ความคิดเห็นที่ 1 แอมเวย์น่าเบื่อ ดีที่เราใจแข็งพอ จนคนหายขายหน้าไปเลย55++ จากคุณ : imsiam - [ 20 มิ.ย. 50 13:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลัทธินี่น่ากลัวจริงๆนะเนี่ย... ไม่รู้จะแนะนำวิธีไหน แต่เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : aya&ume - [ 20 มิ.ย. 50 13:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ....ช็อค ขนาดนั้นทีเดียว เคยไปนั่งฟังอยู่เหมือนกันนะคะ แต่...เราขายของไม่เป็นเลย ไม่เอาดีกว่า งือ.... ของเค้าดีก็มีนะคะ ก็ยอมรับ แต่เราซื้อที่จำเป็นเท่านั้น อย่างเครื่องกรองน้ำก็จำเป็นสำหรับที่บ้าน อีกอย่างก็ยาสีฟัน (ฮ่าๆ) เราไม่ชอบถูกตื๊อค่ะ เพื่อนเราเคยพูดว่า...ขายแอมเวย์ทำเสียเพื่อน เสียญาติกันมาแล้ว ยังไงเราขอให้คุณจขกท.ผ่านอุปสรรคไปได้นะคะ เราเข้าใจค่ะว่า เพื่อนกัน ก็อยากรักษามิตรภาพ แต่ถ้ามิตรภาพเป็นพิษ ก็fadeตัวเองออกมานะคะ จากคุณ : Norikoจัง - [ 20 มิ.ย. 50 14:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แรงกระตุ้น  ... จากบทขาย  เพื่อมุ่งสู่ ความเป็นที่หนึ่งในเวที จากคุณ : สามทับหนึ่ง - [ 20 มิ.ย. 50 14:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โดนเหมือนกันเลยคะ เสียดายเพื่อน แต่ก้อไม่ชอบให้ตัวเองโดนยัดเยียดในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ สุดท้ายก้อห่างกันไปแล้ว เพื่อนๆ ในกลุ่มก้อพยายามห่าง she เช่นกัน แต่ she ไม่สะทกสะท้านเพราะได้เพื่อนกลุ่มใหม่จาก Amway ก้อได้แต่ดีใจด้วยที่ she ได้เพื่อนใหม่ที่มีความคิดและการปฏิบัติเหมือนๆ กัน จากคุณ : คนกลัว Amway - [ 20 มิ.ย. 50 14:03:53 A:124.120.223.253 X: TicketID:147883 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลิเซิ่ลว่านะ แอมเวย์เนี่ย มันต้องใช้จิตวิทยาหมู่แน่เลย เหมือนหัวหน้าแก๊งค์ไง นึกออกป่ะ? จากคุณ : ลิเซิ่ล - [ 20 มิ.ย. 50 14:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เราก็มีเพื่อนเหมือนเจ้านี้เลย คบกันมาตั้งแต่ประถมรวมๆแล้วน่าจะประมาณ15 ปีได้  แต่เดิมเพื่อนเราเป็นคนดีถึงดีมากๆ  ขี้เกรงใจมีน้ำใจมักจะช่วยเหลือเพื่อนคนอื่นๆเสมอ แต่หลังจาที่เรียนจบเพื่อนของเราคนนี้ก็ไปลองขายแอมเวย์เพราะว่าแม่ของเพื่อนเราเค้าขายอยู่แล้วเลยชักชวนให้ลูกเค้าขายด้วย  หลังจากที่เพื่อนเราเข้าไปอยู่ในลัทธินี้เพื่อนของเราก็เปลี่ยนไปมานั่งเฝ้าหน้าบ้านเพื่อรอเรากลับมาแล้วบอกว่าเอาเครื่องฟอกอากาศมาให้ทดลอง(เคริ่องหนึ่งหลายมื่น)  คอยโทรเช็คว่าที่บ้านเรามีใครอยู่บ้างถึงแม้ว่าเราจะไม่อยู่ก็กล้ามาที่บ้านเราเพียงเพื่อจะมานวดหน้าพร้อมขายเครื่องกรองน้ำกับที่บ้านเรา   พยายามยัดเยียดสิ่งของที่มีราคาสูงให้กับที่บ้าน พร้อมกับมีความเชื่อว่าคนที่จริงใจกับเค้าคือคนที่ช่วยเค้าซื้อของ สมัครสมาชิกเพื่อต่อยอดและยอมไปที่เซ็นเตอร์อะไรก็ไม่รู้เพื่อไปนั่งฟังลัทธินี้ล้างสมองแต่อ้างการเรียนแต่งหน้ามาบังหน้า และอีกหลายๆอย่างที่ทำให้เพื่อนเราไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป อยากจะบอกว่าเอาเพื่อนคนเดิมของเรากลับมาได้ไม๊  เราคิดถึงเพื่อนคนนั้น... จากคุณ : MS. Angeling - [ 20 มิ.ย. 50 14:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มีเรื่องเล่าให้ฟังนะคะ เพื่อนเรามันเลี้ยงลูกอยู่บ้านดีๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ อสม.มาสำรวจประชากรอะไรเนี่ยแหละ สำรวจไปสำรวจมามีสินค้ายี่ห้อนี้แหละมาขาย พูดจนเพื่อนเราเบื่อ แต่สุดท้ายเพื่อนเราก็ไม่ซื้อ มันบอกคำเดียวว่าไม่มีเงิน เท่านั้นและค่ะ ป้าแกเก็บกระเป๋าออกจากบ้านแทบไม่ทัน อีกเรื่องน้าเราเนี่ย หน้าที่การงานใหญ่โต เงินเดือนน่าจะ 4-5หมื่น ก็ขายเจ้านี่เหมือนกัน วันนึงน้าคนนี้โทรมาบอกแม่เราว่าจะมาหา (อยู่คนละจังหวัดกันค่ะ) แม่เราก็ดีใจใหญ่ ก็เตรียมทำกับข้าวไว้เต็มเลย ที่แม่เราดีใจเพราะ ปกติน้าคนนี้ขี้เหนียวมาก ไม่ค่อยมาหาญาติพี่น้องอ่ะ สงสัยกลัวเปลือง ปรากฏว่าพอเค้ามาถึง กินข้าวอะไรเสร็จสรรพ น้าแกเริ่มเอาเครื่องกรองน้ำ แล้วก็อีกสารพัดสินค้ามาสาธิตให้ดู วันนั้นกว่าบ้านเราจะได้นอน เกือบตีหนึ่ง เราเคืองมากเลยอ่ะ แอบกระซิบแม่ว่า ที่แท้ก็อยากขายของนี่เอง ถึงว่ามันแปลกๆ แต่แม่เราก็ช่วยซื้อค่ะ เกรงใจ หมดไปเยอะเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ของเค้ามันแพงค่ะ ส่วนเรื่องของคุณ จขกท. ไม่รู้จะแนะนำอะไรดี แต่อยากบอกให้ใจแข็งเข้าไว้ค่ะ จากคุณ : Ananza - [ 20 มิ.ย. 50 14:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เคยเจอตอนม.ปลาย อยู่อาจารย์ประจำชั้นก็ไปหาเพื่อนเราถึงบ้านเพื่อไปขายเครื่องกรองอะไรนี่แหละ แล้วเพื่อนเราก็ต้องซื้อ...เพราะเกรงใจอาจารย์ ดีนะที่บ้านเราอยู่ไกล....ไม่งั้นคงต้องซื้อเหมือนกันอ่ะ....กลัวมีผลกะคะแนน เบื่อลัทธินี้มากๆเลยอ่ะ...เซ็ง จากคุณ : minpooh - [ 20 มิ.ย. 50 14:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 น่าเห็นใจ และน่ากัวจิงๆๆ จากคุณ : cilladevi - [ 20 มิ.ย. 50 14:29:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จริงๆแล้วสินค้าเค้าใช้ดีหลายอย่าง  ปจุบันก็ใช้อยู่บ้าง  แต่เคยโดนเหมือนกันค่ะ   บ้านอยู่ฝั่งธน เพื่อนโทรมานัดกินข้าวบอกนัดหลายคนเซ็นทรัลลาดพร้าว  ไอ้เราดีใจไม่เจอกันนาน  ไปถึงเพื่อนมาช้าไปชั่วโมงกว่าแถมมาถึงถามกินอะไรมันบอกไม่เป็นไรกินน้ำเปล่าแก้วเดียว(แปลกๆแฮะ) แล้วมันก็ควักกระดาษออกมาเขียนแผนผัง  "เนี่ยสินค้าถ้าไม่มีค่าโฆษณา เค้าก็จะตัดค่าโฆษณามาเป็นคุณภาพสินค้า บลาๆๆๆ"  จบด้วยการมาสมัครใช้สินค้าเป็นดาวไลน์ของเราดีกว่า   พอเพื่อนๆไม่มีใครสมัคร  งั้นเราไปดีกว่านัดสปอนเซอร์คนอื่นต่อ จากคุณ : หยิน wu - [ 20 มิ.ย. 50 14:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบสินค้า แต่เกลียดคนที่มาตื้อขายค่ะ จากคุณ : nugajok - [ 20 มิ.ย. 50 14:41:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาแนว ๆ เดียว กันเลยค่ะ บังเอิญเจอกันหลังจากที่ไม่ได้เจอกัน 4 ปี เราเลยนัดเพื่อน ๆ ที่อยู่แถว ๆ เดียวกันมาเจอ เราก็สงสัยกันว่าเพื่อนอาจมีปัญหาอาจจะมาปรึกษา สรุปเอาเครื่องกรองน้ำมาขายค่ะ เจอแบบนี้เลยวงแตก จากคุณ : nungdomi - [ 20 มิ.ย. 50 14:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราก็โดนเพื่อนคบกันเป็น 10 กว่าปี พอเพื่อนเราไปทำอันนี้ก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนแบบคนละคนเลย จนเพื่อนคนอื่นแบนหมด เราก็พยายามพูดให้เพื่อนยังเข้าใจมัน แถมเราเคยคุยกะมันแบบเปิดใจแล้วนะ นึกว่าจะหาย ไม่หาย โรคนี้แก้ยากมากๆ เพื่อนคนอื่นถามเราว่าแกเป็นเพื่อนสนิททำไมไม่ดึงมันกลับมา เราดึงจนเหนื่อยจนถอดใจแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าต้องทำไง  เพื่อนคนนี้เราก็รักมากๆ เหมือนกัน หลังๆ มีแบบมายืมเงินด้วยอ่ะ ไม่ใช่น้อยๆ เหมือนกัน ล่าสุดเราไม่ให้เพราะเรากำลังจะซื้อรถ ให้ไม่ได้จริงๆ ก็หายๆ ไปเลย อาการเดียวกันเลย แบบนี้เลย แถมเพื่อนเราหนักกว่ามองคนที่ทำงานได้เงินเดือนเป็นคนน่าสงสารเหลือเกิน แบบมองสมเพชอ่ะ แต่มันจะรู้บ้างมั้ยว่าตอนนี้เพื่อนๆ ไม่มีใครเอามันแล้ว ขนาดเรายังยอมแพ้ แต่ถ้ามันเดือนร้อนก็ยินดีช่วย จำได้ว่ามันเคยบอกว่าแอมเวย์คือครอบครัวเค้า แถมมีอยู่ครั้งหนึ่งเราอยากรู้ว่าแอมเวย์เป็นยังไงก็เลยลองไปสมัครดู แต่สมัครกับคนอื่น เพราะไม่อยากมีปัญหายาว พอเราไปเข้าเฮ้าส์นะ เราก็รู้เลยทำไมเพื่อนเราเป็นแบบนี้กลับมาร้องไห้ เศร้าไปอีกยาวเลย ที่สำคัญคือพอคนในแอมเวยที่บอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกะมันเค้ารู้เรื่องนี้ กลับบอกว่าคิดดูเพื่อนกันเค้าทำแบบนี้เหรอ คือประมาณว่าถ้าเราเป็นเพื่อนแท้จริงๆ ต้องไปสมัครก็มัน เอดีเนอะมายุยงให้คนที่เค้าคบกันแต่เด็ก แตกกัน เยอะเรื่องอ่ะ เล่า 3 วันยังไม่จบเลย ที่แน่ๆ เวลาเพื่อนเราเดือนร้อนจริงๆ คนที่อยู่ในแอมเวย์หายไปไหนหมดล่ะ ทำไมต้องวิ่งกลับมาหาเราแล้วเราก็อดช่วยไม่ได้ ตอนนี้ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าจะทำไงให้คนพวกนี้เค้าเห็นความจริง แล้วกลับมาเหมือนเดิม ไม่เข้าใจว่าที่จริงเค้าล้างสมองยังไงถึงทำให้คนที่เคยมีความคิด เอาความคิดไปเก็บไว้ที่อื่น ทำตามเค้าหมด ไม่ไตร่ตรองเอง ถึงเราเป็นมนุษย์เงินเดือนจะน่าสงสารยังไง เราก็มีความสุขของเราแล้ว ไม่ต้องดิ้นรนทรมาน กลับบ้านตี 4 เพื่อไปนั่งฟังไรก็ไม่รู้ทุกวัน ขอบอกว่าตอนนี้เพื่อนเรายังเรียนไม่จบเลยนะ ทั้งๆที่คนอื่นเค้าจบไปถึงไหนแล้ว แถมยังมีความคิดว่าจะไม่ทำงานประจำ เพราะแอมเวย์ดีกว่า แก่แล้วจะสบาย ไม่เข้าใจจริงๆ ตอนนี้เราเลยคิดว่าปล่อยเค้าไปเถอะ ต้องรอ รอจนกว่าเค้าจะเห็นอะไรจริงๆ ถึงมันจะสายไปบ้าง เราว่าบ้างทีมันก็เป็นบทเรียนที่คุ้มเพราะเรารู้แล้วว่าพูดยังไงเค้าก็ไม่เชื่อหรอก ต้องรอเค้าเจออะไรสักอย่างแล้วถอนตัวออกมาเอง ถึงตอนนั้นพวกเขาก็จะเห็นพวกเราในสายตา เห็นว่าเป็นเพื่อนแท้ ไม่ใช่ลูกค้า.... จากคุณ : ตาแป๋วอินบ้านนอก - [ 20 มิ.ย. 50 14:48:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยอมรับว่าสินค้าคุณภาพเค้าดีมาก ใช้แล้วเห็นผลจริงๆ ใช้ได้เกิน 6 เดือนอีก เราใช้มา 2-3 ปีแล้ว แต่คนที่มาขายเรา ไม่เห็นเป็นแบบเพื่อนคุณเลย เค้าดีกับเรามากๆ เค้าสอนให้เราคิดบวกตลอด ไม่เคยตื๊อด้วย เราว่าเป็นที่บางคนมากกว่า ของดี ระบบดี แต่คนที่นำไปใช้ ผิดวิธีมากกว่า เราว่าคุณปฏิเสธไปสิคะ เราไม่เคยคิดที่จะให้ใครยืมเงินเลย เราคิดว่าเราหา เราเก็บมาแทบตาย ไม่กินไม่ใช้ แต่คนที่มายืม เค้าใช้ชีวิตสุขสบายไม่ต้องลำบาก ตอนมีความสุขไม่เคยสุขกับมันด้วย แล้วทำไมตอนไม่มีเงินถึงได้นึกถึงเรา ตอนยืมก็อ้อนวอนแทบตาย พอได้เงินไปแล้ว คราวนี้ล่ะ เราต้องอ้อนวอนให้มันคืนเราแทบตาย สำหรับเราๆคิดว่าเพื่อนที่ดีไม่ควรทำให้เพื่อนลำบากค่ะ จากคุณ : kaninja (kaninja) - [ 20 มิ.ย. 50 14:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เพื่อนเราคนนึง เริ่มจากแม่เค้าขาย พอเข้ามหาลัย เค้าก็ขายเองด้วย จากนั้นชวนเพื่อนเข้าลัทธิได้2 คน วันนึง เราก็คุยเอ็มกะเค้า (คือเค้าก็เป็นเพื่อนที่ดีคนนึงอ่ะนะ) เค้าเปิดเวบแคมให้ดู เห็นมีเพื่อนที่เข้าลัทธิ ไปนอนบ้านเค้าด้วย (แต่คือเราลืมงัยว่าอีก2คนนี้เข้าลัทธิไปแล้ว นึกว่าไปค้างบ้านกันหนุกๆ) เลยแซวไปว่า ไม่เห้นชวนบ้างเลย ได้รับคำตอบกลับมาว่า จะขายแอมเวย์ป่ะล่ะ ถ้าไม่ขายก็ไม่ต้องมา จบข่าว จากคุณ : San Makyos - [ 20 มิ.ย. 50 14:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าฟังอย่างเป็นกลางนะ เราว่าเป็นที่นิสัยเพื่อนด้วยแหละ ที่ยืมเงินคนอื่นจนเป็นนิสัย จากคุณ : แวะมาอ่าน - [ 20 มิ.ย. 50 15:02:30 A:202.93.56.4 X: TicketID:142014 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านเจอแต่ละ คห  รู้สึกจะเจอแต่ประสบการณ์ที่ไม่ดีกันทั้งนั้น แต่เราก็แปลกใจมาก เพราะคนที่ทำแอมเวย์ที่เราเจอแต่ละคน ไม่เห็นจะเป็นแบบที่ได้อ่านๆ มาเลยอ่ะ สงสัยเพื่อนๆ คงจะเจอคนไม่ดีเข้ามั้ง จากคุณ : หัวใจสีชมพู - [ 20 มิ.ย. 50 15:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มีพี่ที่ทำงานทำเป็นใจดีจะช่วยเราหางานใหม่ให้ บอกว่าให้เตรียม resume ไว้ เราก็บอกว่าจะเอาไปให้ที่ทำงาน เค้าบอกว่าไม่ต้องเด๋วมาเอาที่บ้านเราก็ไรว่ะ จะมาทำไม ก็เออ ๆ มาก็มา แล้วก็เข้ามาที่บ้าน เราก็คิดว่าเค้ามาแป๊บเดียว เค้ากลับหอมหนังสืออะไรไม่รู้ลงจากรถเต็มเลย แล้วก็นั่งคุยกับเราว่างานตอนนี้เป็นงัยบ้าง ที่บ้านทำอะไร พ่อแม่ทำอะไร อายุเท่าไหร่ เราก็คิดว่านั่งคุยธรรมดา ไป ๆ มา ๆ เค้าก็บอกว่าเนี่ยเค้าทำ amway อยู่ทำแบบนี้ ๆๆๆ บลา ๆๆ ได้เงินตอบแทนเท่านี้ ได้ไปเที่ยวที่นั้นที่นี่ ฟรี ไม่เสียเงินซักบาท พี่สาว พี่เขยก็ทำ แต่เค้าก็ทำงานประจำไปด้วย บลา ๆๆๆๆ เราก็ไรว่ะ งง ๆ แล้วเค้าก็ให้เราสมัครสมาชิก เค้าออกเงินให้ก่อนด้วย เราก็สมัครเพราะเกรงใจ เค้าก็ให้กระเป๋า ให้ cd มาให้ดู หลังจากนั้นเค้าก็ให้เราไปเข้ากลุ่มหลังเลิกงาน เราก็บ่ายเบี่ยงเพราะไม่อยากไป แล้วก็เสียความรู้สึกด้วย ตอนเราทำงานอยู่ เค้าก็ให้พี่เขยเค้าโทรมาหาเราที่โต๊ะเลย เราโคดรำคาญเลย แต่ก็ไม่กล้าพูดไปตรง ๆ แล้วหลังจากนั้น เค้าก็มาที่บ้านอีก เอาผลิตภัณฑ์มาสาธิตให้ดู แล้วก็ให้พี่สาว กับพี่เขยมาที่บ้านเราเอีก น้องเราลงมาเห็นคนเต็มบ้าน ก็งง ๆ แม่เราก็ถามว่าใครมา  เราต้องมาฟังเค้าพูดอะไรก็ไม่รู้ 4 ทุ่มยังไม่ได้ขึ้นนอนเลย เวลาเจอเค้าที่ทำงานก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น จากที่เคยเจอแล้วทักทายกันสนุกสนาน หลังจากนั้น แล้วเค้าคงคิดว่าคงจะชักชวนเราไม่สำเร็จ เค้าก็เลิกติดต่อเราเอง ส่วนเราก็เปลี่ยนเบอร์มือถือด้วย แล้วช่วงที่เป็นสมาชิกก็ได้หนังสือ amway เพียบได้มาแต่ละที อยากปาทิ้งชิบ แล้วเชื่อป่ะ เรื่อง resume ที่ฝากไปเค้าไม่เคยพูดถึงเลยด้วยซ้ำ เราโกรธมากกกกกกก เสียแรงที่รู้สึกดี ๆ ด้วยอ่ะ จากคุณ : me2 (me2again) - [ 20 มิ.ย. 50 15:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เราก็เคยไปเข้าประชุมที่ต่างจังหวัด แต่ไปเล่นๆ มากกว่า ไม่คิดจะสมัครอะไรด้วย พอดีแฟนเรามันสนใจจะทำ  เราก็เออๆ ไปเป็นเพื่อน ไปนั่งฟัง  เราก็ว่าสนุกสนานดีนะ  แต่ไม่ถึงขั้นจะมาสมัครขาย  ส่งทอดมรดก อะไรหรอก พอจบพี่แกคนที่เป็นอัพไลน์ก็มา เขียนอะไรให้ไม่รู้  แต่เราแอ๊บทำเป็น เค้าบอกอะไร  เราก็ดี ดี ไปหม๊ด เราเห็นคนที่อยู่ในกลุ่มมีแต่คนทำงานดีๆเลยอ่ะ เราพอเข้าใจนะ  ว่าเค้าใช่วิธีอะไร  แต่คนเรามันต้องมีเหตุผลไม่ใช่  ทำแล้วรวยๆ รวยๆ กว่าจะรวยเหมือนคนสูงๆ อ่ะ  เค้าก็กินค่าหัวมากับคนที่เข้ามาใหม่ทั้งนั้นแหล่ะ ค่าอะไรเยอะแยะ เหตุผลความน่าเชื่อถือถ้าคิดดี ๆ ไม่ได้ขวางนะ  ไตร่ตรองดูก็จะรู้  ตอนนี้แฟนเรามันก็เป็นสมาชิก มีหนังสือ ซีดีอะไร เต็มไปหมด เป็นดาวน์ไลน์ที่ดีจริงๆ 555++ หมดกี่บาทล่ะนั้น แต่ไม่ขัดคะ  เราก็แค่หยั่งถามก่อนทุกครั้ง จะซื้อเหรอ มั่นใจแน่นะ..เพราะแฟนเรามีเงินพอที่จะจ่ายไม่ขัดสน แล้วครอบครัวเค้าก็ใช้แอมเวย์อยู่แล้ว  เป็นทุนเดิม ... แต่ตอนนี้แฟนเราก็ไปมั่งไม่ไปมั่ง ประชุม แถมเคยใช้ยุทธวิธี  หลอกล่อคนไปทำ  โดยไม่บอกว่าเป็นแอมเวย์ 2-3 คน ผลตอบรับเจอด่า ว่าหลอกลวง  เข็ดจ้าโดนด่าเลย  .. คนทำแอมเวย์ เวลาพูดอะไรก็วก ไปที่สินค้าตัวเองเหมือนโดนครอบงำเลยอ่ะ เราก็ไม่ได้อคติหรอกนะ  แต่ว่าก็ควรคิดดีๆี  ไม่มีงานไหนมันได้เงินมาง่ายๆหรอก ถ้าจะทำอ่ะ  มันก็ต้องทำแบบอย่าให้ใครเดือดร้อนแล้วกัน  แต่ส่วนใหญ่นะ ไม่คิดว่าตัวเอง  บ้า คลั่ง แอมเวย์หรอก  ส่วนใหญ่จะคิดว่า  ไม่มีใครเข้าใจฉันเลยยยยย เงินก็หมดไปกับ การเข้าประชุม  นัดประชุมๆๆๆ  ซีดๆๆๆี  หนังสือๆๆ  อะไร บลาๆๆๆๆ มันได้ใช้เงินจริงๆไหมเนี่ย .. จากคุณ : princessizz - [ 20 มิ.ย. 50 15:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่าน่าจะเป็นที่นิสัย คนมากกว่านะครับ เพราะเพื่อนผมก็ขายก็ไม่ได้ตอแยอะไร พูดให้ฟัง แต่ก็ไม่ขนาดต้องซื้อหรือว่าอะไรอ่ะ แต่แอมเวย์ก็ใช้หลักการเกรงใจคนนี่ล่ะครับ เป็นจุดขายอ่ะ ผมว่านะ ปล ตอนแรกบอกไม่มีโฆษณา แต่เดี๋ยวนี้มีเต็มไปหมดสงสัยหาคนไม่ได้ล่ะมั้ง จากคุณ : Yashima - [ 20 มิ.ย. 50 15:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ข้อดีของลัทธินี้ก็มีนะครับ  คือสอนให้คนที่มีความสุภาพ ไม่ค่อยกล้ารบกวนใคร  กลายเป็นหน้าด้าน อยากกระสันต์ มีความมุ่งมั่นที่จะขายอย่างเดียว แถมอดทน หน้าทนหน้าด้านอย่างที่เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น   จนต้องบอกว่าถ้ายังขายอยู่  เลิกคบกันไปเลย  มันจะตายอดตายอยากกันนักหนาหรือไงถ้าไม่ได้ขาย   เคยด่าเพื่อนไปครั้งหนึ่งเลิกคบกันไป 5 ปี ตอนนี้มันตาสว่างแล้ว จากคุณ : bakk - [ 20 มิ.ย. 50 15:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เพื่อนเรา สมัยอยู่ ม.ปลาย ก็มาอยู่บ้านเรา พอดีเค้ามาจาก ตจว ต้องอยู่หอพัก แม่เราก็เลยชวนให้มาอยู่ที่บ้าน เด็กผู้หญิง เค้าก็เห็นใจ ก็สนิทกันมาก พอเรียนมหาลัย  เพื่อนคนนี้ก็แยกตัวไป ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ไม่เคยติดต่อเพื่อนคนไหนเลย จนเพื่อน ๆ เลิกสนใจ เปลี่ยนเบอร์ก็ไม่เคยโทรบอกใคร จนกระทั่งเรียนจบ ทำงาน ก็ไม่มีใครสนใจ งานรับปริญญาเพื่อน ๆ มันก็ไม่เคยโผล่มา คือว่า หายจากวงจรไปเลย วันหนึ่ง มันก็โทรมาหาเรา บอกจะมานวดหน้าให้ (นั่นแน่....แอมเวย์ล่ะสิ) แต่เราไม่ว่าง เลยไม่ได้มาเจอกัน สักไม่กี่อาทิตย์ ก็โทรมาอีก ก็แอมเวย์อีก แต่เราก็ไม่ค่อยอยากจะคบกับมันต่อแล้วแหละ เราก็เลยปฏิเสธไป แล้วเราก็บอกว่า เนี่ย แม่เราคิดถึง เค้าก็ถามถึง แต่ทำไมเปลี่ยนเบอร์แล้วไม่บอกเราเลย ว่าง ๆ แวะไปไหว้แม่เราบ้าง มันก็เออ ๆ ออ ๆ ไป แล้วหลังจากนั้นมันก็หายไปเลย จนวันนี้ - -" เราไม่รู้หรอกนะ พวกแอมเวย์ เค้ามีวิธีการยังไง แล้วเราก็ไม่ได้มีอคติหรือรู้สึกไม่ดีกับแบรนด์นี้ด้วย  เราก็ใช้ของของแอมเวย์ แต่ว่า ทำไมพวกนี้มันเยอะจัง พวกถูกลัทธิแอมเวย์ครอบงำ ประมาณนั้น เซ็ง (มาเจอกับเพื่อนตัวเองนี่ยิ่งเซ็งใหญ่) อีกอย่างเพื่อนเรามันก็มีงานมีการทำ เงินเดือนก็ไม่ได้กระจอกอะไร แต่เรื่องนิสัยส่วนตัว มันจะเป็นเพราะแอมเวย์ด้วยรึเปล่า เราว่ามันขึ้นอยู่กับคนคนนั้นมากกว่านะ  คนทำแอมเวย์ ที่ดี ๆ ก็มีถมไป คนที่คุยด้วยแล้วไม่อึดอัด  ก็มีเยอะไปค่ะ จากคุณ : Flower_kiss - [ 20 มิ.ย. 50 15:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ยังไม่เคยเจอ case แบบ จขกท. ค่ะ คนแอมเวย์ที่เราเจอส่วนใหญ่จะน่ารักกันหมด ซื้อไม่ซื้อไม่เป็นไร ถึงตอนนี้ไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว ก็ยังคุยกันอยู่ค่ะ สินค้าบางตััวเราชอบนะ ใช้แล้วเห็นผล แล้วก็ชอบตรงที่คืนเงินได้เนี่ยแหละ อ้อ...ถ้าใครจะแอบแฝงหลังไมค์มาขายให้เราไม่ต้องนะคะ ที่บ้านเราเป็นสมาชิกอยู่แล้วค่า จากคุณ : s.o.s - [ 20 มิ.ย. 50 15:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราเคยมีเคสนึงมาจีบอะค่ะ คุยไปเรื่อยๆ ไปๆมาๆก็มาชวนเราไปขายแอมเวย์ซะงั้นเลย ตื้ออยู่นั่นแหละ จนรำคาญก็เลยตัดขาดการติดต่อกับเค้าไปเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังงงอยู่ว่าตกลงเค้าชอบเรา หรือ อยากจะขายแอมเวย์อะ - -a  ประสาทจริงๆ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 20 มิ.ย. 50 15:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 พูดยากนะคะ เราไม่เคยมีเพื่อนสนิทขายแอมเวย์ มีคนรู้จัก แต่ส่วนใหญ่เขาก็ไม่กล้ามาอะไรกับเรา เราทำหน้าเฉยๆ บอกว่าไม่สนใจ เขาก็หยุดแล้ว มันคงเป็นนิสัยของแต่ละคนมากกว่า แต่ถึงถ้าขายจริงๆ เราก็คงพูดกันตรงๆ ได้ เราเข้าใจว่ามีคนแบบ จขกท คือขี้เกรงใจคนเยอะมากๆ ถึงตัวเองเดือดร้อนก็ยอม อย่าว่าเราเลยนะคะ เราขออนุญาตบอกตรงๆว่า มันไม่เข้าเรื่องเข้าราวเลยค่ะ คุณตกงาน คุณมีเงินก้อนสำรอง คุณควรจะเก็บไว้เผื่อเหตุการณ์อนาคตที่ไม่ต้องรบกวนใคร เก็บไว้เผื่อครอบครัวพ่อแม่ ฯลฯ ด้วยความเกรงใจและรักเพื่อนจึงให้เขายืมทั้งที่เขามีเงินนี้ เป็นความรักและเกรงใจในทางที่ผิดและไม่เข้าเรื่องเข้าราวอย่างมาก ถ้าจะให้เขาก็นึกถึงหน้าครอบครัวเข้าไว้นะคะ แล้วบอกเขาว่าไม่สะดวกที่จะให้ เราต้องเก็บเงินไว้ให้ครอบครัวด้วยเหมือนกัน เขาคิดว่าเขาสำคัญกว่าครอบครัวคุณให้รู้ไป และถ้าคุณคิดว่าเขาจะเลิกคบคุณเพราะเหตุนี้ หรือคิดว่าเขาจะเสียใจ โกรธคุณ คุณควรจะเลิกคบเขาได้นานเสียแล้วค่ะ เพราะเขาต่างหากที่ไม่เห็นค่ามิตรภาพของคุณ ไม่เกรงใจคุณ และเห็นแก่ตัวจนน่าขนหัวลุก มิตรภาพ เป็นเรื่องของการให้และรับนะคะ พฤติการณ์ที่ จขกท เล่ามา ฟังแล้วมีแต่รับ ไม่มีให้เลยค่ะ จากคุณ : =p o o k p u i= - [ 20 มิ.ย. 50 16:12:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ป้าเชื่อว่าพวกที่ขายแอมเวย์เนี่ย น่าจะรู้นะ ว่าคนอื่นเค้าคิดยังไง น่าจะปรับกลยุทธ์บ้างก็ยังดีนะ นี่อะไรเนี่ยยยยยยย ทำให้คนเค้าเกลียดชื่อนี้กันไปหมดทั้งประเทศ จากคุณ : ป้าจะอิ๊บ (jipnaja) - [ 20 มิ.ย. 50 16:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เกลียดแอมเวย์....มากๆ จากคุณ : เกสรลำเจียก - [ 20 มิ.ย. 50 16:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ก็เพราะเค้าไม่ปรับกลยุทธ์เนี่ย เราเลยพอหาวิธีป้องกันตัวกันได้แล้วไงคะป้าจะอิ๊บ หมายถึง ทันเกมเค้าแล้วน่ะ จากคุณ : JADUI - [ 20 มิ.ย. 50 16:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 31 -_-' เออ...เคยเข้าไปวงวนพวกนี้อยู่ค่ะ  เข้าไปเอาครีมแก้สิวกับของทดลองเค้ามาใช้  เข้าไปกินของกินเค้า  เข้าไปกินพิซซ่าเค้า  เข้าไปอบรมไรไม่รู้  แล้วพอถึงเวลาก็ชิ่ง  เราไม่เสียเงินสักบาท มานั่งคิดดูแล้ว  เรานี่งกเน้อ  ไปเอาของเค้ามาฟรี ๆ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 20 มิ.ย. 50 17:22:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เคยใช้พวกเครื่องสำอางเขาบ้าง ก็ดีใช้ได้นะคะ แต่ตอนนี้ก็ใช้ของตามห้างมากกว่า หาซื้อง่ายกว่า เคยมีเพื่อนพาไปฟังเหมือนกัน แต่ว่าเราก็ทำหน้าเฉยๆ เขาก็ไม่เซ้าซี้อะไรเรามากค่ะ จากคุณ : la-la-bell - [ 20 มิ.ย. 50 17:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โหวตแล้ว จากคุณ : Stay_Coolz``~ - [ 20 มิ.ย. 50 17:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เค้าใช้จิตวิทยาหมู่จริงๆ ค่ะ จากคุณ : raulgon - [ 20 มิ.ย. 50 17:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 หง่า โดนเหมือนกัน ทั้งพี่ที่ทำงาน และแฟนเพื่อนสนิท ก้อใช้สินค้าเค้านะ พี่เค้าก้อแบบใจดี เด่วพี่มาร์คหน้าให้ฟรี 4 ครั้ง นั่น โน้น นี่  สารพัด แต่พอใช้แล้วไม่มีผลดีเกิดขึ้น (แต่ไม่ได้แย่ลง) พอไปบอกพี่เค้า พี่เค้ากลับบอกว่า เราใช้ผิดวิธีละสิ อ้าว กำ -*- ความผิดตรูช่ายไหมเนี๊ยะ อารายว่ะ และหลังจากนั้น เค้าก้อไม่มาร์คหน้าให้เราอีกเยย แบบเซรงอ่า แต่พอไปบอกเพื่อนสนิท มานกลับไม่ว่าไรเยย บอกแค่ว่า เออ ไม่ดีขึ้นแต่ไม่แพ้ยังถือว่าเสมอตัว คือเพื่อนเราไม่ยัดเยียดเยยอ่า แต่พี่ที่ทำงานเนี๊ยะ หน้ามือเป็นหลังเท่าเยย และก้อพยายามให้เราเป็นดาวไลท์ให้ได้ เราก้อแบบไม่อาว สมัครสมาชิกซื้อของอย่างเด่ว ไม่ต้องมาให้เราขายของด้วย อยากทำเราทำเอง ไม่ต้องมาโฆษณาไรงี้อ่า แล้วพวกเนี๊ยะ เค้าจะมีอบรมกันทุกอาทิดเยยนะ มานเหมือนใช้จิตวิทยาคุยแบบต่อเนื่อง ปลูกฝังความคิดอ่า เพราะเราก้อเคยไปฟังหนหนึ่งถึงกับเคลิ้มเหมือนกัน แบบอยากเป็นสมาชิกเด่วนั่น แต่พอห่างไปสักอาทิดไม่ต้องเข้าไปฟังก้อเฉยๆ ละ แต่พวก ที่เป็นสมาชิกต้องขายอ่า เค้าไปฟังกันทุกอาทิด เหมือนโดนปลูกฝังตลอดอ่า น่ากัว มั่กมาก จากคุณ : นางมารหน้าคม (khawjaow) - [ 20 มิ.ย. 50 18:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผลิตภัณฑ์เค้าดีจริงนะ แต่ว่ามันแพงเวอร์เพราะต้องจ่ายให้หัวแถวถึงหางแถวไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ส่วนตัวเราบอกเพื่อนทุกคนไม่ว่าจะสนิทมากน้อยแค่ไหนว่า "ให้ช่วยอะไรก็ได้ ยกเว้นเรื่องเงิน" จบข่าว จากคุณ : supertarokung - [ 20 มิ.ย. 50 18:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มีเพื่อนขายแอมเวย์อยู่คน ตอนนี้เหินห่างมากๆ เรานะ เหินห่างเค้า เพราะรำคาญเหลือใจ เจอกันทีไรต้องวกเข้าสินค้าทุกที เหมือนกับมีเพื่อนเพื่อให้อุดหนุนสินค้ายี่ห้อนี้ แล้วก็ไม่มีความเกรงใจด้วยสิ คงคิดว่า ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก   จากคุณ : อาซิ่ม - [ 20 มิ.ย. 50 19:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผลิตภัณฑ์ไม่ได้ดีเวอร์ ทุกตัวอย่างที่เค๊าโม้หรอกค่ะ รับรองได้ เพราะบ้านเราใช้ ที่บ้านมีสมาชิกแอมเวย์ค่ะ ขอบอกว่าแพง และไม่ได้ดีสมคำโฆษณา ไอ้ที่ดีจริงๆ เราก็เห็นจะมีเครื่องกรองน้ำ ส่วนอย่างอื่นน่ะ จะบอกให้ ตามความเห็นเรานะคะ แชมพู+ครีมนวด (สำหรับผมทำสี)----> Shiseido Tsubaki ดีกว่ามากๆ และถูกกว่ามากๆ ด้วย ชิเซโขวดใหญ่เบิ้มๆ 550 ml ราคาแค่ 350 (เจ๊เล้ง) แอมเวย์ขวดเล็กจิ๊ดเดียวโขกเข้าไปตั้งแพง เทียบคุณภาพแล้ว สู้ชิเซโด้ไม่ได้ โลชั่นทาผิว----> Jergens ดีกว่าอย่างรุนแรง ลองแอมเวย์มาประมาณเดือนกว่าเห็นจะได้ เพราะที่บ้านเอาไว้ในห้องน้ำ เสียดายก็ลองใช้ ตัวแห้งๆ ขนาดว่าหน้าร้อนหน้าฝนนะเนี่ย (ตัวเราแห้งง่ายค่ะ แต่หน้ามัน อิอิอิ) เราว่าคุณภาพประมาณพวกวาสลีนโลชั่นอะไรอย่างนี้เลย ในราคาที่แพงโขกๆ สบู่----> มาดามเฮงก็ดีกว่าค่ะ แอมเวย์ก็ธรรมดา ไม่ได้ดีเด่อะไรกว่าของยี่ห้ออื่นๆ ใช้ลักส์ก็ถมไป สบู่เหลวก็เฉยๆ ซื้อพวก Boots ขวดใหญ่ๆ ราคาร้อยกว่าบาทก็ได้คุณภาพพอๆ กัน ยาสีฟัน----> อันนี้โด่งดังมากด้วยราคาที่คุณจะต้องตกใจ เราพึ่งลองใช้ ยังบอกอะไรมากไม่ได้ ยาขัดพื้น----> มันก็ดีที่ไม่ต้องเสียแรงเอาน้ำล้างตาม แต่ใช้เป็ดขัดก็สะอาดพอๆ กัน ในราคาที่ถูกกว่า ผงซักฟอก----> ก็ไม่เห็นต่างกับยี่ห้ออื่นๆ นิ ชุดบำรุงผิว หน้ามัน---> ธรรมดามากๆ แถมเราใช้แล้วเป็นสิว ไม่เห็นต่างจากยี่ห้อตามเคาท์เตอร์เลย เราใช้ยาหมอต่อไปดีกว่าอีก นี่คือประสบการณ์จากเรานะคะ เราจึงไม่ค่อยเข้าใจเวลาคนบอกว่า "ของแอมเวย์ราคาแพง แต่คุณภาพดีมากจรงๆ" เพราะเราไม่รู้สึกอย่างนั้น แต่เนื่องด้วยที่บ้านเรามีสามชิกก็เลยได้ใช้ แต่ก็พยายามจะบอกให้หยุดซื้อกันอยู่ค่ะ เพราะคนอื่นในบ้านก็รู้สึกเหมือนกันว่าราคามันแพง และคุณภาพเฉยๆ จากคุณ : Love Actually is.. - [ 20 มิ.ย. 50 19:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เราเขียนด้วยความอคติล้วนๆ ใครอ่านแล้วไม่พอใจขอโทษด้วย ของเรา โดนเพื่อนหลอกขายตอนไม่สบายค่ะ มันบอกว่าเราศึกาษาเรื่องโภชนาการมาจะได้หายเร็วๆ เราก็นึกว่าเออ ใจดีจัง ขนาดไม่สนิทกันยังอุตส่าห์ถ่อมาที่หอ มาถึงก็มาเทน้ำหมึกใส่ข้าวสาร แล้วก็บอกว่าเนี่ยร่างกายดูดซับสารพิษ แล้วเอาไรไม่รู้เท แล้วมันก็ขาวใส (หลักการชีวเคมีธรรมดา ใครเรียนเคมีอาจารย์อุ๊จะรู้ดีโดยเฉพาะธาตุหมู่ 7) เนี่ย Detox เหมือนกินอาหารเสริม กินแล้วดีนะล้างสารพิษ อะ.. แล้วเราก็ซื้อโปรตีนมากินค่ะ.... ดีนะ วันไหนนอนน้อยๆ พอตื่นมามันหัวโล่งดี มันไม่ปวดหัว เพราะมันเป็นสารอาหารดูดซึมไปใช้ได้เลย แต่สิ่งที่โคตรอุบาทว์คือ มันยัดเยียดเราทำสมาชิกเลย อยู่ๆก็ +เพิ่ม 300 บาทเพื่อทำสมาชิก เราก็บอกว่า ทำไมต้องทำด้วย มันก็บอกเออ!! มันต้องทำอะ ... แล้วไอ้ถ้วยเชคโปรตีนอันต้างเกือบ 60 เอามาทำซากอะไร ไหนบอกว่าคืนได้ไม่ใช่หรอ คือเราไม่อยากได้อะ กว่าจะตื้อคืนได้ แทบตาย พูดเรื่องสมาชิกจอมปลอมต่อ สัญญาก็ไม่ได้แตะเลย รูปก็ไม่ได้ให้ไป ไม่รู้ทำสมาชิกประสาอะไร line ไหนเค้าทำกันแบบนี้ แต่มันก็ลดให้เราเยอะอยู่ (สงสัยได้ส่วนลดอะไรไม่รู้ เพิ่มอีก พวกใหญ่ๆแล้วอะ แต่จำไม่ได้) ในที่สุด เพื่อนเราผู้หญิงก็มาช่วยเรื่องตังค์ 300 ที่โดนไอ้ตัวแรกมันเอาไปหน้าด้านๆ แต่แล้ว มันก็คืนให้แค่ 100 บาท บอกว่าเป็นส่วนลดบ้าบอ เราก็ว่า อ่าว ส่วนลดก็ส่วนลด ค่าสมัครก็ค่าสมัคร แล้วแม่เราจะเอาเรื่องด้วย สรุปก็ได้คืนแค่ 100 บาท สงสารมัน ต้องขับรถไปๆมาๆ (ยังมีต่อ) แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 50 21:18:26 จากคุณ : ^Bloody_Brownie^ - [ 20 มิ.ย. 50 20:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โหวตให้อีกหนึ่งเสียง เพื่อนในกลุ่มเราสองคนก็เคยเข้าในวังวนลัทธิแอมเวย์มาแล้ว ประมาณว่าหายใจเข้าออกก้อเป็นแอมเวย์เลยล่ะ แต่เด่วนี้คงสำนึกได้แล้วมั้ง ไม่ขายและ คงรู้ตัวว่าเพื่อนในกลุ่มยังไงๆ ก้อไม่มีตังค์ซื้อ 555 จากคุณ : นวกร - [ 20 มิ.ย. 50 21:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่เห็นคนที่ขายรวยซักที ฝันกันอยู่นั่นแล้ว ว่าจะรวย ว่าเป็นเจ้านายตัวเอง สุดท้ายยังมีแต่หนี้สินพะรุงพะรัง ไม่มีคนคบ จากคุณ : toomood - [ 20 มิ.ย. 50 21:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หลังจากหลุดสมาชิกนรกมาได้ เราก็มาเป็นคนขายกับเพื่อนเราอีกคนที่ช่วยเราไว้ เราอยากกินโปรตีนต่อ อยากซื้อให้พ่อแม่กิน เพราะมันดีสำหรับคนแก่ๆที่เคี้ยวอะไรไม่ค่อยได้ มันมีโปรโมชั่น มีแบบซื้อ 11 อันแถม 1 อัน สัญญา 900 บาท รูป บัตรปชช ฯลฯ เราก็กลายเป็นนักธุรกิจ upline เพื่อนก็มาอธิบายเราถึงที่ ถ่อมาไกลมากกกกกกกก จากรังสิตมาลาดกระบัง เพื่อสัญญา 1 ฉบับ พร้อม VCD ตัวละครชื่อ ปาโบนอะไรไม่รู้ เนื้อเรื่องประมาณว่า มีคนใช้หัว กับคนใช้แรงงาน ทั้ง 2 ทำ อาชีพแบกน้ำ คนใช้หัวสร้างท่อน้ำจากแหล่งน้ำ ใช้เวลาสร้างนาน แต่คนใช้แรงงานแบกน้ำไปเองทุกวัน เทียบคนใช้แรงงานเหมือนพนักงานเงินเดือน ที่ทำงานงกๆๆๆ รอวันเจ็บป่วย แก่ไป ก็จะทำงานไม่ได้ (และยังมาเทียบกับเราตอนนี้ที่ป่วยจนไปเรียนไม่ได้ บอกว่าสมควรมีธุรกิจเป็นของตนเองได้แล้ว และอีกอย่างมันทำเมื่อไหร่ก็ได้) เทียบคนใช้หัวเหมือนคนขายแอมเวย์ว่าพอ สร้างท่อลำเลียงน้ำเสร็จหรือได้ downline มาก(กี่ขาว่าไป) ก็จะได้ตังค์เข้าเป็นเดือนๆ แม้ว่าจะเลิกทำงานแล้ว ตังค์ก็ยังเข้าไม่รู้จบ และยังกลายเป็นมรดกได้อีกตะหาก.. ทำสัญญาเสร็จก็ดี๊ดี จับมงจับมือ ยินดีที่ได้ทำงานร่วมกัน วันหลังจะเอา ไอ้ผงๆอะไร แอ้ดๆ มาให้ลองกินอีก เอามากินผสมโปรตีน.... จนเราได้เพื่อนเราเป็น upline สายตรง (แต่ต้องไปซื้อซีดีอะไรอีกนะ ถ้าจะขายจริงอะ เป็นหนึ่งในซีดีล้างสมอง ถ้าใจไม่แข็งพอก็โดนไปแหละ) ต่อมา เพื่อนโทรมาว่า ลายเซ็นเราในบัญชีมันไม่เหมือนกับที่เซ็นให้หักค่าสมาชิกแอมเวย์ทาง Bank ได้โดยไม่ผ่านเจ้าตัว (เราเปลี่ยนลายเซ็น) แล้วเราก็ไม่ไปเคลียร์กับ Bank ซะที จนเราอยากลาออกเต็มทน เพื่อนเราก็ดีแสนดี บอกว่าถ้าไม่เกิน 3 เดือนมันลาออกได้ เราก็ลั้ลลา ดีใจจัง แต่เรายังอยากซื้อโปรตีนอยู่อะ งั้นขอเปลี่ยนเป็นแค่สมาชิกได้มั้ย มันบอกได้ แต่ต้องลาออกไป 6 เดือนรึไงเนี่ย แต่ว่าสามารถซื้อราคาสมาชิก(คือลด 20 %) ด้วยบัตรของมัน เพราะเป็นเพื่อนกัน แล้วถ้าเกิน 1000 มันส่งบ้านฟรีไง แต่เพื่อนเราไม่แน่ใจว่าจะส่งบ้านลูกค้าได้มั้ย เลยโทรไปถาม upline เหนือเค้าอีกที (ไอ้ ...!! ผูกไทด์ที่มาที่บ้านแหละ) มันบอกเพื่อนเราว่าไงรู้มั้ย บอกว่า เห็นแก่ตัว อย่างงี้ก็เอาความเป็นเพื่อนมาอ้างขอซื้อในราคาสมาชิกดิ อย่างนี้ใครๆก็ซื้อในราคาสมาชิก งั้นก็ไม่ต้องทำสมาชิกหรอก ทำคนเดียวพอ มันเอาเปรียบคนอื่นเค้า ............. (ขอเน้นคำว่าเอาความเป็นเพื่อนมาอ้าง....) สารเลวมั้ยล่ะ!!! วันที่ทำสัญญาพูดซะดี บอกว่าบางทีก็ยอมขายราคาทุน(ราคาที่สมาชิกและนักธุรกิจซื้อคือลด 20% จากราคาป้าย)เพราะสนิทกันมาก แต่ดูที่มันทำกะเราดิ เพื่อนเราก็โทรมาบอกว่าขอขายราคาเต็มนะ แล้วก็บอกที่ไอ้ upline ของมันพูดถึงเรา เราโกรธมากกกกกกก น้ำตาแทบไหล ทั้งโกรธทั้งเสียใจ ที่เรามาโดนหลอกซ้ำซาก เราบอกกับเพื่อนว่า สงสัยความเป็นเพื่อนกับธุรกิจ มันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ไหนว่าเป็นธุรกิจของตนเองไง ทำไมต้องเอา upline มาอ้างด้วย มันบอกว่าไม่อยากมีปัญหา เพราะทำสมาชิกร่วมกับแฟน ในสัญญาฉบับเดียวกัน แล้ว upline ของมันก็เพื่อนแฟน ไม่อยากมีเรื่องกัน ในที่สุด เงิน 900 ค่าสมัครก็ได้คืนมา (เพื่อนเราก็ยังดี เสียแต่ upline มันเนี่ย หน้าเงิน ...มิน่าถึงไต่เต้าได้เร็ว เป็นมรกต เป็นเพชร) แล้วก่อนลาออกนะ เมียไอ้ upline เพือ่นเราก็โทรตามเรายิกๆ แล้วตอนที่โทรเราไปสอบสมัครงานเนี่ย!! มันสมควรมั้ยล่ะ มีโทรศัพท์เข้ามาเนี่ย.. (ขอบคุณนะคะที่ให้ระบาย) แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 50 21:26:50 จากคุณ : ^Bloody_Brownie^ - [ 20 มิ.ย. 50 21:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เราไม่เคยสนใจแอมเวย์เลยอ่ะค่ะ แต่ที่ต้องมาสนใจเพราะแฟนเราค่ะ ก่อนคบกับเราจนคบกับเรา ได้ซัก 2 เดือน แฟนเราใช้ผลิตภัณฑ์แอมเวย์ซะเกือบทุกอย่าง ด้วยเพราะเป็นผู้ชาย ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดีที่ไหน ยังไง แฟนเราก็ได้เพื่อน (เพื่อนแฟนเรา) ที่เป็นคนขาย เอาแคตตาล็อกมาให้เลือก แล้วก็โดนเชียร์ๆ จนได้ของแอมเวย์ทุกอย่างเลย เป็นพวกครีมเซรั่ม ขัดผิว พอกหน้า สบู่น้ำผึ้งล้างหน้า (อันนี้โอเค) ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาด ฯลฯ จนพอมาคบกะเรา เราก็สังเกต ว่าเค้าใช้แต่ Artristy เราไม่รู้จักงัยแฟนเรา ยังโฆษณาว่ามันดีงั้นดีงี้ให้เราซื้อตามเลย...แต่เราไม่เชื่ออ่ะ คือเราค่อน ข้างเกลียดแอมเวย์เลยค่ะเกลียดตั้งกะสมัยเพื่อนแม่มายัดเยียดให้แม่ ซื้อหลาย ๆ อย่าง แล้วก็เรื่องที่เพื่อนบ้านโดนหลอกให้ซื้อเครื่องกรองน้ำ สองหมื่นกว่าบาท (เครื่องกรองน้ำบ้าไรวะ แพงสุด ๆ) จนเรานี่ล่ะล้างสมองคุณแฟนเองค่ะ เราเริ่มโละพวกที่ขัด ที่พอกหน้า ของแฟนทิ้ง ทิ้งจริง ๆ นะ เพราะเราเห็นเค้าตั้งไว้นาน ทิ้งไป เค้ายังไม่รู้ตัว เลย...แล้วก็เริ่มมาลุยเซรั่มของคุณแฟน ถามว่าที่ใช้นี่ เพราะไร เค้าก็บอก มันเรียบเนียนไปกะหน้า ไม่มัน เราก็หาข้อมูลจนได้ของ TTAc มาให้ใช้แทน ถูกกว่าด้วย ตอนนี้เหลืออย่างเดียวที่คุณแฟนใช้คือ สบู่น้ำผึ้ง ค่ะ เพราะเราหาที่อื่น เทียบปริมาณ ราคา แอมเวย์น่าจะโอเคสุดค่ะ ก็เลยไม่ว่าไร ทีนี้พอเพื่อนแฟนเราติดต่อว่าจะเอาไรเพิ่มมั้ย...แฟนก็บอกไม่เอา เพราะ เราแนะนำตัวใหม่ให้แล้ว เพื่อนแฟนเราเค้าเหมือนเคืองเราเลยค่ะ เราเคยเข้าไปศูนย์ AMWAY ใหญ่ที่ถ.รามคำแหง ตอนที่จะไปซื้อสบู่เพิ่ม เราไม่รู้ว่าเค้าไม่ขายให้คนที่ไม่ใช่สมาชิก แฟนเราก็ต้องสมัคร ก่อนสมัคร ก็ทำหน้ามึน ๆ ประมาณ มีตังค์จะจ่าย ทำไมเรื่องมากจัง ต้องทำสมาชิกอีก ก็มีผู้ชายคนแรก เข้ามาใจดีมาก บอกจะช่วยมั้ย เดี๋ยวไปสมัครสมาชิก พี่จะพาไป เราก็เอ้ย...ไรวะ ไม่รู้จัก ก็เลี่ยง ๆ แล้วก็มีผู้หญิงเข้ามาอีกมา จับแขนเราเลยนะบอกว่ามีไรให้ช่วยมั้ย แล้วก็เอาแค็ตฯให้ดู ให้เลือก ๆ ว่าจะเอาไร เราอ่ะงงเลย....ว่าไรกันเนี่ย เป็นเงินเป็นทองไปหมดเลยเนอะ จากคุณ : nagoyalover - [ 20 มิ.ย. 50 21:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เพื่อนเราก็ขาย แต่เราไม่ซื้อ เขาก็ไม่ว่าอะไรคะ  เราไม่เคยซื้อของยี่ห้อนี้ใช้เลยอ่ะ ไม่อยากซื้อด้วย รู้สึกไม่ดีกับยี่ห้อนี้มากๆ ไม่มีเหตุผลอ่ะค่ะ จากคุณ : สลัดผักรวม - [ 20 มิ.ย. 50 22:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เคยฟังแอมเวย์เหมือนกัน รู้สึกเหมือนมันจะเริ่มด้วย คำว่า"คิดบวก" ประมาณว่า ทำแอมเวย์เนี่ย คิดบวก กันหมด คนธรรมดาคิดลบ 555+ เข้าไปฟังมากๆโดน ล้างสมองจริงๆแหละ >_<" น่ากัวอะ รอยยิ้มของแต่ล่ะ คนที่ทำแอมเวย์ เป็นรอยยิ้ม "ปลอมๆ" ทั้งนั้นเลยอะ เป็นรอยยิ้มแอมเวย์ รอยยิ้มจะขายสมาชิก จะขายของ - - จากคุณ : มาการีน - [ 20 มิ.ย. 50 22:36:10 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เคยไปฟังสัมมนาของกลุ่มแอมเวย์อยู่ครั้งนึงค่ะ ไปเป็นเพื่อนเพื่อนอ่ะ พูดได้คำเดียวเลยว่าจิตวิทยาหมู่ชัด ๆ มันเป็นลัทธิจริงๆ อ่ะ ไม่ชอบตรงที่ ชอบมาว่าสินค้าตามท้องตลาดว่าไม่ดี อย่างแปรงสีฟันอย่างเนี้ย เอาโน่นเอานี่มาทดลอง พอลองใช้ยาสีฟัน..ไม่ได้เรื่องเลย!!! ยิ่งนานไปคุณภาพยิ่งแย่ลง จากคุณ : โอ่งดิน - [ 21 มิ.ย. 50 00:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มีอยู่ทีนึงก็นัดมิตติ้งกะเพื่อน สรุปไปถึงไม่มีใครมาเลย มีคนนัดมาอยู่คนเดียว ... มารู้ทีหลังว่าจะชวนไปฟังแอมเวย์ ป๊าดดดดด ช้านจะนัดกินข้าวสังสรรค์กะเพื่อน นานๆจะได้เจอกันที ไม่ใช่ไปนั่งฟังธุรกิจ [มิน่าคนอื่นไหวตัวทันกันหมด] ... สรุปเลยตอบไปว่า "ตอนบ่ายๆ เรางีธุระอ่ะ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะขอตัวกลับบ้านก่อนนะ" บะบายจ้า เพื่อนชั้น... จากคุณ : sushiboy69 (sushiboy69) - [ 21 มิ.ย. 50 00:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 พวกบริษัทขายตรง...เค้าจะมีชุดความคิดอะไรบางอย่างมาใส่หัวคนขายน่ะค่ะ เค้าเรียกว่าอะไรนะ...แนวทางในการประสบความสำเร็จอะไรแบบนี้มั้ง ฟังๆ ดูแล้วน่ากลัวเหมือนจิตวิทยาหมู่แบบที่คุณลิเซิ่ลว่าจริงๆ จากคุณ : วนัสนันท์ - [ 21 มิ.ย. 50 00:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกะป้าจะอิ๊บเรื่องปรับวิธีนะ เพราะมันก็เป็นอาชีพหนึ่งแหละเราว่า เพื่อนเรา มันกำลังขยันทำงาน มีงานประจำ ทำประกันกะแอมเวย์ด้วย 555 เข้าใจว่าบางทีถึงจุดนึงก็อาจจะลองเปิดช่องให้ตัวเอง เพราะคำว่า "ไม่ใช่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ" จากที่คิดว่ามันยาก ก็มาคิดว่ามันอาจจะเป็นเราก็ได้ เพื่อนเรามันเลยอยากลองขายมั้ง ลองเปลี่ยนวิธี แล้ววิธีของมันคือ "แกๆ ชั้นขายแอมเวย์นะ ประกันด้วย อยากได้ไรบอกนะ" สุดท้ายเพื่อนซื้อของกะมันตรึม เพราะ 1.ช่วยมัน 2.ได้ยินว่าอะไรดี อยากลอง แต่กลัวเจอคนอื่นแล้วมันเซ้าซี้ก็ใช้บริการมัน ยอดขายมันก็เยอะนะ แต่มันก็ไม่รวยหรอก ตอนนี้มันก็เลยเลิกขายไปโดยปริยาย จากคุณ : +++sLeEPYnOmORE+++ - [ 21 มิ.ย. 50 00:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 53 หน้าแหกกะเพียวไวท์มาแล้ว  เซ็งมากมาย ซื้อมาก้อไม่ใช่ถูกๆ ต้องมาจ่ายค่านู่นนี่เพื่อให้หน้ากลับมาสู่สภาพเดิม จนตอนนี้ยังมีร่องรอยประทับไว้ให้ช้ำใจอยู่เลยค่ะ T^T จากคุณ : zugazz - [ 21 มิ.ย. 50 02:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อ่านแล้วสงสารคุณและเพื่อนจังค่ะ จากคุณ : ลูกแม่ดอกบัว - [ 21 มิ.ย. 50 10:14:03 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เจ้านายเก่าเราเป็นสมาชิก เป็นบริษัทเล็ก ๆ เค้าจับพนักงานมานั่งคุยล้างสมองให้สมัครสมาชิกทุกคน ทุกวัน... ตอนนั้นเรายังเด็กเลยสมัคร ๆ ไปให้จบ ๆ แต่เค้าพยายามเอาเราไปสาธิตอะไรต่อมิอะไรตลอดเวลา เราไม่ว่าง...สักพักแกก็เลิก ตอนเรียนมีลัทธินี้เข้ามาเหมือนกัน เราบอกว่าไม่ต้องบอกเราหรอก บอกตรง ๆ เราบรรลุในหลักสูตรนี้มากกว่าคุณ ๆ อีก เพราะก่อนที่เจ้านายเก่าเราจะมาบอกเรา น้าเราเคยทำอยู่ก่อนแล้ว ซึ้งตั้งแต่ยังเด็ก ก็มีคำถามตามมาว่าแล้วทำไมไม่ทำล่ะ? เราว่าง่าย ๆ เลย "ไม่ชอบ" ปัจจุบันยังคงมีลัทธินี้แพร่หลายอย่างต่อเนื่อง คนใกล้ชิดของเราบางคนดี ๆ ก็น่าเสียดายที่เสียคนดีให้กับลัทธินี้ แต่ถ้ามาหาเราจะเจอกับคำตอบนี้ค่ะ "เราเป็นคนเพื่อนน้อยค่ะ มีเพื่อนซี้ เพื่อนรักอยู่ไม่กี่คน ทุกวันนี้พวกเพื่อน ๆ มาคบด้วยก็ดีใจจะแย่อยู่แล้ว ยังไม่อยากเสียเพื่อนไปค่ะ โปรดเข้าใจด้วย ขอบคุณ..." (ยิ้ม) เป็นอันจบการสนทนาเกี่ยวกับลัทธินี้ จากคุณ : vanishgirl - [ 21 มิ.ย. 50 11:00:02 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เราตอนนี้ก็เจอเหมือนเพื่อนๆเรยยยยย แต่ว่าที่เราเจอครือ แก๊งค์แอมเวย์ มันเริ่มจากเพื่อนของเพื่อนเราที่เป็นสมาชิกมาก่อนแล้วก้อชวนเพื่อนเราไปสมัคร เพื่อนเราก็หลงเชื่อไปสมัครด้วย ต้องไปสัมมนากลับเที่ยงคืนแทบทุกวัน เราเห็นก็ เออนา แกเหนื่อยขนาดนี้ทำไปทำม้ายยย มันก็ด่าเราอีกแน่ะ ว่าเราจะเป็นพนักงานกินเงินเดือนทำงานงกๆๆๆไปถึงเมื่อไหร่ แก่แล้วก็ไม่มีตัง อย่างชั้นสิเดี๋ยวก็ได้ไปต่างประเทศ ได้รวย ได้บลาๆๆๆๆ ว่าแล้วก็พยายามให้เราไปสมัครเป็นสมาชิก เราก็ม่ายยย ม่ายมีตัง มันก็เลยไม่ค่อยเซ้าซี้เท่าไหร่ มีแค่แอบด่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ แอบบ่นเวลาเราซื้อของอย่างอื่นที่ไม่ใช่แอมๆ หรือว่าว่างๆก็พาเพื่อนมาแอบทดลองพวกใส่ดีเกลือในโฟมให้ดู (พยายามมากกกกเพื่อนช้าน) แต่เราก็ยังไม่หลงกล จนกระทั่ง เพื่อนเราเริ่มไปชวนเพื่อนๆคนอื่นมาเป็นสมาชิกด้วย พวกมันก็สมัครอีกแน่ะ พระจ้าวววว เกือบหมดกลุ่มแน่ะ คราวนี้เค้าก็กลายเป็นครอบครัวแอมเวเหมือนกานน ไปไหนไปด้วยกาน ขายของด้วยกานนนน เวลานัดเจอกันทีนี่เรารู้สึกยังกะเป็นคนนอกขณะที่เพื่อนๆมันคุยกันเรื่องแผนเรื่องผลิตภัณฑ์ ไม่ก็โทคุยกะอัพแอนด์ดาวน์ไลน์ของมัน(แทบตลอดเวลา) ว่างๆก็จิกเราให้ไปเป็นสมาชิกด้วย พอไม่ทำก็ด่าเราโง่อิ๊ก ไรกันว้า..... เจอแบบนี้แล้วเพื่อนๆคิดว่าควรทำไงดีง่ะ จากคุณ : ผ่านมา - [ 21 มิ.ย. 50 11:31:13 A:202.57.178.191 X: TicketID:148487 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เคยโดนมาเหมือนกัน หลงเข้าไปทำเลยด้วยซ้ำ เพราะ "เพื่อนสนิท" นี่ล่ะ เราอยากรู้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่ แล้วก็ได้เห็น และในที่สุดก็ทำต่อไม่ได้ เพราะความคิดพื้นฐานของเราไม่ตรงหลักการของลัทธินี้เลย ที่จะต้องคิดถึง การเป็น "เพชร" และ "ความเป็นอิสระทางการเงิน" เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อนที่ชวนเรามาทำ จากเดิม ตอนเราเป็นดาวน์ไลน์ของเค้า โทรหาเราเช้าเย็นด้วยความเสน่หา (ความจริงคือต้องคอย Motivate เราให้ขยายไลน์) พอเราเลิกทำ ก็หายไปจากชีวิตเราเลย ... เพื่อนที่ทำงานเราอีกคน เข้าไปทำพร้อม ๆ กับเรา ด้วยการชักชวนของเพื่อนเค้า ... เลิกทำพร้อม ๆ กับเรา ด้วยประสบการณ์เหมือนกันเด๊ะ ๆ จากคุณ : เข้าใจจริง ๆ - [ 21 มิ.ย. 50 11:34:57 A:24.4.245.98 X: TicketID:067916 ]

ความคิดเห็นที่ 58 โหวตคร่า จากคุณ : noirpoison - [ 21 มิ.ย. 50 11:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เพื่อนเราเพิ่งเข้าลัทธิไม่นาน นัดเจอทีไร พูดถึงแต่เรื่อง Amway เรื่องเครื่องสำอางแต่งหน้า ทั้งที่ตัวเพื่อนเอง ไม่มีความรู้เรื่องแต่งหน้าหรือขั้นตอนบำรุงผิวเท่าไหร่เลย แต่ทำเป็นอธิบายขั้นตอนต่างๆอย่างมืออาชีพ (เรารู้มากกว่าอีก) จริงๆเราเป็นคนใจอ่อนมาก ขี้เกรงใจ แต่เราเคยหลงโง่ไปกับธุรกิจประเภทใกล้เคียงกัน คือ HBL เสียตังค์แบบไม่น่าเสีย ค่าสินค้าแพงชิบ ค่าเข้าฟังทีมงานโม้ มันแพงมากสำหรับเราที่ยังรายได้น้อยอยู่ (แต่ก่อน) (ตอนนี้ก็ยังน้อยอยู่ แหะแหะ) ทำให้เราเข็ดและไม่มีวันหลงกลธุรกิจประเภทนี้ได้อย่างเด็ดขาดเลย อยากได้ตังค์เหรอ เล่นหุ้นเลย เราคิดว่า เสียตังค์จากการเล่นหุ้น ยังดีกว่า เสียตังค์จากพวกนี้ เพราะเล่นหุ้นยังทำให้เราสนใจสภาพเศรษฐกิจ การเมือง และอื่นๆ ไปโดยปริยาย (ยังได้ความรู้กลับมาบ้างน่ะ -- อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ) จากคุณ : ComeWhatMay - [ 21 มิ.ย. 50 13:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เราเสียพี่ไปคนนึงเพราะเอ็มเวย์นี่แหละ เพราะเกรงใจเสียไป3000 ไปนั่งฟังบ้าบอคอแตก  เครือข่าย network 21 อะไรซักอย่างประมาณซื้อของใช้เอง ทุกวันนี้เราเสียพี่คนนี้ไปแล้ว  เรานะเกรียจเอ็มเวย์มากๆๆๆๆๆๆๆๆเพราะมันทำให้เราเสียพี่ที่น่ารักคนนึงไป.... จากคุณ : ปาแมน - [ 21 มิ.ย. 50 13:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 61 น่ากลัวจริงๆ น่ากลัวมากก - -* จากคุณ : สะบะละเฮ่ยแจงแวง - [ 21 มิ.ย. 50 14:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แม่แนทก็ทำนะ แต่ไม่โดนแบบนี้ สงสัยต้องแล้วแต่กลุ่มด้วยหละมั้ง กลุ่มที่ดีก็ดีไป กลุ่มที่แย่ก็แย่สุดๆ จากคุณ : Cheezii - [ 21 มิ.ย. 50 14:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อเทอมก่อนๆ  เพื่อนที่ทำงานของแม่ชวนไปฟังอะไรก็ไม่รู้ พอไปถึงก็บางงอ้อ อ้อ ไอ้อันนี้นี่เอง คห.ที่ 60 อ่ะ อันเดียวเลยนะ  เรานั่งฟับแป๊บนึงก็ชวนแม่ออกมา บอกว่าไม่ชอบค่ะ ไม่ชอบอิสระ อยากเป็นมนุษญ์เงินเดือน  ไม่อยากเสีย 4 เปอให้ใครด้วย จากคุณ : มิสพรหล้า - [ 21 มิ.ย. 50 15:52:47 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เพื่อนเราก้อเป็นแบบ จขกท เลยอ่ะ หลังจากไปเข้าลัทธิ กลับมาเรื่องคุยจะไม่เฮฮาแล้ว จะมีสอดแทรกการขายตลอดเวลาอ่ะ คุยเรื่องไรอยู่ เพื่อนเรามันก้อโยงไปเรื่องสินค้าจนได้ แต่ละชิ้น เราชอบถามว่า ราคาเท่าไหร่ พอมันบอกราคา เราจะรีบบ่นเลย แพงๆๆๆๆๆๆว่ะ จากคุณ : ปาร์ลัลล้า - [ 21 มิ.ย. 50 16:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เราเกลียดแอมเวย์ ... และปฏิญาณตนว่าจะไม่แตะต้องผลิตภัณฑ์ใดๆ ภายใต้แบรนด์นี้เด็ดขาด จากคุณ : Galadriel - [ 21 มิ.ย. 50 17:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เพิ่งโดนไม่นานเพื่อนเราเป็นสมาชิกหรือมันขายก็ไม่รู้วันนั้นไปตัดผมร้านที่เพื่อนมันสนิทกับเจ้าของ ฮ่วย ตัดผมเสร็จสาธิตการใช้แอมเวย์สะงั้นเราเลยทำหน้ากวนๆๆใส่แล้วเค้าถามว่าว่างวันไหนไปฟังด้วยกันไม่ซื้อไม่เป็นไรเด็กมหาลัยที่เราอยู่ทำกันเยอะแยะ เราก็อืมๆ ว่างวันเดียวแล้วบอกเพื่อนว่าไม่ต้องลากเราไปฟังนะไม่ต้องการ พี่สาวเราช่วงนึงเห็นเอาซีดีแอมเวย์มานั่งฟังเจอที่บ้านว่าทุกวันจนเลิกไปหล่ะทั้งๆที่พี่เราอาชีพมันมีแต่คนยกย่องนะ จากคุณ : ครีมโซดา - [ 21 มิ.ย. 50 17:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ผู้ชายที่เคยชอบไปเข้าลีทธิเหมือนกันค่ะ แถมยังชวนไปด้วยอีกต่างหาก ถูกลากไปนั่งฟังที่เซนเตอร์ 2 ครั้ง กับมานั่งคุยที่หอ (ตอนนั้นเราอยู่มหาลัย) ทุกวัน ตอนนั้นเกือบโดนสะกดจิตให้สมัครไปซะแล้ว ดีว่าเพื่อนมันรั้งเอาไว้ พอตาสว่างก็เลยปฏิเสธ ผ่านมา 3 ปี แล้ว ตอนนี้เขายังอยู่ในโฟลเดอร์ผู้ชายที่เราหลบหน้ามากที่สุดเลยค่ะ - - เฮ้อ เสียดายความรู้สึกดีๆ จัง ขอต่อต้านลัทธินี้เช่นกันค่ะ จากคุณ : นะโอ - [ 21 มิ.ย. 50 17:31:12 ]

ความคิดเห็นที่ 68 จขกท โดนยืมไปขอให้ได้เงินคืนในเร็ววันนะ จากคุณ : bubblebaba - [ 21 มิ.ย. 50 17:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 69 น่าจะเหมือนลัทธิขายประกัน จากคุณ : goldfish_city - [ 21 มิ.ย. 50 18:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ".....เพื่อนพยายามขายของให้คนในกลุ่ม พอไม่มีใครซื้อ เพื่อนก็อารมณ์เสีย หาว่าพวกเราโง่ ไปซื้อของตลาดๆ ใช้อยู่ได้ คุณภาพเลวสู้ของแอมเวย์ไม่ได้เลย นิสัยของเพื่อนที่เปลี่ยนไปอีกอย่างหนึ่งคือ จากที่เพื่อนเคยเป็นคนขี้เกรงใจคน เพื่อนเริ่มไม่เกรงใจใครแล้ว เพื่อนยืมเงินคนอื่นเป็นว่าเล่น ทีละเป็นหมื่นๆ..........." เป็นคล้ายๆเพื่อนเราคนนึงเลยค่ะ แต่ของเพื่อนเรายังหลักพัน เพราะเค้าเป็น นศ อยู่ เราว่า พนง แอมเวย์ มันดูจงใจขายของเกินไป เหมือนเป็นตู้ขายของเคลื่อนที่ เจอหน้าใครก็ต้องโฆษณาขายของของตัวเอง จนคนรอบข้างขยาด เหอๆ แล้วก็ชอบคิดว่าของๆตัวเองดีที่สุด ยี่ห้ออื่นมันแย่ อะไรแบบนี้ มันทำให้รู้สึกรำคาญคนขาย เหอๆ เวลาเราเจอคนมาขายแอมเวย์ หรือชวนเข้าแอมเวย์ เราก็จะบอกว่าไม่ซื้อค่ะ แล้วก็ไม่อยากทำด้วย พอใจกับรายได้ตอนนี้อยู่แล้ว(ถึงจะอยากรวยกว่านี้ก็เถอะ แต่ให้มาเป็นตู้ขายของเคลื่อนที่ในลัทธิน่ะ ไม่เอาหรอก จากคุณ : lulu (lupang_lupin) - [ 21 มิ.ย. 50 20:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เบื่อพวกขายตรง มากกกก ขอเล่ายาวนิดนึง โชคดีค่ะเพื่อนสนิทเราคนนึง เธอจะเลิกล้มความตั้งใจทำกับพวกขายตรงแล้วค่ะ เพราะเธอเห็นเรื่องเรียนสำคัญกว่า ^^  คือตอนแรกเธอไปเสียเงินสมัคร แถมชวนเรากะเพื่อนไปฟังด้วยนะค่ะ เราเป็นคนเกลียดพวกขายตรงมากๆ เราว่าน่ารำคาญ ด้วยความที่เธอบอกว่าแกสนใจทำงานป่าว เราก็สนๆ งั้นไปลองดูก่อน โธ่ .... เราผิดหวังมาก เพราะมันเป็นงานขายตรงคล้ายๆกับแอมเวย์ ถ้าให้เราไปเป็นเด็กเสริฟ งานกรรมกร เราจะไม่ว่าเลยค่ะ เพราะอยากรู้ทำงานหนัก แลกเงินมันเป็นอย่างไร(เว่อเชียว แต่คิดงั้นจริงๆค่ะ) เมื่อไปถึงแล้วก็ต้องไปนั่งฟัง ประวัติ วิชั่น ของบริษัท บลาๆๆ ได้รับรางวัลการันตีอะไรบ้างก็ว่าไป เสร็จแล้วเข้าจะพูดถึงรายได้ค่ะ ซึ่งตรงนี้ พี่แกจะร่ายมนต์สะกดให้คนสนใจค่ะ งานประจำ รายได้น้อย โอ้ยไม่ไหวหรอก ต้องนี้ รายได้จะมีอัตราก้าวหน้า ไม่ต้องเหนื่อยมาก โอ้ยยิ่งถ้าน้องเป็น นศ. น้องสามารถ เรียนไปได้เงินไป แบ่งเบาภาระทางบ้านได้ แต่ๆๆ ก็เข้าเรื่องธุรกิจต้องลงทุน คือซื้อของๆพวกนั้นมาแล้ว ขายต่อ .....เราเริ่มเอ๊ะใจ ตลอดเวลาที่เราฟังเขามา เราตอบสวนกระแสกับพี่แกตลอด ถ้าเราเป็นผู้ชาย พี่แกอาจเสยหน้าเราสัก 10 ที อีกอย่างหนึ่ง เดี๋ยวนี้พวกนักศึกษา  สนใจไปทำเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์คงประมานเพื่อนชวนเพื่อน เหมือนเคสเรา เราว่ามันเสียการเรียน อีกอย่างบางคนพ่อ แม่ต้องมาเสียเงิน ซื้อของเพื่อเพิ่มยอดขายให้คุณลูก แถมคุณลูกบางคนไม่กล้าบอกแม่ ยืมเงินเพื่อนสะอีก แย่ๆๆ อู้วว เราพิมยาวจังง แต่อยากบอกไว้แค่นี้ละค่ะ เรามีอคติกะพวกนี้มาก ดูมันสร้างหนี้ สร้างความรำคาญ สร้างความเห็นแก่ได้ให้กับตัวเอง ไงไม่รู้ จากคุณ : Judy & Mary - [ 21 มิ.ย. 50 22:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 72 วันนี้สดๆ เพื่อนรุ่นน้องชวนไปหาเพื่อนเก่าของเค้าที่โรงแรมย่านวิภา เพื่อนเก่าเค้าบอก ไม่ได้เจอตั้งนานมาเม๊ากันหน่อยสิ พอรุ่นน้องไปถึงเจอคำแรก เธอมีความฝันมั๊ย ไอเราก็เริ่มนึกในใจละฝันร้ายล่ะสิ คงไม่พ้นพวกขายตรงลูกโซ่แน่นอน ไปถึงก็มีพี่มานั่งคุยๆ แบ่งคนเป็น2ฝ่าย สร้างสิ่งเพ้อฝัน ข้อเปรียบเทียบ พูดจาด้วยหลักการตลาดที่จอมปลอม อ้างถึงไลน์ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงแทบ10ชนิด แต่ไม่ยอมบอกว่านี่คือแอมเวย์ ซึ่งบอกหลังจากสร้างวิมานในอากาศให้กับคนฟังแล้ว แถมมีการเก็บค่าอบรมทางการตลาดอีกประมาณ200 ถ้าต้องการเข้าไปฟังให้ห้องประชุม ซึ่งพูดไม่ขาดปากว่า โอกาสแบบนี้ไม่มีอีกแล้วนะ ปากก็ว่านี่ไม่ใช่ลูกโซ่นะ แต่ที่อธิบายมานี่ โซ่เป็นล้านเส้น สรุปแล้วคนที่พูด หรือเพื่อนเก่าของรุ่นน้อง ดูๆไปแล้วดูไม่เหมือนคนปกติทั่วไปเลยหลังจากเข้าสู่โรงงานผลิตหุ่นยนต์ยอดนักขายของแอมเวย์ จากเพื่อนที่ไม่เจอกันนาน กลับพูดจาแต่สิ่งเพ้อฝัน เพื่อหวังให้ร่วมเข้าขบวนการ จากคุณ : 7/ (An American Tail) - [ 21 มิ.ย. 50 22:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เราก็เป็นสมาชิกแอมเวย์มานานแล้ว เรารู้จักใช้เครื่องสำอางค์มียี่ห้อราคาแพงก็จากแอมเวย์นี่แหละ ของเค้าก็ดีนะ(แต่ไม่ทุกอย่างหรอก) ใช้แล้วหน้าเราก็ดีน่ะ ชุดพื้นฐาน จากนั้นเราก็เริ่มไปใช้ยี่ห้ออื่นๆไปเรื่อย เราแนะนำให้เพื่อนคนนึงใช้ตัวล้างหน้าแอมเวย์ กะสบู่เหลว หน้าเพื่อนเราก็ดีขึ้นจริงๆ (คงถูกกับหน้าเพื่อนเราใช้แล้วไม่แพ้)  แล้วมันก็บอกว่าใช้สบู่เหลวก็ดีไม่ค่อยมีสิวที่หลังแล้ว จนป่านนี้เพื่อนเราก็ไปซื้อเองเรื่อยๆอ่ะ (เรากะเพื่อนเป็นสมาชิกแบบซื้อของอย่างเดียว) พี่ชายเราปกติชอบออกกำลังกายเหงื่อออกเยอะ มีอาการคันหลัง เคยให้เราทาคาลาไมด์ให้ เห็นหลังแล้วตกใจ เป็นรอยๆเกาเยอะ เคยใช้สบู่พวก anti-bacteria ก็ไม่หาย พอใช้สบู่ก้อนขาวๆ ของแอมเวย์ก็ชอบบอกว่าเพราะ สิว กะอาการคันๆ ที่หลังหายไปเลยตั้งแต่ใช้ก้อนแรกอ่ะ  ผงซักฟอกเราก็ชอบ เราว่ามันสะอาดดี ละลายง่าย แช่ผ้าก็ไม่เหม็น แต่เก็บไว้ซักพวกผ้าทีสกปรกมากๆ (มันแพง) คนที่มาขายให้เราก็ไม่วุ่นวาย ไม่ตื้อด้วยมั้ง ตอนนี้เราก็ไปซื้อเองบ้างถ้ามีเวลา ตอนนี้มีศูนย์แถวชิดลมไปไม่ยากก็เลยไป  จริงๆ ก็ยังมีของอีกหลายอย่างที่ใช้แล้วดี แต่ว่าของยี่ห้อที่ถูกว่าและก็ดี(อาจจะไม่เท่า หรือพอกัน) ก็มีเราก็เลยใช้ของถูกกว่าดีกว่าประหยัดตัง เจอคนขายดีก็ดีไป เจอคนขายไม่ดีก็แย่ไปเลยทั้งสินค้า ตัวคนขายและยี่ห้อ จากคุณ : ขนมปังน้ำแดง - [ 21 มิ.ย. 50 23:03:56 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมเคยทำงานพวกนี้นะ เเต่ไม่ใช่ Amway เเละที่เลิกทำเพราะน้องสาวคนเล็กคนเดียวเเหละ>.< (ที่จิงอายุห่างกันเเค่2ปี) ทำมาเมื่อไม่กี่ปีก่อน เจอทางเน็ตเนี่ยเเหละ สมัครครั้งเเรกเพื่อขึ้นตำเเหน่งสูงๆเลย ลงเงินไป20000กว่าบาท ได้ของมาเต็มเลย ผมจะหาดาวไลน์จากคนไม่รู้จักหมดเลย ไม่ชวนเพื่อนๆเลย เน้นหาทางเน็ตเช่าพื้นที่โฆษณาไว้ มันสนุกตรงที่ ได้ดาวไลน์เป็นเด็กมหาลัยรุ่นๆเดียวกันเยอะเลย (ปิ๊งคนสวยนึง ได้กิ๊กมาจากงานเนี่ยเเหละ ทุกวันนี้ยังคุยกันอยู่) ทำมาเป็นปี ช่วงหลังๆได้เดือนละ 50,000 กว่าๆ ก็เยอะนะ สำหรับผู้ทำอาชีพรับจ้างเรียนในตอนนั้น เเต่ไม่ค่อยมีเวลาเที่ยวหรือใช้เงินเลย ต้องดูเเลดาวไลน์ตลอด ไม่งั้นเหมือนเราหลอกเค้ามา อยากให้เค้าสำเร็จด้วยไม่งั้นเค้าจะรู้สึกไม่ดีกับเรา เเต่งานนี้คนสำเร็จน้อยมากๆเข้ามาส่วนใหญ่จะขาดทุน เเล้วเค้ามักจะบอกว่าทำไปเเล้วหลังๆนั่งเฉยๆก็มีเงินเข้ามาตลอดนี่ไม่จริงนะ ไหนจะโดนฉกจาก บ. อื่นๆมันเข้าไทยมาปีนึงเป็นสิบๆ บ. เลยนะ   หรือคนในองกรณ์เดียวกัน (มันซื้อตัวกันไปอยู่ด้านอื่นเลยนะ เราเสียดาวไลน์ฟรีๆ) เลิกเพราะน้องสาวที่สนิทกันมากๆหงอยๆอ่ะ เพราะมีเวลาให้เค้าน้อย ผมรักน้องสาวยิ่งกว่าเเฟนอีกนะ โชคดีที่เพื่อนผมเข้าใจว่าเราทำงาน มันมาถามเองเลยว่ารวยเเล้วไม่คิดจะเสนอเพื่อนหรอ เเต่สุดท้ายก็ไม่ได้ชวนเพื่อนสักคน ปรกติหนังเข้าใหม่ผมจะดูกับน้องสาวก่อนเเล้วน้องเค้าถึงจะไปดูกับเพื่อนอีกถ้าเพื่อนชวน เเต่ตอนทำงานมีเเต่บอกน้องวาพี่ไม่ว่าง เค้าไม่เคยบอกให้ผมเลิกหรอก เเต่พอบอกว่าจะเลิกเเล้ว ดีใจจนออกนอกหน้าเลย ผมดีที่ได้กำไรมาเยอะ เเละมีเพื่อนๆใหม่ เเต่บอกได้เลยว่างานนี้ส่วนใหญ่ล้มเหลว ไม่ว่าเเผนธุรกิจจะดีหรืออ้างว่าง่ายยังไง ก็ยังยากอยู่ดีเพราะงานเเบบนี้เราทำกับคนมันเลยยาก ตอนนั้นมีเงินเยอะจนใช้ไม่ทันก็จริง(ที่จิงไม่มีเวลาใช้)เเต่ผมว่าตอนนี้มีความสุขกว่า ตอนผมทำเเล้วสำเร็จพ่อผมให้เครดิตผมดีมากๆ เลยออกงินให้มาเล่นหุ้นเลย ตอนผมเลิก ผมสรุปตามความเห็นผมนะ 1. งานเเบบนี้ถ้าคิดจะทำ อย่าเพื่อนมาทำ ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน 2. มีภาระมากอย่าทำ 3.ไม่ทำไม่ผิด ต้องกล้าปฎิเสธ 4. บ. นึงสินค้าจะดีกว่าท้องตลาด เเค่อย่างสองอย่าง (ศึกษามาหลายที่) 5. งานเค้าไม่ผิดกฏหมาย เเต่คนทำบางคนมันโกงอย่างผิดกฏหมาย 6. ผมมีเพศเดียว Log in นี้ ผมใช้กับน้องสาว บางทีเป็นชายเป็นหญิงอย่าเเปลกใจ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 50 01:02:48 แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 50 00:50:42 จากคุณ : Zero System - [ 22 มิ.ย. 50 00:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เกินจะบรรยายสุดๆเลย แต่ละคน เราโชคดีไม่เจอคนประเภทนี้ ฉนั้นโหวตให้ เพื่อประนามลัทธิ อุบาทๆแบบนี้ ขอให้มันหมดๆไปซะทีเหอะ ปล. กระทู้เก่าก่อนหน้านี้ ที่มีคนมาเล่าเรื่องแอมเวย์ แบบนี้เหมือนกัน ไปไหนแล้วก้อไม่รู้  โดนลบไปหรือเปล่าไม่รู้ ใครมี รบกวนมาแปะที่นี่อีกทีเหอะคับ มาแชร์กันเยอะๆ เผื่อ ลัทธินั้น มันจะรู้สึกตัวบ้าง จากคุณ : LoveToBeLoved - [ 22 มิ.ย. 50 03:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 76 พิมพ์ไป 2 ครั้ง หายวับไปไหนไม่รู้ สงสัยมีคำต้องห้าม เอาสั้นๆ ละกัน ขี้เกียจพิมพ์ใหม่แล้ว เราเจอมา 4 ครั้งค่ะ ครั้งแรก เพื่อนคุณน้าเอาข้าวของต่างๆ มาให้ใช้ บอกว่าไม่พอใจคืนได้เลย ถ้าชอบก็สมัครกะเค้า จะได้ซื้อได้ราคาถูกๆ แต่พอจะคืน ก็ทวงบุญคุณ ว่าเค้าเสียเงินซื้อมาให้ใช้ ทำไมไม่เห็นความดี (ทั้งๆ ที่มันเคลมคืนได้ใช่มะ) ตอนนี้ก็เห็นว่าเลิกคบกันไปแล้ว ครั้งที่ 2 จะไปเรียนแต่งหน้า แล้วโดนเพื่อนของเพื่อนหลอกให้ไปด้วยกัน ไปถึงที่ถึงได้รู้ว่าเป็นอบรมของกลุ่มเค้า ไม่ใช่การเรียนแต่งหน้าจริงๆ แล้วคนที่สอนแต่งหน้าก็เป็นพวกที่ทำธุรกิจนี้ แต่งหน้าไม่เป็นเลยสักคน แถมมัดมือชก เอาใบสั่งซื้อเขียนชื่อเราไปเบิกของให้เสร็จสรรพ โดยที่ไม่บอกเรา มีการจะตามมาถึงบ้าน จะมาขายของให้พ่อแม่เราด้วย ครั้งที่ 3 เพื่อนสนิทอยากจะตั้งตัวได้ไวๆ ทั้งๆ ที่เขาก็มีงานประจำที่เงินเดือนดีอยู่แล้ว มาคะยั้นคะยอเกือบปี โทรมาทีไรก็มีแต่อัพไลน์ ดาวน์ไลน์ ทำแล้วรวยแน่ เราบอกว่าเราไม่ชอบไปเสนอขายของให้ใคร มันเหมือนบังคับ ก็ยังตื๊อ บอกว่าอัพไลน์เค้า มีบ้าน มีรถหลายล้าน เพราะธุรกิจนี้ เดี๋ยวเค้าช่วยหาลูกค้าให้ ก็เลยบอกว่า ดูเธอทำก่อนละกัน ถ้ารวยจริงเราจะไปทำด้วย ตอนนี้เราไม่มีเงิน ครั้งที่ 4 คนในบริษัท มาบังคับขายเครื่องดูดฝุ่น เพราะได้ยินว่าเราจะซื้อ แต่เราจองกับห้างไปแล้ว เค้าก็จะให้ยกเลิกจองมาซื้อกับเค้าแทน ต่อมาก็มาชวนไปเรียนแต่งหน้า (อีกแล้ว) กับ คสอ แบรนด์ใหม่ ของเค้า แต่ไม่ถามเราก่อน พอเราปฏิเสธก็บอกว่าซื้อบัตรมาแล้วเสียดายเงิน แต่เราไม่ว่างจริงๆ สักพักก็บอก ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป เดี๋ยวฉีกบัตรทิ้งก็ได้ สรุปว่าเราผิดเหรอเนี่ย จากคุณ : Taffy~* - [ 22 มิ.ย. 50 03:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มีเพื่อนขายเหมือนกัน เวลาอยากเจอเพื่อนต้องมีข้อแม้ว่า มาอย่างเพื่อนถ้าเอาสินค้ามาขายให้ฉัน ฉันกลับ ฉันไม่ชอบ เค้าก็คงเคืองๆ เหมือนกันแหละ จากคุณ : แม่กีวี (wjeab2001) - [ 22 มิ.ย. 50 09:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เรามีประสบการณ์ประมาณนี้เหมือนกันค่ะ เพื่อนที่เราเคยสนิทด้วยสมัยม.ต้น อยู่ ๆ ก็โทร.มาหาบอกว่าอยากเจอกัน เราก็ดีใจนะคะ ยังตำหนิตัวเองเลยที่ไม่เคยคิดจะติดต่อเพื่อนเก่า ๆ พอเจอกันก็ไปกินข้าวช้อปปิ้งปกติ เพื่อนก็เกริ่น ๆ ว่าตอนนี้กำลังอยากทำธุรกิจของตัวเอง ตอนนี้เขาทำงานกับญาติ แต่บอกก่อนนะคะว่าเขารวยมาก สามีก็รวย ส่วนเราฐานะปานกลางธรรมดา ต่อมาเพื่อนโทร.มาบอกว่าทำธุรกิจกับน้องอยู่ เป็นแบบขายของในซุปเปอร์พวกเครื่องอุปโภคบริโภค แต่ขายตรง เลยขายได้ถูกและจัดส่งถึงบ้าน เขาบอกว่าอยากเอาแคตตาล็อคมาให้ดู เราก็บอกว่าได้ ที่บริษัทเราก็มีสั่งของบ้าง ถ้าถูกกว่าโลตัสเราก็จะสั่ง ให้เอาแคตตาล็อคมาทิ้งไว้ที่ทำงานเราละกัน เพราะเราไม่ค่อยว่าง เขาก็ อยากไปหาที่บ้าน ไอ้เราก็โง่นี่ นึกว่าเพื่อนรัก อยากเจอ ก็เลยบอกทางไปบ้านให้ บอกไปเจอกันตอนเย็นละกัน พอเรากลับบ้าน เพื่อนก็มา พอเอาแคตฯมาให้ดูมันก็มีสินค้าหลาย ๆ ชนิด พลิกไปพลิกมาก็มีรูปสินค้าแอมเวย์ปนมาด้วย เราก็นึกว่ามันคงขายหลายอย่าง แต่ในใจคิดว่ามันแหม่ง ๆ ละ เพื่อนตูจะลงทุนทำแคตฯหรู ๆ อย่างนี้เลยเหรอ คือเขามาแผนสูงมาก พูดกำกวมเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของกิจการ เราจะได้อยากช่วยอุดหนุน เราก็งงว่าทำไมมันไม่กลับซะที วันนั้นเราก็ไม่ค่อยสบาย อยากนอน แต่ก็ไม่อยากไล่เพื่อน อยู่ ๆ มันก็บอกว่าอยากจะสาธิตสินค้า เราก็เฮ้ย อารมณ์อยากด่าแล้ว เพราะเราบอกมันแล้วว่ากรูไม่สบาย มันบอกแป๊บเดียว อีนี่ไล่ไม่ไปแล้ว เราก็เออๆๆๆ มันก็ไปสาธิตผงซักฟอกแอมเวย์ กับสบู่ให้เราเห็นมายากลฉากนึง ถึงเราจะโง่ยังไงก็ไม่ขนาดจะเชื่ออะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ เราเริ่มเซ็งมากแล้ว พอมันเล่นกลจบ เราก็บอกว่า ไว้จะติดต่ไปนะ จะเอาไปให้เลขานายดูละกันว่าสนใจไหม ส่วนเราคงไม่มีปัญญา มันแพง เพื่อนก็ตื๊อ ออกลายละ--สมัครสมาชิกไว้ก่อนก็ได้ สองร้อยเอง จะได้อัพเดทแคตฯด้วย เราเสียงเข้ม--ไว้ก่อน แล้วจะโทร.ไป พยายามดันมันออกไปจากบ้าน มัน ยังไม่เลิก -- ไว้ฉันขอมาสาธิตอย่างอื่นให้แม่แกดูได้ไหม เรา--ไม่ดีหรอก บ้านเราไม่สะดวกรับแขก ตัดบทแบบเลว ๆ แล้วเข้าบ้านเลย หลังจากนั้น เราก็ไม่รับสายเพื่อนคนนี้อีกเลยยยยย แม่เราก็กลัวเพื่อนคนนี้จะโผล่มาที่บ้านมากกกก เราเลยโกรธมันมากว่าทำให้แม่เราไม่สบายใจ จนตอนนี้เราเปลี่ยนเบอร์โทร.ไปแล้วสบายใจขึ้นมาก เราเสียความรู้สึกนึกว่าเพื่อนคิดถึง จริง ๆ มันจะขายแอมเวย์ แถมหลอกเราอีกว่าเป็นกิจการของมันเอง ไม่มีความจริงใจ เราไม่ลังเลเลยที่จะเลิกคบกับมัน จากคุณ : Galilee - [ 22 มิ.ย. 50 09:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เรากับเพื่อนเคยโดนพี่ของเพื่อนเนี่ยแหละหลอกไปฟังมาเหมือนกัน ตอนแรกมาบอกว่าแกไปไม่ถูกไม่ค่อยรู้ทางเพราะมันไกลอยู่แถวประชาอุทิศ (เผอิญเคยเรียนอยู่ตรงนั้น) พอไปถึงใกล้แกกลับจำทางได้ซะงั้นอ่ะ พอเข้าไปในบ้านนะเห็นกำลังสอนการสาธิตสินค้ากันอยู่เลยอ่ะ แถมมีแยกเรากะเพื่อนไปคุยกะอัพไลน์กันสามกันด้วย แล้วอัพไลน์ก็พูดจาแบบพยายามบีบน้ำตา ว่าเราอ่ะดีนะจบมาทำงานช่วยพ่อแม่อย่างงั้นอย่างงี้ (ตอนนั้นเพิ่งจบด้วย)เรากะเพื่อนนี่แบบเซ็งสุดๆ ก่อนนี้พี่ของเพื่อนคนนี้แกก็เคยชวนๆเหมือนกันแต่เราปฎิเสธไปตลอดอ่ะ ไม่คิดว่จะโดนหลอกไป (ดีนะเป็นวัยรุ่น สนแต่เรื่องไร้สาระแถมจบมาเงินเดือนก็เยอะอยู่แล้วเลยไม่สนใจอ่ะขี้เกียจด้วย โหะๆๆ) ปล.ก่อนเรากลับเห็นมีคนมาสมทบเพิ่มสามคน ท่าทางเหมือนเป็นคนต่างจังหวัด รายได้น้อยอ่ะ เราเห็นก็แอบสงสารว่าแกคงโดนกล่อมให้มาทำเพราะคิดว่าคงหาเงินได้ไม่ยาก แต่เราว่าเด๋วนี้เค้าคนเริ่มขยาดกันแล้วกับ amway อ่ะ (โดยส่วนตัวเรเห็นว่าสินค้าเค้าก็ดีนะ แต่กัวพวกคนขายมากกว่า ตื้อแบบไม่บันยะบันยังเลยอ่ะ) จากคุณ : เปื่อยยุ่ย - [ 22 มิ.ย. 50 10:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สินค้าบางตัวเค้าก็ดีน๊ะ ที่ชอบสุดก็เป็นชุดผิวแห้งกับ night cream หน้าดีขึ้นจริงๆ เราโชคดีที่ไม่เจอคนขายจะทำแบบที่ว่าเลย เราอ่านในคู่มืการทำธุรกิจ จรรยาบรรณ เค้าไม่มีสอนให้ทำแบบนี้ แบบว่าตื๊อ ยัดเยีด ซื้อของตุนเอง เรื่องของเรื่องมันอยู่ที่คนมากกว่า ถ้าทุกคนยึดมั่นในกติกาการขายรับรองว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ แต่ความโลภไม่เข้าใครออกใครนี่น๊ะ จากคุณ : irin7477 - [ 22 มิ.ย. 50 10:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เราก็ใช้สินค้าแอมเวย์นะโชคดีเจอคนขายไม่ตื้อค่ะ เดือนนึงจะโทรมาครั้งนึงเผื่อจะสั่งอะไรเพิ่มไม่มีแบบ บลาๆๆๆ แต่ไม่ชอบอย่างพวกนี้จะปิดกั้นตัวเอง ของแอมเวย์ดีเลิศประเสริฐศรีไปซะทุกอย่าง เช่นเครื่องสำอางก็จะมีบทสวด top 5ๆๆๆๆๆ สินค้าทำความสะอาด ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าอยากรักษาสิ่งแวดล้อมจริงๆ ก็ไม่น่าจะตั้งราคาซะเว่อร์ ดูมันขัดกันไงไม่รู้ ตอนนี้บางอย่างก็ไม่ใช้แล้วค่ะ เช่น ยาสีฟัน สบู่ ใช้แบบสมุนไพรทั่วไป อาหารเสริม สั่งของญี่ปุ่นถูกกว่า vitc และ serum แพงมากอย่างละพันกว่าใช้ได้เดือนเดียว สั่งในเวปใช้ใน 3-4 เดือน แป้งฝุ่น หลังจากได้ kp มา ก็ตกกระป๋องเอาไว้ทาคอค่ะ รองพื้นเคยใช้ ไม่หมดทิ้งไปละ ใช้เบสคิสแทน ครีมบำรุงทั้งหลายถ้าหมดคงเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ก็ดีแต่แพงเว่อร์ ส่วนที่ต้อง (จำใจ) ใช้ก็มี ผงซักฟอกชอบที่ไม่มีกลิ่นใช้อย่างอื่นไม่ได้ด้วยมือจะคันเห่อใช้ซักชุดทำงาน ไปเรียน น้ำยาทำความสะอาดอีก 2-3 ตัว ดีหน่อยพวกนี้ไม่เปลืองค่ะใช้ได้เป็นปีรับได้ เครื่องกรองน้ำรุ่น 2 ไม่รู้จะโดนโละเมื่อไหร่ รุ่น 1 โดนไปละ จากคุณ : country doll - [ 22 มิ.ย. 50 11:21:48 A:58.9.13.89 X: TicketID:148221 ]

ความคิดเห็นที่ 82 มีใครขายแล้วได้ดี โดยไม่เดือดร้อนคนรอบข้างบ้าง ช่วยมาโฆษณาหน่อยนะคะ อยากทราบจริงๆ เราก็ตัดเพื่อนสมัยม.ปลายไป 1 คน เพราะเธออยู่ลัทธินี้เหมือนกัน ตอนแรกก็มาขายเครื่องสำอางค์ เราซื้อด้วยความเกรงใจ แต่สุดท้าย มันก็ไม่เหมาะกับคนเป็นสิวง่ายอย่างเรา ช่วงหลังก็ตามฟอร์มค่ะ ขายเครื่องกรองน้ำ มายืนเรียกอยู่หน้าประตูบ้านเลย แต่คนในบ้านไม่สนใจแล้ว และคงไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว หึหึ จากคุณ : TinyTammarind - [ 22 มิ.ย. 50 13:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เหมื๊อนกันเลยค่ะ เพื่อนอิชั้น มันขายประกัน  มันบูชาบริษัทประกันนี้มาก จะให้เรายกเลิกกรมธรรม์ที่ทำมาหลายปีแล้ว แล้วมาซื้อกับมัน  เราไม่เอา  แต่สงสาร เลยช่วยซื้อตัวสะสมทรัพย์ ที่ต้องส่งน้อยๆ  ไม่ขาดทุนค่ะ  ได้ช่วยเพื่อน และสะสมเงิน  โดยไม่เดือดร้อนตัวเอง ต่อมามันขายบัตรเครดิต  เราก็ช่วยมันอีก ต่อมามันก็ขาย...ขาย...ขาย อีกหลายอย่าง ตอนนี้มันขายแอมเวย์ เวงกำแท้ตรู  ช่วยมันอี๊ก แต่มันรู้ทันเรา  ถ้าไม่แพงมาก ก็ช่วยซื้อนะ  แต่ถ้าไม่อยากได้จริงๆ ก็บอกไปเลยว่า ไม่เอา   วันๆ ไม่ทำไร ขายแต่แอมเวย์  นัดเจอกันก็พูดถึงแต่แอมเวย์ MSN ก็แอมเวย์  แถมย้ายเข้าไปอยู่บ้านอัพลายน์อีกตังหาก จากคุณ : Makit - [ 22 มิ.ย. 50 13:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 84 โดนญาติห่างๆ เอาเครื่องฟอกอากาศมาทิ้งไว้ที่บ้านค่ะ พี่น้องของแม่โดนกันหมดทุกคน แล้วเดือนถัดมาแกก็มาเก็บเช็คค่ะ แม่ไม่ได้ปฎิเสธเพราะเกรงใจ จากคุณ : . (invalid_username) - [ 22 มิ.ย. 50 13:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เอ่อ... จิงๆ แร้วจะบอกว่า ถ้าทำให้ amway เป็นประโยชน์จิงๆ ก้อสามารถทำได้นะ เราทำได้โดยไม่ต้องเน้นการขาย แต่เราเน้นการปริโภค ในลักษณะของ volume ที่มากพอ โดยมาจากกลุ่มคนมากๆ เป็นลักษณะ network จะเป็นประโยชน์มากทีเดียว เป็นการมองจุดของธุรกิจใหม่ว่า.... การซื้อ คือ ธุรกิจ ไม่ใช่ การขาย คือธุรกิจ จากคุณ : mczeen - [ 22 มิ.ย. 50 13:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เราก็เสียรุ่นพี่สมัยมัธยมไปเพราะไอ้ขายตรงนี่แหละ วันก่อน นัดเพื่อนๆสมัยมัธยมไปเจอกัน ก็ไปกันนะ อยากเจอเพื่อนไง สรุป... พาไปนั่งฟังห่ะเหวอะไรก็ไม่รุ แต่ไม่มีใครสนใจ เมาท์กันต่อไป เพราะไม่เจอเพื่อนมานานแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่คุยกับพี่แกอีกเลย ไม่จริงใจนี่หว่า จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] - [ 22 มิ.ย. 50 13:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เคยโดนเหมือนกันค่ะ คนรู้จักพยายามขอนัดมาสาธิตผลิตภัณฑ์ แต่เราบ่ายเบี่ยงตลอด มีวันนึงเค้าบุกมาถึงบ้านตอนเกือบเที่ยงคืน แบบเลี่ยงไม่ได้แล้ว ทุกคนในบ้านต้องใส่ชุดนอนมาฟังเค้าสาธิตอ่ะ แย่มากกกเลย จากคุณ : NoKKo@InLovE - [ 22 มิ.ย. 50 14:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ถ้า คุณเคยสัมผัส การเข้า เซนเตอร์ คุณจะรู้ว่า คุณทำได้ แม้กระทั่งไม่มีกิน แต่รักษาหน้า และตำแหน่งบ้าบอ เราเคยสัมผัสมา แต่ ออกมา ก่อนที่จะถลำ ลึก แบบคนอื่น ตอนนี้อัฟไลน์ เราขายบ้านเรียบร้อย ขอยืมเงินเราอีกต่างหาก แต่ไม่ให้หรอก  อย่าไปยุ่งเชียวขอบอก ฉันนะ คิดบวก กว่า ไอ้พวกนี้อีก ชอบหาว่า คนอื่น คิดลบ ถ้าไม่สนใจธุรกิจ จากคุณ : สาวเปรี้ยวหัวใจหวาน (channy211) - [ 22 มิ.ย. 50 14:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เพื่อผมอยากเป็นแพลตตินั่ม ทิ้งงานเงินเดือนประจำ30000 มาขายแอมเวย์ ตอนนี้ ดำเกรียม ห้อยรถเมลแทน  แต่ก็ยังหวังว่าจะเป็นมงกุฏทูตอีก พูดไม่ออกครับพี่น้อง ต่างคนต่างเลือกทางเดินชีวิต   ตอนนี้ยังคุยกันอยู่ด้วยข้อแม้ว่า ไม่ต้องคุยเรื่องความสำเร็จในชีวิตกับ แอมเวย์ จากคุณ : คินนิคุแมน - [ 22 มิ.ย. 50 14:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ไม่ได้อคตินะ .. (คิดว่า)มองอย่างกลาง อยากรวย อยากเติบโต อยากมั่นคง มันไม่ผิดหรอก แต่ที่ผิดคือวิธีการคล้ายๆหลอกลวงอะ .. แถมผิดหนัก ที่คนหลอกยังไม่รู้ตัวว่ากะลังหลอกคนอื่นอยู่ มันแต่ คิดไปว่าเป็นพระเจ้ามีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ .. ทำให้ เราเกลียดระบบนี้มาก .. ทุกวันนี้มีเพื่อนทำอยู่(เท่าที่รู้) สามคน .. สองคนไม่มา ยุ่งกะเรา .. อีกคนตื๊อๆๆๆ .. แต่ก็ไม่เคยชนะเราได้ อิอิ เพราะเราไม่ปล่อยให้ตื๊อครองโลก .. ไม่งั้น แอมเวย์ครองโลกแน่!!! ปล. จาโดนฟ้องมะเนี่ย .. ลงชื่อผลิตภัณฑ์เนี่ย จากคุณ : ไม่ชอบโดนตื๊ออะ (กรุ่นกลิ่นแก้ว) - [ 22 มิ.ย. 50 15:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เราเคยหลงเข้าไปในวังวนนี้อยู่พักหนึ่งนะ เวลาเข้ากลุ่มเค้าจะ built ให้เรารู้สึกว่าของเค้าดี วิเศษ ให้เราแบบว่ารู้สึกชื่นชมและติดใจ ทั้งในตัวสินค้าและตัวอัพไลน์ ตอนนั้นในสมองเรา จะหลับจะตื่นก็คิดแต่เรื่องขายของกับจะเป็นแพลตตินัมให้ได้ อัพไลน์บอกว่าน่าจะออกรถยนต์นะจะได้สะดวกเวลาขายของ เราก็หลงตาม โทรไปขอเงินแม่มาดาวน์ ทั้งๆที่รู้ว่าแม่ไม่น่าจะมีเงินขนาดนั้น โดนแม่ด่า  แต่ยังไม่สำนึก จนหลังๆเริ่มสังเกตว่าตัวเองเปลี่ยนไป เหมือนคนบ้า คุยกะใครก็ต้องเอ่ยถึงแต่เรื่องขายของ จนไม่ค่อยมีใครอยากจะคุยด้วย เพื่อนคุยด้วยก็ทำหน้าแบบเอือมๆ...เต็มที่ เราลงทุนไปหาญาติที่ไม่เคยเจอกันนาน ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้อยากจะถามสารทุกข์สุขดิบ แต่จะไปขายของ คิดได้ว่าทำไมตัวเองถึงได้หน้าด้านได้ถึงขนาดนี้ เงินที่ได้มาไม่คุ้มกับความสัมพันธ์ของคนรอบข้างที่เราต้องเสียไป คิดย้อนไป ละอายตัวเองจริงๆ ไม่รู้ทำไปได้ยังงัย ตอนนั้นเหมือนมีใครมาล้างสมอง ตอนนี้พวกป้าๆที่เคยช่วยซื้อของเรา ยังแซวเราอยู่เลย ประมาณว่าอาชีพเสริมไปถึงไหนแล้ว เราก็บอกว่าลืมๆไปเหอะ ของมันพลาดได้ เราไม่อยากให้ใครรู้เลยว่าเราเคยขายแอมเวย์ อาย รู้สึกตัวเองเป็นคนโง่ โดนเค้าใช้จิตวิทยาหลอก แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 50 17:03:25 จากคุณ : golf613 - [ 22 มิ.ย. 50 16:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 92 น่าเห็นใจคุณ  จขกท  และเพื่อนมากเลยค่ะ  ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : Nu~pa-pEE - [ 22 มิ.ย. 50 17:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เครื่องฟอกอากาศกับที่กรองน้ำนี้เป็นสินค้าเบสิกของแอมเวย์เลยเหรอเปล่าเนี๊ย จำได้ว่ามีเพื่อนสมัยม.ปลายคนนึง หายไปนานนนนนนนนนนนนนนน วันนึงมันโทมาแล้วบอกให้ไปฟังเรื่องแอมเวย์ไรเนี๊ย แค่นั้นเราก็แบบ...เอ่อ เพื่อนแค่นี้ก่อนนะ เราต้องทำงาน จนมาอีกวันนึงได้คุยกะเพื่อนเก่าๆ กลุ่มเดียวกันเนี๊ยแหละ ปรากฏว่าโดนกันหมดทุกคนเลย แต่ดีนะไม่มีใครหลงเชื่อ ป่านนี้ไม่รู้ว่ามันจะขายไปถึงไหนแล้ว ยังขายอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ จากคุณ : nickyhilton - [ 22 มิ.ย. 50 18:00:02 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอเล่าบ้างค่ะ ญาติสนิทเราค่ะ ลูกพี่ลูกน้อง โตมาพร้อมๆกัน เค้าแก่กว่าเราพอควร ดูแล-เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก บ้านเค้ามีพี่น้องแท้ๆที่สนิทกันมาก 5 คนค่ะ โตมา มีอาชีพการงานมั่นคง แต่งงาน เมื่อเงินเก็บแบบอยู่ได้สบายๆ ไม่ถึงขั้นฝากธนาคารกินดอกเบี้ย แต่ประมาณไปเที่ยวยุโรปยกครอบครัวปีละรอบ 2 รอบได้สบายๆ ปลูกบ้านอยู่ 3 หลังติดกัน สนิทกันมากๆๆๆๆๆ แต่พี่สาวคนโคกลับไปทำแอมเวค่ะ พี่สาวคนโตหน้าที่การงานก้อระดับ ซี 6 จะ ซี 5 นะค่ะ ประจำอยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัด เป็นหัวหน้า มีคนนับหน้าถือตาเยอะมากก ไปไหนก็มีแต่คนทักทายค่ะ ช่วงปีแรกที่เค้าทำ เค้าเริ่มโดดงานไปฟังแอมแวทุกวันพฤหัส - -*  ต่อมาโดด (ไม่ได้ลางานค่ะ) ไปงานสัมมนา+เที่ยวของแอมเวเรื่อยๆ เป็นว่าเล่น ที่บ้านเค้ามีแต่ของแอมแว แถมยัดเยียดให้พี่น้องอีก 4คน (4ครอบครัว) ใช้แอมแวอีก แบบว่า บ้าน 5 หลังเดินเข้าเดินออกก้อเจอแต่แอมเว จนพี่น้องแท้ๆ เริ่มเบื่อ (เบื่อมานานแล้วค่ะ คุยกันตลอดว่าพี่สาวแย่ลงๆเพราะแอมเว) เค้า 4 ครอบครัวก็เลยไม่ซื้อสินค้าจากพี่สาวอีกค่ะ เท่านี้แหล่ะ พี่น้องก็พี่น้องค่ะ พี่สาวเค้าตัดเลย ไม่ยุ่งด้วย หลานวิ่งมาที่บ้านก็ไล่กลับ สร้างรั้วกั้นบ้านเค้าออกจากบ้านหลังอื่น ทำทางเข้าบ้านเค้าส่วนตัว พ่อแม่ไม่สนใจดูแลค่ะ ร้ายกว่านั้น ให้สามีเค้าทำแอมเวด้วย สามีเค้าออกจากงานมาดูลูกแล้วทำแอมเว ดูเหมือนจะดีค่ะ แต่สามีเค้าก็อยากได้ตำแหน่ง เพชรๆพลอยๆ - -* ก็เริ่มไม่ดูแลลูกค่ะ เมื่อก่อนก็จะฝากไว้กับพี่น้องและแม่ยาย แต่พอมีเรื่องนี้ขึ้นมาเลยทำแบบเก่าๆไม่ได้ เดือดร้อนเด็กๆนะค่ะ ยังอยู่ประถมอยู่ กับต้องอยู่บ้านเลี้ยงน้องชาย 2 คนในบ้าน ไม่นานเค้าก็ไปจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแล ตัวเค้า 2 คนไปทำแอมเว - -* พี่น้องก็พยายามพูดจาดีดีให้เค้าคิดได้ค่ะ เพราะเงินก้อนที่เคยมีก็หดลงเรื่อยๆ พี่เขยออกจากงานประจำ แล้ว พี่สาวก็ลาออกด้วยอีกคน กลายเป็นทำแอมเวเป็นหลัก ตอนนี้เงินเก็บหร่อยหลอไปเรื่อยๆ ขายรถ ขายที่ดิน ขายบ้านเช่า มีมายืมเงินพ่อแม่ ล่าสุดพ่อเค้าเสีย เค้าก็ยังไปขายของแอมเวในงานศพ พี่น้อง+ณาติไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว สงสารหลาน 2 คนค่ะ แต่ก่อนพี่สาวเค้าไม่นิสัยแบบนี้นะค่ะ เค้าเป็นหลักของพี่น้อง ใจเย็น ตัดสินใจระเอียดรอบคอบมากๆ ไม่มีใครคิดว่าจะคลั่งแอมเวจนออกจากงานประจำ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 50 18:40:13 จากคุณ : คิดแล้วกลุ้ม (LET's FREE!!!) - [ 22 มิ.ย. 50 18:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขึ้นทู้แนะนำแล้วนะนี่.... อืมม์ มันช่างน่ากลัวจิงๆ ประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับมา แต่เพื่อนเราก็ขายนะ แต่มันยังไม่มายุ่งวุ่นวายเราเท่าไหร่(มั้ง) แต่อนาคตจาเป็นไงนี่ไม่รุแฮะ แต่ที่แน่ๆ เราไม่สมัครเด็ดขาดดดดดด จากคุณ : noirpoison - [ 22 มิ.ย. 50 19:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เอ่อ ที่บ้านใช้เครื่องกรองน้ำอยู่ค่ะ ใช้ดีมาก เสียแต่แพงไปหน่อย จากคุณ : แต้วสุดา - [ 22 มิ.ย. 50 20:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 97 โอ๊ย เรื่องโดนมากๆคะ เราเคยโดนพี่สาวเพื่อนมาขาย แอมเวย์  คือพี่เเก พยายามมากๆ เเล้วก็พยายามมา เกือบเดือนช่วงนั้นเรา อยู่ไม่เป็นสุขเลย พี่เเกมาขอตามสาธิตสินค้า ชวนขาย เราก็ไม่รู้จะทำไง ตื้อมากๆ จนเราต้องไปประชุมกะเค้าครั้ง หนึ่ง เเล้ว ที่ๆไปประชุมกันทุกคนเหมือน คนบ้าที่ถูกลัทธิครอบงำ มีเเต่ปรบมือ ปรบมือ เเล้วปรบมือนี่ไม่รู้ว่ามือเเตกกันรึป่าว เสียงดังมาก สรุปเราเลยต้องซื้อของเค้ามาใช้เป็นชุดเครื่อง สำอางค์ 1ชุด เเต่ที่เราเจ็บใจที่สุดคือ พอเราไม่สมัครเป็นลูกข่ายที่ขาย เค้าก็ เปรียบเทียบเรื่องพ่อ เเม่เรา ว่าพ่อเเม่เราเเก่เเล้ว อีกหน่อยก็ตาย ไม่คิดจะทำ อะไรเพื่อ พ่อ เเม่บ้างหรอ ซึ่งเราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเปรียบเทียบอย่างงี้ เค้าทำให้ช่วงเวลานั้นเรากลัวโทรศัพท์ไปเลย จากคุณ : โนอะโกะ (^Lady Noako^@Love conquers all) - [ 22 มิ.ย. 50 21:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เราก็มีเหมือนกัน สองคน คนนึงเค้าไม่ได้จริงจังอะไรเคยชวนแต่เค้าไม่ตื๊อยังดีหน่อย ส่วนอีกคนไม่สนิทเอาเสียเลยเคยคุยกันไม่กี่ครั้ง เค้าเป็นเพื่อนของเราอีกทีนึง  คนนี้เข้าข่ายเลย  อยู่ดีๆก็โทรมาหาเฉยเลยบอกว่าจะมาแนะนำเรื่องน้ำให้ฟัง  เค้ายังไม่บอกหรอกว่าแอมเวย์  เราก็งงดิมาแนะนำทำไม  ถามไปถามมาถึงบางอ้อ  หลุดจนได้ว่าจะเอาเครื่องกรองน้ำมาให้ดู  เพื่อสุขภาพนะ เค้าตื๊อสุดๆเลย ขนาดเราพยายามบอกว่าไม่ว่างวันที่เค้าจะขอมาที่บ้าน  เค้าก็ยังบอกอีกว่างั้นเราว่างวันไหนล่ะ  น่าน...เอาแล้วไง  จะให้ยุ่งตลอดชาติก็ไม่ได้  ปฏิเสธก็ไม่เป็น พอมาที่บ้านแม่เราซื้อน้ำยาล้างจาน1ขวด แฮ่ๆ  ให้แม่จัดการแทน ชวนให้สมัครด้วย  แต่ยังดีมีข้อแก้ตัวเราพูดไม่เก่งเอาจริงๆเลยไม่ลูกเดียว แล้วจะให้เราแนะนำคนอื่นแถวบ้านอีก  เฮอะๆ จะทำให้บ้านเราเสียเพื่อนบ้านแล้วไง  แต่เราเตี๊ยมกับแม่มาแล้วว่า คนแถวนี้เค้าเป็นสมาชิกยี่ห้ออื่นกันหมดแล้ว ฮี่ๆ แม่ลูกหัวใส ลองถามเค้าดูแล้วนะเค้าตอบเรามาว่า  พอเรียนจบแล้วก็จะยึดเป็นอาชีพหลักเลย เอ้อ อุตส่าห์เรียนตรีมาแท้ๆ   แต่...แค่นี้มันยังไม่จบ  เค้ายังคงโทรมาหา  แต่เราแกล้งรับสายบ้างไม่รับสายบ้างไม่โทรกลับด้วย แอบเสียมารยาทแต่ยอมได้   ตอนนี้ปรึกษาเพื่อนคนอื่นดูแล้วเค้าบอกให้ปฏิเสธไปตรงๆเลย  ก็ได้ผลแต่ต้องใช้เวลานิดนึง  บอกไม่สน ไม่มีเงินลูกเดียว แล้วชีก็หายไป สำเร็จค่ะ  เรายังโชคดีที่เค้าไม่ใช่เพื่อนสนิทอ่ะเลยไม่ห่วงความรู้สึก ถือคติในเมื่อเค้าไม่เกรงใจเรา แล้วเราจะเกรงใจเค้าทำไม (คตินี้มาพร้อมความอึดอัดและความรำคาญ)  ด้วยความงกและจนจึงพ้นบ่วงไปได้ แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทจริงล่ะก็  เราว่าเราก็ไม่เกรงใจเหมือนกันแหละจะด่าตรงๆเลย เป็นพวกโหดมันฮาไร้ซึ่งความเกรงใจต่อกัน (พวกบ้า)   ถ้ายังไม่เลิกก็ไม่รู้จะทำไง  อาจต้องเปิดกะโหลกแล้วเอาน้ำเกลือราด ต่อด้วยเอาสมองไปกรองอีกทีน่าจะดี จากคุณ : ผู้หญิงเปรี้ยวหวาน - [ 22 มิ.ย. 50 21:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 99 อยากรู้กลลวงเรื่อง ที่เค้าเอาสารผสมกันแล้วบอกว่าดูดซับสารพิษได้ จากคห 40(หลักการชีวเคมีธรรมดา ใครเรียนเคมีอาจารย์อุ๊จะรู้ดีโดยเฉพาะธาตุหมู่ 7) ของ จากคุณ : Lapis - [ 22 มิ.ย. 50 21:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ลัทธินี้อีกแย้ว หย๋อง จากคุณ : ชฎาแหลม - [ 22 มิ.ย. 50 21:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ก็ดีน่ะ ที่เรายังไม่เสียเพื่อน..... แค่มันโดนเพื่อน ๆ ด่าอย่างจัง ๆ สองสามที ก็ไม่มาวอแวขายล่ะ...... เจอกันคุยกันทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องแอมเวย์..... จากคุณ : skyrocket - [ 22 มิ.ย. 50 22:34:21 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เวลามีคนรู้จักมาขาย ก็จะบอกไม่มีตังค์ยังไงก็ไม่มีจบ.. แต่สงสัยอย่างนึง ระบบ อัพไลน์ดาว์นไลน์ มันก็คือกินกำไรเป็นลูกโซ่ไปเรื่อยๆใช่มั้ย สมมติสินค้า A หัก ค่าใช้จ่าย ต้นทุน แล้วกำไร 100บาท ใน100บาทนี้ก็กระจายไปในลูกโซ่เรื่อย ถ้ากรุ๊ปนี้มี 100กว่าคน จะหารยังไง บริษัทจะได้อะไร -*- ถามแบบ โง่ๆหน่อย พอดี เราโง่จริง จากคุณ : โง่ๆ - [ 22 มิ.ย. 50 23:40:25 A:124.120.200.176 X: TicketID:125346 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เคยคิดว่าห้องนี้เค้ามีความคิดเห็นยังไงกับแอมเวย์ แต่ยังไม่เคยถาม มาวันนี้เข้าใจแจ่มแจ้งเลยค่ะว่า คนที่เกลียดแอมเวย์ยังมีอีกเยอะ คือแม่เราทำอยู่ ซึ่งทั้งบ้านไม่มีใครเห็นด้วยเล้ย แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ไม่ฟังแล้ว  เพราะโดนล้างสมองไปแล้วไง   แล้วแม่ก็พยายามพูดให้เราทำด้วย พูดทุกครั้งที่มีโอกาส เบื่อมากๆ แทบจะหายใจเข้าออกเป็นแอมเวย์ พอคุยกันเรื่องทีไร ก็ต้องลงเอยด้วยการทะเลาะกันทุกครั้ง จนช่วงหลังๆเราก็จะทำหูทวนลม ไม่โต้ตอบ ไม่แสดงความคิดเห็น เพราะพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ หาว่าเราไม่ยอมเปลี่ยความคิดบ้างล่ะ แล้วต้องคิดเหมือนแอมเวย์ทั้งหมดใช่มั้ยถึงจะถูก อย่างเรื่องสาธิตวิตามินซี เราก็เคยค้านด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ฟังที่ไหนล่ะ พอใกล้ๆสิ้นเดือน ก็ต้องรีบทำยอดให้ถึง บางทีก็ต้องหยิบยืมเงินคนอื่น เพื่ออะไรเนี้ย  เราต้องเสียเงินเพื่อให้ได้เงินในแต่ละเดือน พอได้ยินในนี้พูดเรื่องจิตวิทยาหมู่ ถูกต้องนะคร้าบ!! มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่รู้แล้วสุดท้ายจะเป็นเหมือนหมอประกิตเผ่ารึเปล่า อีกอย่างที่ไม่ชอบคือเรื่องฟังเทป แม่เราก็ฟัง พอเปิดก็จะเปิดดังๆ กะว่าให้เราได้ยินด้วย ซึ่งฟังแล้ว มันก็คือการสะกดจิตดีๆนี่เอง ตอนนี้ของแอมเวย์เต็มบ้านไปหมด เราก็ใช้บางอย่างอ่ะนะ ก็มันมีอยู่ในบ้านจะให้ทำไง  ถ้าดูแค่ของ บางอย่างเราก็ว่าดี แต่ส่วนใหญ่มันก็แพงไร้เหตุผลเหลือเกิน ของทีมีตามท้องตลาดดีๆ ราคายุติธรรมก็ถมเถไป แต่เกลียดการตลาดของมันมากกกกกกกกก ยาวเชียว แบบว่าอึดอัดมากกกก ได้ที่ระบายพอดี อยากให้แม่เลิกทำแอมเวย์อ่ะ เพราะไม่เห็นว่าทำแล้วจะมีอะไรดีขึ้นเลย จากคุณ : ichigo_gal - [ 22 มิ.ย. 50 23:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เคยโดนพี่ลากไป บอกว่าไปอบรมบุคลิกภาพ ฟรี!!!!!!! เออ ไปก็ไปวะ ไม่มีไรทำอยู่แล้ว แต่พอไปถึงนะ เห็นแต่คนถึงกระเป๋า amway แถมต้องเสียตังค่าเข้าไปอีกคนละ 80 มั้ง   อีเวว มาหลอกกรูจนได้ เข้าไปก็เป็นโชว์ห่วยสาทิตขายของหลอกเด็กประถม แล้วก็ไปฟังอีตาหมอ กับนายทหารขาเดียว โม้เป็นชั่วโมง โคตรเบื่อ ไม่รู้ไอ้พวกนี้มันไม่มีไรทำกันรึไง ถึงได้มาเสียตัง ฟังไอ้พวกนี้ทุกอาทิตเลย เราก็เกรงใจพี่อ่ะ สมัคร:-)ไป 900 ก็เอาวะ จะได้จบๆไป แต่มันไม่จบครับ โทรจิกให้ไปฟัง ไอ้บ้าพวกนั้นอีก คราวนี้เราไม่ไหวแล้ว เลยแจกแคตตาล็อกเพื่อน ใครอยากได้ไร กูขายให้ราคาทุน แล้วกูจะไปลาออก ที่ศูนย์ แต่ก็ไม่มีใครสนใจสักคน เออดีว่ะ ไม่มีใครชอบเลย อิอิ เสดแล้วก็ไปที่ศุนย์มัน แถวๆรามอ่ะ ไปซื้อบานาน่าโบ๊ท มา 400 บาท แล้วก็ไปลาออก เอาตัง 900 คืน ++แต่เรื่องสาธิตขายของขอบอกว่าเลวได้ใจมาก++ คห 40 ไปหาข้อมูลมาเพิ่มให้จ้า http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=66136 ข้าว=แป้ง     หมึก=ไอโอดีน    สารอะไรซักอย่าง= vit C ที่เปลี่ยนสีเพราะมันทำปริกิริยากันแล้วเปลี่ยนเป็นไม่มีสีค่ะ ไม่เกี่ยวกัย detox อะไรเลย หลายคนอาจจะเคยเห็นใน โฆษณาผงซักฟอก ที่น้ำจะเป็นสีม่วงน้ำเงิน พอเทผงซักฟอกนั้นลงไป น้ำก็ใสปิ้งเลย นั่นแหละค่ะ แบบเดียวกันเลย แล้วก็ครีมล้งหน้าของมัน อันนี้โดนกับตัวเอง มาทำให้ดูถึงห้องเราเลย เอาโฟมล้างหน้ายี่ห้อ...แต่เป็นเนื้อโฟมก้อนๆอ่ะ เทเกลือใส่มือ บอกว่าเปงเหงื่อ เหรอ เหงื่อกรูเออมาเปงก้อนๆไอย่างนี้เหรอวะเนี่ย แล้วเอาโฟมมาให้ถูกะเกลือ เทียบกับของมันที่เป็นเนื้อเจล หลอกเด็กปัญญาอ่อนเหรอคะคู๊ณณณณณณณ แล้วมาบอกว่าของแอมเวย์เนี่ย ไปละลายเกลือ บลาๆๆๆ จำไม่ได้แล้วขี้เกียจฟังมันหลอกเด็ก ไม่เหมือนกับอันอื่น เห็นไหม๊ของมันน่ะ ละลาย อีกอันไม่ละลาย ก็จะละลายได้ไง เนื่อโฟมแข็งๆกับเม็ดเกลือ บร้าป่าววะ เสร็จแล้วก็ให้เราล้างหน้า ดู แต่มือต้องสะอาด พอดีตอนนั้นห้องน้ำไม่ว่าง เลยต้องออกมาล้างที่อ่างล้างมือข้างนอก มีแต่น้ำยาล้างจานซันไล? มันหยิบมาบีบใส่มือเราให้ล้างมือด้วยซันไลท์แล้วค่อยล้งหน้าด้วยครีมมัน โค ตร อุบาทเลยว่ะ อะไรจะอยากขายของขนาดนั้นอ่ะ รอแปบนึงก็ไม่ได้ แถมยังมีเทสกรด-เบสให้ดูอีกนะ ด้วยกระดาษลิตมัส มันก็แค่ดูได้ใช่มะว่าเป็นกรดหรือเบส เราเลยถามพี่ไปว่า ทำไมไม่ใช้กระดาษ universal หละ จะไดรู้ pH ไปเลย แต่เจ๊แกก็อ้างว่าแพงนะ ตลับนึงตั้งหลายร้อยแน่ะ เทสยังไงมันก็ดีแหละเพราะมันบอกว่าของมันดีมากกกกก แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 50 01:09:52 จากคุณ : Filmmy - [ 23 มิ.ย. 50 01:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 105 แย่จังเลยนะคะ มีแต่คนเจอประสบการณ์แย่ๆ แต่ในทุกๆ องค์กรนะคะเราว่ามันต้องมีทั้งคนดีและคนไม่ดีค่ะ เผอิญคนส่วนใหญ่ในนี้โชคร้ายกันมั้งคะ แต่คนที่เจอคนดีๆ เค้าก็ไม่ค่อยมาบอก(มั้ง) ก็ทำใจนะคะ แต่ถ้าเจอแบบเจ้าของกระทู้คงแย่แน่ๆ เลยค่ะ ต่อๆ ไปคงต้องใจแข็งให้มากเข้าไว้นะคะ สู้ สู้ ค่ะ จากคุณ : ต้องให้เปลี่ยนสักกี่ที - [ 23 มิ.ย. 50 01:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ทุกวันนี้อ่านข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ .. แต่ละวันมียิงกันตาย, ฆ่าตัวตาย, โกงกัน, โกงภาษี ฯลฯ .. เห็นแต่คนเลวๆ งี้ประเทศไทยคงมีแต่คนเลวๆ .. คิดกันงี้ป่าวคับ .. เป็นไปได้มั้ยคับว่าคนไทยที่ดีๆจะเหลืออยู่บ้าง .. แล้วถ้าคุณเจอคนทำแอมเวย์ที่ทำผิดวิธี .. จะแปลว่าคนทำแอมเวย์เลวทุกคน .. ผมว่ามันก็ไม่แฟร์สำหรับคนที่ทำถูกวิธีและเป็นคนดีนะครับ อคติเกินไปรึเปล่า ปล. ตัวคุณเองก็อาจเคยเบียดเบียนเพื่อนโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้นะครับ เพียงแต่เพื่อนไม่เคยบอกคุณเท่านั้นเอง .. ทุกคนย่อมมีข้อดีและข้อเสีย .. มองโลกในแง่ดี ทุกอย่างก็จะสวยงามขึ้นครับ จากคุณ : 7 minutes later - [ 23 มิ.ย. 50 09:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เราไม่อคติกับยี่ห้อนี้นะ แต่แบบว่ามันตลกอ่ะเราว่า ครั้งนึงตอนเรียนมีเพื่อนคนนึงเค้าขายอ่ะ ทุกคนก็นะพัก10นาทีก็เม้าท์ๆกันอยู่ เพื่อนคนนี้เค้าก็ส่งกระดาษมาให้เพื่อนเรา แล้วในนั้นก็เขียนว่า "อยากไปฝรั่งเศสมั้ย" เราก็แบบเอ่อเจ๊ต้องการอาราย แล้วตอนเย็นมันก็นัดเพื่อนเราคนนั้นอ่ะว่ามีเรื่องจะคุยด้วย อีกวันนึงเพื่อนเรามาเล่าให้ฟังบอกโดนหลอกไปฟังแอมเวย์ เราก็แบบโอ้โห นี่ถ้าตูอยากไปฝรั่งเศสนี่ตูต้องขายแอมเวย์ใช่ป๊ะ มันตลกอ่ะ ดูชีวิตเค้าหมกมุ่นมาก แล้วก็อย่างที่หลายๆความเห็นในนี้บอกไปค่ะ เพื่อนๆ ก็จะเริ่มตีตัวออกห่าง เราสังเกตนะหลายคนเลยที่ขายแล้วเพื่อนจะแบบ เลี่ยงได้คือเลี่ยง เรานั่งกันเป็นกลุ่มๆอยู่แล้วคนนี้เดินเข้ามา ทุกคนสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วก็แบบตัวใครตัวมันโว๊ย อย่างงี้เลยอ่ะค่ะ มีเพื่อนของเพื่อน น่าสงสารกว่านั้นอีก คือเค้าไปชอบกะผู้ชายคนนึง แล้วผู้ชายคนนั้นก็มีใจตรงกันกะเค้า สรุปก็เป็นแฟนกันไป แล้วเพื่อนของเพื่อนเราคนนั้นน่ะเค้าเพิ่งรู้ว่าแฟนเค้าเนี่ย ขายแอมเวย์ แฟนเค้าก็ชักจูงต่างๆนาๆแหละค่ะ แบบว่านี่ดีนั่นดี เพื่อนของเพื่อนเราเค้าก็ไม่ได้อะไร แล้วพอวันเกิดของเพื่อนของเพื่อนเรามาถึง ผู้ชายคนนั้นก็แบบด้วยความปลาบปลื้ม ซื้อสมาชิกแอมเวย์ให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อนของเพื่อนเรา พอเพื่อนเรามาเล่าให้ฟังนี่เราอึ้งอ่ะ อะโหมันเป็นไปได้ขนาดนี้ สรุปสองคนนั้นก็ต้องเลิกกันในที่สุด เป็นเราก็คนอยู่ไม่ได้อ่ะค่ะ -_-" จากคุณ : ~The Weird Taster~ - [ 23 มิ.ย. 50 10:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 109 พูดได้คำเดียวว่า "เกลียด" ค่ะ จากคุณ : bung-pang - [ 23 มิ.ย. 50 12:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ผมว่าคงขึ้นอยู่กับคนด้วยอ่ะนะครับ คือ ก็มีเพื่อนทำอยู่คนนึงเหมือนกัน ทั้งขาย ทั้งแต่งหน้า และเข้าประชุมต่างๆนานา แต่เวลานัดเจอกันทีไร ก็ไม่เคยจะมายัดเยียดขายอะไรเลย จะมีก็แต่แอบหยอด แอบแซวกันบ้างกับเรื่องสินค้า ก็ยังคบกันดีอยู่ครับ..... จากคุณ : ==STeeL WiRe== - [ 23 มิ.ย. 50 15:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เฮ้อ สงสารจขกท. น้องชายเราเอง(เป็นคนหัวอ่อนมาก) ก็เป็นเหยื่อลัทธินี้เหมือนกันค่ะ ตอนแรกๆก็ขายดีได้เลื่อนยศ บ่อยๆ เพราะขายให้คนในบ้านนี่หละ ช่วยน้องชายเพราะ อยากให้เค้าประสบความสำเร็จ ก็ช่วยกันซื้อจนในบ้าน มีแต่ของแอมเวย์ล้วนๆ หลังๆนี่ชักไม่ไหวค่ะ เศรษฐกิจในบ้าน เริ่มอยู่ในขาลง เลยไม่ช่วยน้องชายซื้ออีกต่อไป สุดท้ายก็เลิกขายไปเองค่ะ เพราะคู่แข่งเยอะ เพื่อนๆเลิกคบน้องชายไปเลย พอเลิกขายขีวิตเค้าก็ดีขึ้นนะ จากคุณ : Smelly - [ 23 มิ.ย. 50 15:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เพื่อนเราก็ทำแอมเวย์ เราก็เป็นลูกค้า (แต่ก่อนเราก็เคยทำ แต่ไม่ได้ต่ออายุเพราะขี้เกียจทำแล้ว) ยอมรับในสินค้านะคะ แต่ที่เจ้าของกระทู้ว่ามาเนี๊ยเจอแบบซวยจริงๆเลย เพราะคนที่ทำแอมเวย์ก็มีหลายประเภท แต่ส่วนใหญ่เราเจอแต่คนที่ไม่หวังผลประโยชน์อะไรแล้วก็ไม่ตื้อ จากคุณ : Patty_na - [ 23 มิ.ย. 50 15:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 113 น้องสาวลูกพี่ลูกน้องเคยไปหลงใหล เข้าลัทธินี้ ประมาณ 5 ปี ระหว่างนั้น พฤติกรรมแบบสาวกลัทธิที่เล่ามาในกระทู้ต่างๆ เราเจอะมาหมดละ จนเพื่อนฝูงเลิกคบ ญาติสนิทที่โตมาด้วยกันเอือมระอาเพราะมาโกหกพี่ๆขอยืมเงินไปซื้อของ...แล้วก็หายไม่ได้คืนบ้าง แล้วก็ไปเช่าบ้านอยู่กับครอบครัวแอมเวย์ของเค้า เพ้อฝันว่าจะสุขใจ ขายกันรวยๆๆๆๆๆๆ ในที่สุด ถูกไล่ออกจากงานประจำ ต้องกลับไปอยู่บ้านตจว. อาศัยพ่อแม่ แต่ยังไม่บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครรู้   เหตุการณ์ในชีวิตระยะนี้เริ่มทำให้หายหน้ามืด  ตาสว่าง แล้วก็รับรู้โลกมากขึ้น ตอนนี้มีชีวิตเหมือนคนธรรมดา ประมาณ 70% ได้งานดีๆทำ ดูแลพ่อแม่อยู่ แต่เราบอกตรงๆว่าเค้าไม่ใช่น้องเราคนเดิมแล้ว.... พิษลัทธิ..แค่ส่วนที่ยังตกค้าง ก็ฆ่าน้องที่เราเคยรักมากๆไปแล้ว จากคุณ : ทะเลหญ้า - [ 23 มิ.ย. 50 15:52:47 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เพื่อนจีจี้ คบกันมา 6 ปี ปีที่หกเนี้ยะละ เค้าก็เป็นสาวกลัทธินี้ เเล้ววันนึง เค้าก็มาชวนบอกว่าบริษัทเค้ามีสัมมนาสอนเกมกระเเสเงิน ไหลเข้า - ไหลออก กะเกมเเข่งหนู ที่มีเขียนอยู่ในหนังสือ Rich Dad Poor Dad (สอนเรื่อง Finanial นะคะ) ให้คนภายนอกไปร่วมงานได้ พอไปถึงกลายเป็นประชุมแอมเวย์เนี้ยะละ (กรรมจิงๆ เพื่อนมันหลอกจีจี้) ตอนเเรกก็นั่งฟัง ไหนๆก็มาถึงเเล้ว จีจี้ว่ามันเหมือนจิตวิทยาหมู่เนี้ยะละคะ ฉายสไลด์ว่า คนที่เค้าขายเเอมฯ + ทุ่มเท มีบ้านใหญ่โต มีรถยุโรปกี่คัน ไปเที่ยวต่างประเทศมากี่ประเทศ เเล้วก็มีภาพของเค้าตามสถานที่ต่างๆ ((เเต่จีจี้ว่ามันเหมือนภาพตัดแปะอย่างมีเทคนิค ที่ใช้กับงานโฆษณา.....ยังไม่รู้)) เเล้วก็เอาคนที่ (เค้าว่า) ประสบความสำเร็จมา เชคเเฮนด์ กอดกัน เเสดงความยินดีกันบนเวที ((เเต่จีจี้มองเเล้ว อารมณ์มันไม่ได้ร่วมตามอะคะ)) ((มันเหมือนดูจำอวดมากกว่า....แบบว่า..โอ้โห้...ต้องขนาดนี้เลยเหรอ??)) พองานสัมมนาจบ จีจี้เลยถามเพื่อนว่า ทำไมต้องมาโกหกกัน ก็บอกกันตรงๆดิว่าจะมาฟังเเอมเวย์ มันบอกว่าถ้าบอกตรงๆ เเกก็ไม่มาดิ จีจี้เลยถามเค้าว่า ถ้าเเอมเวย์ดีจิงอย่างที่แกเชื่อ ทำไมต้องกลัวละ ว่าชั้นจะไม่มา เพื่อนมันก็เงียบ เลยด่ามันต่อ (แบบว่าเสียเวลานอนของชั้นจิงๆ ต้องลากสังขารออกมา) ว่า และชั้นก็พอจะมีสมอง ตัดสินใจได้ด้วยตัวเองได้เหมือนกัน ว่าชั้นจะมาหรือไม่มา  อย่ามาโกหก มันดูชั้นเหมือนกระบือ ยังไงไม่รู้ จากวันนั้นถึงวันนี้ ไม่รับโทรฯ ไม่คุย ไม่มองหน้า ไม่สนใจว่ามีเพื่อนคนนี้อยู่ในโลก บางคนอาจบอกว่าจีจี้ใจร้าย เเต่ถ้าคบต่อไป ไม่รู้มันจะโกหกอะไรเราอีก เพื่อให้ได้สิ่งที่เค้าต้องการแบบนี้อีกบ้างก็ไม่รู้ คือคบไป ก็กลัวไปว่ามันจะหลอกอะไรเรา เอาเป็นว่า จีจี้สบายใจที่จะไม่คบมากกว่าอ่ะคะ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 50 16:49:51 จากคุณ : จีจี้จ๋า - [ 23 มิ.ย. 50 16:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 115 อ่านแล้วสยิวนิดๆค่ะ คุณแม่ก็เป็นสมาชิกแอมเวย์นะคะ แต่ออกแนวสมัครไว้ซื้อของมาใช้เองน่ะ ไม่เคยขายใคร 555+ สมัครเอาส่วนลดค่ะ ป.ล มีเพื่อนคุณแม่คนนึง เค้าก็ประมาณนี้แหล่ะ ลัทธิแอมเวย์ มาขายแม่เรา+ชักจูงงงง ให้เข้าร่วมเครือข่ายอยู่นั่น ตอนนี้หลบหน้าเค้าอยู่ค่ะ พยายามไม่ติดต่อ เพราะเค้าจ้องแต่จะขายของง่ะ จากคุณ : หนมปังช้อกโก้ (หนมปังช็อกโก้) - [ 23 มิ.ย. 50 21:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เรามีหลักการหนึ่งในการไม่ซื้อของ amway สมมุติว่ายาสีฟันของ amway ราคา 100 บาท ถ้าเราซื้อมาจาก downline ซึ่งมี upline เป็น 10 ชั้น แต่ละชั้นจะได้ค่าตอบแทนจากการขายของของ downline แล้วลองคิดว่าราคาที่ทาง amway เองขายให้ upline บนสุด สมมุติว่าเป็น 50 บาท ซึ่ง amway ต้องบวกกำไรไปก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นคิดง่ายๆว่าต้นทุนผลิต คือ 25 บาท !!! ซื้อของต้นทุน 25 บาทในราคา 50 บาทก็อาจถือว่ารับได้ แต่ถ้าซื้อของต้นทุน 25 บาทในราคา 100 บาท...มันแพงไปค่ะ เราเลยไม่เคยซื้อของ amway เลย จากคุณ : yhumo - [ 23 มิ.ย. 50 21:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 117 . . . เซ็งเหมือนกัน . . . จากคุณ : MIG-ON-THE-WAY - [ 23 มิ.ย. 50 22:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 118 มันเป็นเรื่องตลก ที่เค้าบอกว่า ต้องกินอาหารเสริมของเขา เพราะว่าอาหารที่ได้อยู่ทุกวันคุณค่าไม่พอ เช่นพวกวิตามินซี ต้องกินส้ม เป็นโลๆ ถึงจะได้เท่าที่ร่างกายควรได้แต่ละวัน แล้วอย่างนี้พวกคนสมัยก่อนเค้าอายุยืนกว่าพวกเราอีกอะ ไม่เห็นต้องกินพวกนี้เลย จากคุณ : ม้าลายพาดกลอนแห่งนครตูริน - [ 23 มิ.ย. 50 23:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เห็นใจจขกท.นะคะ แต่เราว่าคุณใจอ่อนเกินไป ก่อนที่จะเห็นใจเพื่อนแย่ๆ คนนี้ น่าจะเห็นใจครอบครัวและตัวเองก่อนน้า....ยังไงก็ขอให้ได้เงินคืนเต็มเม็ดเต็มหน่วยนะคะ ส่วนตัวเราเองมีญาติขายค่ะ แต่เดชะบุญที่ไม่ช่างตื๊อ ก็ช่วยซื้อเครื่องกรองน้ำไปเครื่องนึง...จะว่าไปมันดีจริงๆ นะ แต่ใช้ๆ ไปแล้วต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยมากเลย แถมราคาโคตะระแพง กำลังรอให้อันปัจจุบันมันหมดอายุ แล้วจะเปลี่ยนเป็นยี่ห้ออื่นที่หาได้ตามท้องตลาดแล้ว สบายใจกว่ากันเยอะ อีกทีที่เคยเจอ คือกำลังนั่งรถแท๊กซี่อยู่ แล้วเราหยิบกระดาษซับมันออกมาซับหน้า คนขับเค้าคอยสังเกตุทางกระจกมองหลังอยู่ตอนไหนก็ไม่รู้ จู่ๆ ก็ถามขึ้นมาว่า ชอบใช้ซับมันเหรอครับ เคยลองของแอมเวย์ยัง ดีนะ เราเลยตอบไปว่าเคยแล้ว แต่เฉยๆ เพราะเราว่าของยี่ห้ออะไรก็เหมือนกัน และกะอีแค่กระดาษซับมัน ถ้าหมดทีต้องมารอซื้อกับตัวแทนทีแบบนี้ก็ไม่ไหว ไปช๊อปปิ้งหาตัวใหม่ไปเรื่อยๆ หนุกกว่าเยอะ เค้าเลยเงียบไป...สงสัยเป็นมือใหม่ หรือไม่ก็คงไม่ชอบตื๊อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บางทีก็อยากรู้เหมือนกันนะ ว่า'ลัทธิ' แบบนี้เค้ามีวิธีใส่ความคิดอะไรเข้าไปให้คนของเค้า จนจากคนดีๆ เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคุณ : arecey - [ 24 มิ.ย. 50 00:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ทำไมมีแต่เรื่องแย่ๆกันอย่างนี้หนอ  ของเราก็โดน เพื่อนเรามันไปคุยกับเพื่อนทางบอร์ดที่ตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นพื่อนทางเอ็ม ทีนี้มันก็คุยกันเรื่อยแหละ คุยกันถูกคอว่างั้นนะ เค้าก็จะนัดเจอกัน มันก็เอาเราไปด้วย  เราก็เออๆไปก็ไปสงสารมันเพราะมันหัวอ่อนหญิงจ๋ามาก ผู้ชายคนที่มาคุยด้วย  แต่งตัวอย่างอธิบายยังไงดีอ่ะ  ดูไม่ดีน่ะ ใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองตัวเหี่ยวๆทับเสื้อยืดตัวถือกระเป๋าเอกสารเหี่ยวๆใบเบ้อเริ่มเลย  ทั้งๆที่หน้าตายังแค่ 25  แต่แต่งตัวไป 45-50 แล้วอ่ะ คุยๆกันไปเค้าก็ถามว่าเราทำอะไร  เราก็บอกเราทำหนังสือ เค้าก็บอกว่ารายได้ไม่แน่นอนใช่ไหม เราก็เออ เป็นฟรีแลนด์ (ใครจะไปบอกมันจริงๆว่าเราทำอย่างอื่นอีก  พึ่งรู้จักวันแรกใครจะไปบอกมันว่าทำอาชีพอะไร)  มันทำหน้าตาแบบสงสารเรามากเลย   มันถามว่าเรามีหลักประกันในชีวิตไหม เราบอก  ก็เรื่อยๆน่ะยังไม่แก่ก็ทำไปเรื่อยๆ   มันก็ทำหน้าตาสงสารเราอีก  แล้วทีนี้มันก็ควักแฟ้มเรื่องประกันมาให้เราดู เราก็บอกว่าเราทำแล้วมันก็ยังไม่เลิก  สลับกับชมคุณงามความดีในตัวของมันไปเรื่อยๆ  ว่ามันเป็นคนขยันมีแต่คนเขาเอ็นดูมัน (ยกเว้นฉันนะเพราะเริ่มรำคาณแล้ว)  วันหยุดก็ต้องไปอบรมขายประกัน  เป็นงานที่ได้เงินจริงๆนะ พอเราบอกไม่สนใจทีนี้มันก็นั่งจ้องหน้าเราบอกว่าเราใช้เครื่องสำอางอะไร เราบอก  ใช้ชิยกเซ็ท  (เป็นผุ้ชายแล้วมันจะถามหาหอกอะไรกัน) มันก็ควักแคตตาล็อคแอมเวย์ออกมาเลย ทีนี้เรากับเพื่อนก็หันไปมองหน้ากันแล้วว่าเตรียมชิ่งเหอะ มันก็คุยบอกว่าเมื่อก่อนหน้ามันแย่กว่านี้ (นั่งดูหน้ามันรูขุมขนห่างยังกะเหรียญบาท นี่ขนาดดีของมันแล้วนะ) แล้วมันก็คุยเรื่องแอมเวย์ ไปๆมาๆก็มาเล่าเรื่องของตัวเองบอกว่าตั้งแต่ขายประกันกับขายแอมเวย์เนี่ยเพื่อนเลิกคบเกือบหมดแล้ว  (เออ  ตรูเชื่อ) บางทีขายเพื่อนไม่ได้ก็จะไปขายแม่เพื่อนเค้าสงสารก็เลยซื้อ (ตกลงของเอ็งไม่ดีใช่ไหม  คนเค้าเลยซื้อเพราะว่าสงสารน่ะ ฮึ) มีอยู่วันนึงไปขายเครื่องกรองน้ำให้แม่เพื่อน  ตอนเพื่อนไม่อยู่แต่เพื่อนดันกลับมาเอาของตอนที่แม่จะจ่ายเงินพอดี (บุญของแม่เพื่อนมัน) เพื่อนเลยไล่มันออกจากบ้านเลย  (ยังมีหน้ามาเล่า)  มันยังบอกอีกนะว่ามันน่ะเพื่อนน้อย (เออ  ตาเข้าใจ)  พอไม่ซื้อมันก็ถามตรงๆเลยว่สนใจจะขายไหม (เอากะมัน) ขนาดประกันที่มันตื้อขายให้เราเราบอกว่าไอ้ บ.นี้มันเคยโกงเรามันก็ไม่หยุด เราเลยต่อมือถือให้มันคุยกะแม่  เเม่เราเลยด่าเรื่อง บ.มันโกงเราซะ 15- 20 นาที  กว่าจะชิ่งออกมาจากมันได้  โหย  ขึ้นรถไฟฟ้านะด่าเพื่อนตั้งกะบันไดถจนถึงสถานีบ้านเพื่อน  เพือนก็บอกว่าสงสัยอยู่แล้วว่าคนมาจีบประสาอะไรถามแต่เรื่องตำแหน่งการงานกับเรื่องเงินเดือน  ไอ้นี่ก็พาซื่อไปตอบเขาอีก  จะบ้าตาย  พอดีวันนั้นนัดแฟนไว้พอดีก็เลยเล่าให้แฟนฟังเลย  แฟนบอกตอนนี้คนโรคจิตมันเยอะ  เลี่ยงๆได้ก็เลี่ยงแล้วอย่าไปเจอเชียวนะไอ้เพื่อนทางเน็ต  ฉันขี้เกียจไปขุดถังขี้หาชิ้นส่วนเธอ (ฟังวาทะมัน  ไอ้บ้านี่) ยังไม่จบแค่นั้น  วันนั้นมันยืมมือถือเราโทรหามือถือมัน  มันอ้างว่ามันหามือถือไม่เจอไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของกระเป๋า  มันก็เลยโทรมาตื๊ออีก ไปๆมาๆเหมือนคนโรคจิต  ตี3 ก็ยังโทรมาบอกว่าชอบเรา  (จะบ้าตาย) เราเลยวางหูแล้วโอนสายไปที่แฟนเรา  คุณชายของเราด่าไม่ว่าจะเอาพวกไปกระทืบมันอีก  ตั้งแต่นั้นมาหายต๋อมไปจากชีวิตเพื่อนเรากะเราไปแล้ว เจอพวกไม่เกรงใจเหมือนกันมาสาธิตที่บ้านทั้งวันจนไม่เป็นอันทำอะไร พอเราบอกเราใช้อย่างอื่นดีแล้วไม่เปลี่ยน  ทำหน้าทำตาดูถูกไม่ว่าพอไม่ซื้อก็เก็บของโครมพูดเสียงกระชากๆอีก  เห็นขายมาเป็น 10 ปียังไม่รวยเลย อีกอย่างเพื่อนแม่เราติดคุกเพราะไปยืมเงินคนมาทำไอ้สินค้าเนี่ย  แล้วโดนฟ้องเช็คจนต้องไปนอนในคุกซะงั้น  แม่เราเลยเกลียดไอ้สินค้านี่เขากระดูกไปเลย เอ๊อ จากคุณ : หมวยเคี้ยง - [ 24 มิ.ย. 50 09:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 121 เราว่าเพื่อนจขกท เค้าเป็นคนนิสัยอย่างนี้เองหรือเปล่า ชอบยื้มเงินของคนอื่น  เงินตัวเองไม่ให้กระเด็น เราว่าถึงเค้าไม่ทำ ธุรกิจนี้เค้าก็มายืมเงินอยู่ดี จริงๆแล้วเราว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ดีนะ ถ้าไม่ดีจริงเอาเปรียบคน ธุรกิจนี้จะเข้าไปเปิดตลาดในประเทศจีนไม่ได้ ไม่เชื่อเพื่อนๆก็ไปsearchหาดูว่ามีธุรกิจขายตรงไหนไปเปิดตลาดในจีน เพราะมันผิดกฎหมายนะ ถ้าเป็นธุรกิจที่หลอกคน ทำแล้วไม่ได้จริงตามแผนธุรกิจ   แต่มันขึ้นอยู่กับคนที่มาทำมากกว่า แล้วอีกอย่างธุรกิจนี้ใครทำก็ได้ไม่มีการระบุคุณสมบัติของสมาชิกเลย จึงมีทั้งคนดีและไม่ดี ทำผิดบ้าง ทำถูกบ้าง เราว่ามันมาจากนิสัยพื้นฐานของคนที่ทำ  ก็เลยทำให้เพื่อนๆปิดใจกัน เราเป็นคนนึงที่ไม่แอนตี้เพราะเราเข้าใจคน เราว่าเปิดใจบ้างก็ดีเราจะได้ไม่พลาดอะไรดีๆในชีวิต อย่าเอาอคติมาปิดใจตัวเองเราว่าก็ดีนะ จากคุณ : tomtammimi - [ 24 มิ.ย. 50 10:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 122 เราได้ยินเรื่องความเลวร้ายของแอมเวย์มานาน ทำให้ไม่อยากจะเข้าใกล้คนพวกนี้เลย และพร้อมจะเลิกคบเพื่อนหากมาเตื้อให้ฉันซื้อของ แต่ก็กลับหลงกลพวกมันจนได้ เรื่องมีอยู่ว่าแฟนฉันก็เกลียดแอมเวย์ แต่อยากทำธุรกิจ เพื่อนของเขาบอกว่ามีธุรกิจตัวนึงรายได้ดีมาก ขนาดหมอยังมาออกจากงานมาทำธุรกิจนี้ แต่เขาไม่บอกว่าเป็นธุรกิจ อะไรให้ไปฟังอบรมก่อน เพื่อนคนนี้คงถูกเสี่ยมสอนมาแล้วไม่ให้บอกก่อน เพราะถ้าบอกก็ไม่มีใครมา พวกเขาก็รู้ว่าคนรังเกียจกันขนาดไหน จากนั้นเราก็เข้าไปฟังอบรม ทุกคนในห้องถูกหลอกมาฟังหมด ไม่มีใครรู้ว่าเป็นธุรกิจอะไร และคนบรรยายก็ไม่บอก จนกระทั้ง พักเที่ยงกลับเข้ามาฟังรอบเย็นต่อ เสียเวลาไปครึ่งวันคนบรรยายจึงบอกว่านี่คือแอมเวย์ แฟนเราโมโห มากเดินออกจากห้องเดี๋ยวนั้นเลย และไอ้เพื่อนคนนั้นก็ถูกแฟนเราด่ายับ จากนั้นอีก 3-4 ปีความซวยจากแอมเวย์ก็มาเยือนเราอีก ตอนนั้นสภาพผิวหน้าของเราดีมาก เพื่อนสนิทเราคนนึงมาบอกว่าเขาได้ซื้อครีมแอมเวยมาใช้ ซื้อจากเพื่อนเขาที่เป็นตัวแทน เพื่อนสนิทเราคนนี้ด้วยความอยากช่วยเพื่อนแอมเวย์ขายของก็โฆษณาสรรพคุณซะ ทำให้เราเชื่อทั้งทั้งที่ มีเพื่อนอีกคนที่เขาเชียร์ให้ซื้อนั้นกำลังแพ้ครีมแอมเวย์อยู่ เราไม่รู้ก็ซื้อไป 3500 บาท คนขายมันบอกว่ารีบซื้อ ของกำลังลดเดี๋ยวของขึ้นราคา ถ้าแพ้ก็คืนของได้ เราก็ใช้ได้ 2 อาทิตย์ หน้าก็เริ่มเห่อ เราบอกนังคนขายมันบอกว่า ครีมกำลังขับสิวเราอยู่ ให้ทนหน่อย เราทนจนเห่อเต็มหน้า มันมาดูมันกลับบอกว่า เราใช้ครีมผิดวิธี ครีมมี2ตัว ทาตัวที่1ก่อน แล้วทาตัวที่2ตาม แต่เราทาตัวที่2ก่อนตัวที่1 หน้าเลยห่อ จากนั้นมันก็หายไปเลยไม่มารับผิดชอบเอาของไปคืนให้เรา ตามที่มันเคยสัญญาไว้ เราต้องเสียเงินเป็นหมื่นหมื่น กว่าจะรักษาหน้าให้ดีขึ้น ส่วนนังเพื่อนตัวดีก็เพิ่งมาบอกทีหลังว่าทุกคนที่หล่อนแนะนำใช้ครีมแอมเวย์หน้าเป็นสิวกันหมด เป็นไงละแค้นสุดฤทธิ์ ขอสาบแช่งให้ไอ้พวกแอมเวย์ล่มจมให้หมด เพราะพวกมันไม่มีศีลธรรม ไม่มีจรรยาบรรณ  ดีแต่หลอกเอาเงินชาวบ้าน จากคุณ : jj (lamaimas) - [ 24 มิ.ย. 50 11:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เล่าให้ฟังกันค่ะ ของเราน้า+น้าสะใภ้ 2 คู่ คู่แรก เปิดร้านขายข้าวต้มปลา ขายดีมาก ขายตั้งแต่ 5 โมงเย็น ไม่ถึง 3 ทุ่มก็ของหมด ขายดีมา 1-2 ปี แล้วก็เจอเพื่อนขาย แอมเวย์ มาชักชวนไป ไปกันทุกวันศุกร์ เค้าก้ไม่รู้จะหาใครก็ตระเวนตามบ้านญาติ ใช้ตระเวนไปทุกวัน ข้าวต้มปลาที่ขายดี ก็ให้ลูกจ้างขาย ลูกจ้างก็รวยแทนค่ะ แต่ไม่ใช่เจ้าของทำไม่ดีลูกค้าหายหมด ผ่านไประยะหลัง เที่ยงคือก็ยังขายไม่หมด แล้วก็มารับเรากะพี่สาวไปเข้าสัมนา โดย upline ของเค้ามีร้านเฟอร์นิเจอร์ใหญ่โตมาก โกดังด้านหลังก็เอามาทำเป็นที่ประชุม คนไปประชุมต้องแต่งตัวดีๆ เราก็ไปฟัง ไม่เสียตังค์เพราะเด็ก แต่ก็เกลี้ยกล่อมให้ไปบอกแม่ให้สมัคร แม่เราใจอ่อน สงสารน้าก็สมัครให้ แล้วก็คอยอุดหนุนเดือนละประมาณ 1-2 พันบาท แม่บอกว่าถือว่าเป็นค่าเทอมหลาน ช่วงทีทำน้าดูโทรมมากถึงจะแต่งตัวดีแต่ไม่มีราศรี แล้วพ่อเราก็ทะเลาะกะน้าคนนี้ไม่มองหน้ากันอีกเลย ทำได้ 2 ปี เพื่อนหายหมด เงินก็ไม่ได้งอกเงย...น้าคงรู้ก็เลยเลิกหาดาวราย แต่บอกใครๆว่าไม่ต้องทำแล้วรอเงินเดือนอย่างเดียว แต่ว่าน้ากลับมาขายข้าวต้มปลา 2 ปี น้าเซ้งตึกได้แล้ว ใส่ทองเส้นเบอเริ่ม เพื่อนบ้านก็มาชื่นชม ไม่มีใครเอ่ยถึงแอมเวย์อีกเลย..พ่อเราก็แวะไปกินข้าวต้มปลาบ่อยๆก็กลับมาดีกันเหมือนเดิม คู่ที่ 2 น้า+น้าเขย  น้าเขยเป็นตำรวจ เป็นนายร้อย มีหน้ามีตาในสังคม นิสัยดีมาก น้าเราก็เป็นคุณนายตำรวจเป็นแม่บ้านที่น่ารัก เลี้ยงลูก 2 คนที่บ้าน เลี้ยงขนาดที่ว่ารองเท้าแม่ก็เป็นคนใส่ให้ ใส่เองไม่เป็นทำให้ลูกทุกอย่าง แล้วก็มีเพื่อนคุณนายตำรวจด้วยกันมาชักชวนไป แรกๆน้าก็ไม่สนใจ แต่ว่าอยากมีรายได้เพิ่มขึ้นก้ไปฟัง แล้วก็ถูกล้างสมอง ไปทุกวัน ลูกเต้าไม่สนใจ ลากสามีไปด้วย เราเจอน้องเราอีกทีงงมาก เค้าบอกว่า แม่ให้เค้าเรียนพิเศษทุกเย็น กว่าจะไปรับก็ 3 ทุ่ม ทั้งหิวทั้งเหนื่อย แต่ก็กินอะไรไม่ลง ดูโทรมมาก น้าเขยจากเป็นคนไม่พูดก็พูดมาก ดูถูกคนอื่นว่าโง่ ใช้หน้าที่การงานบีบให้ลูกน้องสมัคร วันๆมัวแต่ทำธุรกิจ แล้วน้าเขยก็ไปมีเด็กเพราะว่าไปตระเวนขายของเลยได้เจอกัน เริ่มเอาเงินไปเลี้ยงเด็ก น้าเราเสียใจมาก ก็เลยเลิกทำ หันมาสนใจลูกมากขึ้น จนตาเราเรียกน้าเขยไปพูดกัน น้าก็ยอมเลิกกะผู้หญิง เพราะว่าตาเราค่อนข้างมีอิทธิพล ถ้าไม่เลิก ก็จะโดนย้ายไปที่อื่น โดยที่น้าเราไม่รู้เรื่อง แต่รู้ว่าสามีกลับมาดีเหมือนเดิมก็ดีใจ ทุกวันนี้น้าเราทำขนมส่งขายตามเนอสเซอรี่ มีความสุขกะลูกๆสามี... อีกเคส เพื่อนเราเอง มานท้อง 7 เดือน สามีลากไปฟังแอมเวย์ นั่งรถไป 1 ชม. สามีเข้าแอมเวย์เพราะว่าแฟนเก่ามาชวนเข้า มานก็ไปเพราะความรักสามีมานมาก หลังๆไปไม่ไหว สามีก็ไปคนเดียว มีคนหวังดีโทรมาบอกว่า ไม่เคยเห็นสามีไปเข้าประชุมเลย...แล้วมานไปไหน...หุหุ อันนี้ไม่เกี่ยวกะลัทธิ แต่เอามาเล่าให้ฟัง...เพื่อนเราก็ไม่เคยมารบกวนเพราะมานก็เคยแอนตี้มาก่อน ไม่หาดาวรายเพิ่มด้วย ให้สามีมานหา พอหาไม่ได้ก็มาลงที่เมียว่าไม่ช่วยกัน...ตอนนี้ เลิกกันและ เพื่อนเราสวยขึ้นเป็นคุณแม่ลูก 2 ที่มีความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก เหมือนนิยายเน๊าะ แต่มานเป็นเรื่องจริงที่เราประสบมา ทุกวันนี้ที่บ้านก็ใช้น้ำยาล้างจาน สบู่น้ำผึ้งล้างหน้า ผงซักฟอก ฯลฯ ถามว่ามาจากไหน...ก็แม่เราอ่ะใจอ่อน ใครให้ช่วยซื้อก็ซื้อ ตัดปัญหาเรืองมานั่งพูดสรรพคุณ มีบัตรสมาชิก 3 ใบ...บ้ารึป่าวอ่ะ เค้าก็ทำซ้ำให้แม่เราได้นะเออ... แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 50 11:08:55 จากคุณ : sanne - [ 24 มิ.ย. 50 11:01:55 ]

ความคิดเห็นที่ 124 รูมเมทผมก็เคยเป็นงี้เหมือนกัน พอเข้า amway ปุ๊บโทรหาทุกคนเลย ครูอาจารย์ตอนเรียนก็ไม่พ้น มันพยายามลากเพื่อนๆไปฟังบรรยายถ้าใครไม่ไปกับมันก็มาด่าให้ผมฟัง ว่าพวกนั้นมันโง่ไม่มองอนาคตมัวแต่ทำงานเป็นลูกจ้าง ผมเองก็สนิทมากยอมไปฟังบรรยายครั้งนึง ยังกะลัทธิบ้าบอ มันใช้จิตวิทยาหมู่ พอใครพูดดีหน่อยก็มีหน้ามา้ตบมือ พอแจกรางวัลก็มีคนยืนขึ้นตบมือแสดงความยินดี เฟคสุดๆ ดูไปดูมาขำเป็นบ้า แต่ที่เลวร้ายที่สุดก็คือ 2 ชั่วโมงที่นั่งฟังไม่มีการขายหรือพูดถึงสินค้าเลยแม้แต่นิดเดียว บอกแค่ว่าคุณไม่ต้องขายเองก็ได้้ แค่หาดาวน์ไลน์มาก็ได้เงินแล้ว...ทุเรศมาก จากคุณ : Master Obi-Wan - [ 24 มิ.ย. 50 12:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เห็นแล้วเหนื่อย  เพื่อนคนขาย บอกว่าดดี แต่เราใช้แล้วไม่ดีอ่ะ แล้วตื้อด้วย เลยบอกไม่มีตัง ก็โดนว่าอีก ไรฟระ จะให้รวยล้นฟ้ารึไง ตังจะกินยังมีน้อย  ดันจะให้ซื้ออีก แล้วใครจะรับผิดชอบ การกินฉันฟระ เพื่อนบอกว่าไงรู้ป่ะ  ก็แกไม่สมัคร สมาชิกไง เลยไม่มีตังใช้ นั่นดูดิ จากคุณ : vedas - [ 24 มิ.ย. 50 14:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 126 มีอีกราย ขอเล่าขำๆนะคะ พี่คนนึงชอบ (ตื้อ) ชวนให้ทานอาหารเสริมยี่ห้อเนี้ยละ (ขอเรียกเค้าว่า พี่เเอมเวย์นะคะ) ทุกครั้งที่เจอหน้าพี่แอมเวย์ พี่เค้าก็พยายามอธิบายเหตุผลว่าสำคัญเยี่ยงไร เหตุผลก็ประมาณคห. 118   สำคัญมากไม่กินไม่ได้ เดียวขาดสารอาหาร และเเน่นอนว่า โคตจะเป็นที่รำคาญของคนในที่ทำงาน วันนึงลูกชาย (อายุประมาณ 2 ขวบ) ของอีตาแอมเวย์ไม่สบาย เค้าก็มาบ่นๆเรื่องลูก แล้วก็ไม่พ้น ตบท้ายบทสนทนาก็ขายของอีกตามเคย (คนกะลังเห็นจาย.......เซ็งเป็ดเลย) พี่ในที่ทำงานคนนึงคงเซ็งกว่าเลยถามว่า ถามจิงเหอะเเกพาลูกไปหาหมอมั้ยวะ แกก็เอาอาหารเสริม(เทวดา) ที่เเกว่าดีนักดีหนา บดเป็นผง ชงกับนมให้ลูกแกกินดิ เดียวก็หาย หาหมอมั้ยวะ เปลื้องตังค์ พี่แอมเวย์เลยยอมปิดบทสนทนา เเยกย้ายกลับไปทำงานต่อ 555 สะใจจีจี้ เจงเจง จากคุณ : จีจี้จ๋า - [ 24 มิ.ย. 50 16:43:46 ]

ความคิดเห็นที่ 127 รู้สึกว่า สินค้าของแอมเวย์ก็ไม่ได้ดีเป็นพระเจ้่า -*- มีคนมาชวนเยอะจนเริ่มต่อต้านเหมือนกันค่ะ ราคาก็ไม่ได้ถูกเล้ยย อย่าวันก่อนมีสมาคมเอมเวย์ มาแนะนำเราใช้ครีมกันแดด บานานาโบท (เราก็ใช้อยู่ นิ) มาบอกว่า นี่นะ ซื้อที่แอมเวย์ถูกกกก เราก็เถียงไปบอกว่า เราจะซื้อที่เจ๊เล้งอะ ราคาต่ำกว่าด้วย นายจพซื้อที่เอมเวย์ เพื่อกินแต้มก็ตามใจ แต่เราใช้ตังกินข้าว อิอิ มานเงียบไปเลยค่ะ XD เกลียดจิงๆ ทั้งๆ ที่ของอย่างอื่นดีกว่ามากแท้ๆ ของเอมเวย?ไม่ใช่ของพระเจ้าซักหน่อย เคยใช้ครีมบำรุงแล้วแพ้ด้วยล่ะค่ะ -*- คุณแม่เราก็ออกจากลัทธินี้มาได้ก็เพราะเรานี่ล่ะ ค่อยโล่งอกหหน่อย X สำหรับคนที่เคยไปร้านของเอมเวย์ สังเกตกันไหมคะว่่า น้ำดื่มที่บริการกันอยู่ ไม่เห็นจะเอาน้ำจากเครื่องกรองน้ำที่ โฆษณาขาย นักขายหนา มาบริการให้กับมาชิกตัวเองดื่มเลย เนี่ยน่ะเหรอ ของดี ร้านตัวเองยังม่ใช้ เอามาโปรโมทกันใครจะซื้อ (อาจมีก็ได้ แต่เราคนนึงล่ะ ที่ไม่เด็ดขาด) จากคุณ : Iceclover - [ 24 มิ.ย. 50 18:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เกลียดลัทธินี้มากๆเหมือนกันค่ะ ไม่รู้ทำไมคนขายแอมเวย์ที่เราเจอเป็นยังงี้กันทุกคนเลย เคส 1 เมื่อหลายปีก่อน วันที่ 11 กันยายน เพื่อนพ่อเราโทรบอกว่าจะมาเยี่ยม โดยเอาเครื่องกรองน้ำมาสาธิตการทำงานด้วย ทั้งบ้านเราไม่มีใครสนใจ ชวนเค้ากินข้าว เค้าก็สาธิตทั้งๆที่กินนั่นแหละ เราหล่ะหงุดหงิดใจแทนแม่ ซักพัก ทีวีตัดจากรายการที่กำลังฉายอยู่ มาเสนอรายงานข่าวตึก worldtrade โดนเครื่องบินชน เป็นรายงานสด บ้านเราช็อคกันทั้งบ้านค่ะ แม่เราเริ่มโทรไปหาคนรู้จัก เพราะแต่ละปีแม่เราต้องไปทำงานที่นั่นเป็นช่วงๆ พ่อโทรหาลุงที่เป็นฝรั่งทำงานที่ตึกเพนตากอน เหลือเราคนเดียวนั่งอึ้งอยู่ ทำไรไม่ถูก -- แล้วรู้มั๊ยคะเกิดอะไรขึ้น ลุงแอมเวย์คนนั้นเค้ามาสาธิตเครื่องกรองน้ำให้เราดูต่อค่ะ!! ไม่ได้สนใจว่าเหตุการณ์ในโลกจะเป็นยังไง (- -") สุดท้ายพ่อทนไม่ไหวเลยไล่กลับบ้านไปเลย เสียเพื่อนกันไปในวันนั้น เคส2 เพื่อนสมัยประถมโทรมา ทั้งๆที่ไม่ได้คุยกันมานานหลายปี อยู่ๆโทรมาบอกว่า "รู้มั๊ยแต่ก่อนเราชอบ ..(ชื่อเรา).. นะ" ไอ้เราก็แอบดีใจ คิดว่าเสน่ห์แรงแต่เด็กเลยเว้ยย (- -") ซักพัก เริ่มชวนไปทำแอมเวย์ ชวนไปฟังสัมมนาที่โรงแรมเอเชีย บอกว่าใกล้ที่เรียนเรา นานๆไปไม่รับโทรศัพท์ มันเล่นโทรเข้าบ้านเลยค่ะ ตอน 5 ทุ่มครึ่ง!!? พ่อเรารับสาย มันก็มาชวนพ่อเราทำอีกแหน่ะ ทำเป็นว่าถามพ่อเราว่าจำมันได้มั๊ย ชวนคุยนู่นนี่ บลา บลา บลา พ่อเรารู้ทันเลยบอกเลยว่า "ไม่ต้องมาชวนหรอกลูก เพราะพ่อเป็นเพชรอยู่ วันหลังไม่ต้องโทรมาอีกนะ" จากนั้นมาเรากะมันก็ไม่เคยได้คุยกันอีกเลยค่ะ ธ่อ .. ไหนว่าคิดเถิงงายย (- -") จากคุณ : Saruwatari Miwa~* - [ 24 มิ.ย. 50 21:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 129 แอมเวย์ เลวว่ะ ทำกรูเสียเพื่อนที่ดีๆ ไปคน วันก้มหน้าก้มตาหาสายอะไรของมันไม่มีเวลาคุยเล่นกับเพื่อน เคยมีรุ่นน้องคนหนึ่งโทรมาถามผมว่าพี่เบื่องานประจำหรือเปล่า ผมถามเลยว่ามรึงไปแอมเวย์มาใช่ไหม แล้วก็ด่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันต่างๆ นานาจนเราบอกว่ามรึงอยากให้คนที่คบกับมรึงอยู่ตอนนี้เกลียด หรือยากให้คนที่มรึงไม่เคยรู้จัก ที่มาชวนมรึงไปทำห่าอะไรก็ไม่รู้เกลียด ตอนนี้มันทำงานโรงปูนเงินเดือน 30000 กว่า กำลังจะออกรถ ขออาฆาตแล้วจงเกลียดจงชังแอมเวย์ไปชั่วชีวิต... จากคุณ : นี่หรือคน (rnon) - [ 25 มิ.ย. 50 02:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เสียเพื่อนไป 2 คน เพราะแบรนด์นี้แหละ เฮ้อ....... จากคุณ : palmy_v1 - [ 25 มิ.ย. 50 08:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ขำ คห 128 จัง ไม่ต้องชวนหรอก พ่อเป็นเพชรอยู่ อืม.. จดๆๆ เก็บไปใช้มั่ง จากคุณ : ^Bloody_Brownie^ - [ 25 มิ.ย. 50 16:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 132 หลายคนอาจจะมาตั้งข้อสังเกตว่า เพื่อนเราเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้วหรือเปล่า ไม่ได้เพิ่งมาเปลี่ยนไปเพราะแอมเวย์หรอก ... ไม่รู้สิ แต่เท่าที่คบกันมาสิบกว่าปี จนถึงก่อนที่เพื่อนจะไปขายแอมเวย์ เพื่อนไม่เคยมีนิสัยอะไรเช่นนั้นเลยแม้ซักครั้ง และเพื่อนก็ไม่เคยมีวี่แววว่าจะเป็นคนประเภทนั้นด้วย (นิสัยเสียเรื่องเงินเรื่องทอง) ความเดิมมีอยู่ว่า........ เพื่อนเป็นคนต่างจังหวัด เพิ่งเข้ามาอยู่กรุงเทพตอนเข้ามหาวิทยาลัยได้ และเราก็สนิทกันตั้งแต่ตอนนั้น ครอบครัวเพื่อนเป็นข้าราชการ ไม่จนไม่รวย ก็มีพอกินพอใช้ มีบ้านอยู่ แต่เพื่อนก็เป็นคนไม่ฟุ้งเฟ้อ เพื่อนใช้เงินเท่าที่มี รู้จักประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย และเพื่อนไม่เคยขอยืมเงินใคร เพื่อนเคยบอกว่า พ่อแม่ส่งมาให้ใช้เท่านี้ก็ใช้เท่านี้ ถ้าอยากได้ของอะไรพิเศษก็เก็บเงินเอา นานหน่อยแต่ก็รอได้ แต่เพื่อนไม่อยากเป็นหนี้เป็นสินกับเรื่องไม่จำเป็น เพื่อนสามารถรักษาความดีนี้ให้อยู่กับตัวมาได้ตลอดเวลาที่เรียนอยู่จนกระทั่งทำงาน ไม่มีใครเคยเดือดร้อนเพราะโดนเพื่อนยืมเงิน จนกระทั่งเพื่อนเข้าลัทธิแอมเวย์ เพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มที่คบกันมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย ทุกคนพูดเหมือนกันว่า... เพื่อนเปลี่ยนไปจริงๆ เพื่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ ถ้าเพื่อนเสแสร้งทำเป็นคนดี ทำเป็นรักษาประวัติที่ดีในเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็นับว่าเพื่อนเก่งมากที่สามารถแอ๊บมาได้ตลอดสิบกว่าปี แต่เราคิดว่าเรามั่นใจในตัวเพื่อน ว่าเพื่อนเป็นคนดีจริงๆ เราถึงได้เสียใจมากที่ ณ วันนี้ แอมเวย์ได้เอาเพื่อนคนเดิมของเราไปซะแล้ว แล้วแบบนี้... จะให้เราคิดอย่างไร ขอโทษจริงๆ เถอะ ไม่ได้อยากจะตั้งแง่หรือมีอคติกับลัทธิแอมเวย์นี่หรอก แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เรามั่นใจว่า แอมเวย์ต้องมีการล้างสมองคนแน่ๆ ถึงทำให้เพื่อนเราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ จากคุณ : >>>:::jAm:::<<< - [ 25 มิ.ย. 50 18:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 133 เราก็ไม่อยากว่าว่าคนขายแอมเวย์ทุกคนนี่ไม่ดีนะ มันก็แล้วแต่แหละแต่เรารู้สึกว่าที่ดีอะน้อย เพื่อนที่มหาวิยาลัยเราขายเงี้ยเค้าก็บอกจะเอาไรก็บอกเด๋วลดให้...แต่เราก็ไม่เอา เค้าก็ไม่เซ้าซี้เลย แต่ในทางกลับกันไอ้เพื่อนที่คบแต่ประถม จำได้ตอนนั้นมัน ชวนไปฟังไรไม่รุกะเพื่อนเราอีกคน เราเลยไปเป็นเพื่อนเค้า ปรากฏเป็นแอมเวย์ตอนนั้นไม่รู้ไรมากรู้แต่เค้าไม่ชอบกัน แต่ตอนนั้นน้าเราก็ใช้แต่ไม่ได้ขายไรมากมาย เค้าพาเราไปที่แอมเวย์ไปดูของอลังการงานสร้างแล้วบอกว่าสินค้าเค้าดียังไง แต่เราก็ไม่ได้สมัครเพราะไม่มีตังค์ หลังจากนั้นเวลาออนเอ็มเจอกันมันขายของเราทันทีทันใดส่งรูปเครื่องสำอางค์มาให้ดูเราเลยบล็อกไปซะงั้นเพราะขี้เกียจปฏิเสธและหลายๆอย่างที่เราไม่ชอบ เราได้ยินครั้งล่าสุดเพื่อนมันเล่าให้ฟังว่าเพื่อนที่ขายแอมเวย์มาขายเสปรย์ฉีดเท้า บอกไม่แพ้แน่นอนเพราะมันฉีดที่หน้าเพื่อนเราลย เรางี้งงเลยอะค่ะ สรุปเพื่อนเราหน้าแหกไปเลย แพ้กระจุย ไม่รู้มันคิดไรตอนนั้น เราเลยไม่ได้ติดต่อมันอีกเลยเพราะมันชอบขายของอะ เราอยู่ด้วยแล้วอึดอัด จากคุณ : kadook_talok - [ 25 มิ.ย. 50 21:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เหมือนกันเลยค่ะ ของเราก็คบกันตั้งแต่ประถม พอสมัยมหาลัย ดันมาตื๊อแอมเวย์ เราต้องปิดมือถือหนี แล้วก็ย้ายหอพักไปเลย คิดแล้วเสียใจจริงๆ เพื่อนตั้งคนนึง  แต่เล่นมาขายแอมเวย์ทุกวัน บังคับเรากรอกใบสมัคร จากคุณ : ชุติกาญจน์ - [ 25 มิ.ย. 50 21:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 135 คงเป็นนิสัยที่แท้จริงของเค้า.... คนดีๆในแวดวงนี้ก็มี จะไปเหมารวมทั้งหมด คงไม่ได้หรอก.... ขนาดพี่น้อง คลานตามกันมายังฆ่ากันได้เลย นับประสาอะไรกับเพื่อน.. ได้แต่เห็นใจ จขกท. สู้ต่อไปเถอะครับ.... จากคุณ : Jette - [ 25 มิ.ย. 50 22:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ไอเดีย#128 เจ๋งดี เพื่อนเราก็มามุกนี้ดีที่พูดกันรู้เรื่องแต่อีกราย....ขายนูxxx เอาเมลเพื่อนๆที่เรารวบรวมไปทำมาหากิน มีเพื่อนหลงคารมไปดูงานตรวจสุขภาพ ที่บอกว่าฟรี แต่พอรู้ว่าเป็นขายตรง โกยเลย คนอื่นๆที่รู้เรื่องกันก็จะไม่รับโทรศัพท์เพื่อนคนนี้เลย จากคุณ : เรือนทรายในสายหมอก - [ 25 มิ.ย. 50 22:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ปีที่แล้วเพื่อนผู้หญิงของผมคนนึงชวนไปฟังนี่แหละ  บอกไม่ทำก็ไม่เป็นไร  มาฟังก่อนที่บ้านเค้า  พอไปถึงปรากฏว่ามีเพื่อน ๆ เค้าอีกหลายคนที่เค้าคะยั้นให้มา  แล้วยังมีพี่อะไรของเค้านี่หละที่จะมาพูด ก็พูด ก็แบบที่เล่า ๆ มานั่นแหละเปี๋ยบเลย   พอดีกว่าไม่อยากเล่าต่อแล้ว จากคุณ : 118.100 Mhz - [ 26 มิ.ย. 50 00:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 138 แล้วแต่คนอ่ะครับ ผมเองใกล้ชิดกับคนทำแอมเวย์เจอกันทุกวัน ทำงานด้วยกัน แต่เค้าก้อไม่ได้มาตื้ออะไรผมเลยนะ แล้วก้อไม่ได้ตื้ออะไรกับคนอื่นๆด้วย ผมเองก็ไม่ได้ไปสมัครอะไรกะเค้าสักอย่าง แต่เค้าก็ยังเอาสินค้ามาให้ผมทานและใช้อีกแหน่ะ ระดับเค้าสูงเหมือนกัน เคยได้ไปต่างประเทศด้วยอ่ะนะ เพื่อนผมเค้าดีจริงๆเลย เรื่องนี้แล้วแต่บุคคลจริงๆครับ จากคุณ : KikuAnonae - [ 26 มิ.ย. 50 10:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 139 เราก็มีประสบการณ์ตรงเหมือนกันค่ะ ...คือเพื่อนเราคนนึง อยู่ดีๆก็โทรมาหาเรา ชวนไปกินข้าวมั่ง ชวนไปดูหนังมั่ง โทรมาคุยด้วยบ่อยๆ ไอ้เราก็นึกว่าเค้าคงจีบเราแน่เลย (น่านน คิดเข้าข้างตัวเองซะ) แต่วันดีคืนดี พี่แกเล่นขายแอมเวย์เราอ่ะ สาธิตการนวดหน้า ขัดหน้า พอกหน้า ขอให้เราสมัครสมาชิกด้วย  ..เราโดนตื้อมากๆก็เกรงใจ เลยช่วยสมัครแล้วก็ซื้อของมาตั้งหกพัน เสียดายตังค์จริงๆ ซื้อมาก็แทบไม่ได้ใช้ เพราะใช้แล้วสิวขึ้น แต่ที่เสียมากกว่านั้น คือเสียความรู้สึกอ่ะ ไม่รู้ว่าที่เข้ามาตีสนิทกับเรานี่คือจะจีบเราหรือว่าตั้งใจจะขายของกันแน่ ...ตอนนี้เราก็เลยเลี่ยงๆ ไม่ค่อยคุยด้วย แต่เค้าก็ยังมีความพยายามโทรมาหาเราบ่อยๆนะ โทรมาถามว่า ใช้ดีมั๊ย มีอะไรหมดมั๊ย จะสั่งของเพิ่มรึยัง ... จากคุณ : sansy_tu - [ 26 มิ.ย. 50 11:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 141 เคยเจอเพื่อนเกลี้ยกล่อมให้สมัครเป็นดาวน์ไลน์ของอีกยี่ห้อหนึ่ง แต่เราสมัครแบบเป็นสมาชิกเฉย ๆ แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อค่ะ รู้สึกว่ามันแพงเกินไปสำหรับเราน่ะ สำหรับแอมเวย์นี่ มีน้องที่รู้จักคนนึงทำอยู่ แต่น้องเค้าก็ไม่เคยมาชวนไปทำหรืออะไรนะคะ อีกรายที่รู้จักก็ลูกพี่ลูกน้องเรากับพี่สะใภ้ ตอนนั้นเค้าสองคนจะชวนเราไป งานตรวจสุขภาพ แต่เรารู้ทันก็เลยชิ่งเสียก่อน แกล้งบอกว่า ไม่ว่างต้องทำงานด่วน  แต่หลัง ๆ เห็นเงียบไป จากคุณ : zaida, film mania - [ 26 มิ.ย. 50 15:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ของเรา เวลาเพื่อนโทรมาขาย แอมเวย์ เราก็จะขายประกันกลับไป มันก็จะวางไปเอง 5555 จากคุณ : ARu - [ 26 มิ.ย. 50 16:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ขอเล่าประสบการณ์เจอด้วยตัวเอง จริงๆเป็นคนไม่คิดจะสนใจแอมเวย์ และมั่นใจว่าจะไม่มีวันหลงกลมัน แต่แล้วก็ถูกมันหลอก มันมาจัดบู้ทที่มหาลัย มาในนามแม็กกาซีนผู้หญิงฉบับหนึ่ง มีบู้ทแต่งหน้า(ในนั้นไม่มีวี่แววหรือสัญญาณใดๆบ่งบอกว่ามันคือแอมเวย์) เราก็นะ ผู้หญิงทุกคนก็รักสวยรักงาม เข้าไปแต่งหน้าฟรี มีคนสนใจเยอะทีเดียว พอแต่งเสร็จมันขายคอร์สเรียนแต่งหน้า 500 บาท คอร์สครอบคลุมทุกอย่างเลยค่ะ ตั้งแต่สอนเรื่องการบำรุงผิวหน้า การแต่งหน้า และทำผม (ย้ำ และทำผม) ไปถึงสถานที่น่ากลัวมากๆมันเช่นพื้นที่โรงหนังเก่าตรงแถวสามย่านอ่ะ ใกล้รร.แมนดาริน ไปถึงมันก็เอา artisty มาให้ล้างหน้า ทาครีมบำรุง และแต่งหน้า ซึ่งแน่นอนว่ามันพูดพร่ามแต่ข้อดีของผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ให้เราใช้ เราก็นะเริ่มรู้แล้วว่ามันคือ แอมเวย์ คนที่มันหลอกเราเป็นตัวอัพลายน์เลยค่ะ พอมันแต่งหน้าเสร็จ มันก็ตื้อให้ซื้อของมัน เราก็นึกในใจแล้วหัวตรูล่ะ ไหนมรึงบอกว่ามีทำผมด้วยไง ไม่มีพูดถึงเลยค่ะ มันขายของอย่างเดียว แล้วไอเงินค่าสมัครคอร์สแต่งหน้าที่มันหลอกเรามา คือเงินค่าสมัครสมาชิกแอมเวย์ค่ะ เห็นมั้ยคะมันมีแผนตลอดทุกการกระทำของมัน มันมัดมือชกให้เราสมัครแอมเวย์แบบไม่มีทางรู้ตัว จากนั้นมันก็เริ่มพร่ามถึงการสมัครเป็นนักธุรกิจ ตอนนั้นรู้สึกไม่สนใจนะ แต่มันพูดถึงเรื่องแบ่งเบาภาระทางการเงินให้พ่อแม่ โอ้ ด้วยความกตัญญูและอยากลองด้วยว่าไอ้แอมเวย์เนี่ยมันเป็นยังไง )แต่อคติยังมีอยู่ตลอดเวลา) เราก็สมัครเป็นดาวมัน ไปประชุม ไปสัมมนา แต่ชอบโดดกลับก่อน เจอมาหมดที่ทุกคนบอกมาข้างต้น มันถามข้อมูลเราทุกอย่าง ถามถึงความฝันของเรา แล้วมันก็จะเมคเรื่องขึ้นมาว่า เนี่ยนะมีคนรู้จักคนนึง บลาๆๆๆๆ พื้นฐานครอบครัว การศึกษา ความฝัน เหมือนเราหมดเลย ขายแอมเวย์ประสบความสำเร็จ เป็นมนุษย์เงินเดือนเหรอ โอยจะทำความฝันสำเร็จเร้อออ เราก็นึกในใจ เป็นไปได้เหรอฟะ ที่จะมีคนๆนึงเหมือนตรูทุกอย่าง ก็ไม่เป็นไร ฟังมันต่อซิ มันให้เราลิสต์รายชื่อเพื่อน ญาติ พี่น้อง ทุกคนที่เรานึกออก ถามอาชีพของทุกคนในลิสต์เรา แล้วมันเลือกให้เราโทรไปคนที่รวยๆ พยายามให้เรา:-)ยังไงก็ได้ แต่ต้องนัดเจอให้ได้ เรานะเซ็งโคตร แต่ก็โง่ทำว่ะ ได้ไปบ้านเพื่อนคนนึง เค้าก็ไม่ซื้ออ่ะนะ เราก็ไม่ตื้อขาย เกรงใจเพื่อน แล้วเวลาเรานัดใครได้นะ ไอ้อัพลายสองผัวเมียมันจะเป็นคนทำทุกอย่าง มันบอกว่าแค่นัดให้ได้พอ ที่เหลือมันจัดการเอง (เราเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย) จากนั้นมันคลืบคลานมาถึงบ้านเรา มันมาขายให้บ้านเรา ด้วยความที่อาม่ารักเรามาก ก็ซื้อเครื่องฟอกอากาศมัน 2 เครื่อง โห ตอนนี้เริ่มรู้สึกแย่หนัก เพราะมันบุกมาถึงบ้านเรา แล้วมันก็ทำเป็นคุยกะที่บ้าน บลาๆๆๆ คนนี้ทำอะไร จะได้เสนอขายสินค้าได้ถูกจุด มันจะเมคเรื่องให้ดูเหมือนว่าพวกมันมีแบกกราวด์เดียวกันกะที่บ้านเรา เราก้อเริ่มถอยห่างจากลัทธินี้ เพราะเรารักครอบครัวมาก ทำไรกะเราไม่ว่า อย่ามาแตะครอบครัวตรู เราเริ่มหัวแข็ง ไม่หาดาวลายเลย ไม่ขายด้วย เอากะกรูมั้ยล่ะ มันเริ่มใช้จิตวิทยากะเรามากขึ้น ล้างสมองมากขึ้น มันจะพยายามทำเป็นคุย ถามไปเรื่อย คือหลอกถามเพื่อให้พบจุดอ่อนของเรา และพอมันเจอ มันก็จะเล่นจุดอ่อนของเรา นี่คือวิธีล้างสมองของมันค่ะ แต่ฝันไปเถอะว่าจะได้อะไรจากเราอีก เราไม่ไปที่นั่นอีกเลย ชีวิตเราดีขึ้นอ่ะ ไม่ประสาทเวลามีโทรศัพท์เข้ามา กลัวไอ้อัพลายโทรมาจิกอีก ขี้เกียจฟังรำคาญ เพื่อนๆนะพอรู้ว่าเราขายแอมเวย์ ก็เริ่มห่าง ดีนะที่เราหลงโง่ไปแค่เดือนเดียว เลยยังไม่เสียเพื่อน หลังจากนั้น 2 ปีได้ มีเบอร์แปลกๆโทรมา เราก็รับ มันบอกมันคือ พี่...ไอ้อัพลาย..ช่วยมาเป็นแบบแต่งหน้าให้พี่หน่อยได้มั้ย พอดีแอมเวย์มีประกวด นะนะ อ้อนวอนมาก ด้วยความใจอ่อน อ๋อได้ค่ะ ไม่เป็นไร แต่บอกตัวเองไว้แล้วว่าไม่ซื้อ และไม่กลับไปแน่นอน มันก็พาเราไปนวดหน้า ถามสารทุกข์สุขดิบ และให้ผัวมันมากล่อมให้เรากลับมาเป็นดาวมันอีก เราก็นะ ไม่ค่ะ ไม่อย่างเดียว ไปประมาณ 2-3 ครั้ง มันบอกต้องเตรียมหน้าให้พร้อมใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะแต่งประกวดได้ ครั้งที่ 3 เราก็ไปเหมือนเดิม เราก็แอบถามผัวมันว่า พี่คะที่ประกวดเนี่ยคนที่ชนะได้อะไรเหรอคะ (เพราะไม่เชื่อว่าถ้าไม่มีผลประโยชน์มันจะยอมลงทุนกะเราขนาดนี้เลยเหรอ) อ๋อ ก็ได้เงินเป็นหลักหมื่นเหมือนกัน เราก็ถามต่อใครได้เหรอคะ มันก็บอกว่าก็ปกติแล้วคนที่ลงแข่งเนี่ยก็เป็นอัพ-ดาวกันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่อัพก็ยกรางวัลให้ดาวที่เป็นแบบให้อ่ะ เราก็อ๋อ เหรอค่ะ (นึกในใจ มิน่านังเมียมันไม่บอกรายละเอียดอะไรเราเลย) หลังจากวันนั้น เราคิดว่าเมียมันคงถามผัวมันว่าคุยไรกับเราบ้าง พอรู้ว่าเรารู้เรื่องเงินรางวัลแล้ว มันไม่โทรมาเรียกไปนวดหน้าอีกเลยค่ะ หายไปเลย เราก็ไม่สนใจไร ได้นวดหน้าฟรีมา 3 ครั้ง (อ้อ เราเปลี่ยนเบอร์มือถือ ตอนมันโทรมาให้เราเป็นแบบเนี่ย มันโทรไปที่บ้านแล้วหลอกอาม่าเราว่าเป็นเพื่อนเรา ขอเบอร์มือถือหน่อย เลว สาดดดด) หลังจากที่มันหายไปนานพอควร เบอร์แปลกมาอีกแล้ว ผัวมันโทรมา ทำเป็นคุยแบบเพื่อนกรูเหลือเกิน บลาๆๆๆ แล้วมันก็บอกว่า เนี่ยอยากจะแวะเข้าไปที่บ้านจะเอาเครื่องฟอกอากาศมาทำความสะอาดให้ แต่ต้องเอาไปเช็ค ทำความสะอาดที่บริษัทแล้วก็จะเอามาคืน เราก็ปิ้งในหัว อ๋อมรึงไม่ต้องหลอกกรูหรอก มรึงจะมาเอาเครื่องฟอกอากาศที่กรูโดนหลอกให้ซื้อมา 2 เครื่องไปใช้เป็นทดลอง ช่วยดาวลายที่มรึงหลอกมาให้ไปหลอกขายคนอื่นไงล่ะ เราก็อ๋อไม่สะดวกค่ะ ไม่ต้องเข้ามา จบ ขอตัวกินข้าวต่อนะคะ มันโทรมาเรื่องนี้ประมาณ 2-3 รอบ แต่หลอกกันไม่ได้เฟ้ยย นี่ค่ะเป็นแผนของมัน จำไว้อย่างว่าคนพวกนี้ไม่จริงใจกับใคร ใส่หน้ากากเข้าหากันหมด บรรยากาศข้างในน่ากลัวมาก เพราะหน้ากากเต็มไปหมด เกลียดมากลัทธินี้ อย่าให้เจอนะใครโทรมาอีกนะ จะด่าให้ไม่ไว้หน้าเลย โทษทีนะคะ ยาวโคตรไปหน่อยค่ะ แต่อยากระบาย อยากบอกเพื่อนๆถึงวิธีการล้างสมองของมัน จากคุณ : I am Paris Hilton - [ 26 มิ.ย. 50 16:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 144 เคยเจอเหมือนกัน แต่ไม่เล่าดีก่าเดี๋ยวเจ้าตัวมาอ่านเจอ -*- ความเห็นที่ 142 จ๊าบมั่กมากเลยค่ะ 555555 ถูกใจๆๆๆๆๆ อิอิ จากคุณ : นางสาวแสนดี..sandy - [ 26 มิ.ย. 50 22:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 145 จะว่าไปเคยโดนเหมือนกัน มาอธิบาย web บ้าบอเกลี้ยกล่อมให้เราหาสมาชิก ทำยังกะเป็นจดหมายลูกโซ่ แล้วเราไม่ต้องทำงานนะเพราะจะมีท่อลำเลียงส่งเงินให้ใช้ ...ทำใจดีเอาซีดี มาบังคับให้ฟัง ฝันไปเหอะ กรูสอนmarketingมาเองกะมือ วิธีนี้ลุงไปล้างสมองคนอื่นเหอะนะ แล้วลุงซึ่งไม่ได้เป็นญาติโยมกันก็จะมาหาบ่อยมากๆ รำคาญมาก เราหนีหน้าสุดชีวิต ดีที่เราไม่ชอบให้เบอร์ ไม่งั้นคงโทรมาจองเวรกันไม่เลิก สุดท้ายทนไม่ได้ ให้น้าๆ กะพี่ๆบอกลุงไปว่า น้องเค้าไม่ว่าง แกก็ตื้อถามว่า...เมื่อไหร่จะว่างล่ะ น้าตอบ.. คงอีกนานค่ะ ลุงถามใหม่...เหรอ ไปนานเหรอ จะกลับเมื่อไหร่ล่ะ น้ารำคาญมากๆ สะสมจากคราวก่อนๆ ... อ๋อก็นานน่ะค่ะ ได้ยินว่าเค้ารำคาญมีคนชอบตื้อๆอะไรทำนองให้ฟังซีดี เว๊ปๆอะไรเนี้ยค่ะ เค้าเลยหนีไปต่างประเทศแล้วค่ะ ลุงแกหน้าเหวอๆแล้วบอกน้าเราว่า ...ไม่เป็นไร ถ้าเค้ากลับมา ลุงจะมา(จองเวร)ใหม่นะ เค้าไม่เลิกไม่รากันหรือไงนะลัทธิแบบนี้ สินค้าดี การตลาดดี คงไม่ต้องใช้วิธีสร้างความรำคาญ + เกรงใจหาลูกค้าหรอกน๋า จากคุณ : A Princess - [ 27 มิ.ย. 50 01:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 146 พักนี้เพื่อนเริ่มโดนครอบงำเหมือนกันค่ะ - -" แต่บอกไว้แล้ว อย่ามาคุยเรื่องขายตรงนะ ไม่คุยด้วย เลิกคบ จบ .... จากคุณ : kiku_mochi - [ 27 มิ.ย. 50 10:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 147 อ่านมาถึงตรงนี้รู้สึกตกใจมากๆกับบางความคิดเห็น บางความคิดเห็นที่แสดงให้เห็นถึงความไม่รู้จริงในสิ่งที่คุณกำลังเผยแพร่อยู่ เพราะคำว่าอคติตัวเดียวเท่านั้น  ทำให้คุณปิดหูปิดตาปิดสมอง  หยุดฟังหยุดคิด   บางท่านเป็นผู้ที่ดิฉันชื่นชมในความรอบรู้ของเธอ  ติดตามอ่านความคิดเห็นมาโดยตลอด   ทำให้เกิดความรู้สึกว่าที่ผ่านมาความคิดเห็นเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้(ใช่ไหม)เพราะไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริง   แต่เป็นการคิดเอาเองด้วยความอคติ ดิฉันรู้ดีว่าหลายท่านมีประสบการณ์ที่เลวร้ายกับคนทำธุรกิจนี้    แต่ขอรบกวนให้มีจิตใจที่เป็นธรรมต่อธุรกิจ  ลองศึกษาธุรกิจนี้แล้วคุณจะรู้ว่าธุรกิจนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเข้าใจ    ความเสียหายเกิดขึ้นเพราะคนบางคนแค่นั้น แสดงความคิดเห็นนี้ด้วยความเสียใจในความเลวร้ายที่หลายท่านได้เจอ ดิฉันอาจจะโชคดีกว่าบางท่านในที่นี้  ที่ได้พบกับผู้ที่ดำเนินธุรกิจนี้อย่างถูกต้อง   และได้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ด้วยความพอใจ จากคุณ : Daytime Lantern - [ 27 มิ.ย. 50 13:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ป๊าดโทะ.....  ลัทธิไม่มีวันตาย จากคุณ : ลูกกรอกคะนองฤทธิ์ - [ 27 มิ.ย. 50 14:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 149 อ่านกระทู้นี้และหลายๆ ความคิดเห็น แล้วรู้สึกตกใจมากค่ะ เราเป็นคนหนึ่งที่ใช้สินค้าและทำเป็นธุรกิจเสริม เพื่อนเจ้าของกระทู้ อาจจะทำธุรกิจไม่ถูกต้อง ซื้อยอดหรือเปล่าค่ะ ทำให้หมุนเงินไม่ทัน เพราะคำว่าธุรกิจก็มีทั้งที่ทำสำเร็จและล้มเหลวค่ะ ยิ่งถ้าเป็นเพื่อนห้ามมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง คนทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ถ้าเราไม่ชอบเราก็บอกเลยว่าไม่ชอบ น่าจะดีนะคะ  อย่าต้องให้มิตรภาพมาเสียเพราะเรื่องงานเลยคะ  เพื่อนเราที่คบกันมาตั้งแต่ ม.1  10  กว่าคน ไม่มีใครใช้สินค้า และสมัครกับเราเลยนะ แต่เราก็ยังคบกัน และนัดเจอกันเสมอ ตามมุมมองของเราคือ แล้วแต่คนค่ะ จากคุณ : เหงาไม่เข้าใจ - [ 27 มิ.ย. 50 15:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 150 มีคนแอมเวย์เข้ามาด้วยอ่ะ จากคุณ : หมวยเคี้ยง - [ 27 มิ.ย. 50 19:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 151 เราก้อแย่เหมือนกันค่ะ  ตอนนี้โดนแอมเวย์สามสายรวด  เซ็งเลย  ยิ่งตอนนี้ชอบเอาเบอร์แปลกๆมาโทร พอเราดวงตกเผลอรับขึ้นมา  นี่แทบจะทุบหัวตัวเองเลย โชคร้ายจริงๆ   เบื่อค่ะ  รู้สึกได้ถึง(บางคนไม่ใช่ทุกคน) ความไม่จริงใจเลย เพื่อนในเอกเราบางคน เคยยิ้มให้มันแบบเป็นมิตร  ไม่เคยคิดแม้แต่จะยิ้มให้เราเลย (เป็นกะเพื่อนคนอื่นๆด้วย) แต่ตอนนี้มาทำเป็นห่วงเป็นใยสุขภาพ เช่น  ปกติกินผักมั้ย(มีผักผลไม้ชนิดเม็ดมาเสนอ) เคยตื่นนอนแล้งเพลียๆ แบบไม่อยากตื่นมั้ย(โปรตีนผงช่วยเธอได้นะ   เซ็งมาก คนขี้เกียจตื่นแล้วไอ้ผงขาวๆนั่นมันจะมาช่วยได้งัยวะ)   และสารพัด      คือเราเป็นคนขี้เกรงใจงัย  แต่เราก้อตอบตามความจริงอ่ะ ว่าเรากินผักผลไม้ทุกวัน ไม่จำเป็น ตื่นนอนมาเราก้อไม่ง่วงด้วย แล้วก้อไอ้ผงๆนั่นเรากินไม่ได้เพราะแพ้นม    จนมันโมโห  โพล่งถามเราขึ้นมาว่า  "เธอไม่อยากสวยหรอ!!" !!!!!!!!!!!!!!      ตอนแรกเรายังโง่ๆงัย  ไม่รู้กลวิธี +ไม่รู้ว่าคนนี้ขายแอมเวย์ เห็นว่าต้องทำรายงานกลุ่มด้วยกัน ก้อโดนชวนว่า  เนี่ย  เค้ากำลังเรียนแต่งหน้าอยู่  ให้ช่วยเป็นแบบให้หน่อย เราก้อ  ได้ๆ  ที่ไหนได้ไปถึงเจอไลน์แอมเวย์เต็มไปหมด แล้วเค้าก้อพอกๆหน้าเราอ่ะ แล้วก้อถือโอกาสตอนเราหน้าขาวๆอ่ะ ยื่นใบให้เราเซ็นบรรทัดสุดท้าย(ที่เหลือมันกรอกให้หมด) ว่าเรียนแต่งหน้าพันบาท  เราเซ็งมากๆ  ยอมเสียเงินไป  แต่ไม่ยอมไปเหยียบที่เรียนแม้แต่ครั้งเดียว    ตอนเราไป  ก้อมีไลน์อื่นพาเหยื่อมานั่งคุยด้วย ตอนคุยนี่ดี๊ดี พอเค้าออกไปก้อบ่น คนไรวะ ซื้อใช้อย่างเดียว ไม่คิดจะสมัคร    เคยไปนั่งฟังเค้าบรรยายครั้งนึง  มีการถามใครมาใหม่ยกมือหน่อย   เอ้า  ปรบมือให้เค้าหน่อย   (ผู้ชมปรบมือ)  เอ้า......  ขอเชิญคุณ...มงกุฎเพชรไรเนี่ย มาพูดหน่อย   ทุกคนลุกขึ้นยืนพรึ่บแล้วปรบมือให้สนั่นกึกก้อง   คุณมงกุฎนี่ก้อพูดเก๊งเก่งนะ เอ้า   ใครที่ถูกชวนมาใหม่ ให้กล่าวขอบคุณคนที่ชวนมา เพราะเค้าได้มอบโอกาสดีๆกับคุณ  ก้อมีใครต่อใครมาจับมือแสดงความยินดีกะเราเต็มไปหมด  งงมาก  ขนาดยังไม่ได้สมัครไรเลยนะเนี่ย   บางทีก้อให้ลุกขึ้นยืนแล้วจับมือกะคนข้างๆไรเงี้ย   เราทำไปก้อหัวเราะไป เออ   คลายเครียดดีว่ะ เล่นบ้าๆบอกะคนพวกนี้ก้อหนุกดีแฮะ   แล้วขอบอกว่าพวกนี้นะ  เหมือนพวกไฮเปอรจิงๆ    คนบนเวที:ปกติพวกคุณซื้อของใช้ สบู่ ยาสีฟัน ถึงพันห้าต่อเดือนมั้ยคับ   Amway lover: เกิ๊น เกิน  เกิน  โว้ววว  เกิน   (ทำยังกะเชียรคอนเสิรตอ่ะ) จากคุณ : ~Arthemis~ - [ 28 มิ.ย. 50 01:12:47 ]

ความคิดเห็นที่ 152 เรามีเพื่อนเป็นหมอ รู้จักกันมา เกือบสิบปี ตอนนี้ไม่คุยแล้วล่ะ เพราะคุยทีไรจะถามตลอดว่า เย็นวันนี้ หรือบ่ายวันนั้นว่างไหม ไปกินข้าวกัน เนี่ย มีของคุณภาพจะแนะนำให้ใช้ บลาๆๆๆ บางทีก็จะชวนไปประชุม ไปสัมมนา ไปฟังอบรม ฯลฯ แล้วก็จะบอกว่า มีแต่หมอ วิศวะ ทนาย ฯลฯ คนมีความรู้ทั้งนั้น  กลายเป็นแอมเวย์นิยม ซะงั้น หมดเลย เพื่อนฉ้านนนน จากคุณ : KF (KitKatForEver) - [ 28 มิ.ย. 50 09:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 153 อ่านแล้วคิดถึงเพื่อน ....... ตั้งแต่มันเริ่มขายแอมเวย์เนี่ย เลยห่างๆกันไปเลย ถึงเพื่อนเราจะไม่ได้บังคับซื้อ ตื้อขายตลอดเวลา แต่มันก็ทำให้เราอึดอัด จนไม่อยากโทรไปคุย...เฮ้อ คิดถึง ติ๊กจัง จากคุณ : แม่อ๊อตโต้ - [ 28 มิ.ย. 50 12:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 154 มีเพื่อนขายเหมือนกัน เวลามันมาขายก็ด่ามันกลับ ฮาๆดีครับ จริงแล้วอยู่ที่จิตใจคนมากกว่า ถ้าเขาอยากได้เงินมากกว่าเพื่อน เขาจะพยายามขายให้ได้ ถ้าคนไม่ได้อยากได้เงินอะไร ก็ไม่มาตื๊อขายให้เสียเพื่อน จากคุณ : renton - [ 28 มิ.ย. 50 13:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ผมทำงานโรงงานผลิตอาหารเสริมและเครื่องสำอาง ก็มีลูกค้าหลายประเภท แต่พวกลูกค้าที่เป็น บ.ขายตรงเนี่ย concept สินค้าที่เขาต้องการคือราคาถูกที่สุด อย่างเดียวเลย เพราะต้องไปคูณอีกอย่างน้อยๆ 10 เท่า อย่างเช่น สั่งครีม ราคา ก.ก. ละ 2000 บาท บรรจุแพคเกจให้ดูดี (หาได้แถวสะพานขาว ไม่เกิน 20 บาท/ชิ้น) ทำฉลากให้ดู Inter หน่อย ประเภทฉลากบนบรรจุภัณฑ์เป็นภาษา ตปท ทั้งหมด แล้วมี สติกเกอร์ขาวฉลากภาษาไทยติดอีกที (เพราะ อย. กำหนด)   บรรจุ 50 กรัม ขายมันขวดละพันกว่าบาท ประมาณนี้ ส่วนคำว่าคุณภาพ เขาจะพูดถึงก่อนเรื่องราคาอีกครับ ประมาณว่า บ. ของเราเน้นของคุณภาพอย่างนั้น อย่างนี้ แต่พอทำตามที่เขาต้องการก็จะบอกว่าแพงไป ให้ลดลงอีก ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทดลองเลย อย่างเช่นถ้าอาหารเสริมบางอย่างราคาเม็ดละ 5 บาท เขาจะบอกมาเลยว่า เอาแบบไม่เกิน 2.5 บาทได้ไหม (โห จะเอาราคาต้นทุนเลยเหรอ แล้วเอาไปขายเม็ดละ 20 เนี่ยนะ) มันเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นด้วยการหลอกลวงอยู่แล้ว แล้วก็ไปสอนให้ใครก็ตามที่ตกเป็นเหยื่อไปหลอกลวงคนรู้จักต่อๆ กันไป เงินส่วนมากเขาจะลงทุนไปกับการทำให้สถานที่ดูดี น่าเชื่อถือ แต่น้อยมากๆ ที่จะทุ่มไปกับสินค้า ด้วยหน้าที่การงานของผม ผมต้องออกไปบรรยายสินค้าให้กับ บ. ที่สั่งซื้อ ผมเจอพวกพ่อทีม แม่ทีม มาสารพัดรูปแบบ ระดับความรู้ก็แตกต่างกันไป แต่ทุกคนมีจุดร่วมอย่างเดียวคือ หน้าเงิน (ชอบมาชวนผมสมัครเป็น ลูกทีม เพื่ออะไรฟร่ะ ในเมื่อตรูก็ขายของให้พวกเพ่ๆ อยู่เนี่ย) ที่เขียนๆ ไปเนี่ย ใครอ่านก็อาจจะคิดว่าไม่เห็นเกี่ยวกับ Amways ตรงไหน แต่บรรดา บ. เหล่านั้น รวมถึงแม่ทีมทั้งหลาย 150% มาจาก Amways ทั้งนั้นแหล่ะครับ จริงอยู่ครับ ว่าทุกวงการมันมีทั้งดี ไม่ดีปนกัน แต่การเริ่มธุรกิจด้วยการหลอกลวง และมุ่งแต่เห็นเงินเป็นพระเจ้า อาศัยความโลภเป็นแรงกระตุ้นจนไม่สนว่าคนรอบข้างจะคิดอย่างไร มันไม่ใช่วิถีทางที่คนดีๆ เขาทำกันหรอกครับ สำหรับผม ไม่ว่าใครหน้าไหน ลองถ้าหลงติดบ่วงธุรกิจเหล่านี้ก็แสดงว่าความโลภบังตา ไม่ใช่คนดีแน่ๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 50 16:25:06 จากคุณ : coco (มะพร้าวปั่น) - [ 28 มิ.ย. 50 13:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 156 อ่านแล้วนึกถึงเพื่อน 2 คน ที่มหาวิทยาลัย คนแรก ขายแบบเกรงใจ เพราะคนขายจริงๆ เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที ทำเป็นเอาของมาทดสอบให้ดู แต่ไม่บังคับให้ซื้อ อีกคน ในกลุ่มเหมือนกัน โทรมาหาเพราะเห็นว่ายังตกงานอยู่ บอกว่าจะแนะนำงานให้ ไม่บอกอะไรเลยให้ไปฟังที่บ้านหลังนึงที่หมู่บ้านเสรี พอไปถึงได้ยินคำว่า N....21 เท่านั้นแหละรู้เลยว่าหลอกกันนี่นา (เขาจะไม่พูดคำว่า Amway เลยนะ) ก็เลยต้องอดทนฟังแบบหน้าบึ้งตลอดงาน เลยไม่มีใครกล้าถามว่าสนใจใช้ไหม ทั้งๆ ที่คนแถวเดียวกันถูกถามหมด พอเบรกก็ขอกลับโดยบอกเพื่อนไปว่าไม่สนใจ ดีที่ไม่โกรธกันไป แต่ตอนนั้นโกรธเพื่อนมาก ตอนนี้ยังคบกับทั้งสองคนเหมือนเดิม แต่จะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย จากคุณ : osaru no monkichi (osaru no monkichi) - [ 28 มิ.ย. 50 15:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 157 เราว่าของแบบนี้แล้วแต่คนนะ มีพี่ที่ทำงานก้อขายอยู่ แต่เค้าไม่ได้ยัดเยียดอะไร ถ้าไปถามเค้าถึงจะแนะนำให้ ธุรกิจมีหลายแบบ นักธุรกิจก้อมีหลายชั้น หลายรูปแบบ มีทั้งคนดี และคนไม่ดี แน่นอนว่าคนดีมีน้อย เรื่องปกติ แค่เราต้องรู้เท่าทันมันเท่านั้นเอง จากคุณ : mew (zenkikyo) - [ 28 มิ.ย. 50 15:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 158 เคยทำอยู่ช่วงนึ แต่คิดว่าตัวเองไม่เหมาะเลยเลิก ตอนนั้น เหมือนโดนอะไรครอบงำสักอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นแอมเวย์ไปหมด อัพลาย วาดความฝันไว้สวยหรูมาก ถึงขนาดตอนนั้นนั่งรถเมล์ แล้วมองออกไปข้างถนน ก็มานั่งมองดูว่า คนพวกนี้ เมื่อไหร่เค้าจะรวย มัวแต่มาทำงานแบบนี้ ทำไมไม่มาทำธุรกิจแอมเวย์กันล่ะ  ทั้ง ๆ ที่ตัวเอง ก็ยังไม่รวย ยังนั่งรถเมล์อยู่เลย เพราะเพิ่งเรียนจบ บทสนทนากับเพื่อน บ่อยครั้ง จะต้องมีสินค้าแอมเวย์หลุดออกไป  ตอนนั้นมันควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนเราก็กำลังไฟแรงกับธุรกิจนี้ โดยไม่ได้สนใจอะไรเลย แต่ด้วยความที่ว่า ผมเป็นคนไม่ชอบตื้อคน ไม่ง้อคน เลยไม่ได้ขายอะไรมาก ใครไม่เอาก็ตื้ออยู่แป๊ป ก็เลิกตื้อ เลิกคุย ไปเซ็นเตอร์ทุกอาทิตย์ ไปทีไร เหมือนไปอัพเฟิร์มแวร์ & ซอฟท์แวร์โปรแกรมที่ฝังอยู่ในตัวเรา ให้แรงขึ้น ๆ ๆ มีพลังในการหาดาวน์ไลน์มากขึ้น ๆ ๆ ที่สำคัญ เค้าจะพยายามปลูกฝังความคิดว่า เราเอาของดี ๆ เอาโอกาสมาเสนอให้ ใครไม่สนใจ ก็แสดงว่าคนพวกนั้น ก็จะย่ำอยู่กับที่แบบนั้น ตลอดไป เป็นหลักการ ที่ดูดีมาก น่าเชื่อถือ รวมกับพลังของสมาชิกอื่น ๆ ที่ร่วมกันขับดัน ทำให้เราเชื่อถือ คล้อยตามได้ง่าย เวลาไปเสนอสินค้าหรือ แผนธุรกิจ ให้ใคร แล้วคนนั้นปฏิเสธ ไม่สนใจแม้แต่จะฟัง ผมจะโกรธมาก บางทีก็ด่าในใจ ว่า ถ้าอย่างนั้นก็ดักดานแบบนี้ต่อไปเถอะ แต่สุดท้าย ผมก็ฝืนตัวเองได้ไม่นาน เพราะเริ่มไม่ชอบวิธีการคิดของพวกนั้น ที่จะต้องต่อต้านคนที่คิดต่าง จากแอมเวย์ ทุกสิ่งของแอมเวย์คือถูกต้อง ดีที่สุด คนอื่นไม่ดี แม้กระทั่ง แค่มีความเห็นไม่ตรงกันแค่เรื่อง แอมเวย์ แต่เหล่าสาวกแอมเวย์ ก็จะพาลไปถึงเรื่องต่าง ๆ ว่าความคิดของคน ๆ นั้นเชื่อถือไม่ได้ ไม่น่าเชื่อถือ แม้จะรู้จัก สนิทสนมกันมาหลายปี คุณก็จะกลายเป็นคนที่ไม่มีสมอง ไม่น่าเชื่อถือ ไปในทันที ที่คุณแสดงปฏิกิริยาต่อต้านธุรกิจแอมเวย์ จากคุณ : Matsuo Shun - [ 28 มิ.ย. 50 15:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 159 อ่านมานาน จะบอกว่า โดนเหมือนกันครับ เพื่อนตอนเรียนประถมเลยครับ มันโทรมาหลังจากไม่เจอกันเป็นสิบ ๆ ปี ผมก็ดีใจมาก ถามว่าเอาเบอร์มาได้ยังไง มันบอกว่าโทรไปถามเบอร์มือถือผมมาจากที่บ้าน โดยเอาเบอร์ที่เขียนไว้ในหนังสือรุ่น มันบอกอยากเจอ ผมก็ดีใจครับ สมัยเรียนก็สนิกันพอสมควร แต่ว่าแยกกันตอนขั้นมัธยม พอเจอมันตอนแรกก็ดีครับคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ สุดท้ายมันบอกมีสิ่งดีๆ  มาแนะนำ แล้วก็พาเข้าเรื่อง เซ็งมาก ๆ เป็นครั้งแรกที่โดน แล้วก็สาปส่งไอ Amway นี่ไปเลยครับ หลังจากนั้นโดนอีกที เป็นเพื่อนมัธยมที่อยู่คนละห้อง อันนั้นโดนผมด่าไปเลยครับ ว่าถ้าจะมาขายของไม่ต้องโทรมาหา จากคุณ : angel of music - [ 28 มิ.ย. 50 18:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 160 เราเคยโดนอยู่หลายครั้งด้วยกัน (ประมาณ 3 ครั้งจะได้) เดี๋ยวก็เพื่อนพ่อ เดี๋ยวก็เพื่อนแม่ มีทั้ง Dr. มีทั้งหมอ ลองพยายามเข้าไปดูอยู่เหมือนกันว่ามีอะไรดีนักหนา แต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง คาดว่าน่าจะเพราะจิตแข็ง จิตวิทยาหมู่จริงๆนะ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่กันเลยทีเดียว มีอยู่ทีนึงแค้นมากๆ ช่วงที่เรากะลังเรียนต่อโท มันเป็นอิหมอ ผอ.รพ.(แห่งหนึ่ง) เป็นปั๋วของเพื่อนแม่ มาที่บ้านเราแล้วบอกว่า "จะเรียนไปทำมั้ย ป.โท น่ะ เรียนไปแล้วก็ตกงาน ขายแอมเวย์ยังมีอนาคต มากกว่า" ไม่รู้ว่าใช้สมองกลีบใดคิด น่าสมเพชมากๆ จากนั้นเราก็บอกแม่เราว่า อย่าติดต่อกะเค้าอีกเลย เพราะท่าทางจะจิตผิดปกติ โดนล้างสมองกัน ทั้งปั๋วทั้งเมีย คบกันไปคงเสียจริตกันแย่เลย T_T จากคุณ : Nut (Ra-bi-ko) - [ 28 มิ.ย. 50 20:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 161 แต่จิงๆนะคะ  ว่าพวกนี้เค้าเห็นเหมือนกันหมดว่า แอมเวย์เป็นการเปิดโอกาสชีวิต    เราเคยได้ยินเค้าพูดกัน(พูดกันเองในกลุ่มสมาชิก) ทั้งๆที่เป็นนักศึกษาปีหนึ่งปีสองมั้ง  คุยกะเพื่อนเราอยู่ปีสี่ที่เป็นด้วย  ว่า   ช่วงนี้เค้าโชคไม่ดีไรเงี้ย  เลยจะตั้งใจหาดาวนไลน์ให้มากที่สุด เพราะถือว่าเป็นการทำบุญ การให้โอกาสในชีวิต เท่ากับเป็นการสร้างกุศลของเค้า  ชาติหน้าจะได้เกิดในชาติภพที่ดี รวยๆไรเงี้ย  ฟังแล้วอึ้งงงงงงง สุดๆ จากคุณ : ~Arthemis~ - [ 29 มิ.ย. 50 00:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ก็มีคนรู้จักที่ขายนะ เยอะด้วยค่ะ เขาจะมาทำบุญที่วัดที่คุณยายเราอยู่ (คุณยายเราไปถือศีลอยู่วัดตลอดค่ะ) เขาก็มาทำบุญกันบ่อยแล้วก็เอาพวกผลิตภัณฑ์มาให้คุณยายเราค่ะ คุณยายก็จะให้ต่อมาที่เรา (จึงไม่เคยซื้อของแอมเวย์เลย) แต่ก็มีคนรู้จักอีกคนที่พยายามยัดเยียดขายของเหมือนกัน ในหมู่ผู้ใหญ่ก็ระอาค่ะ บางอย่างท่านก็ซื้อเช่นเครื่องกรองน้ำ หรือลุงเราที่เป็นคนรักสุขภาพมากก็มีบ้าง ก็นั่นแหละมันเป็นการขายอย่างนึง อ่อ คุณ ~Arthemis~ว่ามา มันเหมือนกะ......วัดนึงจัง จากคุณ : เกาลัด (kurika) - [ 29 มิ.ย. 50 19:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ตลกจัง เอา Amway มาเกี่ยวกับศาสนาซะได้ เราก็เกือบหลวมตัวไปกับ network twenty one เหมือนกันค่ะ ตอบไปกระทู้บนๆค่ะ สายอื่นอาจจะดีแต่สายนี้ แบบหาดียากค่ะ(แต่อาจจะมีก็ได้) จากคุณ : ^Bloody_Brownie^ - [ 29 มิ.ย. 50 21:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 164 เพื่อนผม มัวเมาไป 1 จากสนิด กลายเป็น ไม่อยากคุย ลัดธินี้ น่ากลัวจริงๆ ปล.ขายดีๆก็ได้ ไม่ต้องตื้อ~~~~~~ไม่ใช้หาว่ากุโง่อีก ไอ้บ้าเอ้ย จากคุณ : สเก๊ต~มนุษย์หมาน้อย - [ 29 มิ.ย. 50 21:58:49 ]

ความคิดเห็นที่ 165 ผมก็เคยเจอมากะตัวแล้วคับ   มันตื๊อให้สมัครอยู่นั่นแหล่ะ  พูดชักจูงโคตรเก่งเลย  เอาวีดิโอมาเปิดให้ดูด้วยอ่ะ   ทำแบบนี้เป็นชั่วโมงเลย   ออกแนวจิตวิทยาเชิงบังคับด้วย  อยากรวยนักก็ตามใจเถอะ   วิธีทำมาหากินมีที่ทำให้รวยตั้งเยอะแยะ   ไม่เอาด้วยหรอก   ยังไงก็ขอให้โชคดีแล้วกันนะคับ จากคุณ : Hane@bishiro - [ 29 มิ.ย. 50 23:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 166 เพื่อนมันก็บ้า คุณมันก็โง่ จากคุณ : iamfine_thanks - [ 30 มิ.ย. 50 12:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 167 ผมเคยหลวมตัวเข้าไปอยู่ในลัทธินี้1-2เดือน ตอนนั้นโดนลัทธินี้ใช้วิธีปลุกใจก็เลยเชื่อทำตาม ผ่านไป1เดือนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองทำผิดต่อคนรอบๆข้าง เพราะผมเองเป้นคนขี้เกรงใจ พอรู้สึกตัวว่าคนอื่นมองเราไม่ดีผมก็ออกมาจากลัทธินี้ทันที จากนั้นหัวหน้าเครือข่ายก็คอยโทรมาตื๊อจะให้กลับไปอีก ผมก็เลี่ยงมาตลอด มาคิดดูตอนนี้เหมือนเป้นตราบาปเลยทีเดียวที่ไปชักชวนเพื่อนฝูงให้ทำตามเราในตอนนั้น แย่จริงๆพวกธุรกิจเครือข่าย จากคุณ : อาย - [ 30 มิ.ย. 50 12:38:45 A:124.157.198.175 X: ]

ความคิดเห็นที่ 168 เมื่อเกือบ 8 ปีก่อน ผมโดนเพื่อนที่บ้านฐานะไม่ค่อยดี ชวนไปนัดเจอกันที่บ้าน แล้วบอกว่า มีธุรกิจส่วนตัว จะช่วยให้มีเงิน ไม่ต้องขอพ่อ แม่ พอไปถึง ก็เจอสาวสวย แนะนำหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เธอบอกว่าคนเราต้องเป็นเจ้านายตัวเอง วนไปวนมา ตอนจบ เธอยื่นใบสมัคร Network 21 ผมก็ระแคะระคายมาก่อน จึงไม่ได้สมัคร เพื่อนมันเลยโกรธใหญ่ หาว่าปิดตัวเอง ไม่หาความก้าวหน้าในชีวิต หลังจากนั้นก็เสียเพื่อนคนนี้ไป และรู้ทีหลังว่า Network 21 ก็คือ Amway นั่นเอง จากคุณ : Kiama - [ 30 มิ.ย. 50 15:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 169 ไม่ฆ่าน้อง (ลูกน้อง รุ่นน้อง) ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายแอมเวย์ เคยได้ยินปะ เพื่อนคนนั้นน่าคบ ที่สุดด จากคุณ : ga jeab - [ 30 มิ.ย. 50 16:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 170 เคยเข้าไปฟังเหมือนกัน (ไปอย่างเสียมิได้) เกลียดตอนที่แนะนำตัวให้ขึ้นไปพูดเป็นที่สุด ไม่รู้มันจะปรบมืออะไรกันนักหนา เป็นจังหวะเชียว นั่งฟังแล้วหันไปรอบๆห้อง เอ๊ นี่มันมาจากดาวดวงไหนกันหว่า... จากคุณ : ธนิสรา (ธนิสรา) - [ 30 มิ.ย. 50 17:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 171 เกลียดแอมเวย์มาก........ เจอมากับตัวเอง เกือบเสียเพื่อนเสียญาติเพราะมัน เคยโดนหลอกไปฟังทีนึงจากเพื่อนของเพื่อนไปฟัง Network 21 แล้วเพื่อนสนิทก็ชวนไปฟังที่เซนเตอร์อีกที ฟังแล้วก็นั่งขำในใจว่าพวกคนที่เชียร์ปรบมือโห่ร้อง คนพวกนี้เหมือนพวกกองเชียร์ในเกมส์โชว์เลย ทำอะไรแปลกๆอย่างที่คนปรกติเค้าไม่ทำกัน เอาสินค้าราคาแพงมาก มาโฆษณาปากต่อปาก ขายให้ญาติขายให้เพื่อน ถ้าเอาของพวกนี้มาขึ้นห้างรับรองมีแต่เจ๊ง ขายไม่ออกหรอก ของพวกนี้ profit margin สูงกว่าของที่ขายในตลาดมหาศาลแน่นอน บอกได้คำเดียวว่าเป็นลัทธิล้างสมองจริงๆ จากคุณ : Saint_K - [ 30 มิ.ย. 50 21:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 172 **อีก 1 อุทาหรณ์** อ่านไปอ่านมา โอ๊ยโดนคะ ปกติไม่เคยสนใจจะโหวตกระทู้เท่าไหร่ อันนี้ จิ้มค่ะ จิ้มแล้วคะไม่จิ้มโหวตไม่ได้แล้วคะ ไม่ได้โดนเองกับตัวหรอกนะคะ แต่ไอ่ที่เจอมากะตาได้ยินมากะหูมันก็หงุดหงิดเอาเรื่องได้อยู่ค่ะ คืองี้ๆๆๆ มีครูเอ๊ย ค_ายอยู่สิ่งนึง มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาคอยให้คำปรึกษาเรื่องการเรียนของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนเข้ามาปรึกษาหรือคุณพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่อยากให้คุณลูกของดั๊น เข้าสายที่ถูกที่ควร เข้าคณะดีๆ ก็แหม ได้ประจำตำแหน่งนี้ในรร.คนมีตัง คุณหญิงคุณนายเขามาขอคำปรึกษา คือว่าลูกชั้นหนะมันจะเข้าสายไหนดี คุณครูแกก็ว่า ครีมตัวนี้น่าจะดีนะครับเหมาะกับผิวของคุณผู้หญิงที่ซู๊ด -- -- เที่ยวแจกของให้ผู้ปกครองไปใช้ พอใจโทรกลับนะครับ พอไม่มีคนโทรมาก็มาด่าๆให้ครูอีกคนฟัง มารู้แบบนี้แล้ว ทีนี้เด็กๆจะไปปรึกษาเรื่องเรียนกะใครหละ พูดไปท่านแกก็ยื่นสารพัดยาบำรุงมาให้ลองใช้ มีครูบางคน ที่อยู่ตำแหน่งล่างกว่าของครูคนนี้ ครูเค้าสอนพิเศษลูกเจ้าของอาบอบนวด พี่ท่านเค้าก็จะให้เอาลูกคนนั้นมาคุยให้เอายาบำรุงไปให้พ่อเอาไปให้สาวอาบอบนวดกิน เอามาบอกแบบนี้ไม่รู้จะโดนใครดักตีหลังโพสรึเปล่าก็ไม่รู้แฮะ แต่รับไม่ได้จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันก็คอนทินิว วนไปวนมาไม่เลิกหลายต่อหลายรอบที่เห็นแกควักโบชัวร์ออกมาโชว์ นอกจากเรื่องจ๊อบยันเยียดพิเศษนี้แล้ว ยังมีการหาเงินอื่นๆที่ได้ตำแหน่งการงานที่สามารถเข้าถึงผู้ปกครองรวยๆเข้ามาช่วย มีครั้งนึงที่เราโดนกับตัวตอนเด็กๆ คือมีคนอุตสาห์โทรมาถึงเบอร์บ้านเรา เพื่อถามว่าจะซื้อหนังสือสอนภาษาอังกฤษของ...รึเปล่า ชุดนึงเป็นพัน ถึงตอนนั้นเราจะเด็กเราก็ถามไปว่า ไปทราบข้อมูลเรามาจากไหน ฝ่ายโน้นเค้าก็พูดชื่อ รร เรามา - -;; อีกหลายรอบที่ผู้ปกครองไม่สนใจจะซื้อแล้วก็เอามาด่ากันลับหลัง หมดศรัทธากัน ครูพวกนี้เฮ้ออออ.............. จากคุณ : แรบบิทแบน - [ 1 ก.ค. 50 11:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 173 อ่ะนะ เคยเจอเพื่อนขายเเอมเวย์เหมือนกัน ลำบากใจนิดหน่อย (จริงๆก็ไม่นิดอ่ะเพราะเราขี้เกรงใจคน) เราเป็นคนหลงลมคนง่าย ยิ่งเรื่องความสวยงามนี่.... ไม่อยากพูด ตอนนี้เเทบไม่กล้าสเดินเฉียดเคาน์เตอร์เครื่องสำอางเลย กลัวเสียตัง อิอิ เข้าเรื่องล่ะ เราก็เชื่อเพื่อน ไปฟังไปเล่นcash flow ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นแอมเวย์อ่ะค่ะ เล่นไอนี่ต้องเสียตัง50บาทด้วย หลังจากนั้นก็รู้ว่าเป็นแอมเวย์เพราะเกรงใจเลยยอมไปประชุมกะเพื่อน แล้วก็รู้ว่าไม่เหมาะกับเราอย่างแรง เพราะเราไม่ชอบวิธีคิดของระบบนี้ เราอึดอัด ก็เลยค่อยๆถอนตัวออกมา บวกกับค่าสมัครมันตั้ง900อ่ะค่ะ เพื่อนก็มาคุยให้เราฟัง แบบว่าเปลี่ยนกลยุทธ์ เราก็ซื้อใช้แล้วก็เป็นสมาชิกแบบสามร้อย(หลงลมอีกล่ะ เห็นปะ) ใช้สกินรีฟินิชชิ่ง ซึ่ง พูดตามตรงนะคะ คุณภาพของครีม เราชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เลย ใช้วันรุ่งขึ้นก็หน้าใส ไรงี้ แต่ตอนหลังก็เลิกใช้ค่ะ เพราะราคาโหดมากมาย ตอนนี้เปลี่ยนมาใช่ vit e vit c ของtbs ถูกกว่ามากมาก แต่คุณภาพเยี่ยมเหมือนกัน ซื้อโปรตีนมากิน อันนี้ก็ราคาโหด พอดีช่วงนั้นใกล้เอนท์ ใครมาพูดอะไรว่าอันนี้กินแล้วทำให้อ่านหนังสือทน ไม่ว่าจะเเพงเท่าไหร่ เรายอมจ่าย ประมาณว่าอยากเอนท์ติดมากกกกก แล้วก็เอนท์ติดจริงๆอ่ะเเหละ เอนท์ติดแต่ตัวซีดค่ะ เพราะไม่มีตังค์กินข้าว 55+ ไอ้โปรตีนเนี่ยจะกินกับผงอะเซโรล่าเชอรี่ +ผลส้ม  กินแล้วสดชื่นตื่นมากมาก   แต่......................................................................................... ตอนหลังมีคนมาปลุกให้ตื่นว่าที่เรากินเเล้วสดชื่นอ่ะ คือ น้ำตาลฟรุกโตสในผงเชอรี่กะผงส้ม  ไม่ใช่เพราะโปรตีน  แล้วโอกาสที่เราจะขาดโปรตีนมันน้อยมากกกกกกกกกกกกก  ยิ่งสำหรับเด็กสมบูรณ์แบบเรานี่ เรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยล่ะ คนที่พูดเค้าเป็นดอกเตอร์ทางด้านวิทย์จากอังกฤษ มีอ้างผลการวิจัยเสร็จสรรพ เราเถียงไม่ออก ตาสว่าง ฟ้าเเจ้งจางปางก็คราวนี้เเหละ  ว่าที่กินเข้าไปอ่ะ มันน้ำตาลชัดๆ  ตอนนี้คิดแล้วยังเสียดายเงินไม่หาย พูดถึงแชมพู เราก็ว่าดีนะ แต่เเพงอ่ะค่ะ (แต่ก็ขวดใหญ่ด้วยนะ) มีความรู้สึกว่าใช้herbal essenseก็ไม่ต่างกัน เลยเลิกใช้แล้วค่ะ กระดาษซับมัน ไม่เห็นความต่างของแอมเวย์กับยี่ห้อวัตสันซึ่งถูกกว่ามากมาก แป้งฝุ่น ก็ดีค่ะ กล่องละ600กว่าบาท ไม่แพงมาก แต่ก็ไม่ถูก คุณภาพไม่ต่างจาะแป้งฝุ่นกระปุกละ200ของelisee คือก็ดี แต่ไม่ดีมากขนาดนั้น เลิกใช้เหมือนกัน ลิปกลอส กลิ่นน่ากิน แต่เเพกเกจห่วยมาก ไม่น่ารัก แถมยังซึมเลอะ(ทำกระเป๋าสุดที่รักของเราเลอะอ่ะ โมโหโคด)แล้วก็แพงอีกต่างหาก เลิกใช้ค่ะ กลอสของtbs ดีกว่าอ่ะ เราว่า ตอนนี้ก็เลยเลิกแล้วค่ะ  หนูเลิกใช้แล้วค่ะ ประกอบกับชอบเดินชิดลมแล้วซื้อเครื่องสำอางน่ารักๆ เช่น แอนนา ซุย ด้วย เลยหย่าขาดกับแอมเวย์ไปเลย เพราะตลับเครื่องสำอางแอมเวย์มันไม่น่ารักอ่ะ แล้วก็เห็นคนที่ลุคไม่ดีใช้ของแอมเวย์อ่ะค่ะ รู้สึกว่ามันดูไม่ดี ทั้งที่จ่ายตังค์เท่ากับสินค้าเครื่องสำอางในห้างแต่ลุคคนใช้กับเเพกเกจเครื่องสำอางในห้างดีกว่าเยอะค่ะ ปล. แต่คนที่มาขายเราเค้าก็โอเคอ่ะค่ะ  นิสัยโอเค เราเลยคิดว่าคนขายแอมเวย์มันคงมีหลายแบบขึ้นอยู่กับว่าเราจะเจอคนแบบไหนล่ะมั้ง ปล.2อีกเหตุผลที่เลิกใช้เพราะของมันแพงมาก แพงจนเราไม่เหลือเงินไปชอบปิ้งพวกเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอางอื่นๆ หรือกินข้าวร้านดีดีเลยอะ  รู้สึกเหมือนจะลงเเดงตาย เลยต้องเลิกใช้แอมเวย์อย่างถาวร จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน - [ 1 ก.ค. 50 15:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 174 เราก็โดนเหมือนกัน เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน เป็นเพื่อนสมัยมัธยม วันนึงก็โทรมาหาเรา คุยไปคุยมาก็ชวนเราไปฟังสัมนา ประมาณว่า การเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรซักอย่าง แล้วก็ชวนไปเรียนแต่งหน้า เพื่อนของเค้าเป็นคนสอน แบบว่าไปเรียนมาจากเมืองนอกด้วย แต่เราก็ไม่ได้ไป เวลาคุยเค้าก็จะถามถึงอนาคต การงาน (เราบอกเค้าไปว่า เราไม่ชอบงานขาย) การทำธุรกิจ การดูแลสุขภาพ ความสวยความงาม จนวันนึงเค้าก็จะมาหาเราที่ห้อง แต่เราไม่ชอบให้ใครมาที่ห้อง ก็เลยไปเจอกันที่ห้าง เราถามเค้าตรงๆ เค้าก็บอกว่าเค้าขายแอมเวย์ แล้วก็สาธิตให้ดู บอกว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้ รอบนี้ก็แยกย้ายกันไปดีๆ เรายังไม่รู้สึกอะไร แต่ครั้งสุดท้ายนี่แหละ เค้าบอกว่าจะไปแถวๆที่เราไปทำธุระ แล้วก็นัดกินข้าวกัน พอถึงเวลาเราก็โทรหาเค้า ปรากฎว่าเค้าเพิ่งออกเดินทาง เราเลยบอกว่าถ้าลำบากก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องมาหาเราก็ได้ เดี๋ยวเราจะกลับก่อน แต่เค้าก็ไม่ยอม บอกว่า เดี๋ยวนั่งรถไฟใต้ดินมา ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว เราก็เออ รอก็ได้ ปรากฎว่าเค้ามาถึงพร้อมเพื่อน(ที่ขายแอมเวย์)อีก 2 คน (เราก็นึกว่าจะมาคนเดียว) แล้วก็มารถเพื่อน ( ไหนบอกว่าจะมารถไฟฟ้าไง) แล้วมันก็เข้าสู่กระบวนการขาย กินข้าวไปก็คุยว่าสินค้าเราดีอย่างโน้นอย่างนี้ ราคาก็ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสินค้าตามท้องตลาด(เหรอ?) แถมคุณภาพก็ดี ที่บ้านเค้า ญาติเค้าก็ใช้ เราก็นั่งฟังไป ไม่รู้จะทำไง เหมือนโดนรุมอ่ะ แล้วก็ชวนเราสมัครสมาชิกกะเค้า บอกว่าจะซื้อของได้ถูก แล้วพวกเราก็จะได้ดูแลเธอด้วยไง เราก็เลี่ยงๆไป (แบบว่าไม่ค่อยชอบพวกนี้เท่าไร รู้สึกว่ามันหลอกลวงอ่ะ เพื่อนเรา แล้วก็รุ่นน้องสมัยที่เรียนก็เคยทำ แล้วก็เลิกกันไปหมดแล้ว) พวกเค้าก็พยายามจะมาหาเราที่ห้อง บอกว่าอาทิตย์หน้าต้องมาหาลูกค้าแถวๆหอเราอยู่แล้ว แล้วจะนวดหน้าให้ เราก็เลยเออๆ ออๆ ไป แล้วก็แยกย้ายกันกลับ หลังจากนั้นเราก็ไม่คุย ไม่รับโทรศัพท์จากเพื่อนเราคนนี้อีกเลย เพราะไม่อยากโดนขายของ เราดีใจที่จะได้เจอเพื่อนเก่า ยอมรอเพื่อน แต่เพื่อนกลับอยากเจอเราเพราะต้องการขายของ แถมยังพาคนอื่นมารุมเราอีก ถามเพื่อนคนอื่นก็โดนเหมือนกัน เสียความรู้สึกจริงๆ จากคุณ : Babe_Burin - [ 2 ก.ค. 50 01:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 175 ชื่อมันก็บอกว่าเป็น direct เซลล  มันเป็น"วิธีขายตรง" แต่ละคนแต่ละบริษัทมันก็ไม่เหมือนกันด้วย วิธีขายมันมีหลายร้อยวิธี แต่การขายแบบนี้มันต้องประชิดตัว ไม่ได้ตั้งอยู่ที่ร้านให้เราเดินไปดูเอง คนขายจะต้องด้านได้ อายอด และ เริ่มขายคนใกล้ตัวก่อน ลองเปรียบเทียบว่า ถ้าผลิตภัณฑ์เที่เราขายป็นเสื้อผ้า แล้วชวนเพื่อนไปซื้อ ไปอุดหนุนที่ร้าน ถ้าเพื่อนเห็นแล้วชอบ เขาก็ยอมควักเงินออกมาช่วยซื้อได้โดยไม่บ่น ไม่คิดมาก เราไม่ได้บังคับเขา เขาชอบ เขาถูกใจ เขาซื้อ คนไทยส่วนใหญ่คงชอบแบบนี้ไง amway ก็เลยต้องโดนประนามเช่นนี้ นี่ความเห็นเรานะ จากคุณ : ความรักจับมือเขียน - [ 2 ก.ค. 50 23:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 176 มีพี่ที่ทำงานมาขาย skin care ของแอมเวย์ให้เรา บอกว่าใช้แล้วหน้าจะดีเหมือนเค้า  ...ต๊าย... กล้าพูดนะยะ     พูดไม่เกรงใจหนังหน้าตัวเองเลย   ทั้งเหี่ยว ทั้งดำ  แถมมีฝ้าอีกตะหาก   ไอ้เราก็ ..อืมๆ  หรอๆ   แล้วก็ไม่สนใจพี่แกอีกเลย จากคุณ : นางมารร้ายหน้าใสๆแก้มชมพู - [ 3 ก.ค. 50 13:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 177 เราคนนึงก็มีเพื่อนขาย amway แต่ก่อนสนิทกันมาก แต่ตอนนี้ บ้ามากๆๆๆ หายใจเข้า-ออก แอมเวย์หมด เดี๋ยวนี้โทรมาแล้วไม่อยากรับสายแล้ว ตื๊อให้ซื้อเครื่องกรองน้ำอยู่นั่นแหละ เราว่าของไม่ได้ดีหรอก และทีขายแพงก็เพราะว่าต้องแบ่งกำไรให้หลายสายงาน ยกตัวอย่าง เจบอาบน้ำขวดละ 350 บาท อาจจะแบ่งให้ (ระดับเพชร พลอย กรวด หิน ดิน ทราย อะไรต่ออะไรก็ไม่รู้) สาย A-30 บาท สาย B-25 บาท สาย C-20 บาท สาย D-15 บาท อะไรประมาณนั้น ต้นทุนของเจลอาบน้ำนั้นอาจจะัขวดละ 30 บาท ก็ได้ (เราเดาเอานะ เพราะสินค้าแต่ละอย่างแพงเกินเหตุ คงอย่างที่บอกต้องแบ่งให้หลายคน เหมือนอีแร้งมารุมทึ้งกำไรที่ลูกค้าซื้อแต่ละชิ้นน่ะ) ** สรุป ไม่ซื้อเด็ดขาด ใครจะว่าดีก็ว่าไป แต่เราเฉยๆอ่ะ** จากคุณ : มาม่าใส่ไข่ (misterlek2000) - [ 3 ก.ค. 50 14:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 178 ตั้งแต่เพื่อนเริ่มเข้าลัทธิ เพื่อนก็เปลี่ยนไปจริงๆ เริ่มมีการเอาของมายัดเยียดขายให้เพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่ม เวลานัดเจอกัน ทุกคนก็คุยกันเฮฮาสนุกสนาน แต่เพื่อนก็พยายามสอดแทรกสินค้าแอมเวย์ชนิดต่างๆ เข้ามาในบทสนทนาทุกหัวข้อ จนการนัดเจอกันเริ่มกร่อย หลังๆ นี่เลยไม่ค่อยได้นัดกันแล้ว ข้อความนี้โดนมากะตัวเลยค่ะ เพื่อนเราก็ขายของแบบนี้แต่ไม่ใช่แอมเวย์ นานๆไม่ได้เจอกัน  ก็นัดมากินข้าว  ดันชวนน้องอีกคนมาสาธิตครีมอาบน้ำ เอามาเปรียบเทียบกับครีมอาบน้ำลักษ์เลยนะ เราน่ะอึดอัดโคตร คนอื่นๆที่มาด้วยกันกะเราก็อึดอัด บอกแล้วว่าไม่ชอบ ไม่ซื้อ อีน้องนั่นยังหาว่าเราเป็นคนไม่ค่อยเปิดรับอะไรเลย ตอนนี้เลยไม่รับโทสับเพื่อนคนนั้นแล้ว เพื่อนเลยส่ง แมสเสจมาหาประมาณว่าเค้าก็เป็นคนนึงที่มองอนาคตเร็ว อย่ามองความหวังดีที่เค้ามีเป็นอย่างอื่น เราก็แบบ แหม แล้วเราไม่มองอนาคตรึไง แต่เป็นการมองกันแบบคนละมุมแค่นั้นเอง พักนี้เลยไม่ได้คุยกันแล้ว นี่แหละขายตรงเมื่อไหร่  เพื่อนหายเมื่อนั้น จากคุณ : องค์หญิงมองโกล..อมโบตัน - [ 4 ก.ค. 50 11:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 179 เราว่าคนเราย่อมอยากจะมีตัวเลือกนะคะ  เราพึ่งโดนหลอกไปฟังมา  2  รอบภายในอาทิตย์เดียว  ครั้งแรกจากพี่ที่รู้จักของเราเอง  ครั้งที่สองไปกับคุณแฟนแล้วโดนด้วย  ค่อนข้างเสียความรู้สึก  คือเราเคยมีเพื่อนตื้อให้ทำมาแล้วอ่ะค่ะ   ก็ยอมรับว่าของเค้าก็ดีอ่ะน่ะ  แต่ขอเป็นแบบว่าพอใจตัวไหนก็เลือกใช้ตัวนั้นดีกว่า เค้าเองก็พูดขัดแย้งกันมากๆ  มาบอกว่าสินค้าของเราเป็นสินค้าDispose  off  คุณคิดดูสิว่าทุกคนต้องใช้ยาสีฟัน  สบู่  บลาๆๆๆๆ  ประมาณว่ามันต้องขายออกอยู่แล้ว แต่พอหลังๆบอกว่าสินค้าเราใช้นานนะ  ยาสีฟันหลอดนึงก็เป็นปี  อ๊าว  แบบนี้มันขัดแย้งกันเองนี่ที่คุณพูดน่ะ  ยังไงเนี่ย เค้าพยายามมาจูงใจว่า  คุณมีคนรอบข้างที่อยากก้าวหน้ามั้ย  อยากสร้างมรดกให้ลูกมั้ย มันก็มีทุกคนแหละค่ะ  แต่ถ้าเราคิดจะทำก็ต้องดูคนรอบข้างตัวเองด้วย  ไม่ใช่ว่าคนรอบข้างเราเงินเดือนหมื่นกว่าๆ  ค่าเช่าบ้าน  รายจ่ายที่จำเป็นอื่นๆอีก  แล้วจะมาให้ใช้เครื่องสำอางชุดละตั้งหลายพัน  มันก็คงไม่ไหวอ่ะนะคะ แต่ยอมรับนะว่าเค้าพยายามทำให้สินค้าจับใจคนหลายๆกลุ่ม  แบบคนที่รักสิ่งแวดล้อม  สินค้าแอมเวย์ก็รักษาสิ่งแวดล้อมด้วย  เงี้ย  ก็เลยมีคนสนใจเยอะ  แต่คนเราก็ย่อมมีทางเลือกและความถนัดของตนเองนะคะ  เเอมเวย์ จากคุณ : ออราเล่ - [ 4 ก.ค. 50 11:49:51 ]

ความคิดเห็นที่ 180 เป็นลัทธิที่น่ากลัวมาก ไม่แพ้ลัทธิอื่นใดในโลกเลยทีเดียว ทำให้สาวกงมงายได้อย่างเหลือเชื่อ ไม่กลัวสิ่งใด มุ่งมั่นแต่จะขายของให้ได้อย่างเดียว แล้วคนที่รวยที่สุดก็คือผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นที่นั่งๆ นอนๆ โดยมี มดงาน ที่แสนขยันและซื่อสัตย์ (เซ่อสัตว์??) ทำงานให้ โดยที่นึกว่าตัวเอง "เป็นนายของตัวเอง" ไม่โง่คิดไม่ได้หรอกนะ ไม่มีใครเป็นนายตัวเองได้สมบูรณ์หรอก แม้จะเปิดกิจการตัวเองก็ยังต้องง้อลูกค้า ง้อซัพพลายเอ้อ ที่ไปสมเพชมนุษย์เงินเดือน หารู้ไม่ว่า ตัวนั้นน่าสมเพชยิ่งกว่านัก ด้วยทั้งเป็นมนุษย์ไม่มีเงินเดือน ไม่มีรายได้แน่นอน แล้วยังไม่มีสังคมจริงๆ มีแต่สังคมหลอกๆ จากคุณ : g9h - [ 5 ก.ค. 50 13:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 181 ร่วมโหวดค่ะ จากคุณ : เวทิดา (เวทิดา) - [ 5 ก.ค. 50 15:47:22 ]

ความคิดเห็นที่ 182 ที่เขาทดลองให้ดู ที่เขาบอกว่าดีจริง ไม่รู้ว่าดีกว่ายี่ห้ออื่นอจริงหรือเปล่า แพงก็แพง จากคุณ : ผมไม่สนญาติเมียคุณ - [ 5 ก.ค. 50 17:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 183 เหมือนกัน เพื่อนสนิทมาก เรียนจบทำงานซักพักมันก็หันเหไปขายแอมเวย์ ผมก็ตะหงิดๆ ไม่ค่อยชอบหรอก เวลาคุยกัน ได้โอกาสเมื่อไหร่ก็หาโอกาสขายของทันที ผมก็ไม่ว่าไรมากหรอกนะ เข้าใจว่า แต่ละคนทางเดินมันต่างกัน เพื่อนยังไงก็เป็นเพื่อน จนกระทั่ง.... ผมรถคว่ำ หลับในบนทางด่วน โชคดีที่ไม่เป็นไร ... ผ่านไปซักพักมันก็โทรมา ผม: เออเมิง เนี่ยกรูรถคว่ำว่ะ หลับใน มัน: อ้าว ไอ้เวร ทำไม เมิงไม่ดูแลตัวเองบ้าง ผม: ..... (แอบดีใจ เพื่อนเป็นห่วง) มัน: เนี่ยทำไมเมิงไปกินวิตามินวะ กรูกินอยู่ ดีนะเว้ย สนมะ ผม: ไม่ละ บ๊ายบาย แล้วความสัมพันธ์ ก็เปลี่ยนไป นับแต่นั้น เกลียดแม่มจริงๆ .... แอมเวย์ จากคุณ : มิกๆ - [ 5 ก.ค. 50 18:48:37 ]