล้ว ผมเชื่อคนที่ผ่านประสบการณ์จริงกับตัวเองมาแล้วมากกว่าตัวหนังสือที่ปรากฏอยู่บนกระดาษ แต่ผมเองมักจะนำทั้งสองอย่างมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติมากกว่าที่จะยึดติดกับอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป ถ้าผมเจอกับเหตุการณ์แบบนี้จริงๆแล้วผมจะ ถ้าหาน้ำไม่ได้ในทันที เอาผ้ามา "ซับ" เอากรดออกไปก่อนในขณะที่หาน้ำอยู่ เมื่อได้น้ำแล้ว จึงใช้น้ำนั้นล้างเอากรดออกไปอีกที น่าจะโอเคนะ จากคุณ : Blue_Wind - [ 24 ส.ค. 48 17:41:30 ]

ความคิดเห็นที่ 84 "ถ้าโดนแล้วต้องเช็ดออก  ถ้าวิธีการเช็ดเป็นวิธีที่ถูกต้องจริงๆ  คงมีการเขียนขึ้นกระดานไปนานแล้ว" เจ้าของกระทู้ ไม่ได้เถียงเรื่องการใช้น้ำนะครับ แต่พูดถึงในกรณีหาน้ำจำนวนมากไม่ได้ ถ้าดูใน link ที่คุณ gmat032  ยกมา จะมีให้ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนสารเคมีด้วย ฉะนั้นที่เจ้าของกระทู้กล่าวว่า ถ้าไม่มีน้ำ ให้หาผ้าซับหรือเช็คออกไปก่อน ก็น่าจะมีส่วนช่วยนะครับ อย่างสมมุติผมอยู่ห่างแหล่งน้ำซัก 200 เมตร แต่ดันไปทะลึ่งเล่นน้ำกรด เลยโดนกับตัว ถ้าต้องวิ่งไปหาน้ำก่อน ก็คงลำบากครับ แต่ถ้ามีผ้า ที่จะใช้เช็คกรดบ้างส่วนออกไปก่อนก็ น่าจะดีกว่าใช่ไหมครับ แต่ในข้อเท็จจริงบ้างส่วนที่เจ้าของกระทู้กล่าวเช่น กรดกำมะถันเข้มข้น ถูกผิวแล้วไม่เป็นอะไรหรือ ใส่เหล็กแล้วไม่กัด อันนี้รอผู้รู้ยืนยันหรือทำการทดสอบครับ จากคุณ : MAX - [ 24 ส.ค. 48 17:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ... เท่าที่ผมอ่านของ จขกท. ได้ใจความว่าถึงแม้จะมีน้ำจำนวนมากอยู่ ก็ให้ซับเอากรดออกไปให้มากที่สุดก่อนที่กรดนั้นจะทำปฏิกิริยากับน้ำ พอเริ่มรู้สึกร้อนมาก อันนี้ก็แปลได้ว่ากรดเริ่มทำปฏิกิริยากับน้ำแล้ว จึงค่อยใช้น้ำจำนวนมากล้างออก อันนี้แปลจากที่จขกท.ว่ามานะ ประเด็นคือ จขกท. เสนอวิธีนี้มาจากประสบการณ์ พบบ่อย เคยสัมผัส แต่ของคุณ gmat032 อ้างอิงถึง paper ที่เผยแพร่จากแหล่งที่เชื่อถือได้ ทีนี้ประเด็นเลยอยู่ที่ว่าจะเชื่อ จขกท. ดีหรือไม่ จากคุณ : ID73078 - [ 24 ส.ค. 48 18:36:01 A:203.208.250.164 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คห. 82 ของคุณแมวม่อน...     มันคนละส่วนกันเลย  ระหว่างการพัฒนาทางวิทย์ กับ เรื่องนี้  เค้าพูดถึงหลักการปฐมพยาบาล ว่า ถ้าไม่รู้จริง อย่าทำอะไรไปโดยพละการ  เหมือนกับคนกระดูกหัก  เค้าก็ไม่ให้ปฐมพยาบาลซี้ซั้ว     เอามาเปรียบกันได้งัย จากคุณ : gmat032 - [ 24 ส.ค. 48 18:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เอ่ออ ผมคิดว่าถ้าจะใช้น้ำ ต้องใช้น้ำเย็น ปริมาณมาก ย้ำนะครับว่ามากๆ ล้างแบบไหลผ่านด้วย เพราะว่าถ้าใช้น้ำนิดเดียว กรดจะแตกตัว หลังจากน้นมันจะร้อนครับ แล้วมันจะพองตัวด้วย ต้องระวังให้ดี จากคุณ : Izawath - [ 24 ส.ค. 48 18:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ผมก็เชื่อ จขกท ครับ เพราะผมเป็นมนุษย์ที่ชอบทดลองเป็นชีวิตจิตใจเหมือนกัน แต่ถ้าให้ดีน่าจะมีหลักฐานจำพวกภาพถ่ายอะไรประมาณนั้นด้วยก็จะเข้มข้น และน่าติดตามกว่านี้อีกนะครับ อีกเหตุผลที่ยังคาใจอยู่ก็คือ จขกท. ใช้บัตรผ่านอะ ทำไมไม่ใช้ member ล่ะครับ ดูน่าเชื่อถือกว่าตั้งเยอะ จากคุณ : false - [ 24 ส.ค. 48 18:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ gmat032  คงคุยสื่อคนละภาษากันแง๋ เค้าย้ำว่า    "อย่าพยายามกระทำในสิ่งที่ไม่รู้จริง เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างรุนแรงโดยมิได้คาดคิด" ผมอ่านดู ก็ตีความได้ว่า ... ความคิดของคุณ gmat ตรงข้ามกับแนวคิดของจขกท.เลย เพราะจขกท.อ่านตำรา แล้วนำมาทดลองหาวิธีเทคนิคพิเศษ ที่สอดคล้องกัน ผมก็ต้องยืนยันตอบว่า ถ้าคุร gmat คิดงี้จริง ... "งั้นเราไม่ต้องดิ้นรนหาทางทดลองเอาวิธีการใหม่มาใช้แล้ว เราไปลอกและเดินตามตำราซะ ก็เท่านั้น" จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ส.ค. 48 18:59:47 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ตามทฤษฎีแล้วกรดกำมะถันเข้มข้นที่สูงที่สุดคือ 98% ตัวนี้จะไม่ทำปฏิกิริยาใดๆเมื่อสัมผัส เพราะในความเข้มข้นขนาดนี้กรดกำมะถันจะไม่ใช่กรดแก่และไม่แตกตัวให้โปรตรอนครับ อย่างที่เจ้าของกระทู้ว่าไว้ตรงส่วนนี้น่ะถูกแล้ว จากคุณ : muon - [ 24 ส.ค. 48 19:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 91 นักเคมีรุ่นเก่า เคยเล่าให้ฟังว่า กลไกการทำลายที่ร้ายแรงที่สุดของกรดกำมะถันเข้มข้น คือ การดูดน้ำ ความต้องการดูดน้ำของกรดกำมะถันเข้มข้นนั้นรุนแรงมาก สามารถดึดเอาไฮโดรเจน+ออกซิเจน จากโมเลกุลอื่นออก เพื่อไปฟอร์มเป็นน้ำได้เอง เช่น กรณีหยดใส่ น้ำตาลทราย หรือเซลลูโลส(ไม้) แม้จะแห้ง ก็ยังถูกกัดอย่างแรง และทิ้งคาร์บอนที่เหลือไว้ให้เห็นเป็นถ่านดำๆ ซึ่งไม่ใช่เกิดจากการเผาไหม้ แต่เป็นธาตุคาร์บอนที่เหลือหลังจากถูกดูด H + O กรดเข้มข้น จึงสามารถทำลายสารอินทรีย์ ที่มีไฮโดรเจนและออกซิเจนสูงๆ เช่นน้ำตาลและไม้ ทั้งๆที่แห้ง ได้ดี แต่กรดน่าจะมีอันตรายต่อสารอินทรีย์ที่มีออกซิเจนต่ำ น้อยกว่า การเช็ดกรดด้วยผ้าฝ้าย จะช่วยได้มาก เพราะกรดกัดผ้าฝ้ายได้ดีกว่าเนื้อคนอย่างแน่นอน ในกรณีของกรดเข้มข้นถูกผิวหนัง ผมคิดว่า ไขมันที่มีอยู่บนผิวหนัง อาจมีผลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่ละคนมีไขมันที่ผิวหนังไม่เท่ากัน และแต่ละส่วนของร่างกายก็มีไขมันต่างกัน ดังนั้นประสบการณ์ของแต่ละคน อาจจะไม่เหมือนกัน เพราะอิทธิพลของไขมัน บางคนอ้างว่า ถ้ากรดเข้มข้นมากๆ โดนมือจะไม่เป็นไร ให้ซับออกได้ อาจจะเพราะเคยโดน หรือเคยลอง กับมือที่มีมันมาก ถ้าคนอื่นโดนแบบเดียวกัน อาจจะมีผลที่ต่างออกไป นอกจากดึงน้ำออกจากเซลอย่างแรงแล้ว การรวมตัวกับน้ำ ยังมีความร้อนสูงเกิดขึ้นด้วย แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 20:30:55 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 20:20:55 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 20:16:32 จากคุณ : กาลามะชน (กาลามะชน) - [ 24 ส.ค. 48 19:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ชอบจังกระทู้แบบนี้  ^^ เข้ามาแอบเก็บความรู้ค่ะ แบบว่าความรู้น้อยด้อยปัญญาง่ะ - -" จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 24 ส.ค. 48 19:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คุณแมวม่อนคะ ที่คำแนะนำสำหรับกรณีแบบนี้ (โดนกรดสาดหน้า) ว่า "อย่าพยายามกระทำในสิ่งที่ไม่รู้จริง เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างรุนแรงโดยมิได้คาดคิด"ดิฉันเห็นด้วยกับข้อความนี้คะ คุณแมวอย่าลืมว่า กรณีนี้มีเรื่องที่คุณแมวฯไม่รู้หลายเรื่องมาก ตั้งแต่ ๑ ตัวกรด - กรดอะไร ความเข้มข้นเท่าไหร่ ปฏิกริยาเคมีทำให้เกิดสารพิษอะไรบ้าง (กรดบางตัว พอแตกตัวเป็นก๊าซ สูดดมเข้าไปก็มีปัญหาอีก) ๒ ตัวคนโดน - สภาพผิวหนังในขณะนั้นเป็นอย่างไร เหงื่อมากเหงื่อน้อย มีแผลหรือเปล่า โดนแล้วมีสติแค่ไหน ๓ สิ่งแวดล้อม - อยู่ในที่ที่จะหาอุปกรณ์อะไรได้บ้าง คนรอบข้างมีความรู้จริงที่จะช้วยหรือเปล่า รู้ถูกต้องแค่ไหน ถ้าคุณแมวฯพิจารณาดีๆอย่างไม่มีอคติ จะเห็นว่า สถานการณ์นี้เปรียบไม่ได้กับการทดลองหาวิธีใหม่เลย เพราะในการทดลองเราควบคุมได้ทุกอย่าง และกรณีอย่างนี้ ความปลอดภัยสำคัญที่สุดคะ ไม่ใช่ทฤษฏีใหม่ ฉะนั้น อย่าทำอะไรที่ไม่รู้จริงคะ พลาดขึ้นมาอาจถึงขั้นชีวิตคน การที่ จขกท เสนอความเห็นมา ก็ดีคะ แต่ก็ไม่แปลกที่จะถกกันยาว เพราะ จขกท กำลังเสนอให้เปลี่ยนแปลงจากวิธีมาตรฐาน และสิ่งที่ต้องสรุปให้ได้ สำหรับวิธีที่ จขกท เสนอ คือ ๑ ความถูกต้อง (ที่ จขกท บ่นเล็กๆว่า สงสัยต้องไปค้นข้อมูลมาทำรายงาน ก็ต้องบอกว่าจำเป็นค่ะ เพราะข้อเสนอของคุณ คือการเปลี่ยนวิธีปฐมพยาบาล นี่ก็รอกลไกที่กรดจะไม่กัดผิวหนัง ของ จขกท ในช่วงที่ซับ กับผลการทดลองกับคากิ ของคุณโลหการอยู่นะนี่) ๒ ความเป็นไปได้ - จะทำได้ไหมในสถานการณ์จริง ข้อนี้ คุณ จขกท บอกมาเองว่า "แต่กรดกัดแก้ว ไม่ว่าจะเช็ดจะล้างก็ไม่ทันทั้งนั้น" ก็เท่ากับว่ายอมรับ วิธีของคุณใช้ไม่ได้กับกรดกัดแก้ว แต่ในวิธีมาตรฐาน ยังให้ใช้น้ำอยู่คะ (น้ำไหลผ่าน ในปริมาณมาก) และมีงานวิจัยมากมายทางการแพทย์ที่บอกว่า คนที่โดนกรดกัดแก้ว และได้รับปฐมพยาบาลด้วยวิธีนี้ อยู่โรงพยาบาลน้อยวันกว่า มีโอกาสจะทำศัลยกรรมตกแต่งให้ดูเป็นปกติมากกว่า ฯลฯ ลองนึกถึงสถานการณ์ที่ไม่ทราบว่า กรดที่เอามาสาดเป็นกรดอะไร คุณจะเลือกวิธีไหนคะ ๓ วิธีไหนดีกว่า - เรื่องนี้แค่ประสบการณ์ไม่พอคะ และการพิจารณาก็ไม่ใช่แค่เรื่องผิวหนังด้วย เพราะถ้าสูดดมไอกรด เข้าไป ผลกระทบก็จะเป็นอีกรูปแบบ ไม่ว่าจะบอกว่าวิธีซับดีกว่า หรือเสนอให้เป็นทางเลือก ก็ต้องชัดเจนเรื่องข้อดีข้อด้อย ที่ตำราเขาสรุปเป็นมาตรฐานให้ใช้น้ำ นี่เขาเก็บข้อมูลในคนและทดลองกับสัตว์ ตรวจสอบทุกระบบมาตั้งห้าสิบหกสิบปีแล้วละคะ จะเถียงกับตำรา ต้องใช้ข้อมูลระดับเดียวกันคะ (นี่ว่ากันตามหลักการนะคะ แต่ถ้าใครบอกว่า นี่เป็นเวบบอร์ดไม่ต้องซีเรียส นี่ ขอให้ย้อนไปดูนะคะว่า นี่ห้องอะไร) คุณแมวฯว่าเหตุผลของดิฉันพอฟังได้ไหมคะ ว่าแล้วก็รอต่อไป เผื่อคนจบเคมีจะมีสงเคราะห์ สรุปให้สักที จากคุณ : :) - [ 24 ส.ค. 48 20:10:40 A:unknown X:130.15.126.81 TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 94 คุณ -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- ครับ ผมก็ชอบกระทู้แบบนี้ครับ แต่ผมก็ไม่ชอบกระทู้นี้เลยครับ เพราะกระทู้นี้ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นจริงอย่างที่คุณจขกท.กล่าวหรือป่าว กลายเป็นว่า ... มาอ่านแล้วก็รับรู้ แล้วก้มาถึงทางแยกซ้าย/ขวา ไม่นรู้จะไปทางไหนถึงจะถูกต้อง จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ส.ค. 48 20:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 95 มาร่วมติดตามค่ะ จากคุณ : ๑๙ กุมภาฯ - [ 24 ส.ค. 48 20:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ไม่เห็นมีใครตอบ #58 เลยครับ.......... จากคุณ : ChronoSEAL - [ 24 ส.ค. 48 20:33:22 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เรียน คุณ คคห. 93  ด้วยความเคารพ คุณมีเหตุผลดีทีเดียวครับ เพียงแต่เชื่อกันคนละทางกับผม ซึ่งจริงๆแล้วผมก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อจขกท. 100% เพียงแต่มีแนวโน้มโอนเอียงเท่านั้น และพร้อมที่จะรับฟังข้อมูลของท่านต่อไปจากนี้ที่เคยปฏิบัติการทดลองวิธีของจขกท.มาแล้ว ว่ากันในส่วนที่คุณอุตส่าห์ส่งคคห.ที่ 93 นะครับ ... ๑ ตัวกรด - กรดอะไร ความเข้มข้นเท่าไหร่ ปฏิกริยาเคมีทำให้เกิดสารพิษอะไรบ้าง (กรดบางตัว พอแตกตัวเป็นก๊าซ สูดดมเข้าไปก็มีปัญหาอีก) ความเข้าใจของผม ... จริงของคุณครับว่าไม่มีใครทราบว่ากรดอะไร และกรดแต่ละชนิดก็มีวิธีการกำจัดในแบบต่างๆกันไป แต่ผมเชื่อว่าใน 100 เคส จะเป็น ซัลฟูริกโดยส่วนใหญ่ นอกเสียจากต่างจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมในพท.ที่ต้องใช้กรดอื่นๆ เช่น จันทบุรี ใช้กรดกัดพลอย (มั๊ง) สมุทรปราการ ปทุมธานี มีรง.แก้ว ก็ใช้กรดกัดแก้วกันเย๊อะ เพราะงั้นคดีที่เกิดขึ้นในจว.เหล่านี้ก็จะมีการใช้กรดอื่นๆที่ไม่ใช่ซัลฟูริก แอซิด มาก่อคดีกับสาวๆ ซึ่งเมื่อเทียบทั้งประเทศแล้วก็ต้องนับว่าน้อยมาก แต่การหากรดจัดๆอย่างซัลฟูริก เนี่ยง่ายมากๆ อย่างที่จขกท.หรือใครคนหนึ่งได้กล่าวไว้แล้วข้างบนน่ะครับ ๒ ตัวคนโดน - สภาพผิวหนังในขณะนั้นเป็นอย่างไร เหงื่อมากเหงื่อน้อย มีแผลหรือเปล่า โดนแล้วมีสติแค่ไหน ความเข้าใจ ... ผมคิดว่าเหงื่อเป็นองค์ประกอบของน้ำกับไขมัน ไขมันในน้ำน่าจะเป็นฉนวนได้ระดับหนึ่งที่จะบล๊อกไม่ให้กรดเข้าทำปฏิกริยาโดยกับน้ำ เพราะงั้นผมไม่ห่วงว่าน้ำในเหงื่อจะไปทำปฎิกริยาจุดระเบิดให้เกิดความร้อนได้โดยตรงจะจะ ๓ สิ่งแวดล้อม - อยู่ในที่ที่จะหาอุปกรณ์อะไรได้บ้าง คนรอบข้างมีความรู้จริงที่จะช้วยหรือเปล่า รู้ถูกต้องแค่ไหน ความเข้าใจของผม ... ตรงนี้แหละที่เป็นตัวตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรใกล้มือได้ง่ายที่สุด แต่ถ้ามี 2 อย่าง ผมก็เลือกวิธีของจขกท.ก่อนครับ จนกว่าจะมีเพื่อนนักเคมีท่านอื่นๆนำผลการทดลองมายืนยัน ครับ จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ส.ค. 48 20:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 98 คุณจขกท. ตอบคุณ #58 ไว้แล้วนี่ครับคุณ ChronoSEAL ที่#61 ไงล่ะ จากคุณ : แมวม่อน - [ 24 ส.ค. 48 20:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เชื่อนะ ว่าถ้าได้ทดลองกันจริงๆ กับทุกๆกรด แล้วถ้าเราไม่รู้ว่ากรดที่สาดมาเป็นกรดอะไร ต้องมาลงตัวที่การใช้น้ำไหลแรงๆล้างออกไปนานๆ คือถ้ามีน้ำน้อยแค่ขันเดียวก็ไม่ควรสาดเข้าไป ปล. ที่จันท์ นี่ใช้กันทุกกรดเลย กรดกัดแก้วเยอะหน่อย กรดแบตเตอรี่ กับ Hcl ก็น้อยลงมา กรดกัดแก้วมันแรงมากๆ ผมว่าทุกคนในจังหวัดนี้ก็รู้พิษสงทุกคน เพราะมีตัวอย่าง คนล้างพลอยมักง่ายไม่ใส่ถุงมือพลาดโดนกันบ่อยๆ ถ้าจะเอาไปสาดใครคือต้องหวังร้ายจริงๆ จากคุณ : Dr.slump - [ 24 ส.ค. 48 21:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ง่า สับสน @.@ จากคุณ : botak - [ 24 ส.ค. 48 21:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณคุณกาลามะชน #91 มากเลยครับที่ให้ความรู้ ----------------------------------------------------------------------- นักเคมีรุ่นเก่า เคยเล่าให้ฟังว่า กลไกการทำลายที่ร้ายแรงที่สุดของกรดกำมะถันเข้มข้น คือ การดูดน้ำ ความต้องการดูดน้ำของกรดกำมะถันเข้มข้นนั้นรุนแรงมาก สามารถดึดเอาไฮโดรเจน+ออกซิเจน จากโมเลกุลอื่นออก เพื่อไปฟอร์มเป็นน้ำได้เอง เช่น กรณีหยดใส่ น้ำตาลทราย หรือเซลลูโลส(ไม้) แม้จะแห้ง ก็ยังถูกกัดอย่างแรง และทิ้งคาร์บอนที่เหลือไว้ให้เห็นเป็นถ่านดำๆ ซึ่งไม่ใช่เกิดจากการเผาไหม้ แต่เป็นธาตุคาร์บอนที่เหลือหลังจากถูกดูด H + O กรดเข้มข้น จึงสามารถทำลายสารอินทรีย์ ที่มีไฮโดรเจนและออกซิเจนสูงๆ เช่นน้ำตาลและไม้ ทั้งๆที่แห้ง ได้ดี แต่กรดน่าจะมีอันตรายต่อสารอินทรีย์ที่มีออกซิเจนต่ำ น้อยกว่า การเช็ดกรดด้วยผ้าฝ้าย จะช่วยได้มาก เพราะกรดกัดผ้าฝ้ายได้ดีกว่าเนื้อคนอย่างแน่นอน ในกรณีของกรดเข้มข้นถูกผิวหนัง ผมคิดว่า ไขมันที่มีอยู่บนผิวหนัง อาจมีผลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่ละคนมีไขมันที่ผิวหนังไม่เท่ากัน และแต่ละส่วนของร่างกายก็มีไขมันต่างกัน ดังนั้นประสบการณ์ของแต่ละคน อาจจะไม่เหมือนกัน เพราะอิทธิพลของไขมัน บางคนอ้างว่า ถ้ากรดเข้มข้นมากๆ โดนมือจะไม่เป็นไร ให้ซับออกได้ อาจจะเพราะเคยโดน หรือเคยลอง กับมือที่มีมันมาก ถ้าคนอื่นโดนแบบเดียวกัน อาจจะมีผลที่ต่างออกไป นอกจากดึงน้ำออกจากเซลอย่างแรงแล้ว การรวมตัวกับน้ำ ยังมีความร้อนสูงเกิดขึ้นด้วย จากคุณ : logarithm - [ 24 ส.ค. 48 21:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ที่แลปมีกรดซัลฟิวริกครับ แต่ยังไม่ว่างไปทำเลย ถ้าเป็น สมัยเรียนตอนนี้วิ่งไปทำการทดลองแล้ว แต่ไม่แน่ลอง ดูพรุ่งนี้ก่อนถ้ามีโอกาสจะลองไปคุยกับเจ้าหน้าที่นักวิทย์ดู :) ภาพจากเวปของ Practical x 2 ครับ http://www.angelfire.com/falcon/practical_x_2 แท่งสีดำที่ผุดขึ้นมาจากน้ำตาลคือคาร์บอน ปฏิกิริยานี้แสดงให้เห็นการขจัดน้ำ (water elimination) จากโมเลกุล ของน้ำตาล และแสดงให้เห็นว่ากรดซัลฟูริคเข้มข้นเป็นสารขจัดน้ำ (dehydrating agent) ที่ดี เอกสารอ้างอิง Whitten, K.W., Gailey, K.D., Davis, R.E. 1992. General Chemistry, 4th edn. Saunders College Publishing, Sydney, p. 1096. จากคุณ : Practical x 2 - [ 24 ส.ค. 48 21:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เอาละครับ ตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ผมจะไปทำการทดลอง หลังจากสอนเสร็จแล้ว น่าจะเริ่มทำการทดลองได้สัก 10.30 น. แต่ไม่รู้จะโพสต์ผลการทดลองลงได้เมื่อใดครับ อุปกรณ์ทดลองจะใช้ "ลูกชิ้นปิงปอง" บนถาดโฟม 6 ถาด โดยจะเปลี่ยนความเข้มข้นของกรดซัลฟิวริก (หวังว่าจะมี) ที่ 3 ระดับคือ 98% (v/v), 49% (v/v) และ 24.5%(v/v) กับ ลูกชิ้นที่ถูกปฏิบัติก่อน 2 วิธีคือ เช็ดผิวลูกชิ้นให้แห้ง และนำลูกชิ้นไปชุบน้ำก่อน เพื่อทดสอบว่าการที่ผิวลูกชิ้น แห้งหรือเปียกมีผลต่อการทำลายผิวลูกชิ้นมากหรือน้อย เพียงใด แต่คงตรวจสอบด้วยสายตาได้เท่านั้นครับ ทีแรก จะว่าใช้เครื่อง Instron ตรวจสอบ texture ที่เปลี่ยนไป กับ Colorimeter ของ HunterLab วัดสีที่เปลี่ยนไปด้วย แต่เวลาไม่มีละ เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ ^_^ จากคุณ : Practical x 2 - [ 24 ส.ค. 48 22:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 105 โดนกรดก็ต้องใส่ด่างครับ ใส่น้ำมากๆก็ได้หากหาด่างไม่ได้ แต่ไม่ดีนักครับ เพราะจะทำให้กรดกีระจายไปโดนส่วนอื่นๆของร่างกาย ปล คุณทราบหรือไม่ว่าแก๊สที่ความเข้มข้นสูงมากกว่าระดับหนึ่งก็จุดไฟไม่ติด จากคุณ : appendix - [ 24 ส.ค. 48 22:45:51 A:192.38.24.19 X: TicketID:090028 ]

ความคิดเห็นที่ 106 # 105 สงสัยคุณ appendix จะล้อเล่น -_-" จากคุณ : Practical x 2 - [ 24 ส.ค. 48 22:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ถ้าโดนกรดในLab ต้องรีบไปอาบน้ำที่ฝักบัวนะครับ แต่ถ้าเป็นฝักบัวในรูป โดนไฟช็อตตายก่อนแน่ๆ 55555 ปล. ผมเคยโดยConc. HCl กระเด็นใส่แขนผม แสบมากๆ ต้องรีบไปล้างน้ำก็อกอ่ะ ถึงจะหายแสบ หลังจากนั้นไม่เห็นมีบาดแผลเลย ไม่รู้ว่าจะเหมือนกับโดน Conc. Sulfuric acid  รึป่าว แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 23:11:36 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 23:10:38 จากคุณ : pathara - [ 24 ส.ค. 48 23:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ผมมีแผลเป็นที่เกิดจาก การโดน 2 - 4 M HCl หรือ NaOH ด้วยครับ เพราะคอมพิวเตอร์ที่ใช้ควบคุมเตาปฏิกรณ์ชีวภาพนั้น อยู่ใกล้ถาดใส่กรดและเบส คาดว่าอาจมีใครที่ใส่ถุงมือปรับ แต่งสายกรดหรือเบสแล้วไม่ได้ถอดถุงมือแล้วมาใช้คอมพ์ ผมมาใช้คีย์บอร์ด กด Mouse ไปแป๊บเดียวรู้สึกปวดแสบ ปวดร้อนขึ้นมาเฉยๆ เกิดมาได้ 2 ปีแล้วมั้งครับ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 48 23:29:28 จากคุณ : Practical x 2 - [ 24 ส.ค. 48 23:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 109 แวะมาดูครับแบบว่าใกล้ตัวครับ ทำงานเกี่ยวกับกรด โดยผสมเจือจางเองเป็นประจำครับ โดนบ่อยๆ กับการกระเด็นของกรดที่เข้มข้นถ้าช่วงที่โดนเหงื่อมากจะรู้สึกได้รุนแรงครับ แต่ถ้าโดนแล้วต้องวิ่งหาน้ำอย่างเดียวครับเปิดชะล้างในทันทีและจำนวนมากให้เร็วที่สุด ห้ามถู ครั้งที่พี่ชายโดนถังกรดเข้มข้นหล่นแตกสาดเข้าตามใบหน้าและลำตัว ก็ใช้วิธีนี้ครับ แล้วไปพบแพทย์ในระยะแรกจะเกิดแผลพุพองและปวดแสบปวดร้อน แต่อาศัยว่านหางจระเข้ฝานบางๆ แปะไปที่แผลบ่อยๆ ครับเห็นผลได้ดีมาก แผลพุพองยุบลงแล้วร่อนออกโดยไม่ทิ้งแผลเป็นไว้ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการจัดการกับกรดอย่างไรและมีสติแค่ไหนครับ จากคุณ : Cafe`tea - [ 25 ส.ค. 48 00:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ชอบกระทุ้นี้มากครับ รอผลการทดลองอยู่นะครับ ^^' จากคุณ : หนึ่งกระบี่ แปรสามแจ้ง - [ 25 ส.ค. 48 00:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 111 นี่เป็นกระทู้แรกที่ยาวมาก แต่ผมอ่านได้ตั้งแต่กระทู้แรกจนจบอ่ะครับ รอดูผลการทดลองของคุณ Practical x 2 นะครับ จากคุณ : sunzilla - [ 25 ส.ค. 48 01:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 112 รอผลการทดลองลูกชิ้นปิงปองด้วยค่ะ ในขณะที่เทคโนโยลีทางวิทยาศาสตร์ก้าวไปข้างหน้า จิตใจคนเราก็ถอยไปข้างหลัง นำสิ่งต่างๆ ที่เรียนรู้ มาทำร้าย ทำลายคนอื่น ... น่าเศร้านะ จากคุณ : cocoa butter - [ 25 ส.ค. 48 04:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 113 รอผลการทดลองของลูกชิ้น ครับ จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 25 ส.ค. 48 04:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ขอบคุณ อ. Practical X 2 ที่จะกรุณาช่วยทดลอง ผมเชื่อว่ามือระดับนี้จะสามารถสรุปและอธิบายได้ดีกว่าผม ขอสารภาพว่าแอบเป็นแฟนคลับเงีบบๆ ติดตามผลงานในหว้ากอมานาน ตอบท่านที่ว่า ถ้ามีอมยิ้มจะน่าเชื่อถือกว่า ก็จริง ก็ต้องขอบอกความจริงว่า ผมอายุมากแล้ว และก็รู้สึกขี้เกียจเอามากๆ ที่จะริเริ่มทำอะไรใหม่ๆ และผมไม่ชอบสุงสิงกับใคร ถ้าไม่เพราะว่ามีผู้เสียชีวิต และไม่เห็นมีใครว่าอะไร ผมก็คงไม่ต้องมาขยายขี้เท่อที่นี่ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและออกความเห็น นับว่าไม่เสียเปล่าที่ลงแรงโพสต์ จากคุณ : จขกท. - [ 25 ส.ค. 48 08:14:20 A:61.90.15.156 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 115 อยากจะบอกว่ากระทู้นี้ได้สาระมากๆ มีทั้งเชิงทฤษฏีและปฎิบัติ อยากรอผลสรุปเหมือนกัน จากคุณ : phonomenon - [ 25 ส.ค. 48 08:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ขอย้ำอีกทีว่า วิธีนี้ใช้แก้ไขถูกน้ำกรดสาด ไม่ใช่ถูกกรดหก หรือ เปื้อนเล็กๆน้อยๆ การถูกสาดก็คือการสัมผัสถูกกรดเป็นจำนวนมากและแผ่กระจายบนร่างกายเป็นบริเวณกว้าง และอยู่ในสถานที่ที่ควบคุมไม่ได้ว่าจะมีน้ำหรือไม่ และน้ำที่มีนั้นจะมีมากหรือน้อย ฉีดจากสายยาง ฝักบัว โอ่ง หรือน้ำในขวด จากคุณ : จขกท. - [ 25 ส.ค. 48 08:33:51 A:61.90.15.156 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 117 อาวุธเคมีนี่น่ากลัวจริงๆ  สมกับที่เขาว่าเป็นนิวเคลียร์คนจน จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 25 ส.ค. 48 10:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 118 #54 บอกว่า "ไอ้ตำรา MSDS (material safety data sheets) ที่พวกฝรั่งมันทำมาน่ะ กระจอกครับ อย่างไปเชื่อ พวกที่เขียนตำรานี้มันพวกอ่อนหัดครับ ใครจะไปรู้บางทีมันอาจจะเอา เด็ก ม.4 มาเขียนก็ได้" ตรงนี้ผมไม่เห็นด้วยนะ ส่วนใหญ่ MSDS จะมาจาก manufacturer ซึ่งน่าจะรู้ดีที่สุดว่าสารเคมีที่ตนเองผลิตขึ้นมามันมีฤทธิ์ยังไง เพราะสัมผัสใกล้ชิดกับมันทุกวัน ไม่ใช่พวกอ่อนหัดอย่างที่บอก ที่ผมยังไม่ปักใจเชื่อ จขกท. เพราะว่า จขกท. ก็ไม่เคยมีประสบการณ์ถูกสาดน้ำกรดในบริเวณกว้าง แต่กลับอ้างว่ารู้ดี ทั้งๆที่เคยลองแค่กระเซ็นกระสาย ความเห็นผมคือ การถูกสาดน้ำกรดในบริเวณกว้าง มีปริมาณมาก คนที่เข้าไปเช็ดน่ะ จะพลอยถูกน้ำกรดไปด้วย นอกซะจากว่าจะสวมถุงมือ ใส่เสื้อกาวน์ เหตุผลหนึ่งที่ใน MSDS ไม่แนะนำให้คนอื่นๆเข้าไปใช้ผ้าเช็ดก็คือความปลอดภัย เค้าเลยแนะนำว่าถ้ามีสติ ให้เดินไปที่ฝักบัว อาบน้ำเองเลย เพื่อป้องกันคนอื่นๆได้รับอันตรายไปด้วย จากคุณ : ม้าหงอย - [ 25 ส.ค. 48 10:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 119 รอผลอยู่ แต่หวังว่าสภาพเนื้อเยื่อของลูกชิ้น (ที่เป็นเนื้อที่ผ่านการต้มแล้ว) คงจะเทียบเคียงได้กับเนื้อเยื่อของคนจริงๆนะครับ เพราะผมไม่รู้ว่า เนื้อลูกชิ้นมันมีน้ำน้อยกว่าเนื้อเยื่อคนรึเปล่า จากคุณ : praphrut608 - [ 25 ส.ค. 48 10:55:48 ]

ความคิดเห็นที่ 120 หุหุ...คุณม้าหงอย ชื่อ..น่ารัก....จัง จากคุณ : วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าเดิม - [ 25 ส.ค. 48 11:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 121 กลับมาแล้วพร้อมผลการทดลองครับ การทดลองนี้นำกรดซัลฟิวริกเข้มข้น 95-97%(v/v) และ 47.5-48.5% (v/v) มาราดลงบนลูกชิ้นปิงปองและน้ำมัน พืช แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลง การทดลองนี้ต้องทำใน ตู้ดูดไอสารเคมีเท่านั้นครับ เมื่อใช้กรดเข้มข้นลูกชิ้นบางส่วนเปลี่ยนสภาพเป็นสีดำใน ทันทีเนื่องจากปฏิกิริยาขจัดน้ำกับคาร์โบไฮเดรต ดัง คคห. ที่ 103  เป็นการพิสูจน์ว่าลูกชิ้นที่เรากินกัน นั้นมีแป้งผสมเป็นองค์ประกอบด้วย การใช้กระดาษทิชชู่ มาเช็ดออกพบว่ามีเนื้อลูกชิ้นบางส่วนติดออกมาเป็นเยื่อบางๆ   ในกรณีความเข้มข้นของกรดลดลงครึ่งหนึ่งไม่สังเกตเห็น การเปลี่ยนแปลงใดๆ กับลูกชิ้น ปฏิกิริยาขจัดน้ำก็ไม่เกิด ขึ้นด้วย จึงสรุปได้ว่าถ้าคุณเป็นลูกชิ้น คงจะเลือกโดนกรด ความเข้มข้นเจือจางลงดีกว่ากรดเข้มข้น ในขณะที่ใช้กระดาษทิชชูเช็ดกรดเข้มข้น พบว่ากระดาษ ทิชชูเกิดปฏิกิริยาขจัดน้ำกับกรดเข้มข้นด้วย เกิดเป็นคาร์ บอนสีดำขึ้นและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูง โดยเกิดปฏิกิริยาขึ้น อย่างรวดเร็วเมื่อนำไปสัมผัสกับน้ำ (เช็ดกรดที่หกบนพื้น ผิวทดลองแล้วนำไปล้างกับสายน้ำไหลในตู้ดูดไอสารฯ) การทดลองกับน้ำมันพืชพบว่าเกิดปฏิกิริยาขจัดน้ำขึ้นบ้าง แต่เกิดเป็นถ่านสีดำอย่างช้าๆ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 48 11:59:48 จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 11:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ชุดทดลอง จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 12:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ชุดทดลอง ๒ จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 12:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ชุดทดลอง ๓ จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 12:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ชุดทดลอง ๔ แช่น้ำหรือเช็ดออกดี จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 12:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ชุดทดลอง ๕ ก่อนทำการทดลองเลื่อนกระจกกำบังของตู้ลงมา จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 12:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 127 รอฟังวิจารณ์ผลการทดลองอยู่ครับ คุณ  Practical x 2 จากคุณ : แมวม่อน - [ 25 ส.ค. 48 12:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ... จากการสรุปผลใน #121 สรุปสภาพลูกชิ้นที่โดนกรดเข้มข้นและเช็ดออกด้วยกระดาษทิชชู "เมื่อใช้กรดเข้มข้นลูกชิ้นบางส่วนเปลี่ยนสภาพเป็นสีดำใน ทันทีเนื่องจากปฏิกิริยาขจัดน้ำกับคาร์โบไฮเดรต ดัง คคห. ที่ 103 เป็นการพิสูจน์ว่าลูกชิ้นที่เรากินกัน นั้นมีแป้งผสมเป็นองค์ประกอบด้วย การใช้กระดาษทิชชู่ มาเช็ดออกพบว่ามีเนื้อลูกชิ้นบางส่วนติดออกมาเป็นเยื่อบางๆ " และ "ในขณะที่ใช้กระดาษทิชชูเช็ดกรดเข้มข้น พบว่ากระดาษ ทิชชูเกิดปฏิกิริยาขจัดน้ำกับกรดเข้มข้นด้วย เกิดเป็นคาร์ บอนสีดำขึ้นและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูง" และน่าจะทำการทดลองต่อว่า หลังจากเช็ดด้วยทิชชูแล้วนำไปล้างด้วยน้ำไหลผ่าน สภาพสุดท้ายของลูกชิ้นเป็นอย่างไร เพื่อเปรียบเทียบกับสภาพลูกชิ้นที่โดนกรดเข้มข้น แล้วล้างออกด้วยน้ำไหลผ่านเลย(ส่วนนี้ไม่มีในผลการทดลองใน #121) ถ้ามีภาพเปรียบเทียบสภาพลูกชิ้นทั้งสองเงื่อนไขจะดีมากครับ จากคุณ : ID73078 - [ 25 ส.ค. 48 12:58:13 A:203.208.250.164 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 129 รอฟังอยู่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : ทอฝัน...ในวันเหงา (ทอฝัน...ในวันเหงา) - [ 25 ส.ค. 48 13:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 130 กลับมาจากกินข้าวกลางวันแล้วครับ เป็นเพราะอินเตอร์เนทช่วงนี้ช้าเหลือเกินครับคงต้อง ค่อยๆ โหลดผลการทดลองลงมา สภาพก่อนการทดลองลูกชิ้นทั้งสองมีผิวแห้งไม่เปียกน้ำ ส่วนของเหลวใสในบีกเกอร์ด้านข้างคือกรดซัลฟิวริก เข้มข้น จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 13:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 131 การเปลี่ยนแปลงหลังจากเทกรดซัลฟิวริกลงไปได้ 20 วินาที จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 13:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 132 หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาที จึงนำกระดาษทิชชูไปเช็ด ได้ผลดังภาพ จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 13:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ถ้าทำตามที่ จขกท. บอกเนี่ย ผ้าที่ใช้เช็ดกรด มันจะเละไปติดกะเนื้อเราไม๊อ่ะ สยอง จากคุณ : mamuai - [ 25 ส.ค. 48 14:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 134 สภาพเศษซากลูกชิ้นที่เหลือหลังผ่านไป 10 นาที จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 14:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 135 มารอดูผลสรุป... ชื่นชม ความเป็นนักทดลอง หาคำตอบที่แท้จริงด้วยตนเอง และเผยแพร่เป็นวิทยาทานแก่คนอื่นของคุณPractical x 2 มากๆเลยครับ จากคุณ : zmen - [ 25 ส.ค. 48 14:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ถ้านำไปแช่น้ำลูกชิ้นก็จะไม่ไหม้มากอย่างที่ปล่อยเอาไว้ ใน คคห. 134 ครับ จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 14:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 137 อยากทราบว่า ห้องทดลองใน รร มัธยม เนี่ย ความเข้มข้นเท่าไหร่ครับ เคยโดนเพื่อนสาดใส่เล่นๆ รู้สึกร้อนมาก รีบเอานำล้างออกทันที แสบร้อนหลายนาทีเหมือนกัน ถ้าเข้าตาเนี่ยมันจะเป็นอะไรมั้ยครับ พอดีหลับตาทัน จากคุณ : Prince of Bienconeri - [ 25 ส.ค. 48 14:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ในกรณีใช้กรดความเข้มข้นลดลง 50% หลังจากผ่านไป 5 นาที จะพบว่าไม่ค่อยเกิดความเปลี่ยนแปลงเท่าใดนัก แต่ถ้าดูใกล้ๆ พบว่าสีลูกชิ้นเปลี่ยนไปนิดหน่อย ออกสี ชมพูอ่อนๆ ในบางจุด จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 14:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 139 มา ผมเอาผลจากที่โดนมาจริง ไม่มีตัวแสดงแทนมาให้ทราบกัน เป็น Conc. H2SO4, H2SO4 6 M กับ Conc. HCl, HCl 6 M ลักษณะทางกายภาพของ Conc. H2SO4 ก็ ใสๆ หนืดๆ ไม่มีควัน ส่วนของ Conc. HCl ใสๆ หนืดๆ แต่ เปิดจุกมาก็ควันมากมายล่ะครับ ต้องไปเปิดใน hood นะ เจือจางจน 6 M ก็ยังมีควันนะ ซัก 1 M ถึงจะ ไม่มี หยดใหญ่ลงนิ้วนะ ถ้า Conc. H2SO4 อ่ะ เอาทิชชูซับออกก่อน จนแห้ง แล้วล้างน้ำ ผลคือ ไม่เป็นไรเลย ถามใครในแลปก็ให้ทำอย่างงี้ทั้งนั้น (อันนี้ผมโดนเอง) ส่วนถ้า Conc. H2SO4 แล้วให้ล้างน้ำอะนะ บอกตรงๆว่า ผมไม่กล้า เพราะใครเคยทำแลบเคมีจะรู้อะนะ มันคายความร้อนได้รุนแรงมาก (ไม่กล้าทำ) ส่วนถ้า H2SO4 แบบเจือจาง เคยโดน 6 M อะ ก็เฉยๆ คันนิดนึง ล้างน้ำเอาก็ได้ (โดนเอง) ถ้า Conc. HCl อะ อย่าว่าแต่โดนเลยครับ แค่ควันก็กลัวแล้ว เคยโดน 6 M HCl ก็แสบ น่าจะมากกว่าตอนโดน H2SO4 6 M นะ (โดนเอง) ส่วนกรดกัดยาง กรดกัดแก้ว ?? คือ ผมโง่คับ ไม่รู้จักอะ เอาสรุปๆ ถ้าผมโดนเอง เฉพาะ H2SO4 กับ HCl นะ นอกนั้นไม่รู้ 1. ดูว่ามันเป็นไงก่อน ถ้าหนืดๆ ไม่มีควัน ไม่แสบ ก็เป็น Conc. H2SO4 ก็ไปเอาทิชชูเช็ด ไปอยู่ห้องแอร์เย็นๆ อย่าให้เหงื่อออก แห้งแล้วก็ล้างซะก็หาย 2. นอกนั้น ทั้ง H2SO4 กับ HCl เจือจาง ความรุนแรงน่าจะตามความเข้มข้นถ้าไม่เจือจางมากนะ เราก็ต้องแสบ ถ้าจางมากก็คันๆ กาจอกมั่ก ก็เอาน้ำล้างซะ แต่ถ้าจากไม่มากก็คงเหวอะอะนะ 3. ถ้าควันเยอะๆนะ คงเป็น Conc. HCl ไม่รู้อะ ไม่เคยรู้ ไม่เคยโดน แต่ท่า ไม่แสบนะ ผมจะเช็ดออก แต่ถ้าแสบ ผมจะล้างนะ แต่ดูดีๆนะ ว่าตรงที่โดนมีเหงื่อรึเปล่า ถ้ามีเหงื่อ แล้วแสบจะทำไงดีล่ะเนี่ย สรุปๆท้ายอีกที 1. โดนเยอะ แบบสาด ก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกันอะ?? 2. นิดๆ ก็ดูว่าแสบไหม กับหนืดไหม นะ แสบ แล้ว ไม่หนืด ก็ ล้าง แสบ แล้ว หนืด ก็ เช็ด ไม่แสบ เช็ด --ความเห็นส่วนตัวของผม นะ คับ แล้วก็แค่กรด 2 ชนิดเองนะคับ ใครอยากเท่ก็ลองหลายๆแบบแล้วมาเล่ากันนะคับ-- จากคุณ : คนใจอ่อน - [ 25 ส.ค. 48 14:39:23 A:61.91.173.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 140 ในกรณีที่ใช้น้ำมันพืช จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 14:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 141 เมื่อราดกรดซัลฟิวริกเข้มข้น จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 15:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 142 คุณ คนใจอ่อน คห.139 ถูกต้องครับ ขอแถมนิด ขนาดเรื่องที่พิสูจน์ได้ง่ายๆทางวิทยาศาสตร์ยังถกเถียงกันขนาดนี้ ทำให้นึกถึงชะตากรรมของน้กวิทยาศาสตร์ยุคแรกๆ และเรื่องที่สมาคมวิทยาศาสตร์ที่ตั้งขึ้นในอังกฤษยุคแรกๆต้องปิดลับ รู้กันเฉพาะหมู่นักวิทยาศาสตร์ไว้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ผมว่าเราเรียนกันมาแบบท่องตำรา จำความรู้วิทยาศาสตร์มาแบบตำนานพื้นบ้าน งานนี้ท่าจะต้องทำเหมือนเรื่อง Mythbuster ทางช่อง Discovery เวอร์ชั่นประเทศไทยซะแล้ว จากคุณ : จขกท. - [ 25 ส.ค. 48 15:23:13 A:61.91.110.37 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 143 นอกเรืองนิด เห็นภาพของอาจาย์แพรกใน #103 แล้ว เดี๋ยวลองทำดูมั่งเผื่อจะได้เพชรไปขาย จากคุณ : ใหม่รักหมู่ - [ 25 ส.ค. 48 15:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ขอบคุณ คุณ Practical x 2 มากๆเลยที่ทำการทดลองมาให้ดู อยากทดลองดูเองเหมือนกัน แต่ยังใจป๊อดไม่กล้าลอง แล้วตอนนี้ไม่ได้ทำแล็บเหมือนสมัยเรียนแล้ว ไม่รู้จะเอากรดจากไหนมาลอง แต่เคยโดนกรด conc H2SO4 เหมือนกันนะ จำได้ว่าผิวหนังจะเป็นรอยไหม้ แถมเสื้อที่โดนหยดถูก ก็โหว่เป็นรอยไหม้เหมือนกัน เป็นไปได้ไม๊ว่าผิวหนังเรามีความชื้น แล้วเสื้อเราล่ะ??? งงๆ??? แต่ยังข้องใจเรื่องที่ จขกท. กับ คคห.139 บอกน่ะค่ะ ทำไมทั้งสองคนนั้นเค้าถึงไม่เป็นอะไรตอนโดนกรดซัลฟูริคเข้มข้นหยดใส่แล้วเช็ดออก หรือว่าโชคดีที่อยู่ในแล็บแล้วไม่มีเหงื่อมาช่วยทำปฏิกิริยากับกรด กระดาษ(หรือผ้า) ที่นำมาเช็ด มันเป็นรอยไหม้เหมือนที่คุณ Practical x 2 ทำการทดลองให้ดูไม๊คะ?? แล้วรบกวนถามคุณ Practical x 2 หน่อยค่ะว่า ลูกชิ้นที่นำมาทดลองเนี่ย จริงๆแล้วแห้งสนิทเลยรึเปล่า??? จากคุณ : mamuai - [ 25 ส.ค. 48 16:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ถ้าใช้หนังหมูแทนลูกชิ้น การทดลองจะแม่นยำกว่านี้มั้งครับ ก็ลูกชิ้นมันแป้งซัก 60 70% เลยมั้ง บางเจ้าคง 90% แหงๆ จากคุณ : false - [ 25 ส.ค. 48 16:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 146 อ่านมามากละ เข้าใจถึงความต้องการช่วยเหลือจากทุกๆคน ไม่ว่าจะคิดว่ามาจากประสบการณ์จริง หรือจากตำรา ทุกคนมีความหวังดีทั้งนั้น การที่จะใช้วิธีไหนมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น เราเห็นด้วยกับวิธีของคุณ gmat032 นะ เพราะระหว่างหาผ้าแห้งสนิทเช็ด กับการหาน้ำจำนวนมาก น้ำน่าจะหาง่ายกว่า เพราะกรดเมื่อโดนเนื้อเยื่อไปแล้วยังไงก็ต้องเกิดปฏิกิริยาทั้งนั้น จากคุณ : ใบชา - [ 25 ส.ค. 48 17:02:14 A:10.10.10.200 X:210.86.223.23 TicketID:105355 ]

ความคิดเห็นที่ 147 เคยโดนเคยจับบ้างค่ะ ซัลฟุริกเข้มข้น 96เปอร์เซ็น ถ้ามันไม่ได้เหนอะถึงขั้นเป็นกองๆก็ล้างน้ำชะออกได้เลยค่ะ แต่ถ้ากรดเยอะมาก ก้ซับออกก่อนสะดวกกว่าเอากรดเหนอะๆไปโดนน้ำ แต่น้ำเยอะๆก็ชะออกได้ค่ะ ..ห้ามหยดๆนะคะ ...สรุปก็คือ ใช้น้ำจำนวนมากๆล้าง ตามข้อมูลมาตรการการปฐมพยาบาลที่แนบมา http://siweb.dss.go.th/reach จากคุณ : สมควร - [ 25 ส.ค. 48 17:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 148 คุณแมวม่อนครับ จาก คห. นี้ ๑ ตัวกรด - กรดอะไร ความเข้มข้นเท่าไหร่ ปฏิกริยาเคมีทำให้เกิดสารพิษอะไรบ้าง (กรดบางตัว พอแตกตัวเป็นก๊าซ สูดดมเข้าไปก็มีปัญหาอีก) ความเข้าใจของผม ... จริงของคุณครับว่าไม่มีใครทราบว่ากรดอะไร และกรดแต่ละชนิดก็มีวิธีการกำจัดในแบบต่างๆกันไป แต่ผมเชื่อว่าใน 100 เคส จะเป็น ซัลฟูริกโดยส่วนใหญ่ นอกเสียจากต่างจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมในพท.ที่ต้องใช้กรดอื่นๆ  กรดที่มีใช้กันเป็นส่วนใหญ่ ใช้กันมากที่สุด ในระดับประชาชนทั่วไป ไม่ใช่กรดซัลฟิวริกครับ  แต่เป็นกรดเกลือ (ไฮโดรคลอริก) ความเข้มข้น 10-22%  หาได้ง่าย จนคุณอาจจะตกใจได้ ว่า มันง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ  ขายบนชั้นวางของ ให้ห้างสรรพสินค้าทุกแห่งครับ !! จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 25 ส.ค. 48 17:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 149 อืม ได้ความรู้ดีมาก จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 25 ส.ค. 48 18:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 150 # 144 ไม่แห้งสนิทครับ เพียงแต่เช็ดผิวหน้าไม่ให้ชื้น แฉะเกินไปเท่านั้น จากคุณ : Practical x 2 - [ 25 ส.ค. 48 18:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 151 แต่เป็นกรดเกลือ (ไฮโดรคลอริก) ความเข้มข้น 10-22% หาได้ง่าย จนคุณอาจจะตกใจได้ ว่า มันง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ ขายบนชั้นวางของ ให้ห้างสรรพสินค้าทุกแห่งครับ !! มันคืออะไรครับ เผื่อแฟนไปซื้อมาจะได้เตรียมเผ่น :P จากคุณ : MAX - [ 25 ส.ค. 48 18:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 152 กลับมาอ่านอีกรอบ สนุกดีครับ ป.ล. อยากรู้ ปริศนาข้างบนด้วย 5 5 จากคุณ : หนึ่งกระบี่ แปรสามแจ้ง - [ 25 ส.ค. 48 18:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 153 #118 คุณม้าหงอย อ่านไม่รู้จริงๆเหรอครับ ว่าผมประชด #41 อ่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 48 21:19:47 แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 48 18:54:56 จากคุณ : MaSaChi - [ 25 ส.ค. 48 18:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ขอบคุณ คุณแมวเหมียวพุงป่อง  ที่เอื้อเฟื้อความรู้ให้ ครับ และกระทู้นี้ก็ยังสรุปผลการทดลองของคุณ  Practical x 2 ไม่ได้ว่า ซับด้วยผ้าแห้ง หรือ ราดด้วยน้ำเย๊อะๆ จะดีกว่ากัน น่าจะว่า ... ใกล้อะไรก็ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างนั้นไปก่อน ครับ จากคุณ : แมวม่อน - [ 25 ส.ค. 48 18:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ตกลงคุณแมวม่อนยัง รอคอย เสาะหาเคล็ดลับพิเศษ ที่ไม่เคยมีการบันทึกในตำราใดๆในโลกนี้ อยู่หรือเปล่าครับ คุณ practical x 2 เลือดแรงดีจริงๆ จากคุณ : MaSaChi - [ 25 ส.ค. 48 19:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 156 รอซีครับ เพราะคุณ  Practical x 2 บอกไว้ใน ความคิดเห็นที่ 150   # 144 ไม่แห้งสนิทครับ เพียงแต่เช็ดผิวหน้าไม่ให้ชื้น แฉะเกินไปเท่านั้น จากคุณ : Practical x 2   - [ 25 ส.ค. 48 18:18:47 ] จากคุณ : แมวม่อน - [ 25 ส.ค. 48 19:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ผมก็รอยู่อะครับยังไม่เคลีย หลายๆ คห. อ้างตามตำรา แต่อยากรู้นอกเหนือจากตำรามีอะไรอีกหรือเปล่าทียังไม่ถูกบันทึกไว้ รอท่านเก่งๆออกแบบการทดลองดีๆอยู่นะครับ จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ 25 ส.ค. 48 20:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 158 ตกลง จาร์ย prac มีรูปหลังจากรเสร็จกรรมวิธีทั้งสองแบบมาให้ดูหรือเปล่าคะ จะได้เห็นๆกันทั่วๆ close up เลยนะ จาร์ย ขอตั้งข้อสังเกตเพิ่มนิดนึง (บางอันคนอื่นก็พูดไปแล้วบ้าง แต่รวมๆไว้ก่อน เผื่อจะมีคนอธิบายเพิ่มเติม) ๑ ลูกชิ้นมีแป้งผสมเยอะ ดังนั้นสรุปไม่ได้ว่าการที่ลูกชิ้นเปลี่ยนไปเกิดจากกรดทำปฏิกริยากับแป้ง หรือ เนื้อ แต่ก็น่าจะใช้ในการบอกว่า วิธีไหน เอากรดออกไปได้อย่างประสิทธิภาพมากกว่ากัน ๒ ผิวลูกชิ้นไม่แห้งสนิท (นิยามของคำว่าสนิทของอาจารย์เป็นยังไงเนี่ย) แต่มันก็ condition เดียวกันนิ ฝ่ายเช็ดไม่น่าเกี่ยงนะ ถ้าจะดูแค่ การเอากรดออกไปจากลูกชิ้น ๓ ใช้กรดชนิดเดียวเท่านั้น ยังไม่รวมกรดอื่น ๔ การทดลองนี้ยังไม่รวมประเด็นเรื่องไอกรดที่เกิดขึ้น (ตอนเช็ด กับตอนล้าง อันไหนมีไอกรดมากกว่ากันคะ แต่มันสังเกตได้ไหมนี่ ลูกชิ้นลูกเดียวเอง) แล้วถ้าวิธีเช็ดมีเงื่อนไขเรื่องแห้งไม่แห้งและชนิดของกรด แล้วมันจะเอาบอกคนทั่วไป ใช้ในการปฐมพยาบาลได้ยังไง ถือเป็นจุดอ่อนของเทคนี้อย่างแรง นึกถึงตอนที่ต้องสอนตาสีตาสาชาวนาไทยเรื่องแยกชนิดกรด กับนิยามคำว่าแห้งสนิทดูสิ และย้ำอีกที กรดที่เอามาสาด เป็น unknown สำหรับคนโดนแน่ๆ ดังนั้น การปฐมพยาบาลต้องครอบจักรวาลคะ จากคุณ : :) - [ 25 ส.ค. 48 20:52:10 A:unknown X:130.15.126.81 TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 159 Hmm ทำไมเป็นห่วงเรื่องเอาไปล้างน้ำแล้วกลัวปฏิกิริยาคายความร้อน ทั้งๆที่ร่างกายมันก็ประกอบไปด้วยน้ำตั้งเยอะ อย่างไรกรดก็ไปทำปฏิกิริยาได้อยู่แล้ว ยิ่งถ้าไปเช็ดๆแล้วผิวชั้นนอกๆหลุดไปละก็ พวกintercellular fluid ไหลมาเต็มๆ อีกนิด ของเหลวภายในcell ก็น้ำเกือบทั้งนั้น ทำปฏิกิริยาได้อยู่แล้ว (กรดพวกนี้น่าจะเป็นสารละลายHypertonic น้ำไหลออกจากcell อยู่แล้ว) แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 48 21:10:51 จากคุณ : KL - [ 25 ส.ค. 48 20:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ชอบกระทู้นี้มากเลย ได้ประโยชน์ดีจัง ถึงแม้แต่ละคนจะแสดงความเห็นไปคนละทางสองทาง แต่มันก็ทำให้ทุกคนตระหนักเรื่องการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องมากขึ้น และนำความรู้จากตำรามาทดลองใช้จริงๆ ไม่ใช่ปล่อยให้มันอยู่แต่ในตำรา คุณ จขกท. จะน้อยใจไม๊นะ อย่าเพิ่งน้อยใจนะคะ จริงๆต้องขอบคุณคุณมากๆ ที่ตั้งหัวข้อนี้ขึ้นมา เราได้ความรู้จากกระทู้นี้มากเลย ยังมีคุณ Practical x 2 ด้วย ที่ช่วยทำการทดลองให้ดู ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : mamuai - [ 25 ส.ค. 48 21:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ถึงจะอายุมากแล้ว แต่หัวยังไม่ล้าน ไม่ขี้น้อยใจหรอก ขอบคุณมากที่มีน้ำใจ เพิ่งนึกได้ว่า มีที่นึงที่น่าจะไปถามได้ คิดว่าน่าจะทำให้ท่านทั้งหลายเชื่อถือได้ สถานศึกษาเคมีปฏิบัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทย์ฯ จะโทรไปหรือไปเองเลย ไปถามอาจารย์และน้องๆที่เรียนอยู่ ว่าที่ถูกต้อง ต้องทำยังไง ที่นี่ชื่อก็บอกอยู่แล้ว เคมีปฏิบัติ ไม่ใช่อ่านจากตำราอย่างเดียว ได้คำตอบยังไงช่วยมาโพสต์ด้วยนะครับ จากคุณ : จขกท. - [ 25 ส.ค. 48 21:54:49 A:61.90.21.235 X: TicketID:106521 ]

ความคิดเห็นที่ 162 #151 มันคือน้ำยาล้างห้องน้ำชนิดกรด HCl ไงครับ เทใส่พื้นแล้วควันโขมงเลย จากคุณ : Conan-dum - [ 25 ส.ค. 48 22:19:03 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ผม 139 นะคับ ผมว่าควรจะ 1. เอาผลมา ใครเคยเห็นจริง 2. บอก รายละเอี่ยด สถานะ 3. ทุกๆท่านที่มีความรู้(จากเทกซ์เล่มเดียวๆกันเนี่ยเนอะ) "ก็ใช้ความรู้ทฤษฏีต่างๆ มาอธิบาย จากผลการทดลอง" ดีกว่าป่าวอะคับ เพราะรู้สึก(เอาเอง)ว่า ถ้าเอาทฤษฏีต่างๆ มาตราฐานต่างๆ มาดูอย่างเดียวก็ มันก็น่าจะเท่านั้นนะคับ เพราะ รู้กันทุกคนแหละคับก็มันมีให้โหลดดูเองนี่นา ถ้าเชื่อตามแล้วมันจะมีปัญหาได้ไงล่ะคับ ที่มีปัญหามาคุยกันเพราะ เจอวิธีที่มันไม่เหมือนในมาตราฐานไงคับ เราก็ต้องมาช่วยกัน ใช้ความรู้ที่มี หาความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นไงคับ ว่างี้กันป่าวอะคับ --ความเห็นส่วนตัวผมนะคับ มันไม่ตรงใจใครก็อย่าโมโหนะคับ คนดุเยอะจัง-- จากคุณ : คนใจอ่อน - [ 25 ส.ค. 48 23:11:55 A:221.128.116.159 X: ]

ความคิดเห็นที่ 164 คุณ 144 คับ เพิ่มคับ แลบที่ผมโดน ทั้งหมดนั้น ติดแอร์คับ แล้วโดนที่ นิ้วตอนหงายมือคับ จากคุณ : คนใจอ่อน พิมไทยช้าอังกฤษช้ามาก - [ 25 ส.ค. 48 23:17:59 A:221.128.116.159 X: ]

ความคิดเห็นที่ 165 ไม่มีความรู้อะไรกับเค้าหรอกนะคับ แต่สงสัยว่า ถ้าสมมุติว่า โดนแล้วใช่มั๊ยคับ ไม่พูดถึง ซับไม่ซับ นะคับ ข้ามไปที่น้ำ น้ำฝักบัว แรงๆ จะทำให้ เนื้อหลุดมั้ยอะคับ? สมมุตเราโดนแล้วก็ ตกใจๆนะคับ ก็เลยอยากจะล้างเร็วๆ เลยเปิดแรงๆไรงี้ จากคุณ : มะม๊าว - [ 26 ส.ค. 48 00:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 166 แล้วตกลงผลสรุปว่าไงครับ  แล้วผมว่าเนื้อคนกับลูกชิ้นมันไม่เหมือนกันนะ ทางที่ดีเอาเนื้อสัตวดิบ์มาทดลองน่าจะเหมือนกว่ามั้ยครับ อย่างไรก็ตามขอบคุณอาจารย์มากครับที่อุตส่าห์สละเวลามาทดลอง แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 48 01:09:04 จากคุณ : praphrut608 - [ 26 ส.ค. 48 01:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 167 ไปเจอรูปน่าสนใจ เกี่ยวกับกลไกที่สารเคมีทำลายผิวหนัง คนมีอมยิ้มเอาลงให้ด้วยนะคะ จะแปะลิ้งค์ไว้ อันแรก ทำลายโดยการ oxidation http://www.burnsurgery.org/Modules/initial/part_two/images2/oxidizing_agents.jpg 2 ทำลายโดยการ corrosion http://www.burnsurgery.org/Modules/initial/part_two/images2/corrisives.jpg 3 ทำลายโดยการ protoplasmic poisons http://www.burnsurgery.org/Modules/initial/part_two/images2/protoplasmic_poison.jpg จากคุณ : :) - [ 26 ส.ค. 48 01:44:29 A:unknown X:130.15.126.81 TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 168 เนื้อลูกชิ้นกับผิวหนังคนเป็นๆ ไม่เหมือนกันอยู่แล้วครับ ตอนนี้เป็นการทดลองกับวัสดุที่หาได้ง่ายรอบตัวไปก่อน ถึงจะใช้หนังหมูแต่ก็ไม่ใช่ผิวหนังที่มีชีวิต ยังต้องดูเรื่อง ผลที่มีต่อผิวหนังในระยะยาว เช่น การเกิดแผลเป็น, ระดับความเจ็บปวดหลังจากปฏิบัติแต่ละวิธีแล้ว เป็นต้น กรดทำปฏิกิริยารุนแรงกับแป้งแน่นอนครับ ลำดับต่อมา เป็นไขมัน (ในกรณีการทดลองกับน้ำมันพืช) และโปรตีน ตามลำดับ องค์ประกอบผิวหนังคนมีโปรตีนเป็นส่วนมาก ปฏิกิริยาจึงไม่น่ารุนแรงเท่าลูกชิ้น ถ้าไม่มี live subject ทดลอง สรุปแน่นอนไม่ได้ครับ นิยามคำว่าแห้งสนิทคือ equilibrium moisture content เท่ากับ 0% ครับ คือมวลแห้งนั่นเอง เหตุที่ไม่ใช่สภาวะ เดียวกัน เพราะตามความคิดเห็นของ จขกท การมีน้ำหรือ ไม่มีน้ำอยู่ จะมีผลต่อความรุนแรงของกรดที่มีต่อผิวหนัง เนื่องจาก heat of dissolution (heat of solution) แต่ การทดลองนี้ไม่เห็นผลชัดเจน เพราะสังเกตด้วยสายตา ในระยะเวลาสั้นๆ กับเนื้อแปรรูปที่ไม่มีชีวิต ไม่มีการสมาน แผลตัวเองหลังจากนั้น โดย platelet จากคุณ : Practical x 2 - [ 26 ส.ค. 48 03:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 169 อาจารย์แพรก ลองเอาของจริงมาทดลองมั้ยครับ เช่น ซากหนูเพิ่งตายใหม่ๆ อะไรอย่างนั้น จะได้ไม่บาป จากคุณ : praphrut608 - [ 26 ส.ค. 48 05:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 170 อันแรก ทำลายโดยการ oxidation http://www.burnsurgery.org/Modules/initial/part_two/images2/oxidizing_agents.jpg 2 ทำลายโดยการ corrosion http://www.burnsurgery.org/Modules/initial/part_two/images2/corrisives.jpg 3 ทำลายโดยการ protoplasmic poisons http://www.burnsurgery.org/Modules/initial/part_two/images2/protoplasmic_poison.jp จากคุณ : แมวม่อน - [ 26 ส.ค. 48 07:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 171 ^ ^ ^ 3 ทำลายโดยการ protoplasmic poisons http://www.burnsurgery.org/Modules/initial/part_two/images2/protoplasmic_poison.jpg จากคุณ : แมวม่อน - [ 26 ส.ค. 48 07:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 172 กรดกัดยาง น่าจะเป็นอะซิติกแอซิดนะครับ ที่ใช้ทำให้น้ำยางพารา กลายเป็นยางแผ่นน่ะ จากคุณ : อะธีลาส - [ 26 ส.ค. 48 07:49:30 ]

ความคิดเห็นที่ 173 เกิดเป็นหนูทดลอง -_- จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 26 ส.ค. 48 09:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 174 อืม เข้ามาสองรอบแล้ว ยังอ่านไม่จบเลย เดี๋ยวมาอ่านใหม่ จากคุณ : OII - [ 26 ส.ค. 48 10:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 175 ดูการทดลองของจานแพรกฯแล้ว อ่านของ จขกท. ทั้งหมดแล้ว ผมก็ยังจะบอกว่า ใช้น้ำครับ ใช้เยอะๆ ให้ไหลต่อเนื่อง เวลาเช็ด มันลดปริมาณกรด แต่ไม่ได้ลดความเข้มข้น กรด 95% เช็ดไปเช็ดมามันก็ยังเป็น 95% เหมือนเดิม วิธีมาตรฐานก็คือวิธีที่ได้พิจารณาแล้วว่าใช้ได้กับเหตุการณ์ส่วนใหญ่ ซึ่งคู่มือทุกที่ที่เคยเห็นก็ระบุตรงกันว่า ใช้น้ำ ไม่เคยเห็นว่าที่ไหนให้เช็ดเลย เน้นนะ ไม่เคยเห็นว่าที่ไหนให้เช็ดเลย มีแต่บางที่ยังเขียนว่า ให้ไปถอดเสื้อผ้า ใต้ฝักบัว ซะด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าจะไปเลอะบริเวณอื่นๆอีก ที่จขกท. พยายามเน้นว่า พวกเชื่อ MSDS เป็นพวกอ่านแต่ตำรา สู้คนที่ปฏิบัติไม่ได้ => คคห. 7,41 แถม 161 ว่าไปโน่น "สถานศึกษาเคมีปฏิบัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทย์ฯ จะโทรไปหรือไปเองเลย ไปถามอาจารย์และน้องๆที่เรียนอยู่ ว่าที่ถูกต้อง ต้องทำยังไง ที่นี่ชื่อก็บอกอยู่แล้ว เคมีปฏิบัติ ไม่ใช่อ่านจากตำราอย่างเดียว" ผมเชื่อว่าหลายคนที่ตอบในนี้ เป็นนักปฏิบัติ ผมก็เคยเป็นนักปฏิบัติ แต่เป็นนักปฏิบัติที่เชื่อตำราในเรื่องคอขาดบาดตายอย่างนี้ บางเรื่องที่ไม่ซีเรียสก็เลี่ยงบาลีไม่ทำตามคู่มืออยู่บ่อยๆ อย่าแขวะกันเลยน่า โตๆกันแล้ว จากคุณ : alan the lamb - [ 26 ส.ค. 48 10:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 176 ผมว่า คุณจขกท เขาก็อธิบายไว้ชัดนี่นะว่า.. ในกรณีมีน้ำเยอะๆ เช่นสระน้ำ ก็โดดลงสระ เลย เป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ประเด็นคือ ถ้าโดนสาดในสถานที่ที่ไม่มีน้ำมากๆ อย่างเช่นริมถนน หน้าตึก ใจกลางเมืองเช่นนี้ การหาผ้าเช็ด อาจจะง่ายกว่าหาแหล่งน้ำเยอะๆ แต่ที่เป็นสาระสำคัญอีกหนึ่งคือ "ห้าม" ใช้ผ้าเปียก มาเช็ด หรือเอาน้ำปริมาณน้อยๆ มาล้าง เช่นอาจจะเอาน้ำขวด 500cc มาราดๆๆ อย่างนี้ จากเบาจะกลายเป็นหนัก ก็เท่านั้น ผมเข้าใจถูกไหมครับ จากคุณ : ดำเกิง - [ 26 ส.ค. 48 12:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 177 อ่านทู้นี้   แล้วพอดีเมื่อวานเรียนแลบเคมี เลยลองไปถามอาจารย์เรื่องการปฐมพยาบาลคนที่โดนกรดเข้มข้นสูงๆ เท่าที่สมองอันน้อยนิดจะจำได้ก็สรุปได้คร่าวๆดังนี้ค่ะ 1.โดยทั่วไปจะใช้น้ำปริมาณมากๆล้าง อย่างน้อย15นาที   ซึ่งส่วนนี้อาจารย์ก็เห็นด้วยอย่างที่จขกท.บอกนั่นก็คือกรดเข้มข้นสูงทำปฏิกิริยากับน้ำจะเกิดความร้อน  แต่ในกรณีที่สาดโดนผิวหนังคนอาจแตกต่างจากความร้อนที่เกิดจากกรดผสมกับน้ำในบีกเกอร์  ความร้อนในบีกเกอร์กรด+น้ำจะสูงกว่าเพราะปริมาตรของกรดกับน้ำมีจำนวนมากและอยู่ในพื้นที่จำกัด  แต่กับผิวหนังคน กรดจะติดอยู่กับผิวหนัง เมื่อเอาน้ำราดลงไปความร้อนที่เกิดขึ้นจะน้อยกว่าน้ำ+กรดในบีกเกอร์  และน้ำปริมาณมากๆจะเป็นตัวพาความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาได้   2.ในห้องแลบจะใช้สารละลายโซเดียมคาร์บอเนต(Na2CO3,โซดาแอช)ซึ่งมีฤทธิ์เป็นเบสอ่อนๆ ล้าง  เบสจะไปทำปฏิกิริยากับกรดเข้มข้นทำให้ฤทธิ์ของกรดลดลง  เมื่อลดความระคายเคืองไปบ้างแล้วจึงจะใช้น้ำล้างอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเรื่องการใช้ผ้าซับ ดูเหมือนจะทำให้เกิดความระคายเคืองแก่ผิวหนังมากกว่าค่ะ ด้วยความเคารพ... ปล.แก้ไขคำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 48 20:00:58 จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 26 ส.ค. 48 19:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 178 1. ปิ๊งป่อง ... ถูกต้องแล้วคร้าบ ....  HCl 22% มีขายที่ห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง ภายใต้ชื่อ น้ำยาขัดห้องน้ำ !!!    แต่ขอบอกว่า ที่วางใกล้ๆกัน ในบางห้าง .. ดุเดือดกว่า HCl อีกครับ .. 100% NaOH ซึ่งออกฤทธิการทำลายเนื้อเยื่อที่ยังมีชีวิต ดีกว่า H2SO4 อีก 2. ทำไม NaOH ดีกว่า? เพราะ H2SO4 ถ้าเข้มข้น ... ทำลายเนื้อเยื่อโดยดูดน้ำออกจาก cell (ปฏิกิริยาฟิอสิกส์) ถ้าเจือจางถึงจะทำปฏิกิริยาเคมี  กรณีเข้มข้น .. เมื่อดูดน้ำออกจาก cell ... ไหม้เกรียม ส่วนที่เหลือคือ คราบคาร์บอนของส่วนประกอบ cell ที่เคยมีน้ำ และไขมัน  ไขมัน จะป้องกันไม่ให้ H2SO4 ลงไปในเนื้อเยื่อชั้นลึกๆได้  แต่ NaOH ทำลายเนื้อเยื่อ โดยการเกิด protein precipitation และละลายไขมันได้ด้วย การเกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ จึงลึกลงได้มาก จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 26 ส.ค. 48 20:28:00 ]