ความคิดเห็นที่ 1 = Collagen in A Jar = มีครีมหลายยี่ในท้องตลาด เอาคอลลาเจนใส่กระปุกมาขาย (ก็ฟังดูแล้ว make sense สำหรับหลายๆ คน ... คือ ถ้าคอลลาเจนมันหดหายไป ก็เอาคอลลาเจนมาโบ๊ะ ก็แค่นั้น) ครีมพวกนี้ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ ด้วย แต่ปัญหาคือคอลลาเจนมันมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะซึมผ่านผิวหนังชั้นนอกไปถึงผิวชั้น dermis ซึ่งไม่ได้ไปช่วยสร้างหรือเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวแต่อย่างใด ... แต่สาเหตุที่คนยังใช้คอลลาเจนกระปุกทาผิวหน้ากันอยู่เพราะว่าคอลลาเจนมันสามารถช่วยเคลือบผิวชั้นนอก แล้วก็ปกปิดริ้วรอยได้ชั่วคราว แล้วก็ยังช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้นั้นเอง ... แล้วที่นี้ก็มีบริษัทหัวใสบางแห่ง พยายามทดลองทำยังไงจะให้โมเลกุลใหญ่ๆ ของคอลลาเจนซึมผ่านผิวหนังชั้นนอกเข้าสู่ผิวหนังชั้นกลางได้ บางบริษัทก็เคลมว่าทำได้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานรับรองที่แน่ชัด เราก็คงจะต้องรอดูกันต่อไป แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 23:56:27 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 23:51:12 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 23:50:15 จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 16 ก.ค. 50 23:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 = Injecting Collagen = อย่างงั้น วิธีที่ดูๆ แล้วมันน่าจะ work ก็คงจะเป็นการฉีดคอลลาเจนเข้าไปในผิวหนังชั้นกลางเลย โดยการฉีดไปบริเวณริ้วรอยโดยตรง และแน่นอนว่าพอเราเอาไปเติมเต็มในส่วนคอลลาเจนที่หายไปแล้ว มันก็จะดูเต็มขึ้นมา แล้วริ้วรอยที่มองเห็นชัดๆ ก็จะจางลงได้ ชั่วคราว (ราวๆ 3-5 เดือน) แต่การทำแบบนี้ก็มีผลข้างเคียงพอสมควร เช่น อาการแพ้และระคายเคือง และรวมไปถึงโรคติดต่อด้วย คอลลาเจนที่ใช้ฉีดเข้าไปก็มีหลากหลายวิธีด้วยกัน เช่น - bovine collagen มีมานานแล้ว ส่วนมากก็จะใช้ฉีดเพื่อลดริ้วรอยและฉีดลดรอยแผลเป็นด้วย ราคาไม่แพงมาก แต่ระคายเคืองได้ ดังนั้นก่อนที่จะทำการฉีดก็ต้องผ่านการทดสอดการแพ้และระคายเคืองก่อน - human collagen ฟังแล้วขนลุก แต่ก็มีจริง ยกตัวอย่างยี่ห้อพวกนี้ เช่น cosmoderm และ altologen เป็นต้น วิธีนี้ค่อนข้างจะให้ผลข้างเคียงน้อย แต่ว่าราคาแพง (และขนลุก) คอลลาเจนที่ว่าก็อาจจะได้มาจากคนตาย หรืออาจจะเอามาจากเจ้าตัวเอง (หากเจ้าตัวเคยมีการผ่าตัดอะไรบางอย่างมาก่อนแล้ว) - human acellular dermal matrix คอลลาเจนอันนี้ก็เป็น dermis ที่ได้มาจากคนตายแล้วเช่นกัน (ง่ายๆ คือมาเป็นแผ่นๆ หรือเป็นอนุภาคเล็กๆ แบบ full set เลย คือทั้งชั้น dermis) แล้วแน่นอนต้องผ่านการทดสอง HIV (เอดส์) รวมไปถึงโรคต่างๆ ด้วย วิธีนี้จะให้ผลข้างเคียงน้อยมาก วิธีนี้เหมาะสำหรับริ้วรอยลึก ... แต่ก็ยังช่วยลดริ้วรอยได้ไม่เกินครึ่งปี - fibroblast เนื่องจาก 3 วิธีที่พูดถึง ตัว collagen เองที่ฉีดเข้าไปก็จะค่อยๆ breakdown ลงเรื่อยๆ ซึ่งริ้วรอยก็จะกลับมาเยือนใหม่ภายในเวลาไม่เกินครึ่งปี ดังนั้นจึงมีคนหัวใสฉีดตัวเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจนลงไปเลย (แทนที่จ่ะฉีดคอลลาเจนเข้าไป) แต่ปัญหาคือ เราต้องหาร donor ที่ใช้ได้กับผิวของเราโดยไม่เกิดอาการต่อต้าน ที่นี้บริษัท isolagen ก็เลยหาวิธีที่ปลอดภัยโดยการเอาเนื้อเยื่อของผู้ป่วยเอง (ในปริมาณนิดเดียว) แล้วเอามาเลี้ยงให้โตขึ้น จากนั้นก็เอาเข้า fibrodlast ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจน ฉีดกลับเข้าไปในผู้ป่วยภายหลัง ... ฟังดูก็ไม่ต้องถามว่าราคาเท่าไหร่ คงประมาณกันเองได้ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 08:27:43 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 23:57:17 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 23:51:56 จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 16 ก.ค. 50 23:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 = Finding the Way = โน่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ perfect แล้ววิธีไหนดีล่ะ วิธีที่คนธรรมดาอย่างเราสามารถ afford ได้ คงจะเป็นการหาครีมดีๆ มาโบ๊ะๆๆ นี่แหล่ะ แต่ก็ใช่ว่าเอาครีมที่มีป้ายเขียนว่า anti-wrinkle, anti-aging, collagen boost จะช่วยได้เสมอไป แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 23:57:53 จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 16 ก.ค. 50 23:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 = Vitamin C (Ascorbic Acid)= Vitamin C (ascorbic acid) ตัวนี้หลายๆ คนคงเคยได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ... vitamin c สามารถกระตุ้นการสร้าง collagen ได้อย่างมาประสิทธิภาพ (ถ้าใช้ที่ความเข้มข้นเพียงพอ) หลายๆ คนถามว่า ทำไมต้องทา กินอย่างเดียวไม่ได้เหรอ คำตอบก็คือว่า ร่างกายเราไม่ได้สามารถดูดซึมไวตามินซีที่เรากินเข้าไปได้มากพอที่จะไปสังเคราะห์คอลลาเจนนั่นเอง แต่ไวตามินซีก็มีผลข้างเคียงคือเนื่องจากมีความเป็นกรดในตัวมันเอง และก็ต้องใช้ที่ความเข้มข้นค่อนข้างสูง ดังนั้นอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ผิวบอบบางมากและระคายเคืองง่าย ผลข้างเคียงที่พบก็เช่นผิวหนังแดงแสบไหม้ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 23:55:36 จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 16 ก.ค. 50 23:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 = Amino Acids = Amino Acids อะมิโนแอซิดเป็นโปรตีนแบบนึง คอลลาเจนในผิวเราประกอบไปด้วยอะมิโนแอซิด (โมเลกุลของสารอินทรีย์) ในร่างกายมนุษย์เรา เรามีอะมิโนแอซิด 20 ประเภทแตกต่างกัน แต่ว่าในคอลลาเจนจะมีอะมิโนแอซิดอยู่ไม่กี่ชนิด ดังนั้นการเลือกหา skincare ที่มีอะมิโนแอซิดเราก็ต้องเลือกให้ดีว่าเป็นประเภทที่พบในคอลลาเจนรึเปล่า จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 17 ก.ค. 50 00:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 = Copper Peptides = Copper Peptides เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการสร้างคอลลาเจน ง่ายๆ ก็คือถ้าปริมาณ copper ในร่างกายเราสูงขึ้น การสังเคราะห์คอลลาเจนก็มากขึ้นด้วย แต่อ่านให้จบนะคะ อย่าแห่ไปหา copper มากินซะยกใหญ่ เพราะ copper ตัวมันเองเป็นโลหะที่มีพิษถ้ากินเข้าไปในปริมาณที่มากเกิน (เกิน 2mg ก็อันตรายแล้ว) แล้วการเอาสารอนินทรีย์ (inorganic) มาทาที่ผิวก็จะให้ผลเสียมากกว่าผลดี ทำไมเหรอ เพราะว่าสารอนินทรีย์ตัวนี้จะไปทำเพิ่มปริมาณ free-radicals นั่นเอง (อุตส่าห์หา antioxidant มาใช้ เพื่อป้องกัน free-radicals ทำลายผิว ถ้าเอา copper มาทา ความพยายามนั้นก็สูญเปล่า) ... แล้วจะทำยังไงดี ... ก็เลยมีมนุษย์หัวใส เปลี่ยนรูป copper จาก inorganic (อนินทรีย์) ให้เป็น organic (อินทรีย์) ซะงั้น โดยการนำไปเชื่อมกับ peptides ซึ่งเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของโปรตีน ซึ่งผลที่ได้ก็คือ เจ้า copper peptides (ที่กลายเป็นสารอินทรีย์) มีประสิทธิภาพในการช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ดี แล้วยังช่วยสมานแผลได้ดีอีกด้วย ... ที่นี้ก็มาถึงอีกคำถามคือว่า แล้วถ้ามันรักษาแผลได้ แล้วมันช่วยลดริ้วรอยได้มั๊ย ... ซึ่งก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า มันช่วยเรื่องริ้วรอยได้จริงเหรอ (อย่างที่หลายๆ ยี่ห้อเคลม ... เช่น Neutrogena ตัวที่ copper peptides) ... หลังฐานบางอย่างที่ค่อนข้างจะน่าเชื่อถือ สนับนุนว่า - copper peptides น่าจะช่วยให้ผิวเนียนเรียบมากขึ้น แล้วก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้หลังจากการทำ cosmetic procedures เช่น พวก laser เป็นต้น - copper peptides ยังช่วยเรื่อง anti-inflammatory และลดการระคายเคืองได้ดีด้วย ซึ่งก็เหมาะสำหรับคนที่ใช้พวก tretinoid (retin-a) หรือ aha ซึ่งระคายเคืองผิวได้ง่าย หากใช้ copper peptides ควบคู่กันไป จะช่วยสมานผิว ลดการแสบระคายเคืองได้ดี - copper peptides ยังเหมาะสำหรับใช้เพื่อป้องกันด้วย เช่น ก่อนออกไปตากแดดจัดๆ แรงๆ ออกไปสู้อากาศหนาวๆ หรือในสภาพสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง การใช้ copper peptides จะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะเหล่านี้ (ซึ่งเสี่ยงต่อผิวลอก แสบไหม้ แดง) ได้ดี แล้วหากใครมีผิวที่แพ้ SLS (สารซักล้างที่พบใน detergent-based cleansers ส่วนมาก และรวมไปถึงการแพ้น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ต่างๆ ด้วย) การใช้ copper peptides ควบคู่ไปจะช่วยลดการระคายเคืองได้ดี และก็มาจบตรงคำถามที่ว่า copper peptides ช่วยเรื่อง wrinkle ได้รึเปล่า ก็คงต้องสรุปว่ายังไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นพอที่จะสรุปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะ copper peptides อาจจะช่วยสดการ breakdown (หรือ degrade) ของคอลลาเจน ดังนั้นอาจจะไปช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้เช่นกัน ส่วนคำถามที่ว่า ลบ ริ้วรอยที่เกิดขึ้นแล้วได้รึเปล่า ... มีเพียงงานวิจัยเดียวที่สนับสนุนว่า copper peptides สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 17 ก.ค. 50 00:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 = Growth Factors = Growth Factors การจะเพิ่มการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ไม่เพียงแค่เราโบ๊ะ skincare ที่มีส่วนผสมที่ช่วยในการสร้าง collagen ได้เท่านั้น เพราะเนื่องจากว่าเซลล์ของร่างกายเราตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมภายนอกด้วย โดยการส่งสัญญาณไปที่เซลล์บางตัวเช่น growth factors สัญญาณบางตัวสามารถสั่งให้เซลล์ทำงานมากกว่าปกติได้ด้วย ซึ่งก็รวมไปถึงการออกคำสั่งให้มีการสร้างคอลลาเจนมากขึ้นได้ด้วย ฟังๆ ดูแล้วก็เข้าท่าดี เนื่องจากว่าตอนคนเราเป็นเด็กหรือยังเป็นหนุ่มเป็นสาวกันอยู่ ผิวหนังมีการสร้างคอลลาเจนมากกว่าคนแก่ๆ เพราะร่างกายเราเด็กๆมีสมรรถณะภาพในการสร้างคอลลาเจนกว่าคนแก่ๆ และสมรรถณะภาพก็จะค่อยๆ ลดลงตามวัย ... คำถามก็มาลงที่ว่าเราจะทำให้มันส่งสัญญาณได้ยังไง จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 17 ก.ค. 50 00:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 = Epidermal Growth Factor (EGF) = Epidermal Growth Factor (EGF) หลังๆ มานี้ เราคงจะได้ยินคำนี้บ่อย เนื่องจากว่าได้รับรางวัล Nobel Prize ตั้งแต่ปี 1986 มาแล้ว ... เจ้า EGF เป็นหนึ่งใน growth factors ในร่างกายเราที่คอยส่งสัญญาณให้ร่างกายเราสังเคราะห์ glycolysis (การสังเคราะห์กลูโคส) และ protein และยังรวมไปเร่งการสังเคราะห์ DNA ด้วย ... EGF เป็นโปรตีน ซึ่งประกอบด้วยอะมิโนแอซิด 53 ชนิดด้วยกัน EGF เจาะตลาดเน้นไปที่การสร้างโปรตีนในกลุ่มคนที่เป็นโรคเบาหวานที่มักจะมีปัญหาเรื่องเท้าเป็นแผลและไม่ยอมหายจำเน่าและต้องตัดทิ้งในที่สุด ... และก็ได้มีการนำเอา EGF มาใช้ใน skincare product อย่างที่รู้กัน ในยี่ห้อ Revive ซึ่งก็เคลมว่าสามารถช่วยลดริ้วรอยได้ ส่วนราคาก็ไม่ต้องพูดถึง แพงมาก ... แต่หลังๆ ก็ได้มี skincare ยี่ห้ออื่นๆ เลียนแบบโดยการเอา EGF มาใส่ แล้วก็ขายในราคาที่ถูกกว่า (ราคาถูกสุดที่เราเห็นก็ประมาณ $40) จริงๆ แล้ว EGF เป็นโปรตีน ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ จึงมีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่ หากใช้ทำก็ยังมีปัญหาว่าทำให้ซึมผ่านผิวชั้นนอกเข้าสู่ผิวชั้นกลางได้ยาก ดังนั้นหลักฐานสนับสนุนที่พบส่วนมากคือ EGF จะไปช่วยในเรื่องการสมานแผล ของผิวชั้นนอก แล้วช่วยบำรุงผิวชั้นนอก (epidermis) มากกว่า ดังนั้นส่งที่เราต้องสนใจไม่ใช่การที่ครีมตัวนั้นๆ มี EGF ผสมอยู่หรือไม่ และปริมาณมากน้อยแค่ไหน แต่ควรจะเน้นไปที่ technology ที่ใช้ deliver ตัว EGF เข้าสู่ผิวหนัง ซึ่งถ้ามันถูก delivered เข้าสู่ผิวหนังได้ ก็น่าจะไปสั่งให้อัตราการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งก็จะส่งผลให้ผิวแน่นขึ้นและริ้วรอยจางลง ... การถกเถียงเกี่ยวกับ EGF ว่าช่วยส่งสัญญาณในการสร้างคอลลาเจนให้มากขึ้นได้หรือไม่ ก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 17 ก.ค. 50 00:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 = Other Growth Factors = นอกจาก EGF แล้วก็ยังมี growth factors อีกหลายตัว เช่น - IGF (Insulin-like Growth Factor) ซึ่งตัวนี้ก็ถูกเคลมว่าช่วยเร่งการสังเคราะห์คอลลาเจนได้เช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้พวกริ้วรอยหย่อนยาน กระชับขึ้น ทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวลขึ้น - KGF (Keratinocyte Growth Factor) ซึ่งเป็น growth factor ตัวที่ค้นพบใหม่ สามารถช่วยสั่งการให้สังเคราะห์ collagen ได้ แล้วก้เหมาะกับคนที่ต้องการกระชับผิวที่เหี่ยวและหย่อนยาน อ่านๆ กันไปคงจะเริ่มมึนกันแล้วละซิ ... พักหาอะไรมาดื่มกันหน่อย ... เราก็ต้องทำงานแล้วหล่ะ ... แล้วจะแวะมา update เกี่ยวกับ Skincare Knowledge บ่อยๆ กว่านี้ สรุปมาจาก http://www.smartskincare.com เป็นส่วนมากค่ะ แล้วก็ผสมโน่นนิด นี่หน่อย เขย่าๆ ให้เข้ากัน คิดว่าคงช่วยให้หลายๆ คนได้ความรู้อะไรเพิ่มเติมบ้างนะคะ จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 17 ก.ค. 50 00:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หวัดดีค่าคุณฟีบี้ ^_^ แว่บเข้ามาอาน โอวววว สาระแน่นปั้กจิงๆ ด้วยค่ะ เอิ๊กๆ เด๋วจากลับไปอ่านทบทวนอีกรอบ สำหรับเรื่องการฉีดคอลลาเจนเพื่อลดริ้วรอย เราเคยคิดทำด้วยค่ะ (ช่วงนั้นโบนัสออก ประกอบกะ crazy จัด) เลยโทรไปถามโรงพยาบาลหลายที่เหมือนกัน ราคาก็ต่างกันไปนะคะ มีตั้งแต่ราคาถูกจนแปลก กะราคาสูงลิ่วแบบวากระอัก :D แหะๆ แต่สรุปว่า ทุกที่พูดละม้ายคลายกันหมดเลยค่ะ ว่ามันเป็นเพียงแค่ effect ชั่วคราวเท่านั้น ฮ่าๆๆ เราเลยขอบายค่ะ กลับมาพึ่ง skincare ต่อไปดีก่า ^_^ ขอบคุณคุณฟีบี้เช่นเคยนะจ๊ะ สำหรับสาระเจ๋งๆ ค่า :D จากคุณ : sweet_stuff - [ 17 ก.ค. 50 00:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้ววว พี่ฟีบี้ ทู้นี้มีประโยชน์มากๆ คร่า ขออนุญาตเซฟนะค๊า จากคุณ : plamy - [ 17 ก.ค. 50 00:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โอ้วสาระ ดี มีประโยชน์มากๆ เลยคับ แต่เราขอเวลา อ่านหลายๆ รอบหน่อยล่ะกันนะ^__^    ตอนนี้ ยังงงๆ ง่วงๆอยู่ เลยไม่รู้จะข้องใจ เรื่องไหนดี อิอิ *0* แต่ก้อ Thxx For sharing ค้าบ จากคุณ : LoveToBeLoved - [ 17 ก.ค. 50 01:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แพ้วิตซีอ่ะ ว่าแต่ กินขมิ้นชันช่วยอะไรกะผิวมั้ยคะ กินทุกวันอ่ะ หลังอาหารหนักๆ จากคุณ : แอน (แอ่นแอ๊น) - [ 17 ก.ค. 50 01:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอเซฟความรู้ลงคอม+สมองด้วยคนฮับ จากคุณ : มาตรฐาน - [ 17 ก.ค. 50 01:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากค่ะ คุณฟีบี้ จากคุณ : ห - [ 17 ก.ค. 50 02:04:23 A:125.24.100.243 X: TicketID:139926 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ยังติดพันเรื่อง Copper Peptides อยู่ ... เรารู้สึกว่าเป็นตัวที่น่าสนใจตัวนึงทีเดียว Copper peptides ที่มีขายตามท้องตลาด เกือบทั้งหมดน่าจะเป็นผลงานของ Dr. Picart ซึ่งเรียกสารเคมีตัวนี้ว่า GHK-Cu หรือ copper tripeptide-1 ซึ่งโดยคร่าวๆ ก็คือการนำเอา ถั่วเหลือง ไป hydrolyze แล้วจากนั้นก็แยก peptides ตัวที่เหมาะสมออกมา แล้วก็เติม copper chloride เข้าไป ก็จะได้ copper peptides ที่เป็นสารอินทรีย์ออกมานั่นเอง คุณสมบัติของ Copper peptides คือการช่วยเรื่อง would healing ซึ่งหากผิวหน้าเราไม่มีแผลก็จะส่งผลให้ผิวชั้นนอกสม่ำเสมอเนียนเรียบขึ้น นั่นทำให้ Copper peptides เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีผิวไม่เรียบ และเป็นสิวบ่อยๆ ทำให้มีพวกรอยแผลเป็นจากสิว ตะปุ่มตะป่ำ การใช้ copper peptides ในคนส่วนมากจะเห็นผลว่าผิวจะเนียนเรียบขึ้นในเวลา 1-3 สัปดาห์ บางคนอาจจะสังเกตุเห็นเร็วกว่านั้น ... คนที่ใช้พวก aha หรือ vitamin c หรือ retin-a แล้วหน้ามีอาการแสบไหม้ หรือระคายเคือง การใช้ copper peptides ควบคู่ไปด้วยก็ทำให้ช่วยสมานแผลได้เร็วขึ้นด้วย ... ซึ่งก็รวมไปถึงคนที่ไปยิง laser รักษากระ ไฝ ฝ้า แล้วก็อื่นๆ ... ก็น่าจะหา copper peptdies ,มาใช้ในช่วง 1 เดือนหลังจาก procedure นั้นๆ สำหรับ would healing ... copper peptides จะไปยับยั้งการสร้าง collagen ในส่วนที่เรียกว่า scar collagen หรือ collagen ของแผลเป็น (เราจะเห็นว่าเนื้อแผลเป็นของเราจะไม่เหมือนกับเนื้อทั่วๆ ไป) แล้วจะไปช่วย promote การสร้าง collagen ของผิวปกติ จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 17 ก.ค. 50 03:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถึงแม้ว่า copper peptides จะผ่านการทดสอบมาแล้วจะช่วยให้ผิวเนียนขึ้นกับคนเกือบทุกคน แต่ก็มีบางกรณี (เกิดขึ้นน้อยมาก แต่ก็เกิดขึ้น) คือ บางคนใช้ copper peptides แล้วให้ผลในทางตรงกันข้าม คือแทนที่จะไปชะลอการ degrade ของ collagen แล้วทำให้ผิวนุ่มเนียนขึ้น กลับทำให้ไปชะลอการสร้าง collagen ปกติไป ทำให้ผิวแย่ลงได้ (แต่ก็เกิดขึ้นน้อยมากๆ) ดังนั้น ก่อนจะใช้ copper peptides ควรจะทดสอดกับแขนก่อน ถ้าต้องการความชัวร์ โดยทาแขนเข้าเย็นซัก 1 สัปดาห์ ถ้าไม่พบว่าผิวดูเหี่ยวหรือแย่ลง ก็แสดงว่าผิวเราจะได้รับประโยชน์จาก copper peptides ในทางที่ควรจะเป็น สำหรับวิธีการใช้ copper peptides ที่เหมาะสม นอกจากการทดสอบกับแขนก่อนแล้ว เนื่องจากว่า ผลการใช้ copper peptides ของคนส่วนมากจะพบว่า ให้ผิวเนียนเรียบขึ้น แล้วพอถึงจุดๆ นึงก็จะคงที่ ... นี่ก็เป็นโอกาสเหมาะที่เราจะหันไปใช้สารเคมีตัวอื่นๆ ที่ทำหน้าที่อื่นๆ ซักพัก แล้วก็หันกลับมาใช้ copper peptides ซัก 1 เดือน ... ใช้แบบนี้ไปเรื่อยๆ เป็น cycle น่าจะดีกับผิวไม่น้อย ตัวที่น่าจะโดดเด่น (เนื่องจากหาง่ายและราคาถูก) ที่สุดก็เห็นจะเป็น Neutrogena และอาจจะมีในยี่ห้ออื่นๆ ในเครือ Johnson & Johnson ด้วย เช่น RoC, Aveeno (ไม่แน่ใจ) แล้วก็ Evian Affinity ด้วย แต่ที่แน่ๆ ตัว Neutrogena Visibly Firm Lift Serum ซึ่งมี Copper Tripeptide 1 ในปริมาณสูงใช้ได้ แล้วนอกจากนี้ยังมี silicone ที่ช่วย matify ผิวได้ด้วย แล้วยังมี Arginine (amino acid) อีกด้วย สงสัยเราต้องวิ่งไปหา copper peptides มาติดบ้านไว้ เป็น cosmetic สามัญประจำบ้านอีกตัวนึงดีกว่า จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 17 ก.ค. 50 03:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สาระเพียบ ตามมาอ่านค่ะ จากคุณ : brichea - [ 17 ก.ค. 50 05:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านจบแล้วอยากได้ตัวcopper peptidesมาใช้บ้างค่ะ จากคุณ : สาวน้อยตากลมผมยาว - [ 17 ก.ค. 50 05:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ชอบๆๆๆๆๆๆ สาระของคุณฟีบี้เจ๋ง ๆ ทั้งนั้นเลย ขอบคุณค้าบบบ จากคุณ : ... (Galilee) - [ 17 ก.ค. 50 07:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เราเคย anti มาตลอดเรื่องที่เอา collagen มาทาผิวนะคะ ขนาดเครื่องดื่มที่ผสม collagen ที่หลายๆ คนชอบ เรายังว่ามันไม่น่าจะได้ผลจริงเลย ทานลงกระเพาะไปก็ย่อยเป็นอมิโนเท่านั้น ไม่ต่างกับกินเนื้อ นม ไข่ เลย แต่อ่านกระทู้นี้แล้ว ได้ความรู้เรื่อง collagen ที่เค้าพัฒนาขึ้นมาเพื่อการดูดซึมเข้าผิวหนัง...อืม น่าสนใจค่ะ แต่คงต้องหารายละเอียด product review มาอ่านเพิ่มก่อน ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ^^ จากคุณ : After Sunset_Before Sunrise - [ 17 ก.ค. 50 08:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โชคดีจังที่เข้ามาอ่านวันนี้ แล้วเจอสาระเพียบเลย ขอบคุณค่ะ แล้วคุยกันนะคะ จากคุณ : bakingsoda19 - [ 17 ก.ค. 50 09:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24  กดให้หนึ่ง VOTE ได้ความรู้เพิ่มขึ้น.... ขอบคุณนะคะ นำสาระดีๆ มาฝากกัน จากคุณ : ป้ากิโล (Geerorogunso) - [ 17 ก.ค. 50 10:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากค่ะ สาระดีมากๆค่ะ จากคุณ : เต้าซี่ (เต้าซี่) - [ 17 ก.ค. 50 10:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่าคุณฟีบี้ สาระเพียบเช่นเคย ^^ จากคุณ : momo~ino - [ 17 ก.ค. 50 10:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เรียนถามคุณฟีบี้ แล้คนผิวแพ้ง่ายมากจะใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้ได้ไหมคะ Neutrogena Johnson & Johnson ด้วย เช่น RoC, Aveeno Evian Affinity จากคุณ : ห - [ 17 ก.ค. 50 12:27:00 A:125.24.106.189 X: TicketID:139926 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามารับความรู้ค่ะ สงสัยเดี๋ยวจะได้ไปหานูโทรจิน่า มาไว้ทดลองสักหน่อย ว่าแต่บ้านเราจะมีขายมั้ยน้อ ลป. โหวตโลดคร๊าบพี่น้อง สาระดีๆขนาดนี้ ขอบคุณคุณพี่ฟีบี้ มากค่ะ จากคุณ : ...amy... - [ 17 ก.ค. 50 12:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : คนริมทาง - [ 17 ก.ค. 50 13:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากค่า อยากรู้เรื่อง collagen มาตั้งนานแล้ว จากคุณ : ningpotter - [ 17 ก.ค. 50 13:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มีประโยชน์มากเลยค่ะคุณฟีบี้~ อ่านแล้วเริ่มอยากไปหาคอลลาเจนมาผสมเครื่องดื่มมั่งแล้วสิ ^^ ขอแอบเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ เค้าวา เนื้อหมูส่วนกระดูกสันหลังเนี่ย สะสมคอลลาเจนไว้เต็มเลย ลองไปหาทานดูอาจจะแทนผงคอลลาเจนได้มั้ง :D จากคุณ : Lucretia (Lucretia) - [ 17 ก.ค. 50 15:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณค่ะ คุณฟีบี้ จากคุณ : Flower_kiss - [ 17 ก.ค. 50 15:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แค่เห็นชื่อคุณฟีบี้ก็รีบจิ้มมาอ่านในทันทีค่ะ จากคุณ : irin7477 - [ 17 ก.ค. 50 19:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มาลงชื่ออ่านจ้า....... จากคุณ : ปุ๊กกี้&คิตตี้ - [ 17 ก.ค. 50 20:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 35 น่าสนใจมากมาย  ขอบคุณ จากคุณ : klangdad - [ 17 ก.ค. 50 22:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ่า... Neutrogena Visibly Firm Lift Serum น่าสนๆ ขอบคุณสำหรับความรู้จ้า จากคุณ : sunsy - [ 17 ก.ค. 50 22:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โย่...กำลังอยากรู้เรื่องนี้พอดี ขอบคุณมากๆคะสำหรับรีวิวที่มีประโยชน์ จากคุณ : hippi_hippy - [ 17 ก.ค. 50 23:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถามคุณ Phoebe ต่อนิดนึงค่ะ Vitc ที่ใช้ทาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้นั้น อยากทราบว่าต้องใช้เวลาในการทานานซักเท่าใดคะ มันถึงจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Pilatis - [ 18 ก.ค. 50 22:33:29 A:124.120.13.216 X: TicketID:129343 ]

ความคิดเห็นที่ 39 copper peptides -- ต้องลองอ่านฉลากหาเจ้าตัวนี้มาไว้ใช้บ้างแล้ว โหวตให้นะคะ ได้ความรู้ดีมากๆเลยค่ะ จากคุณ : s.o.s - [ 21 ก.ค. 50 14:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เก็บเข้าคลังกันด้วยน๊า.. จากคุณ : Phychexxx - [ 21 ก.ค. 50 16:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Esprite - [ 21 ก.ค. 50 19:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 42 vote ka จากคุณ : mootaeni - [ 22 ก.ค. 50 15:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แค่เห็นชื่อเราก็เข้ามาอ่านแล้วค่ะ  ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : หมีหมี่ - [ 22 ก.ค. 50 21:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาอ่านด้วยคน  ดีจัง  ขอบคุณมากค่ะ ^_^ จากคุณ : EmeRaLdGreeN - [ 23 ก.ค. 50 00:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ข้อมูลปึ๊กมากครับคุณ Phoebe อย่างนี้สิเจ๋งจริง แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 50 11:50:38 จากคุณ : tu111 - [ 23 ก.ค. 50 09:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีคะ จากคุณ : ~KyoKo~ - [ 23 ก.ค. 50 17:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 47 Neutrogena Visibly Firm Lift Serum แล้วมีขายในเมืองไทยไหมคะ จะได้รีบไปซื้อเลยอะคะ จากคุณ : tik1616 - [ 24 ก.ค. 50 08:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 48 vote ค่ะ สาระเพียบตามเคย จากคุณ : Kuruko - [ 24 ก.ค. 50 10:37:52 ]