โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 กันยายน 2548 19:00 น.
จากกรณีที่กองบัญชาการทหารสูงสุด ได้ทำหนังสือถึงบริษัท กูเกิล เจ้าของเว็บไซต์ Google.com ร้องขอให้บริษัทกูเกิลปรับลดรายละเอียดของภาพถ่ายดาวเทียมที่ให้บริการผ่านทางเว็บไซต์ http://earth.google.com/ ลง เนื่องจากภาพดังกล่าวเผยให้เห็นสถานที่สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยได้นั้น ผู้เชี่ยวชาญที่คลุกคลีอยู่ในวงการมองว่ามีความเป็นไปได้น้อยมาก
"ไม่คิดว่าทางกูเกิลจะทำให้ อาจจะทำ หากมีผลกระทบในเชิงพาณิชย์" แหล่งข่าวกล่าว
เขาให้เหตุผลว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก แผนที่ที่ทางกูเกิลเอามาใช้ ตอนนี้เรียกได้ว่ามีความละเอียดน้อยแล้ว และเป็นความละเอียดในระดับที่หาได้โดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะจากกูเกิลเท่านั้น
ปัจจุบันมีดาวเทียมถ่ายภาพความละเอียดสูงที่ให้บริการในเชิงพาณิชย์อยู่ 3 ดวง แต่ละดวงสามารถถ่ายภาพได้ละเอียดในระดับเซนติเมตร คือสามารถเห็นชื่อหนังสือที่เราอ่านอยู่ได้อย่างชัดเจน แม้จะถ่ายจากในอวกาศ แต่ละดวงโคจรไปทั่วโลก และมีทีมงานประจำอยู่ในหลายประเทศ ที่สำคัญคือสัญญาณภาพที่ส่งมาจากดาวเทียมจะไม่มีการเซ็นเซอร์ เพราะไม่สามารถทำได้ในกระบวนการดังกล่าว การเซ็นเซอร์จะเกิดขึ้นในกระบวนการประมวลผลหลังจากรับสัญญาณมาจากดาวเทียมแล้ว
"เหมือนภาพที่มีการเซ็นเซอร์ คือมีภาพมาก่อน แล้วจึงมาใส่เซ็นเซอร์ทีหลัง" แหล่งข่าวกล่าวและว่า "เพราะฉะนั้น ภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูงๆจึงมีอยู่เยอะมาก เยอะกว่ากูเกิลเยอะ"
นี่ยังไม่นับรวมดาวเทียมโจรกรรมหรือดาวเทียมทหารอีกจำนวนนับไม่ถ้วน ที่มีความละเอียดสูงกว่านี้อีก ในระดับที่เรียกว่าเห็นตัวหนังสือในหน้าหนังสือพิมพ์ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว และดาวเทียมพวกนี้โคจรอยู่บนอวกาศมานานแล้ว
"ต่อให้ไม่มีกูเกิล ผู้ก่อการร้ายหรือผู้ไม่หวังดีต่อประเทศก็สามารถหาแผนที่ความละเอียดสูงได้อีกหลายช่องทาง" แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่กูเกิลให้บริการภาพถ่ายดาวเทียมแล้ว ประเทศไทยจะไม่มีความมั่นคง แต่อยู่ที่ว่าจะนำเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเหล่านี้มาประยุกต์ใช้อย่างไรให้เป็นประโยชน์สูงสุดกับประเทศมากกว่า
ตัวอย่างเช่น นำมาใช้ประกอบการวางแผนรับมือน้ำท่วม วางแนวกั้นน้ำ หรือประกอบการวางแผนรับมือกับคลื่นยักษ์สึนามิ ให้รู้ว่าแรงสั่นสะเทือนเท่านั้น คลื่นจะมาสูงเท่านี้ เมื่อเข้าสู่ฝั่งแล้วจะซัดลึกเข้าไปบนบกเป็นระยะเท่านี้ เพื่อจะได้อพยบคนให้ไปอยู่ในระยะที่ปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที เป็นต้น
"เป็นความรับผิดชอบของผู้ผลิตแผนที่ที่จะต้องไม่เผยแพร่ภาพส่วนที่สถานที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เช่น พระราชวังและฐานที่มั่นทางการทหาร และต้องไม่ให้ภาพเหล่านั้นตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี" แหล่งข่าวกล่าว
กูเกิล เอิร์ธ เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2005 ขณะที่ทั่วโลกตื่นเต้นกับนวัตกรรมใหม่ แต่ก็มีหลายกลุ่มที่กังวลว่า นวัตกรรมนี้จะส่งกระทบด้านความมั่นคง
องค์การวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งประเทศออสเตรเลีย (Australian Nuclear Science and Technology Organisation; ANSTO) ได้เรียกร้องให้กูเกิลเซ็นเซอร์ภาพโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ ขณะที่ประเทศเยอรมนีก็ออกแสดงความกังวลผ่านสื่อมวลชนเช่นกัน หรือแม้แต่กองทัพสหรัฐอเมริกาเองก็เกรงว่าบริการกูเกิลเอิร์ธจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของฐานที่มั่นของกองทัพสหรัฐฯในอิรัก ส่วนประเทศเกาหลีใต้เรียกร้องให้กูเกิลเซ็นเซอร์ภาพสถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งทำเนียบประธานาธิบดีและฐานทัพทหาร และล่าสุดคือประเทศไทยที่ขอให้ลดความละเอียดภาพสถานที่สำคัญลง
อย่างไรก็ตาม กูเกิลได้ออกมาอธิบายเมื่อเดือนสิงหาคม 2005 ว่า กูเกิลเอิร์ธไม่กระทบต่อความมั่นคงแต่อย่างใด เพราะภาพที่กูเกิลใช้เป็นภาพเก่าที่มีการเผยแพร่อยู่แล้ว และถึงแม้กูเกิลจะปิดบริการไป แต่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตก็ยังสามารถหาภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูงจากเว็บไซต์อื่นได้อยู่ดี
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9480000121810
จากคุณ :
Hales
- [
7 ก.ย. 48 22:42:03
]