ความคิดเห็นที่ 1 กระดูกเชิงกราน ของผู้หญิงจะช่องกว้างกว่าเพื่อให้เด็กออกมาได้ จากคุณ : axquest - [ 25 พ.ย. 48 22:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รูปประกอบ ทดลองวาด อิอิ จากคุณ : egotech - [ 26 พ.ย. 48 00:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วาดรูปแล้ว ทำไมรูปไม่ขึ้น จากคุณ : egotech - [ 26 พ.ย. 48 00:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ... แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 48 01:55:23 จากคุณ : I'AM - [ 26 พ.ย. 48 00:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยเรียนตอนปีสองครับ รู้สึกจะหลายจุด แต่ที่จำได้ก็มีเชิงกรานเนี่ย ตอนสอบกริ๊ง เค้าก็มีโครงกระดูกมาแขวนนะครับ แล้วถามว่าเพศอะไร ตอนนั้นเห็นตัวเล็กมากๆ เลย ตอบว่า หญิงครับ พอสอบเสร็จเพิ่งมานึกได้ว่า อาจารย์ต้องเอาผู้ชายตัวเล็กๆ หรือไม่ก็เด็กมาออกแน่ๆ สมน้ำหน้าตัวเองตอนนั้นไม่ตั้งใจเรียน จากคุณ : หัวใจเถื่อน - [ 26 พ.ย. 48 01:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เอาเท่าที่จำได้นะครับ กระดูกเชิงกราน ( Pelvic Bone ) หญิง - กว้าง ค่อนข้างกลม ส่วนของramiจะทำเป็นมุมป้าน ชาย - แคบกว่า และ เป็นรูปหัวใจ ramiเป็นมุมแหลม กระดูกต้นขา ( Femur ) หญิง - ส่วนของ head neck และ shaft จะทำเป็นมุมป้าน ชาย - มุมแหลมกว่า กะโหลก ( Skull ) หญิงหน้าผากจะแบนกว่าชาย ซึ่งจะโค้งมากกว่า จากคุณ : Medengin@ - [ 26 พ.ย. 48 01:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หน้าผากผู้หญิงจะมีโหนก ไง  ใช้ได้ป่าวคะ เชิงกราน สะโพก  ว้าวๆๆๆๆ จากคุณ : นู๋นัน - [ 26 พ.ย. 48 03:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Pelvic ก็ใช้ดูได้ครับตามที่ คห. บนๆตอบไว้ แต่มันยุ่งยากเสียเวลา เวลาชันสูตรพลิกศพอาศัยข้อแตกต่าง ของกระดูกโหนกคิ้วตรงขอบตาบนอ่ะครับ ของผู้ชายมันจะไม่เรียบ จะนูนแล้วก็ขรุขระๆ ของผู้หญิงจะเรียบแปร้ จากคุณ : จ่าพิชิต ขจัดพาลชน - [ 26 พ.ย. 48 03:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กระโหลกผู้ชายแถวๆคิ้วหนา สงสัยสมัยยุคหินเอากระบองตีหัวกันมากจัด เลยวิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน กระโหลกแถวคิ้วหนาๆ เวลาตีจะได้ไม่เจ็บมาก ที่ occipital bone ผู้ชายมี external occipital protuberance แล้วผู้หญิงคางแหลม มั้ง... จากคุณ : - -a - [ 26 พ.ย. 48 07:17:10 A:4.155.244.14 X: TicketID:071236 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผู้ชายจะมีกระดูก os penis  ผู้หญิงไม่มี จากคุณ : ดังชินจอ - [ 26 พ.ย. 48 08:33:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Adam มีกระดูกซี่โครงน้อยกว่า EVE หนึ่งซี่ จากคุณ : Cyber Sage - [ 26 พ.ย. 48 09:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 #11 จริงๆ แล้วมันเท่ากันครับ จากคุณ : ikkyu - [ 26 พ.ย. 48 09:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ค่อยแน่ใจ แต่จำได้ว่า ตรงก้นกบของผู้ชายจะมีติ่งแหลมออกมา นัยว่าเป็นอดีตของหางที่หดหายไป แต่ผู้หญิงไม่มี ท่านใดมีข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เชิญแก้ไขหรือยืนยันครับ จากคุณ : Kuliyakin - [ 26 พ.ย. 48 12:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #9 ฮ่าฮ่า ไอเดียเป็นเลิศ ผู้หญิงน่าจะกระโหลกหนาด้วยมะ เพราะโดนผู้ชายเอาตะบองฟาดหัว ก่อนลากเข้าถ้ำ จากคุณ : ksk (ksk) - [ 26 พ.ย. 48 15:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ว้าวววววววววววววววววววววววววววววว จากคุณ : Elrond - [ 26 พ.ย. 48 19:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขำ 14 จากคุณ : กังซี - [ 26 พ.ย. 48 23:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แล้วดูความหนาของกระดูกด้วยได้ป่าว เพราะรู้สึกว่า ผู้ชายจะมีกระดูกใหญ่กว่าผู้หญิงอ่ะ จากคุณ : @FURBY@ - [ 27 พ.ย. 48 13:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตามลักษณะภายนอกผู้หญิงมีจุดทางโครงสร้างที่ต่างกับผู้ชายประมาณนี้ โหนกคิ้ว สันจมูก ช่วงโหนกแก้มสูง ช่วงกรามล่างกางน้อยกว่า  ริมฝีปากที่เรียวกว่า ช่วงคอที่เรียว ช่วงไหล่ที่แคบและความลาดของไหล่ ระดับของสะดือที่สูงกว่า ตะโพกที่กว้างกว่าไหล่ผายกว่า ก้นที่งอนกว่าและใหญ่กว่า(ความลาดของก้นกบ) ช่วงขาที่เรียวกว่า และปุ่มโปนข้อต่อต่างๆ ที่ดูอ่อนโยนกว่า ผมว่าทั้งหมดนี้มีผลจากโครงสร้างภายใน คือกระดูกทั้งสิ้น ยิ่งแสดงลักษณะเด่นชัดเท่าไร ก็ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้นเท่านั้น (ไม่นับรวมหน้าอกและอวัยวะเพศ) จากคุณ : สามวาฯ - [ 27 พ.ย. 48 21:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รีบเอาคำตอบมั๊ยเอ่ย ตอนนี้ยังอยู่ที่ทำงานน่ะค่ะ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วจะรีบเข้ามาตอบให้นะคะ . . ปล. พอดีถามตรงกับด้านที่เรียนมาและทำงานอยู่น่ะค่ะ เลยมีข้อมูลเยอะหน่อย   จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 28 พ.ย. 48 19:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่รีบแล้วครับ งานจบแล้ว พูดไปซะเยอะเลย ออิ น้องชมใหญ่เลยว่าเก่งจังรู้เยอะ ก็ดูดมาจากห้องนี้เกือบทั้งนั้นแหละ ฮ่าๆ จากคุณ : arata_arty - [ 28 พ.ย. 48 22:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กลับมาถึงบ้านแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าต้องการข้อมูลละเอียดระดับไหน ถ้าเอาแค่ไปพูด ก็จะเลือกใช้ภาษาชาวบ้าน ๆ อธิบายละกันนะคะ จะพยายามไม่ใช้ศัพท์เทคนิคมากเกินไป เดี๋ยวจะยิ่งงไปกันใหญ่ . . หลัก ๆ แล้วการแยกเพศจากกระดูกสามารถดูได้จากทั้งกระโหลก(Skull) กระดูกเชิงกราน(Pelvis) กระดูกก้นกบ(Sacrum) เริ่มจากกระโหลกก่อนละกันนะคะ .. http://www.bartleby.com/107/46.html - สันคิ้ว(Supra-orbital ridge) อันนี้คุณพูดไปแล้ว ซึ่งก็ถูกต้องค่ะ ของผู้ชายจะนูนกว่าของผู้หญิง และจะเห็นเป็นสันขึ้นมาชัดเจนด้วย - หน้าผาก(Frontal eminence) ของผู้หญิงจะนูนกว่าของผู้ชาย ของผู้ชายจะออกลาด ๆ ไปทางด้านหลังหน่อย - ขอบกระบอกตา(Orbital rim) เมื่อลูบดู ของผู้ชายจะเป็นมน ๆ ของผู้หญิงจะเป็นคม ๆ - ที่หลังศรีษะ ลองเอามือลูบดู ส่วนที่นูนที่สุดน่ะค่ะ(Inion) ของผู้ชายจะเห็นเป็นปุ่มชัดเจน บริเวณโดยรอบค่อนข้างขรุขระเพราะเป็นรอยเกาะของกล้ามเนื้อ ของผู้หญิงจะค่อนข้างเรียบกว่า - อันนี้ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แต่มันเป็นส่วนของกระดูกที่ถ้าเอามือคลำดูจะอยู่ตรงหลังใบหูพอดี (Mastoid Process) ถ้าเป็นของผู้ชายจะใหญ่ ถ้าเป็นของผู้หญิงจะเล็กกว่า - และบางคนก็บอกว่า รอยเชื่อมต่อของกระโหลกที่มีลักษณะเป็นหยัก ๆ นั้น(Suture) ของผู้ชายรอยหยักจะใหญ่และหยาบกว่า ของผู้หญิงจะเล็กและค่อนข้างละเอียด .. อันนี้ไม่เสมอไปและไม่ confirm นะคะ กระดูกกราม จะมี 2 ที่ด้วยกัน - ที่แรกคือตรงคาง(Chin) ของผู้ชายจะออกเป็นเหลี่ยม ๆ แต่ของผู้หญิงจะออกเป็นมน ๆ - ที่ที่ 2 ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรในภาษาทั่วไป เอาเป็นว่าลองเอามือลูบจากคางไปด้านหลัง กระดูกกรามสิ้นสุดตรงไหนก็ตรงนั้นแหล่ะค่ะ .. ของผู้ชายจะกางออกกว่าของผู้หญิงเล็กน้อย กระดูกเชิงกราน - แอ่งกลม ๆ ที่เป็นที่อยู่ของหัวกระดูกต้นขา(Acetabulum) ของผู้ชายจะใหญ่ - มุมใต้กระดูกบริเวณหัวหน่าว (Sub-pubic angle) ของผู้ชายจะเป็นมุมแหลม ของผู้หญิงจะเป็นมุมกว้างกว่า - Greater sciatic notch ของผู้ชายจะเป้นรูปคล้ายตัว J ของผู้หญิงจะเป็นรูปคล้ายตัว U กระดูกก้นกบ .. http://www.bartleby.com/107/24.html - เมื่อวัดความยาวของกระดูกก้นกบแล้ว (ความยาว Ala of sacrum ทั้ง 2 ข้าง + ความยาวของ Body of sacrum) ความยาวของ Body of sacrum ของผู้ชายจะยาวประมาณ 1/2 ของความยาว Sacrum ทั้งหมด ในขณะที่ของ Body of sacrum ของผู้หญิงจะยาวเพียงแค่ประมาณ 1/3 ของความยาว Sacrum ทั้งหมดเท่านั้น เมื่อเอารายละเอียดของกระดูกเชิงกรานและกระดูกก้นกบมาบวกกันแล้ว จะทำให้ Pelvic inlet หรือทางเข้าของกระดูกเชิงกราน (นึกถึงภาพเมื่อมองแบบ top view) ของผู้ชายจะเป็นรูปหัวใจ เนื่องจาก Body of Sacrum ใหญ่ และของผู้หญิงจะเป็นวงรี เนื่องจาก Body of sacrum เล็ก http://www.bartleby.com/107/58.html . . นี่คือรายละเอียดที่พอจะอธิบายได้ค่ะ คือจริง ๆ มันยังมีอีก แต่มันจะลึกกว่านี้เยอะ ๆ ก็เลยเลือกที่จะยังไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวจะยิ่งงงไปกันใหญ่ ความจริงแล้ว กระดูกนอกจากจะบอกเพศได้แล้ว ยังสามารถบอกอายุ บอกเชื้อชาติ บอกส่วนสูงโดยประมาณ บอกโรคบางโรคที่เคยเป็นได้อีกด้วยนะคะ ถ้าใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ลองเข้าไปตาม link นี้เลยค่ะ .. http://www.bartleby.com/107/ เลือกดูตรงหัวข้อ Osteology ซึ่งจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับกระดูกโดยเฉพาะ หรือไม่งั้นก็ลอง search หาคำว่า Osteology ใน Google ดูก็ได้ค่ะ จะได้ข้อมูลอีกเยอะเลย จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 28 พ.ย. 48 23:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอบ คห.13 คิดว่าคงจะพูดถึงกระดูก coccyx อยู่นะคะ ความจริงแล้วกระดูก coccyx มีอยุ่ในร่างกายมนุษย์ทุกคนค่ะ เป็นกระดูกที่ต่อลงไปจากกระดูก sacrum ลักษณะจะเป็นกระดูกเล็ก 2-3 ข้อต่อกัน .. ถ้าในสัตว์ กระดูกตรงนี้ก็จะยาวออกไปเป็นหาง . . ตอบ คห.17 ความจริงแล้ว ความหนาหรือความใหญ่ของกระดูกไม่สามารถบอกอะไรเราได้มากค่ะ ลองนึกถึงว่าถ้าเป็นกระดูกของผู้หญิงที่สูง 180 กับกระดูกที่เป็นของผู้ชายสูง150 ดูซิคะ ส่วนใหญ่ เราจะแยกเพศโดยใช้กระดูกที่พูดถึงใน คห. ข้างบนก่อนค่ะ แล้วถึงจะมาดูต่อตรงส่วนนี้ สิ่งที่สำคัญกว่าความหนาหรือความใหญ่ของกระดูกก็คือพื้นผิวของกระดูกที่มีกล้ามเนื้อมายึด ถ้าขรุขระมาก ก็ยิ่งแสดงว่าถูกใช้งานมาก ถ้าในปกติแล้ว กระดูกของผู้ชายก็จะขรุขระกว่ากระดูกผู้หญิงอยู่แล้วใช่มั๊ยคะ ถ้าจะคิดอย่างงั้นก็ถูก แต่ถ้าในกรณีที่เป็นกระดูกของผู้ชายที่วัน ๆ ไม่หยิบไม่จับอะไรเลย นั่งทำงานอยู่ใน office ตลอดชีวิต กับกระดูกของผู้หญิงที่ทำอาชีพกรรมกร กระดูกของผู้หญิงที่เป็นกรรมกรก็จะขรุขระกว่า เพราะฉะนั้นก็ตามที่อธิบายเลยค่ะ ว่าอันนี้มันใช้แยกเพศไม่ได้แน่ ๆ แต่อาจใช้เป็นข้อมูลเมื่อเราแยกเพศจากกระดูกส่วนอื่นได้แล้วมากกว่า . . เพิ่มเติมจาก คห. ด้านบนนะคะ คือที่พูดมาทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าเห็นลักษณะใดลักษณะหนึ่งตรงกับที่พูด แล้วก็จะยืนยันได้ว่าเป็นเพศอะไรแน่ ๆ ในการทำงานปกติ จะต้องใช้ลักษณะหลาย ๆ ลักษณะมาประกอบกันค่ะ เมื่อคำตอบเป็นไปในทิศทางเดียวกันแล้วถึงจะยืนยันได้ว่าเป็นเพศอะไร จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 28 พ.ย. 48 23:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอคารวะคุณwhen i'm feeling .. blue สักหลายจอก นับถือที่อธิบายเรื่องวิชาการได้เนียนมาก ทำเรื่องยากให้ฟังง่ายดี  ถ้ามีอาจารย์สอนวิทย์แบบนี้เยอะๆ ผมว่าเมืองไทยเรามีคนเรียนวิทยาศาสตร์เพิ่มอีกไม่ใช่น้อย ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่อุตส่าห์หามาให้ จากคุณ : Kuliyakin - [ 29 พ.ย. 48 09:39:34 ]