ความคิดเห็นที่ 1 >แผนทุกอย่างถูกวางโดยUpline ของเรา และรู้มั๊ยหนึ่งในวิธีที่จะสำเร็จกับแอมเวย์ได้ก็คือต้องเชื่อ > >Uplineจริงๆๆๆ เรามีชีทด้วย ได้มาจากสัมนา มันบ้ามากกกเวย์ แต่ตอนนั้นเราก็เชื่อ > >เพราะเราโดน บิ้ว ทุกวัน จากการไปเฮ้าส์มันคือหนึ่งในวิธีการสะกดจิต หรือ ล้างสมอง หรือ > >อะไรก็ได้ ที่ทำให้เราไม่รับรู้ความจริงจากโลกภายนอก >แม้เพื่อนหรือญาติพ่อแม่ จะบอกอะไรยังไงเราก็ตามเราไม่เชื่อ เราเหมือนถูกผีสิง >เราต้องไปเฮ้าส์ทุกวันเพราะที่นั่นมีคนที่เข้าใจเรามีจุดหมายเดียวกับเรา ต้องการสำเร็จเหมือนเรา > >แล้ววันนึงคนที่หัวเราะเราจะหันมามองเราด้วยความทึ่ง และ ยอมรับเรา ที่เเอมเวย์มีแต่เพื่อนเเท้ > >เป็นครอบครัวนั่นคือสิ่งที่เรารู้สึกได้ ซึ่งเรากำลังจะเล่าแล้วล่ะ > >ว่าต่อไปที่เราค้นพบความจริงเป็นไงเราเริ่มกลายเป็นสาวกแอมเวย์แล้วอย่างเต็มรูป > >แบบทุกๆวัน เราพูดแต่เรื่องแอมเวย์เราใช้ของทุกอย่างที่เป็นแอมเวย์ ยาสีฟัน สบู่ > >น้ำยาล้างจาน แฟ้บ น้ำ อากาศ และทุกอย่างที่แอมเวย์จัดจำหน่าย เช่น > >กระดาษทิชชู่ หลอดไฟฟิลลิปส์ โอรีโอ น้ำมัน ข้าวสาร > >ทุกๆๆอย่างในชีวิตเราคือแอมเวย์ที่เฮ้าส์จะมีการพูดเปลี่ยนเวรกัน > >เราได้รับมอบหมายให้พูดเรื่อง แอมเวย์กับชีวิตประจำวัน ซึ่งตอนนั้นเราเล่าอย่างภาคภูมิใจมาก > >ว่าเราบริโภคทุกอย่างเป็นแอมเวย์จริงๆ เราเสร็จขั้นตอนการซื้อของมาใช้แล้ว > >ด้วยการหมดเงินไปประมาณแสนหนึ่งถ้าจะได้เราเริ่มกลายเป็นดาวดวงใหม่ > >ที่ทุกคนตั้งแต่ อัพไลน์ของอัพไลน์ ต้องมาสนใจเป็นพิเศษ ก็แน่สิ เราสร้างยอดให้เค้าหนิทุกวัน > >เราต้องเข้าเฮ้าส์แล้วพี่อัพไลน์พวกนี้จะเรียกเราวางแผนกลยุทธการขาย > >เค้าเริ่มสอนให้เราชวนคนมาทำ มาสมัครโดยให้เราลิสต์รายชื่อเพื่อนมา ห้า คน > >แล้วชวนมาให้ได้ มาที่เฮ้าส์แล้วเดี๋ยวเค้าจะจัดการให้เอง > >เราชวนเพื่อนสนิทเรามา สอง คน จริงๆชวนเจ็ดแต่มาแค่ สอง สองคนนี้รักเรามาก > >เราก็รู้ว่าเค้ามาเพราะเกรงใจและไม่อยากให้เราเสียใจ เค้ามาฟังๆ โดยที่อัพไลน์เราเป็นคนบรรยาย เราอยู่อีกห้องนึง > >เชื่อมั๊ยว่าคนเป็นสิบๆมาช่วยเราคิดว่าจะทำยังให้เค้าสมัคร มาบอกทริคมากมายช่วยเรา > >บ้างก็บอกว่าให้เค้าจ่ายเงินเลยเพราะเค้ากำลังบิ้วได้ที่ คือกำลังมีอารมณ์ร่วม >ถ้าปล่อยไปพรุ่งนี้มักจะหายจ้อย เรารู้สึกว่าเราต้องทำให้ได้ > >เราต้องเริ่มต้นได้เเล้ว และเป็นจริง เราบังคับเพื่อนเราสองคนให้สมัคร > >โดยเราเค้าว่าลองดูก็ไม่เสียหาย มันดีจริงๆ และเราก็อยากให้เพื่อนรักเราได้เจอในสิ่งดีๆอย่างที่เราเจอ > >เพื่อนเราก็เงียบๆ และก็ตกปากรับคำสมัคร หลังจากสองคนนั้นกลับไป > >ทุกคนต่างมายินดีกับเราในก้าวแรกพร้อมกับคำพูดเด็ด น้องมีเพชรในมือน้องแล้วนะ > >อย่าให้หลุดมือ สองคนนั้นสามารถเป็นเพชรในสายงานน้องได้ > >ขึ้นอยู่กับน้องแล้วนะว่าอยากสำเร็จหรือไม่สำเร็จและแล้ววันนั้นเราก็ได้อยู่วางแผนกับอัพไลน์และอัพไลน์ > >ของอัพไลน์จนดึกวางแผนว่าจะทำยังไงกับเพื่อนสองคนนี่ดีจะทำยังไงให้เค้ามาทำเต็มตัว > >ให้เค้าซื้อเครื่องกรองอากาศ กรองน้ำภายในเดือนนี้ เพราะเราทำยอดไว้เยอะแล้ว > >ถ้ามียอดสองคนนี้มาเพิ่ม เราก็ได้เบรค ก็คือทำยอดทะลุเป้า ได้เลื่อนตำแหน่ง > >ซึ่งทุกคนบอกเราว่าต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้เพราะอีกไม่กี่เปอร์เซนต์เราก็จะเบรคแล้ว > >ก่อนที่เราจะจัดการเพื่อนสองคนของเราที่ยอมสมัครเป็นดาวไลน์เราเราได้ถูกวางแผนกลยุทธการเยี่ยม > >บ้านเพื่อนๆ เพื่อขายสินค้า โดยUplineเราเป็นคนสอนวิธีให้เราทุกอย่าง > >เริ่มจากจะชวนเค้ายังไง จะทำยังไงให้เค้ายอมให้เราไปสาธิตสินค้า > >อัพไลน์เราบอกว่า เค้าจะจัดการสาธิตให้เองและไปพร้อมเรา เพราะเค้าเก่งแล้ว > >พูดเก่งด้วย ก็แน่สิเค้าเป็นดารานี่ไม่เก่งได้ไง เค้าบอกว่าขอแค่เราโทรไปนัดคนให้ได้ > >ที่เหลือเค้าจัดการเองเราก็เลยโทรไปหาเพื่อนๆ แรกๆเราก็บอกเค้าตรงๆว่าเราจะเค้าไปสาธิตสินค้าแอมเวย์ จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 19:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 >ซึ่งเพื่อนๆก็จะปฎิเสธ อ้างว่าไม่ว่าง ติดนู่นนี่ พ่อแม่เค้าก็ไม่ว่าง อย่ามาเลยเสียเวลา > >เรากลับไปบอกอัพไลน์เรา ว่าเราทำไม่ได้ ไม่มีใครสนใจ >อัพไลน์เรา ปลอบใจเราพร้อมสอน ทริคการโกหก ต่างๆนานา โดยให้เริ่มด้วยมุขแรก > >เค้าสาธิตให้ดูสดสด สวัสดี อาร์ทเราดามนะ เป็นไงบ้าง โอโห้ไม่เจอกันตั้งแต่มหาลัยเลยนะหลายปีอยู่ > >นายเป็นไง สบายดีนะ ที่บ้านพ่อแม่สบายดีนะ ทำงานอะไรอยู่ อืม > >เผอิญเราผ่านแถวบ้านนาย เราเลยนึกถึงว่าทุกคนสบายดีมั๊ย > >คุณพ่อยังทำงานเป็นตำรวจอยู่รึปล่าว อืม เกษียนแล้วหรอ แล้วคุณแม่ล่ะ อ้าว > >แล้วน้องนายเรียนที่ไหน อืมดีนะ ทุกคนสบายดี เราก็ดีใจ > >แล้วนายปกติเลิกงานกี่โมงล่ะ อืม อย่างงี้ช่วงสองทุ่มก็ถึงบ้านแล้ว สิ ดีดี > >เผื่อนเราแวะเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ด้วย อยากเจอน่ะ มีเบอร์มือถือมั๊ย > >แล้วเบอร์ที่ทำงานล่ะ โอเค เดี๋ยวค่อยคุยกันนะบาย > >ขั้นตอนนี้ เค้าเรียกกันว่า เช็คฟอร์ม เก็บรายละเอียด "Form Check" > >เป็นขั้นตอนสากลทำเพื่อเก็บรายละเอียดของสมาชิกในบ้าน > >เพื่อสร้างความสัมพันธ์ครั้งแรกให้ประทับใจ ให้เค้ารู้สึกว่าเรามาดีไม่ได้ต้องการขายของ > >มุขนี้จะใช้กับคนที่ไม่ได้เจอมานาน และ ไม่รู้ว่าเราทำแอมเวย์ > >เพราะถ้าเค้ารู้ เค้าก็คงรีบวางหูแล้วล่ะเราเริ่มหลอกเพื่อนสำเร็จ ด้วยมุขแรก จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 19:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 >หรือมุขที่ว่า เราพึ่งไปฟังบรรยายเกี่ยวกับสุขภาพมา ดีมากๆเลย > >เราอยากเค้าไปแนะนำคุณพ่อคุณแม่เธอน่ะ มีประโยชน์มากๆเพื่อนกลุ่มแรกๆที่เรานัด >เค้ายังไม่ค่อยรู้มากนักว่าเราทำแอมเวย์ จึงใช้ได้ผลกับมุขนี้ > >ก่อนไปเราก็จะต้องนั่งลิสต์สมาชิกในบ้านเพื่อนคนนั้นๆ ให้อัพไลน์ดู > >เพื่อที่จะได้เตรียมของไปขายถูก เช่น ถ้าเค้ามีน้องที่เป็นเด็กอ่อน > >เราควรขาย เครื่องกรองอากาศ อาหารเสริม พร้อมกับเตรียมโบรชัวร์ต่างๆไปให้พร้อม > >แน่นอน เราต้องอย่ายอมแพ้ ถ้าเค้าทำท่าไม่สนใจระหว่างการสาธิต > >ให้เราทำทุกวิถีทางเพื่อให้เค้าสนใจให้ได้ และวิธีสุดท้ายที่มักได้ผล ก็คือ > >ทิ้งสินค้าไว้ให้เค้าทดลอง หนูอยากให้น้องมีสุขภาพดีจริงๆ เห็นคุณแม่บอกว่าน้องเค้าชอบจามเวลานอน > >มันไม่ดีนะคะ โรคภูมิแพ้ เนี่ย ป้องกันและรักษาตั้งแต่เด็กๆจะดีกว่า > >เครื่องกรองอากาศเนี่ยได้รับการพิสูจน์แล้วว่ากรองได้ถึง 99.999 เปอร์เซน > >ถ้าตอนนี้ยังไม่สนใจซื้อไม่เป็นไรค่ะ ฝากไว้ให้ทดลองก่อน เดี๋ยวอาทิตย์หน้าหนูผ่านมาแถวนี้ จะแวะมารับกลับ > >หนูอยากให้น้องได้อากาศบริสุทธิ์ค่ะ จะได้ไม่จาม แน่นอน หนึ่งในห้า > >มักเกิดความเกรงใจและซื้อสินค้ากับเราในที่สุด ซึ่งเพื่อนเราไปพูดให้เพื่อนเราอีกทีฟัง > >ว่าแม่เค้าซื้อก็เพราะตัดความรำคาญ จะได้ไม่มาตื้ออีกตอนนั้นเราได้ฟัง อัพไลน์เราบอกว่า ไม่ต้องสนใจ > >เพราะเราทำหน้าที่ของเราสมบูรณ์แล้ว คือแนะนำสิ่งดีๆให้กับคนที่เรารัก > >ทั้งๆที่จริงๆน่าจะพูดว่า ไม่ต้องสนใจ ก็เค้าซื้อแล้ว จ่ายเงินแล้ว เรายอดเพิ่มแล้วหันไปหาคนอื่นดีกว่า จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 19:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 >แอมเวย์เก่งมากเรื่องจิตวิทยา เวลาผ่านไปประมาณครึ่งปีผลการเรียนของเราเทอมนั้นตกหนึ่งตัว ดร็อปหนึ่งตัว >เหลือเรียน 3 ตัว ซึ่ง 3 ตัวนั้นเรากิน C,C,Dดร็อปเพราะ ลืมไปสอบQuiz > >เก็บคะแนนก็เลยดร็อปเพราะคิดว่าสู้ต่อไปคงได้แค่ ด็อก > >อีกอย่างวิชานั้นเรียนเช้า ไปเรียนก้ไม่ไหวเพราะกลับก็เกือบเช้าแล้ว > >ดร็อปดีกว่าอัพไลน์บอกว่า เรียนเมื่อไหร่ก็ได้ แก่แล้วก็ยังเรียนได้ > >การศึกษาไม่จำกัดอายุ จบตรีมาใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต > >โฟกัสกับสิ่งที่เราทำดีกว่า เรามาครึ่งทางแล้วแน่นอน >หมดเงินไปก็สองสามแสนแล้วนี่จุดนี้ เราเริ่มกู้ญาติที่เราสนิทียน > >โดยจะผ่อนชำระเค้าเดือนละ ห้าพัน เค้าไม่คิดดอกเพราะเค้ารักเรายน > >เหตุผลของเราก็คือ เรากำลังทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งทุกธุรกิจต้องลงทุน ฉะนั้นการกู้หนี้ยืมสิน > >ของพวกทำแอมเวย์เป็นเรื่องธรรมดาเพราะมันเป็นเงินลงทุน > >ยังไงๆก็ได้คืนแน่อนอนอยู่แล้วจุดนี้เเหละเราเริ่มติดบ่วงติดหนี้แล้ว > >ตอนนี้เรามีดาวไลน์ สามคน สองคนไม่ทำงาน สมัครเพราะความเกรงใจ ส่วนอีกคน > >เป็นคนไฟแรงประมาณเรา > >อ้อเราไม่ได้โชคดีขนาดว่าเจอเพชรในตมง่ายอะไรขนาดนั้นนะเราโทรหาเพื่อนประมาณร้อยคนเห็นจะได้ > >รวมญาติด้วย และรวมเพื่อนของเพื่อนด้วย ทุกคนเริ่มรำคาญเรา บางคนยอมฟังเรา บางคนรีบขอวาง > >บางคนไม่รับโทรศัพท์เราเลยเพราะเราพูดแต่เรื่องชวนเค้าไปสัมนา > >เราเสียเงินเยอะมากๆๆๆจากหัวข้อใหญ่ๆที่จะเล่าให้ฟังนะ จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 19:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 >หนึ่ง.... เราเริ่มกักตุนสินค้า เพราะเราชวนใครไม่ได้ ขายได้ก็ไม่มาก > >แต่เราต้องการเบรคทำยอดติดกัน หกเดือน เพื่อเลื่อนขั้นเป็น ดีดี > >ซึ่งก็จัดว่าเป็นตำแหน่งที่เกือบๆใกล้ๆเพชร ทำยังไงล่ะ ใครจะยอมให้เรากู้แอมเวย์มีวิธี ใครๆก็ทำกัน > >บัตร First Choice ไง กับ บัตร Credit Kasikorn Thai Amway > >=ขั้นแรก เครดิตการ์ด ก็รูดเต็มวงเงิน แบกเครื่องกรองน้ำเต็มคันรถมาเก็บไว้ที่บ้าน > >=ขั้นต่อมา สมัครบัตรเฟิร์สชอยส์ ซึ่งสามารถซื้อเครื่องกรองน้ำอากาศโดย > >โดยเค้ามีตารางให้ผ่อนเป็นงวดๆ อ๊ะอ๊ะ ไม่ใช่แค่บัตรเดียว อัพไลน์เราบอกว่า > >ถ้าเรามีความรับผิดชอบอย่าไปกลัวเลย ให้เราไปหาญาติแล้วเอาใบสมัครเฟิร์สชอยส์ไปให้เค้าสมัครและเซ็น > >แล้วให้เอามาซื้อเครื่องกรองน้ำตุนๆเพื่อเบรคให้ได้ไม่ต้องกลัวน้องใครๆก็ทำ > >พี่มีอยู่ 12 ใบ พ่อ แม่ ลุง ป้า น้า อา เพื่อน แฟนเพื่อน พี่ชายเพือน > >ยอดเงินในแต่ละใบก็หลักหมื่นสิคะ ถ้าใช้เต็มวงเงิน ก็หลายแสนที่พี่เค้าเป็นหนี้ >แต่เค้าบอกว่าคุ้มแสนคุ้ม กับการรักษาโอกาสนี้ไว้ เพราะเราเดิมมาเกือบถึงเส้นชัยแล้ว > >เราไม่มีทางเลือก ถ้ารักจะเป็นนักธุรกิจต้องกล้าเสี่ยง รับผิดชอบ > >หลังจากนี้ต้องสัญญากับตัวเองว่าจะทำงานหนัก ออกขายทุกวัน > >เอ๊ะ เริ่มขัดแย้งกับตอนที่ชวนมาทำใหม่ๆนี่ ตอนแรกบอกงานสบาย ๆๆไม่ต้องเหนือย > >มีเงินเดือนๆละเป็นแสน เอ๊ะ แต่ตอนนี้หนูเริ่มติดหนี้เป็นแสนๆ อ้อ จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 19:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 >อัพไลน์คนนี้ก็ติดหนี้ค่ะ ห้าแสนน่าจะได้ แกเป็นเพชรนะ แต่ติดหนี้ > >สรุป ด้วยความยังโง่อยู่ หนูไปล่าบัตรเฟิร์สชอยส์จากญาติๆมาได้ 10 ใบ > >พร้อมกับมีเครื่องกรองน้ำ 9ตัว กรองอากาศอีก 7 ตัวาก > >และเครื่องสำอางค์ อาหารเสริมอีกเป็นโกดัง เริ่มสมัครบัตรเครดิต > >เพราะอ้างได้ว่ามีเงินเดือนจากแอมเวย์ ไปขอใบรับรองเงินเดือนได้ > >เรามีบัตรเครดิตทุกธนาคาร และใช้เต็มวงเงินทุกธนาคาร สุดท้าย > >ได้ตำแหน่งค่ะ เป็น ดีดี มีหนี้ทั้งหมดไม่รวมที่พ่อแม่ช่วยซื้อตอนต้น 582,000 บาท > >เราเริ่มกลายเป็นคนน่าสงสาร เพราะเพื่อนสนิทเรารู้ว่าเราเป็นหนี้ > >ข่าวเริ่มแพร่ปากต่อปาก เพื่อนเรามาช่วยกันซื้อครีมคนละขวดสองขวด > >ถึงตอนนี้เราหยุดสต๊อคของแล้วเพราะเรามีหนี้เยอะ อัพไลน์เราพูดแต่ว่าให้เราลิสต์รายชื่อเพื่อนมา แล้วเค้าจะช่วยขาย > >เชื่อมั๊ยว่าเราเหมือนเป็นโรคจิต เวลาเรียนเราก็นั่งลิสต์ชื่อเพื่อน > >วิธีก็คือ ลิสต์เป็นชื่อเพื่อนมา ห้าสิบคน แล้วหัวบนสุดก็เป็นชื่อสินค้า > >ตีตารางเป็นช่องๆ แล้วติ๊กดูว่าเพื่อนคนนี้น่าจะขายสินค้าตัวไหน เราทำตลอด > >รถติดก็ทำ นั่งเรียนก็ทำ อยู่บ้านก็ทำ ก่อนนอนก็คิด เชื่อมั๊ยว่าเราปล่อยสินค้าไม่ได้เลย > >เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้ปิดยอดปีบัญชี ทุกคนสต๊อคเหมือนกันหมด ทุกคนของค้างเหมือนกันหมด > >ต้องการปล่อยของเหมือนกัน ขายยิ่งยากหนัก ยิ่งหาดาวไลน์เพิ่มยิ่งยาก เพราะเพื่อนเราเค้ารู้กันหมดแล้วนี่ >ว่าเราไปทำแอมเวย์แล้วติดหนี้ติดสินเยอะขนาดไหน เรากลุ้มใจมาก จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 19:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 >แต่ดีที่เพื่อนที่ครั้งหนึ่งเราเคยมองว่า คนพวกเนี่ยไม่ใช่เพื่อนแท้ ไม่เข้าใจเรา รังเกียจเรา > >หนีหน้าเราเพราะเราแค่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้พวกเค้า เค้าหันกลับมาหาเรา เค้าเต็มใจที่จะช่วยเรา > >บางคนซื้อเครื่องกรองน้ำเราด้วย โดยที่เราไม่ต้องไปสาธิตเค้าเลย เพราะเค้าอยากช่วย ในขณะที่ > >เพื่อนที่เราเคยคิดว่าเป็นครอบครัว เพื่อนแท้ > >ง่วนอยู่กับการปล่อยสินค้าที่ตัวเองสต๊อคเหมือนกันวันวันก็จะพูดแต่เรื่องของ ปล่อยของ > >และไม่เคยสนใจว่าใครจะเดือดร้อนกว่าใคร เพื่อนแท้จริงๆ และวิธีที่แย่มากๆที่พวกเค้าทำ แต่เราไม่ได้ทำนะ > >เค้าไปหลอกคนมาเป็นดาวไลน์ พยายามให้คนพวกนั้นซื้อสินค้า > >และให้ดาวไลน์เค้าซื้อผ่านเค้า โดยเค้าอ้างว่าสะดวกกว่า จริงๆแล้วเค้าไม่ได้ไปซื้อของที่คลังสินค้าให้ > >แต่เค้าเอาของที่ตัวเองสต๊อคไว้ให้แทน วิธีนี้เรียกกันว่า ปล่อยของลองกรง พอดาวไลน์ถามว่า > >เอ๊ะทำไมไปเช็คในอินเตอร์เน็ตแล้วไม่มียอดไม่มีพีวีแต้มเลย > >เค้าก็จะบอกว่า อ๋อ ระบบขัดข้อง แต่เเอมเวย์โทรมาบอกแล้ว ว่า จะเพิ่มยอดให้ทีหลัง > >แต่มุขนี้ก็ใช้ได้ผลนิดหน่อย สำหรับคนโง่ๆเท่านั้น เราเริ่มรับรู้แล้ว ว่าอะไรที่เราคิดไว้มันช่างโง่เขลา >เราเริ่มไม่ไปประชุม ไม่ไปเฮ้าส์ ไม่ไปสัมนา เริ่มกลับไปใช้ชิวิตกับเพื่อนที่มหาลัย ติวหนังสือ > >เราเริ่มค้นพบเพื่อนที่แท้จริง ความสนุกในชีวติได้กลับมาอีกครั้ง กลับบ้านเร็วขึ้น พ่อแม่เราแฮปปี้ที่เราเริ่มคิดได้ > >เราทำงานพิเศษรับสอนพิเศษอีกทางเพื่อผ่อนหนี้ เราพยายามบอกปัดพวกที่แอมเวย์ว่าเราไม่ว่าง จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 19:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 >เราเริ่มค้นพบความจริงที่เราโง่เขลามานาน ตอนนี้ห่างจากตอนที่สมัครแอมเวย์ มา สาม ปี แล้ว > >เราเลิกทำไปแล้ว ไม่ได้ไปเฮ้าส์อีก พี่ๆอัพไลน์แรกๆโทรมาตามกันทุกวันให้เราไป > >จนเราให้แม่เรารับและบอกเค้าไปว่า ตอนนี้เราเป็นโรคเครียดขอร้องอย่ามาตามเราเลย > >เราขอหยุดพักแล้ว พวกเค้าถึงจะยอมเลิกราวี แต่ก็ยังส่งแมสเสจมาตลอด แนวปลุกระดม เหมือนเดิม > >เราหยุดทำมาเกือบปีแล้ว หนี้สินตอนนี้เหลือประมาณ ห้าแสน เราได้ยินมาว่าอัพไลน์เรา ออกรถเบนซ์แมส > >เค้านิยมทฤษฏี สร้างภาพ เพราะเรารู้ว่าเค้ากับแฟนเค้า หนี้สินรุงรังเลย > >เพราะเราเคยไปจ่ายเงินที่ธนาคารกับแฟนอัพไลน์เรา เราเห็นเค้าจ่ายทีเป็นปึกๆๆ > >ตอนนี้พวกเค้าอาจยังคิดไม่ได้ ขอเตือน อย่าเด็ดขาด อย่าเชื่อคนง่าย อย่าคิดว่าจะยืมจมูกคนอื่นหายใจได้ > >อนาคต ความสำเร็จทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา ไม่มีหรอก งานง่ายๆ นั่งสบายๆ ได้เดือนละแสน แค่แนะนำบอกต่อ > >ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาอ่านได้มากน้อยแค่ไหนก่อนโดนลบ >แต่นี่คือประสบการณ์จริงที่เราไม่อยากให้ใครต้องเจอเหมือนเราแม่เรานั่งรอเราถึง > >ตีสองตีสามทุกครั้งที่ เราไปประชุม พ่อเราร้องไห้ เพราะได้รู้ว่าเราติดหนี้อยู่ห้าแสน ทั้งๆที่อายุแค่ ยี่สิบ > >น้องเรา อายเพื่อน เพราะเวลาเราเจอเพื่อนน้องเราก็จะพูดแต่แอมเวย์ เพื่อนๆ ต้องเดือดร้อน เพราะเราตื้อตลอดเวลา > >และกลัวว่าเราจะขายของเค้าเวลาที่เสียไป เงินทองเพราะเราแค่ อยากมีเงินอยากมีงานสบายๆ > >เชื่อคนง่าย โดนครอบงำาก > >ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่ะ จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 19:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ======================== อย่างที่บอกนะค่ะ ว่าคิดว่าน่าจะมีคนอ่านแล้ว บางคนอาจจะคิดว่า มันอาจจะแต่งขึ้นเองรึเปล่า หรือใส่ร้ายหรือเปล่า ตอนนี้เรากำลังประสบปัญญานี้อยู่ แต่...... ไม่ได้ขายแอมเวย์นะค่ะ แต่เรา สมัคร เพราะถูกรุ่นพี่ที่สนิทที่เค้าขายแอมเวย์ เค้าหว่านล้อม เรื่องของเรื่อง เราอยากลองใช้เครื่องสำอางของ artisiry ดู พอรู้ว่าเค้าขาย (เพราะเค้าเคยหว่านล้อมมาแล้วรอบหนึ่ง) ก็เลยสั่งซื้อ ประมาณ 2500 บาท  (พอดีอยากเปลี่ยนเครื่องสำอางด้วยอ่ะค่ะ) แรก ๆ เราก็บอกว่า เราไม่คิดจะขายหรอกนะ แค่สมัครเป็นสมาชิก (คือ มันมี 2 แบบ สมัครเป็นสมาชิก จะได้ส่วนลดพิเศษ แต่สมัครเพื่อขายจะอีกแบบค่ะ) ก็เหมือนคุยรู้เรื่องกับเค้า เพราะเราเป็นคนตรง บอกว่าไม่ก็ไม่ แล้วสนิทกันอยู่แล้ว เลยคิดว่าเค้ายิ่งน่าจะเข้าใจ แต่หลัง ๆ นี่ไม่ไหวเลย เค้าโทรมาชวนเราไปเรียนแต่งหน้า เป็นกระบวนการแบบที่เขียนใน FW mail เลยค่ะ เหมือนจน แปลกใจมาก อย่างคำพูดเวลาเค้าโทรมา ก็ประมาณนั้นเลยค่ะ พยายามจะชวนเราไปที่ช็อป บอกว่า มีสินค้าเยอะนะ เหมือนไปเดินซุปเปอร์ ชวนบ่อยมาก ๆ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับแอมเวย์ตลอด   เราก็เคยตกลงว่าจะไป เพราะว่า อยากไปเรียนแต่งหน้าฟรี (พี่เค้าบอกว่าสามารถใช้เครื่องสำอางใหม่ ๆ ได้ฟรีเลย) ซึ่งนะ สาว ๆ ห้องนี้ ก็คงสนใจเหมือนเรา แต่เราก็ติดโน่นนี่ตลอด จนกระทั่ง อ่าน mail ที่ได้รับมา จึงรู้เลยว่า ถ้าเราไป จะเจออะไรบ้าง ............. เราไม่โกรธรุ่นพี่เรานะ เพราะเค้าจะพูดเหมือนกับว่า อยากแนะนำสิ่งดี ๆ มาให้ บางทีเราก็ถามว่า ทำไปได้ตังค์บ้างเป่า เค้าตอบว่าได้ แต่เอามาซื้อของของแอมเวย์หมด เรากะจะปริ้นท์ mail อันนี้ไปยื่นให้เค้า แล้วจะคุยกับเค้าตรง ๆ ว่า คนรักกัน เค้าไม่โกหกกันหรอก ถ้าอยากจะเอาเราไปหว่านล้อม ให้สมัครขาย ทำไมต้องมาอ้างโน่นนี้ด้วย เราไม่รู้เหมือนกันว่ามิตรภาพจะหายไปไหม แต่ถ้าเค้าเชื่อใจเราอยู่บ้าง เค้าคงเข้าใจ และหันมาหางานที่ไม่เพ้อฝันอย่างนี้ ................... เพื่อน ๆ หล่ะค่ะ เคยเจอแบบนี้หรือเปล่า จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 19:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ยินดีด้วยนะคะที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแล้ว แต่อ่านแล้วทึ่งมากกก เราก็เคยมีเพื่อนขายแอมเวย์ แต่เราสายแข็งเพื่อนเลยไม่กล้าหือ เหอๆๆ จากคุณ : JEEZAA - [ 13 พ.ค. 50 19:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านจนจบเลยค่ะ ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟัง เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ เราเองก็เคยมีเพื่อนชวนไปแบบนี้เหมือนกัน สนิทกันมากๆๆๆๆ เราเกรงใจเพื่อนเรามากเลย เราก็ไปด้วยความรักเพื่อน แต่ก็กระอักกระอ่วนใจนะ และไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้นเอาซะเลย มันยังไงก็ไม่รู้ เหมือนเราเป็นกวาง แล้วคนพวกนั้นเป็นสิงโตจ้องขย้ำเหยื่อ มารุมๆ เรา ทำเหมือนเป็นมิตร มาคุย แต่เรารู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร เราอึดอัดที่สุดเลยอะ เพื่อนเราตอนนั้น อะไรๆ ก็แอมเวย์ๆๆ จนเราเอียน ว่าอะไรไม่ได้เลยด้วยนะ ดูเหมือนคนผีเข้า ชอบทำหน้าตามุ่งมั่น ชอบนั่งลิสต์ชื่อเพื่อนๆ ถามเราด้วยว่าเรามีใครสนิทบ้าง ขอเจอหน่อยได้มั๊ย ชวนมาเจอกันหน่อยสิ แล้วชอบพูดว่า  แหม ของเค้าดีจริงๆ เนาะ (หันไปพูดกับ upline) เรางี้สยองเลย ตอนนี้เค้าเลิกทำแล้ว เพราะเวลางานไม่อำนวย แต่ยังไม่ทันได้ติดหนี้ติดสินอะไรหรอกค่ะ เดชะบุญจริงๆ เห็นด้วยกับคุณจขกท มากๆ ค่ะ ว่างานสบายได้เงินเป็นแสนไม่มีในโลกหรอก เราไม่เชื่ออะไรแบบนี้เลย และก็ไม่ชอบทำงานแบบนี้ด้วย จากคุณ : Cat Slave - [ 13 พ.ค. 50 19:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เค้าเคยให้ไปเรียนเเต่งหน้าเหมือนกัน เพื่อนชวนนี้เเหละ ด้วยความเกรงใจเราก็ไป จ่ายไป 800 เพื่อสมัครสมาชิก เพราะว่าอยากช่วยเพื่อน ไปกัน 5 คน เพื่อนมารับถึงบ้านเลย ไปครั้งเเรกเค้าก็ให้เข้าไปในห้องเรียน มีประมาณ 20 คนในห้อง นั่งเป็นกลุ่มๆ เเล้วเค้าก็เริ่มเเนะนำผลิตภันฑ์เยอะเเยะมากมาย เเล้วเพื่อนเราก็เเบบว่าให้เราซื้อๆ บอกว่าใช้ดีอะไรเเบบนี้ เราก็เอ่อยืนกระต่ายขาเดียวไม่มีเงินอ่ะ เเล้วเค้าก็พาขึ้นไปในห้อง ประมาณว่าให้นั่งดูเค้าสาธิตผลิตภัณฑ์ของเค้า เราก็เออทำไมต้องดูอ่าคะ เราก็เลยขอกลับดีกว่ายอมเสียมารยาท ดีกว่ามานั่งเสียเวลา เพราะก็ไม่ได้สนใจทำอยู่เเล้วที่สมัคร ก็เพราะเพื่อน มารู้ทีหลังว่าพวกที่อยู่ต่ออีก 4 คน เค้าให้ยาสีฟันมาขายคนละ 20 หลอด สบู่น้ำผึ้งอีก 20 ก้อน โดยให้เหตุผลว่าให้หัดขาย ดีนะที่ไหวตัวทันกลับมาก่อน ^^ จากคุณ : • Z'nice • (ZaNicePer) - [ 13 พ.ค. 50 20:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 W@H = work at hell จากคุณ : KiZ SerVicE (KissAhoLicGal) - [ 13 พ.ค. 50 20:14:50 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โอ้ววว ก็เป็นสมาชิกอยู่นะ แต่ไอ้ upline พูดๆมาอ้ะ นี่พยายามใช้จิตวิทยาแล้วหรอ .. ตอนนั้นเราไม่เคยได้ยินยี่ห้อนี้ แล้วไม่มีอคติใดๆ แต่เราไม่เชื่อเลยแฮะ แปลกไหม แต่ก็ซื้อบางอย่างด้วยความเกรงใจ คาดว่า ปีนึงประมาณ 3 ชิ้น 55 เฮ้ย แต่เพิ่งจะฝากเค้าซื้อโปรตีนอ้ะ เป็นเดือนแล้วกินไปได้ 2 ช้อนเอง -*- ต้องเค้าไปดูยอดแล้ว หรือว่า คอมมันรวน จากคุณ : vnv - [ 13 พ.ค. 50 20:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราก็ไม่ชอบอะ แบบนี้ เพื่อนมาขายก็ ต้องเกรงใจซื้อ มิหน่ำซ้ำยังโทรมาชวน บ่อยๆ บอกว่าจะได้เป้นนักธุรกิจ เชื่อเลย เมื่อไหร่เพื่อนเราจะตื่นสักที นะ จากคุณ : nunini - [ 13 พ.ค. 50 20:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแล้วสลดใจจริงๆ เคยโดนเพื่อนเข้ามาด้วยวิธีการนี้เหมือนกัน ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ จากคุณ : ไผ่ไร้กอ - [ 13 พ.ค. 50 20:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คิดว่าเป็รนเรื่องจริงเหมือนกันคะ เพื่อนพี่สาวเราเค้าก้อขาย เป็นประมาณนี้เลยเหมือนกันเลย คือแวะมาหาที่แบบชวนไปสัมณา ต้องการมอบสิ่งที่ดีให้กับคนที่คุณรัก ขอบคุณมากๆนะคะที่เอามาโพสให้อ่านกัน จากคุณ : hippi_hippy - [ 13 พ.ค. 50 20:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพื่อนเราก็เป็น แอมเวย์ อาทิสตรี้ เครื่องกรองน้ำ บลาๆๆ ดีทุกอย่างเลย คสอ.อื่นๆสู้ไม่ได้หรอกเนี่ย อาทิสตรี้มีห้องทดลองหรูมาก อารายของมันไม่รุ้ แต่เดี๋ยวนี้มันมีงานทำละ ค่อยยังชั่วหน่อย แอมเว มันเหมือนลัทธิจริงๆนะเนี่ย จากคุณ : แตงเมโกะ - [ 13 พ.ค. 50 20:51:12 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากค่ะ เราก็ค่อนข้างเชื่อนะคะ เพราะคุณพ่อเคยโดนญาติที่ทำแอมเวย์ มาชวนแบบนี้เหมือนกัน แต่คุณพ่อบอกปัดไป ยอมเป็นสมาชิก 800 บาท แต่ไม่ไปฟังหรือซื้ออะไรทั้งนั้น เราว่าพวกเราเสียเรื่องความเกรงใจนะคะ ต้องเสียเงินโดยที่ไม่ควรเสีย ส่วนตัวเราเอง เคยโดนพี่ที่นับถือชวนให้ไปฟังนูสกิน เออ จริงอย่างที่ จขกท. พูดเลยค่ะ ว่าไปที่ house แล้วเหมือนมีแรงดึงดูดให้เราหน้ามืดเห็นดีเห็นงาม อยากรวย เห็นช่องทางการขายสดใสปิ๊งปั๊ง พี่เค้าก็พยายามให้เราสมัครเป็นตัวแทนให้ได้ ประหนึ่งไม่อยากให้เราหลุดมือไปค่ะ เราก็ใจฮึกเหิมมาก กะว่าคราวนี้รวยแน่ตู เสียค่าสมัคร พร้อมได้ของ (ที่ปัจจุบันนี้ยังไม่ได้ใช้) ประมาณ 20,000 บาท แต่อาศัยว่าเป็นคนขี้เกียจและไม่ชอบตื้อคน เลยไใ่ได้ขายให้ใคร และไม่ได้ไปฟังอีก เลยเสียเท่านั้น ส่วนเพื่อนอีกคน หนักกว่าเรามาก เพราะว่างๆก็ชอบไปนั่งตากแอร์ที่ house ตอนนี้เลยมี เครื่องนวดหน้า 12 อัน (อันละประมาณ 6 พัน หรือหมื่นกว่าบาทไม่แน่ใจ) ครีม 180 องศา 4 ชุด (ชุดละ 12,000บาท) ทั้งนี้ เป็นเพราะเรื่องตุนสต็อก เพราะต้องการตำแหน่งเหมือน fw mail นี่แหล่ะค่ะ เจอเองถึงกล้าบอก อยากให้ทุกคนมีสติในการทำสิ่งต่างๆนะคะ ไม่อยากให้พวกเราต้องเสียเงินแบบนี้กันอีก แต่เราก้เชือ่ว่าคนที่ประสบความสำเร็จก็คงมีนะคะ เพราะเค้าคงเก่งจริงๆ แต่คนที่ไม่ชอบตื้อ ไม่ชอบง้อ เราว่าอย่างลองเลยค่ะ จากคุณ : a little black dress - [ 13 พ.ค. 50 20:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หูย....เศร้า  คิดได้ไง เกลียดบริสัด...นี้จัง อะไรอ่ะทำอย่างงี้ได้ไง น่าเกลียดมาก เพื่อนๆ ใครที่อ่านนะ รีบแนะนำกันต่อๆไปนะ แย่มาก เคยสนใจเครื่องสำอางมัน วันนี้จะไม่เหลียวตามองเลยนะ ....คอยดู จากคุณ : a_blue - [ 13 พ.ค. 50 20:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เคยโดนเพื่อนหลอกไปเหมือนกันค่ะ เพื่อนบอกว่าเค้าจะไปสมัครงานชวนเราไป เป็นเพื่อน ด้วยความที่เกรงใจก็เลยไปกับเค้า โดยที่ไม่เอะใจเลยว่า วันนั้นเป็นวัน เสาร์ แล้วเค้าเปิดรับสมัครงานด้วยเหรอ ไปถึงก็ให้ไปนั่งฟัง..ฟัง และก็ให้ไปร่วม สนุกกับเค้าอ่ะ แต่อารมณ์เราตอนนี้ไม่สนุกอ่ะ รู้ว่าถูกหลอกแล้ว ก็เลยทำหน้าแบบ บอกบุญไม่รับ แล้วเค้าให้ทำอะไรก็ไม่ทำค่ะ ชวนให้ขึ้นไปบนเวทีแนะนำตัวเองอ่ะ แล้วบอกว่าขึ้นไปจะมีของขวัญให้อะไรเงี๊ยะ (เอาของมาล่อซะงั้น) ตอนนั้นไม่มี อารมณ์อยากได้ของเลย ได้แต่นั่งหน้าหงิก และตอบไปว่าไม่ขึ้น จะได้ของขวัญ อะไรก็ไม่เอา 555  สะใจดี ทุกคนหน้าหงายไปตาม ๆ กัน แต่เค้าก็จิตวิทยาดีมาก อ่ะ โน้มน้าวทุกอย่างว่าทำแล้วรวย มีบ้านมีรถ สารพัด เราก็เกือบไปแล้วที่จะหลวม ตัวสมัครกับเค้าแหละ ดีนะที่เรายึดเศรษฐกิจพอเพียง เพราะรู้ว่ามันเป็นไปได้ ยากส์  เฮ้อ ! เพื่อนหนอเพื่อนทำกับเราได้ลงคอ หลังจากนั้นเพื่อนคนนี้ก็โทรมาตื๊อโดยตลอดว่าอยากให้ทำ เพราะว่าทำได้ถึงยอดที่กำหนด จะได้ไปเที่ยว เอ๊! ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเที่ยวเรือสำราญอะไรเงี๊ยะ พูดให้เราอยากไป อยากรวย อ่ะค่ะ จนตอนนี้เค้ารู้ว่าเราไม่สนใจแน่แล้ว เค้าก็เลยไม่เคยโทรหาอีกเลย หุหุ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 50 22:25:50 จากคุณ : แดงซ่า - [ 13 พ.ค. 50 21:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอ copy อันนี้ส่งไปให้เพื่อนๆบ้างนะคะ เราเคยเจอแบบนี้เหมือนกัน...ให้ไปเรียนแต่งหน้า(แต่ไม่ได้บอกว่ายี่ห้อ amway นะ เป็น Efunk..อะไรสักอย่าง) พอไปถึงเราก็สมัครด้วยความเกรงใจ...เหมือนโดนรุมให้สมัคร วันนั้นเลยเกิดอคติกับ ยี่ห้อนี้ที่สุด...เหมือนลัทธิยังไงก็ไม่รู้นะ จากคุณ : เจ้าหญิงทิงนองนอย - [ 13 พ.ค. 50 21:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 งืม จากที่อ่านๆมา เค้าคงเจอ Upline ไม่ดีอะคะ - -*   เพราะ อาชีพนี้คนประสบความสำเร็จมีไหม มันก็มีนะคะ คนใกล้ๆตัวแนทที่ประสบความสำเร็จก็เยอะ เป็นเพชรเป็นไรไปแล้ว ต้องไปเฮ้าส์ทุกวันไหม ความจริงไม่ต้องก็ได้ - -* วิธีกักตุนสินค้าก็ผิด วิธีที่บอกให้เอามาขายทีละกี่อันๆนั่นก็ไม่ได้มีในแผนธุรกิจ ธุรกิจนี้เค้าออกแนวว่าถ้ามีคนซื้อจึงสั่งของซะมากกว่า เหมือนเป็นเซลล์ขายของ เพื่อนที่เมืองนอกบอกเคยเจอ แต่ไม่ค่อยมีแบบคนไทย(บางคนเท่านั้น)ที่ใช้วิธีบรรยายเกินจริง+บังคับ+ไม่เข้าใจธุรกิจเค้าอย่างแน่นอน แล้วดันมาทำโดยหลอกคนอื่นเอา ออกแนวโดนล้างสมองไปเลย ( ไม่ได้ว่านะคะ แต่ไม่รู้ใช้คำไหนดี ) ถ้าลองศึกษาตัวธุรกิจดีๆแนทว่ามันดีนะ เพียงแต่บางคนเอาไปใช้ผิดวิธี บรรยายเกินสรรพคุณของเค้าจริงๆก็มี ( เคยเจอมากะตัว บอกว่ากินแล้วผอมๆ พวกยาเค้าอะ ความจริงแนทรู้แต่แรกแล้วว่ามันเป็นแค่อาหารเสริม ) เฮ้อ แล้วแต่มุมมองของคน ปล. แนทไม่ได้ทำนะเฮ้ย - -* แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 50 21:10:27 จากคุณ : Cheezii - [ 13 พ.ค. 50 21:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 24 นี่ค่ะของจริง เจอมากับตัว....ที่ทำงานค่ะ....หัวหน้าเป็น Engineer นะคะมันเป็นผู้ชายที่เอี้ยมาก ดูความเลวววมัน ชวนลูกน้องสมัครเป็นดาวไลน์เนี่ยแหละ...สงสารน้องเค้ามาก เป็นธุรการซื่อๆ จบมาจากขอนแก่น เพิ่งเข้ามาทำงาน กทม. ก็ไปนั่งฟังแล้วโดนรุมค่ะ ก็โดนสิคะ สมัครค่ะ ซื้อของมาใช้เพราะไอ้ หน.มันบอกว่าจะได้ทดลองกับตัวเอง ก่อนไปแนะนำลูกค้า เงินเดือนน้องๆ แค่ หกพัน เจ็ดพัน จ่ายค่าเช่า ค่าใช้ประจำวัน แล้วยังต้องมาซื้อของพวกนี้ใช้  มันก็หัวเราะกันลับหลัง กับไอ้ทีมดาวไลน์ของมัน  คือไอ้พวกนี้มันรู้แล้วไง ว่ามันพลาดแล้ว แต่มันก็ยังเอาโอกาสบ้าบอ ที่มันก็รู้ว่า คนที่มันชวนไม่มีแววทางนี้หรอกให้สมัครจนได้...แล้วก็คอยพยายามให้เค้าซื้อของมาทดลองใช้นะ ครีมนี้ดีนะลองกับหน้าน้องเลย รับรองสวยขึ้นแน่...ก็มันพาไปเจอพวกดาวไลน์ไฮโซ หน้าเนี๊ยบอะ เด็กมันจะไม่เชื่อได้ไง...ทุกวันนี้น้องเค้าเป็นหนี้ ทุกบัตรเลยค่ะ อิออน ยัน โต๊ะเถื่อน จะบอกว่าก็โง่ไปสมัครเองนิ...แต่คิดดูนะคะ  ถ้าคนเรามันไม่หยิบยื่นอะไรที่มันเป็นไปได้น้อยมาก ให้กับคนที่ อ่อนโลก อ่อนประสบการณ์ชีวิต ดูก็รู้ว่าเค้าไม่มีแววทางนี้แน่ๆ  จะด่ามันยังไงให้มันสำนึก นึกไม่ออกค่ะ...แอมเวร..แท้ๆ จากคุณ : sjt - [ 13 พ.ค. 50 21:15:23 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดีค่ะได้ประโยชน์มาก เราคอ่นข้างจะคิดว่าน่าจะจริง หรือ ถ้าไม่จริงก็ใกล้เคียงหล่ะ สมัยเรียนก็มีเพือนสองคนทำอยู่ มันก็มาสาธิต ๆ เรายังเรียนไม่มีเงินซือ้มานหรอก นั่งดูมานเล่นกลเรืองยาสีฟันให้ดู ขำ ๆ เคยไปเหมือนกัน หลายปีแล้วค่ะ ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่า เพืนอของเพืนอเป็นสมาชิกประมาณว่าเค้าทำกันทั้งบ้านทั้งครอบครัว เครือญาติเลย เค้ามาชวนไปเพระว่า มีอบรมแต่งหน้าเราก็สนใจอยู่ เสียค่าอบรม สี่ร้อย โดนยัดเยี่ยดให้สมัครอีก แต่เราหมักแค่ปีเดียว ตัดรำคาญ ไปในงานวันนี้พอดี ยมทูต ประจำประเทศไทยมาพอดี ไปฟังเค้าพูด โหย รู้สึกว่าเค้าพูดจาแบบ ฟังแล้วเค้าแบบว่ายิ่งใหญ่มาก เราฟังแล้ว กึ๋ยเลย แล้วคนที่ไปวันนั้นเพือนของเพืนอบอกว่า มีแต่คนอยู่ในระดับสูงๆ  ทุกคนแบบว่าคุยกันแต่เรือง เงินรายได้ เราสยองเลย ไม่ว่ามานจะมาอีกแบบไหน เราไม่ร่วมด้วยทั้งนั้น ที่เคยหมักก็ไปซือ้สินค้าใช้เอง บางตัว ล่าสุด แฟนของน้องชาย มีเพืนอเก่ามาหาขายแอมเวย์ ชวนแฟนนอ้งชายหลายหน แฟนน้องก็บอกไม่เอาไม่สนใจ ชวนไปมาก็เกรงใจ เลยหลงไปกะเค้าหนนึง แล้วแฟนน้องมาเล่าให้ฟังว่า ไม่ไปอีกแล้วนี่เกรงใจเลยไป กว่าจะกลับบ้านมาได้ ตีสอง อยากจะรู้มานชุมนุมอะไรกันนักหนา ลัทธินี้ น่ากลัวโคด จากคุณ : ชฎาแหลม - [ 13 พ.ค. 50 21:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่อง อาร์ทิสตี้เนี้ย จะบอกว่า ดีๆ ก็มีนะคะ ฝาแฝดหวานอ่ะ เขาก็ไปเรียนแต่งหน้ากะอาทิสตี้ เสียไป พันกว่า แต่ได้ของมาเพียบ แล้วก็ไม่ได้บังคับขายด้วย เขายังชวนหวานไปแต่งหน้าด้วยกันเลย บอกไปเรียนจริงๆ ไม่ได้ขายของแน่นอ  แฝดหวาน เขาไม่เคยโกหกหวานอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่า ดีๆ ก็คงมีนะแหละ จากคุณ : หวานใจนายโหด - [ 13 พ.ค. 50 21:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เคยอ่านแล้ว  แต่ก็อ่านอีกทีจนจบ  เมื่อสองเดือนก่อนน่ะ มีคนมาชวนแม่เราไปทำแต่แม่ไม่ว่างเลยโยนมาทางเรา เรารู้แล้วล่ะว่ามันจะเป็นแบบนี้  แต่เค้าพูดมาเลยนะว่าทุกวันเนี้ยเค้าได้4%จากการขายตรงที่พวกเราซึ่งเป็นดาวไลน์มาขายแทนเค้า  คิดแค่นี้ล่ะ  ใครจะโง่ล่ะ  ถ้าเราขายเราก็อยากได้เต็มนะ ยิ่งไม่ชอบอยุ่แล้วเลยยิ่งเกลียดเลย  เอาสินค้าดีๆมาทำเสียหมดเลย  เราเลยไม่โผล่ไปอีกเลย จากคุณ : มิสพรหล้า - [ 13 พ.ค. 50 21:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หุหุ พี่ที่ทำงานก็ขาย เค้าชวนแต่คนอื่น ไม่เคยมาชวนเรา คงรูว่าเราหัวแข็ง ไม่ก็ปากจัด กัดเจ็บ 555 จากคุณ : 2fast2farious - [ 13 พ.ค. 50 21:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาแวะอ่านดู แต่ละคนอืม .... ใช้ได้เลยนะเนี๊ยะ อืมเราจะมาบอกว่า สินค้าเค้า ไม่ใช่ไม่ดีนะ เราว่าก็ดี เสียตังค์ไป 2500 ได้ โฟม ครีม ได้โทนเนอร์ ใช้มาเกือบ 7 เดือนแล้ว ยังไม่หมดเลย ถือว่าคุ้มเลยแหล่ะ ไม่แพ้ แต่ก่อนเราเป็นสิวบ้าง ก็หาย คือ เราประทับใจสินค้าเค้านะ ยังกะจะสั่งซื้อตัวอื่นอีกด้วย อีกอย่าง คนขายแอมเวย์ที่ดีก็คงมีนั่นแหล่ะ แต่ว่าเราวิธีแย่มันอาจจะเยอะมากกว่า มาก ๆ คนที่เค้าได้เป็นเพชร ก็คงต้องดูว่า พื้นฐานเค้าเป็นยังไง ถ้าเค้ารวยมาก หรือมีเพื่อนเยอะ สินค้าแอม์เวย์ก็ไม่ถือว่าไม่แพงเกินไป คุณภาพก็ถือว่าคุ้มอยู่ เค้าก็ต้องขายได้อยู่แล้ว แต่อย่างพี่เรา มีเพื่อนอยู่แค่ 2-3 คน คิดดูสิว่าจะหาเพื่อนมาซื้อจากไหน เราว่ามันแย่ตรงที่ มันทำให้คนฝันเฟื่องเกินไป เราว่าทำสนุก ๆ ดีกว่า อย่าไปทุ่มเทขนาดนั้นเลย กว่าจะได้เป็นเพชรพลอย ไม่ต้องเสียเงินเป็นล้านก่อนเหรอ เฮ้อออ จากคุณ : รำเจียก - [ 13 พ.ค. 50 22:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อืมม เพื่อนสนิทเราก็อีกคน ใช่ค่ะ เค้าจะหลอกล่อแบบว่าไม่ให้รู้ว่ามันคือแอมเวย์ จะพูดเป็นคนละเรื่องเลยอะ พอไปถึงก็เอ้า แอมเวย์ นิหว่า แต่เราเสียตังค์ค่าคอร์สแต่งหน้าไรนั่น 400 มั้ง แต่ก็โอนะ ได้รูปมา 3 ใบแบบก่อนแต่งหลังแต่งไรงี้ แต่มะได้ซื้อของหรอก ครั้งนั้นจบ คือพวกนี้มันจะเหมือนทำเพื่อคนที่คุณรัก พวกเราเป็นครอบครัวเป็นเพื่อนคุณจะมาหลอกลวงคุณได้ไง๊ เออ เรารู้ว่าเพื่อนเรามันไม่หลอกเราหรอก แต่ติดว่าอัพไลน์มันหลอกมันมาอีกทีอะดิ ดีนะเพื่อนเราเลิกทำละ หันไปเปิดกิจการของตัวเองเป็นเรื่องเปนราว เป็นอีกตัวอย่างที่ ไม่ประสบความสำเร็จ กะธุรกิจเนี้ยย จากคุณ : redgirl_onAir - [ 13 พ.ค. 50 22:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ที่เราจะซื้อ ก็เพราะเห็นว่าญาติ ทำเป็นอาชีพเสริมเท่านั้นเอง... ไปฝึกงานนะ เจอเพื่อนที่ฝึกงานด้วยกันอ่ะ เอาแอมเวย์มาขายที่ทำงานด้วย ขายดะ บ้าไปแล้ว... มาฝึกงานนะเธอ ยังมารบกวนให้คนอื่นเค้าซื้ออีก จากคุณ : creme_bouquet - [ 13 พ.ค. 50 22:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมรู้เช่นเห็นชาติพวกแอมเวย์มานานแล้วครับ อาของผมเป็นสัตวแพทย์ แต่แมร่งบ้าอยากเป็นแอมเวย์ระดับแพลทตินั่ม วันๆก็ขายแต่เครื่องกรองอากาศ เจือกมาบังคับพ่อผมให้เป็นคนขายแอมเวย์อีก แต่พ่อผมเก๋าเกม ประสบการณ์ชีวิตสูง เลยโดนหลอกไปแค่2-3พันบาท แล้วก็จบกัน ตอนนี้อาละยำของผม ไปขายอาหารสัตว์แทน ดีที่บ้านผมไม่ได้เลี้ยงสุนัข จากคุณ : หมวย เรเควี่ยม - [ 13 พ.ค. 50 22:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ของดีจริงๆก็มีค่ะ แต่ก็ราคาสูงจนเกินเหตุ คือว่าอาหารเสริมเนี่ยอาจจะคัดสรรค์กันสุดริด แต่ร่างกายก็รับได้ไม่ทั้งหมด สุดท้าย ทุกอย่างก็ต้องอยู่ในดุลพินิจของผู้บริโภคค่ะ เราเองก็ซื้อเป็นบางอย่างที่เราใช้แล้วได้ผล เราดื่มโปรตีนเชคแล้วไม่เพลีย เราก็เลยชอบ เรามีเพื่อนที่ทำแล้วอยู่ได้ โดยไม่โดนใครเกลียด และก็มีเพื่อนจอมตื้อ แต่บอกตามตรง เราก็ยังไม่เห็นใครที่รวย(จริงๆ) เพราะทำแอมเวย์ซักคนค่ะ เราก็ช่วยเพื่อนซื้อเพราะสงสาร แล้วก็ซื้อเฉพาะชิ้นที่คิดว่าดีกว่ายี่ห้ออื่นๆค่ะ จากคุณ : +++sLeEPYnOmORE+++ - [ 13 พ.ค. 50 22:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พวกนี้อาศัยจิตวิทยาหมู่ค่ะ เท่าที่ดูของมันก็ไม่ได้ดีมากมายขนาดนั้น สามารถหาซื้อคุณภาพขนาดนี้ได้ตามท้องตลาดทั่วไป โดยที่ได้ราคาถูกกว่าตั้งเยอะ อย่างเช่นเครื่องสำอางพวกสีสัน ตั้งราคาไว้แพงเว่อร์สุดๆ ทั้งๆที่ไม่ได้มีจุดเด่น หรือแพคเกจดูดีตรงไหนเลย บางอย่างมิสทีนยังดูดีกว่าด้วยซ้ำ ราคาถูกกว่ากันเห็นๆ เราเคยเจอเหตุการณ์จากคนรอบข้างหลายคนมาก จนทำให้เรารู้สึกแย่และรับไม่ได้จริงๆ เพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกันตะก่อนรักกันมาก ตั้งแต่เธอเริ่มขายแอมเวย์ ทุกๆเรื่องที่พูด ไม่ว่าจะอะไรก็ตามจะมีการแทรกขายของอขงแอมเวย์ตลอด จนหลังๆเพื่อนๆไม่กล้าโทรไปติดต่อเธออีก เพื่อนต่างคณะ ไม่สนิทกันมาก ไม่ได้เจอหลายปีมากๆ อยู่ดีๆโทรมา ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบบลา บลา บลา แล้วก็เริ่มชักชวนไปเรียนแต่งหน้า ลูกพี่ลูกน้อง ถึงเป็นญาติ แต่ไม่เคยสนิทเลย เอาเป็นว่าเจอกันน้อยกว่าปีละครั้งด้วยซ้ำ อยู่ๆ มาถึงที่บริษัทพ่อเรามาขายเครื่องกรองน้ำ และที่แย่ที่สุด เจอกับอาจารย์ตัวเอง มาขายของแอมเวย์ให้นักเรียน แถมยังให้นักเรียนซึ่งคือเพื่อนเราเป็นดาวไลน์ เวลามีสัมมนาอะไรอาจารย์ก็เอาเพื่อนเราไปด้วย เพื่อนเราจะไม่ไปก็ไม่ได้เพราะเกรงใจอาจารย์ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รู้สึกแย่ได้อย่างไร แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 50 23:00:54 จากคุณ : be good girl - [ 13 พ.ค. 50 22:53:27 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ตอนเรียนmut เพื่อนที่เคยเรียนปี1ด้วยกัน(ปี2แยกภาควิชาอ่ะ) มันมาชวนทุกวัน ให้ไปให้มันขัดผิวให้ ทุกวันๆๆๆๆๆ เรียนเวลาไม่ตรงกัน มันก็รอๆๆๆๆ แล้วคิดดูเดะ เราเรียนโยธา มันเรียนไฟฟ้า แล้วมันผู้ชายอ่ะ มันจะให้เราไปให้มันขัดผิวให้ บ้าไปแล้ว เราบอกไม่ต้องขัดแล้วกัน ไหนๆๆจะขายอะไร เราจะช่วยอ่ะนะ เราก็ซื้อพวกเครื่องสำอางมานิดหน่อย คือ ช่วยเพื่อนอ่ะนะ แล้วเราก้บอกว่า เอ้อ....เราช่วยได้แค่นี้นะ เรื่องนี้ผ่านมา 5 ปีแล้ว  ทุกวันนี้เพื่อนคนนี้เลิกจากลัทธิแอมเวย์แล้ว ทุกวันนี้คุยกัน ก็ขำๆๆ  เพื่อนเราบ้าแล้ว  ก็เลยกลับมาเป้นปกติ เฮ้อ.............แอมเวย์ จากคุณ : การ์ตูนจ๋าจ๊ะ - [ 13 พ.ค. 50 23:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เพื่อนธารน้ำ คบกันมา 15 ปี เลิกคบกัน ก็เพราะมันมาชวนเพื่อนในกลุ่มไปฟังอัพไลน์นี่แหละ นับจากวันนั้น ทุกคน ก็ตัดมันออกจากกลุ่ม เพราะถ้ารักกันจริง จะต้องไม่ทำอย่างนี้กับเพื่อน จากคุณ : ธารน้ำ - [ 13 พ.ค. 50 23:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เสียใจด้วยนะคะกับผู้ที่มีประสบการณ์ไม่ดีกับธุรกิจนี้มา แต่ทุกสังคมก็มีทั้งคนดีคนไม่ดีปะปนกัน  อย่าเหมารวมไปหมด   หยุดคิดสักนิดก่อนว่าคุณได้ศึกษาธุรกิจนี้อย่างจริงจังหรือยัง   โดยเฉพาะกับเอกสารที่ได้รับมาโดยตรงจากบริษัท   เมล์ที่ส่งมาไม่มีตอนไหนเลยที่บอกว่าได้ศึกษาแล้ว  มีแต่บอกว่าUPLINE  บอกอย่างนั้นอย่างนี้ จะตัดสินใจทำอะไรควรทำอย่างมีสติ  อย่าอคติ     เสียใจด้วยกับทุกท่านจริงๆค่ะ จากคุณ : Daytime Lantern - [ 13 พ.ค. 50 23:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านจบแล้ว เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงหรือใกล้เคียงความจริงมากค่ะ เพราะพ่อแม่ก็เคยหลงเชื่อลัทธินี้เหมือนกัน ไปอบรมสัมมนาดึกๆ ดื่นๆ บางทีห้าทุ่มเราโทรหาแม่ แม่ยังขับรถกลับบ้านอยู่เลย แต่เรายังโชคดีที่เคยอ่านเจอเรื่องแนวนี้ในห้องสวนลุมเนี่ยแหละ ก็ print ไปให้แม่อ่าน ก็คุยให้แม่ฟัง ให้ลองคิด แม่ก็เลยเลิกไปแล้ว ตอนนี้ก็เลือกใช้เฉพาะของที่คิดว่าดีเป็นบางตัวเท่านั้นเอง ก็เป็นโชคดีของบ้านเรา ส่วนตัวเราเอง เคยมีพี่ที่เคยทำงานตึกเดียวกัน ไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ โทรมาหาประมาณว่า พี่จะแนะนำสิ่งดีๆ ในชีวิต วินาทีนั้นมีสามอย่างที่ปุดขึ้นมาในหัว แอมเวย์ ประกัน หรือคริสเตียนหว่า ปรากฎว่าเป็นแอมเวย์ ก็เลยบอกไปว่า บ้านหนูก็เป็นสมาชิกอยู่อ่ะพี่ จากวันนั้นก็หายสนิทไปเลย หึหึ จากคุณ : kate_rocks - [ 13 พ.ค. 50 23:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เราเคยเจอ ตอนเราเรียนมหาลัยเพื่อนไม่สนิทมาก แต่คุยเฮฮาได้ มาชวนไปไหนไม่รุ พอไปมันพาไปเฮาส์ที่แอมเวย์ เจ้าของเฮาส์งเป็นหมอสองสามี ภรรยา เราโดนจ่ายค่าเข้าด้วยยี่สิบ (แอบไม่พอใจเพื่อน) เราเสียเวลามากๆ ไม่ได้อ่านหนังสืออ่ะ พอไปถึงเฮาส์ ก็พูดกันเหมือนในเมลล์เด๊ะ แต่ละคนดูมีความหวัง มารับมาส่งกัน ช่วยเหลือกันสุดฤทธิ์ แต่แหะ ๆ เราไม่ชอบอ่ะ เราก็ทำเออออขอคิดก่อน พอเพื่อนมาส่ง หลังจากนั้นเราไม่รับโทรศัพท์เพื่อนคนนั้นอีกเลย รำคาญมาก ออกแนวเลิกคบเลยอ่ะ แต่ไม่ได้บอกอะไร จากคุณ : เปรี้ยวอมหวาน - [ 14 พ.ค. 50 00:31:20 A:58.147.113.191 X: TicketID:145325 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แอมเวย์ ก้เอาแต่คนที่ทำแล้วรวยมากป่าวประกาศ คนที่ทำแล้วเจ๊ง ติดหนี้ ไม่เคยพูดถึงเลย คนทำแล้รวยมี10คน คนเจ๊ง1000 สัดส่วนนี้อาจน้อยไปด้วยซ้ำอ้ะ เรามีเพื่อนคนนึงทำแล้วรวยจิงๆได้เดือนละ3-4หมื่นเลย ยังเรียนอยู่ด้วยกันนี่แหละ สิ่งสำคัญคือการหา downline จิงๆเลย เพื่อนเราบอกมา จากคุณ : blanchet - [ 14 พ.ค. 50 00:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ^ ^ | | #38 เคยมีพี่ที่เคยทำงานตึกเดียวกัน ไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ โทรมาหาประมาณว่า พี่จะแนะนำสิ่งดีๆ ในชีวิต วินาทีนั้นมีสามอย่างที่ปุดขึ้นมาในหัว แอมเวย์ ประกัน หรือคริสเตียนหว่า ท่อนนี้ได้ใจมากครับ ผมมีช่วงนึงกลัวเพื่อนเก่าไปเลย แบบว่าใครไม่สนิทๆ โทรมาเนี่ย ตกใจมากกว่าดีใจอีกครับ เพราะก่อนหน้านั้นหลอนจากเพื่อนเก่าที่ไม่สนิท พยายามจะมาคุยเรื่องประกันให้ได้ (แต่ไม่ยอมบอกว่าจะคุยเรื่องประกัน) แต่โชคดีที่ตอนนั้นมีสายมาเตือนก่อน เลยรอดตัวไป ป.ล. ผมว่าถ้าจะขายตรงนะครับ ไปขายประกันดีกว่า จากคุณ : Blu&Rosso - [ 14 พ.ค. 50 00:47:22 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อืม ฟังเรื่องนี้หน่อยนะ เรารู้จักป้าคนนึง เคยมาชวนที่บ้านสมัคร แต่เราขอเป็นแค่สมาชิกได้ส่วนลด เพราะสินค้าบางอย่างก็ใช้ดี เช่น ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาอเนกประสงค์ แม่ชอบค่ะ ป้าคนนี้เป็นครูประถมเองค่ะ ที่บ้านไม่ร่ำรวย แต่ส่งลูกสามคนเรียนจบมหาลัยในปีถัดๆ กันได้ เค้ามีรายได้ที่มากกว่าเงินเดือนจากการขายแอมเวย์ เราว่าธุรกิจมันมีดีอยู่ค่ะ แต่มันอยู่ที่ว่าคนทำเลือกใช้วิธีการที่ผิด และเราก็เลือกจะเป็นผู้ใช้ แทนที่จะเป็นผู้ขายอยู่ดี จากคุณ : zzz - [ 14 พ.ค. 50 01:20:57 A:203.159.42.15 X:203.159.36.10 TicketID:143786 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เราก็เคยเจอนะคะ คืออยากสมัครเพื่อซื้อของแอมเวย์ในราคาสมาชิกน่ะค่ะ แล้วก็เจอผู้หญิงคนนึงลงโฆษณาไว้ ประมาณว่าสมัครสมาชิกแอมเวย์ 150 ต่อปี ไม่ต้องขายของ อะไรแบบเนี้ย ก่อนสมัครเราก็บอกเค้าเคลียร์แล้วว่าอยากสมัครเพื่อซื้อของเท่านั้น เค้าก็นี่แหละค่ะสมัครกับพี่ได้เลยอะไรเงี้ย หลังจากสมัครก็พาเพื่อนมาหาเรา สาธิตเครื่องกรองน้ำให้เราดู เราสนใจไง ก็แบบว่าเสนอใหญ่เลย แต่พอดีแฟนเราน่ะ อาโกเค้าก็ขายอยู่ เค้าก็ค่อนข้างจะเข้าใจระบบ เพราะเค้าก็โดนตื๊อให้ซื้อเครื่องกรองน้ำ กับกรองอากาศเหมือนกัน ตอนนี้เครื่องกรองอากาศก็ตั้งไว้งั้นแหละ ไม่ได้ใช้เลย เสียดายเงินแทน เค้าก็จะคอยพูดเตือนสติเราตลอด อย่างเช่น สมมุติเราซื้อไปเวลาเครื่องเสียใครจะมาซ่อมให้ เค้าไม่มีช่างประจำนะ ของพวกเนี้ยมันขายตรง กำไรอื้อซ่า ราคาจริงๆ ไม่แพงขนาดนั้นหรอก ลองไปหายี่ห้ออื่นตามห้างดูดีกว่า ระบบมันก็ไม่ต่างกันหรอก เราก็เลยยังรีรออยู่ หลังจากนั้นเค้าก็จะชอบโทรมาหา ชวนไปกินข้าว จะแวะมาเยี่ยม คิดถึง บ่อยมั่กๆ อ่ะ จนเราต้อง black list ไว้เลย เพราะเราอาจจะหลงไปด้วยความเกรงใจ เราไม่อยากปฏิเสธไง มันบ่อยแล้ว ก็เลยตัดปัญหาไม่รับเลยดีกว่า เค้าก็เอาเบอร์พีซีทีโทรมาอ่ะ พอเราปฏิเสธบ่อยเข้า คือทุกครั้งเลยอ่ะ เค้าก็เลยนานๆ มาที แต่ความพยายามเค้าสุดยอดนะ โทรตื้อเราอยู่ประมาณปีนึงได้ จนเลิกโทร เพราะสมาชิกเราหมดอายุ สรุปว่าเราไม่ได้ซื้ออะไรของแอมเวย์ใช้เลย เพราะว่าคลังสินค้าอยู่ไกล - -" จากคุณ : ~Sribo~ (~Sribo~) - [ 14 พ.ค. 50 01:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เราเชื่อเรื่องนี้นะ ..เรื่องทีว่ากักตุนสินค้าแล้วเป็นหนี้มากมายเนี่ย .. เรือ่งจิตวิทยาหมู่ ..เรื่องการพูดโน้มน้าวสุดๆๆ  เราเห็นมาเองแล้วไง .. เพื่อนเราคนนึง (ไม่สนิท) ก็เป็นแนวๆ นี้  ต้องซื้อของทำยอด ทั้งๆ ที่ยังขายไม่ได้ แล้วก็โทรไปหาคนอื่น แบบโทรไปขายเลยอ่ะ ว่าจะลดราคาให้ .. เค้าก็บอกว่า (ตอนชวน) เรามีความฝันอะไร  อยากเป็นอะไร  อยากเป็นแค่มนุษย์เงินเดือนหรอ ต้องเป็นลูกน้องคนอื่นนะ นี่ไงธุรกิจที่เราเป็นเจ้าของ ทำได้ถึงลูกหลาน เนี่ย ..แต่เราต้องให้ใจมันก่อน....เราต้องใช้ของเค้าจะได้รู้ว่าดีแค่ไหนจะได้แนะนำคนอื่นได้  บลาๆๆ(เรานึกในใจ--- ทำไมไม่ให้ทดลองใช้ฟรีอ่ะ  ถ้าดีจริงก็ซื้อแหละ)   เนี่ย เค้ากำลังสานฝันของเค้า วันหนึ่งเค้าจะสบาย มีรถใช้ตั้งแต่เรียนยังไม่จบ  ..บลาๆ เข้าใจอ่ะนะว่ามันมีทั้งคนดีไม่ดีปนกันไป แต่มันก็ทำให้เรา แหยงๆ ที่จะไปสนใจธุรกิจแบบ MLM ไปเลยอ่ะ .. อยากรู้เหมือนกันว่า คนที่เริ่มจาก 0 เลย จะมาทำธุรกิจนี้สำเร็จมั้ยอ่ะ ถ้าไม่ไปกู้เงินใดๆ มาอ่ะ .. น่าสงสารคนที่เค้าไม่รู้ท้น แล้วมีความฝันอยากสำเร็จ อยากให้พ่อแม่สบาย .. แต่ไม่รู้ถึงเบือ้งหลังเลยว่ามันเป็นอย่างนี้ ( ถ้าเจออัพไลน์แย่ๆ) ส่วนตัวเรา....เคยมีคนมาพูดให้ฟังเยอะนะ แต่เราไม่ชอบอ่ะ ทีหลังถ้ามีใครมาชวนอีก  สิ่งที่เราจะพูดคือ "เป็นสมาชิก มีรหัสแล้วจ้ะ"  ------ คิดว่าน่าจะเวิร์คนะ quaote คห. อื่นๆ ที่ชอบ เคยมีพี่ที่เคยทำงานตึกเดียวกัน ไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ โทรมาหาประมาณว่า พี่จะแนะนำสิ่งดีๆ ในชีวิต วินาทีนั้นมีสามอย่างที่ปุดขึ้นมาในหัว แอมเวย์ ประกัน หรือคริสเตียนหว่า ---------------  อืม ..มีสามอย่างที่นึกถึงจริงๆ นะ ..เหอๆ โดนค่ะ ท่อนนี้ ป.ล. ผมว่าถ้าจะขายตรงนะครับ ไปขายประกันดีกว่า --- เห็นด้วยเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 50 02:09:45 จากคุณ : tasteless water - [ 14 พ.ค. 50 02:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เราก้อมีเรื่อง เกี่ยวกับแอมเวย์มาเหมือนกัน ตอนเราเรียนปวช.ปีสอง มีอาจารย์สอนวิชาการขาย เค้าเป็นสมาชิกแอมเวย์เนียะแหละ วัน ๆ มะเคยสอนหนังสือเล้ยย เอาแต่สมุดแคตตาล๊อกมาให้ดู แล้วให้นักเรียนซื้อ บางคนก้อซื้อเยอะ พอเกรดออกก้อเกรดดีทีเดียว ใครที่ไม่ซื้อของก้อตก เช่น เรา เป็นต้น -*- ซะงั้น แกบอกถ้าไม่อยากเสียตังค่าซัมเมอ เลยจำใจต้องไปซื้อสมุดแคตตาล๊อกจากอาจารย์ 50 บาท แล้วต้องไปทำยอด 500+ อีกต่างหาก เราก้อเอาไปขาย ๆคนแถวบ้าน พอแม่รู้เข้า แม่ก้อให้ลาออกซะเลย จากคุณ : หนูดิว (Bichy_dewy) - [ 14 พ.ค. 50 02:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 46 กระทู้โดนใจมากอยากระบายเหมือนกัน เพราะแอมเวย์ทำให้เรากับเพื่อนที่เรารักมากคบกันมา 10 กว่าปี ต้องมาเลิกคบกันเพราะแอมเวย์  อาชีพเสริมเป็นครู อาชีพหลักขายแอมเวย์ เราทะเลาะกับมันเรื่องนี้บ่อยมากจนตอนนี้เรา บล็อคเอ็ม ไม่รับโทรศัพท์ เลิกติดต่อเด็ดขาด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลัทธินี้จะล้างสมองเพื่อนเรา ทำให้เรากับเพื่อนต้องเลิกคบกัน มีอยู่ช่วงนึงเราออกจากงานไม่มีงานทำมันโทรมาบอกเราว่า ช่วยซื้อ อาร์ทิสตี้ หน่อย ให้เอาเลขสมาชิกมันไปซื้อเพราะว่ามันเหลือยอดอีกไม่เท่าไหร่ มันจะได้ไปล่องเรือไปเมดิเตอร์เลเนียนแล้ว เราบอกว่าเราตกงานไม่มีงานทำไม่มีเงินซื้อหรอกมันโกรธเราหาว่าเราไม่ช่วยมัน มันจะไปเที่ยว เราจุกเลยซึ้งเลยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนเราที่คบกันมานานจะเห็นประโยชน์ส่วนตัวมากมากว่า ความเป็นเพื่อนที่มีกันมา 10 กว่าปี เสียใจอย่างแรง แล้วเราก็ด่ามันแล้วว่ารู้ตัวป่าวว่าแกเปลี่ยนไปแล้ว โดนแอมเวย์ล้างสมองแล้ว มันก็เถียงเรากลับว่าเราบ้าไม่เข้าใจ ลัทธิอะไร แอมเวย์ไม่ใช่ลัทธิ แอมเวย์เป็นสิ่งที่ดีกับชีวิตมัน เราก็เลยบอกว่าถ้างั้นเรากับแกก็จบกัน ทางใครทางมัน  ตอนนี้เลิกคบเรียบร้อยโรงเรียนแอมเวย์แล้วค่ะ ขอบคุณนะคะลัทธิแอมเวย์ที่ทำให้เพื่อนเลิกคบกันได้  ทำให้พี่กับน้องต้องทะเลาะกัน และทำให้แม่กับลูกเค้าต้องทะเลาะกัน เข้าใจลึกซึ้งอย่างแรงเลยค่ะ ลัทธิบ้าๆๆ จากคุณ : sexy_dog - [ 14 พ.ค. 50 08:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ทำตอนนี้ไม่รอดหรอกค่ะ ตันแล้วอ่ะ พวกที่เอามาโปรโมทนี่ คือพวกที่เค้าเริ่มทำตั้งแต่แรกที่เข้ามานะคะ ลองคิดดูง่ายๆ สินค้าโคดแพงราคาขนาดนั้น คนที่มีกำลังซื้อในไทยก็มีแค่หยิบมือเดียวเท่านั้นแหละ ซึ่งเค้าก็ซื้อกันหมดแล้ว ทำตอนนี้อย่าหวังว่าจะรวยเลยค่ะ ภาพเสียหมดแล้วค่ะ มีแต่คนรังเกียจ เพื่อนเราก็ตอนจบใหม่ๆ ไปตั้งใจทำจริงจังอยู่สองสามคน สุดท้ายก็ไม่รอดซักคน ก็ต้องกลับมาทำงานกินเงินเดือนอยู่ดี หุหุ ไหนว่าทำแล้วรวยไง สรุปก็ รวยแต่พวกฝรั่ง กะพวกบนๆอ่ะดิ - - จากคุณ : std dev - [ 14 พ.ค. 50 09:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเราก็เคยช่วยเพื่อนซื้อนะ แต่ซื้อได้แค่โอรีโออ่ะ 555+ จากคุณ : นู๋น้อยซะดะโกะ - [ 14 พ.ค. 50 09:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เห้นด้วยว่าเค้าก็เอาแต่คนที่รวยอยู่แล้วมาโปรโมต คนที่มีหนี้สินเพราะสินค้านี้ก็ไม่เคยได้มีใครรู้ พวกที่อยู่ระดับบนๆ รวยๆ มีเงินไม่ต้องทำงานนั่นเพราะเค้าทำมาตั้งแต่สมัยแรกไงคะ เค้าก็มีฐานเพียบเลยไม่ต้องทำอะไรสบาย แต่จะบอกว่าสมัยนี้คุณไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก เพราะว่า เดี๋ยวนี้หาคนจะเข้ามาเป้นตัวแทนยากจะตายไป คน จวย ก็เลยตกอยู่กะสมาชิกใหม่ ที่ต้องไปไล่หาฐานตะหาก เรื่องสินค้าเค้าก็มีดี ๆ อยู่หลายตัวค่ะ แต่เนือ่งจากว่า ชาร์ตราคาไว้สูงมาก ก็เลยคิดว่า ยี่ห้ออื่นก็มีถูกกว่า ทำไมเราต้องซือ้ของแพงกว่า ขนาดยี่ห้อนี้ตะก่อนไม่ได้โฆษณามากมาย ทั้งในทีวี นสพ และตามแมกกาซีนแบบสมัยนี้ ยังคิดราคาสินค้าแพงขนาดนี้ ตอนนี้ก็ไม่แปลกใจเลยที่ปัจจุบันปรับขึ้นราคาสินค้าอีกเพียบ จากคุณ : ชฎาแหลม - [ 14 พ.ค. 50 11:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตอนอยู่ปี 1 พี่รหัสชวนไปเทค บอกว่าจะพาไปเที่ยวในเมือง ที่โรงแรม (พี่รหัสเป็นผู้หญิงนะ อย่าคิดมาก) ไอ้เราก็คิดว่า คงพาไปหาอะไรดีๆกินกัน ที่ไหนได้ พาไปฟังแอมเวย์ หุหุ วันแรกฟังแล้วเคลิ้มเลย อยากรวย เห็นเงินเป็นล้านๆกองอยู่ตรงหน้า ฟังเสร็จก็กลับหอเลย วันที่ 2 ก็ไปอีก ที่โรงแรมเดิม แต่คราวนี้มันไม่ได้กลับเลยอ่ะดิ ไปต่ออีกที่นึงอ่ะ น่าจะเป็น house อย่างที่เรียกกันแหละ มีคนอยู่ประมาณ 10 คน 1 ในนั้นเป็นรุ่นพี่ที่คณะ ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่รหัสเรา คราวนี้เค้าแต่งหน้าให้เรา ทุกคนในนั้น ลงความเห็นว่าเรา "สวยมากกกกก" เหอๆๆ วันนั้นเรากลับหอ ตี 1 กว่าแน่ะ ไม่ไหวๆๆ หลังจากนั้นเราไม่ไปอีกเลย พี่รหัสเรากับเรา ก็เลยไม่ค่อยได้เจอกัน (เราแอบพี่เค้าอ่ะ..เหอๆ) แต่เราก็เห็นพี่เค้าบ่อยนะ ในคณะ มาแต่ละที แต่งหน้าอย่างกับจะไปเล่นงิ้วอย่างนั้นแหละ เพื่อนๆเราก็ชอบบอกว่า "พี่รหัส_งึเป็นเอามากนะเนี่ย" เพราะเราได้ยินมาว่า พี่รหัสเรา เพื่อนๆไม่ค่อยชอบ เพราะจะพูดแต่แอมเวย์ๆๆ เค้าเคยพาเพื่อนสนิทไปสมัครแอมเวย์ แต่งหน้าจนสิวเห่อมากกกก จนถึงวันนี้ พี่รหัสกับเพื่อนสนิทคนนั้นก็ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันแล้ว เป็นเพราะแอมเวย์รึป่าวหว่า??? ตอนนี้เราก็กำลังจะขึ้นปี 4 แล้ว พี่รหัสเราก็เรียนจบแล้ว ไม่รู้เค้ายังทำแอมเวย์อยู่รึป่าว บอกแล้ว ว่าตั้งแต่นั้นเราก็หลบตลอดเลย จะว่าไปแล้ว เราก็ใช้แอมเวย์เหมือนกันนะ แต่ก็เลิกใช้ไปแล้ว อิอิ ทุกคนที่นั่ จากคุณ : my way (black_galz) - [ 14 พ.ค. 50 11:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่ะ อ่านไม่จบ แต่ขอบอกว่า เค้ามีเคล็ดกันอีกวิธีนึงค่ะ ย้ายงาน ได้งานใหม่ ทำความรู้จัก ขายแอมเวย์ ได้ลูกค้า ได้ downline แล้วลาออก หางานใหม่ หาเหยื่อใหม่ เชื่อเค้าเลย!!! จากคุณ : Red Rose Like Love - [ 14 พ.ค. 50 12:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เราเคยอยู่ในวงจรธุรกิจนี้มา 3-4 เดือน คืออยากศึกษาค่ะว่าทำไมคนถึงมองในแง่ลบ พูดถึงแอมเวย์ = ยี๊ ไปไกลๆ  เริ่มจากสมัครเป็นนักธุรกิจ ไปทำกิจกรรมเกือบทุกอย่าง เรียนรู้สินค้า เข้ากลุ่ม ซื้อใช้เองบ้าง เออ...ของดีจริง แต่ราคาแพงด้วย ไม่มี downline เลย 555 ไม่ stock  สินค้า เดือนนึงผ่านไปไม่แปลกใจทำไมถึงเรียกว่า ”ลัทธิ” เค้าใช้วิธีเอาคนสำเร็จมาบรรยาย มีจิตวิทยา วาทศิลป์เยี่ยม ถ้าคุณใจไม่แข็งพอคุณก็คล้อยตามง่ายค่ะ ที่สำคัญคนไทยรู้จุดอ่อนกันเองงัยคะ เอาของฟรีมาล่อ ล่อแล้วหลอก หลอกด้วยตัวเลขหลักหมื่ิน หลักแสน จะว่าเค้าหลอกก็ไม่เชิงเพราะมีคนทำได้จริงๆ เอาเป็นว่าขายฝันให้คนอยากรวยละกัน ไม่มีธุรกิจไหนในโลกที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงหรอกค่ะ  แต่ที่บางคนเจ๊งเพราะ?? เพราะอยากได้ยอด อยาก up ตำแหน่งหรือเพราะเค้าหลอกเรา?? คุณจะเติบโตได้ต้องมีสายงานที่เข้มแข็ง บางคนทำมากว่า 10 ปี ยังได้แค่ DD คนบางรอไม่ได้เพราะชอบรวยทางลัดงัยคะ เลยทำทุกวิถีทางเพื่อให้มาซึ่ง PV ถ้าลองอ่าน Business Model ของเค้าจริงๆ มันไม่ใช่เลย ธุรกิจเค้าไม่ได้สนับสนุนให้ stock สินค้า แต่ที่ภาพพจน์มันเลวร้่ายลงทุกวันนี้ก็เพราะคนนี่แหละค่ะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราค่ะว่าเรารับผิดชอบได้มากน้อยแค่ไหน จากคุณ : irin7477 - [ 14 พ.ค. 50 13:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ใช่ๆ สินค้าเนี่ยจริงๆก้อมีคุณภาพนะ แต่ไอ้การโน้มน้าวชักจูงด้วยรายได้นี่แหละ ทำให้คนที่สมัครแล้วต้องดิ้นรนจนเป็นหนี้  บริษิทแม่ร่ำรวยอยู่คนเดียว นี่เอาประสบการณ์ใกล้ตัวมาเล่าเลยดีกว่า เพื่อนของแฟนเราก้อคงจะเป็นอัพไลน์แบบที่เล่านี่แหละ มาชวนกลุ่มเพือนๆไปเป็นสมาชิก คือมันก้อมีทั้งพวกที่ฝันเฟื่อง อยากรวยแบบที่เค้าโม้ให้ฟังอย่างสวยหรูเลย  แล้วก้ออีกพวกนึง คือแฟนเรากะเพื่อนอีก2-3คนที่ไม่เห็นด้วยว่างานสบายๆได้เงินง่ายๆแบบนี้ไม่มีหรอก ทำให้เพือ่น2กลุ่มนี้กลายเป็นไม่ถูกกันในตอนนั้นไปเลย เพราะไอ้กลุ่มที่เข้าลัทธิไปแล้วมันก้อมองว่าเอาสิ่งดีๆมาให้ แต่ทำไมแฟนเรากะเพือ่นอีกกลุ่มไม่เข้าใจ  แล้วเค้าก้ออะไรๆก้อแอมเวย์อ่ะ  น่ารำคาญมาก แล้วมันเป็นจริงๆนะ คือเกือบทุกคนที่เข้าในลัทธิไปแล้วเนี่ย จะโดนล้างสมองมากเลย  มีอยู่คนนึง คือฐานะก้อจัดได้ว่าไม่ดีเลยแหละ มาบอกแฟนเราว่าจะไปดาวน์รถ เพื่อให้มีความภูมิฐาน น่าเชื่อถือ คือเงินที่จะมาผ่อนยังไม่รู้จะเอามาจากไหน แต่ดันยอมเป็นหนี้อ่ะ แต่ดีนะที่แฟนเราด่าให้ได้สติไปซะก่อน บ้านยังต้องเช่าเค้าอยู่เลยอ่ะ แต่จะไปซื้อรถ อีกคนนึงเป็นคนที่ทำงานอยู่กะแฟนเรา (เรามีกิจการส่วนตัว) คือเงินเดือนที่ได้ก้อไม่ได้มากมาย ที่อยู่ยังต้องไปอาศัยอยู่กะเพื่อนอีกคนนึงอยู่เลย แต่ก้อโดนแบบนี้แหละ โดนให้ซื้อเครื่องกรองน้ำ แล้วคิดดู เงินเดือนแค่4-5พัน เครื่องกรองน้ำราคาเป็นหมื่น จะเอาเงินจากไหนมา (แล้วแถมซื้อมาก้อไม่ได้ใช้ เพราะอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ คิดดู๊) ก้อต้องไปกู้ ไปเป็นหนี้เค้า ซึ่งคนที่ไปกู้ให้ก้อเป็นเพื่อนอีกคนที่เข้าลัทธิไปก่อหน้านี้  พอเป้นหนี้ปุ๊บ ก้อทำงานแบบเงินเดือนไม่ชนเดือนเลย เบิกล่วงหน้าตลอด เพราะว่าต้องเอาไปใช้หนี้เค้า  พอโดนทวงจากเพื่อนคนที่ไปกู้มาให้มากๆเข้า ไอ้เพื่อนแฟนคนนี้เลยลาออกจากงานของเรา แล้วหนีไปอยู่ที่อื่นเลย แล้วส่วนเพื่อนคนที่ไปกู้มาให้เนี่ย ตอนนี้ก้อเป็นหนี้ท่วมหัวเลย เครดิตก้อเสียไปแล้ว  เรารู้สึกสงสารเค้าเลย และก้อรู้สึกแย่มากๆกะระบบการขายแบบนี้ไปเลยอ่ะ เรื่องมันยาวจริงๆ เล่าเองก้อยังงงๆ แต่อย่างนึงที่ชัดตอนนี้เลยคือ คนที่เคยเข้าลัทธินี้ทุกคน พอตาสว่างแล้วก้อเป็นหนี้ท่วมตัวกันทุกคนเลย แถมเกือบจะเสียเพื่อนด้วย ตอนนี้ออกจากลัทธิมากันหมดละ ที่ยังอยู่ก้อมีคนเดียวมั๊ง ไอ้เพื่อนที่เป็นอัพไลน์ยมฑูต...เอ๊ย มงกุดฑูต(มั๊ง)   เฮ้อออออออออออ.......... กรรมของใครคนนั้นต้องรับไปใช่ไม๊คะเนี่ย จากคุณ : alekay - [ 14 พ.ค. 50 13:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ***พูดถึงตัวธุรกิจ*** มันไม่ใช่เฉพาะยี่ห้อนี้หรอกครับ ยี่ห้ออื่นๆ ที่มีการตลาดแบบขายตรงและมีการเก็บเปอร์เซ็นต์ที่หัวคิวมันก็ออกมาลักษณะคล้ายๆ อย่างนี้ทั้งนั้น  ผมว่ามันขึ้นอยู่กับคนที่ทำอยู่แต่ละคนด้วยว่าเข้าใจธุรกิจดีแค่ไหน และมีสำนึกดีแค่ไหน  อย่างที่รีบนๆ บอกว่า ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีแวว แล้วยังชวนมาทำ อันนี้ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งนะ  โดยระบบแล้ว ธุรกิจนี้ ถ้าเราอยากรวย หลักคือ ต้องขายให้ได้มาก (ก็แน่ล่ะ ใครเขาจะให้เงินคุณฟรีๆ อยากได้มาก ก็ต้องขายให้เขามาก) แต่คุณคิดหรือว่าคุณจะขายเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม และเครื่องกรองน้ำ เดือนเป็นหลายล้าน เพียงเพื่อจะได้เปอร์เซ็นต์มาเป็นหมื่นเป็นแสนด้วยตัวคุณเพียงคนเดียว? แอมเวย์มีคำตอบ  คุณไปหาคนมาช่วยคุณขายสิ เขาขายได้เยอะ  เราแบ่งเปอร์เซ็นต์ของเขาให้คุณด้วย ดังนั้น คนที่จะรุ่ง ก็คือ ต้องขายได้มาก และ/หรือ ต้องโน้มน้าวเก่ง สามารถหาคนที่ขายเก่งๆ มาอยู่ในทีมตัวเองได้ นี่ก็เลยเป็นสาเหตุของพฤติกรรมแย่ๆ ทั้งหลายน่ะแหละครับ โน้มน้าว หลอกล่อแกมบังคับ แถมให้เขาซื้อของ จะได้ได้ยอด ผมว่าคนพวกนี้ไม่ฉลาด เพราะถ้าถึงจุดหนึ่ง คนที่โดนหลอกรู้ตัวก็จะไป มันก็ไม่ยั่งยืน ทำแบบนี้ไม่น่าประสบความสำเร็จ **กรณีศึกษา** คร่าวๆ  น้องชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) ผมเอง ไปสมัครธุรกิจแบบนี้ แต่เป็นยี่ห้ออื่นนะ  ผมให้มันอธิบายแผนให้ฟัง  ก็คล้ายๆ กับของแอมเวย์ล่ะครับ ผมก็เลยอธิบายความเห็นผมให้น้องฟังว่า จริงๆ แล้ว ธุรกิจแบบนี้ต้องการอะไร  และต้องทำยังไง (เน้นว่า เอ็งต้องขาย นะ) แต่มันก็ไม่เชื่อผม  เอาไปซื้อมาตุนไว้เอง (ใช้เงินที่บ้านมันส่งให้)  สุดท้ายเสียไปสี่หมื่น ไม่ได้อะไรกลับมาเลย นอกจากสินค้ากองพะเนินเทินทึก ที่ตัวมันเองก็ไม่ใช้ อ่อ แล้วก็แต้มสะสมยอดให้ upline มันอีกจำนวนหนึ่ง **สินค้าแอมเวย์** ตัวสินค้าเองก็ดีอะนะครับ บางอย่างก็ใช้อยู่ครับ **สรุป** ค้นหาตัวให้เจอดีกว่า ว่าต้องการอะไร ถ้ารู้ตัวว่าชอบธุรกิจแบบนี้ก็ทำไปเถอะครับ แต่ถ้าไม่ชอบ จะทำไปทำไมล่ะ หาอย่างอื่นที่ชอบทำดีกว่า ถ้ามันเหมาะกับเรา และได้จังหวะดีๆ ก็รวยได้เหมือนกัน *ความเห็นส่วนตัวคับ :)* จากคุณ : nbfz20 (nbfz20) - [ 14 พ.ค. 50 14:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คห. 51 พูดได้ถูกใจมากเลยอ่ะ จิงๆนะเพื่อนเราอีกคนที่ไม่ได้สนิทมาก เค้าบอกกับเราว่าเค้าต้องย้ายงานบ่อยๆอ่ะ เพื่อหาลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องจิงเลยแหล่ะ เรื่อง ย้ายงาน จากคุณ : sexy_dog - [ 14 พ.ค. 50 18:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เรื่องแอมเวย์อ่ะหรอ เล่ายังไงก็ไม่จบสิ้นอ่ะ เราเองก็เคยโดนญาติกันนี่แหละหลอกให้เราสมัครสมาชิก เราก็เออ..สมัครไปเพราะเกรงใจ หลังๆชวนเราไปประชุม เราเองแรกๆก็ยังไม่รุ้แผนการตลาดไรหรอก ไปงั้นๆแหละเกรงใจ...โหขอบอกโคตะระเบื่อเลย นึกในใจ เวงกำไรของตรูฟร่ะเนี่ย -_-" ต้องมานั่งฟังพวกนี้พูดถึงความร่ำรวย อนาคตจะต้องมีบ้านหลังใหญ่ๆมีรถหรูๆขับ เอารูป+ชื่อคนนี้ได้มงกุฎทูตไรนั่นมาจูงใจ เวลาพูดอะไรก็เฮๆๆกันเข้าไป ปรบมือกันเข้าไป ตะโกนกันเข้าไปว่าทำได้ เห่อๆแต่สำหรับเรานะ นึกในใจ ตรูม่ายยย เชื่อ อย่ามาแอบอ้างว่ามีคนทำงานเปนหมอ แต่ยอมลาออกจากอาชีพหมอ เพื่อมาทำธุรกิจแอมเวย์อย่างเต็มตัว -"- หลังๆไม่หลงกลละ มาชวนไปประชุมอีกเราไม่ไปละ ทำหน้าหงิกใส่ ให้รู้ว่า ตรูรำคาญว๊อยยยย...หลังๆญาติเปลี่ยนวิธีใหม่ ไม่ชวนไปประชุมแล้ว แต่ชวนเราไปเที่ยวบางแสน...ย้ำว่าบางแสน ชวนไปเที่ยวทะเล วู้ๆๆๆ อย่างนี้ช๊านไป ฮ่าๆๆๆ ตอนไปก็เอะใจนิดๆ ทำไมพวกที่ไปด้วยกันมันมีแต่พวกหน้าเดิมๆ เซ็ทแอมเวย์ทั้งงั้นเลยง่ะ ??? เริ่มรู้ตัวแร่ะว่าเอาแล้วตรู สงสัยพาช๊านไปประชุมที่บางแสนแง๋...เราเลยถามแบบไม่อ้อมค้อม นี่จะพาไปประชุมอีกใช่ป่ะเนี่ย..แต่ป่าวๆ สมาชิกแอมเวย์ทั้งทีมบอกว่าไม่ใช่ประชุมนะ จะพาไปเที่ยวนี่แหละ ไปร้อยใจ ?? งงๆๆ เรา งงๆ คับทั่น ร้อยใจไรฟร่ะ? เอาว่ะ ไหนๆก็หลงขึ้นรถมาแล้วนี่เนอะ เห่อ...พอไปถึงบางแสน โอ้พระเจ้าจอร์ช อารายกันนี่ ทำอย่างกะเข้าค่ายเนตรนารีแหนะ -"- ให้ยืนเรียงแถวแบ่งกลุ่ม แล้วก็เล่นเกมส์ แต่ก็ไม่วายมีเรื่องแอมเวย์เข้ามาเกี่ยวเป็นระรอกๆ เห่อๆ ไปบางแสน 2คืน1วัน ไม่เคยได้ออกมาเห็นทะเลเล๊ย เวงกำของช๊าน ยิ่งคืนที่สองนะเรารับไม่ได้เลย แบ่งกลุ่มกัน แล้วให้ยืนเปนวงกลม ให้แต่ละคนออกมาร้องตะโกนดังๆว่า ((( ฉันต้องทำได้ๆ ))) ตะโกนแบบนี้ซ้ำๆถึงแปดครั้ง เพราะในกลุ่มมีแปดคน แต่เด็ดสุดตอนตะโกนครั้งที่แปดนี่แหละต้องดังๆสุดเสียงแล้วทุกคนในกลุ่มก็จะเข้ามาโอบกอด คนที่ตะโกนอ่ะร้องไห้โฮ คนในกลุ่มก็ร้องตาม *_* เราหละเปน งง พี่ทั่นจะชวนกันร้องไห้ทำไมน๋อ *_* เราหละใจเต้นไม่เปนจังหว่ะเลย...เอาแล้วไงตรู ถ้าถึงตาช๊าน จะทำไงฟ่ะเนี่ย เง่อ หนีไม่พ้น พอถึงตาเราก็นะไปตามน้ำ ทำตามไปงั้นแหละ แต่ไหง๋เรามะเหนต้องร้อมห่มร้องไห้อย่างกะคนเสียสติแบบนั้นเลยหละ ทั้งหมดที่ไปกัน รวมกับกลุ่มอื่นมี 80กว่าคนได้ ร้องไห้หมดทุกคน มีเราคนเดียวที่ไม่ร้องไห้ตามพวกเค้า มีแต่คำว่า งง กับ งง อยู่ในใจเราตลอด...แถมเรายังโดนคนที่เป็นสตาฟพูดแขว่ะอีกแหนะ ว่าคนที่ร้องไห้คือคนที่มองเห็นอนาคตความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้า แต่คนที่ไม่มีน้ำตาซักหยด คือคนที่ไม่ซาบซึ้ง ไม่มีจิตวิญญาณของการเปนนักธุรกิจ.....แน๊ะ มีงี๊ด้วยวุ๊ย *_* เอากะเค้าสิ เห่อๆ มีอีกเยอะ เล่าไปก็ยาว....หลังๆมานี่ ใครอย่ามาชวนไปประชุมหรือชวนไปไหนเกี่ยวกับแอมเวย์นะ เราไม่ไปแน่ๆ เห้อ....อารมณ์เสีย จากคุณ : JUON - [ 14 พ.ค. 50 18:52:26 A:58.147.104.166 X: TicketID:139707 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เคยโดนคนทำแอมเวย์พูดกับเราว่า  "ดักดาน ไม่นึกถึงอนาคต" หลังจากที่พยายามโน้มน้าวเท่าไหร่ เราก็ไม่ยอมทำ เราเลยพูดกลับไปว่า " อย่าเอาความคิดของตัวเองมาตัดสินคนอื่น  มีสิทธิ์อะไร  คนเราถ้าเหมือนกันหมด ก็คงเป็นแอมเวย์กันหมดแล้ว  ไม่มีเหลือให้หาดาวน์ไลน์อยู่ทุกวันนี้หรอก"   เงียบค่ะ  อึ้งหายไปเลย ส่วนตัวเราเชื่อว่าสินค้าเค้าดีจริง (บางตัว)  ระบบเค้าก็ใช้ได้  แต่คนที่ทำนี่สิคะ  ทำเสียหมด จากคุณ : Wabbit - [ 14 พ.ค. 50 19:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 58 .............. แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 50 01:18:57 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 50 01:18:27 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 50 20:43:26 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 50 20:18:31 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 50 20:17:24 จากคุณ : yaisom - [ 14 พ.ค. 50 20:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แอมเวย์จะนำพาคนที่ไม่ค่อยสนิทกับเรา ให้กล้าโทรมาหาเราเองค่ะ อิอิ อยู่ๆ แฟนเพื่อนที่ทำงานก็กล้าโทรมาหาเราซะงั้น จะชวนไปเข้าคอร์สแต่งหน้า งั้นงู้นงี้ น่าเบื่อมากๆ พอเราไม่สนใจ ก็เอาไปคุยกับแฟนตัวเองว่า "ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมไม่สนใจกัน ไม่เรียกว่าโง่ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว ซื้อของใช้แถมยังได้เงินกลับมาอีก"  เล่นเอาจนเราต่อมเดือดพุ่งปรี๊ดดด อยากจะ print เอากระทู้นี้ให้เพื่อนเราอ่านจัง แต่กลัวขุดมันไม่ขึ้นอ่ะ คนมันยังเชื่อในลัทธินี้อยู่ ทำยังไงมันก็ขุดไม่ขึ้นอ่ะ จากคุณ : วันนี้เจอกันได้มั้ย - [ 15 พ.ค. 50 08:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คือว่าพี่เรา(ลูกพี่ลูกน้อง)กับแฟนพี่เรา เงินเดือนสองคนรวมกันเกือบ 80000 ลาออกทั้งคู่มาทำ Amway เราก็ได้แต่บอกว่าดีดีดี ก็มันต้องให้กำลังใจกันแล้ว งานนี้ขัดไม่ได้ ก็เค้าลาออกไปเรียบร้อยแล้ว ได้แต่หวังไว้ว่าหมดทางไปแล้วไม่มีเงินเดือนกินคงจะทุ่มเททำและได้ตามสิ่งที่เค้าหวัง ถึงแม้ว่าตามความคิดเรามันจะยากมาก ๆ ก็เถอะนะ แต่เราก็จำใจต้องสมัคร Amway เพราะเกรงใจที่พี่มันตามตื้อเรามาสองปีแล้ว เราก็สมัครตอนปลายเดือนมีนาแล้วซื้อของไป 7000 ซื้อพวกครีมกับ เครื่องสำอางค์อ่ะแหละ แล้วก็แพ้ จากคนที่ไม่เป็นสิวเลย หน้าใส ก็เลยเป็นสิว พอไปเจอพวก Amway นะ เค้าก็บอกว่าไม่เห็นมีสิวเลย เหอ แย่จัง ก็จำได้ว่า เค้าบอกว่าไม่พอใจยินดีคืนเงิน ก็จะเอาไปคืนเป็นเงินแต่ก็ไม่ได้ เพราะเอาไปคืนตอนเดือนเมษา มันก็บอกว่าข้ามเดือนแล้วคืนได้แต่ได้เป็นใบอะไรสักใบ แล้วเอาใบนั้นไปซื้อของใหม่ ก็เลยไม่รู้จะซื้ออะไรก็เลยซื้ออาหารเสริมล่ะกัน เหอ ๆ ล่าสุดนะ พี่เค้าก็ชวนแม่มาทำ เวลาขึ้นรถมันก็ก็เปิดเทป Amway ในรถ ให้ทุกคนที่ขึ้นฟัง แทนที่จะให้เราฟังเพลง และก็บอกน้องชายว่า Amway มันดียังไง จนน้องของมันนะ บอกว่าจะเรียนอีก 2 ปี ให้จบ ปวช  แล้วจะเลิกเรียนต่อ จะไปทำ Amway จะไม่เรียนหนังสือ อีก 5 ปีมันจะมีเงินเป็นแสน เริ่มฝันไปแล้วดูดี โดนล้างสมองทั้งครอบครัว ปล.1 จะไม่ให้น้องโดนล้างสมองได้ไง ในเมื่อพี่ชายจบวิดวะ ม.เกษตร ทำงาน บริษัทฝรั่ง ยังลาออกมาขาย Amway แต่มันลืมคิดไปว่าพี่มันต่อให้ทำ Amway แล้วไปไม่รอด ก็ยังมีวุฒิวิดวะ ไปหางานได้ สามารถเลี้ยงตัวเองได้ตามอัตภาพ แต่ไม่เรียนหนังสือนี้สิ ทำ Amway ไม่รอดแล้วจะ ไปทำไรกินเนี่ย ปล.2 เรื่องจิตวิทยากลุ่มที่ความคิดเห็นด้านบนบอกมาเราก็ โดนมาเหมือนกัน โดนหลอกล่อสารพัด จะบอกว่านี้ถ้าไม่ใช่เพราะเกรงใจนะ ไม่ซื้อหรอก ซื้อเพราะมันจะได้ไม่พูดอีกรำคาน มาก ๆ ปล.3 ใช้เครื่องสำอางค์ต้องให้เหมาะกับสภาพผิว Amway มีผลิตภันฑ์ที่เลือก ไม่เหมือนกับยี่ห้ออื่นที่หลอดเดียวใช้ได้ทุกสภาพผิว อันนี้อาจทำให้แพ้ได้ แต่ก็มา present โฟมล้างหน้าอัจฉริยะ โดยได้เทคโนโลยีนาโน ทำให้โฟมไทม์ ฉลาด มันจะรู้ว่าผิวของเราเป็นยังไง สามารถปรับตัวเองให้เหมาะกับสภาพผิวเรา เออ งง ใหม่ สิ่งที่ได้ยินมันขัดแย้งกันโดยสิ้งเชิง แล้วโฟมล้างหน้าเดี๊ยวนี้มันมีสมองด้วย เพิ่งรู้แฮะ ปล.4 อยากทำ MLM อ่ะ ขายประกันดีกว่า บางคนเค้าก็อยากซื้อนะเอาไว้หักภาษี บางที่เรายังเดินไปหาตัวแทนถึงที่เลย จริง ๆ นะ ปล.5 Amway ถ้าใครที่ฝันอยากรวยมีเงินเดือนหลักแสน Amway เรามีผลิตภัณฑ์เพื่อทุกคน  เรามีฝันมาขายให้ท่าน อยากได้ฝันแบบไหนก็เชิญมาฟังที่เฮาส์ของเรา เหอ เหอ ธุรกิจขายฝันอ่ะนะ ก็ถ้าฝันอย่างเดียวแล้วทำไม่ได้อยากที่ฝันก็จบเห่อ่ะนะ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 50 10:16:55 จากคุณ : devilkin (Prettydevilkin) - [ 15 พ.ค. 50 10:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 61 มาแชร์ประสบการณ์เหมือนกันค่ะ ภรรยาของลูกค้ารายใหญ่เป็นสมาชิกค่ะ เค้ามาคะยั้นคะยอ มาแต่งหน้าให้ เอาเครื่องกรองอากาศมาทิ้งไว้ให้ลองใช้ แม่ก็เกรงใจ สมัครซะ พร้อมลากเราให้สมัครด้วย แต่ยอดซื้อต่อเดือนไม่กระเตื้องเลย เค้าก็ขยันเอาสินค้าใหม่ ๆ มาให้ลอง แล้วคอยบอกว่าเดือนนี้ควรจะทำยอดเพิ่ม พร้อมกับพา upline มานั่งพูด ๆ ๆ ให้เราฟัง แต่เรามันสมองสุนัข ปัญญากระบือ ฟังก็ทะลุหูขวาออกไปหมด หลัง ๆ เค้าก็เลิกพยายามแล้ว เห็นว่าสต๊อคของไปเยอะเหมือนกัน แล้วเลิกทำแล้วด้วย (เราได้ของขวัญวันแต่งงานเป็นเซ็ทสบู่น้ำผึ้ง กะสเปรย์ฉีดตัวของแอมเวย์ มีอึ้งเลย คงเป็นของที่เค้าสต๊อคไว้เยอะ) ส่วนอีกคน เป็นเจ้าของโรงเรียนดนตรีแห่งหนึ่ง เวลาเราไปเรียนกะเค้า เวลา 1 ชม.เค้าจะพูดเรื่องแอมเวย์ประมาณ 45 นาที คือสอนไป คุยเรื่องแอมเวย์ไป ดียังงั้นยังงี้ แทรกการขายตลอดเวลา ปกติเราเรียนบ่ายโมงไง เค้าก็โทรมาบอกว่าติดธุระ ให้ย้ายเวลามาเย็น ๆ พอไปถึง โห เพิ่งรู้ว่าหลัง 6 โมงเย็น แกเปิดรร.เป็นเฮ้าส์ด้วย เดินเข้าไปนี่รู้สึกถึงรังสีอำมหิตเลย มักคะยั้นคะยอให้เราอยู่ร่วมให้ได้ เลยเรียนได้ไม่ทนเท่าไหร่ แล้วรู้สึกอีกอย่างว่าคนขายแอมเวย์กะขายประกัน จะมีแววตากะรอยยิ้มอย่างหนึ่ง อธิบายไม่ถูกอ่ะ เหมือนพยายามจะจริงใจ แต่จริง ๆ ไม่ จากคุณ : เจ๋แจน...ซ่าส์~~ (~ J a N Z a ~) - [ 16 พ.ค. 50 11:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 62 รู้สึกอีกอย่างว่าคนขายแอมเวย์กะขายประกัน จะมีแววตากะรอยยิ้มอย่างหนึ่ง อธิบายไม่ถูกอ่ะ เหมือนพยายามจะจริงใจ แต่จริง ๆ ไม่ จี๊ด น่ากลัวๆ จากคุณ : creme_bouquet - [ 16 พ.ค. 50 23:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สำหรับเราที่เป็นสมาชิกอยู่ กับตัวสินค้าก็ ok นะคะ เราไม่ทำยอด ซื้อแต่ของที่จำเป็นต้องใช้ โดยเฉพาะพวกชุดบำรุงของ Artisty น้องเราเป็นสิวหาหมอมา 3 ปี ไม่หาย ใช้มาร์คของยี่ห้อนี้ใช้มาไม่ถึง 4 เดือนสิวดีขึ้น แล้วก็สินค้าพวกนี้ใช้ได้นานมากๆ ครีมเราซื้อมาใช้ตั้งแต่กพ. พึ่งจะใช้หมดไป เราว่ายี่ห้อนี้เสียกับพวกคนขายมากกว่าค่ะ จากคุณ : BeJeen - [ 18 พ.ค. 50 14:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณที่ให้ความรู้ค่ะ  โหวตให้ค่ะ  คนจะได้อ่านกันเยอะๆ จากคุณ : pufpuf - [ 1 มิ.ย. 50 11:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สินค้าดีครับ แต่เบื่อพวกผีดิบที่จะมากัดเราให้เป็นพวกมันนี่แหละครับ จากคุณ : myung - [ 3 มิ.ย. 50 22:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ... แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 50 23:49:59 จากคุณ : moviem - [ 3 มิ.ย. 50 23:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เพื่อนผมไม่ได้ทำ Amway ครับ แต่ก็ทำ MLM เหมือนกัน ตอนนี้มันอยู่ในขั้นตอนของ คห.5 ล่ะ จะให้ผมทำ EasyBuy ให้มัน เอาเงินออกไปผ่อน เซ็งมากๆ เพื่อนตูเมื่อไหร่มันจะฉลาดวะ จากคุณ : moviem - [ 3 มิ.ย. 50 23:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อ่านแล้วตรงมั่กๆ เชื่อว่าทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริงล้วนๆ เพราะเราเคยทำมาก่อน ตอนนี้เลิกแล้ว เจอแบบ FW อันนี้เป๊ะๆ ตอนนั้นที่เราสมัครเพราะว่าแฟนเราทำ แล้วเค้าก็โน้มน้าวแบบนี้ล่ะ ให้เทปเพชรมาฟัง กล่อมถึงอนาคต เราเชื่อทุกอย่าง สมัครไป ไปเฮ้าท์ทุกอาทิตย์ ไปสัมนาที่ระยอง อัพไลน์ (แฟนเรา) บอกให้ซื้อสินค้ามาใช้เองเพราะว่าเราจะได้เห็นว่าสินค้าดียังไง เหมือนโดนล้างสมอง ที่เชื่อเพราะความรักด้วยมั้ง -  -*  ดีที่ถอยออกมาทัน เราเป็นคนงก เลยรู้ว่าเสียเงินกับตรงนี้ไปมากแล้ว และมันไม่คุ้ม อีกอย่างรำคาญ...พวกที่เฮ้าท์มากๆ อะไรจะแอ๊คทีฟขนาดน้าน..   ตอนนี้มีพี่คนหนึ่งที่ ม. มาชวนไปทำแอมเวย์อีก แต่ขอบอกว่าไม่ต้องเกรงใจคนพวกนี้ ถ้าเกรงใจจะโดนตื้อ หรือถ้ามีคนมาชวนทำ โกหกเค้าไปว่า "ช้านนน ก็ทำแอมเวย์อยู่เหมือนหล่อนนั่นแหละจ้า..." จากคุณ : หม่ามี๊ของมาเอดะ - [ 4 มิ.ย. 50 10:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คนทำ Amway มีสองแบบ คือ ทำเป็น กับ ทำไม่เป็น ที่เค้าบอกว่าขายฝันอ่ะไม่ผิดหรอกเพราะอยากให้โฟกัสที่ความฝัน เหมือนเป็น target อย่างนึงที่เราตั้งให้ตัวเอง จริงๆ เราก้อมีฝันทุกคนอ่ะแหละแต่อยู่ที่ว่าใครจะใช้วิธีอะไรถึงจะทำให้ฝันเป็นจริงได้ Amway ก้อน่าจะเป็นอีกทางเลือกนึง แต่เสียดายนะถ้าไปเจอกับ upline แบบนั้น ทำให้ไปไม่ถึงฝันกันซักที มีแต่ฝันค้าง+หนี้ จากคุณ : i'm on my way - [ 5 มิ.ย. 50 22:37:35 A:125.24.143.212 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 อยากรวยจนเสียเพื่อนได้ ไปดูเถิด ที่ยังเหลืออยู่ส่วนใหญ่เพื่อน Amway ทั้งนั้น ช่วงชีวิตนึงๆ ไม่ได้ยืดยาวอะไรเลย มีชีวิตอยู่อย่างแห้งแล้ง คิดแต่จะหาหนทางร่ำรวย คิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงแต่ครอบครัวตัวเอง เคยทำอยู่ เพชรทั้งหลายบอก "ให้โอกาสผู้คน แบ่งปันสิ่งดีๆ" ขอโทษนะ แล้วตอนไปประชุมไหงแย่งกันจองที่นั่งดีๆ ให้พวกพ้อง เป็นคนแล้งน้ำใจเยี่ยงนั้น ขัดกับปณิธานที่ตั้งไว้ (ให้คนอื่นดู หรือพยายามบอกตัวเอง) ถ้าไม่อยากกกกก มาก มีชีวิตพอกินพอใช้ ความสุขนั้นไม่ต้องรอจนเป็นเพชร เพชรคู่ ตรีเพชร มงกุฎ มงกุฎฑูต หรือเป็นนายกฯ หรือ ประธานาธิบดี เราก็มีความสุขลงไปที่ปัจจุบันได้ ไม่เชื่อลองลดอาการอยากดู.. จากคุณ : khunlab (Galway) - [ 6 มิ.ย. 50 00:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มันก็กึ่งๆ เหมือน ขายประกันนา แร้.... จากคุณ : TitleB - [ 8 มิ.ย. 50 23:06:25 A:203.131.213.81 X: TicketID:125242 ]

ความคิดเห็นที่ 72 แบบนี้ เคยเห็นมาเยอะมากๆ   ปลาตายตัวเดียว  เหม็นเน่าไปทั้งฆ้อง เอ๊ะ  ไม่ใช่สิ  ปลาตายหลายตัว  ตัวดีๆ เลยโดนเหมาว่าเน่าไปด้วย... จริงๆ คนที่ทำให้ FW เป็นแบบนี้ คือ Upline ที่ใช้วิธีการสร้างธุรกิจที่ผิด  ผิด  และก็ผิด... เชื่อว่า  สายงานนี้ทั้งหมด  ก็จะล่มสลาย  ตายลงไปเรื่อยๆ... ตัวบริษัทเอง จะมีกฎจรรยาบรรณ ไว้ในคู่มือเลยว่า ขายเงินสด  ไม่ลดราคา  ไม่สต๊อกสินค้า นี่คือ วิธีการที่บริษัทแนะนำให้ทำ แต่... FW ทำตรงข้ามกฎ นี้ทุกข้อ... อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา... ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว... ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้... คนที่ FW จะต้องโทษคือ UPLINE ไม่ใช่โทษบริษัท... การประชุมต่างๆ ทั้ง house meeting และ semina ล้วนถูกจัดขึ้นโดย Upline ทั้งสิ้น บริษัท ไม่ได้รับรู้ด้วย บริษัท มีแค่ว่า  สิ้นเดือน ได้ PV เท่าไร ก็จ่ายให้เท่านั้น เข้าเงื่อนไขอะไร  ก็รับในสิ่งนั้นไป แต่  ไอ้พวกยอดมนุษย์สุดวิเศษหลายๆคน ค้นคิดวิธีการพิสดาล มหาศาล การจะสำเร็จขึ้น แล้วก็ เชื่อว่า สิ่งที่เขาคิดนั้น วิเศษ สุดยอด แล้วก็ เอามาถ่ายทอดต่อลงไปในองค์กร มันก็เลยมี สายเทพ  สายมาร สายที่ยึดมั่นจรรยาบรรณ  ก็มั่นคง สายที่ทำทุกวิธี ให้ได้ยอด  ก็ไม่มั่นคง ดังนั้น อย่าได้โทษบริษัทเลย  แต่จงโทษ คนทำที่ไม่ดี.. กฎทอง เน้นตัวใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจนเลยในคู่มือเลยก็คือ... จงปฏิบัติต่อผู้อื่น เฉกเช่นเดียวกับที่ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่าน.... จริงๆ คนทำทุกคน ก็ไม่ชอบให้ใครมาตื้อ แบบที่ใครๆ ก็เอือมละอา... แต่ทำไมจึงทำกันก็ไม่รู้.... แนวความคิดที่ว่า "นำสิ่งที่ดีๆ ไปให้คนที่คุณรัก" ก็ดีนะ ถ้าทุกคน นำแนวคิดนี้ ไปใช้ในชีวิตประจำวันกัน โลกก็จะสวยงามขึ้นอีกเยอะ... แต่พอมาทำ MLM เขามองเห็นโอกาส  มองเห็นช่องทาง เขาคิดว่ามันดีที่สุดที่เขาเคยพบเจอโอกาสมา ก็เลยอยากเอามาฝากคนที่เขารับ แต่...  วิธีการ  จังหวะ  และโอกาส...  มันผิด ถึงมันจะเป็นโอกาสที่ดี... แต่  มันก็ไม่ใช่ ทุกคนจะชอบโอกาสแบบนี้ มันไม่ผิด ที่จะให้โอกาสคน  แต่มันไม่เหมาะที่จะใช้วิชามาร... ความจริงใจ ที่นำสิ่งดีๆ มาให้โดย  มี-กับ-ไม่มี  สิ่งเคลือบแฝง ผลรับที่ตามมา ย่อมแตกต่างกัน.... ทำไมจึงไม่อยากเป็น อภิมหามงกุฎฑูต ที่คนในธุรกิจเองก็รัก  คนนอกธุรกิจก็รัก ล่ะครับ มันไม่ใช่เส้นขนาด ซะหน่อย เพียงแต่ การนำสิ่งดีๆ ไปให้เขา มันมีเป้าหมายแอบแฝง เมื่อไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้  ก็เลยมีปฏิกิริยาบางอย่างออกมา... คนที่...รู้... และรู้ว่า...ตนรู้... คือ... คนฉลาด... ==> จงถาม คนที่...รู้... และไม่รู้ว่า... ตนรู้... คือ... คนหลับ... ==>จงปลุก คนที่...ไม่รู้... และรู้ว่า... ตนไม่รู้... คือ... คนซื่อ... ==>จงสอน คนที่...ไม่รู้... และไม่รู้ว่า... ตนไม่รู้... คือ... คนโง่... ==>จงหลีก จากคุณ : อนาวิน - [ 14 มิ.ย. 50 17:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เห็นด้วยว่ามันไม่ได้เป็นธุรกิจที่ไม่ดี แต่วิธีการมันสำคัญ และสิ่งนี้เหมือนเลือกตัวบุคคล ที่น่าจะทำได้ไว้อยู่แล้วครับ ผมเองก็เพิ่งได้เข้าไปมาไม่นาน และรู้ว่าตนเองไม่ใช่คนที่ต้องไปตีหน้าหลอกคนอื่นแบบนี้ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจว่าไม่ทำ และหลังจากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลของแอมเวย์มากขึ้น เพราะผมเชื่อว่าธุรกิจทุกตัวมันมีความเหมาะสม กับคนต่างประเภทกันอยู่แล้วแหละครับ ส่วนผมก็คงตอบได้ว่าไม่เหมาะสมกับแอมเวย์ครับ จากคุณ : Valakus - [ 6 ส.ค. 50 14:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เราว่าเรื่องแบบนี้มันก็นานาจิตตังอ่ะ เพราะทุกคนก็ฝันที่อยากจะประสบความสำเร็จ และมีฐานะที่มั่นคงด้วยกันทั้งนั้น อย่างเรื่อง ความสำเร็จในธุรกิจ Amway เนี่ย เราว่ามันเป็นเรื่องของแต่ละคนจิงๆ ว่าเค้ามีวิธีการในการที่จะไปถึงความสำเร็จยังไง อย่างเรื่องที่ซื้อสินค้า มาสต๊อคเอาไว้ เพื่อไปถึงความสำเร็จนั้น เราอยากให้มองว่ามันเป็นวิธีที่ถูกรึป่าว มันเป็นการทำธุรกิจเพื่อหารายได้เสริม หรือว่าหารายจ่ายเพิ่มกันแน่ เราก็ไม่ได้คลั่งหรือว่าเป็นพวกลัทธิ Amway อ่ะนะ แต่ว่าเราคิดว่าเวลาจะทำอะไรเนี่ย เราควรทำแบบรู้จักประมาณตน ไม่ใช่ว่าอยากสำเร็จแบบลัดๆ มันก็ไม่น่าจะทำให้เราเดือดร้อนอะไร ส่วนไอ้เรื่องที่ว่า เค้าเอาคนสำเร็จมาพูดให้ฟังเนี่ย เราคิดว่ามันอาจจะเป็นการทำให้เรามีกำลังใจในการทำ ซึ่งการกระทำแบบนี้มันก็มีอยู่ในทุกธุรกิจ ไม่ใช่เฉพาะการขายตรงนะที่ว่าเอาข้อดีหรือส่วนดีมาพูด เพื่อสร้างกำลังใจ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ การคิด และ มุมมอง ของแต่ละคนมากกว่า จากคุณ : pudgy (Pudgy~PapA~) - [ 22 ส.ค. 50 13:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 75 จรรยาบรรณมี แล้วไม่ทำตาม .. แต่กลับไปโทษธุรกิจว่าเป็นธุรกิจไม่ดี ธุรกิจหลอกลวง .. เอกสาร, วิธีการทำงาน และจรรยาบรรณก็มีให้อ่านทุกอย่างในคู่มือสมัคร แต่กลับไม่เคยเปิดอ่าน .. เชื่อคนชวนหัวปักหัวปำ ทำอะไรโดยไม่มีวิจารณญาณ ไม่ไตร่ตรอง .. ถ้าจะโทษต้องโทษตัวเอง ไม่ใช่โทษคนอื่น หลายๆคนก็เชื่อเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมไปได้.. จากคุณ : 7 minutes later - [ 12 ก.ย. 50 09:54:33 ]